มหาสติปัฏฐานทั้ง 4ขั้นสุกขวิปัสสโกดัดแปลงเป็นวิชชา3 อภิญญา6 ปฏิสัมภิทาญาณ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 9 กันยายน 2015.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +70,531
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กันยายน 2015
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +70,531
    ท่านสาธุชนทั้งหลาย สำหรับวันพุธนี้ก็มาพบกับท่านตามเคย ความจริงก็อยากจะมาทุกวันพุธ แต่บางวันก็มีอุปสรรคเสียก็มี แต่ปีนี้จะ

    ขาดหรือไม่ขาดก็ไม่ทราบเป็นอันว่ายังงี้ก็แล้วกัน เรื่องอารัมภบทงดไว้ แหม เมื่อวันพุธก่อนว่าจะอนุโมทนาอะไรสักนิดหนึ่ง ก็เป็น

    เรื่องที่จะเล่าให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทฟัง ก็เลยลืมอนุโมทนาไปวันนี้ขอโมทนาเสียตั้งแต่ต้นมือเลยนะ คือว่าพระอาจารย์

    สุรินทร์ วัดสุขุมาราม ตำบลวังตะกู อำเภอบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร ได้ส่งพระเครื่อง คือเป็นพระสมเด็จที่อาตมาไปทำ

    พุทธาภิเษกถวายมาแล้ว 3000 องค์?

    แล้วก็เมื่อเร็วๆ นี้ก็ส่งเพิ่มเติมมาให้อีก 2000 องค์ เพื่อจะได้ไว้แจกจ่ายแก่บรรดาพุทธบริษัทที่ร่วม

    บำเพ็ญกุศล หรือว่าปรารถนาจะได้ไว้บูชา ขอพระอาจารย์สุรินทร์โปรดรับทราบ สิ่งที่ท่านฝากช่างประเสริฐมานั้นกระผมได้รับแล้ว แล้ว

    ก็ขออนุโมทนาในความดีของท่าน ขอท่านจงบรรลุมรรคผลในกิจของพระพุทธศาสนาตามที่ท่านตั้งใจไว้เถิด

    แล้วนอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องจะเล่าให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทฟังอีกนิดหนึ่ง ว่าปีนี้อาตมาทำงานที่วัดนี้หมดด้วยกัน 8 รายการด้วย

    กัน คือ 1. สร้างกุฏิตึก 2 ชั้น ชั้นละ 3 ห้อง 1 หลัง แล้วก็สร้างอาคารรับรองยาว 10 วา เศษๆ 1 หลัง เป็นตึกเหมือนกัน 2 ชั้น นี่เป็นปี 2 นะ 3.

    สร้างรั้วกำแพงหน้าวัด 4. สร้างหอพระ 9 หอ 5. สร้างประปาทันสมัย 6. สร้างพระพุทธรูปปางห้ามญาติ 7. สร้างพระพุทธรูปปางห้าม

    สมุทรแล้วก็ 8. สร้างพระพุทธรูปแบบพระพุทธชินราชขนาดใหญ่ 6 ศอกอีก 1 องค์ รวม 8 รายการด้วยกัน เงินในการก่อสร้างปีนี้หลาย

    แสนบาท แต่ว่ายังเป็นหนี้เขาประมาณ 2 แสนบาท แล้วก็จะทอดกฐินวันแรม 7 ค่ำ เดือน 11 หากว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทมี

    ความสนใจใคร่จะสงเคราะห์พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาชำระหนี้ ก็กรุณาติดต่อกับวิทยุ 04 หรือติดต่อกับอาตมาเองก็ได้ ถ้า

    หากว่าส่งตรงมาแล้วอาตมาก็จะได้โมทนา แต่ว่าส่งทาง 04 ก็เหมือนกันนะจะโมทนาให้ สำหรับท่านที่ให้ทุนในการสร้างพระพุทธชิน

