เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***กราบ หลวงพ่อฤาษี ขอรับ
    สวัสดีครับ ท่านวัน และ ศิษย์ ลพ วัดท่าซุง ทุกๆท่าน เฮงๆรวยๆครับ
    ***
     
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    สาธุโมทนาบุญกับคุณนอร์ด้วยนะครับ
     
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528

    [​IMG]


    อรุณสวัสดิ์ครับพี่รุ่ง คุณปู :) :) :) :) :) :)
     
  4. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <dd><center>ความประทับใจ ความเคารพบูชาในองค์หลวงพ่อ ของข้าพเจ้าและภรรยา

    </center>
    <center>วีระทัศน์และทองเพียร กาญจนกุล</center>

    </dd><dd> ข้าพเจ้านายวีระทัศน์ นางทองเพียร กาญจนกุล อาศัยอยู่ที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ข้าพเจ้าจำได้ว่า ข้าพเจ้าได้พบกับหลวงพ่อครั้งแรกในชีวิต เมื่อปี พ.ศ.2529 เป็นงานสะเดาะเคราะห์ครั้งใหญ่ ผู้ที่ชวนข้าพเจ้าไปในงานนี้ก็คือ คุณประเพ็ญ ชาติวิทยา และร้านใหม่ออคิด ข้าพเจ้าไปในในงานนี้ รู้สึกตื่นเต้นตกใจ ที่ไม่เคยเห็นคนมาทำบุญกันเป็นจำนวนมากถึง 2 แสนคนเศษ

    </dd><dd> ในวันนั้นจำได้ว่า แต่งชุดขาวและดำไปกันทั้งหมด ข้าพเจ้าและภรรยาได้บูชาสังฆทาน 1 ชุดเพื่อจะถวายหลวงพ่อ พอกล่าวคำอธิษฐานเสร็จ ข้าพเจ้าและภรรยาก็ต่อแถวที่ยาวเหยียดเพื่อจะเข้าถวายสังฆทานกับมือหลวงพ่อ พอสักพักใหญ่ ก็ได้เข้าถึงองค์หลวงพ่อ พอหลวงพ่อท่านมองมา ทางข้าพเจ้าและภรรยาก็ดีใจ พร้อมกันนั้นหลวงพ่อก็จับถังสังฆทานของข้าพเจ้าและภรรยา จังหวะนั้นเอง ข้าพเจ้าเหมือนกับมีไฟฟ้าช็อตที่มือข้าพเจ้าแล้ววิ่งเข้าสู่ร่างกาย และวิ่งหลุดออกทางเท้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความรู้สึกเหมือนเคราะห์กรรมตัวเองหลุดออกจากตัวของข้าพเจ้าและภรรยาไปเลย ข้าพเจ้าและภรรยามีความซาบซึ้งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ทรงสงเคราะห์ และที่ได้โปรดให้กับข้าพเจ้าและภรรยา

    </dd><dd>ข้าพเจ้าถึงกับน้ำตาไหลซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะในชีวิตก็เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ไม่เคยมี มาก่อนเลย และได้เห็นบารมีของหลวงพ่อว่ามีบารมีสูง จึงทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าและภรรยาเริ่มเข้าวัดทำบุญจริงจังตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา เพราะบารมีของหลวงพ่อแท้ๆ หลังจากนั้นก็ได้ไปทำบุญที่วัดท่าซุงบ่อยครั้ง

    </dd><dd>และเกือบทุกครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เริ่มขึ้นนะโม และให้พร ข้าพเจ้าจะต้องน้ำตาซึมออกมา มีความปีติเกิดขึ้นอย่างที่ข้าพเจ้าคิดไม่ถึงทุกครั้ง ชีวิตของข้าพเจ้ากับภรรยา โดยปกติแล้วก่อนพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ข้าพเจ้าเป็นคนไม่ค่อยได้ทำบุญมากนัก แต่หลังจากได้พบและสัมผัสกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทำให้ข้าพเจ้าและภรรยาเริ่มทำบุญมากขึ้น

    </dd><dd>และได้รู้ว่าการทำบุญนี้มีผลให้เราทั้งในชาตินี้ และในชาติหน้าเป็นเรื่องจริง หลังจากข้าพเจ้าและภรรยาได้มาทำบุญที่วัดท่าซุง เนื่องในงานเป่ายันต์เกราะเพชร งานฉลองวัด งานกฐิน และงานหล่อพระ หรืองานพุทธาภิเษกก็ดี ข้าพเจ้าเริ่มมาทำบุญมากขึ้นเป็นลำดับ ข้าพเจ้ามีความซาบซึ้งองค์หลวงพ่อที่เมื่อใกล้วันเกิดของข้าพเจ้า (28 ธ.ค.) ของทุกๆ ปี พระเดชพระคุณหลวงพ่อมาเข้าฝันให้พรลูกทุกๆ ปี

    </dd><dd>ข้าพเจ้าจะขอเล่าบางเรื่องที่สำคัญ แต่เรื่องความฝันถึงองค์หลวงพ่อนั้น ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หนึ่งที่ฝันบ่อยครั้ง แต่จะเล่าเรื่องครั้งนี้คือคืนวันหนึ่ง (ปี 33) ก่อนวันเกิด ข้าพเจ้าฝันเห็นหลวงพ่อได้เดินทางมาบ้านแง จ.ระยอง เมื่อข้าพเจ้าเห็นองค์หลวงพ่อแล้ว ข้าพเจ้าได้เข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อ และได้เอ่ยถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า หลวงพ่อมาบ้านฉาง มีธุระอะไรหรือครับ

    </dd><dd>หลวงพ่อได้ตอบว่า หลวงพ่อจะมาทำพิธีบวงสรวงที่บ้านฉาง ท่านได้เอ่ยชวนให้ข้าพเจ้าตามท่านมา ข้าพเจ้าก็ได้เดินตามหลวงพ่อไปที่ท่านทำพิธี และข้าพเจ้าก็นั่งคุกเข่าพนมมือหน้าแท่นพิธี หลังจากนั้นพระเดชพระคุณเริ่มทำพิธี ข้าพเจ้าได้มององค์หลวงพ่ออย่างซาบซึ้ง และได้เห็นแท่นพิธีหลวงพ่อมีสายทอง (เหมือนผ้าสีทอง) ยาวจากแท่นพิธีสูงขึ้นไปถึงก้อนเมฆ

