ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกคุณก็จะต้องเปลี่ยนแปลงมัน
ให้ได้ผลลัพธ์ที่สูงส่งดีงามสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ออกมาเสมอ”


(credit the picture from internet)

ที่รักทั้งหลาย ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่โลกกำลังมีการไต่ระดับของพลังงานสูงขึ้นทุกวันๆอยู่
และเพราะฉะนั้นแล้ว ความจริงทั้งหลาย ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปิดซ่อนเอาไว้
จึงกำลังค่อยๆถูกเปิดเผยออกมามากขึ้นเรื่อยๆอยู่ตามไปด้วย
เพื่อที่จะได้เป็นที่รับรู้และยอมรับกันของพวกคุณ และเพื่อที่พวกคุณจะได้ยอมจำนนต่อหลักฐานที่ปรากฏนี้
แล้วลงมือเยียวยารักษาปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปเสีย

มันมีความลับอยู่มากมายที่กำลังทยอยกันถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆอยู่
แต่สิ่งที่กำลังมาพร้อมกับการเปิดเผยตัวของความลับเหล่านี้ก็คือ
ความรู้สึกที่ว่าทั้งหมดนี้..มันไม่มีอะไรจริง สำหรับพวกคุณผู้ที่ได้ยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเอง
ให้ขึ้นมาอยู่เหนือผลกระทบของสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว เหตุผลก็เพราะว่าพวกคุณที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่
ได้เลื่อนระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้ขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้แล้วนั่นเอง
และเพราะฉะนั้น บ่อยครั้งพวกคุณจึงรู้สึกราวกับว่าพวกคุณกำลังมองดูความเป็นไปของโลกอีกโลกหนึ่งอยู่เท่านั้นเอง

จงรักษาภาพนิมิตของโลกที่มีแต่ความสมบูรณ์แบบ และความผาสุกของทุกสรรพชีวิตบนโลกเอาไว้ให้มั่นต่อไป
และการจินตนาการถึงเปลวเพลิงสีม่วงแล้วดึงเอามาใช้งานนั้น ก็เป็นประโยชน์อย่างมาก
เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราจึงอยากจะขอร้องให้พวกคุณจงช่วยกันทำเช่นนี้ต่อไปอีก
แม้ว่าจะล่วงเลยวันที่ 11 ธันวาคมไปแล้วก็ตาม ให้ช่วยกันทำต่อไปอย่างน้อยอีก 1 สัปดาห์

ถ้าใครลองมองดูโลกรอบๆตัวเองให้ดี โดยไม่เอาแต่คอยรับฟังข่าวจากแหล่งข่าวต่างๆ
ที่คอยแต่จะประโคมข่าวร้ายๆกรอกหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้วหละก็ ก็จะพบว่ามันยังมีเรื่องราวดีๆ
และเรื่องราวที่เป็นประโยชน์อยู่อีกมากมายเกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและเกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกมุมโลกด้วยเช่นเดียวกัน
เพราะว่าตอนนี้กำลังมีชาวโลกมากมายที่กำลังรู้สึกได้ถึงการเปิดขึ้นของหัวใจของตัวเองอยู่
ไม่ว่าจะรู้สึกได้จากข้างในลึกๆ หรือว่ารู้สึกชัด จนออกมาเป็นการกระทำภายนอกก็ตาม
ดังนั้นในตอนนี้ มันจึงมีความเมตตากรุณาเกิดขึ้นให้เห็นกันอยู่ทั่วโลกด้วยเช่นเดียวกัน!

ตอนนี้พลังงานแห่งความรักกำลังอบอวลไปทั่วโลกอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งมันก็จะไปทำให้ผู้ที่ได้รับความรักเหล่านั้นรู้สึกอบอุ่นใจและได้รับการเยียวยารักษาตามไปด้วย
และความรักนี้เอง ก็คือสิ่งที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากอยู่ในขณะนี้
เพื่อที่จะใช้ต่อกรกับความวุ่นวายโกลาหลของโลกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั่นเอง

และนี่แหละคือบทเรียนบททดสอบของพวกคุณ
ที่จะต้องทำให้ลุล่วงไปให้ได้หละ
คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
พวกคุณก็จะต้องเปลี่ยนแปลงมัน
ให้ได้ผลลัพธ์ที่สูงส่งดีงามสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ออกมาเสมอ
และนี่แหละคือการใช้ประโยชน์จากแสงสว่างของพวกคุณ
เพื่อสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นหละ

และถ้าพวกคุณทำงานร่วมกับพลังงานแห่งแสงสว่างที่กำลังถูกส่งมาจากมิติที่สูงกว่าเหล่านี้แล้ว
พวกคุณก็จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิมมาก
จงตั้งความปรารถนาเอาไว้ในใจให้แน่วแน่ว่า พวกคุณอยากจะเห็นโลกที่มีแต่ความสงบสุข,
ความมีมิตรไมตรีต่อกัน และโลกที่เต็มไปด้วยความรัก
เพราะว่าการตั้งความปรารถนาเอาไว้ในใจอย่างแน่วแน่เช่นนี้
ก็จะไปทำให้พลังงานอันนี้มันค่อยๆถูกเนรมิตออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ
อย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆด้วย ซึ่งก็จะไปช่วยเยียวยารักษาทุกผู้ทุกนามในท้ายที่สุดด้วย

มันจะมีสักวันหนึ่งที่บรรดาผู้ที่ในหัวใจไร้ความปรารถนาดีต่อโลกและต่อสรรพชีวิตทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้
จะไม่สามารถปฏิบัติการได้อีกต่อไปในท่ามกลางระดับความสั่นสะเทือนที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆแบบนี้
เพราะว่าพวกเขาจะได้เห็นระบบต่างๆและผลงานต่างๆที่พวกเขาพากันสร้างขึ้นมาพังทลายลงไปกับตา
และตัวพวกเขาเองก็จะค่อยๆถอยหลังลงไปสู่ความเสื่อมสลายด้วยเช่นเดียวกัน
แล้วจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างทีเคยมีอยู่ ก็จะค่อยๆถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเสียใหม่
ให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับระดับความสั่นสะเทือนของแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่า
และให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับแผนการของเบื้องบนที่ได้วางเอาไว้ให้กับโลกและมนุษย์โลกต่อไป
เพราะฉะนั้นแล้ว ในช่วงเวลานี้มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณ
จะต้องมั่นคงอยู่บนหนทางแห่งความรักของตัวเองต่อไป

มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พวกคุณจะมองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกรอบๆตัวแล้ว
จะรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ แต่พวกเราก็อยากจะให้พวกคุณรับรู้เอาไว้ว่า
พวกคุณไม่ได้อยู่กันตามลำพัง เพราะว่าตอนนี้กำลังมีกองทัพแห่งแสงสว่าง
รายล้อมพวกคุณอยู่อย่างมากมายก่ายกอง และพวกเราก็อยากจะบอกให้พวกคุณรู้ว่า
“ความรัก” จะเป็นฝ่ายชนะในที่สุด

เพราะฉะนั้นแล้ว จงเป็นตัวอย่างของความรักให้แก่โลกใบนี้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จงมั่นคงและมุ่งมั่น
และจงเข้มแข็งและยืนหยัดอยู่ในความจริงต่อไป
ในขณะที่พวกคุณกำลังก้าวเดินอย่างมาดมั่นไปบนเส้นทางของตัวเองอยู่นี้

จงคอยรับฟังเสียงเล็กๆเงียบๆที่มาจากข้างในของตัวเองเสมอ
และจงคล้อยตามคำแนะนำของหัวใจของตัวเองไป
จงค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ
และจงพยายามทำสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่ด้วยความรักนั้นแหละต่อไป

และก็..จงใช้ช่วงเวลานี้มีความสุขอยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูง และสังคมของพวกคุณเอง
เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่จะแสดงความขอบคุณต่อสิ่งดีงามทั้งหลายที่พวกคุณได้รับมา
ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กหรือว่าเรื่องใหญ่ก็ตาม เพราะว่าคุณสมบัติเฉพาะตัวของ
“ความรู้สึกขอบคุณ” ก็คือ มันจะยิ่งนำพาสิ่งที่พวกคุณรู้สึกขอบคุณนั้นๆมาสู่พวกคุณมากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะว่ามันคือวิธีการที่ถูกต้องและจักรวาลก็จะตอบสนองกลับมาเช่นนั้นด้วยเช่นกัน

และในระหว่างที่พวกคุณกำลังทำกิจวัตรการงานไปตามปกติในแต่ละวันนั้น
ให้พวกคุณรู้สึกถึงความสุข-ความเบิกบาน และรู้สึกถึงความรัก
ที่กำลังเบ่งบานอยู่ภายในตัวของพวกคุณเองไปพร้อมๆกันด้วย
เพราะว่านี่จะสามารถช่วยเหลือโลกของพวกคุณได้อย่างมากมายเลยทีเดียว
มากมายซะยิ่งกว่าที่พวกคุณจะเคยรู้มาซะอีก เพราะว่าโลกใบนี้มีสิ่งดีงามทั้งหมดนี้ได้
ก็เพราะว่ามีพวกคุณอาศัยอยู่ที่นี่นั่นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว จงวางใจเถิด ที่รักทั้งหลาย!

Until next week…
I AM Hilarion
………………….........
ที่มา: ข้อความสื่อสารจากท่าน Hilarion ประจำวันที่ 6-13 ธันวาคม 2015

Hilarion via Marlene Swetlishoff, December 6th | Sananda

 

“สถานีถ่ายทอดพลังงานของแหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง”


(credit the picture from internet)

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพกาบริเอล ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2015
ที่มา: http://trinityesoterics.com/…/daily-message-friday-decembe…/



ในตอนเช้าของทุกๆวัน หากพวกคุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการตั้งใจแน่วแน่
ว่าจะอุทิศตัวเองเพื่อทำประโยชน์สูงสุดให้แก่ส่วนรวมแล้วหละก็
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็จะบังเกิดขึ้น คือพวกคุณจะมีแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองมาห่อหุ้มเอาไว้
และพวกคุณก็จะจูนอยู่กับพระผู้สร้างโดยตรง เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงจะกลายเป็น
สถานีถ่ายทอดพลังงานของพระผู้สร้างสถานีหนึ่ง
ที่จะคอยแผ่ส่งพลังงานเหล่านั้นออกไปในทุกทิศทุกทางและในทุกๆที่ที่พวกคุณก้าวย่างไป

ซึ่งก็หมายความว่าพวกคุณจะแผ่ส่งพลังงานออกมาอยู่ตลอดเวลา
แทนที่จะไปรับเอาพลังงานจากคนอื่นๆมา หรือจากสถานที่ต่างๆมาแบบสะเปะสะปะเหมือนเคย
ดังนั้น สำหรับพวกคุณ ผู้ที่รู้ตัวเองว่าเป็นพวกที่มีความไวต่อผลกระทบของพลังงานจากคนอื่นอย่างมากหละก็
นี่คือวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยให้พวกคุณสามารถคงความสมดุลอยู่ได้
และสามารถคงความสบายตัวอยู่ได้ตลอดทั้งวัน

แต่โบนัสที่พวกคุณจะได้รับนอกเหนือจากนี้ก็คือ การไปช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับผู้คน
และสถานที่ๆกำลังต้องการแสงสว่างจากพวกคุณอยู่
ดังนั้น นี่จึงเป็นวิธีการปฏิบัติที่ยอดเยี่ยมมากที่จะก่อประโยชน์ให้กับทุกผู้ทุกนาม

Archangel Gabriel

 

การส่งต่อและการถ่ายทอดรหัสพลังงานให้แก่กันและกัน


(credit the picture from internet)

