เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    สมเด็จองค์ปฐม รุ่น๕ เนื้อชุบทอง
     
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326



    ตอนนี้ที่วัดยังมีเนื้อชุบทอง กับงานแพรนด้าฯอยู่ ถึงรุ่นนี้จะสร้างไว้เยอะแต่ลูกหลานหลวงพ่อก็มาก เชื่อว่าหลายๆท่านเก็บกันไว้คนละ๕องค์ ๑๐องค์ บางคนก็ว่าเป็นร้อย ด้วยรูปแบบที่งดงามเหมาะเป็นของฝากของขวัญให้กับญาติสนิทมิตรสหายคนที่เรารัก เชื่อว่าหากหมดไปแล้วคงอีกนานที่ทางวัดจะจัดสร้างขึ้นมาอีกครับ
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc%202014/DSC_0127.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc%202014/DSC_0127.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0127.jpg"/></a>

    รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากหน้าลิงค์ด้านล่างนะครับ


    http://palungjit.org/threads/ชีวิตและงานท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล.542827/
     
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2016
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc%202014/DSC_0059-3.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc%202014/DSC_0059-3.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0059-3.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc%202014/DSC_0056-2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc%202014/DSC_0056-2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0056-2.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc%202014/DSC_0047-2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc%202014/DSC_0047-2.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0047-2.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc%202014/DSC_0129.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc%202014/DSC_0129.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0129.jpg"/></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2016
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/1-11.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/1-11.jpg" border="0" alt=" photo 1-11.jpg"/></a>

    พระผงพิมพ์สมเด็จองค์ปฐม และพระเนื้อว่าน 108 พิมพ์หลวงพ่อรุ่นนี้คาดว่าจะนำมาแจกแก่ผู้ทำบุญในงานใหญ่ 2 งานในเดือนกรกฏาคมที่จะถึงนี้ครับ


    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0027_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0027_1.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0027_1.jpg"/></a>

    (จากธัมมวิโมกข์เดือนเมษายน 2558 หน้า 135)
     
  8. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/DSC00228.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/DSC00228.jpg" border="0" alt=" photo DSC00228.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0056_13.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0056_13.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0056_13.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0060_4.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0060_4.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0060_4.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0067_3.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0067_3.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0067_3.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0070_9.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0070_9.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0070_9.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0074_7.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0074_7.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0074_7.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0079_5.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0079_5.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0079_5.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0009_6.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0009_6.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0009_6.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0026_8.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0026_8.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0026_8.jpg"/></a>

    (จากหนังสือ ส.ค.ส. จุฬามณี ของป้านิภา คงสุข หน้า 35 - 42)
     
  9. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    บันทึกบูชาพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    วีรวรรณ มูลต้น


    การบันทึกที่ส่งมา กราบถวายบูชาพระคุณขององค์หลวงพ่อในครั้งนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้ประสบมาในสิ่งที่ปรากฏที่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เมตตาต่อข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้จดจำและนำมาปฏิบัติ และได้เกิดผลดีต่อข้าพเจ้าและบุคคลที่เกี่ยวเนื่องมากมายหาประมาณมิได้เลย พระคุณนี้ข้าพเจ้าไม่มีวันลืม

    บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ แม้จะมีเพียงน้อยนิด “ลูกก็ขอน้อมอุทิศถวายแด่องค์หลวงพ่อ และท่านแม่ของลูก ขอองค์หลวงพ่อและท่านแม่ได้โปรดเมตตารับการบูชาจากลูกและได้โปรดโมทนาด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

    “กราบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่เคารพรักบูชาอย่างสูงยิ่งและสูงสุดในดวงใจของลูก...แหม่มปลาร้า”


    ๑. “พบหลวงพ่อในฝันเมื่อครั้งยังเป็นเด็กเล็กๆ”

    หลวงพ่อผู้เปรียบประดุจยิ่งกว่าชีวิตและจิตใจ ของข้าพเจ้า ตั้งแต่จำความได้ คุณแม่ของข้าพเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าพูดได้ตั้งแต่อายุ ๙ เดือน แต่ก่อนที่ข้าพเจ้าจะเกิดมา ท่านฝันว่ามีหลวงพ่อ (ท่านเรียกหลวงพ่อใหญ่) จูงเด็กผู้หญิงใส่ชุดกระโปรงแดง อีกมือหนึ่งกั้นร่มสีดำจูงมาที่บ้าน ท่านจึงรีบไปรับเด็กผู้หญิงและส่งขึ้นบ้านไว้ แล้วหลวงพ่อก็หายไป

    พอข้าพเจ้าจำความได้อายุประมาณ ๓ – ๔ ขวบ ข้าพเจ้าได้ฝันว่า มี หลวงพ่อมากับโยมผู้ชาย ซึ่งโยมผู้ชายได้สะพายย่ามและกั้นร่มสีดำให้หลวงพ่อ พอมาถึงหลวงพ่อก็จะสอนข้าพเจ้าเป็นประจำว่า “ให้ลูกเป็นคนดี ให้ขยัน ให้อดทน ให้มีศีล สมาธิ และปัญญานะลูกนะ” ท่านมาบ่อยๆ เป็นประจำเกือบทุกคืน

    บางครั้งยังไม่หลับสนิท เพียงหลับตาก็จะเห็น ถ้าวันไหนเกิดความทุกข์ใจเสียใจ จากการที่คุณแม่บ่นหรือดุ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด หลวงพ่อท่านก็จะปลอบใจว่า “ลูกอย่าเสียใจนะ ถ้าลูกทำดีใครเขาจะว่าอย่างไรก็อย่าไปสนใจ พ่อเห็น ให้ลูกทำดี ถ้าเราทำไม่ดีถึงเขาชมมันก็ไม่ดีตามคำที่เขาพูดนะลุกนะ”

    แล้วข้าพเจ้าก็จะก้มลงกราบรับคำ แต่ก็ยังไม่ทราบว่า ศีล สมาธิ ปัญญา คืออะไร ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้จนอยู่มาวันหนึ่ง ข้าพเจ้าตามไปขอเงินคุณยายซื้อขนม พอดีท่านกำลังฟังเทศน์ ในงานทำบุญอุทิศส่วนกุสลแด่ผู้ตายข้างบ้าน ซึ่งท่านก็ไม่มีเงินให้ข้าพเจ้า ขณะนั้นมีพระมาเทศน์เรื่องพระเวสสันดร

