คุณไสย 4 ประเภท (แนวให้ความรุ้)

ถึงจะไม่ใช่เรื่องผีโดยตรง แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องนะครับ

วันนี้ผมจะพูดเรื่องมนต์ดำ หรือแบล็คเมจิกนั่นเอง บางคนอาจจะนึกถึงวูดู
เอาเข็มแทงตับตุ๊กตาให้เหยื่อร้องเจี๊ยก
แต่จริง ๆ ไทยเรานี่แหละครับ ตัวพ่อเรื่องไสยดำเลยทีเดียว
ซึ่งไสยดำของไทยก็มีหลายหลากประเภท
โดยแบ่งออกเป็นหลายสายเลย ทั้งแบบเสกเข้าท้อง
แบบฝังดินให้เกิดกาลีบ้านกาลีเมือง หรือส่งไปทำร้ายตรง ๆ
หรือวางไว้เป็นการ์เดี้ยนปกป้องทรัพย์สิน บ้านช่ิองก็มี
วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังว่ามีอะไรยังไงบ้างครับ



ระดับของคุณไสย
คุณไสยจะมีต่ำกลางสุง มนุษย์ทำได้แค่ต่ำกับกลาง
ถ้าคุณไสยระดับสูงจะเป็นของระดับกายทิพย์ เทพ ครูบาอาจารย์ที่เรากราบไหว้
เช่นพ่อแ่ก่ พ่อครู แต่กายเหล่านี้เป็นผู้ให้คุณ การทำอำนาจใส่ก็เพื่อแนะเตือนครับ

มีเคสนึงที่ชายคนนึงปวดหัวมาก เหมือนโดนอะไรรัดตลอดเวลา ยิ่งเล่าให้ใครฟังยิ่งรัด
เพราะคืนหนึ่งเขาฝันว่ามีชายร่างใหญ่กายสีดำ ยืนมงคลมาลามาข้างหน้า
แล้วมันก็ลอยมารัดหัวเขาครับ
พอให้หมอแก้ก็บอกว่าบรรเทาได้ ให้ดื่มน้ำมนต์แล้วอ้วกออกมาเป็นเศษไม้
แต่แก้ขาดไม่ได้ นี่สูงเกินไป เป็นของเทพ
เคยไปลบหลู่ดูหมิ่นอะไรใครหรือไม่ ถึงโดนแบบนี้
เค้าเรียก ครูสั่ง เจ้าตัวเลยบอกไปเตะเครื่องกระบี่กระบองมา
ล้มระเนระนาดหมด เพราะเกลียดครูนาฏศิลป์
เลยต้องไปขอขมาจึงจะหาย

ส่วนระดับกลางก็เป็นระดับที่คนทำได้ แต่อาศัยพิธีกรรมยืดยาว ใช้เวลา
และต้องพิถีพิถันในการประกอบทำ

ส่วนระดับต่ำ ก็คือ เอาของที่เป็นอาภรรพ์อยู่แล้ว
อยู่ในเชิงลบอัปมงคลอยู่แล้ว มาใช้แล้วขยายอำนาจด้วยคาถาครับ
อาจจะใช้แรงพรายช่วยด้วยก็มี

สายคุณไสย

1. สายเสกเข้าท้อง
การเสกของเข้าท้องเป็นคุณไสยระดับต่ำครับ
มักจะปล่อยในวันโกนเพราะเ้ป็นวันแรงโดยใช้คาถากำกับบทเดียวกันทั้งหมด
สามารถทำได้หลายแบบ เช่น
เหรียญปากผี เป็นเหรียญเก่า ๆ สนิมเขรอะ ๆ ที่ง้างมาจากปากผู้ตาย
ผ้าตราสังฆ์ หรือผ้าห่อศพ ที่พันด้วยสายสิญจน์
ตะปูตอกฝาโลง แบบที่รู้กัน