มันมีข้อความจากต่างมิติอยู่มากมายที่พูดถึงการถ่ายทอด หรือการแชร์ข้อมูลข่าวสาร
ระหว่างสนามพลังออร่าของมนุษย์ด้วยกัน โดยเฉพาะข้อความจาก The Team
เพราะว่ามันมีความจริงพื้นฐานอยู่ว่า ทุกสรรพสิ่งในอนันตจักรวาลแห่งนี้ล้วนมีแก่นแท้มาจากพลังงาน
และก็ก่อเกิดมาจากพลังงานด้วยกันหมดทั้งสิ้น มิหนำซ้ำมิติทางกายภาพนี้
ก็ยังไม่ใช่มิติหลักของอนันตจักรวาลนี้อีกด้วย เพราะว่ามันเป็นมิติย่อยหรือเป็นมิติพิเศษ
ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
และการพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณของเหล่าวิญญาณ/จิตวิญญาณที่อยู่ในเอกภพนี้เท่านั้นเอง

เพราะฉะนั้นแล้วไม่ว่าเราจะส่องกล้องไฮเทคออกไปเห็นดวงดาวซักกี่ล้านๆๆๆๆๆๆดวงในเอกภพแห่งนี้ก็ตาม
แต่นั่นก็เป็นแค่ราวๆ 7% ของทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ในเอกภพแห่งนี้เท่านั้นเอง
เพราะว่าอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า มิติทางกายภาพที่เราสามารถมองเห็นได้และจับต้องสัมผัสได้อยู่นี้
มันไม่ใช่มิติหลักของเอกภพเลย เพราะว่ามิติหลักของเอกภพ ซึ่งก็คืออีก 93% ที่เหลือนั้น คือมิติทางพลังงาน

และเพราะฉะนั้น มนุษย์เราเอง แท้ที่จริงแล้วก็มีแก่นแท้เป็นพลังงาน
ซึ่งก็คือสิ่งที่เราเรียกกันว่าจิตวิญญาณของเรานั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพูดให้ถูกต้องมากขึ้นในแนวหลากมิติแล้ว
เราจะไม่สามารถอธิบายเรื่องของจิตวิญญาณและไม่สามารถเข้าใจเรื่องของจิตวิญญาณได้เลย
เพราะว่ามันไม่ใช่ของที่มีอยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้ และเพราะฉะนั้นแล้ว
มันจึงไม่สามารถที่จะใช้วิธีการอธิบายแบบเป็นเส้นตรงได้
มิหนำซ้ำมันยังไม่ใช่นามที่นับได้ที่เป็นเอกพจน์อีกด้วย

และที่หนักไปกว่านั้นอีกก็คือ “ระบบความเป็นมนุษย์” ของพวกเราเองนั้น
ก็มีความสลับซับซ้อนมากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้ซะอีก
แต่ถ้าจะให้พูดย่อๆสั้นๆเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายแล้วหละก็ ก็อาจจะพออธิบายได้ว่า
มันประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักด้วยกัน ซึ่งก็คือ:

1). ส่วนที่เป็นแก่นแท้ด้านพลังงาน หรือก็คือจิตวิญญาณของเราเอง
และถ้าเราจะมองภาพของมันแบบง่ายๆในเชิงเส้นตรงแล้วหละก็
เราก็ยังจะอธิบายแยกย่อยไปได้อีกนะครับว่า มันมี “จิตวิญญาณของเรา”
อยู่หลากหลายระดับอีกด้วยหละ คือตั้งแต่ระดับที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด
ที่เราเรียกกันว่า Higher Self จนไล่ขึ้นไปเรื่อยๆเหนือกว่านั้นไปอีก
ไปจนถึง Over Soul หรือจิตวิญญาณต้นธาตุของเรา แล้วก็ยังไล่ขึ้นไปเรื่อยๆอีก
จนไปถึงระดับต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง ซึ่งก็ยังเป็นเราอยู่อีกด้วยเช่นกัน

2). ส่วนที่เป็นกายทิพย์ หรือสนามพลังงานออร่าของเรา ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อ
ระหว่างส่วนที่ 1 และส่วนที่ 3 และยังเป็นส่วนที่คอยเก็บบันทึกข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เกี่ยวข้องกับการลงมาเกิดของจิตวิญญาณของเราเอาไว้อีกด้วย
ในระบบที่เรียกว่า “ระบบบันทึกแห่งฟ้า” หรือ Akashic record
ซึ่งเป็นระบบที่มีบันทึกข้อมูลข่าวสารทุกภพทุกชาติของเราอยู่ในนั้น

นอกจากนี้กายทิพย์ของเรานี้หรือสนามพลังงานออร่าของเรานี้
เขายังทำหน้าที่กำกับดูแลความเป็นไปของกายเนื้อของเราอีกด้วยนะครับ
ดังนั้น การอยู่ดีมีสุขของกายเนื้อของเราก็มีสาเหตุหลักมาจากความอยู่ดีมีสุขของกายทิพย์ของเราด้วย
และการเจ็บไข้ได้ป่วยใดๆก็ตามที่จะเกิดขึ้นกับกายเนื้อของเราจึงมักจะมีสาเหตุหลักมาจากการอุดตันของพลังงาน
หรือความผิดปกติของการไหลเวียนของพลังงานที่อยู่ในสนามพลังออร่าหรือกายทิพย์ของเราเป็นส่วนใหญ่ด้วย

3). กายเนื้อหรือกายหยาบของเรา ซึ่งมันมีระบบปฏิบัติการที่คอยควบคุมการทำหน้าที่ของมันอยู่
ที่ต่างมิติเรียกกันว่า ego แต่ก็ไม่ได้หมายถึง ego ตามความเข้าใจของใครหลายๆคนหรอกนะครับ
เพราะว่าเจ้าระบบปฏิบัติการของกายเนื้อที่เรียกว่า ego นี้ มันก็คือสิ่งที่ใครบางคนเรียกว่า “จิตมนุษย์” นั่นแหละ
ซึ่งมันถูกออกแบบมาให้ “ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้กายเนื้อนี้มีชีวิตรอดอยู่ได้” นั่นแหละคือหน้าที่ย่อๆของมันหละ

เพราะฉะนั้นแล้ว เราก็อย่าไปโกรธ หรือไปรังเกียจมัน ที่มันทำหน้าที่ของมันอย่างนั้นเลยนะครับ
แค่ให้เรารู้ว่ามันถูกออกแบบมาอย่างนั้นเท่านั้นเอง และแค่ให้เรารู้ว่า มันไม่รู้ว่าอะไรผิดหรืออะไรถูกหรอก
เพราะว่าหน้าที่มันคือการทำให้กายเนื้อนี้มีชีวิตรอดอยู่ให้ได้เท่านั้นเอง

ดังนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องใช้ “จิตวิญญาณ” ของเราเป็นตัวนำทางชีวิตของเราแทน
อย่าปล่อยให้มันนำทางเราแบบสะเปะสะปะแต่เพียงลำพัง เพราะว่ามันยังมีข้อจำกัดอยู่มาก
มากเกินกว่าที่จะสามารถนำพาเราไปสู่ความสูงส่งดีงามยิ่งกว่าได้

การลงมาเกิดของมนุษย์โลกจำนวนมากมายในภพชาตินี้ ซึ่งเป็นจุดคาบเกี่ยว
ระหว่างยุคพลังงานเก่ากับยุคพลังงานใหม่แบบนี้ หลายๆคนก็มาจากดวงดาวอันไกลโพ้น
ส่วนอีกหลายคนก็มาจากมิติที่สูงกว่า และก็มีอีกจำนวนมากมายที่มาเวียนว่ายตายเกิดอยู่บนโลกนี้มานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยอาณาจักรเลมูเรีย และแอตแลนติสโน่นเลยทีเดียว เพื่อมาทำหน้าที่ปูทางเอาไว้ให้กับโลกยุคพลังงานใหม่นี้

แต่ว่าการลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ซึ่งอยู่ในมิติที่ 3 ที่หนาแน่นทึบตัน
และอยู่ในระบบทวิภาวะที่มีความเป็นขั้วแบบนี้ พวกเราก็รู้อยู่แล้วว่า
ไม่อาจจะนำพาคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดของจิตวิญญาณของตัวเองลงมาด้วยได้ทั้งหมด
เพราะว่าความหนาแน่นทึบตันของมิติแห่งนี้มันไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้
ดังนั้น เราจึงต้องแบ่งส่วนหรือแบ่งภาคเสี้ยวเล็กๆของตัวเองลงมาเกิดเท่านั้น
และดังนั้น มันจึงเหมือนกับการ Log-in เข้ามาเล่นในเกมๆหนึ่ง
ซึ่งผู้เล่นตัวจริงอยู่นอกจอคอมพิวเตอร์โน่น แต่ผู้เล่นที่อยู่ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นี้
ก็คือตัว Avatar ที่ถูกพวกเราเลือกกันขึ้นมาเท่านั้นเอง เพื่อเอาไว้ใช้เล่นในเกมๆนี้

แต่ว่าภายในตัว Avatar นี้ พวกเราผู้ที่เป็นผู้เล่นตัวจริง ที่อยู่นอกจอนั้น
ก็ได้กำหนดคุณสมบัติต่างๆเอาไว้ให้มันหมดแล้วนะ คือแม้แต่ “รหัสแห่งการตื่นรู้”
พวกเราก็ได้กำหนดเอาไว้ให้กับมันเรียบร้อยแล้ว คือได้กำหนดรหัสเป็นพลังงานอะไรบางอย่างเอาไว้
ใน DNA ของมันเรียบร้อยแล้ว เช่น ประมาณว่าพอระดับจิตของมันสูงขึ้นเท่านี้แล้ว
ก็จะให้ DNA ของมันเปิดการทำงานมากขึ้นในส่วนนี้ และรหัสแห่งการตื่นรู้จำนวนหนึ่งที่อยู่ในนั้น
ก็จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาตามไปด้วย อะไรแบบนั้นหนะครับ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราทุกคนจะกำหนดรหัสแห่งการตื่นรู้ของตัวเองเอาไว้เหมือนๆกันหมดหรอกนะครับ
เพราะว่าบางคนก็อาจจะกำหนดให้ตัวเองค่อยๆไปเจอ “รหัสปลดล็อก” อะไรบางอย่างเข้า
แล้วก็ทำให้ตัวเองค่อยๆตื่นขึ้นมาทีละน้อยๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป
แต่บางคนก็อาจจะกำหนดให้ตัวเองต้องเจอกับเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิตอะไรบางอย่าง
ที่เป็นแบบครั้งใหญ่ๆโครมเดียวไปเลย แล้วก็ตื่นขึ้นมาแบบฉับพลันทันทีเลย อะไรแบบนั้นก็เป็นได้

แล้วก็..มันก็มีความจริงพื้นฐานอยู่อีกอย่างหนึ่งที่เราจะต้องไม่ลืมก็คือว่า
ทุกๆก้าวย่างที่เราเดินไป เราได้ประทับตรารอยพลังงานของเราลงไปบนพื้นดิน
ที่เราเหยียบย่างลงไปนั้นอยู่ตลอดเวลา และในทุกก้าวย่างด้วย และทุกสิ่งทุกอย่างที่เราไปแตะต้องสัมผัส
ในชีวิตประจำวันของเรานั้น มันก็มี “รหัสพลังงานของเรา” ประทับตราลงไปในวัตถุสิ่งของเหล่านั้นด้วย
โดยอัตโนมัติ ซึ่งกว่าที่รหัสพลังงานอันนั้นจะจางหายไป ก็ใช้เวลานานนับสัปดาห์หรือนับเดือนเลยทีเดียว
อย่างที่มีนักวิทยาศาสตร์ชาวรัซเซียเคยทำการทดลองเอาไว้แล้ว เรื่อง “Phantom DNA”
ลองค้นหาอ่านดูนะครับ ซึ่งผมได้เคยแปลและโพสต์เอาไว้แล้ว