    ราชนะ พระพุทธชินราชนี้กะแล้วหลายหมื่นบาท เกือบตกแสนบาท มีท่านที่ให้ทุนมาท่านหนึ่ง คือ คุณนนทา อนันตวงศ์ จังหวัด

    อุทัยธานี ให้เงินมาแล้ว 1 หมื่นบาท แล้วก็คุณประเสริฐ คุณละเอียด ชังชั่ว จังหวัดชัยนาท รับช่วย 1 พันบาท คุณสำเนียง จูชวน อำเภอ

    ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ รับช่วยปูน 100 ลูก ประมาณ 2,200 บาท คุณทองชุบ คุณฉอ้อน ทองวิเศษ บ้านท่าซุง รับช่วยเหล็ก 1 หาบ

    ประมาณ 400 บาท เงินจำนวนนี้ยังไม่พอ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ขาดอีกหลายหมื่นบาท ถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทมีความ

    ประสงค์จะร่วมบำเพ็ญกุศลด้วย ก็ขอได้โปรดส่งตรงมายังอาตมา หรือจะส่งผ่าน 04 ก็ได้ เรื่องนี้รบกวนบรรดาพุทธบริษัทพอสมควร

    หมดเข้าไป 5 นาที

    วันนี้มาว่ากันถึงมหาสติปัฏฐานสูตร แล้วก็แปลงเป็นวิชชาสาม ด้านสุขวิปัสสโกน่ะ วิชชาของสุขวิปัสสโกมาแปลงเป็นวิชชา

    สามก็แปลงได้ไม่ยาก เป็นของไม่ยาก ของทำง่ายๆ ทำใจวางภาคพื้นเสียก่อน

    เออ เดี๋ยวก่อนบรรดาญาติโยมทั้งหลายที่กำลังฟังอาตมาอยู่นี่ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไปด้วยหรือเปล่า ไม่ต้องเอามากก็ได้

    เอาแค่รู้ลมเข้ากับลมออกก็ได้ แค่นี้นะแค่นี้จิตจะได้ตั้งอยู่แค่อุปจารสมาธิแล้วก็ฟังไปด้วย มันเป็นบุญกุศลทั้งสองอย่าง เป็นบุญเป็น

    กุศลทั้งขณะที่จิตตั้งอยู่ในอุปจารสมาธิด้วย แล้วก็ฟังธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ได้ผล 2 อย่าง

    ต่อไปขั้นแรก เราต้องวางภาคพื้นเสียก่อนนะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท พื้นใหญ่ คือ อานาปานสติกรรมฐาน อย่าทิ้ง ประการที่สอง

    จิตจงอย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของชาวบ้าน?ประการที่สาม รักษาศีล 3 ชั้น ยามสี่ตามที่ว่ามา ใช้ศีล 5 ก็ได้แทน คือ 1. ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่

    ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่กล่าววาจามุสาวาท ไม่ดื่มสุราเมรัยด้วยตนเอง และก็ไม่ยุให้ชาวบ้านเขาทำ ไม่ยินดีเมื่อชาวบ้าน

    เขาทำ ไม่ยินดีเมื่อชาวบ้านเอขาทำแล้ว 2. ระงับนิวรณ์ 5 ประการเสีย กำลังที่เรากระทำความดีเวลานี้แหละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท

    กำลังฟังธรรมอยู่นี่ก็ดี หรือว่ากำลังภาวนาอยู่ก็ตาม กำลังกำหนดลมหายใจเข้าออกอยู่ก็ตาม อย่าเอาจิตเข้าไปยุ่งกับกามคุณ 5

    อย่าเอาจิตเข้าไปยุ่งกับความโกรธความพยายาม อย่าสนใจกับกับความง่วง อย่าเอาอารมณ์อื่นนอกจากการกำหนดรู้ลมหายใจเข้า

    ออกมาใช้ อย่าให้มันเข้ามายุ่งกับจิต ?สนใจในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เท่านี้พอนะ วางอารมณ์เท่านี้แล้วก็แผ่เมตตาไปใน

