เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน



    [​IMG]
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <dd><center>ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพบหลวงพ่อ

    </center>
    <center>ปราณี ปัญจศุภโชค</center>

    </dd><dd>เมื่อสมัยก่อนที่ข้าพเจ้ายังเด็กๆ อยู่ ข้าพเจ้าปรารถนาพระนิพพานมาก แต่ยังไม่อยากไปให้ถึงพระนิพพาน เอาไว้นานๆ หน่อยถึงจะค่อยไป เพราะเรื่องพระนิพพานนี้ ข้าพเจ้ารู้จากปากพี่สะใภ้ของข้าพเจ้าเองเป็นคนเล่าให้ฟังว่า พระนิพพานมีสภาพสูญ มีความสุขมาก เมื่อตายแล้วไปพระนิพพาน แต่พระนิพพานนี้เราตายไปแล้ว เปรียบดังควันไฟลอยไปในอากาศ

    </dd><dd>เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงอยากให้ถึงพระนิพพานช้าหน่อย แต่ก็อยากไปพระนิพพานอยู่ดีนั่นแหละ จนกระทั่งเติบโตจนมีครอบครัว ข้าพเจ้าก็หมั่นทำบุญใส่บาตรอยู่เสมอ ใจอยากไปพระนิพพาน แต่ถึงช้าหน่อยไม่เป็นไร ตัวข้าพเจ้าเองมีอารมณ์ เบื่อตัวเอง เบื่อชีวิต เบื่อทุกอย่าง ไม่ทราบเป็นอะไร มันเกิดขึ้นเองบ่อยอยู่เสมอ

    </dd><dd>จนกระทั่งพบหลวงอานิภัทรเข้า ท่านสั่งสอนว่า ชีวิตเป็นอย่างไร ทุกข์ – สุขเป็นอย่างไร ฟังท่านแนะนำ จึงขอยืมหนังสือ ธัมมวิโมกข์ เล่มเก่าอ่านดู แล้วถูกอารมณ์ใจข้าพเจ้าเหลือเกิน คิดว่าหลวงพ่อพระราชพรหมยานองค์นี้ เลิศประเสริฐนัก เขียนหนังสือถูกอารมณ์ใจดีทุกอย่าง อยากไปหา ตอนนั้นการทำมาหากินก็ไม่ค่อยจะคล่องตัว เห็นทุกข์อยู่เสมอ อย่ากระนั้นเลยเราไปหาหลวงพ่อดีกว่า

    </dd><dd> (ขออภัยในความเลวของผู้โง่เขลาเบาปัญญา เพราะตอนนั้นคิดอย่างนั้นจริงๆ) โดยการชักนำของคุณอาคนธรส เฉยฉิน โดยขออนุญาตจากสามีว่าจะไปครั้งเดียวจริงๆ (สามีข้าพเจ้าเป็นคนมุทะลุดุดันตอนนั้น) เมื่อไปพบหลวงพ่อเข้าแล้ว จึงรู้สึกว่าข้าพเจ้าผิดไปแล้วจริงๆ ที่บอกว่าจะมาครั้งเดียว มีครั้งที่ 1 แล้วก็มีครั้งที่ 2, 3, 4, 5 ติดตามมา จนกระทั่งครั้งที่เท่าไรก็นับไม่ถ้วนเสียแล้ว

    </dd><dd>แรกๆ สามีข้าพเจ้าก็ว่า มากครั้งก็ด่าเลยก็มี ข้าพเจ้าไม่สนใจใครยังไงก็ชั่ง หนีไปวัดหลวงพ่อ ข้าพเจ้าก็เอาจนสามีข้าพเจ้าเอือมระอาเต็มที่ ไม่กล้าว่าอีกแล้ว จึงเป็นทีของข้าพเจ้าบ้าง อ้อ! ตั้งแต่ข้าพเจ้าพบหลวงพ่อๆ สอนอย่างไร กรรมฐานทำอย่างไร วิปัสสนาทำอย่างไรข้าพเจ้าทำหมด ทำจนกระทั่งได้ฌาน ที่รู้ว่าได้ฌาน เพราะข้างบ้านข้าพเจ้าเป็นอู่เคาะพ่นสีรถยนต์

    </dd><dd>เขาจะเคาะกันอย่างไรข้าพเจ้าไม่ได้ยิน ไม่รำคาญในเสียงอะไรทั้งหมด รู้แต่ใจสบายอย่างเดียว (เขามีช่างเคาะประมาณ 4 – 5 คน เคาะทั้งวัน ไม่ได้ยินช่วงเจริญกรรมฐาน) จนกว่าจะออกจากสมาธินั่นแหละจึงรู้ว่ารำคาญอู่นี้มาก อู่เขาใช้ฝาบ้านเราแทนฝาบ้านเขา คือเขาไม่ต้องทำฝา ทั้งๆ ที่บ้านข้าพเจ้ามีหน้าต่างติดบานกระจกซึ่งกันเสียงอะไรไม่ได้เลย

    </dd><dd>บ้านข้าพเจ้าเป็นร้านขายอาหาร แขกที่มานั่งรับประทานนั่งไม่ไหว เขาเคาะเสียงดังมาก ปวดหู ลูกบ้าง ลูกจ้างบ้าง หูจะตึงกันหมดแล้ว เพราะเขาเคาะทุกวัน จึงทราบจากหนังสือธัมมวิโมกข์ว่าได้ฌานมีอาการอย่างไร (จะได้หรือไม่ได้ไม่รู้นะ ว่าตามที่ตัวเองเป็นที่หลวงพ่อสอน) ปฏิบัติเรื่อยมาจนกระทั่งเข้าปีที่ 7 เพราะข้าพเจ้าปฏิบัติมาตั้งแต่ พ.ศ.2528 จนถึงปัจจุบันนี้

    </dd><dd>ได้บ้างไม่ได้บ้าง ว่ากันตามเรื่อง แต่จิตใจมีความสุขมาก ข้าพเจ้ามีแต่หลวงพ่อองค์เดียวเท่านั้น ที่เก่งที่สุด เลิศประเสริฐที่สุด ไม่มีพระสงฆ์องค์ใดเสมอเหมือน เพราะหลวงพ่อสอนให้รู้ทุกอย่าง อยู่ๆ มา ข้าพเจ้าปวดขาเป็นที่สุด ปวดมาช้านานแล้ว รักษาก็ไม่หายจึงไปหาพระรดน้ำมนต์ไล่ พระก็ทำพิธีไล่ผีออกให้ข้าพเจ้า ไล่เท่าไรๆ ก็ไม่ออก ข้าพเจ้าดิ้นทุรนทุรายเป็นเกือบชั่วโมง ทรมานอยู่อย่างนั้น