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงและโยงให้ท่านได้ใคร่ครวญตามไปด้วยก็คือว่า
ทุกๆครั้งที่มนุษย์สองคนขึ้นไป มาพบเจอกัน ในลักษณะที่อยู่ใกล้กันมากพอ
จนทำให้สนามพลังงานออร่าชนกันหรือสัมผัสกันได้นั้น ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
ที่อยู่ภายในสนามพลังงานออร่านี้แก่กันและกันเสมอ ไม่ว่าในระดับสติสัมปชัญญะของเรา เราจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม

ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักพลังจิตทั้งหลาย หรือนักบำบัดทั้งหลาย
เมื่อนั่งอยู่ต่อหน้าคนป่วยแล้วจึงสามารถที่จะสัมผัสรู้ถึงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของคนไข้ได้
หรืออาจจะรู้ข้อมูลอื่นๆที่มากกว่านั้นซะอีกด้วยซ้ำไป

ในทำนองเดียวกัน หากนักพลังจิตผู้เก่งกาจ ได้หยิบจับสิ่งของเครื่องใช้ของใครบางคนเข้าแล้ว
เขาก็อาจจะสามารถรับรู้ถึงพลังงานของคนๆนั้นได้ด้วย ว่าเป็นใคร มาจากไหน อะไร ยังไง

เพราะว่า..อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าพลังงานของเราจะประทับตราอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เราไปแตะต้องสัมผัส
และจะคงอยู่เช่นนั้นไปจนระยะเวลาหนึ่ง และนี่แหละที่ครายออนชอบพูดว่า
ดาวเคราะห์โลกหรือพระแม่ไกอา สามารถรับรู้ได้ว่าพวกเราแต่ละคนเป็นใคร
และโลกก็รู้จักพวกเราทุกๆคน และทุกก้าวย่างที่เราก้าวเดินไป
โลกก็รับรู้ความเคลื่อนไหวของเราอยู่ตลอด และธรรมชาติทั้งหลายก็รู้จักเราด้วย
ผ่านทางพลังงานของเรานี้เอง

นอกจากนี้ ..นี่ก็ยังเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมข้อความจาก The Team ถึงได้เน้นย้ำอยู่บ่อยๆว่า
ในทุกกิจกรรมที่เรากระทำ ในกิจวัตรประจำวันของเรา ให้เราคงความสั่นสะเทือนเอาไว้ให้สูงที่สุด
ให้เราอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี
เพราะว่ามันจะไปส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เราไปแตะต้องสัมผัสด้วย
และยังส่งผลกระทบต่อทุกๆคนที่เราไปเจอและไปแชร์พลังงานในสนามพลังออร่าของเราด้วย

ดังนั้น The Team จึงบอกว่าแม้แต่การเอาขยะไปทิ้ง
ก็ยังสามารถที่จะทำให้มันกลายเป็นงานที่ศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งได้
เพราะว่าอย่าลืมว่าในทุกๆที่ๆขยะมันไปถึงนั้น มันก็จะนำพารอยประทับตราด้านพลังงานของเรา
ติดตัวไปด้วยเสมอ และพลังงานที่ว่านี้มันก็จะไปเหนี่ยวนำหรือไป entangle
ให้สิ่งที่มันไปแตะต้องสัมผัสด้วย มีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้นตามไปด้วยเป็นทอดๆไป
เสมือนเป็นระลอกคลื่นอะไรแบบนั้น

และก็..มันก็จะไปส่งผลกระทบต่อระดับความสั่นสะเทือน
ของ “สนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก” ในท้ายที่สุดด้วย
เพราะว่าระดับความสั่นสะเทือนของสนามพลังงานออร่าของพวกเราทุกๆคน
จะไปผสานรวมกันในระดับที่ใหญ่กว่าขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายไปเป็นค่าระดับความสั่นสะเทือน
ของสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกในท้ายที่สุดนั่นเอง

และเรื่องของ “การแชร์รหัสพลังงาน” ให้แก่กันและกันนี้เอง ก็เป็นคำอธิบายที่ว่าทำไม
ท่านมหาเทพเมตาตรอนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จึงสนับสนุนให้พวกเราบางคน
ที่รู้สึกว่าตัวเองมีแรงบันดาลใจ หรือได้รับแรงกระตุ้นมาอย่างแรงกล้า
ให้ต้องไปยังสถานที่โน้น-สถานที่นี้ เพื่อไปนั่งสมาธิ หรือไปทำกิจกรรมด้านบวก
ทางจิตวิญญาณอะไรบางอย่าง ในช่วงเวลานั้น-เวลานี้ เป็นต้น
เพราะว่า คนบางคนที่ว่านั้น พวกเขาได้กำหนดให้ตัวเอง
เป็นผู้ที่ต้องมา “ปลดล็อก” รหัสทางพลังงานอะไรบางอย่างที่ถูก “ปิดผนึกเอาไว้” ให้เปิดออกมา
เพื่อที่จะทำให้ “มิติ” หรือ “จุดประสานมิติ” ซึ่งเปรียบเสมือน “กล่องใส่พลังงาน” ที่อยู่ตรงนั้น
ถูกเปิดออกมา เพื่อที่พลังงานและข้อมูลข่าวสารที่ถูกเข้ารหัสเอาไว้ตรงนั้น
มันหลั่งไหลออกมาสู่สนามพลังงานของโครงข่ายคริสตัลลีนของโลกได้

เจ้าประตูมิติ หรือ กล่องพลังงานที่ว่านี้ มันไม่ใช่ของในมิติที่ 3 ที่เราจะสามารถมองเห็นได้หรอกนะครับ
แต่ครายออนก็เคยพูดเอาไว้ว่า ชาวกลุ่มดาวลูกไก่ ก็ได้เคยเอากล่องพลังงานแบบนี้มาใส่ไว้
ในโลกด้วยเช่นเดียวกัน จำนวน 24 กล่อง หรือ 12 คู่ อันที่จริงมันไม่ใช่กล่องหรอกนะครับ
แต่ผมแค่เรียกให้มันเข้าใจง่ายเฉยๆ ซึ่งครายออนก็เคยเอ่ยถึงไปบ้างแล้วว่าแต่ละจุด
หรือแต่ละคู่นั้นมันอยู่ตรงไหนบ้าง และมันจะเปิดขึ้นในเวลาที่สมควรเท่านั้น
เช่น เมื่อระดับความสั่นสะเทือนของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกถูกยกระดับขึ้นถึงระดับนี้
กล่องนี้ก็จะเปิดออก อะไรแบบนั้น เป็นต้น

ย้อยกลับมาที่ชาวโลกบางคนที่มีหน้าที่ไปเปิดกุญแจหรือไปไขรหัสพลังงานของกล่องพลังงานที่ว่านี้กันต่อนะครับ
หลายท่านอาจจะเคยได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้วว่า นาย Tyberron และใครอีกหลายคน ต้องเดินทางไปตรงนั้นตรงนี้
เพื่อที่จะไปเปิดประตูมิติตรงนั้นตรงนี้ และอาจารย์คนนั้นคนนี้ของไทยเรา
ต้องเดินทางไปที่เขาไกรลาส หรือเขาอะไรก็ตามแต่ เพื่อไปเปิดมิติตรงนั้นตรงนี้
ในช่วงเวลานั้นเวลานี้ อะไรแบบนั้น

ซึ่งถ้าตามความเข้าใจของผมและตามข้อมูลที่ผมมีอยู่นี้ ผมก็จะอธิบายว่า
นั่นก็เพราะว่า บุคคลเหล่านั้น ท่านเปรียบเสมือน Barcode ที่อยู่บนตัวสินค้าอะไรบางอย่าง
ซึ่ง Barcode ที่ว่านั้นก็คือรหัสพลังงานที่อยู่ใน DNA ของท่านเองนั่นแหละ
แล้วพอท่านก้าวเข้าไปในสถานที่นั้นๆเท่านั้นแหละ โดยที่ยังไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้
เจ้าเครื่องยิง Barcode ที่อยู่ในสถานที่นั้นๆ ก็จะสแกนทันที แล้วก็พบข้อมูลที่ตรงกับที่มีอยู่ในฐานข้อมูลนั้นๆพอดี
ดังนั้น ประตูมิติ หรือกล่องพลังงานที่ว่านั้น มันก็เลยเปิดออกโดยอัตโนมัติ

ส่วนเรื่องของ “รหัสแห่งการตื่นรู้” ที่พวกเราหลายๆคนอาจจะได้กำหนดเอาไว้
ให้เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันอยู่นั้น เช่น ได้กำหนดเอาไว้ว่าให้เธอมาช่วยฉันตรงนี้
แล้วให้ฉันมาช่วยเธอตรงนี้นะ แล้วรหัสของเราก็จะปลดล็อกซึ่งกันและกัน อะไรแบบนั้นครับ
ดังนั้น เวลาคนสองคนมาเจอกัน นอกจากจะได้พูดคุยกันแบบทั่วๆไปแล้ว
สนามพลังงานออร่าของคนทั้งสองนั้น ก็ยังจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันอีกด้วย
จนอาจจะช่วยปลดล็อกอะไรบางอย่างให้แก่กันและกันไปแล้วก็ได้
แม้ว่าเจ้าตัวอาจจะยังไม่รู้ตัวในทันทีก็ตาม ซึ่งกรณีเช่นนี้เคยมีข้อความจากต่างมิติกล่าวเอาไว้แล้วเช่นกันครับ

และในทำนองเดียวกันนี้ ก็ยังหมายรวมถึงกรณีที่หลายๆท่านอาจจะกำหนดให้
ผมมาเป็นคนช่วยปลดล็อกให้ท่านด้วยก็ได้ โดยผ่านทางข้อความที่ผมแปล
และผ่านทางสิ่งที่ผมแตะต้องสัมผัสด้วย ซึ่งนี่แหละที่อาจจะเป็นสาเหตุให้หลายๆท่าน
ที่ได้สัมผัสกับหินที่ผมส่งไปให้แล้ว ถึงได้รู้สึกอะไรบางอย่าง
และหลังจากนั้นอีกไม่นานถึงได้รู้สึกว่าพัฒนาการทางจิตของตัวเองก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์

แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ก็อาจจะไม่ใช่เพราะพลังของหินเพียงอย่างเดียว
และก็อาจจะไม่ใช่เพราะพลังงานแห่งเจตจำนงของผมที่อยากจะให้ทุกๆคน
ได้มีโอกาสครอบครองและใช้งานหินที่มีพลังงานดีๆเหล่านี้แต่เพียงอย่างเดียวด้วยเช่นเดียวกัน
แต่อาจจะเป็นเพราะว่า “รหัสทางพลังงานในการปลดล็อก” ที่พวกเราอาจจะเคยตกลงร่วมกันไว้
ตั้งแต่ก่อนลงมาเกิดโน่นด้วยก็เป็นได้ เพราะว่าก่อนหน้าที่ผมจะเริ่มมาทำสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี้
เมื่อราวๆ 5-6 ปีก่อนโน้น ผมเคยฝันไปว่า “ผมคือผู้ปลุกให้ตื่นคนหนึ่ง” ครับ
แต่ว่าผู้ปลุกแบบผมนี้ก็คือเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับทุกๆท่านหนะแหละครับ
เพราะว่าตัวผมเองก็เพิ่งจะได้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้มา
และก็เพิ่งจะเริ่มงัวเงียตื่นไปพร้อมๆกับทุกๆท่านนี่แหละครับ

ข้าพเจ้าขอคารวะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในตัวของทุกๆท่าน
ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในตัวของข้าพเจ้าเอง

Namaste

Chayutt Naowarat
12/12/15 วันที่ประตูมิติอีกบานหนึ่งกำลังถูกเปิดออก

 

ว่าแล้วก็มาเล่าความฝันเมื่อครั้งกระโน้นให้ฟังบ้างดีกว่า ฮิฮิ..ฝันมา 7 ปีแล้ว
แต่โชคดีที่เคยบันทึกเอาไว้อยู่ เลยยังจำได้ทุกช็อตทุกตอนครับ
เพราะว่าช่วงนั้นหนะความฝันผมจะคม-ชัด-ลึกมาก
จนแยกแยะไม่ออกเลยหละว่าอันไหนจริงอันไหนฝัน เพราะว่ามันเป็นจริงเป็นจังเหมือนกันไปหมด

และมันก็..ฝันอย่างมีสติสัมปชัญญะมากๆจนน่าทึ่งครับ คือรู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ด้วยนะ
และพอนึกได้ว่า เคยมีคนบอกว่าในฝันเวลาเราตบหน้าตัวเองมันจะไม่เจ็บ
ผมก็เลยลองตบหน้าตัวเองดูในฝันนั่นแหละ ปรากฎว่าเจ็บตามปกติครับ
ตอนนั้นยังคิดด่าคนที่เคยบอกอยู่ในใจเลยว่า ไหนบอกว่าไม่เจ็บไง
ที่ไหนได้เจ็บเหมือนเวลาตื่นนี่แหละครับ เพราะลองงมาแล้ว!!


