เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    สมองส่วนกลาง

    พี่นักเขียนเข้าใจว่า การใช้สมองส่วนกลางหมายถึงความสามารถในการใช้สมองซีกซ้ายและขวาได้ทัดเทียมกัน โดยใช้ความสามารถของสมองทั้งสองซีกไปในทิศทางที่มันชำนาญ แทนที่จะใช้เพียงซีกซ้ายเพียงซีกเดียวตามที่ระบบการศึกษาที่ฝึกให้ใช้ ได้แก่ ใช้คิดเลข คิดเป็นคำพูดและเป็นเหตุเป็นผลตามลำดับ

    แม้ว่าพี่นักเขียนจะแนะนำให้พวกเราใช้สมองซีกขวาให้มากกขึ้นด้วยการวาดภาพ ซึ่งเป็นงานที่สมองซีกขวาชำนาญและสมองซีกซ้ายทำไม่เป็น ซึ่งทำให้สมองซีกซ้ายซึ่งมีอิทธิพลสูง และมักทำงานอยู่ซีกเดียวอ่อนอิทธิพลลงไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการวาดภาพบ่อยๆจะทำให้เราเลิกใช้สมองซีกซ้ายไปโดยปริยาย

    สมองทั้งสองซีกมีประโยชน์ต่อเราไม่น้อยไปกว่ากัน
    สมองซีกซ้ายมีประโยชน์ต่อตัวตนภายนอก และการตอบสนองต่อประสบการณ์ภายนอก ซึ่งอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา

    สมองซีกขวามีประโยชน์ต่อตัวตนภายใน และการตอบสนองต่อประสบการณ์ภายใน ซึ่งอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา

    หากเราสามารถใช้สมองทั้งสองซีกได้เสมอเหมือนกัน ในทิศทางที่มันชำนาญโดยเฉพาะ เราจะสามารถรู้เห็นโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติซึ่งหมายถึง โลกภายในและโลกภายนอกได้ทั้งสองโลก อีกนัยหนึ่งกล่าวได้ว่าเราจะรู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามความเป็นจริงทั้งหมดในภาพรวม

    เราจะเข้าใจประสบการณ์ชีวิตที่ปรากฏในโลกทางกายภาพหรือโลกภายนอกได้ และเข้าใจถึงอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ปรากฏในโลกทางจินตภาพหรือโลกภายในซึ่งเป็นรากฐานหรือต้นกำเนิดของประสบการณ์ชีวิตที่ปรากฏในโลกทางกายภาพหรือโลกภายนอกทั้งหมด

    เช่นเดียวกับที่เราค้นพบว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในทางที่ผิดของตนเอง ทำให้เรามองภาพต้นฉบับและวาดภาพเหมือน-ให้เหมือนจริงไม่ได้ ต่อเมื่อเราหยุดสมองซีกซ้ายที่เต็มไปด้วยวิตกวิจารณ์ หยุดครอบงำอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดด้วยความเชื่อว่า ดวงตาต้องกลม รูจมูกต้องมีรูปทรงเช่นนั้น-เช่นนี้ ใบหน้าต้องลากเส้นอย่างนั้น-อย่างนี้ ฯลฯ แต่วาดไปตามที่เห็นโดยไม่ต้องกะเกณฑ์ว่าจะวาดอย่างไร เพราะอะไร ทำไม เรากลับวาดภาพเหมือนให้เหมือนจริงได้มากขึ้น

    แม้ว่าเราจะวาดภาพด้วยการใช้สมองซีกขวาได้ดีขึ้น หรือใช้สมองซีกขวาได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ในที่สุด ภาวะทางกายภาพของร่างกายเนื้อหนังก็ยังคงทำให้เราต้องดำเนินชีวิตและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆทางกายภาพ ด้วยการอาศัยสมองซีกซ้ายไม่น้อยไปกว่าเดิม เรายังคงต้องอาศัยสมองซีกซ้ายเป็นผู้คิดและกำหนดให้เราว่า เราจะดำเนินการวาดภาพส่วนใดก่อนหลัง ตามลำดับบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แม้ภาพรวมทั้งหมดจะปรากฏในโลกภายในเป็นจินตภาพ ปรากฏเป็นภาพที่เสร็จสมบูรณ์ในจินตนาการแล้วก็ตาม เราก็ต้องพึ่งสมองซีกซ้ายที่จะผ่องถ่ายการสร้างสรรค์นั้นออกมาสู่โลกภายนอกตามลำดับบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

    ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น เมื่อเราเรียนรู้ถึงรากฐานของธรรมชาติความเป็นจริงที่ว่า
    เราทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงจากความเชื่อของตนเอง
    เราเรียนรู้ว่าเราสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตและทุกสิ่งทุกอย่างจาก
    อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของตนเอง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบันในโลกภายใน แต่ทั้งหมดนี้ก็มาสู่ประสบการณ์ชีวิตในโลกภายนอกด้วยการอาศัยช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลาเสมอ(rose)
     
  2. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Hello ! อย่าเพิ่งเซ็งกับการหาหนังสือไม่ได้ค่ะ
    ขอเวลาแก้ปัญหาอีกระยะหนึ่ง ตอนนี้อย่าเสียเวลาไปหาตามร้านหนังสือ พี่นักเขียนจะแจ้งให้ทราบว่าจะออกวางตลาดอีกเมื่อไร


