กฎแห่งกรรม ตามเนื่องมา แต่ปางก่อน

วันนี้ เปิด Mail ส่วนตัว....
พบข้อความเกี่ยวกับ กฎแห่งกรรม ​

จาก คุณKERKKIAT WESARATCHASET ​

เห็นว่า น่าที่จะเป็นประโยชน์ แก่ เนยยะ.. วิปปติจตัญญู.. และอุคคติจตัญญู​

จึงขออนุญาติ แก้ไข เพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับคำสอนของครูบา อาจารย์
(เป็นบางส่วน)​

หากพวกเราเห็นว่า ไม่เป็นประโยชน์ หรือกล่าวข้อความอันใด ที่ไม่ถูกต้อง
อันนี้ นับว่าเป็นความบกพร่อง ไม่รู้จริง ของกระผมเอง เท่านั้น​

หากมีความดีอยู่บ้าง ก็ขอน้อมถวายส่วนบุญ ส่วนกุศล ขอแสดงเป็น
ความกตเวทิตา ต่อครูบา อาจารย์ ​

และย่อมรวมถึง ท่านผู้ส่งข้อความ มาให้​

....................................................................................................​

 

กฎแห่งกรรม

ได้รับจาก คุณKERKKIAT WESARATCHASET
(และได้แก้ไข เพิ่มเติม เล็กน้อย เพื่อให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น)
<O</Oวันที่ 17 กันยายน 2550.<O</O
เรื่อง Fwd: กฎแห่งกรรรม<O</O

1. เหตุใด เราจึงมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย<O</O
เพราะชาติก่อน เราเคยถวายผ้าไตร ผ้าจีวร แด่พระสงฆ์ <O</O

2. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงมีอาหารดีดี รับประทานอยู่เสมอ<O</O
เพราะชาติก่อน เราเคยถวายทานแด่สงฆ์ และให้ทานอาหารแก่คนยากจนในชาติก่อน<O</O

3. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงอดอยาก ยากจน ไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ สวมใส่<O</O
เพราะว่า ชาติก่อน เราตระหนี่ ถี่เหนียว ไม่ทำทานไว้ หรือทำทานไปแล้ว ก็นึกเสียดายว่าไม่ควรทำ<O</O

4. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงมีบ้านเรือนใหญ่โต<O</O
เพราะว่า เราเคยถวายวิหารทานไว้ในชาติก่อน<O</O

5. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงมีความเจริญรุ่งเรือง และมีความสุขมาก <O</O
เพราะเราเคยถวายเงินสร้างวัด ถวายปัจจัยไว้ในพระศาสนา ในชาติก่อน

....................................................................................................

 

6. เหตุใด ชาตินี้ เราเป็นคนสวย และรูปงาม
เพราะเราเคยรักษาศีล ซ่อมแซมพระพุทธรูป ถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพ ในชาติก่อน <O</O

7. เหตุใด ชาตินี้ เราเป็นคนฉลาดปราดเปรื่อง มีปัญญาดี<O</O
เพราะเราเคยเป็นพุทธมามกะ และถวายธรรมทานทานในชาติก่อน<O</O

8. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงเป็นที่รักของทุกๆคน และมีเพื่อนมากมาย <O</O
เพราะเราเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคน บอกงานบุญ งานกุศล แก่คนอื่น ๆ ในชาติก่อน<O</O

9. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงมีพ่อ แม่ อยู่พร้อมหน้าในครัวเรือน พร้อมด้วยความสุข<O</O
เพราะเรา ร่วมบุญกันโดยพร้อมเพรียง มีการช่วยเหลือ ไม่ดูแคลน คนไร้ญาติ ในชาติก่อน<O</O

10. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงเป็นเด็กกำพร้า <O</O
เพราะเราเคยยิงนก ตกปลา และพรากสัตว์ ให้ครอบครัวของเขาแตกซ่านไป ในชาติก่อน

....................................................................................................