    </dd><dd>จนกระทั่งพระบอกว่า วันนี้ไม่ไหวแล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปหาใหม่ พอรุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็ไปหาใหม่พร้อมกับสามีและแม่ของข้าพเจ้า วันนี้หนักยิ่งกว่าเมื่อวานนี้อีก ทั้งดิ้น ทั้งฟาดขา บิดตัว ฟาดแขน เหมือนกับตัวจะแตกเป็นชิ้นๆ ก็ไม่ปาน สามีกับแม่สงสารข้าพเจ้ามาก กลัวก็กลัว ไม่ทราบว่าเป็นอะไร พระก็รดน้ำมนต์ใหญ่สวดไล่จนข้าพเจ้าทนไม่ไหว ข้าพเจ้าก็นอนเงียบไปพักเดียวเท่านั้น

    </dd><dd>ข้าพเจ้าลุกขึ้นนั่งชี้หน้าพระองค์นั้น แล้วถามว่า มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร
    </dd><dd>พระองค์นั้นคิดว่าเป็นผีเอาน้ำมนต์รดใหญ่ แล้วถามว่า มึงเป็นใคร (ข้าพเจ้าไม่ใช่ตัวเอง)
    </dd><dd>แต่ข้าพเจ้าพูดว่า กูคือครูกรรมฐาน หลวงพ่อปานวัดบางนมโค วิระทะโย วิระโคนายัง มึงรู้ไหม

    </dd><dd>พระองค์นั้นกราบขอโทษบอกว่า ผมไม่รู้ครับ ผมขอโทษด้วย ผมไม่รู้ว่าเป็นหลวงพ่อ แล้วพระองค์นั้นก็เดินลงไปทันที สักพักท่านก็ไป พอหลวงปู่ไปแล้ว ข้าพเจ้าก็หายจากอาการที่เป็น คือเป็นตัวของตัวเอง คุยกับพระองค์นั้นๆ ท่านบอกว่า โยมไม่ต้องมาอีกแล้วนะ (ท่านนัดให้ไปไล่ 3 วัน ไล่ได้แค่ 2 วัน ท่านบอกไม่ต้องมาอีกแล้วนะ)

    </dd><dd>จนกระทั่งประมาณเดือนกว่าๆ เพราะปกติข้าพเจ้าต้องทำสมาธิเจริญกรรมฐานทุกวัน หลังจากกลับจากตลาดถวายข้าวพระเสร็จ ท่องวิระทะโยเสร็จ สมาทานพระกรรมฐาน พอจิตใจใสสะอาดดีแล้ว หลวงปู่ปานก็มาอีก ข้าพเจ้าไม่เชื่อไม่ยอมรับท่าน ท่านแสดงท่าต่างๆ ชนิดที่คนธรรมดาทำไม่ได้ พอหลวงปู่ไป ข้าพเจ้าก็ลองทำดูบ้างแต่ก็ทำได้ไม่เหมือนท่านทำ

    </dd><dd>แต่ตอนทำสมาธิ จิตใจมีความสุขมาก ต่อมาอีกนาน ข้าพเจ้ามีอาการเจ็บที่นม (ขออภัย) มีอาการปวดแสบปวดร้อน เสื้อชั้นในใส่ไม่ได้ ปวด บวมแดง เหมือนเลือดจะไหลจากเต้านม มีอาการของโรคมะเร็ง ข้าพเจ้าก็ทาด้วยน้ำมันของหลวงปู่ปานที่บูชามา ทาก็ไม่หาย ยิ่งทายิ่งปวดแสบปวดร้อนมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ต่อมาหลวงปู่ท่านก็มาลงอีก ไอ้ความเลวของเรามันมีกิเลสหนา

    </dd><dd>ปัญญาจึงถอยหลังไม่เชื่อว่าหลวงปู่อีก (เพราะไม่แน่ใจว่าเราเลวอย่างนี้หาความดีอะไรไม่ได้เลย หลวงปู่ท่านจะมาช่วยได้อย่างไร) แต่ท่านก็มาอีก ท่านมาแต่ละครั้ง เรามันดื้อ ถ้าเราให้ท่านมาดีๆ เราไม่ดื้อไม่ต่อต้าน เราก็ไม่เหนื่อย เปรียบเสมือนเรานั่งของเราอยู่ดีๆ ก็มีผู้ใหญ่มากดหัวเราไว้แรงๆ เราคิดจะสู้ท่าน เราไม่มีปัญญาหรือเรี่ยวแรงสู้ท่านได้หรอก

    </dd><dd>เราสู้ท่านเท่าไร เราก็เหนื่อยแทบขาดใจมากเท่านั้น แต่ใจมันก็ยังไม่เชื่ออยู่นั่นแหละ จนกระทั่งนมก็เจ็บมาก ท่านก็มาอีก แต่ท่านไม่ได้มาทุกวันนะ นานๆ จะมาสักทีหรือบางครั้งก็ 9 วันบ้าง บางทีก็เดือนบ้าง หรือ 2 – 3 อาทิตย์ท่านจะมาสักที แต่ท่านจะมาได้เราต้องทำใจสะอาดบริสุทธิ์จริงๆ ท่านถึงจะมาได้ ทีนี้ท่านมา ท่านสั่งให้เอามีดหมอมา (มีดที่บูชาจากวัดท่าซุง)

    </dd><dd>ทุกคนมีแม่ ลูก ลูกจ้าง พี่ น้อง ไม่ยอมให้มีดข้าพเจ้า กลัวว่าถ้าให้แล้วจะทำอันตรายตัวเอง ข้าพเจ้าอ้อนวอนเพียงไรก็ไม่ยอมให้ (ไม่ใช่ข้าพเจ้า แต่เป็นหลวงปู่ท่าน) ทำดีเท่าไรเขาก็ไม่ให้มีด ทีนี้เลยทำข้าพเจ้าใหญ่เลย พวกเขาเห็นแล้ว จึงสงสารยอมให้มีดหมอข้าพเจ้า พอได้มีดหมอมา หลวงปู่ท่านเอามากรีดที่นมและที่ตัวข้าพเจ้า