ที่มา:
http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-70

เมื่อคืนนี้ (คืนวันที่ 8/5/2008) ความฝันของผมตอนหนึ่งน่าสนใจดีครับ
เลยอยากจะนำมาเล่าให้ฟังสักเล็กน้อยครับ

ฝันว่าเดินทางอยู่ในป่า แล้วไปเจอกองเสื้อผ้าอยู่เป็นหย่อมๆ
ซึ่งเสื้อผ้าที่ว่านั้น เป็นชุดขาวที่ผู้ปฏิบัติธรรมตามวัดต่างๆใส่กันทั่วไป
แต่เสื้อผ้าที่ว่านี้มีลักษณะเก่า เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนมาก
และถูกถอดทิ้งไว้เกลื่อนกลาด พอผมกวาดสายตาไปอีกสักหน่อย
ก็เจอร่างกายของผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จัก
นอนเปลือยกายอยู่ในพุ่มไม้บ้าง ในพงหญ้าบ้าง
บางคนก็ถูกทำร้าย บางคนก็ถูกตัดมือ บางคนก็ถูกตัดเท้าทิ้ง
ดูแล้วน่าเวทนายิ่งนัก

ในฝัน พอผมไปเจอใคร ผมก็จะเอาชุดขาวปฏิบัติธรรมที่อยู่แถวๆนั้นแหละ
ไปคลุมตัวให้ แล้วผมก็ "ปลุกให้ลุกขึ้น" พร้อมกับบอกว่า

"ลุกขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว"

คล้ายๆกับว่าเวลามันเหลือน้อยแล้วอย่างงั้นแหละ

ในฝัน มีพี่ชายคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ความรู้สึกในฝันบอกว่า
แกเดินไม่ได้ เพราะขาพิการ 2 ข้าง แต่แกก็เป็นผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง
มิหนำซ้ำ "เขา" (เขานี่ใครก็ไม่รู้นะ) ยังมาตัดเท้าทั้ง 2 ข้างของแกทิ้งไปอีก

พอผมไปเจอแก ผมก็เอาเสื้อขาวที่มอมแมมอย่างที่ว่านั้นแหละคลุมตัวแก
แล้วปลุกแกลุกขึ้นมาทำหน้าที่ และผมก็พูดประมาณว่า

"พี่ปรีชานี่ มีกรรมเยอะนะ ถึงได้โดนหนักแบบนี้ ยังต้องใช้กรรมอีกเยอะ"

(ถึงแม้ว่าชื่อจริงของพี่คนนี้จะไม่ใช่ "ปรีชา"ก็ตาม)

แล้วผมก็เห็นแกตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเดิน แบบทุลักทุเลมากๆ
ในฝันผมสะเทือนใจมากๆ จนเกือบร้องไห้เลยครับ

..................................................................

 

การสัมนาครั้งสุดท้ายของปีนี้ครับ


ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - December 12, 13, 2015 : "The Hidden Youth Template" and "The End of the Year"

 

ข้อความสื่อสารจากท่าน Hilarion ประจำสัปดาห์ที่ 21 – 27 ธันวาคม 2015


image from internet

(แต่เป็นการนำเอาข้อความเก่าที่เคยสื่อสารมาเมื่อวันที่ 7 - 14 ธันวาคม 2014 มาโพสต์ใหม่)
ที่มา: http://therainbowscribe.com/hilarion2015.htm
แปล : Chayutt

มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ที่ทุกๆวันพวกคุณจะต้องหาเวลาอยู่ในความสงบเพื่อกลับเข้าไปข้างในตัวเองให้ได้
เพราะว่าในช่วงเวลานี้ของปีนั้น
พวกคุณแต่ละคนอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องทำจนดูยุ่งไปหมดก็ได้
ทั้งสิ่งที่จะต้องทำกับครอบครัว, กับเพื่อนฝูง, และกับสังคมของพวกคุณ
แต่ว่านี่ก็เป็นสิ่งที่ดีตราบเท่าที่พวกคุณไม่ทำให้ตัวเองยุ่งจนเกินไปนัก

แต่ว่าบ่อยครั้งที่พวกคุณก็มักจะให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของคนอื่น
มากกว่าความจำเป็นของตัวเองไป
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่พวกคุณจะต้องไม่ลืมก็คือ
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามพวกคุณก็จะต้องคำนึงถึงความสมดุลด้วยเสมอ
เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถประคองตัวเองให้ยืนหยัดอยู่ต่อไปได้
และเพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถคงอยู่ในความสมดุลได้ต่อไป

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงอาจจะจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักดูความต้องการเหล่านี้ให้ดี
และอาจจะต้องทบทวนความคาดหวังของตัวเองดูซะใหม่
เพราะว่าบ่อยครั้งที่ความคาดหวังของพวกคุณเองนั่นแหละ
ที่สร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณเอง
และจงรู้ไว้ว่าบุคคลอันเป็นที่รักของพวกคุณทั้งหลายก็จะพยายามช่วยเหลือพวกคุณ
และพยายามปรับตัวให้เข้ากับวิถีการปฏิบัติใหม่ๆของพวกคุณ
รวมถึงยินยอมพร้อมใจที่จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆในเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองนี้ด้วย

หากพวกคุณคนใดที่มีความสงบและปราศจากความร้อนรุ่มจากภายในแล้ว
พวกเขาก็จะสามารถอดทนต่อผู้คนรอบข้างของพวกเขาได้
เพราะว่าพวกคุณทุกๆคนจะต้องตระหนักรู้ว่าตัวเองคือส่วนหนึ่งของส่วนรวมทั้งหมด
ที่ไม่ว่าจะปลดปล่อยพลังงานอะไรออกมาก็ตาม
ก็จะไปส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้างตัวเองเสมอ
เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องรับรู้เอาไว้ว่า
พวกคุณมีพลังอำนาจมากกว่าที่ตัวเองเคยคิดว่าตัวเองมีซะอีก

ในช่วงเวลานี้ มีชาวโลกจำนวนมากมายที่กำลังประสบกับภาวะความตึงเครียด,
หรือความเร่งรีบ หรือความโกรธอยู่
ดังนั้น พวกคุณคนใดที่มีความไวต่อการรับรู้ด้านพลังงานมากๆ
จึงพากันไปรับรู้อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้เข้าโดยอัตโนมัติ
จนทำให้งงตัวเองว่าทำไมถึงได้มีอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ได้
ทั้งๆที่เมื่อกี้นี้ยังรู้สึกสงบสุขและมีความสุขดีอยู่เลย

เหตุผลก็คือว่า เพราะว่าพวกคุณหลายคนก็เป็นเหมือนกับฟองน้ำ
ที่สามารถดูดซับเอาพลังงานอารมณ์ความรู้สึกด้านลบ
ที่ลุกโพรงออกมาจากคนอื่นๆรอบๆตัวของตัวเองได้โดยอัตโนมัติ
ดังนั้น เมื่อใดที่สิ่งนี้เกิดขึ้นกับพวกคุณ
ก็ให้พวกคุณแก้ไขโดยการ “กำหนดสติรู้” ว่ามันกำลังเกิดขึ้นอยู่
แล้วจากนั้นก็ให้ไปหาสถานที่ๆสงบๆที่ไหนซักแห่งหนึ่งอยู่
หรือโดยการแช่น้ำเกลืออุ่นๆซึ่งต้องเป็นเกลือทะเลด้วย
เพื่อชำระล้างสนามพลังงานออร่าของตัวเอง
ให้สะอาดหมดจดจากพลังงานด้านลบของคนอื่นที่มาเกาะติดนั้นเสีย
โดยที่พวกคุณอาจจะเลือกใช้นำมันหอมระเหยกลิ่นที่พวกคุณชื่นชอบร่วมด้วยก็ได้
และการใช้เสียงดนตรีช่วยด้วยเพื่อการผ่อนคลายก็นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากด้วย

แต่เมื่อใดที่พวกคุณอยู่ในอารมณ์ความรู้สึกแห่งขอบคุณหรือซาบซึ้งใจหละก็
จักรวาลก็จะทำงานในส่วนของมันด้วยเช่นเดียวกัน
โดยการรีบจัดหาสิ่งที่กำลังทำให้พวกคุณรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งใจอยู่นั้น
มาให้กับพวกคุณอีก........ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ของปี
มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องใช้โอกาสแห่งเทศกาลเฉลิมฉลองนี้
เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้สึกดีๆเหล่านี้เอาไว้
เพราะว่ามันจะช่วยเปิดจักระหัวใจของพวกคุณ
ให้สามารถแผ่กระจายแสงสว่างสีทองของมันออกมาได้
จนมันมีโอกาสที่จะยกระดับขึ้นไปสู่ระดับจิตสำนึกอันพิสุทธิ์ได้ (Christ consciousness)
ซึ่งระดับจิตสำนึกอันพิสุทธิ์ดังกล่าวนี้ ก็เป็นระดับจิตที่ใครๆก็สามารถมีได้ทั้งนั้น
เพียงแต่ว่าคนๆนั้นจำเป็นจะต้องเปิดใจรับมันและเต็มใจที่จะรับมันเท่านั้นเอง
และพลังงานแห่งความรักอันเป็นสากลนี้ก็ไม่ได้เป็นของผู้ใดทั้งสิ้นด้วย
เพราะฉะนั้นแล้วใครๆก็สามารถที่จะรับเอามันมาได้เสมอเหมือนกันหมด

และในช่วงเวลาที่โลกของพวกคุณกำลังเคลื่อนที่เข้าไปสู่ฤดูเหมายันต์แบบนี้ด้วยแล้ว
(วันที่ 21 ธันวาคมของทุกปี - ผู้แปล)
พลังงานแห่งจิตสำนึกอันพิสุทธิ์นี้ก็ยิ่งจะมีความสำคัญ
และมีความเข้มข้นมากขึ้นไปอีกบนโลกของพวกคุณ
ดังนั้น การนำพลังงานนี้มาใช้งาน
จึงสามารถที่จะช่วยให้ศักยภาพทางจิตของพวกคุณ
ที่มีมาแต่กำเนิด ขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิมได้

และในแต่ละวัน ในขณะที่พวกคุณกำลังประกอบกิจธุรการงานตามปกติอยู่นั้น
ก็ให้พวกคุณใช้พลังอำนาจส่วนที่ล้นเหลือออกมานั้นของตัวเอง
อวยพรให้กับทุกสิ่งทุกอย่างและกับทุกๆคนที่อยู่รอบๆตัวเองด้วยความรัก
จงอวยพรให้กับทุกๆคนที่พวกคุณได้ประสบพบเจอ
จงอวยพรให้กับต้นไม้ทุกๆต้น จงอวยพรให้กับนกทุกๆตัว,
ให้กับดอกไม้ทุกๆดอก และให้กับสิ่งสวยงามทุกๆสิ่งที่พวกคุณได้มีโอกาสผ่านไปพบเห็นเข้า