    ใครที่ยังไม่มีหนังสือเลยสักเล่ม ขอให้แวะไปอ่านที่ http://www.novaanalai.com/novaanalai/Index.html ไปพลางๆก่อน

    ขณะนี้มีเล่มแรก โนวา อนาลัย ขยายความธรรมชาติของชาติภพ เป็น eBook อ่านได้หมดทั้งเล่มhttp://www.novaanalai.com/Book_1/BK1Cover.html

    ส่วนเล่มอื่นๆมีให้อ่านได้คือบทที่ 1 และจะทะยอยเป็น eBook จนครบหมด 10 เล่มค่ะ
    [​IMG]
    ตอนนี้มีนิ้วมือไม่ค่อยพอใช้ ใครให้ยืมได้ ขอยืมด่วนอีกประมาณ 100 น้ิืว สิ้นปีจะคืนให้เจ้าค่ะ ระหว่างที่ให้พี่นักเขียนยืม เอามือนี้มาแลกไว้ให้ใช้การชั่วคราวค่ะ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2008
  3. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    นกให้ยืมมือนก แถมมือเจ้าฟลุ๊คกะเจ้าโชคดีด้วยค่ะพี่นักเขียน อิอิ
    ราตรีสวัสดิ์ พรุ่งนี้ไปทะเลแต่เช้า เย้ ๆ
     
  4. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2008
  5. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    พี่นักเขียนเข้าใจว่าสมองส่วนกลางคือการใช้สมองสองซีกได้ทัดเทียมกัน แต่ผมเข้าใจไปว่าสมองส่วนกลางคือสมองส่วนตรงที่เขียนว่า mid brain ตรงในรูปนี้ครับ

    [​IMG]
     
  6. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ตอนนั้น(3-4 เดือนก่อนโดยประมาณ)เคยเห็นร้านนายอินทร์ที่ท่าพระจันทร์มีขายครับ
     
  7. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ถ้ามีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งแล้ว เปิดไปที่หน้าสำนักพิมพ์แล้วสั่งซื้อได้เลยค่ะ หรือจะไปซื้อถึงที่ก็ได้ แต่ต้องโทรไปก่อน ณ.จำได้แค่ว่าอยู่ถนนสุขุมวิท ซ.101/1 หรือไงนี่แหละ หัวหน้าช่วยหน่อยสิ หรือ ใครมีหนังสืออยู่ใกล้ๆ ช่วยเปิดหาหน่อยสิค่ะ วันนี้ไม่ได้พกหนังสือมาด้วย[Embarrass
     
  8. foggy3

    foggy3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +130
    ห้างหุ้นส่วนเอทีมบิสซิเนส
    47วอยวชิรธรรมสาธิต 43/1 ถนนสุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 10260
    โทร. 02-7461004-6 โทรสาร 02-3934099
    www.ateam.co.th
     
  9. foggy3

    foggy3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +130
    ขออภัยในข้อมูลที่ผิดพลาดนะคะ เพราะหลังจากโพสขึ้นไป แล้วเข้าเวบจึงรู้ว่าเป็นแบบนี้ค่ะ ขออภัยอีกครั้ง
    เรียน ท่านที่จะสั่งหนังสือชุด " โนวา อนาลัย " ทราบ ทางบริษัท ฯ ไม่ได้รับสิทธ์ในการพิมพ์ และ จัดจำหน่าย หนังสือชุดนี้แล้ว
    และไม่ได้มีส่วนในการเผยแพร่ข้อมูลใด ๆ ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และในระบบอินเตอร์เน็ททั้งสิ้น
    หากสนใจหนังสือโปรดติดต่อ ที่ http//www.novaanlai.com
     
  10. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    (good) ไม่เป็นไรครับอ่านกระทู้เพลินๆก็ได้ครับ ตอนนี้อ่านถึงหน้า 34 แล้ว คงอ่านได้อีกหลายวันครับ
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    e-Book ของพี่นักเขียนสมบูรณ์แบบมาก เข้าไปอ่านกันครับ
    มีความรู้อีกชุดนึงเรื่องสมองส่วนกลาง
    ที่หมายถึงการใช้สมองส่วนกลางทั้งระบบ นำซีกซ้าย-ซีกขวา..เพื่อการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

    [​IMG]

    มีการระบุถึงอาณาจักรของพระเจ้าในคำภีร์ไบเบิ้ล..
    กล่าวถึงพระเจ้าประทับนั่งบัลลังค์อยู่ตรงกลางเป็นแสงสว่างเจิดเจ้า
    มีกระถางคบเพลิง 7 ดวงจุดไว้ตรงหน้าพระที่นั่ง
    รอบๆมีที่นั่งของพระศาสดาจำนวน 24 พระองค์

    และมีสัตว์ทั้งสี่ตัวอยู่รายรอบแท่นประทับ
    สัตว์ทั้งสี่ตัวมีตาเต็มทั้งตัว แต่ละตัวมีปีกหกปีก


    สัตว์ทั้ง 4 ตัวหมายถึง สมองมนุษย์ทั้งสี่ส่วนดวงตาที่มีแทนเซลล์สมองจำนวนมากหรือตัวสัมผัสรู้