    </dd><dd>พร้อมทั้งแม่ ลูก น้อง ลูกจ้างด้วย พลอยได้รักษากันทุกคน ไอ้ความเลวของคนโง่เช่นข้าพเจ้าก็ยังไม่ค่อยเชื่ออยู่ดีนั่นแหละ (อย่างนี้ต้องปล่อยให้ตายไปเลยจะสมน้ำหน้ามาก) ทีนี้ท่านมา ข้าพเจ้าจับไต๋ได้แล้ว ท่านมา ข้าพเจ้าทำสมาธิจิตสะอาดบริสุทธิ์ มือจะเริ่มสั่น เท้าขยับ ตัวเริ่มสั่น ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าท่านต้องมาแน่ ข้าพเจ้าเลิกทำสมาธิทันที ออกจากสมาธิ เมื่อออกจากสมาธิแล้ว

    </dd><dd>ท่านมาไม่ได้ ข้าพเจ้าก็เที่ยวคุยว่า (ขอโทษ) ข้าเก่งแล้วนะ บอกแม่ น้อง หลาน ลูกจ้างว่าข้าเก่งแล้วนะ ข้าไม่ให้หลวงปู่มาได้แล้วนะ (ตอนนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง) เท่านั้นเองวันรุ่งขึ้น แจ๊คพ็อต หลวงปู่ท่านลง 4 ช.ม.รวด ให้พักเหนื่อย 2 นาที ปวดหลัง ฟาดตัว สารพัดที่จะทรมานทุกอย่าง ทีนี้แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน ญาติทุกคนสงสารข้าพเจ้าจนน้ำตาไหล

    </dd><dd>ถามว่ามาทรมานเขาทำไม (ทุกคนก็ไม่ค่อยเชื่อ) ท่านบอกว่า ข้าไม่ได้ทรมานมันๆ ไม่ให้ข้ามา พี่ น้อง แม่ ถามว่าต้องการอะไร จะให้ทุกอย่าง อย่าทรมานเขาเลย (เขาเห็นแล้วสงสารมาก จึงยอมทุกอย่าง ถ้าหลวงปู่จะเอาอะไร) หลวงปู่บอกว่า ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งหมด ข้ามีพร้อมแล้ว ข้าไม่ได้ทรมานมัน ข้าไม่ให้ข้ามา ข้าจะมามันไม่ให้ข้ามา ข้าบังคับมัน

    </dd><dd>ไม่ได้ทรมาน มันแถมไปคุยว่า มันเก่งแล้วไม่ให้ข้ามาได้แล้ว แน่! เอาให้อ้วนเลย ท่านหัวเราะใหญ่เลย ท่านให้ไปตามพระผู้ทรงฌานมา ตามนางบุญช่วย นางทิม ตามสายของท่านมาให้หลายๆ คน ตามท่านติ๊กมา เด็กก็ไปตามมา ได้คนเดียวคือน้าตี๋ (สามีน้าบุญช่วย) พอมาถึงเขาก็กราบหลวงปู่ ท่านชี้หน้าว่า ไอ้โง่ ไอ้ซื่อบื้อ เดินทางถูกแล้ว เดินทางตรงแล้ว ไปเดินทางอ้อมทำไม

    </dd><dd>พอโดนว่าเท่านั้น สามีน้าบุญช่วยก็กลับ (รู้ทีหลังว่าเขาโกรธ เพราะไปหาน้าบุญช่วยทีหลัง) ข้าพเจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลวงปู่หมายความว่าอย่างไร พอท่านติ๊กมา หลวงปู่เอามือป้องหน้าถามว่า มาแล้วหรือลูก ท่านสอนธรรมะใหญ่เลย ท่านติ๊กถามธรรมะข้อใดอารมณ์เป็นอย่างไร ท่านตอบได้หมด ซึ่งข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องที่หลวงปู่ทานสอนพระหรอก ไม่ทราบว่าพูดไปได้อย่างไร

    </dd><dd> (อันนี้ต้องหลวงปู่แน่) การที่หลวงปู่มา ท่านไม่ได้มาเข้าร่างนะ ท่านนั่งอยู่ที่รูปของท่านๆ ชี้มาที่ข้าพเจ้า ให้ข้าพเจ้าทำไปเอง ข้าพเจ้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นไปได้อย่างไร ท่านมารักษาข้าพเจ้า เมื่อนมกลับสู่สภาพเดิม ข้าพเจ้าก็ไปตรวจ ชวนเพื่อนคือเจ๊หมุยไปด้วย เขาก็ติดการทำมาหากินของเขา เราก็เห็นใจ เราก็ไปชวนน้าบุญช่วย เขาก็ติดธุระก็เลยไปคนเดียว

    </dd><dd>ทั้งๆ ที่สถาบันโรคมะเร็งอยู่ที่ไหน ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบ (คนโง่ต่างจังหวัด) ก็อาราธนาบารมีหลวงปู่ให้สงเคราะห์ไปด้วย ตัวข้าพเจ้าเอง เป็นคนทำอะไรไม่ให้ขาดทุน จึงเลือกไปตรวจมะเร็ง ตอนที่หลวงพ่อมาสายลมพอดี จะได้ทำบุญใหญ่ๆ กับหลวงพ่อด้วยไงล่ะจึงไม่ขาดทุน เมื่อทำบุญเสร็จ หลวงพ่อขึ้นสักพัก ตอนฉันเพล ข้าพเจ้าไม่รู้จะไปทางไหนดี

    </dd><dd>บ้านพี่ชายมี 2 คน อยู่ดอนเมือง 1 คน และอยู่ธนบุรี 1 คน ไม่รู้จะไปพักบ้านใครดี ตัดสินใจไม่ถูกเลย ช่วยเขาจัดดอกไม้ที่บูชาพระพุทธรูปใจก็คิดไป บังเอิญหลวงปู่คงดลใจให้พี่สุภาวดีสงเคราะห์ ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย เขาช่วยเหลือทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องกิน ที่พัก แถมแนะนำให้เสร็จ เรื่องกินนี้ ก็รู้อยู่แล้วว่า ที่ซอยสายลมตอนหลวงพ่อจะลง ถ้าลุกก็เสียม้าแน่นอน