    ทิศทั้ง 4 ว่า เราจะมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แก่คนและสัตว์ทั้งหลายทั้งหมดเท่ากับตัวของเรา วางไว้เท่านี้นะ ประเดี๋ยวเดียวก็ได้

    ฌาน ถ้าทำได้ยังงี้แผล็บเดียวโยมได้ฌาน เคี้ยวหมากไม่ทันแหลก เป็นฌาน แล้วก็ฌานของท่านสามารถจะทรงอยู่ได้ตลอดกาล

    หากว่าท่านทรงภาคพื้นนี้ได้ตลอดกาลเพียงใด ฌานของท่านก็จะทรงตัวอยู่เพียงนั้น ไม่เห็นมันยาก ไม่มีอะไรยากเลย

    ทีนี้ มาว่ากันถึงวิธีแปลง นี่วางภาคพื้นได้แล้วนา ถ้าภาคพื้นใครวางไม่ได้แล้วอย่าโทษหลวงตาพูดไม่จริงไม่ได้นะ ไม่ได้หรอก วันนี้

    อาตมาประกาศตัวเป็นสาวกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเมื่อพ่อพูดมายังไง ลูกก็พูดอย่างงั้น อย่างงี้มันสบายใจดี ไม่

    เห็นจะแปลกอะไร แล้วก็ไม่ยากด้วย ไม่ต้องไปนั่งคิดนั่งแปลง ไม่ต้องไปคิดสร้างมันขึ้น สบาย พระพุทธเจ้าท่านสร้างของท่านแล้วนี้

    หลวงพ่อปานท่านจำจากครูบาอาจารย์มาได้ จากพระอรหันต์ทั้งหลายมาได้ แล้วท่านก็มาสอนให้ สอนให้จำเอาไว้แล้วก็เอามาพูดให้

    บรรดาญาติโยมฟังนี้ต่อๆ กันไปไม่เห็นจะลำบาก เหมือนกับคนที่รับมรดกจากพ่อแม่ พ่อแม่กว่าจะได้ไร่นาสาโท ได้บ้าน ได้เงินได้ทอง

    มาแสนยาก มาถึงลูกเพียงแค่เซ็นรับมรดกเท่านั้นแล้วก็ใช้ตามพ่อสั่ง มันก็หมดเรื่อง ไอ้มรดกอย่างนั้นกว่าพ่อท่านจะหามาได้ กว่าจะ

    หาวิธีเก็บรักษาได้มันลำบาก เราเป็นลูก แต่รับสั่งปฏิบัติตามคำสั่ง ง่ายนิดเดียว ไม่เห็นยาก เรื่องเอามหาสติปัฏฐานทั้ง 4 มา

    ดัดแปลงเป็นวิชชาสามอภิญญาหก ปฏิสัมภิทาญาณ มันก็เรื่องไม่ยาก เรื่องกล้วยๆ กล้วยสุกนะ

    เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ลองฟัง ลองทำ อย่าฟังเฉยๆ อย่าคิดเฉยๆ อย่าเอาไปพูดกันเฉยๆ คนประเภทนี้เป็นอาภัพพบุคคล

    หาความเจริญไม่ได้ เป็นโมฆบุรุษ โมฆสตรี หาความดีอะไรไม่ได้ ได้แต่ฟังเฉยๆ พูดกันเฉยๆ เอาไปคิดเฉยๆ แล้วมันไม่ทำ ไม่เกิด

    ประโยชน์ ไม่ใช่สาวกของพระพุทธเจ้าแล้ว เป็นพวกเดียรถีย์แล้ว เดียรถีย์ผมยาวก็มี เดียรถีย์โกนหัวก็มี เยอะแยะ ไม่เอาถ่าน ดีแต่เทศน์

    เอาเงินชาวบ้านเขามาเก็บ วัดวาอารามพังกันเป็นแถว ๆ ไม่มีใครทำกัน อ้าวนี่ไปว่าเขาทำไม เล่าให้โยมฟัง พูดให้ฟัง ไม่ได้ด่าใคร

