ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เห็นเผยแผ่เรื่องน้ำท่วมโลก โลกจะแตกมาหลายปี ขอเห็นสิ่งที่คุณเกษมเตรียมหน่อยเถอะครับ

มันคงจะล้ำยุคน่าดู เพราะเห็นมีความรู้จากyoutube มากกว่าชาวบ้านเขา

 

ประกาศเตือน 'หว่ามก๋อ' กระทบภาคกลาง-ตะวันออก-ใต้ ระวังฝนตกหนัก​

​

กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับ 18 เตือน ​'หว่ามก๋อ' ยังเคลื่อนตัวอยู่ในภาคกลางและภาคตะวันออก เตือนทุกภาครับมือฝนตกหนัก-หนักมาก คลื่นลมอันดามันและอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ชาวเรือโปรดระวัง...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 หลังจากที่พายุโซนร้อน 'หว่ามก๋อ' ขึ้นชายฝั่งประเทศเวียดนาม และลดลงเหลือดีเปรสชั่น จนถึงขณะนี้ลดเหลือหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนตัวเข้าประเทศไทย ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ก.ย. 58) เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ตราด จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 18 เรื่อง พายุหมุนเขตร้อนบริเวณทะเลจีนใต้ ระบุ หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) ยังคงปกคลุมบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ยังคงมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

จึงขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก รวมถึงฝนที่ตกสะสม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 17-18 กันยายน 2558

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

ประกาศ 'พัทยา' พื้นที่ภัยพิบัติ หลังเจอฝนถล่มน้ำทะลัก​

​

ชลบุรีประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมหลายอำเภอ รวมถึงเมืองพัทยา ด้าน นายกเมืองพัทยา เผย สามารถระบายน้ำได้ทั้งหมดแล้ว หลังเจอฝนถล่มหนัก น้ำขึ้นสูง พร้อมเพิ่มกระสอบทรายป้องกัน ขณะที่ความเสียหายไม่สามารถระบุได้ ส่งจนท.เฝ้าระวังจุดเสี่ยง...

วันที่ 17 ก.ย. 58 นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยกับ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่พัทยา ว่า ขณะนี้สามารถระบายน้ำได้ทั้งหมด ซึ่งล่าสุดทาง จ.ชลบุรี ได้ประกาศให้หลายอำเภอ เป็นเขตประสบภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึง อ.บางละมุง และเมืองพัทยา หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เก็บข้อมูลในชุมชน เช่น ย่านชุมชนที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจะมีแบบฟอร์มของทางราชการ ไปสำรวจในเรื่องความเสียหายของพี่น้องประชาชน ส่วนในเรื่องของการป้องกัน ได้ดำเนินการในส่วนของการเพิ่มกระสอบทราย บริเวณริมคลอง รวมถึงพื้นที่ลุ่มต่ำที่ปริมาณน้ำขึ้นสูงเมื่อวานนี้

"ที่ผ่านมาถือว่าย่านชุมชนและประชาชนชาวพัทยาเอง ได้ทราบว่าพื้นที่ใดมีฝนตกหนัก มีปริมาณเท่าไหร่ แต่เมื่อวานนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ ที่มาค่อนข้างหนักจริงๆ มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลา 2 ชม. ทำให้น้ำขึ้นสูง แต่ก็สามารถระบายได้ในระยะเวลาไม่กี่ชม."

ส่วนความเสียหาย ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่ในส่วนของการประเมินความเสียหายหลักๆ จะเป็นส่วนของน้ำที่เข้าบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์และยานพาหนะที่ลุยน้ำ ซึ่งจะดูแลในเรื่องของบ้านเรือน การประกอบอาชีพต่างๆ ขณะที่การบริการประชาชน เรามีการเตรียมการในเรื่องของจัดชุดเจ้าหน้าที่ตามจุดแอ่งกระทะต่างๆ ซึ่งดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว แต่จะมีการเพิ่มในส่วนของอาสาสมัครชุมชน และเพิ่มการเฝ้าระวังหลังจากกรมอุตุฯ ออกประกาศ พายุหว่ามก๋อ จะมีไปถึงช่วงสุดสัปดาห์.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

'ระยอง' น้ำท่วมสะพานขาด รถจมหาย เขื่อนแตกแค่ลือ ยัน น้ำล้นสปิลเวย์​

​

ระยอง น้ำท่วมสะพานขาด กระแสน้ำแรงพัดรถยนต์จมหาย ยังหาไม่เจอ จนท.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งช่วยเหลือประชาชน ยัน ยังสมารถรับมือได้ เตือนขนของขึ้นที่สูง เหตุจะมีมวลน้ำไหลเข้ามาอีก 5-6 ชม. ข้างหน้า

วันที่ 17 ก.ย. เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดระยอง ซึ่งนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง แจ้งว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมที่หนัก คือ ที่ตลาดมาบตาพุด อ.เมือง ระยอง มีนักเรียนประถมของโรงเรียนมณีวรรณวิทยา ติดอยู่ภายในโรงเรียน น้ำท่วมสูง ประมาณ 70 ซม. จึงได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปขนย้ายเด็กนักเรียนออกจากโรงเรียนทั้งหมด โดยมีผู้ปกครองมารอรับอยู่บริเวณถนนสุขุมวิท ซึ่งน้ำได้ลดลงมาแล้ว

ส่วนที่ อำเภอบ้านฉาง ต.สำนักท้อน มีน้ำท่วมสูง ประมาณ 2 เมตร ชาวบ้านขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และที่ถนนสายหลังโรงน้ำตาลเก่า ม.1 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง คอสะพานขาด เสาไฟฟ้าเอน เป็นสะพานเชื่อมไปยัง เขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ ชลบุรี มีรถยนต์สีขาวถูกน้ำพัดจมหายไปในคลองหลังโรงน้ำตาล ยังหาไม่พบ เพราะกระแสน้ำแรง

นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ หน.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บอกว่า ขณะนี้เหตุการณ์น้ำท่วม ในจังหวัดระยอง ไม่รุนแรง ยังสามารถออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ โดยทางเทศบาลตำบลทับมา อ.เมือง ระยอง ก็ประกาศให้ประชาชน เตรียมอพยพขนข้าวของไปไว้ในที่สูง เพราะจะมีมวลน้ำไหลเข้ามาอีก 5-6 ชั่วโมงข้างหน้า

ส่วนกรณีมีข่าวลือเขื่อนแตก ในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ตรวจสอบแล้ว พบเป็นแค่น้ำล้นจากสปิลเวย์ของอ่างคลองไผ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ อ.บ้านฉาง ล่าสุดนายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยกำลัง อส. และทหารจากค่ายนวมินทร์ฯ จ.ชลบุรี กว่า 120 นาย นำเครื่องจักรกล รถแบ็กโฮ เข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีน้ำท่วมในหลายจุดในจ.ระยอง อาทิ ถนนสุขุมวิท แยกเนินกะปรอก อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง เกิดมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ส่วนบริเวณแยกขนส่ง อ. เมืองระยอง มีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร รถยนต์จมน้ำหลายคัน โดยปริมาณน้ำจำนวนมาก ได้ไหลท่วมตามบ้านเรือนและหมู่บ้าน ที่อยู่ติดแม่น้ำลำคลอง เช่น ที่หมู่บ้านกรุงไทย ต ทับมา อ. เมือง ระยอง และห้องแถวในชอยตลาดหนองโพรง ชาวบ้านต้องขนของกันจ้าละหวั่น ขณะที่ท้องฟ้ายังมืดครืม และมีฝนตลอดเวลา ยังไม่มีทีท่า ว่า จะหยุดตก ล่าสุด ชลประทานจังหวัดระยอง สั่งเปิดประตูน้ำทุกบาน เพื่อให้น้ำไหลลงทะเลและคาดว่า น้ำคงจะลดระดับลงในเวลาไม่นาน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

หอยเต็มหาด! พัทยาหลังพายุ ชาวบ้านเฮโลเก็บขาย​

​

พัทยาหลังพายุใหญ่ น้ำท่วมแล้วไหลลงทะเล แต่ผลพวงที่ตามมาคือ สัตว์ทะเลถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกลื่อนหาด มีทั้งหอยกาบขนาดใหญ่ไปจนถึงปูม้า ชาวบ้านแห่เก็บไปขาย รวมถึงนักท่องเที่ยวร่วมมหกรรมเก็บหอยด้วย...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำระบายไม่ทันไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และถนนหลายสายในเขต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทั้งในเขตเทศบาลเมืองศรีราชา เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ รวมถึงเส้นทางถนนสุขุมวิทช่วงหน้าโรบินสันศรีราชาฝั่งไปพัทยา มีน้ำไหลบ่าเข้ามาท่วมพื้นผิวการจราจรทำให้รถจักรยานยนต์ รถยนต์จำนวนมากเครื่องดับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสภ.ศรีราชา คอยโบกรถที่ผ่านไปมาเพื่ออำนวยความสะดวก