    </dd><dd>เพราะฉะนั้นคนหนึ่งอยู่ คนหนึ่งไป พอดีพี่เขาเป็นคนไปข้าพเจ้าต้องอยู่ เขาซื้อของกินเสร็จเรียบร้อย เท่านั้นไม่พอ หลวงพ่อขึ้นตอน 4 ทุ่ม พี่สุภาวดีเขาพาไปหาที่พักให้เสร็จเรียบร้อย คิดว่าดีที่สุดใกล้สถาบันโรคมะเร็งที่สุด ดูดีแล้ว เขาจึงกลับบ้าน ทั้งที่บ้านของเขาอยู่คนละทาง ชนิดต่อรถหลายต่อเลยทีเดียว โดยที่เขาบอกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจ

    </dd><dd>พอไปถึงสถาบันโรคมะเร็ง ตามธรรมดา หมอเขาจะนัดตรวจอย่างน้อยๆ 2 อาทิตย์ขึ้นไป แต่นี่แค่ 2 วันเท่านั้นตรวจได้เลย แต่ก็ให้มีคนสงเคราะห์อีกนั่นแหละ ช่วยพาเข้าตรวจเป็นคนที่ 2 ต่อจากเขา ตรวจพร้อมในวันเดียวกัน ก่อนที่หมอจะตรวจ พยาบาลต้องตรวจก่อนทุกคนไป เขาก็คลำไปคลำมาเจอก้อนเนื้อ เขาจับได้แต่มันแห้ง พยาบาลก็งง

    </dd><dd>เลยช่วยกันคลำใหญ่ เขาบอกว่าเป็นไปได้อย่างไร จนถึงหมอตรวจ หมอบอกว่าไม่เป็นไรมีนิดเดียว นัดตรวจใหม่ 8 ม.ค.35 ทีนี้ไอ้ความเลวของข้าพเจ้ายังมีอยู่มาก กล่าวคือ ข้าพเจ้าก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นหลวงปู่อยู่ดีนั่นแหละ ที่ไม่เชื่อ เพราะอะไร คือข้าพเจ้าเลว คนเลวๆ อย่างข้าพเจ้าหลวงปู่ท่านตะมาสัมผัสจิตข้าพเจ้าได้อย่างไร จึงไปถามหลวงพ่อดู จึงรู้ว่าจริงทุกอย่าง

    </dd><dd>หลวงพ่อบอกว่า จริงทุกอย่างลูก พระนิพพานไปง่าย แต่คนสอนให้ไปยากเอง ทุกอย่างมีจริง (ค่อยหายโง่หน่อย) ตอนหลังนี้ข้าพเจ้าฝึก นะมะพะทะ เมื่อก่อนฝึกพุทโธ อยากไปเที่ยวพระนิพพานบ้าง พรหมบ้าง พระจุฬามณีบ้าง ข้าพเจ้าได้มโนใหญ่ออกเต็มกำลัง เห็นสว่างหมด เห็นพระจุฬามณี สว่างมากเหมือนตอนกลางวัน เห็นหลวงปู่ พระอริยเจ้าทุกๆ พระองค์ที่อยู่ข้างบน

    </dd><dd>เห็นองค์หลวงพ่อข้างบน กราบหลวงพ่อๆ ว่า ไอ้ขี้หมา ขึ้นมาได้ตั้งนานแล้วทำไมไม่ขึ้น องค์หลวงพ่อข้างบนท่านสวยมาก สวยเหลือเกิน สวยจนบอกไม่ถูก วิมานท่านใหญ่เหลือเกิน กว้างขวางมาก ประมาณมิได้ เห็นท่านข้างบนแล้ว สงสารองค์หลวงพ่อข้างล่างจับจิต ร่างกายหลวงพ่อข้างล่าง ทรมานหลวงพ่อเกินกว่าที่จะพรรณนา

    </dd><dd>เห็นองค์สมเด็จองค์ปฐม ท่านสวยที่สุด สว่างที่สุด วาจาท่านไพเราะจับใจเหลือเกิน ท่านสอนไม่มาก แต่สอนเข้าใจมาก องค์สมเด็จทุกๆ พระองค์ท่านสวยเหลือเกิน สวยบอกไม่ถูก ข้าพเจ้าเที่ยวไปเจอพี่จุกข้างบน พี่เขาตายจากความเป็นมนุษย์ไปแล้ว ไม่ทราบว่าเขาตายเพราะเหตุใด ใครๆ เขาว่าพี่จุกกินยาตาย (พี่จุกนี่สายปฏิบัติเหมือนกัน) ข้าพเจ้าพบเขาด้วยความดีใจ

    </dd><dd>ถามเขาว่า พี่จุกอยู่ไหน เป็นอะไรถึงตาย ทำไมถึงตาย (ถามโง่)
    </dd><dd>เขาบอกว่า พี่ถูกงูกัดตาย ตอนนี้อยู่ชั้นนิมมานรดี พี่สบายแล้วไม่ต้องเป็นห่วง ฝากบอกแม่พี่น้องด้วยว่า ตั้งใจทำดี ทำให้จริง จะมีผลตามนั้นนะ (เราขึ้นไปได้เขาโมทนากันใหญ่เลย) ต่อมา ก็ขอบารมีองค์สมเด็จทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์

    </dd><dd>พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหมด พรหมทั้งหมด เทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด ขอพาข้าพระพุทธเจ้าไปพรหมด้วยเถิดพระเจ้าข้า พอนึกปั๊บถึงปุ๊บเลย เจอป้าสนิทเข้าให้ ป้าสนิทนี่สมัยเป็นมนุษย์อยู่เป็นนักเจริญกรรมฐานตัวยงเหมือนกัน แกหกล้มตาย แกหยอกล้อเล่นใหญ่

    </dd><dd>ข้าพเจ้าถามว่า ป้าอยู่ไหน
    </dd><dd>แกบอกว่า ตอนนี้ป้าอยู่พรหมจ้ะ
    </dd><dd>ข้าพเจ้าถามว่า ทำไมไม่ไปพระนิพพาน

    </dd><dd>แกบอกว่า ห่วงนิดเดียว ก่อนตายห่วงแม่แก (แม่แกยังไม่ตาย อายุเกือบ 100 ปีแล้ว) แกฝากบอกลูกแกด้วยว่า วิทยุเทปที่ถวายหลวงพ่อไป แม่ได้รับเรียบร้อยแล้ว บอกให้ลูกทำความดีไว้มากๆ ทีนี้ก็ขอบารมีฯ ขอไปพระนิพพาน ลุงพูนท่านมารับทันที