    ข้าพเจ้าจึงเข้าไปนอนในตักคุณยาย แล้วเอาผ้าถุงท่านพันตัวข้าพเจ้าไว้ เพราะเด็กเล็กในชนบทสมัยก่อนไม่ค่อยมีเสื้อผ้าใส่ ข้าพเจ้านอนฟังเทศน์ในตักคุณยาย

    พอเทศน์จบก็ถามคุณยายว่า “พระพุทธเจ้าอยู่ที่ใดในตอนนี้ เพราะชาติก่อนเป็นพระพุทธเจ้านั้นเป็นพระเวสสันดร”
    คุณยายตอบว่า “ท่านเหาะไปอยู่ในพระนิพพานแล้ว มีแต่ความสวยงามไม่มาเกิดอีกแล้ว”

    ข้าพเจ้าเกิดความอยากขึ้นมาทันที คืออยากไปอยู่พระนิพพานมาก เพราะท่านบอกว่ามีแต่สวยงามและไม่เกิดอีก ข้าพเจ้าเก็บความอยากไว้ทุกวัน และกำหนดใจรู้ลมหายใจเข้าออกไว้เป็นประจำเพราะกลัวตาย คุณยายบอกว่า “ถ้าใจขาดจะตาย” และกลายเป็นสมาธิโดยไม่ทราบว่าเป็นสมาธิ

    แล้วต่อมาก็ถามว่า มีใครเก่งและเหาะได้บ้างในปัจจุบันนี้ คุณยายตอบว่ามีแต่พระอรหันต์เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ท่านก็อยู่ในป่า ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานในใจว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้พบพระอรหันต์ด้วยเถิด และจะขอไม่เกิดอีก ขอไปอยู่กับพระพุทธเจ้าตั้งแต่บัดนั้น”

    พอข้าพเจ้าเข้าเรียน ป.๑ (๒๕๐๙) อ่านหนังสือได้บ้าง ข้าพเจ้าได้ไปค้นหนังสือประวัติพระพุทธเจ้ามาอ่านจึงพอสรุปใจความได้ และได้อธิษฐานขอให้ท่านมาช่วยพาเหาะไปอยู่พระนิพพาน และขอให้ได้ทำบุญกับพระอรหันต์ตลอดชีวิต

    ๒. พบหลวงพ่อจริงๆ เมื่อปี ๒๕๑๘

    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ ข้าพเจ้าเรียนชั้น ม.ศ.๓ ที่โรงเรียนนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้พักอยู่กับคุณน้าธีรชาติ คุณน้าอัมภา (อาจารย์ธีรชาติ อาจารย์อัมภา วังดง) ที่บ้านพักครู มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้าได้ค้นหนังสือจากชั้นหนังสือมาอ่าน หนังสือเล่มนั้นชื่อ “ประวัติหลวงพ่อปาน” ซึ่งคุณพี่พรนุช คืนคงดี (พี่ตี้) มอบให้คุณน้าทั้งสองในวันแต่งงาน

    พอข้าพเจ้าได้อ่าน ข้าพเจ้าก็ไม่อยากวางหนังสือ และจะร้องไห้ตลอดขณะอ่านหนังสือ ข้าพเจ้าดีใจและปลื้มใจมาก ไม่มีอะไรเปรียบ รู้แต่เพียงว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาสูงสุดในชีวิตเริ่มขึ้นแล้ว เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยตั้งใจอยากเรียนให้ถึงปริญญาเอก แต่พอได้อ่านหนังสือ “ประวัติหลวงพ่อปาน” แล้ว ความอยากในโลกมนุษย์ลดลงมากเลย

    มีแต่หลวงพ่อฤาษีอยู่ในหัวใจปลายปี ๒๕๑๘ ช่วงปิดเทอม ข้าพเจ้าจึงได้ไปพบหลวงพ่อเป็นครั้งแรก คือเห็นท่านเดินมาจากทางฝั่งแม่น้ำสะแกกรังมายังหน้าโบสถ์ (โบสถ์ยังสร้างไม่เสร็จ) และมีโยมผู้ชายกั้นร่มสีดำให้พร้อมกับสะพายย่ามให้ท่าน เหมือนภาพที่ข้าพเจ้าเห็นในฝัน เมื่อครั้งยังเป็นเด็กๆ ข้าพเจ้าดีใจเป็นที่สุด บรรยายไม่ได้ ตื้นตันน้ำตาไหลเป็นประจำ ต่อจากนั้นใจจะผ่องใส

    เมื่อเย็นวันหนึ่งขณะพักอยู่วัด คุณพี่ตี้ (อ.พรนุช) ได้พาข้าพเจ้าเข้าไปกราบหลวงพ่อที่ศาลานวราชบพิตร (ตึกรับแขกเก่า)

    ท่านกราบเรียนหลวงพ่อว่า ข้าพเจ้ามาจากมหาสารคาม ชื่อบานเย็น ชื่อเล่นชื่อแหม่ม

    พอหลวงพ่อฟังคุณพี่ตี้จบ ท่านก็พูดว่า “พ่อจะเรียกว่าบานเช้าดีกว่า พ่อจะได้ดูนานๆ”

    และเปลี่ยนชื่อเล่นให้อีก ท่านเรียกว่า “แหม่มปลาร้า แหม่มปลาเจ้า” แต่ปัจจุบันมีเหตุบังเอิญ ข้าพเจ้าจึงเปลี่ยนชื่อจริงเป็นชื่อ “วีรวรรณ” ตั้งแต่วันนั้นมาหลวงพ่อท่านจะเรียกข้าพเจ้าว่า “แหม่มปลาร้า” และชอบหยอกข้าพเจ้าเป็นประจำ แล้วท่านก็จะหัวเราะเป็นปกติ

    จนปี ๒๕๒๙ ข้าพเจ้าฝันว่า ได้พบหลวงพ่อเหมือนอยู่ในพระราชวังแห่งหนึ่ง และเห็นหลวงพ่อเป็นกษัตริย์ ข้าพเจ้าได้นอนอยู่บนตักท่าน ท่านเอามือลูบศีรษะข้าพเจ้า แล้วท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “ต่อไปพ่อจะไม่ตีไม่หยอกลูกแรงๆ อีกแล้วนะ ลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” และต่อจากนั้นมาหลวงพ่อจะเรียกข้าพเจ้าว่า “ลูก หรือ แหม่ม” และไม่มีสร้อยต่ออีก