นอกจากนี้ ยังมีที่ชุมชนตลาดฉลอง ชุมชนจ่าบรรณ ชุมชนซอยโรงเป็ด และอีกหลายจุด ที่มีน้ำท่วมขัง บางแห่งมีระดับน้ำสูงเกือบถึงหัวเข่า และไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน จนต้องยกของขึ้นไว้ที่สูงเพื่อหนีน้ำ สาเหตุจากปริมาณน้ำมาก ระบายไม่ทัน จึงไหลมารวมในที่ต่ำ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ ต้องระดมกันเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดทะเล น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ศรีราชา สัตหีบ และเมืองพัทยา น้ำได้ไหลลงทะเลจนน้ำแห้งไปหมดตั้งแต่คืนวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่ตามมา คือสัตว์ทะเล ที่มีทั้งหอยกาบขนาดใหญ่ ปูม้า และอื่นๆ ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดระหว่างหาดพัทยาเหนือ-ใต้ มีชาวบ้านเก็บไปขายได้คนละจำนวนมาก รวมถึงมีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง ลงมาเดินเก็บหอยด้วย.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

หว่ามก๋อ ทำน้ำท่วมบ้านโคราช 50 หลัง เติมเขื่อนแล้ว 20 ล้าน ลบ.ม.​

​

พิษหว่ามก๋อ ทำโคราช ฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลน้ำท่วมสูงกว่าครึ่งเมตร เอ่อล้นบ้าน ปชช.กว่า 50 หลัง ขณะเป็นผลดีต่อเขื่อนใหญ่ หลัง 2 วัน เติมน้ำลงเขื่อนใหญ่ทั้งจังหวัดได้กว่า 20 ล้าน ลบ.ม.

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 สภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังคงมีเมฆปกคลุม พร้อมกับฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำหว่ามก๋อ ซึ่งช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ฝนตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง และช่วงกลางวันจรดบ่ายฝนยังคงโปรยปราย ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนทางเข้าหมู่บ้านหนองตาคง หมู่ 8 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง ระดับน้ำสูงประมาณ 50-60 ซม. สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ชุมชนบ้านหนองโสน เขตเทศบาลนครนครราชสีมาน้ำยังคงท่วมขังบ้านเรือนราษฎร ผิวถนนและตรอกซอยต่างๆ โดยมีน้ำไหลบ่าเป็นทางยาว เนื่องจากน้ำจากบ่อหรือสระเก็บน้ำภายในค่ายสุรนารี และการประปาหนองโสน เอ่อล้นออกมาท่วมบ้านชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ระดับน้ำ 30-40 ซม.

ด้าน นายชิดชนก สมประเสริฐ ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา พร้อมด้วย หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา และนายสิทธิโรจน์ กองแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้ออกสำรวจระดับน้ำลุ่มน้ำลำตะคอง ตั้งแต่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ และตัวเมืองนครราชสีมา เพื่อประสานให้ทางประปาอำเภอ ประปาท้องถิ่น และประปาภูมิภาค เร่งสูบน้ำฝนที่ตกลงมาไปกักเก็บไว้ให้ได้มากที่สุด รวมทั้งตามอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ก็ให้ดำเนินสูบน้ำเต็มกำลัง พร้อมกับรายงานสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการ ว่า จากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่อง 2 วัน ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น โดยมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวม 13.150 ล้าน ลบ.ม.

โดยล่าสุด มีปริมาณในเขื่อนขนาดใหญ่ รวม 231.88 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 24.46 ของความจุระดับกักเก็บ 948 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างวันเดียว 9.83 ล้าน ลบ.ม. รวม 2 วัน (16-17 ก.ย.) มีน้ำไหลลงอ่างรวม 19.499 ล้าน ลบ.ม. ประกอบด้วย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำเหลือ 67.56 ล้าน ลบ.ม. (น้ำใช้การได้ 52 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 21.48 ของความจุระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่าง 2.059 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับน้ำป่าบนเขาใหญ่ และน้ำในพื้นที่ อ.ปากช่อง ยังมีน้ำป่าไหลบ่าลงมาอย่างต่อเนื่องและไหลเติมน้ำในอ่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลดีอย่างมาก ส่วนเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 27.48 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 25.07 ของความจุระดับกักเก็บ 109 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ 6.56 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 34 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 24 ของความจุระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่าง 0.46 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 56.19 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 20.43 ของความจุระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่าง 2.03 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำ 39.45 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 40.26 ของความจุระดับกักเก็บ 98 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่าง 0.77 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 โครงการ มีปริมาณน้ำเหลือ 81.81 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 36.08 ของความจุที่ระดับกักเก็บรวม 226.74 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ รวม 3.321 ล้าน ลบ.ม.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

ดินโคลนสไลด์ทับถนนแม่ฮ่องสอน หลังฝนตก 2 วัน จนท. เร่งเปิดเส้นทาง​

​

ดินโคลนสไลด์ปิดถนนบ้านแม่คะ-บ้านแม่หลุย จ.แม่ฮ่องสอน หลังชุ่มน้ำเพราะฝนตก 2 วันติด ด้าน จนท. เร่งเปิดเส้นทางบรรเทาความเดือนร้อน ปชช. หวั่นสไลด์ซ้ำ หากฝนตกเพิ่ม เตรียมหน่วยงานพร้อมช่วยเหลือทันที หากมีเหตุฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2558 นายเจแฮ พิมพ์วรรณธนา นายก อบต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน แจ้งไปยังฝ่ายปกครอง อ.สบเมย และทางหลวงชนบท ว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักเมื่อเย็นวานที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เช้าวันนี้ ดินภูเขาสไลด์ปิดทับถนนเส้นทางระหว่าง บ้านแม่คะ-บ้านแม่หลุย ต.แม่สวด หลังรับรายงาน นายพิศิษฐ์ กิจบุญอนันต์ นายอำเภอสบเมย ได้มอบหมายให้ นายจรูญ จินะกัณฑ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน เดินทางเข้าพื้นที่ตรวจงานให้ความช่วยเหลือประชาชนในทันที พบดินภูเขาสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทาง ถนนสายบ้านแม่คะ-บ้านแม่หลุย ชาวบ้านที่อาศัยเส้นทางดังกล่าวในการเดินทางได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถสัญจรไปมาได้

นายเจแฮ พิมพ์วรรณธนา นายก อบต.แม่สวด เผยว่า ถนนจุดทื่จะเข้าไปบ้านแม่หลุย รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านได้ โดยแจ้งทางหลวงชนบท ขอความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ล่าสุด เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางเข้าไปช่วยเปิดเส้นทาง คาดว่าหากเย็นนี้ฝนไม่ตกซ้ำ ชาวบ้านจะสามารถสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากพบน้ำป่ากัดเซาะถนนได้รับความเสียหายหลายจุด

ด้าน ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน เผยว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ดินภูเขาเกิดสภาพชุ่มน้ำอิ่มตัว ส่งผลให้คืนที่ผ่านมาดินและหินสไลด์ลงมาปิดทับเส้นทางการจราจร ซึ่งคาดว่าหากตลอดวันนี้ยังมีฝนตกลงมาซ้ำ ดินโคลนและหินอาจจะสไลด์ลงมาสมทบได้อีก และทางอำเภอได้เตรียมความพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดภัยพิบัติ ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ ได้จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยไว้แล้ว หากเกิดภัยพิบัติ น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ในทันที.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