    </dd><dd>ข้าพเจ้าถามว่า ลุงทำอะไรอยู่ไหน
    </dd><dd>ลุงบอกว่า เฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่บนพระนิพพานนี่แหละ ฝากบอกเมียและลูกด้วยว่า ไม่ต้องเป็นห่วง สบายแล้วที่ทำนั้นนะทำถูกแล้ว ทำให้เข้มข้นเข้า
    </dd><dd>ข้าพเจ้าเที่ยวสวรรค์เพลินแล้ว ขอไปเที่ยวนรกบ้าง ก็ขอบารมีฯ แป๊บเดียวถึงเลย

    </dd><dd>ไปกราบท่านลุงพุฒิ ก้มลงกราบท่านที่เท้า กราบยังไม่ทันถึงเท้าท่านเลย ท่านรีบยกเราขึ้นเลย อะไรกัน ตัวเราสูงกว่าหัวเข่าท่านนิดเดียวเอง แหมท่านตัวใหญ่จัง ท่านสวยมาก ตัวใส ใส่เพชรแก้วแพรวพราว เราก็สวยนะ สวยคล้ายๆ กัน ข้าพเจ้าขอท่านไปดูนรกขุมที่ 1 บ้าง ท่านให้คนพาไป ไปถึงยืนดู ในขุมนรกเป็นเหมือนภูเขาล้อมรอบหมดเป็นแอ่งลึกๆ ใหญ่มาก กว้างมาก ประมาณมิได้

    </dd><dd>โอ้โฮ ทรมานเหลือเกิน ตายแล้วก็เป็น เป็นแล้วก็ตายอยู่อย่างนั้น เร็วมา ก็ขอนึกดูว่า คนที่ข้าพเจ้าเคยรู้จักมาตกนรกขุมนี้มีบ้างไหม ถ้ามีขอดูสักหน่อยเถิด เท่านั้นเอง หมอแมนกับเมียน้อยเขาขึ้นมาทันที หน้าตาซีดเซียว ถามก็ไม่พูด ก็เลยถามว่า ตกนรกมานานเท่าไรแล้ว มีเสียงตอบว่า ยังไม่ได้นิดเดียวของวันเลย (ไม่ทราบว่าเสียงนั้นมาจากไหน)

    </dd><dd>ถามว่า จะตกอีกนานไหม
    </dd><dd>ได้ยินเสียงตอบว่า พันปีนรก ข้าพเจ้า เลยไม่รู้จะทำอย่างไร จึงบอกว่า บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ควรมีเพียงใด ขอให้เธอจงโมทนา (ทั้งๆ ที่ไม่ทราบว่าตัวจะมีบุญกุศลหรือเปล่า ใจสงสารเขามาก จึงบอกเขาไปเช่นนั้น)

    </dd><dd>มีเสียงดังมาก บอกว่าไม่ได้ ข้าพเจ้าคิดว่าจะทำอย่างไรจะช่วยเขาได้ เลยนึกขึ้นได้ว่า บุญกุศลที่ข้าพเจ้าสร้างมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันควรมีเพียงใด ข้าพเจ้าขอฝากท่าพระยายมราชไว้ก่อน ถ้าพบ 2 คนนี้เมื่อไร ขอให้เขาโมทนาด้วยเถิด ได้ยินเสียงตอบมาว่า เออ! ยังงี้ได้

    </dd><dd> (สองคนนี้ตอนเป็นมนุษย์เขาเป็นหมอทำแท้ง ตายมา 10 กว่าปีแล้ว ก่อนตายหลายปี เขาเลิกทำแท้ง กลับไปทำไร่ รู้จากคนอื่นเล่าให้ฟัง เห็นแล้วจึงไปถามคนที่รู้จักเขาดู) ต่อมาก็ไปดูที่รอการตัดสินที่นั่น คนมากมายเหลือเกิน มากจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ก็มีอยู่ 2 คน เขาหันหน้ามาก้มลงกราบทันที ข้าพเจ้าเห็นแล้วบอกว่า อ๋อย เจี๊ยบใช่ไหม

    </dd><dd>ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า ใช่ เขาก้มลงกราบอยู่ ข้าพเจ้าบอกบุญกุศลที่ข้าพเจ้าสร้างมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ควรมีเพียงใด ขอเธอจงโมทนาด้วยเถิด เขาก็โมทนา แต่ก็ยังกราบอยู่นั่น ไม่ลุกขึ้นไป ก็บอกไปอีกว่าฉันจะไปเลี้ยงพระที่วัดท่าซุงไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทำบุญทุกอย่างขอเธอจงโมทนา เขาก็โมทนาอีก ก็ยังกราบอยู่ที่นั่น ทีนี้ข้าพเจ้าไม่รู้จะทำอย่างไร

    </dd><dd>จึงบอกว่า เอา ฉันจะถวายสังฆทานให้เธอชุดละ 100 บาท คนละ 1 ชุด มีพระพุทธรูปเป็นประธาน ขอเธอจงโมทนาด้วยเถิด เท่านั้นเอง เธอ 2 คนโมทนาปั๊บ เธอเป็นเทวดาทันที กราบข้าพเจ้า พอข้าพเจ้าไป เขาก็เหาะลอยไปทันที (2 คนนี้เป็นน้องเมียพี่ชายข้าพเจ้า เธอถูกรถชนตายมา 10 กว่าปีแล้ว)

    </dd><dd>หลังจากกลับมาจากเลี้ยงพระวัดท่าซุงแล้ว ก็พาลูกๆ หลานๆ พร้อมลูกจ้างไปเล่นน้ำทะเลกัน บังเอิญลูกสาวคนโตของข้าพเจ้าไปถูกแมงกะพรุนไฟเข้า แมงพระพรุนไฟชนิดนี้ ถ้าใครถูกเนื้อจะเละ เน่า ปวดแสบปวดร้อน พิษร้ายแรงมาก ลูกของข้าพเจ้าถูกตั้งแต่ข้อศอกถึงมือ เป็นห่วงลูกมากไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เอาน้ำมันชาตรีทาให้ พิษมันปวดแสบปวดร้อนเป็นที่สุด