    หลังจากที่คุณพี่ตี้รายงานตัวข้าพเจ้าต่อหลวงพ่อแล้ว หลวงพ่อท่านก็สอนข้าพเจ้าเหมือนกับข้าพเจ้าฝันเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก คือ สอนให้ “รักษาศีล ๕ ฝึกสมาธิ และจะมีปัญญาเกิด” และบอกว่า “ให้ลูกเป็นคนดี ให้ขยัน ให้อดทน จะทำอะไรก็ตามก็ให้ปรารถนาพระนิพพานในชาตินี้ตลอด”

    <dd>บอกว่า “ชีวิตคนเรามันลำบาก อยู่ช่างมันตายช่างมันนะลูก ตายเมื่อไรขอไปพระนิพพานแห่งเดียว” พร้อมกับบอกให้มีพรหมวิหาร ๔ ประจำใจ
    </dd><dd>ข้าพเจ้าดีใจมาก เพราะท่านสอนข้าพเจ้าครั้งแรกเหมือนกับที่ท่านสอนข้าพเจ้าในฝันมาตั้งแต่ เป็นเด็กเล็กๆ และเป็นฝันที่เป็นจริงทุกอย่าง เพราะไม่นึกว่าท่านจะมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่วันนั้นมาข้าพเจ้าก็ตั้งใจรักษาศีลห้าตลอดชีวิต และทำตามที่หลวงพ่อสอนด้วยใจรัก และตั้งใจปฏิบัติ

    </dd><dd>๓. ทำปลาร้าถวายบองหลวงพ่อ

    </dd><dd>เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ ข้าพเจ้าได้ช่วยงานศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารกับหลวงพ่อ พอถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ท่านจะให้รถจากวัดไปรับลูกศิษย์ที่บ้านซอยสายลม กรุงเทพฯ (บ้านพล อ.ท. ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์) ข้าพเจ้าจะไปเป็นประจำ เช่นท่านให้ไปเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า ผ้าห่ม ยารักษาโรค เพื่อออกไปแจกตามที่กันดารต่างๆ

    </dd><dd>ซึ่งเมื่อไปถึงท่านก็จะสอนธรรมะก่อน แล้วต่อมาก็จะให้แพทย์อาสาประจำศูนย์ตรวจโรคให้ชาวบ้านด้วย แล้วก็ไปรับของแจก และได้ทำบุญกับท่านอีก ส่วนเงินที่ได้จากการทำบุญที่ไหนก็ตาม หลวงพ่อท่านก็เมตตามอบเงินคืนให้เจ้าของสถานที่แห่งนั้นเสมอทุกครั้ง ยกเว้นว่าเจ้าของสถานที่จะจำเพาะเจาะจงในการทำบุญบางอย่างเท่านั้น

    </dd><dd>พอทำงานเสร็จตอนเย็น ลูกๆ ก็จะไปเฝ้ากราบหลวงพ่อ ครั้งหนึ่งหลวงพ่อท่านเรียกข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ๆ ท่าน
    </dd><dd>แล้วถามข้าพเจ้าว่า “แหม่มรู้จักบองไหมลูก”
    </dd><dd>ข้าพเจ้าจึงกราบเรียนท่านว่า “ปลาร้าบองหรือเปล่าเจ้าคะ”

    </dd><dd>ท่านตอบว่า “ใช่ๆ... มีคนแถวบ้านเอ็งเขาเอามาถวาย” แล้วท่านก็เมตตาอธิบายต่อไปว่า ปลาร้ามีประโยชน์มากมาย เมื่อทำสุกแล้วท่านก็จะอธิบายยาวๆ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับแพทย์เคยทำการวิจัยด้วย เพื่อรักษาโรคต่างๆ และท่านมักจะเล่าให้คนที่มากราบท่านฟังบ่อยๆ ในช่วงนั้น

    </dd><dd>ต่อจากนั้นคุณพี่ตี้ (อ.พรนุช คืนคงดี) ก็บอกให้ข้าพเจ้าทำปลาร้าบองมากราบถวายหลวงพ่อเป็นประจำ โดยมีคุณแม่ของพี่ตี้เป็นผู้ช่วยกันทำ คือคุณยายทองดี คืนคงดี เวลาทำปลาร้าบองถวายหลวงพ่อ ข้าพเจ้าก็จะอธิษฐานขอบารมีท่านย่ากับท่านแม่ศรีมาช่วยทำทุกครั้ง เพราะคุณพี่ตี้บอกว่า ท่านย่ากับท่านแม่เป็นผู้ดูแลการฉันอาหารของหลวงพ่อ เพราะท่านป่วยเป็นหลายโรค

    </dd><dd>พอต้นปี ๒๕๒๕ คุณพี่ตี้บอกว่าตอนนี้ให้งดทำปลาร้าบอง เพราะท่านย่ากับท่านแม่สั่งอาหารอย่างอื่นถวาย ซึ่งการได้ทำปลาร้าบองถวายครั้งนี้ ข้าพเจ้าดีใจมากที่สุด เพราะชาตินี้เกิดเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางคนเขาดูถูกว่าเป็นลาวกินปลาร้า พอหลวงพ่อฉันปลาร้าจึงทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจ และไม่สนใจใครเขาจะว่าอะไรอีก เพราะชาตินี้ข้าพเจ้ารักและบูชาองค์หลวงพ่อเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด

    </dd><dd>๔. ขอเงินค่าเทอมจากท่านแม่ศรี

    </dd><dd>เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ ข้าพเจ้าเรียนอยู่ที่ มศว.พลศึกษากรุงเทพมหานคร วิชาเอกสุขศึกษาสาธารณสุข วิชาโทพลศึกษา ในช่วงปิดเทอมข้าพเจ้าก็ไปช่วยงานที่วัดท่าซุง และทำบุญต่อเลย ข้าพเจ้าจึงไม่ได้กลับบ้านไปเอาเงินค่าเทอมจากคุณพ่อคุณแม่ที่มหาสารคาม เพราะคุณพ่อไม่ยอมส่งเงินทางธนาณัติสักที ท่านบอกว่าส่งไม่เป็น ข้าพเจ้าจึงต้องกลับบ้านไปรับเงินจากท่านทุกครั้งตั้งแต่เรียนมา