    หรอก ประเดี๋ยวโยมจะไปทำบุญกับเดียรถีย์เข้าจะได้บุญน้อยน่ะซิ ใครเขาเป็นเดียรถีย์บ้างช่างเขาเถอะ แต่ว่าเวลาเราจะให้ต้องดูนา ผู้

    ให้ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ วัตถุทานที่จะให้ก็ต้องเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ ผู้รับก็ต้องเป็นพระจริงๆ ถ้าไปให้กับเดียรถีย์เข้าจะมาโทษ

    พระพุทธเจ้านา ว่าทำบุญในพุทธศาสนาไม่เห็นมีผล อ้ายนี้เปื่อยไปเสียแล้วซี

    ทีนี้ วิธีดัดแปลงสุขวิปัสสโกมาเป็นเตวิชโช อันนี้ไม่ยาก ญาติโยมทั้งหลายได้ฌาน 4 แล้วใช่ไหมล่ะ จำได้หรือเปล่าว่าอานาปาน

    สติกรรมฐานในมหาสติปัฏฐานสูตรน่ะโยมได้ฌาน 4 แล้วนี่น่ะ นี่พูดกันมาหลายวรรค หลายพุธแล้วนี่ แต่ฌาน 4 มันควรจะผ่านไปแล้ว

    ความจริงฌาน 4 น่ะ อานาปานสติกรรมฐานทำไม่ยากเลย ถ้าทำจริงๆ ทำไม่ยาก สนใจจริงๆ เป็นเรื่องไม่ยาก อานาปานสติกรรมฐาน

    ที่ให้ฌาน 4 ได้รวดเร็วที่สุด แล้วก็เป็นกรรมฐานภาคพื้นใหญ่ แม้เป็นกรรมฐาน 40 กองก็เหมือนกัน ใครจะทำกองไหนก็ตาม จะ

    ทิ้งอานาปานสติกรรมฐานเสียไม่ได้ ถึงแม้ว่าองค์สมเด็จจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง พระองค์ก็ทรงยอมรับ ทรงตรัส

    กับพระสารีบุตรว่า สารีปุตตะ ดูก่อนสารีบุตร เราเองก็เป็นผู้มากไปด้วยอานาปานสติ หมายความว่าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าแล้วนะ

    พระองค์ก็ทรงใช้อานาปานสติกรรมฐานอยู่เสมอ เห็นไหมอย่าทิ้งนา อย่าทิ้งกัน นี่เตือนกันนา ประเดี๋ยวหาว่าเล่าเรื่องอะไรส่งเดช

    ไม่เตือนกัน?ที่นี้ เมื่อญาติโยมได้ฌาน 4 แล้วมันจะไปยากอะไร เราจะเรียนวิชชาสามใช่ไหมแป๊บเดียวได้ นี่เวลาเหลืออีก 10 นาทีจบ

    วันนี้จบวิชชาสาม แต่ยังไม่จบละเอียดหรอก รายการละเอียดเอาไว้พุธหน้า

    วันนี้ทำให้จบกันก่อน ขั้นแรกที่สุดเข้าฌาน 4 ในอานาปานสติกรรมฐาน จับตั้งแต่เล็ก กำหนดลมหายใจแค่จมูกมาก่อนจนจิต

    สบาย เลื่อนเข้าไปรู้ลมเข้าออกยาวหรือสั้น พอจิตสบาย กำหนดกองลมว่านี่?เราจะหายใจเข้า นี่เราจะหายใจออก

    มันหายใจเข้าสั้นยาวน่ะรู้อยู่แล้ว มันหยาบหรือละเอียดไม่รู้ พอจิตสบายตอนนั้น ไม่สนใจกับกองลม วางอารมณ์เป็นเฉยเสีย จับ

    อารมณ์เป็นดิ่ง มันจะหายใจหรือไม่หายใจก็ตามใจ พออารมณ์สบายแล้วลืมตาดูนิมิตกสิณ กสิณ 3

    อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งจัดไว้ คือ 1. สีขาว เรียกว่าโอทาตกสิณ 2. แสงสว่างเรียกว่าอาโลกสิณ 3. แสงไฟ เรียกว่าเตโชกสิณ

    อย่างใดอย่างหนึ่งจัดตั้งนิมิตเข้าไว้ ถ้าไม่เข้าใจเปิดหนังสือคู่มือพระกรรมฐานที่แจกให้ไปอ่านดู หรือว่าจะดูวิสุทธิมรรคก็ได้ ดูใน

    ธรรมปริจเฉท 2 ของหลักสูตรนักธรรมชั้นโทก็ได้ มีแบบเยอะไป มีแบบเยอะ ลืมตาดูภาพกสิณอย่างใดอย่างหนึ่ง พอจำได้แล้วหลับตา

    ถ้าหากว่าดูไฟ ภาวนาว่า เตโชกสิณัง ถ้าหากว่าดูสีขาวภาวนาว่า โอทาตกสิณัง ถ้าดูแสงสว่างภาวนาว่า อาโลกกสิณัง แล้วหลับตา

    นึกถึงภาพนั้นจิตเป็นฌานอยู่แล้วน่ะ นิมิตจับดิ่งเลย ไม่ยากหรอก ได้เดี๋ยวนั้น แต่หากว่านิมิตยังเป็นภาพเดิมอยู่ ยังถือว่าใช้ไม่ได้ รักษา

    นิมิตนั้นแหละให้เคลื่อนเข้าไปๆ ถ้าจิตถึงฌาน 4 เอายังงี้ก็แล้วกัน ถ้าจิตเข้าถึงฌานนิมิต จะเปลี่ยนสีเดิมไป เป็นสีประกายพรึกเหมือน

    กันหมด ไม่ยาก วันเดียวได้ เดี๋ยวเดียวแหละ ไม่ถึงวัน ไม่เห็นมันยากอะไรนี่ ของกล้วยๆ เอามานั่งพูดกันให้ลำบาก ฟังคนพูดแล้ว รู้สึก

    ว่าฟังลำบากมาก เขาพูดกันให้ลำบากมากแต่ความจริงมันไม่ลำบากลำบนอะไรสักนิดหนึ่ง ไม่มีอะไรลำบากเลย ประเดี๋ยวเดียวจิตเข้า

    ถึงฌาน 4 แล้วถอยออกมาปั๊บ ลืมตาดูนิมิตกสิณนะ กสิณตามที่บอกไว้แล้วนั่นแหละ ดูปั๊บจำได้ จิตเป็นสมาธิแล้วมันจำได้ไม่ยากหรอก

    พิโธ่เอ๊ย เหมือนกับคนที่กินข้าวทุกวันๆ พอเขาบอกว่ากินข้าวเปิบแบบนี้นะ เท่านั้นแหละ ก็กินได้เลย หรืออีกอย่างหนึ่งเราเคยกินด้วย

    มือ ไปถึงบ้านหนึ่งเขาบอกว่านี่ๆ ๆ ที่บ้านนี้เขาไม่กินข้าวด้วยมือเปล่ากันเขากินด้วยช้อนจับช้อนแบบนี้ ตักแบบนี้ มันก็ทำได้เลย แต่ก็

    จะเกะกะไปนิดหนึ่ง ใช้เวลาเกะกะฝึกกันแค่วัน สองวัน สามวันเท่านั้นมันก็คล่อง ใช้ช้อนคล่อง ข้อนี้มีอุปมาฉันใดการจับภาพกสิณก็

    เหมือนกัน คนที่เขาคล่องจริงๆ แล้วเขาจับปั๊บเดียวได้เลย แต่คนที่คล่องน้อยไปหน่อยก็ไม่เกิน 3 วัน ถ้าหากว่าใครทำเกิน 3 วันละก็ เอา

    หัวไปจุ่มขี้หมาเสียก็แล้วกัน อย่าเอาหัวเป็นคนเลย เลิก ใช้อะไรไม่ได้หรอก นั่นมันเลอะเทอะแล้ว คนได้ฌานจะทำกสิณ 3 วันไม่สำเร็จ