    </dd><dd>ก็ตั้งใจว่า หลวงปู่เจ้าขา ช่วยกรุณารักษาแผลแมงกะพรุนให้ลูกสาวของลูกทีเถิดเจ้าค่ะ แล้วเรื่องที่หลวงปู่รักษาโรคมะเร็งนั้น จะให้ลูกเขียนไหมเจ้าคะ ถ้าเป็นประโยชน์กับคนอื่นหรือลูกหลานคนใดแล้ว ให้หลวงปู่ดลใจหรือบอกให้ลูกเขียนด้วยเถิดเจ้าค่ะ พออาราธนาบารมีน้ำมันชาตรีเท่านั้น หลวงปู่ลงทันที ท่านให้เขียนแล้วท่านก็รักษาแผลแมงกะพรุน

    </dd><dd>โดยการเอาน้ำมันชาตรีทา แล้วปัดพิษให้ ลูกสาวบอกว่า ปวดแสบปวดร้อนมาก ต่อมาสายหน่อย หายปวดแสบปวดร้อนทันที (ตามปกติแล้ว ถ้าใครถูกแมงกะพรุนไฟเนื้อจะเน่าเละ เป็นแผลเหวอะหวะ น่ากลัวมาก เป็นนานเป็นเดือนหรือ 2 เดือน แต่นี่เป็นแค่ไม่กี่วัน แผลเริ่มหาย แต่น่ากลัวจะเป็นแผลเป็น ถ้าผู้อ่านคนใดเคยถูกแมงกะพรุนชนิดนี้เข้าจะรู้ว่าเป็นอย่างไร)

    </dd><dd>จากวันนั้น หมอนัดตรวจโรคมะเร็งไว้วันที่ 8 มกราคม 2535 ข้าพเจ้าได้ไปรับการตรวจ เมื่อหมอได้ตรวจแล้ว หมอบอกว่าไม่มีแล้วคุณ เรียบร้อยไม่มีอะไรเหลือเลย คุณไม่ต้องมาอีกแล้ว ข้าพเจ้ายิ้มพร้อมทั้งนึกกราบขอพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหมด พรหมทั้งหมด เทวดาทั้งหมด มีหลวงปู่ปานและหลวงพ่อเป็นที่สุด

    </dd><dd>ที่ได้กรุณาเมตตาสงเคราะห์ข้าพเจ้า ไม่ใช่ท่านสงเคราะห์เพียงเท่านี้นะ ท่านสงเคราะห์ข้าพเจ้าอีกมากมาย ชนิดที่ไม่มีกี่คนนัก ที่ท่านจะสงเคราะห์ได้อย่างนี้ ตามที่ข้าพเจ้าทราบมา เอาไว้ข้าพเจ้ามีเวลา หรือมีพร้อมทุกอย่างแล้ว ข้าพเจ้าอาจจะรวมเล่มให้ท่านผู้อ่านได้อ่าน และได้เห็นความอัศจรรย์ของพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ว่าเราได้ยึดเหนี่ยวท่านเป็นชีวิตจิตใจแล้ว

    </dd><dd>ข้าพเจ้าเอาชีวิตเป็นประกันว่า ไม่ว่าอะไรสักเพียงไหน ทุกท่าน จะฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ทั้งหมดทุกอย่าง (ข้าพเจ้าขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน) เว้นไว้แต่ ท่านจะไม่เอาจริงหรือท่านจะทำไม่ถึงเท่านั้น ไม่ใช่แต่ว่าเท่านี้นะ แม้แต่ “องค์สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา” ข้าพเจ้าก็ได้ไปกราบเรียนถามท่านมา ท่านรับรองทุกอย่างว่าจริงทุกประการ

    </dd><dd>ยังมีอีกนะ ที่หลวงปู่ท่านให้ข้าพเจ้าทำ แต่ตอนนี้ขอสงวนไว้ก่อน ถ้าข้าพเจ้าทำสำเร็จเมื่อไรจึงจะรายงานให้ท่านทราบในระยะต่อไป ข้าพเจ้าขอรับรองว่าที่องค์หลวงพ่อสอนทั้งหมดนั้น เป็นความจริงทุกประการ ขอให้ทำให้ถึงเท่านั้น (บอกเฉพาะให้ท่านที่ยังทำไม่ถึง ขอให้มีความตั้งใจจริง และแลกกันด้วยชีวิตจริงๆ จะได้เห็นผลทุกประการ)

    </dd><dd>ท่านที่ทำถึงแล้ว ข้าพเจ้ากราบขออภัยในความโง่เขลาของข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าเพียงแต่ชี้แนะแนวทางกับท่านผู้จะศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า เพื่อให้พ้นทุกข์อย่างที่องค์หลวงพ่อได้ทนอยู่ เพื่อลูกหลานของท่านเท่านั้น

    </dd><dd> (ถ้าท่านไม่อยู่เพื่อพวกเราลูกหลานของท่าน ร่างกายของท่านข้างบนสวยงามแพรวพราว สบายทุกอย่าง ท่านไม่ต้องทรมานสังขารของท่านอย่างนี้หรอก ไม่เชื่อขึ้นไปดูก็ได้) ยังมีคุณบุญช่วยอีกคนที่หลวงปู่ปานรักษาให้ เห็นเขาบอกว่าหายแล้ว ข้าพเจ้าไม่ประสาในการเขียนเลย บางคำตัวอักษรจะซ้ำแล้วซ้ำอีก ขอหลวงพี่วิรัชได้โปรดตัดทอนให้สละสลวย ผู้อ่านจะได้อ่านเข้าใจง่าย

    </dd><dd>เช่นคำว่าข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าอีก ข้าพเจ้าเขียนตามที่ได้รับมาทั้งหมด ไม่ได้แต่งเติมเองเลยแม้แต่นิดเดียว เดิมทีข้าพเจ้าไม่เคยคิดจะเขียนเลย เพราะงานเขียนข้าพเจ้าไม่ชอบ และแต่งความเรียงไม่เป็นด้วย ถ้าหลวงปู่ไม่ได้บอกให้เขียนเพื่อประโยชน์ของลูก หลาน คนอื่นแล้วไซร้ ข้าพเจ้าจะไม่ยอมเขียนเป็นอันขาด (เพราะคนโง่ๆ อย่างข้าพเจ้าจะทำได้อย่างไร)