    </dd><dd>แต่ครั้งนี้งานที่วัดเสร็จ ก็จะเปิดภาคเรียนพอดี ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจทำสมาธิแบบหลวงพ่อสอน (มโนมยิทธิ) แล้วขึ้นไปกราบขอเงินจากท่านแม่ในตอนกลางคืนก่อนนอน พอตอนเช้าข้าพเจ้าก็ช่วยงานที่วัดตามเดิม พอสายๆ ประมาณ ๒ โมงเช้า (๘ นาฬิกา) คุณพี่ฉวีวรรณ สรรพกิจ ได้เรียกให้ข้าพเจ้าเข้าไปพบที่ห้องพัก

    </dd><dd>แล้วถามข้าพเจ้าว่า “แหม่มขอเงินจากท่านแม่หรือ” ข้าพเจ้าตอบว่า “ใช่ค่ะ เพราะแหม่มไม่ได้กลับบ้านที่มหาสารคาม และใกล้เปิดภาคเรียนแหม่มจึงขอเงินจากท่านแม่ค่ะ” และเล่ารายละเอียดอื่นๆให้ท่านฟัง เสร็จแล้วคุณพี่ฉวีวรรณ สรรพกิจ ท่านก็ส่งเงินให้แหม่ม ๒,๐๐๐ บาท แต่ข้าพเจ้าก็ส่งคืนให้ท่าน ๑,๕๐๐ บาท ข้าพเจ้ารับเงินจากท่านเพียง ๕๐๐ บาท เพราะข้าพเจ้ายังพอมีเงินเก็บไว้ส่วนตัวบ้าง

    </dd><dd>คือเป็นเงินที่ได้จากรับทุนการศึกษาต่างๆ มาเรื่อย ตั้งแต่เรียนชั้น ป.๕ จนถึงมหาวิทยาลัย เช่น ทุนกระทรวงศึกษาธิการ, ทุนธนาคารกรุงเทพฯ และทุนของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ได้อาศัยบารมีของสมเด็จฯ และองค์หลวงพ่อมาตลอด จึงทำให้เรียนดี และได้อันดับที่ ๑ เป็นส่วนมาก พระคุณของหลวงพ่อจึงฝังในใจข้าพเจ้าแทบทุกเรื่องตั้งแต่จำความได้


    </dd><dd>๕. หลวงพ่อช่วยให้กระโดดไกล

    </dd><dd>เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ ข้าพเจ้าเรียนวิชาโทพลศึกษา และได้เรียนวิชากรีฑากระโดดไกลที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรมพลศึกษา อาจารย์แผน เจียระไน เป็นผู้สอน ข้าพเจ้าตัวเล็กกว่าเพื่อนๆ ถ้านับจากปลายแถวในกลุ่มที่เรียนก็จะอยู่ในอันดับที่ ๔ – ๕ ในจำนวนนักศึกษาหญิง ซึ่งผู้ที่เรียนกับข้าพเจ้านั้น มีนักกีฬาทีมชาติด้วย ตัวสูงกว่าข้าพเจ้ามาก

    </dd><dd>พอเรียนจบทฤษฎี อาจารย์ก็ให้สอบปฏิบัติเก็บคะแนนเลย ข้าพเจ้าก็จะท่องพุทโธ และทำสมาธิเป็นประจำ เพราะหลวงพ่อสอนให้ทำได้ทุกอิริยาบถ จึงทำให้ข้าพเจ้ากระโดดได้ไกลกว่าเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันทั้งหมด เพื่อนจึงฟ้องอาจารย์ว่าข้าพเจ้าเป็นลูกหลวงพ่อใช้วิชาตัวเบา

    </dd><dd>ข้าพเจ้าจึงถูกอาจารย์เรียกเข้าพบ และถามว่าจริงหรือที่เพื่อนพูด ข้าพเจ้าตอบท่านว่า เวลากระโดดท่องพุทโธๆ ไม่ได้เรียนวิชาตัวเบาค่ะ อาจารย์ให้ข้าพเจ้ากระโดดใหม่ ก็กระโดดได้ไกลกว่าเพื่อนเหมือนเดิม ซึ่งข้าพเจ้าได้นำเอาสิ่งที่หลวงพ่อสอน มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการทำงานเกือบทุกอย่าง เพราะในใจมีองค์หลวงพ่อกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกเวลา จึงทำให้อุ่นใจและปลอดภัย ใจเบาสบายดี

    </dd><dd>๖. หลวงพ่อช่วยสะเดาะกุญแจ

    </dd><dd>และในช่วงปี ๒๕๒๔ เพื่อนของข้าพเจ้าชื่อกาญจนา มิ่งวงศ์ ได้ทำลูกกุญแจตู้เหล็กล็อคเกอร์ของ มศว.พลศึกษาหาย และได้เกณฑ์ให้เพื่อนผู้ชายผู้หญิงที่มีความชำนาญในการไขกุญแจมาช่วยเปิด ช่วยงัด แต่ก็เปิดไม่ได้ ถ้าจะให้นักการภารโรงมาตัดก็กลัวว่าจะทำให้ล็อคเกอร์ของ มศว. พัง และจะต้องถูกปรับและเสียงเงินค่าประกันมาก เพราะผิดระเบียบของ มศว.

    </dd><dd>เพื่อนของข้าพเจ้านั่งน้ำตาไหล จึงทำให้ข้าพเจ้าสงสารเพื่อนมาก และเพื่อนผู้หญิงอีก ๔ – ๕ คน ก็พากันนั่งเงียบไม่พูดจา ตัวข้าพเจ้าเองก็ได้คิดถึงองค์หลวงพ่ออีกตามเคย และคิดได้อีกว่า สมัยที่หลวงพ่อเกิดเป็นขุนแผนนั้นเก่งมาก สะเดาะกลอนประตูได้ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจทำสมาธิ ขอบารมีของสมเด็จฯ พระธรรม พระอริยสงฆ์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อเป็นที่สุดด้วยว่า

    </dd><dd>“ด้วยข้าพเจ้าได้เคยเกิดเป็นลูกหลานขุนแผน ขอบารมีองค์หลวงพ่อที่เคยเป็นขุนแผนนั้นได้โปรดเมตตามาช่วยลูก เปิดกุญแจให้เพื่อนของลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุ” จากนั้นข้าพเจ้าก็ลุกขึ้นไปจับที่ตัวกุญแจ ยังไม่ได้ทำอะไรตัวแม่กุญแจก็กระเด็นออกมาทันที ทำให้ข้าพเจ้าดีใจมากที่ช่วยเพื่อนได้