    สัตว์ตัวที่หนึ่งหน้าเหมือนสิงห์..หมายถึงสมองซึกขวา ที่หน้าเหมือนสิงห์เพราะเป็นสัตว์ชั้นสูง เลยยกให้เป็นระดับหนึ่งแทนสมองซึกขวา+สติปัญญาที่แยบยล กล้าหาญ ละเอียดลึกซึ้ง เป็นผู้นำในตัวเอง นำผู้อื่นแบบเจ้าป่า

    สัตว์ตัวที่สองนั้นเหมือนโค...โคเป็นสัตว์ประจำโลก ช่วยเหลือมนุษย์ไถนา ใช้ลากเกวียน แทนสมองส่วนท้ายทอย เรื่องการ "ใช้กำลัง"ไม่ใช่ปัญญา

    สัตว์ตัวที่สามนั้นหน้าเหมือนมนุษย์... คือสมองซีกซ้ายนั่นเองครับ มนุษย์ส่วนใหญ่มักใช้สมองซึกซ้ายนำขวากันมาตลอด

    ต่อไปคือ สัตว์ตัวที่สี่ เหมือน นกอินทรีย์กำลังบิน นี่คือปัญญาณขั้นสูงที่จะได้รับจากสมองส่วนกลางทำหน้าที่ร่วมกับต่อมพิทูอิทารี่ ถ้าสั่นสะเมื่อเมื่อไหร่ ต่อมทุกต่อมในร่างกายจะสั่นสะเทือนพร้อมกันหมด ทำให้มีพลังอำนาจสูงมาก ในการขับเคลื่อนปัญญาญาณ ด้วยกระบวนการหยั่งรู้ขั้นสูงสุด แต่ยังต้องใช้วิธีการสังเคราะห์ข้อมูล โดยการใช้สมองซีกขวานำซ้ายเข้ามาช่วย นั่นคือการเข้าถึงความสามารถในการใช้ปัญญาญาณสูงสุดที่เป็นสมองส่วนกลาง เหมือนนกอินทรีกำลังบินสื่อสารไปได้ทั่วทั้งจักรวาลไกลแสนไกล รู้ทุกสิ่งทั้งมิติทางกายภาพและมิติทางพลังงาน อธิบายได้ทุกสิ่งที่มนุษย์ส่วนมากไม่รู้

    คือสมองถูกเปรียบเทียบไว้ โดยแบ่งเป็นกลุ่มได้สี่ส่วนครับ
    รูปปกข้างล่างนี้เคยทำให้อาจารย์ปริญญา แต่ไม่ได้ใช้ ซึ่งบรรยายภาพสมมุติออกมาเหมือนกันครับ

    ส่วนสัตว์แต่ละตัวมีหกปีก หมายถึงจิตวิญญาณมนุษย์จะมีเหลื่ยมมุมทั้งหมดหกเหลื่ยมมุม คือรูปธรรมพลังอำนาจของมนุษย์ที่หมุนรอบตัวเองตลอดเวลา เพื่อทำให้เหลื่ยมมุมทั้งหกนั้นรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้


    [​IMG]

    ส่วน คบเพลิงทั้ง 7 กระถาง หมายถึง คลื่นความถี่ที่เป็นสุญญตา 70 % ที่เกิดขึ้นจากการแบ่งภาคเป็นมนุษย์ที่มาเกิดในมิติโลก (70 % ก็คือ 7ดวง) คบเพลิงเหล่านั้นคือจิตวิญญาณทั้ง 7 ของพระเจ้า
    ความหมายที่อาจารย์เล่าให้ฟังเป็นแบบนี้ครับ:- สรุปว่าเราทุกคนมีจิตวิญญาณพระเจ้า หรือจิตที่เป็นพุทธะอยู่กับเราทุกๆคน และอยู่ใกล้แค่นัยย์ตานี่เอง..
    ในความเป็นจริงแล้ว จิตวิญญาณไม่มีจำนวนนับ จิตวิญญาณเป็นระบบเครือข่าย จิตวิญญาณคือความรู้ และเพิ่มขึ้นและหด-ขยายได้มากรวมมายกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก<!-- / message --><!-- sig -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2008
  12. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    ตอนแรกก็คิดว่าจะซื้อให้ครบ 10 เล่มไปเลยเพราะคิดว่าหนังสือชุดนี้คงวางขายไม่ได้นานเพราะว่าคนเขียนอยู่ต่างประเทศและเห็นจำนวนพิมพ์แค่ 2000 เล่มเท่านั้น(ก็อย่างงี้แหละของดีมักจะมีน้อย อิอิ) แต่ไปๆมาๆเลยซื้อแค่ 7 เล่มก่อนกะว่าจะไปเก็บ 3 เล่มที่ยังไม่ได้อ่านที่งานหนังสือ แต่ทำไมเป็นอย่างงี้ไปได้ ก็จะรอนะครับ ตอนนี้ผมมีหนังสือ 7 เล่ม ยังไม่ได้อ่านจิตวิญญาณประสานกาย กับ อมตะแห่งจิตวิญญาณทั้ง 2 เล่ม ผมอ่านอิสระแห่งความปรารถนาไป 3 รอบ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณจบไป 2 รอบ ส่วน 5 เล่มที่เหลืออ่านไปอย่างละรอบครับ ตอนนี้กำลังอ่านโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติรอบสองอยู่ ตั้งแต่อ่านหนังสือชุดนี้มาผมดีขึ้นเยอะเลยอ่ะครับ มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะมากมายเลย ขอบคุณมากๆเลยครับ
     