    </dd><dd>และบนก้อนเมฆนั้นก็มีหลวงปู่ครูบาธรรมชัย จับปลายสายทองอยู่ ข้าพเจ้ามีความรู้สึก มีความปีติและซาบซึ้งมาก หลังจากหลวงพ่อได้ทำพิธีบวงสรวงเสร็จ หลวงพ่อได้พูดขึ้นว่า ลูกตามพ่อมา พ่อมีอะไรจะให้ลูก ข้าพเจ้าได้เดินตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อไป หลวงพ่อพาข้าพเจ้ามาที่บันไดแห่งหนึ่ง และหลวงพ่อได้บอกให้ข้าพเจ้านั่งรอตรงเชิงบันได และหลวงพ่อก็เดินขึ้นบันไดไป

    </dd><dd>บันไดนั้นเป็นสีขาวเหมือนแก้ว สูงมาก ข้าพเจ้านั่งคุกเข้ารอหลวงพ่อสักครู่เดียว หลวงพ่อได้หอบของสิ่งหนึ่งลงมา เมื่อเข้ามาใกล้ๆ ข้าพเจ้าเห็นเป็นแหวน และหลวงพ่อได้ให้ข้าพเจ้าลองสวมแหวนดู ข้าพเจ้าสวมอยู่หลายวงก็ใส่ไม่ได้ เพราะแหวนนั้นใหญ่เกินนิ้วข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้พนมมือและบอกหลวงพ่อว่า หลวงพ่อขอรับ แหวนนั้นใหญ่มาก ไม่สามารถสวมได้สักวง หลวงพ่อเอ่ยขึ้นว่า ไม่เป็นไร พ่อจะขึ้นไปดูให้อีกครั้งหนึ่ง

    </dd><dd> ข้าพเจ้ารู้สึกปลาบปลื้มอย่างมาก ที่หลวงพ่อมีความกรุณาต่อข้าพเจ้า สักครู่หลวงพ่อก็ได้เดินลงมาจากบันได และได้นำแหวนมาวงเดียวและได้มาสวมใส่นิ้วข้าพเจ้าเลย ปรากฏว่าสวมเข้านิ้วนางของข้าพเจ้าพอดี ข้าพเจ้ามองดูแหวน ตัวแหวนสีเงิน แต่ตรงหัวแหวนเป็นเพชรรูปใบโพธิ์ สวยระยิบระยับจับตาเหลือเกิน ข้าพเจ้าดีใจจนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัวและได้ก้มกราบเท้าหลวงพ่อ 3 ครั้ง

    </dd><dd>หลังจากนั้นหลวงพ่อก็พูดว่า พ่อกลับวัดก่อนนะ เพราะมีธุระที่วัด และผมก็เดินมาส่งท่านขึ้นรถเบนซ์กลับวัด และข้าพเจ้าตื่นขึ้นเล่าเหตุการณ์ให้ภรรยาฟังต่างดีใจกันทั้งคู่ หลังจากนั้นไม่นาน ข้าพเจ้าก็ฝันว่าหลวงพ่อมานั่งที่ร้านของข้าพเจ้า และหลวงพ่อบอกว่าจะมาฉันเพล ข้าพเจ้าก็ได้ตระเตรียมอาหารและผ้าเช็ดมือ และข้าพเจ้านำผ้าเช็ดมือสีขาวถวายหลวงพ่อ

    </dd><dd>ข้าพเจ้าถวายเสร็จก็เดินออกก่อนจะเดินออกหลวงพ่อได้เรียกข้าพเจ้าว่า ลูกๆ เดี๋ยวก่อนพ่อจะบอกอะไรให้ หลวงพ่อก็พูดว่า ลูกรู้ไหมลูกจะได้มรดกที่ลูกไม่คาดคิดมาก่อนเลย ข้าพเจ้าเล่าความฝันให้ภรรยาฟัง ทั้งข้าพเจ้าและภรรยาก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เพียงแต่รู้ว่าฝันเห็นหลวงพ่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเท่านั้น

    </dd><dd>ข้าพเจ้าจำได้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2533 ภรรยาข้าพเจ้าชวนข้าพเจ้าไปไหว้พระพรหมที่เอราวัณ กทม. เพราะใกล้วันเกิดข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็นับถือท่านพระพรหมตั้งแต่ข้าพเจ้าศึกษาอยู่ที่กรุงเทพฯ พอข้าพเจ้าและภรรยาไปถึงที่ศาลพระพรหม ข้าพเจ้าและภรรยาก็ปรึกษากัน บนขอลูกจากท่าน ข้าพเจ้าก็ได้บนกันทั้ง 4 หน้าเลย (ปกติแล้วภรรยาของข้าพเจ้ามีลูกยากมาก)

    </dd><dd>หลังจากกลับมาจากกรุงเทพฯ ประมาณปลายเดือนมกราคม 2534 ซึ่งเป็นวันปีใหม่ ปรากกว่าภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ หลังจากนั้นมาก็ไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง และภรรยาได้เล่าให้คุณหมอฟังว่า เมื่อก่อนนี้ได้ไปตรวจรู้ ว่ามีเนื้องอกอยู่ในมดลูก คุณหมอก็ให้ภรรยาของข้าพเจ้าไปตรวจอุลตราซาวนด์ดู ก็ปรากฏว่าเด็กในครรภ์เป็นก้อนเลือดขนาด 2.5 ซ.ม. มีเนื้องอกที่เบียดก้อนเลือดนี้ขนาด 12.5 ซ.ม.

    </dd><dd>ขนาดใหญ่กว่าเด็ก 5 เท่าตัว คุณหมอก็บอกว่า คุณหมอไม่รับประกันเพราะเนื้องอกใหญ่กว่าเด็กมาก อาจทำให้แท้งได้ทุกเวลา ข้าพเจ้าและภรรยาก็มีความรู้สึกใจไม่ดี ก็นึกขึ้นมาได้ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้พุทธาภิเษกพระคำข้าวรุ่น 2 ข้าพเจ้าได้บูชาน้ำมนต์ของหลวงพ่อมาไว้ 12 ขวด เลยขอพึ่งบุญบารมีของท่าน ให้ช่วยสงเคราะห์ขอให้แม่และลูกในครรภ์รอดปลอดภัย

    </dd><dd> ก็เริ่มบูชาและดื่มน้ำมนต์หลวงพ่อมาตลอด คืออธิษฐานทุกวัน และดื่มน้ำมนต์หลวงพ่อ และเมื่อครั้งพุทธาภิเษกพระคำข้าวรุ่น 3 ข้าพเจ้าและภรรยาพร้อมลูกในครรภ์ก็ได้มีโอกาสไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก และวันรุ่งขึ้นได้เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร และในครั้งนั้นได้บูชาน้ำมนต์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาอีกถึง 3 โหลครึ่ง เพื่อให้ภรรยาได้ดื่มน้ำมนต์ต่างน้ำ พอครรภ์เข้าถึงเดือนที่ 5 ก็ปลอดภัย