    </dd><dd>ข้าพเจ้ารีบกราบเท้าขอบพระคุณทุกองค์ทุกท่านที่มาช่วยและกราบขอขมา ท่าน เผื่อมีสิ่งใดที่ลูกทำไม่ถูกต้อง แล้วเพื่อนๆ ก็รีบวิ่งเข้ามากอดข้าพเจ้าทันทีด้วยความดีใจ และถามว่าทำอย่างไร ข้าพเจ้าก็ตอบตามความจริง เพื่อนๆ พากันน้ำตาไหลและเชื่อองค์หลวงพ่อบ้าง ส่วนข้าพเจ้าได้เชื่อมาตั้งแต่เกิดจำความได้ เพราะท่านช่วยข้าพเจ้าแทบทุกอย่างเมื่อข้าพเจ้าขอ จึงรักท่านสุดหัวใจ

    </dd><dd>๗. นอนไหว้พระในใจแล้วขึ้นไปพระนิพพาน

    </dd><dd>ในช่วงฤดูฝนปี ๒๕๒๔ ข้าพเจ้าได้ไปพักอยู่กับคุณป้า หลังวังสระประทุม คุณป้าเป็นคนจีนชอบพูดเสียงดัง เวลาข้าพเจ้าสวดมนต์ก็จะพูดว่า สวดอะไรนานจัง ข้าพเจ้าเกรงใจท่าน จึงนอนสวดมนต์ทุกวัน และนอนทำสมาธิ ขึ้นไปพระนิพพานตามที่หลวงพ่อสอน แต่ใจหนึ่งก็กลัวจะเป็นบาปเพราะดูไม่สมควร ไม่เหมาะ

    </dd><dd>ได้แต่คิด และตั้งใจจะไปกราบเรียนถามหลวงพ่อให้ได้ พอดีกับท่านมากรุงเทพฯ สอนกรรมฐานที่บ้านสายลม ข้าพเจ้าได้ไปกราบหลวงพ่อ แต่ยังไม่ทันได้เข้าไป
    </dd><dd>หลวงพ่อท่านก็เรียกหาว่า “ไอ้แหม่มปลาร้ามาหรือเปล่าหว่า”
    </dd><dd>ข้าพเจ้าได้ยินก็รีบขอทางเข้าไปกราบท่านใกล้ๆ แล้วท่านพูดว่า “แหม่มไปหาพ่อที่พระนิพพานทุกๆ วันนะลูกนะ”

    </dd><dd>ข้าพเจ้าประนมมือตอบท่านว่า “เจ้าค่ะ”
    </dd><dd>แล้วข้าพเจ้าก็รีบบอกท่านว่า “ลูกนอนไหว้พระทุกวันในช่วงนี้ และขึ้นไปกราบท่านผู้มีคุณตามที่หลวงพ่อสอนไว้ เสร็จแล้วก็จะไปพักอยู่วิมานขององค์หลวงพ่อประจำ
    </dd><dd>หลวงพ่อบอกว่า “ทำแบบนั้นถูกแล้ว ดีแล้ว ไม่บาปหรอก”
    </dd><dd>ทำให้ข้าพเจ้าข้องใจและดีใจ เพราะกลัวว่าจะเป็นบาปมาเกือบเดือน

    </dd><dd>เมื่ออยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมข้าพเจ้าก็จะไหว้พระในใจเป็นประจำ เสมอ ถ้าเมื่อใดที่ข้าพเจ้ามีปัญหา หลวงพ่อก็จะเมตตาเรียกเข้าไปหาใกล้ๆ ท่าน แล้วท่านก็จะตอบปัญหาโดยที่ข้าพเจ้ายังไม่ทันได้ถามเกือบทุกครั้ง เพราะหลวงพ่อรู้ใจคนเหมือนกับที่ท่านทั้งหลายทราบ และได้ประสบมาในบางคน

    </dd><dd>หลวงพ่อจึงเป็นแสงสว่างกลางใจข้าพเจ้ามาตลอด ข้าพเจ้าคิดอยู่ทุกวันว่า ขอทำแต่ความดีเพื่อบูชาพระคุณของพระพุทธเจ้า... หลวงปู่ปาน หลวงพ่อ และประเทศชาติด้วยชีวิต ตายเมื่อไรขอไปพระนิพพานเมื่อนั้น

    </dd><dd>๘. สมเด็จฯ และหลวงพ่อช่วยสอบบรรจุรับราชการ

    </dd><dd>เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๒๕ ข้าพเจ้าจบการศึกษาจาก มศว.พลศึกษา กรุงเทพฯ เดือนเมษายน ๒๕๒๕ ได้มีการประกาศรับสมัครสอบบรรจุครูทั่วประเทศพร้อมกัน ข้าพเจ้าได้พักอยู่กับน้าธีรชาติ น้าอัมภาอีก แล้วข้าพเจ้ามีโอกาสเข้าไปกราบหลวงพ่อใกล้ๆ ที่บ้านซอยสายลม

    </dd><dd>หลวงพ่อถามข้าพเจ้าว่า มีอะไรถามหลวงพ่อ
    </dd><dd>ข้าพเจ้าจึงกราบเรียนท่านว่า ลูกกำลังจะสำเร็จการศึกษาและจะสอบบรรจุ และไม่ทราบว่าจะลงสอบที่ไหนดีจึงจะสอบได้ เพราะสอบทั่วประเทศพร้อมกันหมด
    </dd><dd>หลวงพ่อท่านเมตตาตอบว่า ลูกลงได้หมดทั่วประเทศไทยจะอยู่ที่ไหนก็ได้นะ

    </dd><dd>แล้วท่านก็บอกว่า “ใช้เส้นพระพุทธเจ้าสิลูก”
    </dd><dd>พร้อมกับชี้มือขึ้นข้างบน “เพราะเมืองมนุษย์ปัจจุบันนี้เราไม่ค่อยมีเส้นหรอก”
    </dd><dd>แล้วท่านก็ย้ำอีกว่า “ลูกสอบได้ สอบที่ไหนก็ได้นะ”

    </dd><dd>ข้าพเจ้าก้มกราบขอบพระคุณและรับคำนำไปปฏิบัติตาม และสอบบรรจุได้อันดับ ๑ ด้วย ทำตามที่หลวงพ่อสั่งทุกอย่าง สมัยที่เรียนเป็นเปอร์เซ็นต์ ตอนอยู่ประถมก็ได้ ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ตลอด เป็นเพราะความกรุณาขององค์หลวงพ่อแท้ๆ ที่คอยช่วยเหลือ พระคุณนี้จะอยู่กับใจของลูกไม่ลืมได้