หรือจำพวกหนังสัตว์ เช่น หนังควาย หนังหมู หนังงู
จำพวกหนังนี้แรกเริ่มจะมีขนาดเท่ากล่องไม้ขีด แล้วจานคาถาลงไป
พอปล่อยออกไปแล้วจะไปหาเหยื่อแล้วไปพองในท้องทำให้มีอาการผิดสำแดงต่าง ๆ นา ๆ
ข้าวปลาไม่กิน เหม่อลอย นอนไม่หลับ
บางกรณีมีเสกซากงูตายทั้งตัวไปเข้าท้องก็มี
คุณไสยระดับนี้เป็นคุณไสยที่ชั่วร้ายครับ ผู้กระทำตั้งใจเอาถึงตาย
ต้องรีบแก้ ไม่เช่นนั้นอาจถึงชีวิต
การแก้ก็คือการเสกน้ำมนตร์ให้ดื่ม ขับของออกมา
ส่วนใหญ่จะมารู้อิตอนขับนี่แหละครับว่าโดนอะไรเข้าไป
เพราะไปเอ๊กซเรย์ให้ตายยังไงก็ไม่เจอ

แต่ว่ากันวาคนเกิดวันอังคารส่วนใหญ่จะไม่โดนของเสกเข้าท้อง
เพราะเป็นคนดวงแข็ง แข็งกว่าคนเกิดวันเสาร์ ๕ เสียอีก ก็คือเกิดวันเสาร์ที่ห้าของเดือนนั่นเอง

2. สายควบคุม
เป็นคุณไสยขั้นกลางครับ เราคงจะได้ยินกันบ่อย จำพวกการฝังรูปฝังรอย เสน่ยาแฝด
จะรักษายาก วิธีการทำก็คือพวกหุ่นดินปั้น เขียนชื่อเหยื่อลงไป
จากนั้นก็เสกปล่อยไปด้วยการเอาไปฝังตามจุดต่าง ๆ
เช่นป่าช้าทางสามแพร่ง

วิธีแก้ที่ว่ายากเพราะต้องตามของให้เจอครับ หรือไม่ก็ทำหุ่นขึ้นมาใหม่ เรียกว่าหุ่นทำคืน
คือทำให้หุ่นเหมือนกันแต่คืนสภาพเดิม คนทำคืนนี่ต้องอาคมแรงกว่าคนทำส่งมานะครับ
และการทำหุ่นพวกนี้ ดินที่ใช้ปั้นต้องมีอาภรรพ์ เป็นดินโป่งครับ
ต้องดินโป่งจาก7ป่่าช้าด้วย ไม่ธรรมดาจริง ๆ

แล้วที่เราเห็นในหนัง พวกตุ๊กตาวูดูนี่ คนไทยก็ทำได้นะครับ เค้าเรียกการ เรียกรูปเรียกนาม
คือการเอารูปเหยื่อมาตั้งหน้าข้าวสาร เอาธูปปักไว้ แล้วเรียกชื่อเหยื่อซ้ำ ๆ
หรือปั้นตุ๊กตาเขียนชื่อเหยื่อลงไปแล้วเรียก เช่นถ้าเหยื่อชื่อ คำเอ้ย
ก็เรียก คำเอ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ ซ้ำ ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ไม่รีบไม่เร่ง
ทำได้หยุดได้ จนกว่าเหยื่อจะฝันแปลก ๆ กระสับกระส่ายเวิ่นเว้อ
เหมือนโดนคนเรียกตลอดเวลา ถึงตอนนั้นแปลว่าจิตลิงก์กันแล้ว
เราก็เอาเข็มแทงข้าวสาร หรือตัวหุ่นได้เลย แทงตรงไหนก็เจ็บป่วยตรงนั้นครับ
วูดู้ววว วูดู