    </dd><dd>ข้าพเจ้าและภรรยาต่างดีใจ เพราะพระบารมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อแท้ๆ ที่ลูกได้เข้าพุทธาภิเษกและเป่ายันต์เกราะเพชร ลูกในครรภ์จึงมีความแข็งแรงที่ต่อสู้และรอดมาได้ และเมื่อครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มาพักที่บ้านคุณสมบูรณ์ ที่จันทบุรีในวันที่ 18 มิ.ย.2534 ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าและภรรยาและคณะบ้านฉาง ได้มีโอกาสไปกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่บ้านคุณสมบูรณ์ เมื่อได้พบหลวงพ่อที่บ้านคุณสมบูรณ์ เมื่อได้พบหลวงพ่อ

    </dd><dd>หลวงพ่อก็ทักภรรยาของข้าพเจ้าว่า “ไอ้คนมีฤทธิ์” ซึ่งพระเดชพระคุณได้ทักภรรยาของข้าพเจ้าและคุณสุรีรัตน์ อริยวณิชย์ เพื่อนของภรรยาที่ไปด้วยกัน ทักบ่อยมากว่า “ไอ้คนมีฤทธิ์” จนภรรยาของข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทักมากจริงๆ ขณะนั้นก็เข้า 6 เดือนเต็ม

    </dd><dd>จนคนในคณะที่ไปด้วยบอกว่าเด็กในท้องของภรรยามีบุญมากที่พระเดชพระ คุณหลวงพ่อทักมากจริงๆ และในวันรุ่งขึ้น พระเดชพระคุณได้มาเป็นประธานยกช่อฟ้าที่วัดเขาไผ่ จ.ระยอง ข้าพเจ้าและภรรยาก็มีโอกาสได้ร่วมทำบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่ออีก ในวันที่ 19 มิ.ย.2534 พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็ทักภรรยาข้าพเจ้าและเพื่อนของภรรยาของข้าพเจ้า เหมือนกับที่จันทบุรี

    </dd><dd>และเป็นเรื่องมหัศจรรย์เป็นบุญตาที่ข้าพเจ้าและภรรยาพร้อมคณะและชาวระยองทั้งหมดที่ได้เห็น พระเดชพระคุณหลวงพ่อตำหมากแจกลูกหลาน นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของข้าพเจ้าและภรรยา พร้อมคณะที่ได้มีโอกาสเห็นหลวงพ่อตำหมาก หลังจากนั้นมาไม่นาน หมากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแจกนั้นกลายเป็นพระธาตุกันหลายคน ขณะที่หลวงพ่อจะเดินทางกลับจันทบุรี

    </dd><dd>หลวงพ่อถามว่า ลูกจะไปจันท์อีกไหม ข้าพเจ้าพร้อมคณะก็ตอบกัน ไปเจ้าค่ะ และตอนพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะขึ้นรถ ท่านยังมาทักข้าพเจ้าและภรรยา ท่านใช้ไม้เท้าชี้มาที่ข้าพเจ้า และท่านก็บอกว่า “คนนี้ไม่เก่ง (ชี้มาทางข้าพเจ้า) สู้ไอ้คนมีฤทธิ์ไม่ได้” และท่านออกปากถามข้าพเจ้าและภรรยาไปจันท์อีกหรือเปล่าในวันพรุ่งนี้

    </dd><dd>ข้าพเจ้าและภรรยาบอกเจ้าค่ะ เป็นที่น่าปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งที่หลวงพ่อโปรดมากจริง เช้าวันที่ 20 มิ.ย.34 ข้าพเจ้าพร้อมคณะได้มีโอกาสถวายอาหารเพลกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมื่อฉันเพลแล้ว หลวงพ่อก็ได้พูดว่า ถ้าวันนี้เราไม่อยู่ ตอนกลางคืนจะถูกตัดยอด เพราะหลวงพ่อทำพิธีบวงสรวงชานหมาก ข้าพเจ้าและภรรยาและคณะ ก็เลยต้องอยู่ที่บ้านคุณสมบูรณ์จนค่ำ

    </dd><dd>ก่อนพิธีบวงสรวงหลวงพ่อได้สอนกรรมฐานและมีการฝึกมโนมยิทธิ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อยังได้ถามว่า ไอ้คนมีฤทธิ์ไปฝึกหรือเปล่า ภรรยาข้าพเจ้าตอบหลวงพ่อว่า ฝึกเจ้าค่ะ หลังจากนั้นภรรยาข้าพเจ้าก็ไปฝึกมโนมยิทธิ และหลังฝึกเสร็จ ก็ลงมากับเพื่อนภรรยาของข้าพเจ้าอีกคนหนึ่ง และได้เดินไปด้านนอกบ้านพักหลวงพ่อ

    </dd><dd>มีลูกศิษย์หลวงพ่อมาตาม บอกว่า หลวงพ่อจะทำพิธีแล้วให้รีบเข้าไป ข้าพเจ้าและภรรยาพร้อมเพื่อนภรรยา (ชื่อสุรีรัตน์) โชคดีมาก ที่ได้ไปนั่งหน้าพิธีบวงสรวงเลย เหมือนกับได้จัดเตรียมไว้ให้โดยตรง และทำให้ข้าพเจ้านึกถึงที่ข้าพเจ้าได้ฝันว่า หลวงพ่อมาทำพิธีบวงสรวงที่บ้านฉาง ทำให้ความฝันเป็นจริงทุกประการ หลังเสร็จพิธี

    </dd><dd>พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็แนะนำภรรยาข้าพเจ้าให้ว่า ถ้าใกล้จะคลอด ให้นำชานหมากโปรยบนศีรษะ แล้วให้อธิษฐานขอบารมีองค์สมเด็จแล้วอธิษฐานว่า “ขอให้คลอดง่ายเหมือนเทน้ำออกจากขวดฉันใด ก็ให้ลูกคลอดง่ายฉันนั้นและขอให้สะดวกทุกๆ ประการ” หลังจากนั้นมา ครบกำหนด 9 เดือนเต็ม ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย.34 เวลาบ่าย 13.30 น.