    </dd><dd>๙. สมเด็จองค์ปฐมช่วยรักษาโรคตา

    </dd><dd>เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๒๗ ข้าพเจ้าปวดตาแสบตาน้ำตาลไหลตลอด ไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาสารคามก็ไม่หาย ข้าพเจ้าจึงไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ผลการตรวจพบว่าข้าพเจ้าแพ้ฝุ่นแพ้แสงมาก ต้องใส่แว่นตากันแสง และต้องมาตรวจรักษาทุก ๓ เดือน ซึ่งทำให้ลำบากเพราะข้าพเจ้าต้องลาราชการ และเดินทางจากมหาสารคาม กว่าจะถึงกรุงเทพฯ ก็เหนื่อย

    </dd><dd>ข้าพเจ้ารักษาได้ ๑ ปีกว่า อาการดีขึ้นแต่ก็ไม่หาย ครั้งที่สุดท้ายที่มาพบแพทย์คือเดือนพฤศจิกายน ๒๕๒๘ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจอธิษฐาน ทำสมาธิขึ้นไปกราบสมเด็จฯ องค์ปฐม ขออนุญาตลาตาย คือกราบเรียนพระองค์ท่านว่า

    </dd><dd>ถ้าเป็นโรคกรรมเก่า รักษาแล้วไม่หายก็ขอตายเลย ไม่เสียดายชีวิต แต่ถ้าชีวิตนี้ยังไม่ถึงที่ตาย ก็ขอให้หายจากโรคนี้ด้วยเถิดพระเจ้าค่ะ ถ้าลูกมีชีวิตอยู่ก็ขอให้ได้รับใช้พระพุทธศาสนาตลอดไป

    </dd><dd>พอตื่นเช้ามาอาการต่างๆ เช่น ปวดตา แสบตา น้ำตาไหล นั้นก็หายไปสิ้น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยากินหรือยาหยอดตาที่ได้จากแพทย์มา ข้าพเจ้าก็เลิกใช้ทันที นี่เป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์ และองค์หลวงพ่อของเราที่ได้เมตตาพร่ำสอนมา ทำให้ลูกมีที่พึ่งเป็นอมตะชั่วนิรันดร์ พระคุณนี้ชดใช้ไม่มีวันหมดได้เลย

    </dd><dd>๑๐. สมเด็จองค์ปัจจุบันช่วยให้มีเสียงเพราะขณะฝึกมโนมยิทธิ

    </dd><dd>เมื่อต้นปี ๒๕๒๘ ข้าพเจ้าได้รับหนังสือราชการเชิญจากอาจารย์บุญ ชมพู จากวิทยาลัยพลศึกษา จังหวัดมหาสารคาม ให้ไปช่วยฝึกมโนมยิทธิ ให้กับนักเรียนกลุ่มหนึ่งจากโรงเรียนสารคามพิทยาคม ซึ่งเพื่อนของข้าพเจ้าได้ทดลองทำวิทยานิพนธ์เรือง “สมาธิกับการวิ่งระยะสั้น” โดยมีอาจารย์บุญ ชมพู เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

    </dd><dd>อาจารย์ท่านนี้จบจากประเทศอินเดีย ท่านได้มารับข้าพเจ้าไปฝึกสมาธิให้กับนักเรียนกลุ่มนั้น ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้ากำลังป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ พูดไม่ออก เสียงแห้งหายหมด เสียงพูดจะเป็นเสียงกระซิบมาจากลำคอ ท่านเป็นห่วงว่าจะทำอย่างไรดี เพราะนัดเด็กหมดแล้ว ข้าพเจ้าตอบท่านว่า เคยเป็นแบบนี้หลายครั้ง พอเวลาฝึกสมาธิจริงจะมีเสียงมาเอง ท่านคงไม่เชื่อแต่ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร

    </dd><dd>พอรับสมาทานกรรมฐานจากหลวงพ่อ และเริ่มฝึกมโนมยิทธิ ข้าพเจ้าก็มีเสียงพูดเป็นปกติ และเสียงเพราะด้วย อาจารย์บุญ และนักเรียนที่ฝึกบอกเสียงแจ่มใสชัดเจน ผู้ฝึกคราวนั้นมี ๑๓ คน ฝึกได้ ๙ คน รวมทั้งอาจารย์บุญด้วย อาจารย์บอกว่าไม่เคยฝึกแบบนี้มาก่อน ท่านฝึกได้ท่านดีใจมาก พอฝึกเสร็จแล้วประมาณ ๑๐ นาที เสียงข้าพเจ้าหายไป ใช้ภาษากระซิบตามเดิม อาจารย์ท่านจึงเชื่อจริงๆ

    เพราะเวลาฝึกมโนมยิทธิทุกครั้ง ข้าพเจ้ากราบมอบภาระหน้าที่ทั้งหมดให้กับองค์สมเด็จฯ ข้าพเจ้ามีหน้าที่เป็นแค่สื่อกลางที่จะนำเอาธรรมะไปยังพุทธบริษัทของพระองค์ ท่านทุกๆ ครั้ง คือมอบกาย วาจา ใจ ถวายองค์สมเด็จฯ แล้วแต่พระองค์จะทรงปัญญา ซึ่งการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าถือปฏิบัติมาตั้งแต่ต้น และจะปฏิบัติต่อๆ ไป

    ๑๑. อานุภาพของน้ำมันชาตรี

    เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๓๕ นิ้วมือด้านซ้ายของคุณพ่อข้าพเจ้าได้บวมและปวดมาก ท่านทำงานไม่ได้มาหลายวัน พอวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ข้าพเจ้าจะกลับบ้าน พอไปพบคุณพ่อท่านก็เอามือให้ดู ข้าพเจ้าบอกว่าจะพาไปหาหมอ แต่ก่อนไปตอนกลางคืนข้าพเจ้าได้กราบอาราธนาบารมีฯ ขออนุญาตใช้น้ำมันชาตรีของหลวงพ่อ ทาตรงที่บวมให้ท่าน และถ้าไม่หายก็จะพาไปหาหมอ
    ตอนกลางคืนข้าพเจ้าทาให้ท่าน พอรุ่งเช้า อาการปวดบวมที่นิ้วมือของคุณพ่อได้หายไป คุณพ่อดีใจ และเลื่อมใสหลวงพ่อขึ้นมามาก ดูจากสีหน้าท่าน เพราะท่านเป็นคนไม่ชอบพูด นี่เป็นเพราะพระคุณขององค์หลวงพ่อเราโดยแท้ที่มอบสมบัติไว้ให้ และข้าพเจ้าได้นำมาช่วยรักษาอาการต่างๆ ให้แก่ตัวเอง และนักเรียนด้วย เพราะข้าพเจ้าทำงานประจำที่ห้องพยาบาลโรงเรียนที่อาศัยประจำ คือพึ่งบารมีท่านแม่ศรีค่ะ


