การหาคำตอบให้ตัวเอง ถึงจะลำบาก ขอสงสัยต้องถูกรู้วางเฉย ภาวนาเห็น"งู" หลับฝันเห็น"งู" เกิดใสถานที่เดียวกัน ในกุฎิภาพชัดเจน เวลาผมพักผ่อนและภาวนาไปด้วยบ้างครั้งไม่เกิดการฟุ้งซ่าน เมื่อลืมตาขึ้นมาหรือมันเป็นสมาธิของมันเอง เกิดนิมิตงูอยู่บนเพดานกุฎิหลายตัวเลื้อยพันกัน แต่ก่อนมันอยู่มุนห้อง เดียวนี้มันขยับเข้ามาใกล้ ใกล้ขนานนิมิตอยู่ด้านบนตรงที่ภาวนา บ้างที่อยู่ข้างๆตัวเลยก็มี งูใหญ่บ้าง เล็กบ้าง มีทุกสี นิมิตงูไม่ช้ำกันเลยแม้แต่ลักษณะ งูใหญ่แผ่แม่เบี้ยบ้าง เป็นเรื่องที่หาคำตอบด้วยตัวเองมานานแล้ว ผมก็นึกว่าคงเป็นเหตุการณ์ แต่มันบ่อยเกินไป แต่ก่อนฝันเห็นงูบ่อยๆ กัดบ้าง เป็นร้อยๆพันๆตัว เห็นเต็มไปหมดบ้าง เล่าให้ฟัง เพื่อจะได้คำตอบแล้วแก้มันให้ได้มรรคผล
ทดสอบกำลังใจ ผ่านไปได้ก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่ผ่าน ก็ติดอยู่นิมิตงู ขวางให้เกิดความสงสัย ต่างๆนาๆ มันจะจ้องจะดู จะกัน หรือจะ ทำอะไร ก็อย่าไปสนใจ ทำจิตให้สงบ เป็น นิมิต พอเลิกทำ เลิกปฏิบัติ ก็หายไปเอง ไม่ตายหรอก เรามีหน้าทำ ภาวนา ทำจิตให้สงบ ตั้งมั่น อย่าไปหลงดูนิมิตงู จิตส่งออกนอก นอกจิต นอกใจตัวเอง หรือถ้ามี กำลังจิต มีสมาธิตั้งมั่น ก็กำหนดจิต รำพึงในจิต กำหนด ถามงูพวกนั้นไป ถามจิตตัวเอง ว่า มีอะไร มาทำไม ต้องการอะไร แล้ว งู หรือ จิต ตัวเองจะเป็นผู้ให้คำตอบเอง พิจารณาด้วยตัวเอง จะให้ดี ปล่อยวาง ละก็ อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร .
เรื่องของงู เป็นเรื่องของอดีตชาติ เป็นกรรมผูกพันในอดีต ตามมาส่งเสริม หรือ จะก่อเวร ก็แล้วแต่ การปฏิบัติตัวของคุณ เพราะถ้าหากยอมรับ และนับถือ เค้าก็จะคอยส่งเสริม แต่ถ้าหากว่า ไม่อุทิศให้เค้า ไม่ยอมรับเค้า เค้าจะคอย ดึงให้คุณตกต่ำ เพื่อให้คุณรู้ว่า ต้องทำยังไง การฝึกสมาธิภาวนา จะต้องอุทิสส่วนกุศลให้คนอื่นมากๆ ตนเองน้อยๆ เห็นภาพอะไรเกิดในนิมิต ก็ให้อุทิศทันที ฝึกให้เป็นนิสัย ต่อไปบารมีจะเต็ม ก็ฝึกวิปัสสนาต่อได้
คงไม่พ้น ที่จะต้อง อธิษฐาน และ อุทิศส่วนกุศล ให้เยอะๆ นะท่าน ก่อนทำสมาธิ ก็ อธิษฐาน เสียก่อน ตามปราถนา หลังทำสมาธิ ก็ แผ่ส่วนกุศล หรือ ถ้า กำลังสมาธิขณะทำอยู่มีกำลังดี ก็แผ่ในขณะนั้น ก็ได้เลย ใช้ พรหมวิหาร4 เป็นอารมภ์ ส่วน นิมิต นั้น มีทั้งจริง และ ไม่จริง แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นอุปาทาน ทั้งสิ้น
นมัสการเจ้าค่ะ เคยเจองูทั้งในฝัน และไม่ได้ฝัน แต่งูนั้นไม่ได้มีตัวตนจริง แต่เป็นดวงจิตของงูซึ่งอาจมีความเกี่ยวกรรมกันมา ที่เคยเจอตอนไม่ได้ฝันนั้นได้ยินการเลื้อยค่ะ เรียกว่าเป็นฝูง อยู่ในบ้าน 2 ชั้น ซึ่งตอนนั้นการปฏิบัติธรรมยังไม่เข้มแข็งพอ จึงได้แต่สวดมนต์และแผ่เมตตาให้แต่พลังอาจไม่พอเขาจึงไม่รับไม่รู้ และก็อยู่ด้วยกันแบบนั้นทั้งคืน งูนั้นมีหลายขนาดมาก คือเสียงที่ได้ยิน ถึงสิ่งที่เลื้อยไกล้ๆๆ ขนาดของเสียงมารับรู้ได้ทำให้ทราบว่ามีหลายขนาด ต่อมาเมื่อมีการปฎิบัติ ต่อเนื่องการฝันถึงงู และ การได้ยินเสียงงูหายไป และในช่วงหลังๆๆเมื่อเจองู ไม่พบอาการทำร้ายจากงูเลย เพียงแต่เขาจะหลีกหนีเราไป แม้เคยเหยียบโดยไม่เจตนา เค้าก็ไม่ฉกกัด ..จึงคิดว่าเขาอาจเป็นส่วนหนึ่งในการสอนหรือทดสอบทางธรรมจากครูบาอาจารย์ค่ะ