    </dd><dd>ภรรยามีอาการจะคลอดลูก ภรรยาก็เริ่มเตรียมตัวที่จะไปโรงพยาบาลระยอง ก่อนออกจากบ้าน ได้นำชานหมากหลวงพ่อมาทำตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแนะนำทุกอย่าง พอไปถึงโรงพยาบาลก็คลอดโดยการผ่าตัด และลูกที่ออกมาเป็นธิดา ออกเวลา 15.20 น. ชื่อ ด.ญ.บุญธิดา กาญจนกุล หลังจากคลอด ข้าพเจ้าก็ได้นำน้ำมันชาตรีและน้ำมนต์ของหลวงพ่อไปเจิมกระหม่อมลูกสาว และให้ดื่มน้ำมนต์พระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งแม่และลูก หลังจากผ่าตัดแล้ว
    </dd><dd>บุตรสาวแข็งแรงมาก แต่ภรรยาข้าพเจ้าอาการไม่ดีขึ้น มีไข้ขึ้นวันละ 3 ครั้ง ข้าพเจ้าก็ได้นำน้ำมันชาตรีและน้ำมันของหลวงพ่อไปเจิมกระหม่อมลูกสาว และให้ดื่มน้ำมนต์ หลังจากผ่าตัดแล้ว บุตรสาวแข็งแรงมาก แต่ภรรยาข้าพเจ้าอาการไม่ดีขึ้น มีไข้ขึ้นวันละ 3 ครั้ง ข้าพเจ้าก็ได้นำน้ำมันชาตรีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้อธิษฐานโปรดเมตตา สงเคราะห์ให้ภรรยาหายจากการป่วยในครั้งนี้ด้วย ก็ดื่มน้ำมันชาตรีไป 1 ช้อนชา

    </dd><dd>หลังจากนั้นวันหนึ่งพี่สาวภรรยาที่เฝ้าภรรยา ได้ฝันเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลระยอง และในฝันภรรยาจะก้มกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อพูดขึ้นว่าไม่ต้องก้มเพราะยังเจ็บแผลอยู่ ให้ลูกอดทนหน่อยเดี๋ยวก็หายแล้ว หลังจากนั้นหลวงพ่อก็กลับ พอภรรยาทราบข่าวว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อมาเยี่ยม ถึงกับน้ำตาไหลออกนองหน้า

    </dd><dd>ทำให้ข้าพเจ้าและภรรยารู้สึกซาบซึ้ง หลังจากผ่าตัดมา 16 วัน แพทย์ที่โรงพยาบาลระยองยังหาสาเหตุไม่พบว่า ภรรยาของข้าพเจ้าเป็นอะไร ทั้งที่พาไปถ่ายอุลตราซาวนด์ก็บอกว่าปกติทุกอย่าง แต่อาการของภรรยาก็ไม่ดีขึ้น ก็มีอาการตาเหลืองตัวเหลืองและมีไข้ขึ้นทุกๆ วัน และในวันเดียวกัน 11 ต.ค. หมอก็ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้โดยหาสาเหตุไม่พบ

    </dd><dd>หลังจากกลับมาบ้าน ได้ถึงวันที่ 28 ต.ค. 2534 ในวันนี้ภรรยาของข้าพเจ้าได้ตกเลือดถึง 3 ครั้ง และเลือดไม่ยอมหยุดจนสลบ ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจไปหาหมอที่ระยองโดยข้าพเจ้าไปคนเดียว ข้าพเจ้าตั้งใจจะขอใบส่งตัวเพื่อจะไปหาที่รักษาใหม่ และข้าพเจ้าได้พูดคุยกับนายแพทย์ที่ระยองและได้ใบส่งตัว กลับมาถึงบ้านฉาง ข้าพเจ้าก็ตกใจ เพราะภรรยาของข้าพเจ้าก็สลบอีกครั้ง

    </dd><dd>ข้าพเจ้าใช้มือตีหน้าภรรยา เพื่อให้รู้สึกตัว ข้าพเจ้าเลยตัดสินใจตามรถของพี่ชายไปส่งที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา ข้าพเจ้าได้บอกกับภรรยาว่า ให้ระลึกถึงและขอบารมีหลวงพ่อช่วยสงเคราะห์ ภรรยาของข้าพเจ้าก็ทำตาม พอไปถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล นายแพทย์ก็รีบนำตัวเข้าห้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หมอได้มาบอกกับข้าพเจ้าว่า มีเศษรกและก้อนเลือดก้อนใหญ่และมีหนองค้างอยู่มากและติดเชื้อมา และมดลูกลอยสูงติดลิ้นปี่ และถ้ามาช้าอีกไม่กี่ชั่วโมง ภรรยาของข้าพเจ้าต้องเสียชีวิตแน่ เพราะเลือดในตัวไม่เหลือแล้ว และหมอบอกว่า ปกติถ้ารกค้างอยู่ จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 7 – 9 วัน ต้องเสียชีวิต แต่ภรรยาของข้าพเจ้าอยู่มาถึง 1 เดือนกับ 2 วัน หมอก็แปลกใจว่าอยู่มาได้อย่างไร </dd><dd>ตรงนี้ขอบอกตรงๆ เลยว่า เป็นบารมีของหลวงพ่อแท้ๆ ที่ทำให้ภรรยาของข้าพเจ้ารอดชีวิตมาได้ หลังจากออกจากห้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์แล้ว หมอก็ส่งภรรยาข้าพเจ้าไปห้องไอ ซี ยู เพื่อเตรียมตัวผ่าตัดในวันเดียวกัน พออยู่มา 2 – 3 วัน ทุกอย่างไม่ดีขึ้น ก็เติมเลือดจนครบ 8 ขวด และก็ต้องผ่าตัดมดลูกทิ้ง เพราะเกิดอาการเน่าในมดลูกแล้ว หลังจากผ่าตัดเรียบร้อยจนถึง 8 วัน ภรรยาก็ดีขึ้นมาทุกอย่าง จนกลับบ้านได้และถึงขณะนี้ก็เป็นปกติแล้ว

    </dd><dd> นี้เป็นเรื่องราวที่ข้าพเจ้าเล่าย่อๆ ไม่ละเอียดมาก และยังมีอีกหลายเรื่องข้าพเจ้ายังไม่นำมาเล่าเป็นประสบการณ์ของชีวิตที่ได้พบ และได้ร่วมทำบุญกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ในชีวิตนี้ข้าพเจ้าและภรรยาไม่ทราบว่าจะหาคำพูดใด ที่จะพูดถึงความประทับใจในองค์หลวงพ่อ ที่ได้สงเคราะห์ลูกหลานมากมายเช่นนี้ หาที่สุดจะพรรณนาได้ เรื่องที่เล่ามานี้ ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยให้กับข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าแต่งหรือเขียนไม่เก่ง แต่ทุกอย่างที่เล่ามาเป็นความจริงทุกประการ</dd><dt>(จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 หน้า 465 - 469)
    </dt>

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1398#93
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2015
  5. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0049.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0049.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0049.jpg"/></a>
     
  6. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__8413215.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__8413215.jpg" border="0" alt=" photo S__8413215.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/S__8413205.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/S__8413205.jpg" border="0" alt=" photo S__8413205.jpg"/></a>
     
  7. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0030_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0030_1.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0030_1.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Amulets2015/DSC_0026_1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Amulets2015/DSC_0026_1.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0026_1.jpg"/></a>