หรือมีอีกแบบคือผงกระดูกผีมหาเสน่ห์ เหล่านี้จะเอากระดูกคนตายในวันเฮี้ยน ๆ มาทำ
คือต้องตายทั้งกลม ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร และเป็นกระโหลกศรีษะ
ถึงจะได้ผลแรงจริง ใครโดนเข้าไปจะกินไม่ได้นอนไม่หลับคิดถึงแต่คนปล่อยของ
จนผ่ายผอม มีเรื่องเล่าว่า เณรคนหนึ่งเป็นศิษย์ภิกษุที่ทำของเก่ง
ตำกระดูกผีอยุ่แล้วครกแตกด้วยอาภรรพ์หรือไรไม่ทราบ ผงกระเด็นไปหาโยมคนนึง
เกิดต้องอาคมมาหลงรักเณรขอให้เณรสึก จนต้องมาถอนออก นี่ขนาดยังไม่ทำพิธีอะไร
ยังอิทธิฤทธิ์รุนแรงปานนี้

ส่วนเรื่องน้ำมันพรายก็น่าจะเป็นสายนี้แหละครับ แต่สายนี้ระดับต่ำก็มี คือ
ประเภทยาสั่ง ยาเบื่อ เป็นของต่ำกว่าเสกหนังเข้าท้องอีก เป็นสิ่งที่เข้าง่ายถอนยากมาก
ต้องใช้เวลา เครื่องเซ่นมักเยอะ ยาสั่งนี่อำนาจเอาถึงตายครับ


( มีดหมอ)

การถอนต้องใช้พระขันธ์ตัด เป็นพระขันธ์ทำจากเขาควายเผือกถูกฟ้าผ่าตาย
เอามาตัดคาถาถึงจะได้ ซึ่่งหาไม่ไ่ด้ง่าย ๆ ส่วนใหญ่จะสืบทอดกันมา

3.สายป้องกัน
พวกสักเสกเลขยันต์ หรือห้อยไว้คุ้มกันภยันอันตราย
ทั้งเภทภัยของมีคม แคล้วคลาด และพวกของคุณไสยด้วยกัน
จำพวกห้อยก็มีตะกุด ที่ทำจากแผ่นโลหะ
เช่น ทองแดง ทองเหลือง ดีบุก ตะกั่ว หนังสัตว์ก็มี
จานด้วยเหล็กแหลมเป็นคาถา แล้วป้ายน้ำหมึก ม้วนพันแล้ว
เรียกเป็นดอก มีทั้งแบบโทน แบบแฝด แบบสามกษัตริย์คือทำจากทอง เงิน นาก
ที่เก๋าสุดคงเป็นตะกุดโสฬสที่มีถึง 16 ดอก
ใช้ในเชิงอยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้าในพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงออกรบในยุคโบราณ


(ตะกุด)

หรือปรอท ปรอทนี่ออกแนวของดำจริง ๆ ครับ ปรอทนีี่ไม่ใช่สารปรอท หรือปรอทวัดไข้ครับ แต่เป็นวัตถุลี้ลับในอากาศเป็นเกราะสายดำ ที่จะต้องทำการดัักปรอทไว้ด้วยเครื่องคาวของเน่า สิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ก่อน เมื่อได้ที่ก็จะชำระของเน่าออกเหลือแต่เมือกเหลือง ๆ แหวะ ๆ ไว้ก้นภาชนะ เค้าก็จะเอามาหุงครับ แล้วบริกรรมพิธีโดยใช้คนถึงเก้าคน เพื่ออุดทวารทั้งเก้า จากนั้นก็จะสวดเชิญวิญญาณต่าง ๆ มาสิงในปรอท เมื่อเสร็จพิธี ก็จะได้แท่งเหล็กดำ ๆ แต่อ่อน ๆ เค้าก็จะซอยเป็นชิ้น ๆ แบ่งกัน เชื่อว่าใครอมปรอทไว้ จะเดินหนหายตัวได้ หรือแคล้วคลาดจากปืนผาหน้าไม้ ฟันแทงไม่เข้า มักจะลองของกันทันทีที่ทำพิธีเสร็จ ทุกครั้งที่ปรอทสำแดงเดชจะเห็นเงาดำ ๆ ยืนด้านหลังคนมีปรอทครับ เหมือนเป็นอารักษ์คุ้มครอง ก็คือวิญญาณทั้งมวลที่เชิญมาสิงนั่นเอง สำคัญคือระหว่างทำพิธีต้องสยบวิญญาณให้อยู่ ไม่งั้นปรอทจะดื้อ ใช้งานไม่ค่อยได้และเป็นภัยครับ