ชุมพร อ.พะโต๊ะ ยังวิกฤติ น้ำป่าตัดถนนขาด 50 หลังคาเดือดร้อน​

​

น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาว อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร กว่า 50 หลัง เคราะห์ซ้ำไร้ไฟฟ้าใช้ หลังเสาล้มนับสิบต้น ต้องเดินเท้าหาซื้อของแห้งเก็บประทังชีวิต ด้าน นอภ. คาด เสียหายกว่า 3 ล้านบาท เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 58 ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอพะโต๊ะ จ.ชุมพร นายครรชิต อบแพทย์ เกษตรอำเภอพะโต๊ะ เจ้าหน้าที่ อบต.ปากทรง พร้อมด้วยกำลังตำรวจ และทหาร เข้าตรวจสอบความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้าน ที่บ้านทับขอน หมู่ที่ 5 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร หลังจากได้รับแจ้ง จากนายสมหวัง แซ่ลิ้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ว่า ในพื้นที่ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมแม่น้ำ ทำให้ถนนถูกตัดขาด เสาไฟฟ้าล้มหลายต้น ไม่มีไฟฟ้าใช้ และรถไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ ทำให้ชาวบ้านเกือบ 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน โดยระหว่างการเดินทางเป็นไปด้วยความลำบาก นายอำเภอพะโต๊ะ ต้องขอยืมรถขับเคลื่อนสี่ล้อจากหน่วยงานอื่น เนื่องจาก อำเภอพะโต๊ะ ไม่มีรถขับเคลื่อนสี่ล้อ อีกทั้งจุดที่เกิดน้ำป่าไหลหลากอยู่บนเขา จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนชาวบ้านถูกน้ำป่าพัดบ้านเรือนเสียหายบางส่วนไปหลายหลัง เสาไฟฟ้าล้มหลายสิบต้น ทำให้ชาวบ้านต้องเดินเท้าออกไปซื้ออาหารแห้งมาเก็บไว้รับประทาน และฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก

นายอำเภอพะโต๊ะ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว มีบ้านของชาวบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน 1 หลัง ถนนชำรุด 28 สาย สะพานคอนกรีตเสียหาย 3 แห่ง คอสะพานชำรุด 4 แห่ง ท่อระบายน้ำเสียหาย 17 แห่ง มูลค่าความเสียหายเกือบ 3 ล้านบาท และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

ที่มา www.thairath.co.th

 

คลื่นยักษ์สูง 5 เมตร ซัดชายฝั่งชิลี!! หลังเกิดธรณีพิโรธใหญ่ขนาด 8.3 ริกเตอร์​

​

คลื่นยักษ์ สึนามิ สูง 5 เมตร ซัดชายฝั่งชิลีแล้ว หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 8.3 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย อาคารบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก อีกทั้งยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกเขย่าซ้ำแล้วกว่า 10 ครั้ง ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิกเตือนประเทศริมชายฝั่งแปซิฟิกระวังภัยสึนามิ

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.3 เขย่าบริเวณชายฝั่งทะเลของประเทศชิลี เมื่อเวลาประมาณ​ 19.54 น. ของวันที่ 16 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ05.54 น.ของเช้าวันที่ 17 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย ว่า ได้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่โถมซัดชายฝั่งของชิลีแล้ว โดยศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิกรายงานว่า ได้เกิดสึนามิ สูงราว 5 เมตร หรือ 15.3 ฟุต ซัดชายหาดในบริเวณใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ที่เมืองโคควิมโบในชิลีแล้ว อีกทั้งยังเตือนให้ประชาชนในประเทศริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกระมัดวังอันตรายจากคลื่นยักษ์สึนามิ ทั้งที่ประเทศเปรู เอกวาดอร์ และอาจไกลไปจนถึงฮาวาย รวมถึงนิวซีแลนด์

ตามรายงานของศูนย์ธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ระบุ ได้เกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องตามมาหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ หรืออาฟเตอร์ช็อก แล้วอย่างน้อย 12 ครั้ง ความรุนแรงขนาด 4.9 หรือมากกว่านี้ในบริเวณใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวใหญ่ ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง หลังเกิดธรณีพิโรธรุนแรงครั้งแรก โดยแรงสั่นสะเทือนจากการเกิดอาฟเตอร์ช็อกยังสามารถรับรู้ได้ทั่วกรุงซานติเอโก เมืองหลวงของชิลี ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 232 กม.

ด้านนายกเทศมนตรีเมืองโคควิมโบ กล่าวต่อนักข่าวซีเอ็นเอ็นด้วยความกังวลใจ ถึงความเสียหายจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.3 ว่า ได้เกิดน้ำท่วมในเมือง และบ้านเรือนประชาชนถึง 95% เจอปัญหาไฟดับ ขณะที่เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เขย่าชิลี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย รวมทั้งที่เมืองอิลลาเปล และอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ที่ทำให้อาคารบ้านเรือนสั่นโยก จนประชาชนต่างแตกตื่นตกใจวิ่งหนีออกมาบนท้องถนนด้วยความหวาดกลัว

ทั้งนี้ ตามรายงานเบื้องต้นของศูนย์ธรณีวิทยาสหรัฐฯ แจ้งว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เกิดขึ้นห่างจากเมืองอิลลาเปล ประมาณ 54 กม. ตอนเวลาประมาณ 19.54 น. ของวันที่ 17 ก.ย. และมีความลึกจากผิวดิน 33 กม.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

บัน คี มุน ช็อก!! ฝูงชนผู้อพยพปะทะกับตำรวจฮังการี เลือดอาบ​

​

เลขาธิการยูเอ็น‘ช็อก’...รับไม่ได้ ไม่น่าเกิดเหตุการณ์ผู้อพยพปะทะกับตำรวจ ที่ชายแดนของฮังการี จนถึงขั้นยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำสลายฝูงชน ขณะที่บรรดาผู้อพยพกว่า 5 พันคน เลี่ยงผ่านทางฮังการี หลังปิดชายแดน หันไปใช้เส้นทางผ่านโครเอเชีย เข้ายุโรปแทน

เมื่อ 17 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติออกมากล่าวว่าเขารู้สึกช็อก ตกตะลึงต่อภาพเหตุการณ์บรรดาผู้อพยพหลายร้อยคนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของฮังการี เนื่องจากผู้อพยพเหล่านี้พยายามฝ่ารั้วลวดหนามกั้นชายแดนเซอร์เบีย เข้ามาในเขตแดนของประเทศฮังการี เมื่อวันพุธที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา และมีชายผู้อพยพคนหนึ่งหัวแตกเลือดอาบเต็มใบหน้า ขณะเขากำลังอุ้มเด็กชายคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน โดยเลขาธิการสหประชาชาติยังกล่าวว่า การที่รัฐบาลฮังการีกระทำการเช่นนี้กับบรรดาผู้อพยพ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะยอมรับได้ เพราะถึงขั้นปะทะกัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำสลายฝูงชนผู้อพยพ

ข่าวแจ้งว่า บรรดาผู้อพยพส่วนมากจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ ซีเรีย กว่า 5,000 คน ได้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเข้าไปในยุโรปแทนการผ่านทางฮังการี ด้วยการเข้าไปทางประเทศโครเอเชียแทน หลังจากรัฐบาลฮังการีได้ประกาศปิดชายแดน ไม่อนุญาตให้ผู้อพยพเข้ามาในประเทศ เมื่อวันอังคารที่ 15 ก.ย. รวมทั้งยังมีการตั้งรั้วลวดหนามและแนวแบริเออร์กั้นบริเวณจุดผ่านแดนโดยตลอด

ขณะที่ บีบีซีรายงานว่า มีผู้อพยพราว 7,266 คน หลั่งไหลเข้าไปในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศปลายทางสุดท้ายของบรรดาผู้อพยพ ขณะที่บรรดาประเทศในสหภาพยุโรปยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดการวิกฤตการณ์ผู้อพยพทะลักเข้ายุโรป

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

ตร.ฮังการียิงแก๊สน้ำตา สกัดผู้อพยพฝ่าแนวกั้นชายแดนเซอร์เบีย​

​

เมื่อวันพุธตำรวจปราบจลาจลของประเทศฮังการี ตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้อพยพซึ่งมารวมตัวกันบริเวณชายแดนประเทศเซอร์เบีย หลังจากมีผู้อพยพกลุ่มหนึ่งพยายามฝ่าแนวรั้วกั้นพรมแดนเข้าสู่ฮังการี...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากลุ่มผู้อพยพจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่หลบหนีเหตุความรุนแรงมาจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ติดค้างอยู่บริเวณชายแดนเซอร์เบียที่เชื่อมต่อกับประเทศฮังการี หลังจากรัฐบาลฮังการีดำเนินการปิดทางข้ามชายแดนสุดท้ายเมื่อวันอังคาร อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพบริเวณชายแดนยังคงเรียกร้องให้ฮังการีเปิดพรมแดน และยืนยันจะไม่ไปจากจุดที่พวกเขาอยู่