    เหรียญรุ่นพลังทิพย์ ของวัดมะทาย อ.มะขาม จังหวัดจันทบุรี

    ด้านนึงเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมและเทพโป๊ยเซียน อีกด้านเป็นรูปเทพไต่เสี่ยฮุกโจ้ว (เจ้าพ่อเห้งเจีย)

    เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าซุง พิธีเดียวกับ 2 รุ่นด้านบน แจกแก่ผู้ร่วมทำบุญกฐินปี 2558 ที่ผ่านมาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2016
  8. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    พระพุทธองค์กลางงดงามมากๆครับพี่วรรณ บูชามาจากไหน ราคาเท่าไรครับ

    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน
     
  9. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112

    น้อมกราบหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยานครับ

    สวัสดีครับพี่ๆลูกหลานหลวงพ่อทุกๆท่าน :cool:



    [​IMG]
     
  10. izeberry

    izeberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +1,482
    [​IMG]
     
  11. izeberry

    izeberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +1,482
    [​IMG]

     
  12. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,845
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่วรรณชัย,ท่านพี่วุฒิ,คุณsupatach,คุณtaoreedman,คุณfive304,คุณThis_old_man,คุณpalmcc38,คุณyommatood, คุณizeberry , คุณtossa ,คุณช่างชิต,คุณjj85,คุณ6ThSense,น้องแพน, พี่รุ่ง, พี่กฤต, คุณเพชร,คุณชาตรี ช้างน้อย ,คุณออกพราน,คุณrung847,พี่chopper,คุณระงับ,คุณsylvenus,คุณรัก_ในหลวง ,คุณramo , คุณCobraa ,คุณนิช,คุณpowergen, คุณKRITVEE ,คุณบารมี10 คุณเมฆดำ ,คุณหมาอ้วน และศิษย์วัดท่าซุงผู้มีจิตใจดีงามทุกๆท่าน.(^__^)
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    เป็นสมเด็จองค์ปฐมขนาด 1.9 นิ้วเนื้อสำริดของวัดท่าซุงครับคุณนอร์ มีเฉพาะผู้สั่งจองเท่านั้นนะครับ ราคาตามหลังไมค์ที่บอกไป

    ถ้าอยากได้ไว้บูชาคงต้องรอออกเป็นเนื้อเรซิ่นในปีหน้าครับ
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    ขอบคุณมากครับคุณธีร์ที่ช่วยนำมาโพสต์ให้อ่านทั่วถึงกัน:cool::cool::cool::cool::cool:
     
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/5201314.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/5201314.jpg" border="0" alt=" photo 5201314.jpg"/></a>
     
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <dd><center>ความผูกพัน

    </center>
    <center>ธัญนันท์ วรรณศรี</center>

    </dd><dd>ดิฉันได้อ่านพบในหนังสือ “ธัมมวิโมกข์” เดือนพฤศจิกายน 2534 บอกไว้ว่ายังรับข้อเขียนของลูกศิษย์ ซึ่งมีความประทับใจในองค์หลวงพ่อ จะเป็นด้านใดด้านหนึ่งก็ได้ จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2534 ข้าพเจ้าอยากเขียนนะ แต่ก็กลัวว่าข้อความคงไม่สละสลวย คิดแล้วก็พับเก็บ ไม่เขียนแล้วล่ะ ปัญญาเราน้อย เขียนไปคนเค้าคงจะหัวเราะเอา

    </dd><dd>...แต่แล้วเลาต่อมาข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงๆ หนึ่งบอกข้าพเจ้าว่า เขียนเถอะๆ...ตัดสินใจเขียนก็เขียน ข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจในองค์หลวงพ่อ คงจะเป็นประโยชน์ เป็นข้อคิด เป็นกำลังใจให้เราๆ ท่านๆ ไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้ เอากันชาตินี้ล่ะ ไม่มีชาติหน้า

    </dd><dd> ก่อนจะได้กราบองค์หลวงพ่อ</dd><dd>
    </dd><dd>ข้าพเจ้าจำได้ว่า ปี พ.ศ.2528 มีผู้ชักชวนข้าพเจ้าไปเที่ยววัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ เค้าบอกว่า วัดนี้มีธรรมชาติสวยงาม ข้าพเจ้าไม่มีความซึ้งในธรรมใดๆ เลย ตกลงว่า ไปก็ไป เช่ารถตู้ไปกัน พอไปถึงข้าพเจ้าก็ยอมรับว่า วิว ทิวทัศน์ ธรรมชาติสวยงามเหลือเกิน ต้นไม้พันปีต้นใหญ่โตมาก เงยจนสุดคอแล้วยังไม่เห็นยอดเลย ผู้นำเที่ยวบอกว่าหลวงพ่อจำเนียร สีลเสธโฐ ท่านเป็นผู้พบสถานที่ได้สร้างวัดในเวลาต่อมา

    </dd><dd>หลวงพ่อให้ทุกคนรักษาต้นไม้ รักษาธรรมชาติ เพื่อจะได้เป็นสมบัติของคนรุ่นหลังต่อไป เมื่อข้าพเจ้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อจำเนียรท่านทักทายดีแล้ว บอกให้ไปกินข้าวในโรงครัว มีอาหารเลี้ยงตลอด ขอให้พักผ่อนให้สบาย พอถึงเวลากลับก็ไปลาท่าน ช่วยกันรวบรวมปัจจัยถวายท่าน หลวงพ่อท่านมองหน้าทุกๆ คน แล้วอยู่ๆ ท่านก็พูดว่า “คนอื่นกลับไปก่อนก็แล้วกันนะ”

    </dd><dd>แล้วก็ชี้มาทางข้าพเจ้าบอกว่า “ให้ลูกสาวคนนี้อยู่ก่อน ถือศีลที่วัดก่อน จะให้แม่ชีช่วยจัดที่พักให้” เอาล่ะสิ...ไหงเป็นงั้น ข้าพเจ้าคิด ไอ้คณะเดินทาง ตอนนี้เลยเป็นลูกทุ่งวงแตกกันซะแล้วสิ พวกเขากลัวว่า ข้าพเจ้าจะเป็นตัวซวยซะละมากกว่า เพราะต้องเดินทางไกล ถ้าข้าพเจ้าเดินทางกลับด้วย อาจจะต้องไปกันทั้งชุด ไปไหนรึ..ก็ไปเฝ้าลุงพุฒิไงล่ะ

    </dd><dd>ตกลงข้าพเจ้าก็ไม่ได้กลับพร้อมคณะ ข้าพเจ้าไม่รู้จักใคร รู้จักหลวงพ่อเพียงองค์เดียว ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่วัดสักกี่วัน ข้าพเจ้าเข้าไปขอหลวงพ่อขออยู่แค่คืนเดียว โธ่...แค่คืนเดียวก็แย่แล้ว หลวงพ่อมองหน้าข้าพเจ้าสักพักก็ยิ้มบอกว่า “ลูกสาว เธออยู่สัก 3 วันนะ ให้ครบองค์ 3 ไงล่ะ” จนปัญญา อยู่ก็อยู่ หลวงพ่อจำเนียรท่านสงเคราะห์ข้าพเจ้ามาก ข้าพเจ้าระลึกถึงพระคุณด้วยความเคารพเสมอมา