จงกล่าวขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เสมอๆ
เพราะว่าเมื่อใดพวกคุณทำเช่นนี้เป็นประจำแล้ว ทวยเทพทั้งหลาย,
เหล่าผู้นำทางทั้งหลาย และคุรุผู้รู้แจ้งแล้วทั้งหลายของพวกคุณ
รวมถึงตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเองด้วย
ก็จะทำงานในส่วนของพวกเขาเองด้วยเช่นกัน ทั้งในโลกหรือมิติของวิญญาณ
เพื่อให้พรอันประเสริฐเหล่านี้ของพวกคุณ กลายมาเป็นความจริง

และเมื่อใดที่พวกคุณอวยพรให้กับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
กฎของจักรวาลก็จะนำพาเอาสิ่งที่พวกคุณส่งออกไปกลับคืนมาสู่พวกคุณดังเดิม
เพราะฉะนั้นแล้ว จงเตรียมใจไว้ให้พร้อมรับสิ่งดีๆทั้งหลาย
ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาในชีวิตของพวกคุณเถิด

แต่ว่า..ที่ดียิ่งไปกว่านั้นอีกก็คือ
การที่พวกคุณกลายเป็นผู้ที่รู้จักขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เป็นประจำทุกวันนั้น
มันก็จะไปทำให้สิ่งดีงามทั้งหลายแผ่กระจายออกไป
ในโลกรอบๆตัวของพวกคุณมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ
เพราะว่าเมื่อตัวพวกคุณเองพยายามที่จะยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นทุกวันๆแล้ว
ก็เท่ากับว่าพวกคุณได้ช่วยยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเองให้สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน
และในทางกลับกันยิ่งระดับความสั่นสะเทือนของตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณ ถูกยกระดับสูงมากขึ้นเท่าไหร
ระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณเองก็จะยิ่งถูกยกระดับสูงมากขึ้นตามไปด้วยเท่านั้นด้วย

และเมื่อใดที่ชาวโลกคนใดคนหนึ่ง สามารถยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองให้สูงขึ้นมาได้แล้ว
แสงสว่างสีชมพูจากตัวของคนๆนั้นก็จะแผ่ขยายออกไปรอบๆตัวของเขา
เป็นระยะทางหลายไมค์เลยทีเดียว
ซึ่งก็จะสามารถไปช่วยให้ผู้คนที่อยู่ภายในรัศมีแห่งแสงสว่างสีชมพูนี้เปิดหัวใจขึ้นมาได้
และก็ยังจะช่วยเหนี่ยวนำให้จิตสำนึก และความตระหนักรู้ของผู้คนเหล่านั้นขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

และเพราะว่าสนามพลังงานของแสงสว่างสีชมพูนี้
มันจะแผ่ปกคลุมทุกผู้ทุกนามที่อยู่ภายในรัศมีของมันนี้เอง
จึงทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และก็สำคัญอย่างที่สุด
ที่พวกคุณจะต้องชำระสะสาง “ความคิด” ของตัวเองให้ดี
ให้มันบริสุทธิ์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่พวกคุณจะใช้มัน
เพื่อเนรมิตโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองออกมา
เพราะว่าตอนนี้พลังอำนาจในการเนรมิตของพวกคุณมีมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องฝึกฝนจิตใจของตัวเองให้ดี
และต้องคอยระวังระไวความคิดของตัวเองให้ดีด้วย
อย่าให้สิ่งที่ไม่ดีไม่งาม หรือไม่ใช่ความเป็นพระเจ้าในตัวของพวกคุณเองผุดออกมาได้
ตอนนี้พวกคุณทุกๆคนกำลังเรียนรู้ที่จะใช้พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง
ในการสร้างสรรค์โลกรอบๆตัวของตัวเองขึ้นมาอยู่
ซึ่งสิ่งนี้ก็มีความจำเป็นจะต้องอาศัยการฝึกฝนและการควบคุมตัวเองเป็นอย่างมากด้วย
เพราะว่ามันมีตัวอย่างของการใช้พลังอำนาจดังกล่าวนี้ไปในทางที่ผิดอยู่มากมายบนโลกใบนี้
และแน่นอนว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณพากันลงมาที่นี่เพื่อที่จะมาทำมันหรอกนะ
เพราะว่าพวกคุณพากันลงมาเกิดที่นี่ บนโลกใบนี้
เพื่อที่จะมาช่วยกันสร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลงที่ดีงามให้เกิดขึ้น
ในสนามพลังงานของ “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณจึงจำเป็นจะต้องเป็นความรักและแสงสว่าง
อย่างที่ตัวตนของพวกคุณเป็นจริงๆต่อไป

ที่รักทั้งหลาย ยิ่งวันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
พวกเราก็ยิ่งได้เห็นแสงสว่างที่เรืองรองและเจิดเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้นด้วย
ซึ่งทำให้พวกเรามีความสุขมาก!

Until next week…

I AM Hilarion

 

ตอนใหม่วางแผงแล้วครับ Kryon เจ้าเก่าเจ้าเดิม เชิญเสพกันเต็มที่


"THE DYSFUNCTION OF DARKNESS"
Kryon Channelling - Cusco, Peru - November 14 - 2015

(kiss) (f)


(good)

 

จงขึ้นไปสู่ห้วงจักรวาลแล้วเปิดแสงสว่างของตัวเองขึ้นมา


(credit the picture from internet)

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพ Gabriel ประจำวันที่ 2 มกราคม 2016

ที่รักทั้งหลายวิธีการมโนหรือตั้งจิตให้เป็นสมาธิเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่พวกคุณต้องการขึ้นมานั้น
สามารถทำได้ง่ายๆเพียงแค่จินตนาการว่าตัวเองขึ้นไปอยู่ในห้วงเอกภพ
แล้วจากนั้นก็ให้เปิดแสงสว่างของเจตจำนงของพวกคุณเองขึ้นมา
แล้วจากนั้นก็ให้นึกจินตนาการให้เห็นว่าแสงสว่างของคนอื่นๆก็ถูกเปิดขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน
เพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่พวกคุณกำลังปรารถนาอยู่นั้น

ตัวอย่างเช่น พวกคุณอาจจะจินตนการให้เห็นว่าตัวเองกำลังลอยขึ้นไปอยู่ในห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล
และกำลังเปิดแสงสว่างแห่งงานบริการของตัวเองขึ้นมาอยู่ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ดีๆให้เข้ามาหามากขึ้น
ซึ่งเป็นผู้ที่มีระดับพลังงานสอดคล้องกับสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่อย่างพอดิบพอดี
แล้วจากนั้นก็ให้จินตนาการให้เห็นว่าแสงสว่างของพวกเขาได้ถูกเปิดขึ้นมาเหมือนกัน
เพื่อขานรับการป่าวประกาศของพวกคุณ ซึ่งเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าบัดนี้ผู้คนเหล่านั้นได้มาพบพวกคุณแล้ว
และได้มาพบงานบริการของพวกคุณแล้ว

เพราะฉะนั้นแล้ว..บัดนี้ พวกคุณจึงสามารถที่จะทำใจให้สบายได้แล้ว
เพราะรู้แล้วว่า บัดนี้..สายสัมพันธ์ได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว และพวกเขาก็กำลังเดินทางมาหาพวกคุณอยู่
พวกคุณสามารถที่จะใช้เทคนิกนี้กับเรื่องอะไรก็ได้

ตัวอย่างเช่น ถ้าพวกคุณกำลังมองหาผู้ที่มีความคิดความอ่านเหมือนๆกันและมีระดับจิตเสมอกัน
เพื่อมาร่วมเดินบนเส้นทางสายจิตวิญญาณนี้ด้วยกันอยู่หละก็ ก็จงเปิดแสงสว่างของตัวเองขึ้นมา
โดยเปิดให้มันสว่างไสวเจิดจ้าออกไปสู่เอกภพอันกว้างใหญ่ไพศาลโน่นเลย
แล้วจากนั้นก็จงมองให้เห็นว่าบัดนี้สายสัมพันธ์นั้นได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว

แต่ถ้าพวกคุณกำลังมองหาคู่รักในฝันของตัวเองอยู่หละก็ ก็จงเปิดแสงสว่างของตัวเองขึ้นมาเช่นเดียวกัน
แล้วจากนั้นก็จงมองให้เห็นว่าบัดนี้สายสัมพันธ์นั้นได้เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกัน

วิธีการนี้เป็นวิธีการที่สนุก แต่ก็มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
เพราะว่ามันคือการแสดงความปรารถนาของพวกคุณออกไปอย่างชัดเจน
และก็ยังทำให้พวกคุณได้มองเห็นการตอบรับของคนอื่นๆด้วย
ซึ่งด้วยความช่วยเหลือของวิธีการนี้ การสร้างสรรค์ของพวกคุณก็จะง่ายดายขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกเยอะเลย

เพราะฉะนั้นแล้ว จงแสดงเจตจำนงของพวกคุณออกมา
แล้วจากนั้นก็จงปล่อยให้สายสัมพันธ์เหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
จงทำมันด้วยความสนุกสนามเพลิดเพลิน และจงทำมันอย่างง่ายๆแบบนี้แหละ
เพราะพวกคุณรู้อยู่แล้วว่า ความปรารถนาเหล่านั้นของพวกคุณ
กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของพวกคุณอยู่

Archangel Gabriel

ที่มา: Daily Message ~ Saturday January 2, 2016 | Trinity Esoterics

 

กลายเป็น "จิตจักรวาล" ...

 

**โอ..ตัวเลขสวยมากครับ..Lucky Number ประจำตัวผมเลย..
ซึ่งก็คือเลข 11 กับเลข 13 ครับ**



คือบังเอิญวันนี้ (วันที่ 3/1/2016 => 3+1+2+0+1+6 = 13) เวลา 14:14 นาที
ตัวเลขจำนวนคลิ๊กที่มีผู้คลิ๊กเข้ามาอ่านกระทู้นี้ เท่ากับ 1,133,333 ครั้งครับ

..ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้...

สงสัยปี 2016 นี้จะเป็นปีที่ดี หรือเป็นปีที่สำคัญอีกปีหนึ่ง
ของ "กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น" ของมวลหมู่มนุษยชาตินะเนี่ย..

สาธุ ขอให้เป็นเช่นนั้นเถิด

 

เขียน ๒๓.๐๙

เทคนิคนี้ ใช้กะลูกแก้วกายสิทธิ์ พิชิตกรรม ได้ด้วยรึเปล่าครับ หึหึหึ
ไม่รู้ใคร จากดาวไหน ใส่เข้าหัวมาสองสามปีแล้วล่ะมั้ง นะ เนอะ
วันก่อน เพิ่งลองปล่อยรุ่นทดลอง เข้าสู่ตลาด แต่มั่วไปหน่อย
ค่าความคลาดเคลื่อนสูง ข้อมูลไม่ตรงกะในหัวแยะเลย

ที่กระทู้นี้อ่ะ หน้าเจ็ด
http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B8%96%E0%B8%B8%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A.559522/page-7

---------------------------------------------

---------------------------------------------

ไอ้ลูกที่อยู่ในหัวนี้น่ะนะ ออกแบบไว้ให้ใช้ได้ทั้งคอม แอนดรอยด์ และไอ
เมื่อใส่ข้อมูลเข้าไป ก็จะแสดงภาพออกมา เป็นกราฟในลูกแก้ว
แต่ละคน ก็จะมีรายละเอียดต่างกันออกไป ตามกรรม

เมื่อมองเห็นจุดบกพร่อง หรือข้อจำกัด หรือปัญหาที่ตรงจุด
ก็ง่ายที่จะปรับแต่ง หรือแก้ไข ให้เข้าสู่วิถีที่ถูกต้องได้ง่าย
บางคนนะ แค่ปรับนิดเดียว ระดับจิตก็ไต่ขึ้นได้มากเลย

กรรมเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ก็ไม่น่าจะเกินวิสัยของนักเล่านิทานนะ เนอะ
ที่จะหาทางแก้ไขได้ ปรับแต่งได้ จูนใหม่ เปลี่ยนอะหลั่ยในจิตบางชิ้นส่วน
ปรับทัศนคติ อัพเดทข้อมูล หรืออัพแพทใหม่ บางคนก็อาจต้องอัพเกรดใหม่

๕๕๕ มั่วจังแฮะ รุ่นทดลอง ๒.๐ เนี่ย คงต้องทำอีกนานแน่เลยอ่ะ
ถ้าได้ยอดฝีมือจากจักรวาลอื่นๆ มาช่วยด้วย ก็คงมีแววสำเร็จได้ล่ะมั้ง นะ
ว่าแต่..ท่านชยุตต์ ศิษย์ต่างมิติ มีความเห็นไงบ้างครับ โม้ได้นะ ขอบอก ๕๕๕


กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / นักรบแสง จากอีกจักรวาลนึง
.