(ยันตร์เกราะเพชร กันคุณไสย)

อีกเชิงหนึ่งก็เป็นเรื่องของยันตร์ ที่ผมอ่านแล้วทึ่งมากคือยันตร์เกราะเพชร
เป็นการเสกเป่า ไม่ใช่การสัก เวลาเข้าตัวจะขึ้นบนหน้าผากแล้วหายไป
คอยคุ้มครองอันตายจากคุณไสยแรง ๆ ต่าง ๆ หรือปืนผาหน้าไม้ก็ไม่ระคาย
มีเคสหนึ่งคนปล่อยหุ่นพยนต์มาหักคอ ก็กระเด้งหงายหลังหายไป
แม้ตายไปแล้วยันตร์ก็ยังฝังติดอยู่กับกระโหลกหน้าผากครับ โคตรขลัง...
(ยันต์เกราะเพชรเป็นการนำพระคาถาบทสรรเสริญพุทธคุณ อิติปิ โส ภะคะวา... นั่นละครับ
มาเขียนเป็นภาษาขอม เรียงเป็นแถวแล้วลากเส้นโยงไปมาถักเป็นเกราะ )


4. สายโจมตี
เป็นจำพวกหุ่นปั้นพยนต์เสกครับ เช่นที่เรารู้ก็วัวธนู ควายธนู กุมารทองพราย หรือหุ่นพยนต์
สามอย่างแรกคงคุ้น แต่อย่างหลังนี่ทำจากฟางข้าวครับ ผูกเป็นตัวคนเขียนชื่อเหยื่อแล้วว่าคาถา
ก่อนจะปล่อยมาในคืนเดือนมืด ลักษณะของหุ่นพยนต์คือจะเป็นคนนี่แหละครับ
แต่มันเดินทื่อ ๆ ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนหุ่นยนตร์ ตรงเข้าทำร้ายเหยื่ออย่างเดียว
สามารถผูกไว้เฝ้าบ้านได้ครับ คือแขกไปใครมาจะเห็นมีคนเดินไปมาในบ้านตลอด


(หุ่นพยนต์ เป็นรูปหุ่นจำลองของคน สัตว์ เทวดา ยักษ์ หรืออะไรต่อมิอะไร โดยอาศัยหลักการว่าอยากได้รูปร่างยังไงให้ทำหุ่นแบบนั้น
หรือชนิดไหนตามแต่ความต้องการจะใช้หุ่นพยนต์ ประมาณว่าให้เหมาะสมกับงานที่จะใช้ไปทำ )


นอกจากใช้ไปโจมตีฝ่ายตรงข้ามแล้วยังป้องกันยภูตผีปีศาจมารังควานด้วยครับ
สำหรับสายนี้ เรียกว่าใช้งานคุ้ม ผมขอเรียกว่าสายกาเดี้ยนละกันครับ

มีอีกอย่างนึงที่ผมคิดว่ามันแฟนตาสติกมาก คือจักรพยนต์ครับ
เป็นกงจักรลมที่คนโบราณวางไว้คุ้มครองสมบัติ อะไรแหย่ลงไปจะตัดขาดกระเด็นเป็นเสี่ยงหมดเลย
ทำจากไม้เหลา ประดิษฐ์สร้างพิถีพิถันมากครับ
ว่าคาถาเสกลงไปจากลูกข่างไม้กลายเป็นจักรมนตร์ที่ใบมีดเป็นลม
ตั้งโปรแกรมให้ทำงานเมื่ออยู่ในที่โล่ง มีอากาศ
และหยุดการทำงานเมื่ออากาศหมดไป
ใช้ป้องกันการขุดอุโมงค์สมบัติลงไปหานั่นเอง
เพราะเมื่อเราขุดไป อากาศจากภายนอกจะไปหมุนจักร ทำให้เกิดคมดาบลมครับ
อ่าน ๆ ไปโคตรแฟนตาซี แต่ผมว่ามันเป็นไปได้ครับ
ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่านับถือครับ เอ้ย อย่าลบหลู่ครับ