    ๑๒. หลวงพ่อช่วยซ่อมนาฬิกาปลุกตุ๊กตาไก่

    เมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๓๕ ข้าพเจ้าได้ฝึกมโนมยิทธิให้ชาวบ้าน ครูที่สนใจและนักเรียน และมีอาจารย์พรเพ็ญ สุรีรัตนันท์ ที่ข้าพเจ้าพักอยู่กับท่านฝึกด้วย ช่วงนั้นนาฬิกาแขวนและนาฬิกาข้อมือของข้าพเจ้า ถ่านหมดมาหลายวันแล้ว เหลือแต่นาฬิกาปลุกเครื่องที่ซื้อจากหาดใหญ่ เมื่อครั้งที่ไปภาคใต้กับหลวงพ่อ พอมาถึงบ้านใช้ไม่นานข้าพเจ้าก็ทำหล่นจากที่นอนอย่างแรง จับมาเคาะมาซ่อมก็ไม่เดินทั้งนั้น เสียมาได้ ๕ เดือนกว่าๆ ก็ยังตั้งโชว์เอาไว้

    เพราะเป็นของที่หอบหิ้วมาจากภาคใต้จึงเสียดายมัน ก่อนที่จะฝึกมโนมยิทธิให้ผู้ที่มาฝึก ข้าพเจ้าก็เอาตุ๊กตาไก่มาอุ้มและพูดว่า หลวงพ่อเจ้าค่ะ ลูกมีอะไรก็พังหมดแล้ว ป่วยก็บ่อยจริงๆ ปีนี้ ลูกเบื่อชีวิตในโลกมนุษย์ เดี๋ยวชีวิตคงจะตายเหมือนนาฬิกา แต่ดีนะนาฬิกาตายหรือเสียแล้วไม่เหม็นเหมือนคน เสร็จแล้วก็วางตุ๊กตาไก่ไว้ อาจารย์พรเพ็ญท่านก็ได้ยินที่ข้าพเจ้าพูด

    พอฝึกมโนมยิทธิเสร็จ กำลังอุทิศส่วนกุศลตอนสุดท้าย นาฬิกาตุ๊กตาไก่ก็มีเสียงดังเข็มนาฬิกาก็เดินเป็นปกติ ข้าพเจ้ากดปุ่มหยุดเสียงไก่ขัน และมีเสียงกู๊ดมอร์นิ่ง (Good morning) อาจารย์พรเพ็ญพูดขึ้นทันทีว่า “เห็นไหมหลวงพ่อซ่อมนาฬิกาให้เธอ เป็นเพราะเธอฝึกมโนมยิทธิให้พวกพี่” ซึ่งช่วงนั้นข้าพเจ้าหยุดฝึกมโนมยิทธิมานานแล้ว ทุกคนที่มาฝึกพูดแบบเดียวกันว่า หลวงพ่อซ่อมนาฬิกาให้ ข้าพเจ้ากราบเท้าขอบพระคุณหลวงพ่อก่อนที่ใครๆ จะพูดแล้ว

    ๑๓. ผมหลวงพ่อเพิ่มจำนวน

    เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ อาจารย์พรเพ็ญ ได้ขอผมหลวงพ่อจากข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าก็ขอผ่อนผันมานานแล้ว เพราะผมหลวงพ่ออยู่กับข้าพเจ้ามีน้อย ประมาณ ๑๘ – ๒๐ เส้น ข้าพเจ้าคิดว่าจะแบ่งให้สัก ๓ เส้น แต่วันนั้นท่านบอกว่าจะขอ ๑๒ เส้น ข้าพเจ้าจึงพูดกับท่านว่า ถ้าอยากได้มาก็ให้ไปขอกับท่านเอาเองซิ พอข้าพเจ้านำเจดีย์ที่บรรจุผมของหลวงพ่อมาเปิดดู พบว่าผมหลวงพ่อเพิ่มจำนวนมากมาย

    ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานใช้นิ้วชี้แตะจากถุงที่บรรจุในเจดีย์ ปรากฏว่าได้ ๑๒ เส้นพอดี อาจารย์พรเพ็ญดีใจมาก และท่านก็แปลกใจว่าเพิ่มจำนวนได้จริงๆ เพราะท่านเคยเห็นว่าข้าพเจ้ามีผมหลวงพ่อจำนวนน้อย แต่คงเป็นเพราะเมตตาและกรุณาจริงๆ จึงเพิ่มจำนวนให้ ข้าพเจ้ากราบขอบพระคุณหลวงพ่อเช่นเคย
    ๑๔. หลวงพ่อบอกว่าท่านแม่และท่านอามหาชมพูให้ข้าพเจ้าใส่ "เชือกแดง"

    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๖ หลังจากที่ข้าพเจ้าได้ไปช่วยงานศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดาร ที่อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมากับหลวงพ่อแล้ว พอเสร็จงานข้าพเจ้าได้เข้าไปกราบท่าน กำลังจะกราบเรียนท่านว่าจะขออนุญาตลงจากรถจากคณะที่ในโคราชเลย แล้วจะขึ้นรถต่อไปที่มหาสารคาม แต่ยังไม่ทันได้พูด
    </dd><dd>
    </dd><dd>
    หลวงพ่อก็พูดขึ้นว่า “เมื่อคืนผีจะมาเอาเอ็ง แต่แหม่มไม่ต้องกลัวนะลูก ท่านแม่และท่านอามหาชมพูช่วยอยู่แล้ว ท่านให้ใส่เชือกแดงที่มีเหรียญพร้อมธงพิชัยสงครามของหลวงพ่อเอาไว้ตลอดนะ” แล้วท่านก็ถามว่า “เชือกแดงมีมั้ย”