  13. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    คือไม่มีเวลานำเรื่อง เผ่าพันธ์สุมาริสา มา Post ให้อ่านน่ะค่ะ อยู่ในบทที่ 25 เป็นเรื่องการจัดหมวดหมู่เผ่าพันธ์สติสัมปะชัญญะของจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ ท่านอาจารย์อนาลัยจัดแบ่งแยกไว้ทั้งหมด 9 เผ่าพันธ์ เผ่าพันธ์สุมาริสาเป็นเผ่าพันธ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ เข้าใจว่าคุณ Mead กับ พี่จิตต์ น่าจะเป็นเผ่าพันธ์เดียวกันเพราะพวกเค้าจะชอบงานศิลปะด้วยค่ะ อาชีพของเผ่าพันธ์นี้ส่วนใหญ่จะเป็นสถาปนิกและเป็นผู้มีความรู้ความสามารถมักจะมาเกิดก่อนการเปลี่ยนแปลงของโลก ถ้าคุณ Mead หัวดื้อด้วยนี่ใช่เลย.. อิอิ.. แต่ละเผ่าพันธ์ถือเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์เดียวกัน ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันเป็นครอบครัวเดียวกัน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อมาร่วมกันเรียนรู้ให้บรรลุเป้าหมายทางจิตวิญญาณของแต่ละเผ่าพันธ์

    แต่อย่างไรก็ตามในบทที่ 26 ท่านอาจารย์อนาลัยก็กล่าวไว้ว่าแต่ละเผ่าพันธ์สามารถเรียนรู้และผสมผสานความสามารถหรือความถนัดของแต่ละเผ่าพันธ์ได้ด้วยการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปะชัญญะ โดยเปรียบเหมือนการบรรเลงเป็นวงมโหรี.. ประมาณนี้ล่ะค่ะ.. สงสัยคงต้องให้คุณ Zip คุณโชว์พาวที่มีหนังสืออยู่ในมือนำมาขยายความให้พวกเราอ่านมั่งซะแล้ว.. อิอิ..

    แต่เดี๋ยวจะให้คุณ Mead ยืมอ่านก่อนได้ค่ะ..;)
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณมากครับ ใจดีสุดๆ
    วันนี้คุณขจรวรรณไปเรียนพลังเอกภพรอบพิเศษ
    เป็นไงบ้างมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
     
  15. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    ถ้าจะให้ผมเล่าเนี่ย ผมย่อความหรือขยายความไม่เก่งซะด้วยครับ เดี๋ยวรอให้คนอื่นมาลงดีกว่านะ อิอิ
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอยกเอาตรงส่วนที่เขียนถึงเผ่าพันธุ์สติสัมปชัญญะทั้ง 9 เผ่าพันธุ์มาเลยล่ะกัน ตรงที่เป็นสีแดงคือยกมาเต็มๆ ส่วนตรงที่เป็นสีน้ำเงินคือย่อๆ มา ที่แยกสีก็เพื่อจะได้รู้ว่าตรงไหนที่เนื้อหาถูกตัดย่นย่อลงมา
    -----------------------------------------------------
    เผ่าพันธุ์หรือชนิดหรือประเภทของสติสัมปชัญญะที่มาถือกำเนิดเป็นมนุษย์มีทั้งหมด ๙ เผ่าพันธุ์ด้วยกันคือ

    ๑. กรมาด(กอ-ระ-มาด) ผู้กระทำตามความมุ่งมาด
    ๒. สุเมจารย์(สุ-เม-จาน) ผู้ถ่ายทอดความรู้ตามต้นฉบับ
    ๓. ธุรพิทษ์(ทุ-ระ-พิด) ผู้ดูและรักษา
    ๔. ไวทัศน์(ไว-ทัด) ผู้รู้เห็นการณ์ไกล
    ๕. มุรเมทน์(มุ-ระ-เมด) ผู้มีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติ
    ๖. กายวิจต์(กา-ยะ-วิด) ผู้มีศิลปะในการใช้ร่างกาย
    ๗. เมหริต(เม-หะ-ริต) ผู้ตระหนักในความงดงามของเพศ
    ๘. นาวิณิชย์(นา-วิ-นิด) ผู้ชำนาญการในการแลกเปลี่ยนคิดค้น
    ๙. สุมาริสา(สุ-มา-ริ-สา) ผู้มีความคิดสร้างสรรค์

    ในที่นี้-ฉันตั้งชื่อแต่ละเผ่าพันธุ์เพียงเพื่อช่วยให้เธอรู้จักแต่ละเผ่าพันธุ์ได้ง่ายขึ้น แต่สาระสำคัญของแต่ละเผ่าพันธุ์ขึ้นอยู่กับทัศนคติและมุมมองที่แต่ละเผ่าพันธุ์มีต่อโลกแห่งความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น เธอไม่ได้เป็นจิตวิญญาณที่มีสติสัมปชัญญะที่มีความคิดสร้างสรรค์เพราะเธออยู่ในเผ่าพันธุ์ "สุมาริสา" ในทางตรงกันข้ามเธอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณที่มีสติสัมปชัญญะอยู่ในเผ่าพันธุ์ "สุมาริสา" เพราะเหตุว่าเธอเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นเผ่าพันธุ์ของสติสัมปชัญญะจึงไม่ได้เทียบเท่ากับหมวดหมู่ทางโหราศาสตร์ซึ่งกำหนดคุณลักษณะหรือบุคลิกภาพของเธอตามวันเดือนปีเกิดและตำแหน่งของดวงดาว