    </dd><dd>ท่านสอนข้าพเจ้าสั่งกรรมฐาน สอนให้เดินจงกรม สอนพิจารณากาย อสุภะ เรียกว่าสอนทุกอย่างที่ปัญญาข้าพเจ้าจะรับได้ พอถึงวันที่ 3 ท่านเดินมาที่ข้าพเจ้าแล้วบอกว่า (ข้าพเจ้าหัดเดินจงกรมอยู่) “ต่อไปเธอเพ่งกระดูกนะ ของเก่าเธอมีก็รู้สึกอย่างนั้น” ข้าพเจ้ามองเห็นโครงกระดูกตัวเองทั้งตัว เริ่มรู้สึกได้อารมณ์กรรมฐานบ้างแล้ว

    </dd><dd>ไม่รู้สึกห่วงอะไร เบื่อร่างกาย เบื่อการเกิด บอกได้แต่เพียงว่า ข้าพเจ้าไม่อยากกลับมาเกิดอีกเลย ตัดสินใจเข้าไปบอกหลวงพ่อจำเนียรว่า ขอปฏิบัติธรรมต่อให้ถึง 7 วัน หลวงพ่อหัวเราะ ข้าพเจ้าเลยถามท่านว่า รู้ใช่มั้ยว่า ข้าพเจ้าจะต้องอยู่ถึง 7 วัน ท่านยิ้ม แล้วพูดว่า

    </dd><dd> “อยากให้เธอปฏิบัติธรรมสร้างความเพียรน่ะ คนอื่นนั่งทั้งชาติไม่ได้อะไร ปัญญาก็ไม่เกิด เอ้า! หลวงพ่อให้หนังสือ เธอชอบมากใช่มั้ย” เห็นปกหนังสือเขียนว่า “มโนมยิทธิและประวัติของฉัน” มีรูปพระเดชพระคุณหลวงพ่ออยู่หน้าปก ข้าพเจ้าชอบใจมาก เรียกว่าอ่านกันทั้งคืนไม่ต้องพักหลับนอน เพราะอ่านแล้วข้าพเจ้าวางไม่ลง

    </dd><dd>ชอบใจลีลาการเขียนที่เข้าใจง่ายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งมีตอนหนึ่งบอกว่า “ฉันนึกภาพพระ ไปไหนฉันก็เอาพระไปด้วย พระอยู่กับฉันตลอดเวลา ทั้งในอก ทั้งครอบตัวฉันอยู่” ข้าพเจ้าลองนึกมั่ง ตั้งแต่นั้นมา...พระแก้วใสก็อยู่ทั้งในอก ทั้งคลุมตัวข้าพเจ้าตลอด ทำให้ข้าพเจ้าสนใจอยากฝึกมโนมยิทธิ และเมื่อกลับจากกระบี่ ข้าพเจ้าก็มาที่บ้านสายลมเพื่อรับการฝึก

    </dd><dd>เมื่อข้าพเจ้ารับการฝึก</dd><dt></dt><dt></dt><dd>
    </dd><dd>ข้าพเจ้าได้กราบ ถวายสังฆทานหลวงพ่อครั้งแรกในชีวิตด้วยปีติเปี่ยมล้น ต้องแอบไปร้องไห้คนเดียว เมื่อถึงเวลาก็ไปรับการฝึกกับครูที่ชั้นบน ครูฝึกเป็นผู้ชาย ท่านเมตตาข้าพเจ้ามาก ข้าพเจ้าเองไปแบบโง่ๆ เรียกว่าไม่รู้อะไรเลย ผลที่ได้รับก็คือ ข้าพเจ้าขึ้นพระนิพพานได้ ได้กราบพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงยกพระหัตถ์ลูบศีรษะของข้าพเจ้า ดึงข้าพเจ้าไปกอดไว้ ข้าพเจ้าน้ำตาไหลพรากไม่หยุด จนครูฝึกนำกระดาษทิชชู่มาให้เช็ดหลายครั้ง

    </dd><dd>พระองค์ทรงสอนให้ข้าพเจ้ากระทำแต่กรรมดี ข้าพเจ้าดีใจเกือบตาย หมดสงสัย พระนิพพานไม่สูญ วิชชาของพระพุทธเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าหมดความสงสัย ความปรารถนาพระนิพพานในอนาคตกาลไม่มีอีกแล้วสำหรับข้าพเจ้า ยิ่งพอข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือ “ประวัติหลวงพ่อปาน” ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าตระหนักชัดว่า หลวงพ่อเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งครู เป็นผู้ที่ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจพระนิพพานเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้

    </dd><dd>พระเมตตา...ที่พึ่งสูงสุด
    </dd><dd>ข้าพเจ้าทราบว่า เสาร์ อาทิตย์ ต้นเดือน หลวงพ่อจะมาที่ซอยสายลม เพ่อสอนกรรมฐาน ถึงแม้จะอยู่ไกลแค่ไหน ข้าพเจ้าก็จะพยายามทำบุญกับหลวงพ่อของข้าพเจ้า ครั้งหนึ่งในความทรงจำของข้าพเจ้า ไม่อาจให้ผ่านไปได้โดยไม่ได้กล่าวถึง คือบ้านเกิดข้าพเจ้าอยู่ไกลทางภาคอีสาน ข้าพเจ้ากำลังทุกข์ใจในหลายๆ เรื่อง เมื่อรู้กำหนดว่าหลวงพ่อจะมา ข้าพเจ้าจึงตั้งใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมากราบหลวงพ่อและร่วมทำบุญ

    </dd><dd>ข้าพเจ้าเดินทางด้วยรถโดยสารพร้อมลูกชาย ระยะเดินทางร่วม 8 ช.ม. ข้าพเจ้านั่งคิดถึงเงินในกระเป๋า ทำไมข้าพเจ้าไม่มีสตางค์เยอะๆ นะ ข้าพเจ้าจะได้ทำบุญกับหลวงพ่อให้เต็มอิ่ม แต่นี่ค่าเดินทางก็ครึ่งพันแล้ว เงินเหลือทำบุญไม่มาก ยังค่ากิน ค่ารถขากลับอีก ใจก็คิดว่ามีไม่มีก็จะทำบุญล่ะ คิดถึงหลวงพ่อ นั่งมาในรถภาวนาพุทโธเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน

    </dd><dd>รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้กลิ่นยานัตถุ์ฉุนชินจมูก ใจลูกคิดขึ้นมาว่ากลิ่นยานัตถุ์หลวงพ่อนี่นา ข้าพเจ้าเหลียวซ้ายแลขวา หลวงพ่อยืนอยู่ข้างตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สามารถบอกความรู้สึกในขณะนั้นกับท่านทั้งหลายได้เลย หลวงพ่อมองข้าพเจ้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเมตตายิ่งนัก ท่านยกมือลูบศีรษะข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายกมือไหว้

    </dd><dd>พอข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้น หลวงพ่อหายไปแล้ว ความปีติในครั้งนั้นข้าพเจ้าปีติจนสะอื้น เวลาใดที่ข้าพเจ้าหมดกำลังใจ ต้องการที่พึ่ง หลวงพ่อไม่เคยทิ้งข้าพเจ้า ไม่เคยทิ้งลูกหลานของท่านเลย ข้าพเจ้าเก็บความปีติมานาน จนกระทั่งหลวงพ่อได้มาวัดที่ระยองคือวัดเขาไผ่ เพื่อยกช่อฟ้า ข้าพเจ้าได้มาทำบุญกับหลวงพ่อ จึงได้ถามหลวงพ่อว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าพบจริงหรือเปล่า (ดูสิสงสัยอีกแล้ว) หลวงพ่อตอบว่า ...รู้แล้วยังถามอีก ไอ้ขี้หมา ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจแบบสุดสุดในชีวิต ที่ได้พบความเมตตาจากหลวงพ่อ ด้วยอภิญญาที่ข้าพเจ้าจะลืมไม่ได้ตลอดชีวิต

    </dd><dd>ลุงพุฒิ...และหลวงพ่อ</dd><dt></dt><dd>ข้าพเจ้าไปซอยสายลม ก่อนสอนกรรมฐานในตอนค่ำ ข้าพเจ้าเห็นคนเขียนปัญหาไปให้ลุงยกทรง ช่วยถามหลวงพ่อให้ ข้าพเจ้าเกิดอยากถามมั่ง เพราะเพื่อนชวนไปดูหมอ เค้าทักข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าจะประสบเคราะห์กรรมหนักมาก ถึงกับต้องเสียอวัยวะ ข้าพเจ้าก็กังวลจะต้องประสบในเดือนเมษายน 2532 ข้าพเจ้าก็เลยตัดสินใจเขียนปัญหาไปถามหลวงพ่อ

    </dd><dd>ท่านเมตตาตอบว่าให้ปล่อยปลา 2 ตัว ปลาอะไรก็ได้ อธิษฐานขอชีวิต ข้าพเจ้าก็ตั้งใจไปทำตามหลวงพ่อบอก ในวันนั้นข้าพเจ้าได้อยู่ร่วมสวดอิติปิโส 3 ห้องถวายหลวงพ่อ 3 จบ ก่อนที่จะพากันโยกย้ายกลับบ้าน พอสวดเสร็จ หลวงพ่อก็พูดออกไมค์ว่า “เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งลุกๆ เมื่อกี้ลุงเค้าแต่งเต็มยศมาเลยนะ ควงกระบองมาด้วย ใครนะที่จะมีเคราะห์เดือนเมษาน่ะ

    </dd><dd>ลุงเค้ามาบอกว่า ให้ปล่อยปลา 2 ตัว พร้อมกับดอกมะลิ 5 ดอก ไปกราบพระประธานวัดไหนก็ได้นะ กราบขอพร ขอให้ช่วยรักษาขันธ์ 5 ให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงนะ” ข้าพเจ้าซึ้งใจจนน้ำตาซึม ที่ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อ จากลุงพุฒิ พระคุณของหลวงพ่อและลุงพุฒิที่มีความเมตตาสงเคราะห์ต่อลูกหลานหาประมาณมิได้ ข้าพเจ้าต้องจดจำไปตลอดชีวิตของข้าพเจ้าทีเดียว

    </dd><dd>ชานหมาก รุ่นครกหิน
    </dd><dd>ปกติข้าพเจ้าจะคอยติดตามข่าวของหลวงพ่อจากหนังสือ “ธัมมวิโมกข์” เสมอๆ ถ้าหากมีเวลา ทราบว่าหลวงพ่อจะไปไหน ถ้าข้าพเจ้าพอมีเวลา ข้าพเจ้าก็จะตามไปทำบุญด้วยเสมอ เมื่อทราบข่าวว่าหลวงพ่อจะไปยกช่อฟ้าที่วัดเขาไผ่ ข้าพเจ้าพร้อมพรรคพวกที่พัทยา ก็จะรวมกันเหมารถตามไปทำบุญร่วมกับหลวงพ่อ ใจมันฟูตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง พอไปถึง

    </dd><dd>หลวงพ่อก็ทักข้าพเจ้าว่า “เฮ้ย! พวกเอ็งมาจากพัทยาเหรอลูก มากันกี่คนล่ะลูก” ข้าพเจ้าตอบหลวงพ่อไปว่า มา 12 คนเจ้าค่ะ หลวงพ่อบอกว่า “เมื่อคืนนี้หมดแรง เข้าส้วมท้องเสียซะแทบยืนไม่อยู่” ข้าพเจ้าสงสารหลวงพ่อที่ต้องทรมานร่างกายให้ลูก ให้หลานได้ชื่นชมบารมี เป็นข้าพเจ้าคงไม่สู้แน่ๆ

    </dd><dd>ข้าพเจ้าเคยไปกราบสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา หลวงปู่ท่านจะคุยถึงหลวงพ่อด้วยความชื่นชมเสมอว่า “หลวงพ่อฤาษีนะเหรอ องค์นี้ ท่านทำเพื่อศาสนา เพื่อกรรมฐานเขาไม่ยอมแพ้ จนหมดลมนั่นแหละ ต้องยกให้เขานะ” ความปีติใจอันนี้ อยู่ในใจข้าพเจ้าตลอดเวลา ข้าพเจ้าเห็นผู้คนเข้าไปทำบุญกับหลวงพ่อ จะได้พระคำข้าวบ้าง แหนบทองบ้าง ซึ่งบางคนก็ขอชานหมาก หลายๆ คนรอจ้องจะขอชานหมากหลวงพ่อ รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย
    </dd><dd>
    </dd><dd>หลวงพ่อก็กำลังเคี้ยวหมากยังไม่ทันละเอียดด้วยซ้ำ ก็มีท่านผู้ศรัทธาในองค์หลวงพ่อท่านหนึ่ง เป็นผู้หญิงเข้าไปขอชานหมก หลวงพ่อก็บอกว่า “เฮ้ย! มันต้องมีค่าไถ่” พร้อมกับหัวเราะ เธอก็ควักสตางค์ออกมาถวายหลวงพ่อทันที เรียกว่าทันทีทันใด หลวงพ่อก็ต้องคายชานหมากในปากให้เธอไป เอาละซิคราวนี้ ชักจะมีคนอยากขอไถ่ชานหมาก

