เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ผมไปฝึกทายดวงในกลุ่มเฟสบุ๊ค แล้วมีคนที่เค้าเชื่อถือเราอยู่ส่งข้อความมาให้
    ว่ามีคนเข้ามาทักว่าจะดีจะร้ายอย่างไร แล้วทายเสีย ต้องให้สะเดาะเคราะห์ แพงอยู่

    ในสำนักของคนที่รับสะเดาะเคราะห์มีขายกุมารเทพ(ตุ๊กตาผี) และเครื่องทำเสน่ห์ต่างๆ

    ....คนเขาเดือดร้อน ก็มักจะมีพวกซ้ำเติมฉวยโอกาสเป็นปรกติ ผมก็ไม่อยากเล่าเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่เอาซะหน่อยคลายเหงา

    เทรนด์ใหม่ เอาตุ๊กตามาลงยันต์ หรือจะฝังอะไรก็แล้วแต่ มาทำโฆษณาว่าอุ้มแล้วรวย...

    พระพยอมท่านว่า ถ้ามันรวยจริงให้เอาไปไว้ที่กระทรวงการคลัง!

    ...ดีที่สมาชิกกระทู้นี้ไม่มีใครถามเรื่องนี้ เพราะภูมิรู้เกินกว่าจะมาหลอกกันได้ง่ายๆแล้ว

    กุมารทอง หรืออะไรที่คล้ายๆกันอย่างนี้ ผมเล่าสู่กันฟังแบบคร่าวๆนะครับ เผื่อเอาไปคุยกะคนที่เค้าเห่อตุ๊กตาแบบนี้ได้บ้าง

    1. กุมารกึ่งสำเร็จรูป
    ตุ๊กตาที่ร้านสังฆภัณฑ์ เป็นตุ๊กตาเรซิ่น ราคาถูกกว่าตุ๊กตาเทพ แต่ใช้แทนได้ดี เพราะหน้าตาหล่อเหลากว่า เพียงแต่ตุ๊กตาแบบนี้เป็นเหมือนเปลือกหอย ต้องการ"ตัว" ผู้ที่จะเลี้ยงกุมารแบบนี้ต้องมี"ตัว"อยู่ก่อนแล้ว ถึงควรจะซื้อมา

    เราอาจเคยเห็นในศาลข้างทางที่ไหน เหมือนศาลตาศาลยายนั้นแหละ หรือสำนักทรงที่ไหนก็ได้ "ตัว" ที่ผมพูดถึงหมายถึงมีวิญญาณคอยอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีที่อาศัย หากมาขออยู่ด้วย เราก็จัดที่จัดทางแล้วหาหุ่นให้เค้ามาอยู่อาศัย เหมือนปูเสฉวนต้องการเปลือกหอยนั้นแหละ กุมารแบบนี้เป็นกุมารที่มาจากผู้ตายแล้วแต่ยังไม่ไปไหน....

    2. กุมารสำเร็จรูป
    ถ้านึกไม่ออก ก็นึกถึงลูกกรอกก็ได้ หรือที่ใครไปขุดหลุมขุดป่าช้าแล้วเจอศพเด็กไม่เน่าไม่เปื่อยแล้วเอามาเลี้ยงนั้นแหละ แต่ประเภทไปขุดเจอต้องดูดีๆ สมัยนี้สารพิษมันเยอะ เรื่องตายแล้วไม่เน่ามีความเป็นไปได้สูง

    พวกนี้ไม่ต้องไปปลุกเสกอะไรแล้ว เรียกใช้งานได้เลย

    3.กุมาร ปรุง
    อันนี้ต้องปรุงและเตรียมเครื่องเทศ ถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกถึงขุนแผนแสนสะท้าน ผ่าท้องนางบัวคลี่ ปรุงกันตั้งแต่แม่ยันลูก