เหตุความวุ่นวายในวันพุธ เกิดขึ้นที่เมืองเฮอร์กอส ของเซอร์เบีย โดยการเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้อพยพเริ่มขึ้นเมื่อผู้อพยพจำนวนหนึ่งเริ่มประท้วง และประกาศให้เวลาเจ้าหน้าที่ฮังการี 2 ชั่วโมงเพื่อเปิดประตูข้ามชายแดน ก่อนที่พวกเขาจะพยายามบุกฝ่ารั้วกั้น ทำให้ตำรวจปราบจลาจลฮังการีตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาลและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้อพยพซึ่งข้วางปาขวดและก้อนหินตอบโต้เจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ หลังจากการปิดพรมแดนของฮังการี ผู้อพยพในเซอร์เบียบางกลุ่มตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกแทน โดยหวังใช้เป็นเส้นทางใหม่ในการเข้าสู่ยุโรปตะวันตก โดยกระทรวงมหาดไทยโครเอเชียเปิดเผยว่า พวกเขาสกัดจับผู้อพยพหลายสัญชาติจำนวน 373 คน รวมทั้งผู้หญิง 75 คน และเด็กอีก 73 คน ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากชายแดนเมืองโทวาร์นิค ทางตะวันออกของประเทศ ก่อนจะนำตัวผู้อพยพไปยังศูนย์ลงทะเบียนที่กรุงซาเกร็บ ซึ่งพวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นมิตรมากกว่าในฮังการี

อย่างไรก็ตาม องค์กรการแพทย์ไร้พรมแดนออกมาแสดงความเป็นห่วงเหล่าผู้อพยพที่จะเดินทางเข้ายุโรปผ่านโครเอเชีย เนื่องจากมีกับระเบิดสมัยสงครามบอลข่านช่วงปี 1990 ถึง 51,000 ลูก ที่ยังฝังอยู่บริเวณชายแดน แม้ว่ารัฐบาลโครเอเชียจะยืนยันว่า มีป้ายเตือนไว้อย่างชัดเจนว่าจุดใดเป็นทุ่งกับระเบิด

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

ไข้เลือดออกระบาดนิวเดลีหนักสุดในรอบ 5 ปี ติดเชื้อเกือบ 2,000 คน​

​

อินเดียกำลังรับมือการระบาดอย่างหนักของเชื้อไข้เลือดออกในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 1,800 คน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย กำลังต่อสู้กับการระบาดของไข้เด็งกี หรือ ไข้เลือดออก ครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยตลอดปี 2015 มีผู้ป่วยอย่างอย่างน้อย 1,872 รายถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสเด็งกี มากกว่าสถิติในปี 2010 ที่มีผู้ติดเชื้อตลอดปี 1,695 ราย

โรงพยาบาลรัฐในนิวเดลีซึ่งให้การรักษาผู้ป่วยไข้เลือดออกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย กำลังประสบปัญหาในการรักษาผู้ป่วยไข้เลือด เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วยทั้งหมด ทั้งยังเกิดกระแสความแตกตื่นของคนไข้ ที่เรียกร้องให้หมอรักษาพวกเขาแม้อาการป่วยจะไม่รุนแรง ขณะที่รัฐบาลได้สั่งซื้อเตียงเพื่อรับมือสถานการณ์แล้ว

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผยว่า เมื่อปี 2013 มีผู้ป่วยไข้เลือดออกในอินเดีย 75,808 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด ก่อนจะลดลงเหลือ 40,571 รายในปี 2014

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยอิสระระบุว่า ตัวเลขที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยต่ำกว่าความเป็นจริง โดยผลวิจัยของมหาวิทยาลัยแบรนดีส์ในรัฐแมสซาชูเซสต์ของสหรัฐฯ ระบุว่า อินเียมีผู้ป่วยไข้เลือดออกถึง 6 ล้านคนระหว่างปี 2006-2012 ซึ่งรัฐบาลอินเดียต้องใช้งบประมาณในการรักษาคนไข้เหล่านี้ถึงปีละ 548 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2558

อินโดฯเร่งแก้วิกฤติมลพิษอากาศป่วนเพื่อนบ้าน​

​

เมื่อวันอังคาร 15 ก.ย. สภาพหมอกควัน ไฟไหม้ป่าบนพื้นที่ตอนเหนือเกาะสุมาตราและเกาะกาลิมันตันของอินโดนีเซีย แผ่ปกคลุมสิงคโปร์และบางส่วนของมาเลเซีย ทำให้รัฐบาลมาเลเซียต้องสั่งปิดโรงเรียนจำนวนมาก อีกทั้งเที่ยวบินต้องถูกเลื่อนหลายเที่ยวบิน เพราะทัศนวิสัยไม่ชัดเจน

เช่นเดียวกับสิงคโปร์กำลัง ห่วงกังวลผลกระทบควันไฟป่าจากอินโดนีเซียส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งอาจกระทบถึงการจัดแข่งขันรถยนต์สูตร 1 ช่วงกลางคืนในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ นอกเหนือจากเหล่าแพทย์และพยาบาลทั้งในมาเลเซียกับสิงคโปร์ต้องทำงานหนัก เพราะมีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจจำนวนมาก ขณะที่รัฐบาลประกาศเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะค่ามลภาวะทางอากาศขยับสูงถึง 249 จุด อยู่ในระดับส่งผลเสียต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียก็เผชิญสถานการณ์เลวร้ายด้วย โดยจังหวัดกาลิมันตัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะวัดค่ามลพิษทางอากาศได้สูงถึง 984 จุด ถือเป็นระดับวิกฤติ ส่งผลให้ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างภารกิจเยือนตะวันออกกลาง ต้องสั่งการให้ระดมทหารเกือบ 3,000 นาย ใช้เฮลิคอปเตอร์อีก 17 ลำ และเครื่องบินอีก 4 ลำ ช่วยแก้ปัญหาและสร้างเมฆฝนตกเพื่อบรรเทาสถานการณ์ ทั้งสั่งการให้เพิกถอนใบอนุญาตสัมปทานแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศอย่างรุนแรงด้วย

ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ควันไฟไหม้ป่าจากอินโดนีเซียคุกรุ่นเกิดขึ้นทุกปีช่วงฤดูแล้ง แต่สถานการณ์ปีนี้รุนแรงเลวร้ายมากขึ้นเพราะผลกระทบจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ “เอลนิญโญ” ทำให้เกิดความแห้งแล้งยาวนาน ขณะ ที่อินโดนีเซียมีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจแล้ว มากกว่า 26,000 คน ทางการอยู่ระหว่างสอบสวนบริษัทแผ้วถางป่าเพื่อปลูกพืชปาล์มน้ำมันมากกว่า 26 บริษัท สั่งระงับใบอนุญาตแล้ว 3-4 บริษัท.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 16 ก.ย. 2558

ที่มา Property Perfect - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ปัจจุบันโลกกำลังเดินทางเข้าสู่ แถบโฟตอน (Photon Belt) ​

​

deliver me สมาชิก

จากคำถามที่ว่า การเปลี่ยนไปจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5 ของโลกเรานี้จะเป็นช่วงเวลาไหน แล้วที่ผมบอกว่าผมเคยอ่านเจอว่า ถ้าเปลี่ยนไปมิติที่ 5 แล้ว คนที่ไปกันไม่ได้กับความสั่นสะเทือนในมิติใหม่นี้เขาจะอยู่ไม่ได้ นั่นหมายความว่า พวกเขาต้องตายลงไป แล้วตอ้งไปเกิดใหม่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นที่อยู่ในมิติที่ 3 จริงไหม ผมไปตามอ่านย้อนหลัง แล้วผมก็พบข้อมูลนึง(แน่นอนว่า ข้อมูลจากเทพท่านนี้ อาจจะไม่ตรงกับเทพท่านอื่นก็ได้นะครับ)