    กองละก็อย่าทำต่อไปเลย อีกหลายโกฏิชาติไม่ได้ดีหรอก จะได้ดียังไง ก็ไอ้ฌานที่ได้มันไม่ได้จริงๆ นี่ มันโกหกเขาน่ะ ถ้าทำได้จริงๆ

    ประเดี๋ยวเดียวแป๊บปั๊บ มันก็แบบหัดกินข้าวด้วยช้อนน่ะแหละ มันไม่ยากอะไร ทำจริงๆ มันไม่ยาก

    ทีนี้ พอภาพกสิณปรากฏเป็นประกายพรึก สีขาววิจิตรตระการตาแพรวพราวเราบังคับใหญ่ก็ได้ ก็จะใหญ่ขึ้น นึกให้ภาพเล็กลงก็จะเล็ก ให้

    สูงก็ได้ต่ำก็ได้ ไปอยู่ข้างหน้าก็ได้ไปอยู่ข้างหลังก็ได้ ตามความพอใจ หัดยังงี้เสียให้คล่องสัก 2-3 วัน เอาให้คล่องเพื่อยังความคงที่

    เข้าไว้ทีนี้ ต่อไป 2-3 วันจิตนึกปั๊บจับได้ นึกปั๊บจับภาพกสิณได้ ที่นี้ก็กล้วยแล้ว ใช้งานได้แล้วซิ ตอนนี้อยากจะคิดอยากจะเห็นอะไรล่ะ

    อยากจะดูสวรรค์หรืออยากจะดูนรก อยากจะดูคนตายแล้วไปไหน คนที่มาเกิดนี้มาจากไหน โอ๊ มันเรื่องเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

    มโหฬารอะไร ไม่ใช่ของลำบาก แต่ข้อสำคัญที่สุดขอย้ำว่า อย่าทิ้งลมหายใจเข้ารออกนะ ยามปกติรักษาลมหายใจเข้าออกไว้ ถ้า

    จะนั่งที่ไหน เดินที่ไหน นอนที่ไหนก็ตามรักษานิมิตกสิณไว้ นิมิตกสิณที่เพ่งเห็นแล้วนั่นแหละ ไปนั่งอยู่ก็ได้ เดินไปก็ได้ ไปธุระไหน

    ไปนาไปไร่ก็ตาม ไปธุระไปหาเพื่อนบ้านก็ตาม รักษาภาพกสิณเข้าไว้ ให้ภาพกสิณมันปรากฏแก่ใจเป็นปกติ เพียงเท่านี้ นึกถึงภาพกสิณ

    เมื่อไรให้เห็นเมื่อนั้น แค่นี้ละ 3 วัน ก็ได้ไม่ยาก ระยะ 3 วันนี่ให้ระยะช้าไปน่ะนะ พูดกันจริงๆ แล้วพวกที่ได้ฌาน 4 จากอานาปานสติแล้ว

    วันเดียวเขาเอาไปกินกันเลย เขาฝึกกสิณวันเดียวเฉพาะอาโลกกสิณ โอทาตกสิณ หรือเตโชกสิณ อย่างใดอย่างหนึ่งที่เขาเอาไปกินกัน

    เลย ฝึกวันเดียว ฝึกเช้าเย็นใช้งานได้ จะไปยากอะไร คนทำได้แล้ว คนทำได้แล้วไม่ยาก ก็คนทุกคนทำได้ ไม่ใช่ว่าเลือกคนทำ

    ทีนี้ เราจะดูภาพนรกสวรรค์กันอย่าลืม 1. ยามปกติอย่าทิ้งอานาปานสติกรรมฐาน 2. อย่าทิ้งภาพกสิณ นิมิตกสิณนี่ต้องชำระให้ใสจริงๆ