    ข้าพเจ้าตอบท่านว่า มีเจ้าค่ะ แต่เอาไว้ที่บ้าน เพราะรับราชการครูใหม่ๆ ใครเขาถามว่า จะออกรบหรือ ก็เลยเก็บเอาไว้ จึงใส่เหรียญอื่นและองค์แก้วมณีรัตนะแทน
    </dd><dd>หลวงพ่อบอกว่า อาจารย์พรนุชเล่าให้ท่านฟัง ซึ่งอาจารย์พรนุช คุณน้าธีรชาติก็นั่งอยู่ด้วย คุณน้าธีรชาติจึงให้เชือกแดงข้าพเจ้ายืมใส่ก่อน

    พอข้าพเจ้ากลับมาถึงบ้านพัก น้องที่บ้านพักเล่าให้ฟังว่า คืนที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ เขาได้เห็นผู้ชายใส่ชุดดำและผู้หญิงใส่ชุดดำมายืนที่หัวเตียงนอนเขา เขาท่องพุทโธก็ไม่ไป น้องคนนั้นบอกว่า พอนึกถึงให้แหม่มช่วย ผีใส่ชุดดำนั้นก็หายไป ซึ่งในคืนเดียวกันนั้นข้าพเจ้าได้นอนอยู่ที่กองพันสัตว์ต่าง (ปากช่อง) ข้าพเจ้านอนไม่หลับทั้งคืน ได้ยินแต่เสียงนก ๒ ตัว ร้องอยู่ที่หน้าประตู ที่พักในค่ายทหาร

    หลวงพ่อได้สั่งไว้ว่า กลางคืนอย่าเปิดประตูออกมาเด็ดขาด ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็ตาม
    ข้าพเจ้าจึงนอนทำสมาธิเอาใจไปอยู่ใกล้ๆ หลวงพ่อตลอดคืน อาจารย์พรนุชบอกว่า ต่อไปไม่ต้องฝึกสมาธิให้ใคร ถ้าใครเขาอยากฝึกให้เขามาหาข้าพเจ้าเอง เพราะธรรมะเป็นของสูง ไม่ใช่ของโฆษณา ข้าพเจ้าจึงทำตามที่ท่านแนะนำ

    ซึ่งปี ๒๕๓๕ ว่าจะเลิกฝึกมโนมยิทธิให้คนแถวบ้านมหาสารคาม ถ้าจะฝึกก็จะมาฝึกที่วัดท่าซุงเลย แต่ต่อมาก็ได้ช่วยฝึกเหมือนเดิม เพราะมีคนต่างจังหวัดมาให้ช่วยฝึก มีพระเป็นผู้นำมาด้วย ข้าพเจ้าจึงปฏิเสธไม่ได้ จึงทำตามที่หลวงพ่อสั่งทุกอย่าง

    ข้าพเจ้าขอยุติแค่นี้ก่อน เรื่องที่หลวงพ่อช่วยและเรื่องอื่นๆ มีอีกมากมาย ในขณะนี้รู้แต่เพียงว่าชีวิตจะต้องตาย ถ้าตายเมื่อไรก็ขอไปพระนิพพานเมื่อนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านรอเราอยู่ที่นั่น เกิดมาในชาตินี้ ข้าพเจ้ามีองค์หลวงพ่ออยู่ในหัวใจ เมื่อท่านจากไปลูกสุดเหลืออาลัย ใจเหมือนสลายไปชั่วขณะเหมือนใจจะขาดลงในบัดนั้น


    คิดถึงท่านทุกวันเกือบทุกเวลา พระคุณท่านล้นฟ้าพรรณนาไม่ได้ รู้แต่ว่าท่านคือยอดบิดาของลูกตลอดไป สิ่งใดที่องค์หลวงพ่อประสงค์และได้อบรมสั่งสอนมา ลูกขอน้อมรับและจะปฏิบัติตามด้วยชีวิต ขอเป็นลูกที่ดีขององค์หลวงพ่อและท่านแม่ตลอดไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ลูกขอน้อมกราบถวายบุญกุศล

    และคุณความดีที่ลูกได้บำเพ็ญสั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแด่องค์หลวงพ่อ ขอองค์หลวงพ่อได้โปรดเมตตารับการบูชาจากลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว องค์หลวงพ่อบรรลุแล้ว ขอให้ลูกได้รู้ธรรมนั้นได้โดยฉับพลันในชาติปัจจุบันนี้เถิด และลูกขอถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด


    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 4 หน้า 293 - 302)
    </dd><dt>
    </dt><dt>http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1272#44</dt><dd>
    </dd>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2016
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DSC04139.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DSC04139.jpg" border="0" alt=" photo DSC04139.jpg"/></a>

    เชือกแดงสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ให้บูชาที่เส้นละ 10 บาท
     
  11. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    คาถาท่านท้าวมหาชมพูและคาถาท่านเสด็จกรมหลวงชุมพรฯมีที่มาอย่างไรและมีอานุภาพอย่างไรครับพี่วรรณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2016
  12. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ผมมีอยู่ทั้งหมด ๓ องค์เลยครับพี่ปู ฐานมวลสาร ปั้มหมึกน้ำเงิน พิ่งได้มาอีกหนึ่องค์ ส่วนอีกสององค์ก็เป็นงานช่างธานีหนึ่องค์กับงานแรนด้าฯหนึ่องค์ครับ :cool:

    สมเด็จท่านฯงานของแพรนด้าฯดูงดงามมากๆครับ งานละเอียดมากๆ :cool:
     
  13. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    น้อมกราบหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    สวัสดีพี่ปู พี่วรรณ พี่นอร์ พี่น็อตและพี่ๆลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ
     
  14. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,599
    สมัยก่อนผมได้มาพร้อมเหรียญกูผู้ชนะ+ผ้ายันต์มหาพิชัยคราม แต่ดัดไปตัดแล้วเอาไปทิ้งคิดว่าเป็นเชือกธรรมดา ถึงตอนนี้ยังเสียดายอยู่เลยครับ ดด้วยความโง่แท้ๆ
     
  15. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,599
    ขอบคุณมากๆครับพี่วรรณ
     
  16. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)
     
  17. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี


    สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,811
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,038
    ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณน้องวรรณ ท่านมีรูปท่านย่าหรือไม่คะ เห็นหลวงพ่อบอกว่าท่านย่ายังไม่เข้านิพพานเพราะจะรอลูกๆหลานๆอยู่ ขอบพระคุณค่ะ
     
  19. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน


    [​IMG]
     
  20. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    น้อมกราบหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    สวัสดีพี่นอร์ พี่ปู พี่วรรณและพี่ๆลูกหลานหลวงพ่อทุกๆท่านครับ



    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...