    4.รัก-ยม
    อันนี้จะเรียกกุมารหรือไม่ก็ตามสะดวก แต่เป็นของเล่นของคนเล่นเวทย์ เพราะมีขั้นตอนการจัดสร้างปรุงแต่งง่ายที่สุด คือหาไม้รัก ไม้มะยมมาแกะเป็นรูป แล้วเอาใส่น้ำมันจันทร์ เรียกรูปเรียกนาม เรียกจนมีชีวิตขึ้นมาได้ เอาไว้ใช้งานแบบเบาๆ เรียกเราได้ปลุกเตือนเราได้ประมาณนั้น พอน้ำมันจันทร์ใกล้หมดก็เติมอีก เหมือนใส่ถ่าน กุมารแบบนี้เลี้ยงได้ ไม่เป็นโทษ เหมือนเราแบ่งพลังของเราหรือติดกล้องวงจรปิดให้กับหุ่น ใครได้ไปเลี้ยงก็ต้องหมั่นสวดภาวนาเรียกรูปเรียกนามให้คงอยู่ ไม่งั้นถ่านหมด!

    5.ผี(เด็ก)
    แบบนี้ไม่อยากเล่า เพราะทำง่าย แต่มีโทษหนัก นั้นคือการเอาชิ้นส่วนคนตายมาใช้
    ใครเลี้ยงจะโดนกินตัว กินพลังชีวิตคนเลี้ยง

    เรื่องผี ไม่ยุ่งเลยจะดีกว่า
    คุณพระฯ ดีที่สุด
     
  2. พิมาน

    พิมาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2009
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,953
    วันนี้เพื่อนบ้านนิมนต์
    หลวงพี่สุรศักดิ์มาฉันเพลที่บ้านเค้า
    เลยได้โอกาสถวายปลาตะเพียนต้มเค็มให้ท่านด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      848.4 KB
      เปิดดู:
      126
  3. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ท่านมหาสุรศักดิ์เป็นผู้สืบทอดวิชาจากหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    ปัจจุบันท่านยังจารตะกรุดมหาระงับอยู่
    และบางทีท่านฯก็น่าจะทำเบี้ยแก้ด้วย เพราะไปเรียนไปช่วยหลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้วอยู่บ่อยๆ

    ใครไปกราบท่านฯที่วัดฯ ก็ลองมองๆในตู้วัตถุมงคลดู หาว่ามีวัตถุมงคลรุ่นเก่าๆบ้างหรือไม่ ถ้าทันหลวงพ่อหยอดก็เก็บไว้เถอะ ถ้าไม่ทันก็ดูว่ามีใครเสกบ้าง ใกล้ๆวัดท่านฯมีเกจิเรืองจิตพำนักอยู่ แต่ผมจำนามท่านฯไม่ได้ ท่านฯละสังขารไปแล้ว ....อายุเยอะแล้วความจำไม่ค่อยดี

    ท่านมหาสุรศักดิ์ เป็นพระมีสมณศักดิ์ เวลามีงานพิธีฯจึงมักได้รับความเมตตาจากพระเกจิในพื้นที่ และพื้นที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา

    ใครอยู่ใกล้ก็อย่ากินด่าง
     
  4. พิมาน

    พิมาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2009
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,953
    คงจะเป็นหลวงปู่ม่วง วัดยางงาม นิ
     
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ใช่ครับ...
    พระอาจารย์ใจ วัดพระยาญาติ ก็น่าติดตามครับ ประมาทไม่ได้
    ใครอยู่ใกล้ก็เร่งไปไหว้สา
     
  6. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    เคยได้ยินคำว่า มรรคมีองค์8 ไหมครับ
    มรรคฯนี้คือทางพ้นทุกข์ ต้องประกอบไปด้วยองค์8 จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้

    ถ้าได้มรรค8แล้ว จะถูกดูดกลืนเข้าสู่กระแสนิพพานโดยธรรมชาติ
    ดูจากรูปแล้วให้นึกถึงกระแสน้ำวน

    ใจผมอยากเขียนรูปขึ้นมาใหม่ แต่เครื่องมือไม่มี ไว้จะวาดรูปแทนหรือให้ใครเขียนใหม่ให้สวยๆ แต่ตอนนี้เอาแบบนี้ไปก่อน ไปขอยืมเค้ามา....

    ..........