จักรพยนต์ สิ่งอาถรรพ์น่ากลัวที่คนโบราณใช้เฝ้าทรัพย์สินกับอุปเท่ห์ที่หลายๆคนยังไม่รู้จัก
"จักรพยนต์" สิ่งอาถรรพ์ที่ใช้เฝ้าทรัพย์สินสมบัติของคนโบราณ วิชาชั้นสูงที่ใกล้จะสูญหายไปแล้ว บางคนรู้จักแต่หุ่นพยนต์ หุ่นที่เสกขึ้นเพื่อที่ใช้เฝ้าทรัพย์สินบ้านเรือนแต่ก็ยังมีสิ่งอาถรรพ์อีกแบบนึงที่คนโบราณใช้เฝ้าสิ่งของมีค่าทรัพย์สินนั่นก็คือ จักรพยนต์ จักรพยนต์นี้จะทำขึ้นด้วยไม้ไผ่อาถรรพ์นำมาสานถักด้วยคาถาอาคม ทำรูปลักษณ์ให้เหมือนจักรอาวุธของพระอินทร์ การใช้จักรพยนต์นั้นครูโบราณจะนำไปไว้ในห้องเก็บของมีค่า ห้องที่ไม่มีลมเข้าออกหากได้ปิดประตูแล้ว ครูโบราณอาจจะเก็บตำราสำคัญและทรัพย์สินไว้ในห้องนั้น หากเมื่อใดมีบุคลที่ไม่ใช้เจ้าของทรัพย์สินหรือเจ้าของห้องนั้น แอบเข้าไปในห้องโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากเจ้าของห้องหรือเจ้าของบ้านนั้นก่อน เมื่อใดที่มีคนบุกรุกเปิดประตูห้องที่มีตักรพยนต์อยู่นั้น จนมีลมเข้าพัดไปในห้อง จักรพยนต์จะทำงานทันที โดยใบจักรที่ทำด้วยไม้ไผ่นั้นจะบินพุ่งเข้าใส่ผู้บุกรุกทันที ไม้ไผ่ถ้าเหลาดีๆคมมากนะครับ คมขนาดสามารถปาดคอคนได้เลย ฉะนั้นการเข้าไปในห้องที่มีจักรพยนต์อยุ่นั้น เจ้าของจะทำการร่ายพระเวทย์เพื่อควบคุมจักรพยนต์ก่อนทุกครั้งที่จะเข้าออกห้องนั้นๆ โดยจักรพยนต์นี้ เป็นหนึ่งวิชาชั้นสูงของกสิณลม ใช้กสิณลมในการปลุกเสกควบคุมนั่นเอง..


นี่ก็เป็นการแบ่งคร่าว ๆ ตามความเข้าใจ ผมเรียกพวกนี้ว่าคำสาปครับ
โดยใช้หลักการของคำสาปก็คือ ต้องอาศัยความศรัทธาป็นตัวแปร
ถ้าคนเสกไม่เชื่อ คนโดนเสกใส่ไม่เชื่อ ของก็ไม่สำแดงเดช
แต่ถ้าเชื่อ ทำให้เชื่อ เข้าใจว่าเชื่อ มันก็จะมีอิทธิฤทธิ์ขึ้นมา
ถามว่าจะทำให้เกิดความเชื่อนี้ยังไง นั่นก็คือองค์ประกอบของการสร้างคุณไสยครับ
เช่น ต้องมีวัตถุดิบที่คนเชื่อว่ามีอาถรรพ์ เป็นของอัปมงคล พวกตะปูฝาโลง
ดินโป่งเจ็ดป่าช้า ผ้าตราสังฆ์ศพตายโหง
ต้องมีพิธีกรรมต่อเนื่องยาวนานข้นขลังด้วยพลังน่าเกรงขาม
พอทำแล้วเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ขึ้นมาจริง ด้วยความเชื่อ
เหล่านี้ล้วนมาจากพลังงานของมนุษย์ทั้งสิ้น บวกกับพวกวิญญาณเหนือความเข้าใจเราด้วย
วิญญาณก็มีหลายแบบ ทั้งชั้นภูตผีปิศาจ หรือเทวดา เทวดาก็มีทั้งสัมมาทิฐฐิ และมิจฉาทิฐฐิ
ต่างกันไป อำนาจจึงเกิดขึ้นได้