    </dd><dd>ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียน จึงเป็นเรื่องจริงที่ข้าพเจ้าเล่าให้ฟัง คำพูดทั้งหลายจะไม่เป็นคำพูดที่ยาก พูดแบบชาวบ้านธรรมดาพูดทั้งสิ้น ขอทุกท่านผู้อ่านจงให้อภัยแก่ข้าพเจ้าผู้โง่เขลาด้วย ในขณะที่เขียนต้นฉบับอยู่ ก็มีท่านผู้หนึ่งมายืนอยู่ใกล้ๆ ข้าพเจ้าๆ ไม่ทราบว่าท่านผู้นั้นเป็นใคร พอข้าพเจ้าเผลอก็จะเห็นท่านทันที ข้าพเจ้าหันไปดูก็ไม่มี (เห็นทีเผลอ)

    </dd><dd>ข้าพเจ้าเขียนต้นฉบับอยู่นี้ เขียนตั้งแต่เที่ยงคืนกว่า จนเกือบถึงตีห้าไก่ขัน ไม่ทราบเหมือนกันว่า อยู่ได้อย่างไร เพราะกว่าจะได้นอน ก็เลยเที่ยงคืนทุกวัน กว่าจะปิดร้านดูแลเด็กเก็บล้างเสร็จ (ขายอาหาร) ก็เที่ยงคืนกว่าทุกวัน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟังอีกมากมาย แต่ตอนนี้เอาไว้เท่านี้ก่อน

    </dd><dd>ขอผลบุญทั้งหมด ควรมีเพียงใด ข้าพเจ้าขอมอบให้ตั้งแต่องค์สมเด็จเป็นต้นมา จนถึงหลวงปู่ หลวงพ่อ ถ้าผิดพลาดพลั้งไป ข้าพเจ้าขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว (โดยการคัดลอกทั้งหมดนี้ ลูกสาวของข้าพเจ้าเป็นคนเขียนเอง แม้แต่ตัวอักษร ข้าพเจ้าก็ไม่กล้าจะเขียน เกรงว่าหลวงพี่จะอ่านไม่ออก)

    </dd><dd>หมายเหตุ
    </dd><dd>1. จะลืมท่านผู้มีพระคุณผู้นี้เสียไม่ได้ คือ หลวงอามหาสิงห์ ท่านเป็นผู้ฝึกกรรมฐาน ขึ้นครูกรรมฐานให้ข้าพเจ้าและอธิบายธรรมะ จนข้าพเจ้าเข้าใจทุกอย่าง ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณพระองค์นี้ด้วยค่ะ

    </dd><dd>2.เมื่อข้าพเจ้าได้ไปหาองค์สมเด็จพระ พุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา ท่านผู้อ่านลองคิดดูว่า พระสำคัญระดับนั้นจะพบได้ง่ายๆ ได้อย่างไร ลำพังข้าพเจ้าอย่างเดียวไม่มีปัญญาแน่ ถ้าไม่ใช่หลวงปู่ปานไปกับข้าพเจ้าด้วย กว่าจะได้พบท่านก็ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เมื่อเข้าไปพบท่าน ก็กราบท่าน พอท่านมองข้าพเจ้า ท่านก็เดินเข้าข้างใน ไปห่มผ้าพระของท่าน

    </dd><dd>แล้วก็พูดกับข้าพเจ้าๆ ก็เล่าให้ฟังตามที่ประสบมา ท่านบอกว่า หลวงพ่อปานเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านมาสร้างบารมีของท่าน พอข้าพเจ้าถามท่านว่าเป็นจริงไหมเจ้าคะ ท่านนั่งมองหน้าข้าพเจ้าครู่หนึ่งจึงตอบ ทำอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง (ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านคงจะถามอะไรสักอย่าง) และท่านตอบทุกอย่างที่ข้าพเจ้าถามไปแล้วว่า เป็นจริงทุกประการ

    </dd><dd>ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าจะทำได้ ท่านบอกให้ทำตามที่หลวงปู่สั่ง “ท่านสั่งให้ทำก็ต้องทำ” ข้าพเจ้าจึงลากลับ ก่อนกลับข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจจึงถามท่านอีกว่า ต้องทำแน่หรือเจ้าคะ ท่านตอบว่า ต้องทำ (ท่านคิดดูซิว่าพระระดับนั้นมีข้าพเจ้าเป็นฆราวาสคนเดียวที่ไปหา นอกนั้นเห็นมีแต่พระไปหาท่านทั้งนั้น) </dd>


    พอกลับบ้านแล้ว ตอนข้าพเจ้าทำสมาธิ จึงถามหลวงปู่ดู ท่านตอบว่า ก็ข้าคุยกับพระของข้า ตอนที่เอ็งถามนั่นแหละ ข้าพเจ้าจึงเข้าใจ

    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 หน้า 443 - 450)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1398#88


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2016
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Doc2015/DSC_0104_4.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Doc2015/DSC_0104_4.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0104_4.jpg"/></a>

    (จากหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 6 หน้า 27)
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DSC04656.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DSC04656.jpg" border="0" alt=" photo DSC04656.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DSC04654.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DSC04654.jpg" border="0" alt=" photo DSC04654.jpg"/></a>
     
  5. paulbylaw

    paulbylaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +1,601
    ขอบคุณครับพี่วรรณสำหรับข้อมูลเหรียญนี้ และอย่างที่พี่วรรณบอก ทั้งแก้วมณีรัตนะกับผ้ายันต์ทั้งสองอย่าง หลวงพ่อท่านทำพิธีหลายวาระมาก ผมเลยสงสัยว่า หลวงพ่อท่านน่าจะนำลูกแก้วกับผ้ายันต์ของใหม่มาเพิ่มเรื่อยๆ แล้วทำพิธีไปหลายๆ ครั้ง ไม่ใช่ว่าท่านจะสต๊อกลูกแก้วกับผ้ายันต์ไว้แต่แรก แล้วมาทำพิธีหลายๆ ครั้งใช่ไหมครับ
     
  6. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112


    แสดงว่านอกจากน้ำเหรียญทำน้ำมนต์ใส่ไว้ในขันแล้วเสกด้วยอิติปิโส ๗ จบ นะมะพะธะ ๑๕ จบแล้วต้องลากยันต์ทำน้ำมนต์ในใจพร้อมบริกรรมคาถาด้านบนด้วยใช่ไหมครับ แล้วต้องทำอะไรก่อนอะไรหลังอ่ะครับพี่วรรณ