 

ปรากฏการณ์นี้เห็นคุณชยุตแปลบ่อยๆนะครับ
ปรากฎการณ์ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ (Synchronicity)

 

ข้อความแรกของปีนี้ครับ
ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat - Sun , Jan 9-10, 2016 : “What You Don't Know” , “Communications with Spirit”

 

~Archangel Gabriel
Daily Message ~ Saturday January 16, 2016


Image from internet
แปล: Ajita

คุณคุณที่รัก....
เราใคร่ขอแนะนำให้คุณลองคิดว่า
การดำเนินชีวิตมันก็เหมือนกับคุณอยู่ในงานเลี้ยงบุพเฟ่
ที่มีอาหารหลากหลาย ทั้งที่คุณชอบและไม่ชอบ
และในบางครั้งคุณอาจจะลิ้มลองกับอาหารใหม่ๆ
ที่อาจทำให้คุณถูกใจหรือไม่ถูกใจ
หรือบางทีวันนี้อาจไม่ชอบแต่วันต่อมาอาจเปลี่ยนเป็นชอบก็เป็นได้
ซึ่งก็ไม่มีใครจะมาตัดสินคุณได้หรอกนะ
เพราะมันเป็นเพียงทางเลือกของคุณเท่านั้น....

และในการดำเนินชีวิตของคุณก็เช่นกัน
หากคุณยินยอมให้เป็นไปเหมือนกับงานเลี้ยงบุฟเฟ่นี้
ก็เท่ากับคุณได้ยอมให้ตัวคุณเองได้ขยายคลื่นความถี่ของประสบการณ์
ที่ตั้งอยู่บนฐานในความเป็นเอกลักษณ์ของตัวคุณเองออกไปอย่างกว้างไกล
ซึ่งนั่นก็จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณได้รู้จักตัวเอง
และทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตของตัวคุณเองด้วย....

และการที่คุณยินยอมให้ตัวเองได้เลือกที่จะมีอิสรภาพในการแสดงออกนั้น
ก็จะนำไปสู่การเจริญเติบโตในสิ่งที่ธรรมชาติของจิตวิญญาณคุณที่กำลังตามหาเสมอๆ....

นี่...คุณเห็นไม๊?....ว่าเรากำลังบอกคุณว่า

"คุณเป็นผู้ถือกุญแจเพื่อปลดปล่อยจิตวิญญาณของคุณให้ได้รับอิสรภาพ
และทำให้คุณได้เคลื่อนเข้าไปสู่อิสรภาพนั้นด้วยความภาคภูมิใจ
ในคุณค่าและความปรารถนาของตัวคุณเองอย่างแท้จริง...."


~Archangel Gabriel
Daily Message ~ Saturday January 16, 2016 | Trinity Esoterics

 

"สำหรับผู้ที่พร้อมแล้ว พวกคุณก็จะได้ร่วมงานกับมิติที่สูงกว่า
ในการนำพาโลกไปสู่แสงสว่าง"


(Credit the picture from internet)

ข้อความสื่อสารจากท่าน Hilarion ประจำวันที่ 24 – 31 มกราคม 2016

ที่รักทั้งหลาย ในขณะที่กระแสพลังงานกำลังหลั่งไหลลงมายังโลกอยู่เรื่อยๆเช่นนี้
ระบบปฏิบัติของความเป็นมนุษย์ของพวกคุณ จึงกำลังได้รับการดาว์โหลดข้อมูลข่าวสารลงมาเรื่อยๆอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งก็จะเป็นข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางชีวิตสายจิตวิญญาณของพวกคุณเองโดยเฉพาะ
ดังนั้น สายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงพวกคุณอยู่กับแก่นแท้อันศํกดิ์สิทธิ์ของตัวเอง จึงกำลังค่อยๆถูกสร้างขึ้นมาอยู่อย่างช้าๆ
ในสถานที่และในเวลาที่พวกคุณอาจจะไม่คาดคิดมาก่อน

แต่ถ้าพวกคุณรู้จักสังเกตและใส่ใจกับการสื่อสารนี้ให้มากขึ้นหละก็ การเชื่อมต่อของพวกคุณกับเหลี่ยมมุม
หรือตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวพวกคุณเองก็จะยิ่งมีความเข้มแข็งมากขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น
แต่ว่ามันก็จะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอยู่สักหน่อย เพราะฉะนั้นแล้ว จงรู้จักอดทนกับกระบวนการนี้
และที่พวกเราต้องมาบอกเรื่องนี้ให้พวกคุณรู้ ก็เพื่อที่พวกคุณจะได้รู้ ว่ามันกำลังมีกระบวนการนี้เกิดขึ้นอยู่
และเพื่อที่พวกคุณจะได้เริ่มสังเกตการณ์ดูมันต่อไป

สำหรับพวกคุณคนใดที่มีความพร้อมแล้ว เส้นทางข้างหน้ายังจะมีงานอีกมากมายให้พวกคุณได้ทำอยู่
ซึ่งพวกคุณจะได้รับการชี้นำทาง หรือถูกชักนำให้ได้ไปทำงานนั้นๆหรือทำกิจกรรมนั้นๆเอง
แต่ว่าพวกเราก็จะต้องอาศัยความร่วมมือหรือความช่วยเหลือจากพวกคุณด้วยนะ
เพราะว่างานที่ว่านี้จะเป็นงานที่พวกคุณจะต้องทำร่วมกับมิติที่สูงกว่าทั้งหลาย
เพื่อทำภารกิจใดภารกิจหนึ่ง อันจะนำพาเสถียรภาพมาสู่โลกใบนี้
และเพื่อช่วยให้โลกใบนี้สามารถรับเอาพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าจากเอกภพเข้ามาได้มากขึ้น

งานดังกล่าวนี้จะเกี่ยวข้องกับการนำเอาพลังงานของพวกคุณเองออกมาใช้
เพราะว่าตอนนี้พวกคุณได้ผ่านพ้นขั้นตอนการยกระดับพลังงานของตัวเองขึ้นมาได้แล้ว
ดังนั้น จากนี้ไปงานขั้นตอนต่อไปของพวกคุณก็คือการรักษาระดับพลังงานของตัวเองเอาไว้ให้ได้
แล้วก็นำมันมาใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งตามมุมมองของพวกเราแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก
ที่ได้เห็นพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเช่นนี้ของพวกคุณ และพวกเราก็ขอชมเชยพวกคุณทุกๆคนที่สามารถทำได้เช่นนี้!
พวกคุณทำได้ดีมาก!

โดยภาพรวมแล้วงานหลักของพวกคุณทุกๆคนบนเส้นทางชีวิตสายนี้
ก็คือ..การทำให้ตัวเองประจักษ์แจ้งถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่กว่าของตัวเองให้ได้
ในชีวิตประจำวันของพวกคุณเอง และเพราะเหตุนี้ บนเส้นทางชีวิตสายนี้
มันจึงจะมี “โอกาส” แห่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆมากมายโผล่เข้ามาในชีวิต
และในความตระหนักรู้ของพวกคุณอยู่เนืองๆ เพื่อที่จะให้พวกคุณได้ใช้พวกมันเพื่อก้าวพ้นออกมา
จาก comfort zone ของตัวเองเสียที และเพื่อก้าวออกมาจากสภาวะทีตัวเองคุ้นเคยและกำลังเป็นอยู่นั้นเสีย

แต่ว่าการก้าวออกมาจากสภาวะที่ตัวเองชื่นชอบและคุ้นเคยอยู่นั้น ก็อาจจะดูเหมือนว่า
เป็นเรื่องที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อยสำหรับพวกคุณ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่พวกคุณจำเป็นจะต้องทำ
เพราะว่าจักรวาลจะตอบสนองต่อผู้ที่ก้าวออกมา แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อไป
ในทิศทางที่ผู้นำทางจากภายในของพวกเขาชี้นำทางไปเท่านั้น
ดังนั้น ไม่ว่าพวกคุณจะมีความหวังหรือมีความฝันอะไรอยู่ในหัวใจก็ตาม
พวกคุณก็จำเป็นจะต้องเป็นผู้ที่เริ่มต้นลงมือทำมันก่อน เพื่อเนรมิตมันออกมา
และมันก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าพวกคุณมัวแต่มานั่งรอให้อะไรๆมันเกิดขึ้นเองอยู่!
พวกคุณจะต้องเป็นผู้ที่เริ่มต้นลงมือกระทำมันก่อนเท่านั้น!
เพราะว่า..นี่คือวิถีที่จะไปขับเคลื่อนให้พลังอำนาจ, และกุศลผลบุญ และปาฏิหาริย์ต่างๆ
สามารถทำงานของพวกมันเองได้บ้าง เพื่อนำไปสู่ผลสำเร็จอันนั้น!

ตอนนี้พวกคุณหลายคนกำลังเริ่มได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ “ภายใน”
ของคนรอบข้างของตัวเองบ้างแล้ว ซึ่งพวกเราอยากจะบอกว่าปรากฎการณ์นี้
มันจะค่อยๆขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเท่าทวีคูณเมื่อเวลาผ่านไป
และแม้แต่คนที่หัวดื้อมากที่สุดก็ยังจะเริ่มรู้จักคิดใคร่ครวญดูเอาเองแล้ว
และก็เริ่มที่จะรู้แล้วว่าตัวเองจะต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่เสียที เพื่อที่จะทำให้ชะตาชีวิตของตัวเองดีขึ้น
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ก็อาจจะเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆก่อน
เช่น เปลี่ยนอุปนิสัยการบริโภค เป็นต้น แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยๆคืบคลานไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ที่จะทำให้ร่างกาย, จิตใจและจิตวิญญาณของพวกเขาบริสุทธิ์มากขึ้นไปอีกในท้ายที่สุด

เพราะว่าตอนนี้ “ยุคปฎิรูปด้านความรัก” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้!
เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงกำลังส่งผลให้คนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ
เริ่มที่จะหันมามองหาวิธีการที่สูงส่งกว่า และสงบสุขมากกว่าในการแก้ไขปัญหาและใช้เป็นทางออกกันแล้ว
สำหรับทุกๆปัญหาที่กำลังคุกคามชีวิตของพวกเขาอยู่ในขณะนี้

และในกรณีเช่นนี้พวกคุณนี่แหละที่จะเป็นตัวอย่างอันเจิดจ้าให้แก่ทุกๆคนได้เห็นกันหละ
ว่าผู้ที่มีความสมดุลและเพียบพร้อมไปด้วยคุณงามความดีแท้ที่จริงนั้นเป็นเช่นไร
ซึ่งด้วยการเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักให้ทุกๆคนได้เห็นของพวกคุณนี้เอง
ก็จะทำให้คนอื่นๆฉุกคิดขึ้นมาได้ว่ามันยังมีวิธีการที่ดีกว่าอยู่อีก
แล้วพวกเขาก็จะพากันมองหาวิธีการเช่นนั้นเหมือนกัน เพื่อนำเอามาใช้บ้าง

นี่แหละคือผลลัพธ์ในแง่บวกของการมีปฏิสัมพันธ์กันในชีวิตประจำวันของพวกคุณหละ
และพวกเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆจนทำให้จิตสำนึกของมนุษย์โลกทุกๆคน
สามารถยกระดับขึ้นมาได้ในท้ายที่สุด และเนื่องจากว่าตอนนี้จิตสำนึกของชาวโลก
กำลังยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆอยู่ เพราะความที่มนุษย์โลกกำลังหันมา
ใช้ชีวิตอยู่บนความสูงส่งดีงามกว่านี้เอง จึงทำให้ดาวเคราะห์โลกทั้งดวง
กำลังมีแสงสว่างมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน

Until next week…

I AM Hilarion
……................................
ที่มา :http://www.therainbowscribe.com/hil...