    การที่เธอจะเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับสาระเหล่านี้ได้ เธอจะต้องระลึกเสมอว่าเผ่าพันธุ์ของสติสัมปชัญญะคือ "ภาวะจิต" ซึ่งเป็นแนวโน้มของการมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในโลกทางกายภาพ

    ๑. กรมาด(กอ-ระ-มาด) ผู้กระทำตามความมุ่งมาด


    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กรมาดมีความช่ำชองในการรวบรวมหรือก่อตั้ง บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กรมาดมักปรากฏตัวทันทีหลังการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเช่นการปฏิวัติ แนวโน้มในการรวบรวมหรือก่อตั้งของพวกเขามักเป็นสิ่งที่พวกเขาแสดงออกหลายทิศทางในชีวิต พวกเขาอาจอยู่เบื้องหลังของการจัดงานต่างๆ เช่น งานแสดงศิลปกรรม แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ศิลปิน พวกเขามักเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาทั้งหลาย แต่พวกเขาก็อาจจะไม่ได้เป็นนักการศึกษา

    ผู้ก่อตั้งธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั้งหลายมักเป็นบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กรมาดและบางคนก็เป็นนักการเมืองหรือข้าราชการ พวกเขาเป็นคนที่มีชีวิตชีวากระฉับกระเฉงและมักจะก้าวร้าวอย่างสร้างสรรค์ พวกเขามีความสามารถพิเศษในการนำเอาความคิดของคนจำนวนมากมารวมกัน พวกเขาสามารถนำเอาความคิดที่ขัดแย้งกันมาประสานกันเป็นโครงสร้างที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พวกเขาจีงมักเป็นผู้ก่อตั้งระบบสังคม

    ส่วนมากแล้วผู้ก่อตั้งโรงพยาบาล โรงเรียนและองค์กรศาสนาทั้งหลายมักเป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กรมาด พวกเขามักเป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษในการนำเอาความคิดรวบยอดที่คนจำนวนมากไม่ใส่ใจมารวมกันเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

    พวกเขาเป็นผู้รวบรวมพลังงานและเหนี่ยวนำพลังงานไปสู่โครงสร้างของสังคมที่มีประสิทธิภาพ พวกเขามักก่อตั้งองค์กร รัฐบาล โรงเรียนหรือสมาคม ซึ่งมีความมั่นคง แต่เขาก็อาจจะไม่ใช่ผู้ทีริเริ่มความคิดที่อยู่เบื้องหลังโครงสร้างทั้งหมด


    ๒. สุเมจารย์(สุ-เม-จาน) ผู้ถ่ายทอดถความรู้ตามต้นฉบับ

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุเมจารย์เกี่ยวพันกับการสอน พวกเขาอาจมีพรสวรรค์ด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ความสนใจหลักของพวกเขาอยู่ที่การถ่ายทอดความรู้ของเขาให้กับผู้อื่น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นบุคคลที่ฉลาดหลักแหลมแต่พวกเขามักจะค่อนข้างหัวโบราณ บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้ค่อนข้างจะเกี่ยวพันกับบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กรมาดและเผ่าพันธุ์สุมาริสา

    พวกเขามักจะอยู่ตรงกลางระหวางระบบ-องค์กรหลายองค์กรกับบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์เช่นศิลปิน พวกเขามักจะทำหน้าที่ "ถ่ายทอด" ข้อมูลความรู้ไปสู่โครงสร้างของสังคมโดยไม่เปลี่ยนแปลงต้นฉบับ

    พวกเขามักเป็นบุคคลที่มีอาชีพ เช่น นักประวัติศาสตร์ เป็นต้น ในสมัยโบราณบุคคลที่สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้มักเป็นบุคคลที่ถ่ายทอดหรือคัดลอกพระคัมภีร์ในศาสนาต่างๆ พวกเขาเปรียบเหมือนผู้อารักขา แต่ก็ไม่ใช่กฏตายตัว

    ครูสอนดนตรีหรือศิลปะที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุเมจารย์มักสอนศิลปะด้วยการถ่ายทอดตามแบบฉบับ แต่ครูสอนดนตรีหรือศิลปะที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุมาริสากลับเน้นทางด้านเทคนิคและใช้ความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาถ่ายทอดเทคนิคใหม่ๆ ให้ลูกศิษย์