ผมขอสรุปให้ฟังก่อนนะครับ คือ ปี 2004 ท่านอดามะ คือนักบวชชั้นสูงคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในเมืองทีลอส เมืองที่ตั้งอยู่ใต้พื้นพิภพของเรา เขากล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเดินทางเข้าสู่ แถบโฟตอน (Photon Belt) โดยที่ แถบโฟตอน นี้ก็คือแถบพลังงานแสงสว่าง ที่เข้มข้นนั้นเองครับ โดยประกอบด้วยแถบแสงสว่าง (vortex) ที่ว่านี้ 12 แถบ ถ้าโลกเคลื่อนที่ผ่านแถบโฟตอนไปในแต่ละแถบ ก็จะได้รับผลกระทบแตกต่างกัน ความจริงโลกเดินทางเข้าสู่โฟตอนเบลท์แล้วนะครับตั้งแต่ปี 1998 แต่กำลังอยู่ในแถบพลังงานแสงแถบที่ 1 เท่านั้น (คือจะรู้สึกแค่ไม่สบายตามร่างกายเท่านั้น )

เขาบอกว่า ภายใน 12 ปีข้างหน้านี้ (ผมเข้าใจว่าคงหมายถึงนับตั้งแต่วันที่ท่านอดามะพูดไว้ซึ่งก็คือ ปี 2004) ดาวเคราะห์โลก จะโคจรผ่านเข้าไปในแถบ vortex แต่ละแถบครบทั้ง 12 แถบ ของ photon belt นี้ (ภายใน 12 ปี นับจากปี 2004 โลกจะเดินทางผ่านแถบพลังงานแสงนี้ ครบทั้ง 12 แถบ ก็จะตรงกับปี 2016) ซึ่งระดับความเข้มข้นของพลังงานแสงสว่างเหล่านี้ จะช่วยชำระโลก และช่วยเตรียมความพร้อมให้กับโลก ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ด้วย

ตรงนี้บอกว่า พลังงานแสงสว่างที่เข้มข้นนี้ จะเป็นตัวการชำระโลก และปูทางหรือเตรียมตัวให้โลกเลื่อนระดับขึ้นสู่มิติที่ 5 ตรงนี้แสดงว่า โลกจะเข้าสู่มิติที่ 5 ก็ต้องรอต่อไปจนถึงปี 2016 แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามิติที่ 5 ทันทีเลยเมื่อออกจากแถบโฟตอนหรือไม่ แต่จากข้อมูลตรงนี้ แสดงชัดเจนว่า โลกจะเข้าสู่มิติ 5 ก็ต้องต่อจากปี 2016

ท่านอดามะ กล่าวต่อไปว่า มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องปรับระดับจิตสำนึกของตนเองให้สูงขึ้น และจำเป็นต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นขึ้นในตนเอง เพื่อให้ตนเองสามารถเคลื่อนผ่านพลังงานแสงที่เข้มข้นทั้ง 12 แถบนี้ไปให้ได้ ถ้ามิเช่นนั้นแล้วเขาเหล่านั้นจะต้องถูกบีบอัด ถูกบดขยี้จนตาย ด้วยคลื่นความถีใหม่ แล้วยังคงอาศัยอยู่ในมิติที่ 3 นี้ต่อไปเพื่อรอการเกิดใหม่อีกรอบ

ชาวโลกผู้ที่ต่อต้านพลังคลื่นแห่งแสงสว่าง และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากแสงสว่างนี้ จะไม่สามารถรอดชีวิตผ่านพ้นแถบ vortex ทั้ง 12 แถบใน photon belt นี้ไปได้ หลังจากโลกเดินทางผ่านจนครบแถบโฟตอนทั้ง 12 แถบแล้ว (ปี 2016) ทีนี้ก็จะเข้าสู่การเลื่อนระดับเป็นมิติที่ 5 แล้ว ซึ่งเขาไม่ได้บอกไว้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าจะเข้ามิติที่ 5 นะครับ

เขาบอกว่า คนที่กลัว และคนไม่ดี (แสดงว่า ตอนโลกเดินทางผ่านโฟตอนครบ 12 แถบ คนไม่ดีก็น่าจะยังคงอยู่บนโลกนี้ได้ จนกระทั้งถึงปากทางเข้าของมิติที่ 5 ) จะไม่สามารถเลื่อนระดับไปพร้อมกับโลกได้ เขาเลยนะนำว่า ให้เลิกกลัว เลิกทำชั่ว ไปด้วยแล้วจะเลื่อนระดับไปได้พร้อมโลก ไม่งั้นก็เลื่อนระดับเข้ามิติที่ 5 ไปกับโลกไม่ได้ คงหมายถึงต้องตาย ส่วนใครทีมีชีวิตจนถึงมิติที 5 ได้ ก็จะเป็นอมตะ

19-08-2011, 08:04 PM

(ท่านที่สนใจ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)
http://palungjit.org/5013358-post2165.html

 

จะมีก็แต่ความรักความเมตตาเท่านั้น ที่จะนำพาพวกท่านผ่านแถบโฟตอน(Photon Belt)ไปได้​

​

รูปท่านอดามะ (Adama)​

 

รักให้ได้ ให้ให้เป็น ไม่ก้าวล่วงผู้อื่น !!!​

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=j7HTy9t3X4A[/ame]

ขณะนี้ท่านจะสังเกตได้ว่า โลกของเรากำลังเกิดอาการวิกฤติอยู่ 2 ประการ คือ

1.วิกฤติด้านจิตสำนึกของมนุษย์ โดยส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์ด้านลบขับเคลื่อนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น และบกพร่องในการใช้สติปัญญามากขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง และการประพฤติผิดศีลธรรมของผู้คนในสังคม มีมากขึ้นและกระจายทั่ว เริ่มจากครอบครัวไปสู่ระดับประเทศและระดับโลก เหตุเพราะมนุษย์โลกฝักใฝ่ในธรรมน้อยลง แต่ใส่ใจใฝ่หาวัตถุเท็คโนโลยีและโภคทรัพย์ทั้งปวงกันมากขึ้น ก็ด้วยอำนาจฤทธิ์ของกิเลสตัณหาเป็นตัวขับเคลื่อนนั่นเอง มนุษย์จึงใฝ่หาความรวยมากกว่าความรัก....ใฝ่หาความสุขมากกว่าความสงบ....

2.วิกฤติด้านดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ท่านทั้งหลายจะได้ฟังข่าวสารด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกภาคพื้นทวีปทั้งแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ-แยก แผ่นดินถล่ม อุทกภัย ไซโคลน-ทอร์นาโด และภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น สิ่งที่ท่านจะต้องสังเกตก็คือ ภัยพิบัติเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นไปทั่วทุกที่ ไม่ว่าสถานที่แห่งนั้นมันจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยก็ตาม

นอกจากนั้นภัยพิบัติเหล่านี้มันมักจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆตลอดมา...และจะเป็นเช่นนี้อีกทั้งในปีนี้และปีต่อๆไปด้วย ที่สำคัญคือ โปรดระวัง!!! เหตุร้ายมันจะเกิดคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวของท่านเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว มนุษย์นี่แหละที่จะ สติแตก!หากไม่มีการเตรียมตนเองและจิตวิญญาณของตนเพื่อการผจญภัยไว้เสียแต่บัดนี้....

หมายเหตุ:

เหตุการณ์นี้อาจเบาลง เลื่อนกำหนด หรือไม่เกิดขึ้น หากท่านทั้งหลายหันมาใส่ใจปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน ตามคำแนะนำของ 'จิตจักรวาล' กันให้มากๆตั้งแต่บัดนี้ ทุกท่านก็ทำได้....ไม่ยากเลย... คือ

1.รักให้ได้ (แม้เขาจะไม่น่ารักเลยก็ตาม)
2.ให้ให้เป็น (แบ่งปัน-เสียสละ-ให้ทาน-ให้อภัยแม้กับคนที่ไม่สมควรจะให้อภัย)
3.ไม่ก้าวล่วงผู้อื่น (ทั้งกาย-วาจา-ใจ)
4.ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต (ไม่ตกเป็นทาสทางอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น)

ข่าวสารจากจิตจักรวาลโดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล : วันที่ 1 สิงหาคม 2553

ที่มา www.Jitchakraval.com เว็ปไซต์เผยเเพร่องค์ความรู้จากองค์จิตจักรวาล โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

 

ทำไมไปเชื่อเรื่องโฟตอนเบลท์ ทำไมไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมของพระพุทธเจ้า ทำดีคิดดีพูดดี จิตเป็นกุศล ตายไปก็กลับมาเกิดบนโลกใบนี้ใหม่เพื่อบำเพ็ญบารมีต่อไป ไม่ได้ไปเกิดบนดาวดวงอื่น ปรับระดับเป็น 4 เป็น 5 ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องกฏแห่งกรรม ทำไมไม่ยึดเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่ั้ตั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากเหตุ เหตุไม่เกิดผลก็ไม่เกิดด้วย ทำเหตุให้มันดี ผลมันก็ดี ไอ้ความคิดที่ว่าทำดีไม่ได้ดีเนี่ยเป็นของพญามารเขาวางไว้หลอกผู้คนให้หลงไปกับเขา ใครพูดว่าทำดีไม่ได้ดีแล้วจะทำไปมำไมไอ้คนนี้เป็นสาวกพญามารชัดๆ