 

A Pleiadian Message: Aligning to Truth & Knowledge


Image from internet

By Christine Day February 1, 2016
แปล : Ajita
ตอนที่ 1
การที่พวกเราได้มาอยู่ที่นี่ในเวลานี้ก็เพื่อเป็นพยาน
ในความหลากหลายทางเลือกที่ไม่จำกัดของการเลื่อนระดับ
ซึ่งจะได้เผยให้คุณได้เห็นในช่วงปีใหม่นี้
และในเดือนมกราคมนี้ พลังงานในระบบต่าง ๆทางกายภาพในร่างกายคุณ
ที่ได้เกิดความกระปรี้กระเปร่าจากการที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งมีการเปิดเส้นทางโชคชะตาที่มาในแบบฉบับโลกของคุณ
และเส้นทางแห่งโชคชะตาชุดนี้ก็ถูกจัดอย่างเต็มพิกัดด้วยพลังของแสงสว่าง
ที่ถูกกำหนดใหม่ให้กับพลังงานโลกของคุณ
ซึ่งนั่นก็จะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับสิ่งที่เป็นมิติได้
และพลังของแสงสว่างเหล่านี้
ก็ได้บรรจุความเข้าใจในสัจจะความจริงของสิ่งใหม่ๆที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้
และกระแสพลังงานที่เต็มไปด้วยประสิทธิ์ภาพ
ที่ได้ไหลผ่านเส้นทางกาลเวลาของโชคชะตาที่กำลังเริ่มต้นในปี 2016 เหล่านี้
ก็จะนำทางให้ผู้ที่มีความพร้อมที่จะเริ่มต้นเดินผ่านสิ่งที่บดบังความหลากมิตินี้ไว้ไปได้.....

นี่ก็เดือนกุมภาพันธ์แล้ว...
ซึ่งตอนนี้คุณก็ได้ขยับไปสู่มิติอื่นเพื่อตั้งค่าความสั่นสะเทือนของแสงสว่าง
เพื่อชุบชีวิตใหม่ให้ตัวคุณเองไปสู่ทิศทางอื่น ๆ
ที่ให้เป็นไปในแนวทางของสัจจะและองค์ความรู้ของคุณ

ส่วนอีกชุดที่จะเปิดใช้งานบนโลกของคุณคือ
พลังของแสงสว่างที่ถูกออกแบบมา
เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเปิดเผยออกมาในเวลานี้
และเข้าใจในงานที่คุณทำอยู่ตอนนี้
ทั้งยังสามารถทำให้คุณจดจำเรื่องราวต่าง ๆที่ยังคงค้างตกทอดมาอีกด้วย
ซึ่งเราได้เคยเรียกปีที่กำลังจะมาถึงว่า “ช่วงเวลาหนึ่ง “(moment in time)
เพื่อที่ได้จะอยู่เหนือโลกของมายาแห่งมิติที่ 3
ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาของความหลากมิติที่จะได้สัมผัสโดยตรง
กับการเกิดใหม่ของพวกคุณทุกคนที่มองหาเส้นทางเดินของคุณ

อิทธิพลของการเปลี่ยนแปลง
สืบเนื่องจากระบบทางกายภาพภายในร่างของคุณได้รับการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ปีใหม่แล้ว
และเซลล์ในร่างกายคุณก็ตอบรับกับพลังงานใหม่ของแสงสว่่าง
เพื่อที่จะทำให้คุณได้เคลื่อนไปสู่การขยายตัวกับประสบการณ์แห่งการตื่นรู้
และไปสู่จุดนัดพบใหม่ของตัวเอง....

ซึ่งเรา....ชาว Pleiadians, ที่ยังอยู่กับคุณที่นี่
ก็เพื่อให้ความช่วยเหลือในการปรับเปลี่ยนในระยะต่อไปของคุณ
และเมื่อใดที่คุณได้ผ่านออกไปกับทิศทางแห่งแสงสว่างที่ขยายตัวเหล่านี้
ประสบการณ์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในระยะต่อไปของคุณก็จะเผยออกมา
และเมื่อคุณได้ผ่านสิ่งที่เผยออกมานี้ คุณก็จะสามารถเปิดประตู
ไปสู่ประสบการณ์ตรงที่หลากหลายของตัวตนที่สูงกว่าของคุณ
ซึ่งนั่นจะเป็นการเริ่มต้นให้คุณได้ “รู้จักตัวคุณเอง” ในมุมมองของหลากมิติ

และการได้ผ่านประสบการณ์ตรงกับความหลากมิติของคุณ
คุณก็จะสามารถรับรู้และสัมผัสกับมุมมองที่ต่างออกไปด้วยตนเอง
ซึ่งนั่นก็จะทำให้คุณจดจำได้ว่า “คุณคือใคร” และในความเป็น “คุณ”ในทุกๆด้าน
เพื่อที่จะให้คุณได้เปิดและรับของขวัญจากธรรมชาติของจิตวิญญาณคุณเอง
และเพื่อเติมเต็มให้กับดวงชะตาของคุณให้เสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลานี้....

และนั่นก็จะทำให้ทุกเซลล์ในร่างของคุณเกิดการปรับเปลี่ยน
จากการทะลักเข้ามาของแสงสว่างเหล่านี้
และก็เพื่อที่จะนำกระบวนการที่เป็นระบบไฟฟ้า
ที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้เข้ามาแทนที่ภายในระบบของคุณ
ซึ่งระบบที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้ก็จะคอยสนับสนุน
ให้กับจุดกำเนิดของความตื่นรู้ในความหลากมิติของตัวตนที่สูงกว่าของคุณ
และการปรับโครงสร้างพลังงานในระบบไฟฟ้าของคุณนี้
ก็จะเกิดการส่งคลื่นความถี่ใหม่จากแสงสว่างของตัวคุณ
ไปเกาะตัวกับเซลล์กายเนื้อของคุณ
ซึ่งก็จะช่วยให้คุณได้เร่ิมเข้าถึงและตรึงอยู่กับความหลากมิติ
ในขอบเขตของตัวตนที่สูงกว่าในทุกแง่ทุกมุมของคุณ

ซึ่งการทะลักมาของกระแสไฟฟ้าและมิติเหล่านี้
ต่างก็เป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของคุณ
ทั้งยังเพื่อให้คุณได้เคลื่อนผ่านประตูไปสู่ความเป็นเอกลักษณ์
ที่จะทำให้คุณได้โลดแล่นไปกับบทบาทในการจัดการชีวิต
ซึ่งมันเหมือนกับแม่เหล็กที่มาขยายพื้นที่หัวใจของคุณในทุกแง่ทุกมุม
และการได้เปิดประตูผ่านเข้าไปในหัวใจของคุณ
ก็จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงการเชื่อมโยงของภายในจิตสำนึกมวลรวมของจักรวาล
และเมื่อคุณได้ตรึงอยู่กับสภาวะนี้
การขับเคลื่อนนาวาอันศักดิ์สิทธิ์ที่คุณเป็นผู้ออกแบบเองก็จะเริ่มต้นขึ้น
และนี่ก็คือกระบวนการอันศักดิ์สิทธิ์ของการหลอมรวมกับพระเจ้า
ที่คุณเป็นผู้ออกแบบเองเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียว
กับภายในความเป็นแก่นแท้ของความเป็นตัวคุณ
ซึ่งก็จะทำให้ทุกเซลล์ในกายของคุณ
เกิดการรวมตัวกับแสงสว่างที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้
และฝังรอยประทับกับความศักดิ์สิทธิ์ในตัวคุณ

......“ ซึ่งคุณก็คือผู้ที่รอคอยกับกระบวนการนี้”.....

 

A Pleiadian Message: Aligning to Truth & Knowledge
By Christine Day February 1, 2016
แปล : Ajita

ตอนที่ 2
การเปลี่ยนมุมมอง

เมื่อได้ผ่านแสงสว่างที่ทะลักเข้ามานี้
มันก็จะมีประตูมากมายของความหลากมิติที่จะให้คุณได้เข้าถึง
ซึ่งประตูเหล่านี้ต่างก็ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ
เพื่อจะนำคุณไปสู่ทางเลือกในการขยายตัว
กับประสบการณ์มากแบบที่จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นกับการรู้จักตนเอง
ในส่วนของมุมมองที่สูงกว่าของคุณ....
และจากการที่คุณได้เปลี่ยนมุมมอง
ก็จะทำให้คุณเริ่มสัมผัสได้กับตัวตนที่แท้จริงของคุณในแง่มุมของมิติอื่น ๆ
ซึ่งการเกิดขึ้นของกระบวนการเหล่านี้
ก็จะทำให้คุณได้เปลี่ยนทั้งบทบาท และความสัมพันธ์
อีกทั้งเวลาที่ยังคงเหลืออยู่ในสังคมของจักรวาลนี้ของคุณอีกด้วย
ซึ่งก็รู้อยู่นะ...ว่าการที่คุณต้องผ่านการปรับเปลี่ยน
กับบางประสบการณ์อย่างรวดเร็วในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้
ก็อาจจะทำให้ภายในกายของคุณรู้สึกโหลงเหลง
ในระหว่างที่ต้องเร่ิมต้นกับขั้นตอนต่างๆของกระบวนการที่ทยอยๆเผยออกมา
ซึ่งทำให้คุณต้องย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่คุณไม่คุ้นเคย
ซึ่งคุณก็รู้สึกว่ามันเป็นที่ที่ไม่มีอะไรที่จะจับต้องได้
และก็นึกอะไรไม่ออกกับขั้นตอนต่อไปเอาซะเลย.....