    ปล.ก่อนทำน้ำมนต์ต้องสวดชุมนุมเทวดาก่อนทุกครั้งด้วยไหมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2016
  7. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    น้อมกราบหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    สวัสดีพี่นอร์ครับ :cool:
     
  8. mikoto

    mikoto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ขอตอบแทนอาวรรณครับ สังเกตใบฝอยที่อาวรรณโพสจะทราบว่ามีด้านหน้า-หลัง ผมแนะนำหาอ่านในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่มเก่าๆ เช่น ebookวัดท่าซุง เมื่ออ่านแล้วจะทราบว่าส่วนที่หลวงพ่อ"อธิบายเพิ่มเติมส่วนที่ไม่ไดบอกไว้" คือส่วนที่เกี่ยวกับการเขียนยันต์ ดังนั้น เมื่อจะทำน้ำมนต์ก็ปฏิบัติตามหัวข้อที่ชื่อว่า"ทำน้ำมนต์"ครับ
     
  9. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    ถ้าเป็นในกรณีที่เป็นเหรียญก็ทำตามปกติ คือ เอาเหรียญแช่ก้นข้น แล้วสวดอิติปิโส ๗ จบ นะมะพะธะ ๑๕ จบใช่ไหมครับ

    เปิดหนังสือสมบัติพ่อให้ดูแล้วครับ ในหนังสือบอกวิธีทำน้ำมนต์เพียงเท่านี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5230.PNG
      IMG_5230.PNG
      ขนาดไฟล์:
      1,015.6 KB
      เปิดดู:
      77
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2016
  10. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    ผมเองก็เข้าใจแบบนั้นมาตลอดครับว่าเป็นเสียงหลวงพ่อฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นเสียงใครก็ตามผมรู้สึกว่าฟังแล้วจิตดิ่งดีครับ ยิ่งถ้าฟังไปด้วยสวดไปด้วยยิ่งดีครับ :cool:
     
  11. mikoto

    mikoto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ใช่ครับ แต่ถ้าจะดูข้อมูลการทำแผ่นยันต์ทำน้ำมนต์แบบเดียวกับใบฝอยต้องดูที่หน้า156-158ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ขอบคุณพี่lemertเป็นอย่างสูงครับสำหรับข้อมูลและความอนุเคราะห์ครับ :cool:
     
  13. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    พี่วรรณครับ พระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นยันต์กลับ กับ พระผง/เนื้อโลหะสมเด็จองค์ปฐม ครบ ๑ ปี การมรณภาพหลวงพ่อฯ รุ่นใดพุทธาภิเษกก่อนกันครับ หรือพุทธาภิเษกพร้อมกันเลยครับ พอดีผมเห็นว่าพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่นยันต์กลับมีรุ่นที่พุทธาภิเษกในปี พ.ศ ๒๕๓๖ ด้วยอ่ะครับ
     
  14. chabay

    chabay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    9,168
    ค่าพลัง:
    +3,360
    เข้ามาติดตามอ่านทุกๆวันนะครับคุณอาวรรณ ยังเป็นกระทู้ที่ดีที่สุดเท่าที่อยู่ในพลังจิตมา

    เวลาไม่สบายใจเรื่องต่างๆ เข้ามาเห็นหน้าหลวงพ่อ เห็นบทความดีๆของคุณอาวรรณแล้วความเครียดนั้นหายไปในบัดดล ฮ่าๆ
     
  15. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)
     
  16. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]



    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี


    สวัสดีพี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกท่านครับ
     
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ผ้ายันต์เกราะเพชรผ้ายันต์พิชัยสงครามและลูกแก้วเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ท่านและคนทั่วไปอย่างมากมีการสร้างออกมาเรื่อยๆและเข้าพิธีพุทธาภิเษกเกือบทุกครั้งของหลวงพ่อจนถึงพิธีสุดท้ายก่อนองค์ท่านจะมรณภาพไปครับ

    ไม่เหมือนกับมวลสารผงวิเศษชนิดนึงคือที่ผสมอยู่ในพระผงรุ่นที่ระลึกครบรอบ 100 วันหลวงพ่อมรณภาพ เป็นผงที่ปลุกเสกในพระอุโบสถทุกครั้งครับ
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2015/1450154_582703928450871_518623269_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2015/1450154_582703928450871_518623269_n.jpg" border="0" alt=" photo 1450154_582703928450871_518623269_n.jpg"/></a>


    ภาพถ่ายต้นฉบับ:ครูผึ้ง ชาวนครศรีธรรมราช ผู้สอนพระคาถาปัจเจกพุทธเจ้าโปรดสัตว์ให้แก่พระครูวิหารกิจจานุการ(ปาน โสนนฺโท)



    ภาพจากเพจ https://www.facebook.com/BoontaAntique?fref=ts
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2016
  19. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ไม่ทราบข้อมูลเช่นกันครับ

    สมเด็จองค์ปฐมรุ่นยันกลับปี 2536 เป็นการนำรุ่นปี 2535 มาทำเป็นแม่พิมพ์แล้วหล่อออกมาทำให้ขนาดเล็กกว่าของปี 2535 นิดนึงและลวดลายบนเหรียญจะตื้นกว่าครับ
     
  20. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/S__3194884.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/S__3194884.jpg" border="0" alt=" photo S__3194884.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2014/S__3194886.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2014/S__3194886.jpg" border="0" alt=" photo S__3194886.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/AmuletInformations/2013/DSC09868.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/AmuletInformations/2013/DSC09868.jpg" border="0" alt=" photo DSC09868.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/AmuletInformations/2013/DSC09873.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/AmuletInformations/2013/DSC09873.jpg" border="0" alt=" photo DSC09873.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/AmuletInformations/2013/DSC09740.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/AmuletInformations/2013/DSC09740.jpg" border="0" alt=" photo DSC09740.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/AmuletInformations/2013/DSC09769.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/AmuletInformations/2013/DSC09769.jpg" border="0" alt=" photo DSC09769.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/AmuletInformations/2013/DSC09774.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/AmuletInformations/2013/DSC09774.jpg" border="0" alt=" photo DSC09774.jpg"/></a>
     

แชร์หน้านี้

Loading...