    ๓. ธุรพิทษ์(ธุ-ระ-พิด) ผู้ดูแลรักษา

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์ธุริพิทษ์มักเป็นบุคคลที่อุทิศตนให้กับการรักษา พวกเขามักมีอาชีพแพทย์ พยาบาล แต่มักจะไม่เป็นผู้บริหารในโรงพยาบาล พวกเขามักมีอาชีพเกี่ยวพันกับ การใช้พลังจิต มีอาชีพเป็นนักสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ นักจิตวิทยา ศิลปินหรือทำงานที่เกี่ยวพันกับศาสนา พวกเขาอาจทำอาชีพเกี่ยวกับร้านดอกไม้ โรงงานที่เกี่ยวกับการประกอบชิ้นส่วน แนวโน้มในการเป็นผู้ดูแลรักษาครอบคลุมถึงการดูแลรักษาวัตถุธาตุด้วยเช่นกัน พวกเขาจึงอาจมีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถยนต์ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มักดูแลรักษาอารมณ์ของลูกค้าของเขาด้วย บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้อาจปรากฏเป็นนักการเมือง และพวกเขาก็ทำหน้าที่ดูแลรักษาความเจ็บปวดของประชาชน
    ศิลปินผู้ที่มีผลงานสร้างสรรค์ที่มีเป้าหมายในการช่วยเหลือหรือบำบัดอารมณ์ของผู้ชม-ผู้ฟัง มักเป็นบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์ธุรพิทษ์เช่นกัน


    ๔. ไวทัศน์(ไว-ทัด) ผู้รู้เห็นการณ์ไกล

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์ไวทัศน์มีแนวโน้มหลักที่จะเป็นบุคคลที่เป็นนักปฏิรูป พวกเขามีความสามารถพิเศษในการรู้เห็นการณ์ไกล บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้รู้เห็นการเคลื่อนไหวในอนาคตตามทิศทางของความคิด ความคิดรวบยอดหรือโครงสร้างหนึ่งๆ พวกเขามักทำงานด้วยการใช้ความคิดทั้งหมดเพื่อนำความเป็นไปได้ทั้งหลายมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ

    บุคคลที่มีสติสัมปชัญญะในเผ่าพันธุ์นี้มักจะเป็นผู้ที่ยึดถือในทฤษฎีและเป็นนักประท้วงหรือนักปฏิรูป พวกเขาอาจดูเสมือนว่าเป็นนักฝันที่ใช้การไม่ได้ในภาคปฏิบัติ แต่พวกเขาก็เป็นบุคคลที่มีความคิดในการเปลี่ยนแปลงหรือพลิกผันสังคม

    ตามกฏแล้วบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์ไวทัศน์มักมีเป้าหมายหลักคือการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นไปหรือมีอยู่แล้วไม่ว่าเขาจะมีความสนใจในสาระใด เป้าหมายของเขาคือการเปลี่ยนแปลง


    ๕. มุรเมทน์(มุ-ระ-เมด) ผู้มีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติ

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์มุรเมทน์เป็นบุคคลที่เหนี่ยวนำพลังงานแทบจะทั้งหมดสู่ภายใน พวกเขาไม่ใส่ใจว่าเขาจะเป็นที่รู้จักของผู้อื่นหรือไม่และโดยมากแล้วเขาก็มักเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก

    พวกเขาไม่ใส่ใจที่จะอธิบายถึงกิจกรรมภายในของเขาให้ผู้อื่นรู้เห็น และไม่ใส่ใจที่จะให้เหตุผลกับตนเองด้วยซ้ำไป โดยมาตรฐานของสังคมมนุษย์-พวกเขาอาจปรากฏเสมือนว่าเป็นบุคคลที่ไม่พัฒนาทางปัญญา แต่มันปรากฏเช่นนั้นเพียงเพราะว่าพวกเขาไม่ได้เหนี่ยวนำปัญญาของเขามาสู่การจดจ่อทางกายภาพ

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์มุรเมทน์มักเลือกที่จะมาถือกำเนิดในประเทศที่อุตสาหกรรมไม่เจริญนักและมีวิถีชีวิตค่อนข้างเรียบง่าย พวกเขามักมีอุปนิสัยคล้ายเด็กๆ และมักจะดูเสมือนว่าเป็นคนโง่ พวกเขาไม่ใส่ใจกับพิธีรีตอง

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้มันเป็นพ่อแม่ที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนอย่างเช่นสังคมคนเมืองหลวง พวกเขาเกี่ยวพันกับธรรมชาติอย่างลุ่มลึก ในนัยนี้พวกเขาสัมผัสสรรพสิ่งทั้งหลายได้ทางจิตมากกว่าคนทั่วไปที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์อื่นๆ

    ประสบการณ์ส่วนตัวอันเป็นประสบการณ์ภายในภาวะจิตของพวกเขามักเป็นประสบการณ์ผจญภัยอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ช่วยหล่อเลี้ยงภาวะจิตของสังคมโลกมนุษย์


    ๖. กายวิจต์(กา-ยะ-วิด) ผู้มีศิลปะในการใช้ร่างกาย

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กายวิจต์เป็นบุคคลที่เกี่ยวพันกับการเติมเต็มกิจกรรมทางร่างกายเป็นหลัก บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์มักเป็นนักกีฬา แต่ไม่ว่าเขาจะมีอาชีพใดพวกเขาจะอุทิศตนเพื่อทำให้ความสามารถทางร่างกายของเขาเป็นเลิศ

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กายวิจต์ทำหน้าที่แสดงให้บุคคลทั้งหลายตระหนักได้ถคงความสามารถของร่างกายเนื้อหนังที่ยังไม่ได้ถูกใช้หรือแสดงออกอย่างเต็มที่ พวกเขาเป็นผู้รักสวยรักงาม รักความงามของเนื้อหนัง