 

11. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงมีอายุยืน แข็งแรง
เพราะเรามีเมตตาไม่เบียดเบียนแก่กัน เคยปล่อยนก ปล่อยปลา สิ่งมีชีวิตที่เดือดร้อน ในชาติก่อน<O</O

12. เหตุใด ชาตินี้ คนเราจึงมีอายุสั้น พลันตาย<O</O
เพราะว่า คน นั้น ๆ เคยฆ่าคน ฆ่าสัตว์ มากมาย ในชาติก่อน<O</O

13. เหตุใด ชาตินี้ บางคนจึงต้องเป็น คนรับใช้<O</O
เพราะคนนั้น เคยเหยียดหยามคนจน ใช้พระอริยเจ้าด้วยเจตนา และไม่เจตนา ในชาติที่ผ่าน ๆ มา<O</O

14. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงมีดวงตา ที่สดใส<O</O
เพราะชาติก่อนเราเคยเติมน้ำมันตะเกียงถวายพระ จุดไฟบูชาพระ และถวายดวงเนตรพระพุทธรูป<O</O

15. เหตุใด ชาตินี้ คนบางคนจึงโง่เขลา ปัญญาอ่อน และหูหนวก<O</O
เพราะชาติก่อน เคยด่าว่า หยาบคาย ต่อ พ่อ-แม่ บุคคลที่มีพระคุณ และไม่ใส่ใจในธรรม ไม่ฟังเทศน์ ไม่ฟังธรรม ไม่ขวนขวายในธรรมะ เขาฟังเทศน์กันอยู่ ก็ส่งเสียงอันดังเป็นการรบกวน<O</O

....................................................................................

 

16. เหตุใด ชาตินี้ ต้องเกิดเป็นม้า วัว ควาย
เพราะชาติก่อนเป็นหนี้ ไม่จ่ายคืน ด้วยเจตนา ก็ดี ไม่เจตนา ก็ดี<O</O

17. เหตุใด ชาตินี้ คนต้องตายเพราะยาพิษ<O</O
เพราะชาติก่อน มีเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ วางยาเบื่อต่อคน ต่อสัตว์<O</O

18. เหตุใด ชาตินี้ คนจึงแขวนคอ ฆ่าตัวตาย<O</O
เพราะชาติก่อน เคยใช้ตะข่าย ล่า ดัก ฆ่าคน ฆ่าสัตว์<O</O

19. ถ้าชาตินี้ เรายังฆ่าเขา
ในชาติหน้า กรรมจะส่งผลให้เราโดนฆ่า จะฆ่ากันไป-มา ไม่มีสิ้นสุด
หากจะให้สิ้นสุด ก็ต้องยอมรับในกฎแห่งกรรมที่เราได้รับ ยอมให้อภัยต่อบุคคลที่ล่วงเกินเรา<O</O

20. เหตุใด ชาตินี้ เราจึงไม่มีความรักที่แท้จริง<O</O
เพราะชาติที่แล้วเรามีความเจ้าชู้ และไม่จริงจัง ไม่ซื่อสัตย์ กับคนรัก<O</O

21. ถ้าชาตินี้ เราบอกเล่ากฎแห่งกรรม เราจะเป็นที่เคารพนับถือ ของผู้คนมากมาย ในชาติหน้า

<O</O
เมื่ออ่านแล้ว พึงใคร่ครวญ หากเห็นความสำคัญ และเป็นประโยชน์ อันดี....

ก็พึงส่งต่อ ให้แก่บุคคลที่เรารัก ที่เรารู้จัก หรือบุคคลโดยทั่ว ๆ ไป ให้ได้รับรู้ โดยทั่วกัน

ก็จะมีอานิสงส์ ได้ปฏิบัติ ตามกฎแห่งกรรม ในข้อ 21.

...................................................................................

 

อนุโมทนา ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วจริงแท้และแน่นอน นะจ่ะ

 

เราทำงานในวันนี้ (ปัจจุบัน) ก็ด้วยหวังว่า....
เมื่อสิ้นเดือน (อนาคต) จะได้รับเงินเดือน เป็นค่าตอบแทน....