    เพราะเป็นเครื่องวัด การจะเห็นนรกเห็นสวรรค์ จะเห็นพรหมโลกก็ตาม ถ้าหากว่าเราเห็นภาพกสิณเท่าไร เราก็จะเห็นภาพนรกสวรรค์ได้

    เท่านั้น ?ทีนี้ สมมติเราอยากจะเห็นนรกเราก็เพ่งภาพกสิณปั๊บ เห็นภาพกสิณแจ่มใส สบายใจดีแล้ว เราก็อธิษฐานจิตว่า ขอ

    ภาพกสิณจงหายไป ภาพนรกจะปรากฏ แค่นี้ภาพกสิณก็จะหายไป ภาพนรกจะปรากฏ แล้วภาพสวรรค์ภาพพรหมโลก ภาพอะไรก็

    เหมือนกันจะมีสภาพเป็นอย่างนี้ นี่แหละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท วิธีฝึกวิชชาสามนะ เป็นของไม่ยาก ทำได้ตามนี้ คัดออกมา

    จากแบบของมหาสติปัฏฐานสูตร คือไม่ใช่ดัดแปลง มหาสติปัฏฐานสูตรท่านสอนในขั้นสุกขวิปัสสโก

    ทีนี้ถ้าหากว่าเราอยากจะเป็นเตวิชโชขึ้นมาทำตามนี้ ถ้าจะเป็นฉฬภิญโญก็ไม่ยาก เมื่อได้กสิณกองใดกองหนึ่งแล้ว อีก 9 กองก็กล้วย

    เหมือนกัน เป็นแต่เพียงว่าเปลี่ยนท่าเปลี่ยนทางเปลี่ยนภาพนิดหน่อยเท่านั้น แล้วภายใน 3. เดือนท่านก็จะสำเร็จอภิญญา หากมีความ

    ปรารถนาด้วยปฏิสัมภิทัปปัตโตก็ยกภาพกสิณขึ้นเป็นนิมิต แล้วก็เพิกกสิณทิ้งเสีย ยกอากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ

    อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญา?นาสัญญายตนะมาแทน แทนแต่ละอย่างให้ถึงฌาน 4 เท่านี้ก็ชื่อว่าได้สมาบัติ 8

    แล้วต่อไปก็จะได้ปฏิสัมภิทาญาณเอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน พูดมาวันนี้ก็หมดเวลาพอดี ต้องขออำลาบรรดาญาติโยม

    พุทธบริษัทไปก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผลจงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน สวัสดี

    จากหนังสือ มหาสติปัฏฐาน ตอนที่ ๕
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กันยายน 2015
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +70,531
    ตัดกิเลสให้ชำนาญเป็นพื้นฐาน เริ่มจาก ทำใจสบาย สลัดอารมณ์อกุศลเช่นความโกรธเคือง ความอิจฉาริษยา ความไม่พอใจ ความหม่นหมอง ฯลฯ ออกจากใจได้ง่าย


    ต่อมา สิ่งที่เป็นนิวรณ์ทั้งห้า ก็สามารถระงับ ดับลงได้แม้ชั่วคราว ได้ง่าย

    ต่อมา สามารถควบคุม มโนกรรม วจีกรรม ที่จะก่อเวรก่ออกุศลกรรมได้ง่ายได้ไว
    เรื่องกายกรรมที่จะกระทำอกุศลกรรม ก็มีแต่จะหยุด ไม่มี



    ผู้หยุด ได้จริง ไม่มีเวรภัยกับใคร

    ไม่ถือตัวตน ด้วยสักกายทิฐิ อย่างหนาแน่น

    ไม่มีมานะ อัสมิมานะ อย่างรุนแรง ถึงขั้นแสดงออกด้วยกาย วาจา กับใคร


    มีแต่ชำระล้างเหตุไม่ดีออกจากจิตใจไปเรื่อยๆ

    บริสุทธิ์ด้วยกรรมสาม ขึ้นเรื่อยๆ

    แม้ไม่อยากเป็นอริยะ ก็เป็นไปตามกลไกธรรมชาติเอง
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,728
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +70,531
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...