    สมาชิกครอบครัวหรือมิตรญาติทางจิตวิญญาณของสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กายวิจต์มักมีอาชีพเป็นนางแบบ-นายแบบหรือเป็นหุ่นให้ศิลปินวาดภาพ เป็นตัวเอกให้นักเขียน เป็นแบบให้ผู้สร้างภาพยนตร์ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาถ่ายทอดพลังงานผ่านศิลปะทางร่างกายของเขาด้วยการแสดง

    ตามประวัติศาสตร์ของเธอบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์กายวิจต์มักปรากฏในระยะแรกเริ่มของอารยะธรรมทั้งหลายในโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นยุคสมัยที่การยักย้ายเปลี่ยนแปลงภายในสภาพแวดล้อมด้วยร่างกายทางกายภาพโดยตรงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างที่สุด


    ๗. เมหริต(เม-หะ-ริด) ผู้ตระหนักในความงดงามของเพศ

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์เมหริตเกี่ยวพันกับการเป็นพ่อแม่ พวกเขามีความเป็นพ่อแม่ของโลกอย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขามีความสามารถในการมีลูกหลานซึ่งมีคุณลักษณะที่ดีเลิศ ลูกหลานของพวกเขามักมีสุขภาพกาย-สุขภาพใจแข็งแรงและมีอารมณ์ดีสดใส

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์เมหริตมีความสามารถพิเศษในกาฟื้นคืนสภาพกายสภาพจิตที่ดีได้ดังเดิม สมาชิกของครอบครัวหรือญาติมิตรทางจิตวิญญาณที่อยู่ในเผ่าพันธุ์เมหริตมักจะพบคู่ครองที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์เมหริตเช่นกัน พวกเขาเป็นเสมือนคลังผลิตลูกหลานและสร้างความเข็งแกร่งให้กับร่างกายและจิตใจมนุษย์

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์เมหริตมักเป็นครอบครัวที่มีลูกหลายคน ลูกหลานของพวกเขามักเจริญวัยและมีความก้าวหน้าดีในทุกทิศทางไม่ว่าพวกเขาจะเลือกประกอบอาชีพอะไรก็ตาม

    ในนัยทางชีวภาพบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์เมหริตมีคุณสมบัติพิเศษในการลบล้างหรือยกเลิกรหัสในแง่ลบที่อยู่ในยีนส์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าลบล้างหรือยกเลิกพันธุกรรมในแง่ลบ หากบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์อื่นแต่งงานและมีลูกหลานกับบุคคลที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้ พันธุกรรมที่ไม่ดีหรือโรคภัยที่สืบทอดทางพันธุกรรมจะถูกลบล้างออกไปและถึงจุดจบ ลูกหลานรุ่นต่อไปจะกลายเป็นบุคคลผู้มีสุขภาพแข็งแรง

    พวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ที่ปกป้องลูกจนเกินเหตุ พวกเขามักปล่อยให้ลูกหลานออกไปเผชิญโลกอย่างเบิกบานด้วยความเชื่อมั่นว่าพ่อแม่เพียงแต่เริ่มต้นวาดภาพลูกของเขาด้วยสีรองพื้นเท่านั้น ต่อไปลูกซึ่งเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอกของพ่อแม่จะเติมเต็มตนเองได้อย่างสมบูรณ์และดีเลิศ

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้กระจายไปอย่างเสมอภาคครอบคลุมทุกประเทศในโลก

    เผ่าพันธุ์เมหริตถือว่าลูกหลานคืองานศิลปะที่มีชีวิตและเป็นงานหลัก-เป็นอุดมการณ์ส่วนงานอื่นเป็นงานรอง

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุมาริสาเอื้ออำนวยให้เกิดวัฒนธรรม-มรดกทางด้านศิลปะกรรมและทางด้านจิตวิญญาณให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้เอื้ออำนวยให้เกิดความสมดุลย์กับประชากรบนผืนโลกซึ่งเป็นมรดกในนัยที่เป็นบุคคล พวกเขามักเป็นผู้ที่มีอารมณ์ขัน ขี้เล่น เอื้อเฟื้อและเต็มไปด้วยความเมตตา พวกเขาเฉลียวทันต่อความเอื้อเฟื้อประเภทนอกลู่นอกรอยที่มักจะครอบงำความอ่อนแอของผู้อื่น


    ๘. นาวิณิชย์(นา-วิ-นิด) ผู้ชำนาณในการแลกเปลี่ยน

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นาวิณิชย์เป็นบุคคลผู้ชำนาญในการแลกเปลี่ยน พวกเขารับมือกับการแลกเปลี่ยนความคิดผลผลิต ความคิดรวบยอดทางด้านการเมืองและสังคม พวกเขาเป็นนักเดินทางท่องเที่ยวที่นำเอาความคิดจากประเทศหนึ่งสู่อีกประเทศหนึ่ง ประสมประสานวัฒนธรรม ศาสนา ทัศนคติ โครงสร้างทางการเมือง พวกเขาเป็นนักสำรวจ พ่อค้า ทหาร หมอสอนศาสาหรือกลาสี พวกเขามักเป็นสมาชิกผู้มีส่วนร่วมในสงครามศาสนา