เราลงทุน ปลูกต้นไม้ไว้ในวันนี้....
ก็หวังหว่าจะได้กินดอก กินผล ในวันข้างหน้า....

ดังนั้น ชาตินี้ ก็พึงทำความดี ในทาน ศีล ภาวนา
มีความปรารถนาพระนิพพาน เป็นที่ไป

หากไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ก็ตาม
อานิสงส์ แห่งบุญ ก็จะหนุนส่ง ให้เราสามารถ มีจิตตั้งตรงต่อพระนิพพาน
ซึ่งเราก็จะสามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ ในเร็วชาติที่สุด (จำนวนชาติ ที่ต้องเกิด)

....................................................................................

 

อนุโมทนา สาธุ

อ่านแล้วเก็บรักษา บุญรักษาเนืองนอง
รู้แล้วบอกทั่วกัน บุญกุศลเรืองรอง

(พระอรหันต์จี้กง)

 

หากวันนี้ ไม่ทำงาน เมื่อถึงเวลาสิ้นเดือน ก็ไม่มีเงินเดือนตอบแทน....

วันนี้ ไม่ได้ปลูกต้นไม้ จะมีดอก มีผล มาแต่ไหน....

ยิ่งถ้าหาก คิดเห็นผิด (อกุศล อาจบัง) ไม่ทำทาน ศีลไม่ข้อง ภาวนาไม่สน
อย่างนี้ เมื่อถึงกาลกาละ ก็ต้องสู่ ทุคคติภูมิ

เมื่อพ้นโทษ พ้นเวร อันร้อน อันทุกข์ หนาหนักสุดสาหัส....
จึงจะสามารถ มาเกิดเป็น คน ได้อีก

เมื่อเป็นคน ก็ เป็นคนที่มีแต่ความทุกข์ใจ หาความสุขใด ๆ ก็ไม่มี
เพราะว่า ตัวเองไม่ได้สร้างเอาไว้ก่อน

....................................................................................

เรื่องอย่างนี้ ยังไม่เห็นจริง ไม่รูว่า นรก นั้น ร้อนเพียงใด (เพราะว่า จำไม่ได้)
ก็จะประมาท พลาดพลั้งไปได้....

นี่ ก็ต้องเนื่องด้วย บุญบารมี ของใคร ของมัน....

....................................................................................

ใครเล่า จะสามารถแนะนำให้ทุกคนเข้าใจในธรรมได้....
แม้แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เหล่าปทปรมะ นี่ ท่านก็ไม่ทรงแนะนำ ไม่สอนสั่ง
เพราะว่า รังแต่จะให้เขา ตกนรกเร็วขึ้น อยู่ในนรกนานยิ่งขึ้น

แล้วเราจะสามารถ ดึงนิ้วก้อย นิ้วโป้ง ให้ยาวเท่านิ้วกลาง ได้ไหม....

....................................................................................

 

อ่านแล้ว.... พบเห็น เป็นประโยชน์ ก็ใคร่ขอน้อมโมทนา ยินดี....

หากเห็นเป็นเรื่อง ไร้สาระ.. ก็ต้องขอโทษ ด้วย....
เพราะว่า ก็คงจะไร้สาระจริง ๆ

....................................................................................

 

เนื่องเพราะว่า องค์หลวงพ่อฯ ท่านสอนบรรดาศิษย์อยู่เสมอ ๆ ว่า​

 

<TABLE class=tborder id=post3230480 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>pucca2101<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3230480", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2008
ข้อความ: 5,147
Groans: 5
Groaned at 7 Times in 7 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 17,111
ได้รับอนุโมทนา 31,492 ครั้ง ใน 4,555 โพส
พลังการให้คะแนน: 1271


</TD><TD class=alt1 id=td_post_3230480 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start --><!-- google_ad_section_end --> </TD></TR></TBODY></TABLE>