โลกแห่งมิติที่ 3 ของคุณเริ่มจะเปลี่ยนไปนะ
ทั้งความเป็นมายาที่อยู่ในโลกก็จะไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป
และขอให้รู้นะว่าเมื่อคุณเปลี่ยน.....ทุกสิ่งที่เป็นมายาก็จะห่างคุณออกไป
ดังนั้น....สิ่งที่คุณได้รับกับชีวิตการทำงานของคุณก็จะไม่เพียงพออีกต่อไป
และสิ่งสำคัญที่ต้องยอมรับคือ สิ่งต่าง ๆทั้งหลายที่“หมดสภาพ”ไปแล้วนี้
มันเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนในการเปลี่ยนผ่านที่แท้จริงของคุณ...
ซึ่งก็จะทำให้ตัณหามากมายหลุดลอกออกไปโดยง่ายโดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ใช่สัจจะ

สถานที่ที่เหมาะสม

เราต้องขอย้ำว่า “ทุกอย่างได้อยู่ในกำมือแล้ว” และ มันก็เป็นเช่นนั้น....
ตอนนี้คุณได้อยู่ในที่ที่เหมาะสมต่อการปรากฎขึ้นของขั้นตอนต่อไป
ซึ่งซีรีส์ที่มาจากประสบการณ์ที่คุณเป็นผู้สร้างสรรค์เองในขณะนี้
มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้เพื่อนำคุณไปสู่ขั้นตอนต่อไป
และอาจเป็นไปได้ที่ในความเป็นอัตตาของจิต(ego mind)ของคุณ
จะมีความสงสัยและมีคำถามมากมายเกิดขึ้น
ซึ่งคุณก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับความสงสัยและคำถามเหล่านั้นหรอกนะ
เพราะคุณจะต้องไปสู่ในที่ที่คุณต้องไป
เพื่อรอเวลาอันเหมาะสมที่ประตูของทางเลือกมากมายจะเปิดให้คุณ

แต่ในความเป็นอัตตาของจิตมันก็ยังคงมีความต้องการที่จะ “เข้าใจ” กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ดี
ทั้งที่มันก็ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เกินกว่าโลกแห่งมายาของมิติที่ 3
เพราะสิ่งที่มันจะเข้าใจได้ ก็จะตกอยู่แค่กระบวนการของความเป็นอัตตาของจิตในมิติที่ 3 เท่านั้น
อีกทั้งตัวตนของคุณเองก็มีความเพียรพยายามที่จะเข้าใจและต้องได้คำตอบ
คุณก็จะปิดสวิทการเชื่อมโยงของหัวใจของคุณ
และทำให้มันตกอยู่ในสภาวะของการแยกจากกัน
ซึ่งสภาวะของการแยกจากกันนี้
ก็จะทำให้คุณเคลื่อนออกจากการเลื่อนไหลของกระแสแห่งมิติของคุณ....
นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะขอให้คุณเป็นเพียงสักขีพยาน
กับคำถามที่มาจากความเป็นอัตตาของจิตเท่านั้น......
อย่าปล่อยให้ตัวคุณเอง (Self) เคลื่อนออกจากความสมดุล
และหลุดจากการไหลของกระแสแห่งมิติของแสงสว่างที่คุณเชื่อมโยงอยู่
ซึ่งมันก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเริ่มต้น
ที่คุณจะได้สัมผัสกับความแตกต่างกับค่าที่ถูกตั้งขึ้นใหม่
ของประสบการณ์ในมิติที่สูงกว่าของแสงสว่างของคุณด้วยตัวคุณเองในตอนนี้

ซึ่งภายในกระบวนการที่จะปรากฎขึ้นนี้
มันจะมีความตระหนักรู้ใหม่ที่ลุ่มลึกที่เกี่ยวกับคุณเอง
ที่เป็นแสงสว่างซึ่งคุณก็มีความพร้อมแล้วที่จะรับ
และนี่ก็เป็นช่วงเวลาของการเริ่มต้นในการชื่นชม
กับความหลากมิติในความเป็นตัวของคุณเองตลอดมา
ซึ่งความเข้าใจอย่างแท้จริงนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตื่นรู้
กับการท่ีคุณเริ่มต้นที่จะยอมรับตัวเองด้วยมุมมองที่สูงกว่าของธรรมชาติ
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในเวลานี้

 

A Pleiadian Message: Aligning to Truth & Knowledge
By Christine Day February 1, 2016
แปล : Ajita
ตอนที่ 3
ความตระหนักรู้
และจากประสบการณ์ของคุณที่เกี่ยวกับตัวคุณเองใน ณ.ขณะหนึ่งขณะใดนั้น
มันจะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาท
ที่คุณกำลังเล่นอยู่ภายในกลุ่มพลังงานของจักรวาลในตอนนี้
และเมื่อคุณได้ผ่านการเป็น”เจ้าของ” แสงสว่างที่เป็นคลื่นความถี่ของความเป็นพระเจ้าของคุณแล้ว
คุณก็จะสามารถเข้าสู่ประตูที่ในเวลานี้พร้อมแล้ว
ที่จะเปิดเผยพิมพ์เขียวที่คุณเป็นผู้ออกแบบ.....

และในขณะที่คุณกำลังจัดการอยู่กับพิมพ์เขียวของคุณนี้
คุณก็เริ่มที่จะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งผ่านเซลล์ที่คุณได้ฝังแสงสว่างเอาไว้
ซึ่งแสงสว่างที่คุณได้ฝังไว้ในเซลล์นั้น
ก็ได้บรรจุสัจจะของความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นส่วนของคุณเอาไว้
ซึ่ง”ความตระหนักรู้” นี้ ก็จะถูกส่งไปยังภายในจิตสำนึกโดยรวมของจักรวาลเพื่อรอคุณชั่วชีวิต....
และ“ความตระหนักรู้” นี้ ก็มีกุญแจสำหรับคุณผู้มีความพร้อมบริบูรณ์และคู่ควร
เพราะกุญแจเหล่านี้ก็ล้วนเป็นของเก่าของคุณทั้งนั้น.....

ความตระหนักรู้นี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง
เหมือนการเปลี่ยนฤดูเข้าสู่ใบไม้ผลิ
มันจะสร้างสรรค์ความเจริญเติบโตใหม่ให้กับตัวคุณที่มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่
ทั้งยังเป็นช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการเริ่มต้นใหม่
และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในตัวคุณเองที่มีความหนักแน่น
ซึ่งในตอนนี้คุณก็เริ่มที่จะเข้าถึงพื้นที่ภายในหัวใจของคุณเอง
เพื่อจัดการมันให้เกิดการสอดคล้องกับคลื่นความถี่ของจิตสำนึกของแสงสว่าง
ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวคุณเอง.....
และนี่ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้เข้าถึงและเข้าใจในความจริงทั้งหลาย
ที่จะทำให้คุณสามารถเคลื่อนไปข้างหน้ากับมุมมองใหม่
ที่อยู่ภายในความหลากมิติของโลกอย่างเต็มรูปแบบ

และในขณะที่คุณเริ่มเข้าสู่ความตื่นรู้ใหม่ของตัวคุณเองนี้
การปรับเปลี่ยนของทุกๆประสบการณ์ชีวิต
ที่จักรวาลพร้อมให้การสนับสนุนแก่คุณในทุกๆขณะก็จะก้องกังวานขึ้น
โดยจักรวาลจะมอบความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของมุมมองใหม่ที่มีอยู่ในตัวคุณ
และอยู่ภายในกรอบของความหลากมิติ
ที่สามารถทำให้คุณเคลื่อนตัวได้อย่างมีอิสรภาพมากยิ่งขึ้น
และภาพที่สะท้อนออกมานี้
ก็จะทำให้คุณได้เริ่มต้นเดินหน้ากับชีวิตที่แตกต่างออกไป
ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของการเดินออกห่างจากบทละครของมิติที่ 3
เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายด้วยกับความรู้สึกที่ชัดเจนยิ่งขึ้น.....

ซึ่งสิ่งที่เผยออกมาจากการทะลักมาในรูปแบบของพลังงาน
ก็จะนำมาซึ่งความปรารถนาและความสมบูรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ
ผ่านองค์ประกอบต่าง ๆของสิ่งที่เผยออกมา
ซึ่งก็มาจากการรวมตัวของความศักดิ์สิทธิ์ของคุณเอง....
และกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงที่สมบูรณ์ของหัวใจของคุณนี้
ก็จะนำทางคุณไปสู่สภาวะต่างๆที่จะแสดงออกซึ่งความบริสุทธิ์ของจักรวาล
และวงจรภายในหัวใจก็จะได้รับการสร้างสรรค์อย่างลุ่มลึก
ซึ่งการแสดงออกด้วยรูปแบบของความเป็นเอกลักษณ์ที่บริสุทธิ์ของคุณเองเหล่านี้
ก็เป็นการแสดงออกของพระเจ้าด้วยในเวลาเดียวกัน....

และรายละเอียดของบทบาทบนโลกที่คุณจะได้เล่นในช่วงเวลาของเปลี่ยนแปลง
ที่จะไหลมาพร้อมกับความศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็จะได้รับการเปิดเผย
และนั่นก็จะทำให้คุณได้พบว่า...
คุณจะได้อยู่ห่าง ๆ จากสิ่งที่มันคอยครอบงำที่อยู่ภายในเซลล์ต่าง ๆ ที่ฝังอยู่ในหัวใจคุณ....และ
....“ คุณสามารถเดินไปข้างหน้ากับแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยความมั่นใจ”....


การค้นหาที่อยู่ของคุณ
เราได้บอกให้คุณคุณแต่ละคนให้เริ่มต้นค้นหาที่อยู่
ที่คุณสามารถที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นบนโลกของคุณ
ซึ่งจะเป็นรูปแบบเฉพาะที่เรียกว่า “ กลุ่มพลังงานสัญจร” (energetic group pathway)
และการรวมตัวของผู้คนกลุ่มเหล่านี้
ก็จะเป็นการออกแบบโชคชะตาที่สำคัญของโลกใบนี้ในช่วงเวลานี้
ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีคลื่นความถี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง
และคุณคุณทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งของ “กลุ่มสัญจร” นี้ด้วย.....

สิ่งที่คุณต้องการในตอนนี้คือพลังงานของกลุ่ม
เพื่อนำความสำเร็จอย่างสมบูรณ์มาสู่ภารกิจที่คุณได้ตกลงไว้ก่อนหน้านี้
และกับการเปิดเผยตัวคุณเอง....
ซึ่งขณะนี้....กับความเป็นส่วนตัวที่คุณได้ประทับไว้
มันก็เริ่มส่งผลกระทบต่อผู้อื่นที่อยู่ในกลุ่ม “พลังงานสัญจร” นี้
และการอยู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันในลักษณะกลุ่มนี้
คุณก็จะสามารถสร้างรูปแบบของการทำงานร่วมกัน
ผ่านความเป็นส่วนตัวทั้งหลายที่คุณได้กำหนดไว้ด้วย....

"พวกเราเปรียบเสมือนจิกซอร์ที่เป็นชิ้นที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบที่สุด "

ซึ่งสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มของคุณ
ต่างก็ล้วนมีความเป็นปัจเจกและมีเอกลักษณ์เฉพาะตน
ในพลังงานที่พวกเขาได้กำหนดไว้เช่นกัน

และการอยู่ร่วมกันด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของการทำงานร่วมกัน
โดยผ่านการรวมตัวในความศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ
ก็จะทำให้แสงสว่างทะลุผ่านทุกๆคนที่อยู่ภายในกลุ่ม
ซึ่งกลุ่มของคุณก็กำลังเล่นบทบาทสำคัญอยู่
ในขณะที่คุณเปิดใช้งานกับจิตสำนึกของพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์นี้
ซึ่งนั่นก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อจักรวาลและโลกของคุณ......

The Pleiadians.
A Pleiadian Message: Aligning to Truth & Knowledge

 

เครื่องคอมพิวเตอร์ของผมเสีย เอาไปซ่อมซะหลายวัน ช่วงที่เอาไปซ่อมก็ต้องไปขอยืมเครื่องบ้านคนที่รู้จักใช้ เพื่อมาแปลข้อความ ก็เลยได้แต่แปลแล้วก็โพสลงบล๊อกอย่างเดียว วันนี้เครื่องซ่อมเสร็จแล้วครับ มีหลายบทความที่ไม่ได้มาบอก อ่านเยอะหน่อยนะครับ


ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - January 16-17, 2016 : "Five in a Circle" and "The Basics of Belief"

ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - Jan 23-24, 2016 : "Quantum Patterns" and "Assumptions"

ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat - Feb 6, 2016 : "Assumptions 2"

ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - Feb 13-14, 2016 : "Love" and "Letting Go"

 

ผู้หญิงน่าจะชอบการสื่อความครั้งนี้นะ

ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat - Feb 20, 2016 : "Hearing the Voice of Spirit"