กระนั้นก็ดีครับ ใครเล่นของ เล่นไสยดำ กลับต้องมีข้อปฏิบัตริเคร่งครัดรัดกุมมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป
เพราะเหมือนดาบสองคม หรือเลี้ยงงูเห่าไว้ ควบคุมไม่ได้ก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัว
คนทำของจึงต้องมีข้อยึดถือเคร่งครัดกว่าคนทั่วไป
ข้อห้ามเยอะ การเดินเหินนั่งนอน กินอยู่ ถ่ายท้อง ล้วนมีข้อกำกับ
เช่นห้ามเดินลอดราว ลอดใต้ถุน ห้ามกินฟักแฟงแตงร้าน
ห้ามพูดจาขณะถ่ายทุกข์ เป็นต้น
หรือในวันที่ต้องปล่อยของ ก็ต้องทำพิธีปล่อยของที่ร้อนรุ่มในกายออกไป
เพราะคนฝึกทำคุณไสย ไม่ได้ใช้ ก็จะร้อนวิชา ร้อนในตัวครับ
ต้องปล่อยออกไป เป็นที่มาของคำว่า ลมเพลมพัด

คือลมเพลมพัดก็จะมาจากการที่คนเล่นของนั้นระบายของหรือปล่อยของออกไปตามลม
ใครดวงตกก็จะโดนของนั้นเข้าตัวไป จึงมึคำห้ามไว้ว่ากลางค่ำกลางคืน
โดยเฉพาะวันโกนวันพระอย่าออกมาเตร็ดเตร่
หรือถ้าใครเรียกกลางค่ำกลางคืน อย่าไปขานรับซี้ซั้ว
อาจจะเป็นของที่เขาปล่อยมา มันจะเข้าตัว

มีเคสนึงที่ผมอ่านมา เขาบอกว่าได้ยินเสียงหวี่ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ เหมือนแมลงบินแปลก ๆ
เลยออกไปดูทั้งที่ก็รู้ว่าอันตรายว่ามีอะไรแปลก ๆ อย่าซี้ซั้่วออกไป
แต่ด้วยความอยากรู้ก็เลยออกไป ปรากฏว่าไม่เจออะไร ได้ยินแต่เสียง
แล้วจังหวะนั้นพออ้าปากหาว ก็มีอะไรผลุบเข้าไปในปาก
จากนั้นมาก็ป่วยกระเสาะกระแสะ กินไม่ได้นอนไม่หลับ
มีอาการผิดปกติ ปรากฏว่าโดยสายสิญจน์เสกครับ ขับออกมานี่เหม็นเน่าเป็นศพเลย

นั่นแหละครับโดนของเค้าปล่อยมาเ่ล่นงาน
หรือการปล่อยของบางทีก็ใช้การฝังที่ทางสามแพร่งด้วย
อันนี้ก็อันตราย สัญจรไปมาระวังด้วยนะครับ

โอยเขียนมาก็ยืดยาว แลดูขมังเวทมาก ปล่อยของเสร็จแล้ว ขอตัวละครับ

เครดิต : [Gathering Urza]- เล่า บ่น ก่น ด่า & ตำนานสักยันต์ไทย

 

สำหรับใครที่จะซื้อหาหุ่นพยนต์ มาเลี้ยง ต้องระวังมาก ๆ นะคะ ไอ้ตัวนี้จะดีตอนแรก ๆ
พวกนี้เป็นวิญญาณที่เกิดตามใบสั่ง การเลี้ยงผี เลี้ยงวิญญาณ มีแค่เสมอตัวและให้โทษเท่านั้น
แรกๆ ก็ให้โชคให้ลาภ นานวันเข้าพวกมันก็มาครอบครองร่าง ครอบครองจิตใจของเรา
ทำให้เราป่วย สุขภาพแย่ เข้าออก รพ บ่อย ๆ จนกระทั่งเสียชีวิต