 

ผมต้องขอโทษพี่ทศพรด้วยนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาเผยแพร่คำสอนในศาสนาคริสต์หรือคำสอนของมนุษย์ต่างดาวแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพียงแต่อยากจะรวบรวมข้อมูลเรื่องของภัยพิบัติให้ครบถ้วนในทุกๆด้านเท่านั้นเอง ท่านผู้อ่านทุกท่านโปรดเข้าใจตามนี้ด้วยนะครับ

ข้อมูลของมนุษย์ต่างพิภพหรือของมนุษย์ต่างดาวนี้ มักจะเน้นเรื่องของความรักความเมตตาเป็นหลัก ซึ่งก็สอดคล้องกับคำสอนในพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน ผมเห็นว่าเป็นคำสอนที่ดีจึงได้นำมาเผยแพร่ไว้ในกระทู้นี้ ส่วนคำสอนอื่นใดที่ขัดแย้งกับคำสอนในพระพุทธศาสนา ก็ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณให้ดี เพราะมนุษย์ต่างพิภพหรือมนุษย์ต่างดาว ก็เหมือนกับมนุษย์บนโลกใบนี้ คือมีทั้งความเห็นที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง และความเห็นที่ผิดไปจากความเป็นจริงครับ

 

รัฐบาลชิลีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ธรณีพิโรธแรงสุดในปีนี้​

​

รัฐบาลชิลีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่ภาคกลางของประเทศ หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 8.3 เปิดทางระดมทหารมาช่วยชาวบ้านเคลียร์ซากปรักหักของอาคารบ้านเรือนที่พังเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ ประธานาธิบดีชิลีรีบรุดตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยธรณีพิโรธ

18 ก.ย. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในชิลี หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 8.3 บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดโชอาโป ทางภาคกลางของประเทศ เมื่อค่ำวันพุธที่ 16 ก.ย. ตามเวลาในท้องถิ่น จนแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงกรุงซานติอาโก เมืองหลวงชิลี และกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงอาร์เจนตินา ประเทศเพื่อนบ้าน ความรุนแรงของธรณีพิโรธสร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่ประชาชน และความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนจำนวนมาก อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวต่อเนื่องตามมาหลายสิบครั้ง รวมทั้งคลื่นยักษ์ หรือ สึนามิ สูง 4.7 เมตร ซัดชายฝั่งเมือง โคควิมโบ ของ ชิลี ขณะที่ยังเกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็กไปไกลถึงในรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 58 รัฐบาลชิลีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคกลางของประเทศ เพื่อจะได้สามารถระดมกำลังทหารเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว หลังจากได้มีคำสั่งอพยพประชาชนนับล้านคนให้ออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ความรุนแรงของแผ่นดินไหว ซึ่งถือว่ารุนแรงสุดในปีนี้ที่เขย่าประเทศชิลี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 ราย

ด้านประธานาธิบดีมิเชล บาเชเลต แห่งชิลี ได้รีบเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองโคควิมโบทันที เมื่อวันพฤหัสบดี (17 ก.ย.) โดยยังมีบ้านเรือนนับ 9 หมื่นหลังเจอปัญหาไฟฟ้าดับ ขณะที่ ประชาชนทั่วพื้นที่ภาคกลางก็เริ่มเคลียร์ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนตัวเองแล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

สลด! รถขนน้ำมันตกถนนในซูดานใต้ คนแห่เก็บน้ำมัน บึมดับ 170 ศพ​

​

รถบรรทุกน้ำมันตกถนนในประเทศซูดานใต้ ทำให้ชาวบ้านแห่เข้ามาเก็บน้ำมัน ก่อนเกิดระเบิดจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 170 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันตกถนนสายหนึ่งที่เมืองมาริดี ในรัฐเวสเทิร์น อีควอโทเรีย ทำให้ผู้อยู่อาศัยท้องถิ่นจำนวนมากแห่เข้ามาดูดน้ำมันออกจากแท็งก์บรรจุ ก่อนที่รถบรรทุกคันนี้จะระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 170 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย

นายวิลสัน โธมัส ยันกา เทศมนตรีเขต มาราดี เผยว่า รถบรรทุกน้ำมันคันนี้เดินทางมาจากกรุงจูบา และกำลังจะเดินทางถึงเมืองมาริดี ซึ่งห่างออกไปประมาณ 250 กม. ก่อนจะเสียหลักตกถนนและพลิกตะแคง โดยในขณะที่คนขับรถเดินทางไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านท้องถิ่นก็พยายามเข้ามาดูดน้ำมันออกจากรถ ก่อนเกิดระเบิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ

นายยันกายืนยันด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 176 คนแล้ว และตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลท้องถิ่นต้องรับมือกับผู้อพยพที่ถูกส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก และเวชภัณฑ์พื้นฐานรวมทั้งถังออกซิเจนและยาแก้ปวดมีไม่เพียงพอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังสภากาชาดและหน่วยงานของสหประชาชาติแล้ว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

รัฐสภายุโรปลงมติรับรองแผนกระจายผู้อพยพ 120,000 คน​

​

รัฐสภายุโรปลงมติรับรองแผนกระจายผู้อพยพ 120,000 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน รัฐสภายุโรปจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปว่าด้วยการกระจายผู้ลี้ภัยในประเทศอิตาลี กรีซ และฮังการีจำนวน 120,000 คน แบบบังคับ ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบแผนดังกล่าวด้วยจำนวน 372 เสียง คัดค้าน 124 เสียง และงดออกเสียง 54 เสียง

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากความล้มเหลวในการประชุมรัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ก.ย. ซึ่งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน และไม่สามารถเห็นชอบมาตรการดังกล่าว

หลังจากนี้ รัฐมนตรีมหาดไทยอียูจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 22 กันยายน เพื่อพิจารณามาตรการการจัดสรรโควตาจำนวนผู้ลี้ภัยอีก 120,000 คน ไปยังประเทศสมาชิกตามรูปแบบการคำนวณที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนออีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ ประเทศสมาชิกอียูได้ลงมติรับรองแผนการเคลื่อนย้ายผู้ลี้ภัยจำนวน 40,000 คน ตามที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอแล้ว

ทั้งนี้ ประเทศฮังการีซึ่งจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการดังกล่าว กลับเป็นหนึ่งในประเทศที่ปฏิเสธมาตรการการจัดสรรโควตาจำนวนผู้ลี้ภัย 120,000 คน รวมทั้งสโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็กก็ไม่เห็นด้วย โปแลนด์ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการจัดสรรโควตาผู้ลี้ภัยให้ประเทศสมาชิกแบบบังคับ

อีกด้านหนึ่ง เมื่อบ่ายวันที่ 17 กันยายน นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปได้เรียกประชุมฉุกเฉินผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในวันพุธที่ 23 กันยายน เวลา 18.00 น. เพื่อพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาวิกฤติผู้ลี้ภัย

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

รับน้องเจอน้ำ! อพยพวุ่น นศ.สวนดุสิตนครนายก 170 คน​

​

นักศึกษามรภ.สวนดุสิต นครนายก 170 คน ไปจัดรับน้องกันที่รีสอร์ตในต.สาริกา เจอฝนจากพายุที่พัดเข้าภาคตะวันออก น้ำทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว นายก อบต.ต้องแจ้งกู้ภัยมาช่วยอพยพออกไปอยู่ที่วัด ชี้ปริมาณน้ำฝนมีมาก ไหลระบายลงคลองไม่ทัน...

เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 18 ก.ย.58 นายบุญชัย อโนดาษ นายกอบต.สาริกา อ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งจากนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต นครนายก รุ่นพี่ปี 2-3 มาจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ปี 1 จำนวน 170 คน ในช่วงวันที่ 17- 18 ก.ย. ที่รีสอร์ตในพื้นที่หมู่ 2 ต.สาริกา

ต่อมา ได้เกิดฝนตกหนัก และน้ำป่าทะลักเข้าท่วมในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงประสานขอกำลังกู้ชีพ อบต.สาริกา มูลนิธิร่วมกตัญญู (จุดบ้านนา) กู้ภัยสว่างอาริยะนครนายก รีบรุดไปที่เกิดเหตุ

พบสถานที่จัดกิจกรรมรับน้องดังกล่าว เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ยกพื้นสูง มีน้ำท่วมในระดับสูงประมาณ 50 ซม. ไหลเชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่ได้สวมเสื้อชูชีพให้นักศึกษา ก่อนจะอพยพโดยใช้รถออฟโรดยกล้อสูง ทยอยนำนักศึกษาออกมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาบางกลุ่มได้เดินจับมือกันฝ่ากระแสน้ำออกมาเองอย่างทุลักทุเล ก่อนจะไปพักที่ศาลาวัดบ้านดง หมู่ 1 ต.สาริกา ซึ่งทุกคนปลอดภัย

นายบุญชัย อโนดาษ นายก อบต.สาริกา กล่าวว่า ฝนที่ตกติดต่อกัน ทำให้น้ำที่มีปริมาณมากไหลลงคลองนางรอง และคลองสาริกาไม่ทัน จนเอ่อล้นเข้าท่วม แต่เป็นระยะเวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวอย่าลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

นายกฯ เมืองระยองเบาใจสถานการณ์น้ำคลี่คลาย​

​

สถานการณ์น้ำในระยองดีขึ้นหลังฝนหยุดตกเมื่อเช้าตรู่ น้ำท่วมขังเริ่มระบายออก ขณะที่รอบนอกยังวิกฤติ โดยเฉพาะ ต.ทับมา น้ำยังท่วมขังสูง เนื่องจากน้ำทางทิศเหนือไหลบ่าเข้ามาไม่ขาดสาย คาดหากฝนไม่ตกซ้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2558 นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีนครระยอง เปิดเผยกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่ อ.เมืองระยอง ว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่ฝนได้หยุดตกแล้ว ภายหลังตกลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่น้ำท่วมขังหลายจุดเริ่มคลี่คลาย หากฝนไม่ตกลงมาอีก ทั้งนี้ ยังมีบางพื้นที่ในที่ลุ่มน้ำไม่สามารถระบายลงทะเลได้ทัน อาทิ หมู่บ้านโมเดิร์นซิตี้ มีน้ำท่วมขังสูง 30 ซม. รวมถึงแยกขนส่ง ซึ่งมีพื้นที่เป็นแอ่ง อยู่ระหว่างเร่งสูบน้ำ โดยขณะนี้รถสามารถสัญจรไปมาได้ แม้จะเคลื่อนตัวได้ช้าจากน้ำท่วมขัง

นายกเทศมนตรีนครระยอง กล่าวด้วยว่า ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมนอกเขต อ.เมืองระยอง พบว่ายังวิกฤติในเขตเทศบาลตำบลทับมา โดยเฉพาะหน้าวัดทับมา มีน้ำท่วมขังสูง เนื่องจากมีน้ำจากทางทิศเหนือไหลบ่าเข้ามา ทำให้ถนนสาย 36 กรุงเทพฯ-ระยอง ได้รับผลกระทบ รถยนต์สามารถวิ่งได้เพียงเลนเดียว รวมถึงบริเวณแยกแมคโคร อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงไปใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 344 เส้นบ้านบึง-แกลง แทน พร้อมย้ำว่า หากฝนไม่ตกอีกในวันนี้ คาดว่าพื้นที่หลายจุดที่น้ำท่วมขังจะกลับสู่ปกติในเย็นวันนี้

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

ฝนกระหน่ำเมืองคอน! น้ำป่าไหลหลาก ท่วมหลายพื้นที่​

​

ฝนกระหน่ำเมืองคอน ลมพัดแรงทั้งคืน น้ำบนภูเขา ไหลลงมาสู่คลองต่างๆ เข้าท่วมบ้านเรือน ปชช.เดือดร้อนหลาย 100 หลังคาเรือน บางเส้นทางรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ขณะที่ เรือประมงต้องหยุดจับปลา เนื่องจากทะเลคลื่นแรง...

วันที่ 18 ก.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.ฉวาง อ.ช้างกลาง อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ฝนได้เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักและมีลมพัดแรง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 ก.ย) ตลอดทั้งวัน ทำให้มีปริมาณน้ำที่สะสมบนภูเขาจำนวนมาก ไหลลงมาสู่คลองต่างๆ อย่างรวดเร็ว เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองอย่างรวดเร็ว ในช่วงกลางดึกต้องลุกขึ้นเก็บข้าวของหนีน้ำขึ้นไว้ที่สูงได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยหลังคาเรือน

เนื่องจากคลองที่รับน้ำจากภูเขาของ อ.ฉวาง อ.พิปูน อ.ช้างกลาง มีภูเขาสลับซับซ้อนหลายลูก เมื่อมีปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างหนัก ทำให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำตาปี ที่เป็นแม่น้ำหลักไม่ทัน เป็นเหตุให้น้ำไหลหลาก เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองหลายร้อยหลังคาเรือนอย่างรวดเร็ว และเส้นทางบางเส้นทาง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ทางอำเภอ และ ปภ.จังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งสำรวจความเสียหาย ส่วนชาวบ้านบางคนได้ออกดักปลาที่มาตามน้ำขาย เสริมรายได้ในช่วงน้ำท่วม

ส่วนที่ อ.ทุ่งสง ฝนตกหนัก ทำให้ระดับน้ำในลำคลองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ทางนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช สั่งเจ้าหน้าที่รับมือน้ำท่วมอย่างเต็มที่ หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน แต่ขณะนี้เหตุการณ์ยังปกติ โดยบรรยากาศทั่วไปใน จ.นครศรีธรรมราช ท้องฟ้ามืดครึ้มตลอดทั้งวัน และคลื่นในทะเลอ่าวไทย เขต อ.หัวไทร อ.ปากพนัง อ.สิชล อ.ขนอม และ อ.ท่าศาลา มีคลื่นแรงตลอดเวลา ทำให้เรือประมงต้องจอดหลบคลื่นลมแรงไม่กล้าออกไปจับปลาก่อนในช่วงนี้ จนกว่าคลื่นจะสงบ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

คนจันท์ชัก ‘ธงเหลือง’ เตรียมรับมือ! น้ำป่ามาแน่ท่วมย่านเศรษฐกิจ​

​

น้ำป่าจากอำเภอรอบนอกไหลทะลักลงแม่น้ำจันทบุรี คาดจะเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนย่านเศรษฐกิจในตัวเมืองช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.ย.นี้ ปภ.เปลี่ยนจากธงสีเขียว เป็น ‘ธงเหลือง’ เตือนภัยประชาชน พร้อมเร่งขุดลอกคลองบายพาส ระบายออกสู่ทะเล...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ก.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จ.จันทบุรี หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจากผลพวงของพายุ ‘หว่ามก๋อ’ ที่พัดเข้าประเทศไทย ทำให้ระดับน้ำที่สะพานกระทิง อ.เขาคิชฌกูฏ เพิ่มขึ้นจนเกินจุดวิกฤติ

เช่นเดียวกับที่ฝายท่าระม้า อ.มะขาม ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกินจุดวิกฤติ 8 เมตร ซึ่งมวลน้ำทั้ง 2 แห่ง จะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี และส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตเศรษฐกิจตัวเมืองจันทบุรี ทาง สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.จันทบุรี จึงได้เปลี่ยนธงสัญลักษณ์เตือนภัยประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี จากสีเขียว เป็นสีเหลือง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำเหนือ ที่จะไหลบ่าลงแม่น้ำจันทบุรี และเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมฝั่งแม่น้ำ

ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ มวลน้ำจะเคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองจันทบุรีในอีกประมาณ 5-6 ชั่วโมง ทางจังหวัดจึงสั่งการให้นำเครื่องจักรกลของสำนักงานชลประทานที่ 9 เร่งขุดเปิดทางน้ำเข้าคลองบายพาส ที่กำลังก่อสร้างเพื่อพร่องน้ำแม่น้ำจันทบุรี ลงสู่ทะเลที่บ้านหนองบัวเพิ่มขึ้น โดยคลองบายพาสตามแนวทางพระราชดำริฯ สามารถพร่องน้ำได้ประมาณ 250 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบน้ำเหนือที่จะไหลบ่าเข้าเขตเศรษฐกิจของเมืองจันทบุรีได้ระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จ.จันทบุรี ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ให้เร่งขนสิ่งของไว้ในที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำล้นตลิ่งและให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ส่วนสถานการณ์น้ำป่าในพื้นที่อำเภออื่น ขณะนี้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากใน ต.ตกพรม อ.ขลุง ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน และต.พวา อ.แก่งหางแมว ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สวนผลไม้ ซึ่งทางจังหวัดได้บูรณาการหน่วยงานทหาร ตำรวจ ท้องถิ่น อาสาสมัครกู้ภัย เร่งช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

ฝนตกไหลเติมลำตะคอง ฝั่งชาวบ้านริมอ่างหวั่นน้ำป่า เร่งย้ายของขึ้นที่สูง​

​

เขื่อนลำตะคอง โคราชเฮ! น้ำไหลเข้าเพิ่ม ผลพายุหว่ามก๋อ ช่วยให้คนอีสานตอนล่าง ส่งผลดีต่อเขื่อน 3 วัน ได้น้ำเกือบ 7 ล้านลบ.ม. แต่ชุมชนริมเขื่อนผวาน้ำป่า ทาง อ.ปากช่อง สั่งเตรียมพร้อมขนย้ายของขึ้นที่สูง เพื่อรับมือน้ำป่าไหลหลาก...