    พวกเขากระจายอยู่ทุกมุมโลก พวกเขาเคยเป็นทาสและโจรสลัด พวกเขามักเกี่ยวพันกับการพลักฝันสังคม ในอดีตและในยุคสมัยของพวกเธอ บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นาวิณิชย์มักเป็นนักการฑูต พวกเขามักจะมีคุณลักษณะชอบการผจญภัย ไม่ใช้ชีวิตอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งนานนัก พวกเขาอาจเป็นบุคคลผู้ที่ไม่มีชาติภาษามาผูกมัด พวกเขามักมีฐานะร่ำรวยและท่องเที่ยวไปทั่วโลกบ่อยที่สุดที่จะเป็นไปได้

    พ่อค้าในประเทศเล็กๆ ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ก็อาจเป็นบุคคลผู้ที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นี้ พวกเขามักเป็นผู้ที่มีชีวิตชีวา ช่างพูด ช่างจินตนาการ และเป็นกลุ่มคนที่คนจำนวนมากชอบพอ พวกเขาสนใจในภายนอกของสิ่งต่างๆ ชอบสังคม ชอบตลาด หรือที่ที่คนจำนวนมากชุมนุมสังสรรค์ สนใจในศาสนาใหม่ๆ หรือความคิดใหม่ๆ ทางด้านการเมือง พวกเขาเผยแพร่ความคิดเหล่านี้จากสถานที่หนึ่งไปสู่อีกสถานที่หนึ่ง พวกเขาเปรียบเสมือนผู้ขนถ่ายเมล็ดพืช

    บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์นาวิณิชย์มักเอื้ออำนวยให้เกิดทางเลือกใหม่ๆ พวกเขาอาจเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือเป็นหมอสอนศาสนาที่เคร่งครัดที่สุดผู้เดินทางไปต่างแดนเพื่อเผยแพร่ศาสนา


    ๙. สุมาริสา(สุ-มา-ริ-สา) ผู้มีความคิดสร้างสรรค์

    สติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุมาริสามักเป็นบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่มีความตั้งใจสูงคนเคร่งเครียด หัวดื้อ และบางบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนก็เป็นบุคคลที่ยังไม่ได้เรียนรู้ที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตนเองอย่างสง่างามหรือเบิกบานแต่การใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเบิกบานก็เป็นเป้าหมายและความมุ่งมั่นของเขา

    พวกเขามักทุ่มเทกับงานศิลปะ ในนัยที่กว้างที่สุดกล่าวได้ว่างานศิลปะของพวกเขาคือการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ พวกเขามักเป็นบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนส่วนหนึ่งของสังคมโลกที่มีอารยธรรมสูงในชาติภพอื่นๆ แม่ว่าเขาจะมาถือกำเนิดในศตวรรษใดในอดีตของโลกกว่าพันปีมาแล้วก็ตาม บุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุมาริสามักจะมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงสังคมโลกครั้งใหญ่

    บุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุมาริสาจำนวนมากเลือกที่จะมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่ถือกำเนิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมจะเป็นบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่มีสติสัมปชัญญะเผ่าพันธุ์สุมาริสาเสมอไป

    พวกเขาไม่ชอบการทำกิจกรรมซ้ำซาก พวกเขาชอบทำงานที่เกี่ยวพันกับรายละเอียด หรือใช้รายละเอียดเพื่อเป้าหมายในการสร้างสรรค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2008
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    โห ขอบคุณมากอุตส่าห์ช่วยพิมพ์ให้
    น่าสนใจมากครับคุณซิปฯ.. เดี๋ยวหนังสือออกเมื่อไหร่จะไปซื้อมาอ่านครับ
    เดือนก่อนไปร้านหนังสือหาเล่มนี้ โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ (ภาคปลาย ) ไม่พบครับ
     
  18. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    ย้ำเตือนสำหรับอีกครั้งสำหรับคนที่กำลังค้นหาหนังสือครับ

     
  19. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +470
    ถ้าเกิดบอกว่าจะระงับหนังสือก่อนระงับสักเดือนนึงก็ดีสิครับ จะได้รีบซื้อมาเก็บไว้ แต่นี่อยู่ดีๆก็ระงับ ตกใจหมด อิๆ
     
  20. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    เอ๋ เงียบ ๆ เหงา ๆ จัง ไปเที่ยวกันหรือเปล่าเอ่ย
    นกกลับมาแต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลย ห่วงกิน ห่วงเล่นไพ่ อิอิ
    น้ำทะเลก็ไม่ได้เล่น ไปยืนชมวิวทิวทัศน์ก็พอ
    ขากลับแวะไปไหว้พระแล้วก็ทำสังฆทานที่วัดเกาะลอยมา
    เพิ่งรู้ว่าที่นั่นมีศาลพระอาจารย์จี้กงด้วย ก็เลยขอแว้บไปไหว้ท่านซะหน่อย
    ช่วงนี้อาหารเจไม่ได้แตะเลย ลูกศิษย์คนนี้นี่ไม่ไหวเลยนะเนี่ย แต่รู้ว่าท่านใจดีเมตตาลูกศิษย์อยู่เสมอ
    งวดนี้ไปรถตู้ ไม่ได้ขับรถเอง เลยไม่ได้แวะไหว้เจ้าแม่สามมุขกับศาลเจ้านาจาเลย
    นี่เมษาจะมีประกวดAF5ล่ะ น้ำหนักยังไม่ลงเลย กินกระจาย 555
     

แชร์หน้านี้

Loading...