ใครที่ไปหาหมอดูแล้วหลอกว่าเรามีเทพมีองค์ บอกให้เรารับองค์รับขันธ์ โกหกทั้งนั้นค่ะ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์เค้าเจริญอยู่ในภพภูมิที่สูงแล้วเค้าไม่มีสิงสถิตย์อยู่ในพวกหุ่นพวกนี้ หรือแม้แต่ร่างกายของคน
เพราะร่างกายมนุษย์นั้นเป็นสิ่งสกปรก ไม่มีเทพที่ไหนอยากมาอาศัยอยู่หรอกค่ะ


(ก๊อปข้อความนี้มาจากหลวงพ่อที่ถอนของให้คนที่เลี้ยงหุ่นพยนต์แล้วเกือบเสียชีวิตจากพันทิปนะคะ)
เชื่อกันว่าโดยส่วนใหญ่ต้องมีเวรกรรมซึ่งกันและกันถึงมาเจอกันได้


(หุ่นพยนต์)

 

ตอนเด็กๆผมเคยคิดนะว่าคนพวกนี้เท่จังทําแบบนี้ได้ด้วยอยากทําได้บ้าง
พอโตมาได้ยินว่าคนพวกนี้ต้องเป็นปอบเลยไม่อยากทําได้อีกเลย

 

ไปทำเค้า เค้าตาย
ของที่ทำเค้าก็กลับมาเข้าคนทำ
ใครไม่รู้ก็รู้ไว้ ตายหรือยังไม่ตายก็เป็นปอบไปแล้วค่อนตัว
ตายไปแล้ว ก็ยังถูกพวกเดียวกันคือพวกเล่นคุณไสยจับวิญญาณไปใช้งานอีก

อันนี้เห็นมากับตา เป็นภิกษุไปรับจ้างผัวทำของใส่เมีย พอเมียตาย ภิกษุผู้นั้นต้องวิ่งแจ้นไปให้ ฆราวาสที่เป็นร่างทรงเอาของออก แล้ววันๆก็ซุกตัวอยูแต่ในกุฏิ ปิดประตูหน้าต่างหมด

วัตถุมงคลทางศาสนาพุทธไม่สามารถกันของได้ ที่ว่ากันได้น่ะเขาโปรโมทหลอกขายของ
เราเคยหมดเงินเป็นแสนมาแล้วในการซื้อหาวัตถุมงคลเหล่านี้มาป้องกันตัว แต่ก็ไม่เห็นจะป้องกันได้เลย คาถาอะไรที่ว่าเจ๋งๆก็ไม่เห็นจะเจ๋งจริงเลย

ต่อมา เราพบว่า ครอบครู ที่ไม่ใช่รับขันธ์ กันของได้ กันการล้มแล้วเป็นอัมพาตได้
คนโดนของนี่มักล้มบ่อยๆ ล้มแล้วร้อยทั้งร้อยจะเป็นอัมพาต แล้วก็จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เราเห็นอาซิ้มคนนึงเป็นลูกศิษย์วัดดัง ก็ไปเอาของออกบ่อยๆ แต่อาซิ้มแกไม่ยอมครอบครู
ต่อมาไม่เห็นอาซิ้มมาอีก
ถามคนที่เขาเอาของออก เขาบอกว่าเป็นอัมพาตไปแล้วเดินไม่ได้

เราพบว่าคนที่โดนของ โดนน้ำมันพราย โดนผีเข้า ปอบสิง ไม่ต้องทำอะไรมาก
แค่เอาเส้นผมหรือเสื้อผ้าที่ยังไม่ซักของคนนั้นไปเผา ของกะผีก็ออกแทบไม่ทัน

ผีมันก็ยังรักสวยรักงามรักหล่อเหลา เอาขันกินน้ำนี่แหละครอบหัวคนผีเข้าของเข้า
แล้วก็เอาคัตเตอร์มาโกนๆบนขัน เหมือนกำลังโกนหัว ผีมันจะร้องกรีดๆ เผ่นหนีแทบไม่ทัน