เมื่อช่วงสายวันที่ 18 ก.ย. 2558 นายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า ภายหลังจากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) ทำให้ในหลายพื้นที่ทั่วทั้ง 32 อำเภอมีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหัดนครราชีมา ที่เป็นพื้นที่เหนือเขื่อนลำตะคองมีปริมาณฝน และในพื้นที่เขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณฝนที่ตกรวมกันประมาณ 150 มิลลิเมตร

"ในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้ไป เขื่อนลำตะคองจะยังคงมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และพื้นที่อำเภอปากช่องนั้นยังคงมีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณฝนที่ตกลงมานั้นมีปริมาณน้ำฝนที่ วัดได้อยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ดังนั้นก็จะส่งดีต่อเขื่อนลำตะคองที่จะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพื่อกักเก็บไว้ เพื่อในการอุปโภค บริโภค และส่วนหนึ่งเพื่อการเกษตร ส่วนเขต อ.เมืองฝนตกวัดได้ 16 มิลลิเมตร, อ.ปากช่อง 95 มิลลิเมตร และ อ.โชคชัย 44 มิลลิเมตร คาดว่าฝนที่ตกมาจะทำให้เขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร" ผู้อำนวยการโครงการฯ ลำตะคอง กล่าว

นายสุทธิโรจน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังน้ำป่าไหลบ่าหลากลงมา เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนสะสมจำนวนมากที่จะต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. และมวลน้ำป่าคาดว่าจะไหลมาถึงในช่วง 1-2 วันนี้ ตอนนี้ได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. ในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวัง โดยเฉพาะน้ำจากเขาใหญ่ส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลำตะคอง รวม 3 วัน อยู่ที่ 6 ล้าน 5 แสน 4 หมื่นลูกบาศก์เมตร โดยล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้อยู่ที่ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 18% จากความจุกักเก็บทั้งสิ้น 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าน้อยอยู่

ด้าน นายครรชิต ศรีนพวรรณ หน.อุทยานฯเขาใหญ่ กล่าวว่า ได้รายงานให้ผู้เกี่ยวข้องทราบแล้ว ทั้ง อ.ปากช่อง และ จ.ปราจีนบุรี ถ้าฝนบนอุทยานฯเขาใหญ่ ตกหนักกว่าปกติ ถ้าวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 60 มม.ก็รายงาน เมื่อถึง 80 มม. ก็รายงานว่าน้ำเพิ่ม จนเมื่อคืนฝนตกหนักโดยเฉพาะช่วง 03.00 น. จนช่วงเช้าวัดได้ 120 มม. และวัดน้ำหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน้ำสูง 4 ม.เกือบถึงท้องสะพาน แต่ช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ฝนหยุด แต่ท้องฟ้ายังคลึ้ม มีฝนตกประปรายบ้างเล็กน้อย ถ้าฝนหยุดตกก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าตกเพิ่มอีกก็จะรายงานให้ทราบเป็นระยะ

นายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว นอภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้ศูนย์วิทยุอำเภอปากช่อง และแจ้งผ่านไลน์ของ หัวหน้าส่วนราชการ, ไลน์ของศูนย์กู้ชีพ รพ.ปากช่องนานา ให้องค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยกู้ชีพกู้ภัย หน่วยกู้ภัย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เตรียมรับสถานการณ์หลังได้รับแจ้งจาก อุทยานฯเขาใหญ่ ว่าช่วงกลางคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักบนอุทยานฯเขาใหญ่ อย่างหนัก โดยวัดปริมาณน้ำฝน ได้ 120 มม. ซึ่งมวลน้ำทั้งหมดจะต้องไหลลงลำตะคอง (ลำคลองที่ไหลลงจากเขาใหญ่ ชาวบ้านเรียกลำตะคอง) มายัง เขต ต.หมูสี ต.ขนงพระ ต.ปากช่อง เทศบาลเมืองปากช่อง ต.หนองสาหร่าย และ ต.จันทึก ก่อนที่จะไหลลงในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำตะคอง โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมลำตะคอง ต้องเฝ้าดูสถานการณ์ เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง

จากการเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำที่บ้านท่ามะปราง ต.หมูสี ข้างคอนโดมิเนียม ของเครือบริษัท ซีพี พบว่าน้ำขึ้นสูง 3.50 ม.เกือบถึงท้องสะพาน สะพานบ้านหมูสี น้ำล้น 2 ฝั่งถนน ทางเข้ารีสอร์ทมอม่วนหลาย รถผ่านเข้าไม่ได้ ซึ่งน้ำจากบ้านท่ามะปราง ต.หมูสี จะใช้เวลาประมาณ 5 ชม.จะเข้าเขตเทศบาลตำบลหมูสี แต่ได้รับแจ้งเพิ่มเติม จากอุทยานฯเขาใหญ่ ว่าฝนหยุดแล้ว แต่ถนนบนอุทยานฯ มีท่วมถนนเป็นบางช่วง เช่น ช่วงทางโค้งโป่งต้นไทร กม. 35-36 ซึ่งอยู่ข้างลำห้วย น้ำได้เอ่อล้น ประมาณ 10 ซม. รถสามารถผ่านได้ จุดกางเต็นท์ที่มีน้ำเอ่อล้นสนามหญ้า.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 18 ก.ย. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

คู่ชิง คู่แชมป์ เสนารุกธุรกิจพลังงานทดแทน​

เผยแพร่เมื่อ 17 ก.ย. 2015​

"เสนาฯ" รุกธุรกิจพลังงานทดแทน กับ ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA)

 

สารคดีพลังงานทดแทน เพื่ออนาคตของมนุษย์โลก​

เผยแพร่เมื่อ 3 ม.ค. 2015​

 

สารคดี พลังงานสะอาด​

ผยแพร่เมื่อ 30 มิ.ย. 2014​

มิติโลกหลังเที่ยงคืน - พลังงานสะอาด กังหันลมแนวตั้ง,ระบบทำความเย็นโดยนำแข็ง,­หอสุริยะ,โรงไฟฟ้าลมร้อน,รถยนต์พลังลม,กรอ­งน้ำ,การลด OZone,ล่มลากเรือ

 

เกษตร society : ปัญหาผักราคาสูงในช่วงเทศกาลกินเจ​

เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ย. 2014​

 

เกษตร Society : "ไผ่" ทางเลือกเพื่อความยั่งยืน​

เผยแพร่เมื่อ 8 ธ.ค. 2014​

 

เกษตร Society : "ผักตบชวา" กลายเป็นแก๊สหุงต้ม​

เผยแพร่เมื่อ 4 ก.ค. 2015​

 

เกษตร Society : เยี่ยมชมงาน "พฤกษานนท์ 58"​

เผยแพร่เมื่อ 11 เม.ย. 2015​

 

เกษตร Society : ลดการเผา ช่วยชาติ...ได้ดินอุดมสมบูรณ์​

เผยแพร่เมื่อ 22 มี.ค. 2015​

 

เกษตร Society : อย่าดัดแปลงธรรมชาติมากเกินไป​

เผยแพร่เมื่อ 6 เม.ย. 2015​

 

เกษตร Society : เที่ยวงานเกษตรแฟร์อย่างไร​

เผยแพร่เมื่อ 3 ก.พ. 2015​