    </dd><dd>เรียกว่า นับกันไม่ไหวเลยล่ะ หลวงพ่อก็เลยหัวเราะ หันไปพูดกับลุงยกทรงว่า อย่างนี้มันต้องใช้ครกตำนะ ข้าพเจ้าบอกหลวงพ่อทันทีนั่นเองว่า หลวงพ่อ หนูไปเอาเอง พร้อมกับวิ่งไปในครัวของวัด ได้ยินเสียงหัวเราะของหลวงพ่อ และลุงยกทรงไล่หลังทางลำโพงว่า “ไอ้ขี้หมานี่มันเร็วจริงๆ ว่ะ” ข้าพเจ้าไปขอครกในครัว ล้างอย่างดีมาจนได้ ก็ครกหินตำพริกแกงนั่นแหละ ความที่อยากได้ชานหมากแทบหายใจไม่ออก

    </dd><dd>ผู้ศรัทธาแทบจะเหยียบกัน หลวงพ่อก็เลยตำหมากในครกหิน บอกว่า โยม ฉันจะแบ่งเป็น 2 ถุงนะ พัทยา 1 ถุง บ้านฉาง 1 ถุง เอาไปแบ่งกันนะ อีตอนแบ่งกันก็เอาอีกแล้ว คนนั้นคนนี้มันเยอะจริงๆ พอเหลือถึงข้าพเจ้าก็เหลือเพียงน้ำหมาก และเศษของชานหมากนิดหน่อยเท่านั้น แต่ความปีติไม่ได้หมดไป ข้าพเจ้าปลื้มใจมาก นำมาบูชา

    </dd><dd>พอไปเปิดดูน้ำหมากแห้งเป็นเกล็ดเล็กๆ ซึ่งทำให้ดีใจจนน้ำตาไหล น้ำหมาก, ชานหมากของหลวงพ่อ ต่อไปคงจะกลายเป็นพระธาตุแน่นอนที่สุด กำลังใจของข้าพเจ้ามั่นคงเสมอต่อองค์หลวงพ่อ อีกสิ่งหนึ่งซึ่ง ข้าพเจ้าปลาบปลื้มใจคือ ข้าพเจ้าได้เช่ารูปเหมือนองค์ยืนของหลวงพ่อไปบูชา ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยสังเกตจนเห็นปกท้ายเล่มหนังสือธัมมวิโมกข์ ลงข่าวเรื่องพระรูปเหมือนองค์ยืน เป็นพระธาตุ ข้าพเจ้าก็ไปเอาของข้าพเจ้ามาดูมั่ง

    </dd><dd>ของข้าพเจ้าเป็นเกล็ดขาวๆ บนแก้วที่มุมปากของรูปเหมือน และบริเวณลำคอด้วย เมื่อข้าพเจ้าไปทำบุญซอยสายลม จึงได้ถามหลวงพ่อว่า เป็นพระธาตุหรือไม่ หลวงพ่อตอบว่า ใช่ เป็นพระธาตุ ข้าพเจ้าดีใจมาก หลวงพ่อบอกว่า “พระท่านรู้ กำลังใจของคนที่บูชานะ พระท่านจึงสงเคราะห์” ข้าพเจ้าทั้งปลื้มใจ ดีใจ ใจข้าพเจ้าฟู ความดีที่ข้าพเจ้าทำไม่สูญไปไหน ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้านั้นจริงที่สุด

    </dd><dd>ด้วยความรักและผูกพัน
    </dd><dd>ทุกๆ ครั้งที่ข้าพเจ้ามาถวายสังฆทานหลวงพ่อ มาร่วมบุญร่วมกุศลกับลูกหลานหลวงพ่อ ข้าพเจ้าจะนั่งมองหลวงพ่อ ใจข้าพเจ้าก็คิดถึงพระแก่ๆ องค์หนึ่ง (ลูกกราบขอขมาลูกหลวงพ่อไว้ ณ ที่นี้ด้วย สังขารหลวงพ่อแก่ แต่อทิสมานกายไม่แก่เจ้าค่ะ) ที่มีความรับผิดชอบสูง มีพรหมวิหาร 4 ท่วมท้น กำลังใจที่มหาศาลยิ่งนัก แม้จะเจ็บไข้แทบพยุงตัวไม่อยู่ ดูเถอะ...ดู กำลังใจของหลวงพ่อของข้าพเจ้า ของทุกๆ ท่าน

    </dd><dd>เคยเห็นหลวงพ่อย่อท้อไหม? ไม่เคย...สมเป็นชายชาตินักรบ กล้าแกร่ง แม้จะต้องทรมานสังขารสักเท่าใด แต่...สองมือหลวงพ่อยังโอบอุ้ม ทั้งลากทั้งจูงลูกหลาน ให้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบัน ชี้ให้ลูกหลานได้พ้นทุกข์ทั้งปวงด้วยความฉลาด ชี้แนะให้เข้าใจพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ ด้วยบุญกุศลที่หลวงพ่อได้สร้างมาทั้งหมดและจะสร้างต่อไป ลูกขอกราบอนุโมทนาบุญกับหลวงพ่อด้วยเถิดเจ้าค่ะ

    </dd><dd>ขออานุภาพแห่งแก้ว 3 ประการ ขอจงดลบันดาลให้หลวงพ่อมีอายุยั่งยืนนาน มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงตลอดไป ขอให้ความหวัง ซึ่งหลวงพ่อตั้งไว้สำหรับลูกหลานทุกคนจงสำเร็จผลด้วยเถิดเจ้าคะ</dd>



    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 หน้า 454 - 458)


    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1398#90
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2015
  17. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/DSC_0033.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/DSC_0033.jpg" border="0" alt=" photo DSC_0033.jpg"/></a>
     
  18. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Newest2014/14879_253371604840299_2074415660_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Newest2014/14879_253371604840299_2074415660_n.jpg" border="0" alt=" photo 14879_253371604840299_2074415660_n.jpg"/></a>
     
  19. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สวัสดีพี่วรรณ พี่ปู คุณน๊อต และทุกๆท่าน
     
  20. T-rexx

    T-rexx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2015
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +420
    เห็นภาพ สุนัข แล้ว พันธุ์นี้น่าจะดุ แต่ดูแล้ว มันคงไม่เนรคุณ กัด ท่านเจ้าอาวาสนะครับ

    หลวงพ่อท่านเคยกล่าวว่า " อย่าคิดว่าเราดีกว่าหมา" ท่าจะจริงนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...