สมัยนี้คนเล่นของกันมาก ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานออฟฟิต นี่น่าจะเล่นกุมาร รักยม
หรือแม่ค้าคนขายของก็เล่นกันทั้งนั้น ให้ของมันขายได้ ปลัดขิก นางกวักนี่ก็ไสยศาสตร์ มนต์ดำ เดินผ่านร้าน ผีมันก็ออกมาจูงมือให้เข้าร้าน ให้ซื้อของมันแล้ว

 

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็นพวกเดรัชฉานวิชา หรือพวกนอกรีต แต่เมื่อมีคนประเภทนี้มาก ก็ต้องมีคนอีกพวกหนึ่ง ที่เล่าเรียนวิชามาทำการแก้ หรือช่วยให้ เป็นศิษย์มีครู เรียนวิชามาในแนวทางบริสุทธิ์ หรือที่มักเรียกแบบเข้าใจง่ายว่าสายขาว หรือไสยขาว

ใครที่มีปัญหาด้านนี้ลองแวะไปที่เทวาลัยตรงแยกห้วยขวาง จะมีห้องน้ำมนต์ เพื่อขับของพวกนี้ครับ ถ้าไม่แน่ใจ ลองขอเข้าไปเคาะดูก่อนว่าเราโดนของมาหรือไม่ เพราะบางครั้งที่คิดไปเองก็มีบ่อย ถ้ามีอาการ ก็ต้องทำพิธียกพานครูเพียงครั้งเดียว แล้วมานั่งให้รักษาครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

 

.. แวะมาหาความรู้เพิ่มเติมคะ .. ในฐานนะคนที่โดนส่งของเหล่านี้มาทำร้ายบ่อย หนักสุดทุกวัน .. ของพวกนี้ใช้ทำร้ายได้ไม่ทุกกรณีคะ มันยังมีวิธีแก้เผ็ด และ เอาคืนพวกชั่ว ๆ เหล่านี้ได้แบบตายก็ไม่ได้เกิดในที่ดี ๆ ตีตั๋วนอนนรกยาวยันสิ้นพระศรีฯ .. เราใช้วิธีนี้ กับ พวกที่เคยทำร้ายเรา .. วิธีหนึ่งที่เราพอบอกได้ .. แค่หาทางให้มันผิดครูแบบแก้ไม่ได้ .. สร้างบารมีของตนให้สูงกว่า .. พวกเยอะเข้าไว้ ( พวกทางภพภูมิยิ่งเยอะยิ่งดี ) .. ทำยังไงให้คนที่มาทำร้ายเราต้องรับครุกรรมหนึ่งในห้าข้อให้ได้ .. ที่ว่ามาเราใช้มาหมดแล้ว เราถึงรอดตายมาจนทุกวันนี้คะ .. แตะเราปั๊บผิดครูมันทันที !! แตะเราปั๊บมันได้ติดกรรมสองในห้าข้อครุกรรมทันที ไม่รวมของแถมอย่างอื่น .. ถ้าทำได้ วิชามันจะค่อย ๆ เสื่อมไปเอง แรงคุณต่าง ๆ จะเสื่อมลง ของที่ทำที่ปลุกเสกไว้ทั้งหมดจะเสื่อม แม้แต่อภิญาฤทธิ์ รึ ภพภูมิที่ช่วยเหลือจะถูกอัปเปหิลงนรกทั้งหมดคะ .. วิธีอาจยากลำบาก เห็นผลช้าแต่พวกมันไม่รอดคะ !!
.
.. ใครจะคิดว่าเรา โม้ รึ อวดอ้าง รึ บ้า ตามสบายคะ .. แต่ถ้าเราสิ่งที่เราพูดนี้ คือ ความจริงก็รับกรรมปรามาสไปนะคะ ตัวใครตัวมันคะ
.
.. ขออภัยหากขัดใจใครหลายคน ตอนนี้เราออกแนวดิบ ๆ นิด ๆ