    มีเกจิรุ่นใหม่จำคำเกจิรุ่นเก่ามาโฆษณา หรือบรรดาลูกศิษย์เชียร์อาจารย์ตัวเองก็ตาม คำว่า "ขลังไม่ขลังอยู่ที่จิต" นั้นถูกต้องแล้ว

    แต่จิตจะมีพลังได้ ต้องมีองค์ประกอบที่สมบูรณ์3อย่าง คือศีล สมาธิ และปัญญา

    ศีลคือผู้คุ้มครอง สมาธิคือผู้รวบรวมพลัง ปัญญาคือผู้ใช้

    และศีล สมาธิ ปัญญาจะเกิดมีขึ้นได้และดี ก็ยังต้องประกอบไปด้วยมรรค8 ล้อมรอบดังรูป จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นไม่ได้เลย...

    ............

    ถ้าคิดว่ามรรค8 มีอะไรบ้าง ก็อาจจะงง หรือท่องจำกันไม่ได้ รู้แค่ศีล5 ก็ขอเริ่มจากศีล5นี่ก่อนเลย

    ศีล5คือเครื่องป้องกัน ป้องกันทั้งกายและจิตไม่ให้ตกต่ำ
    ศีล5แบ่งเป็นหมวดกายกรรม 4 และวจีกรรม4

    กายกรรม4 ก็มีศีลข้อ1 ไม่ทำร้ายใคร ข้อ2 ไม่ลักทรัพย์เอาเปรียบฉ้อโกง ข้อ3 ไม่ประพฤติผิดในกาม ข้อ4 ไม่เสพสิ่งมัวเมาให้โทษ

    วจีกรรม4 1.ไม่พูดโกหกหลอกลวง 2.ไม่พูดหยาบคาย 3.ไม่พูดเหน็บแนมให้ใครเจ็บ 4.ไม่พูดเพ้อเจ้อไรสาระ

    ถ้าเห็นว่ามันหลายข้อ ก็ลดลงมาให้เหลือแค่2ข้อ คือ1.ทำดี 2.พูดดี เท่านี้ก็พอแล้ว

    ศีล5นี้ จะมีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
    1. มีอาชีพถูกกฏหมาย ไม่บาป
    2. มีกริยา-การกระทำ ไม่ผิดกฏหมาย ไม่บาป
    3. พูดจาดี ไม่บาป

    .........

    ผู้มีสติระฤกรู้ในศีล ย่อมไม่กระทำผิด และไม่อ้างถึงเหตุให้ต้องกระทำผิด จะเป็นผู้มีสมาธิเป็นปรกติ

    สมาธิที่มาจากความระฤกรู้ในศีล จะทำให้เกิดสมาธิที่ถูกต้อง สติระฤกรู้ได้ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเพียรเป็นปรกติ

    .........

    เมื่อเพียรในสิ่งที่ถูก มีสติระฤกรู้ และสมาธิในสิ่งที่ทำ จะก่อให้เกิดปัญญา
    ปัญญาที่เกิด จะทำให้เห็นในสิ่งที่ถูก และคิดทำในสิ่งที่ถูกตามความเห็น หรือคิดได้ในสิ่งที่ถูกแล้วเห็นสิ่งถูกที่ได้ทำ

    ทุกอย่างเริ่มต้นจากการเป็นผู้มีศีล จากนั้นกระทบผลักดันให้เกิดวงล้อหมุนกระทบกัน
    จากนั้นก็ดึงดูดเข้าสู่ศูนย์กลาง เกิดเป็นกระแส

    กระแสแห่งธรรม กระแสแห่งนิพพาน

    นิพพานัง ปรมัง สุขัง, นิพพานัง ปรมัง สุญญัง, นิพพานะ ปัจจโย โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2015
  7. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,413
    ค่าพลัง:
    +7,058
    กระทู้นี้สุดยอดจริงๆครับ ได้ความรู้หลายเเขนง จากผู้รู้จริง
    ผมไม่ค่อยได้โพสต์ เเต่ติดตามตลอดครับ
     
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    พี่นิ่มกลับจากจีนแล้ว เรือข้ามฟากที่ล่มเป็นวันเดียวกับพี่นิ่มเดินทางแต่คนละลำ
    จากนี้ไปน่าจะมีความเคลื่อนไหวบ้างแล้ว ส่วนผมเคลื่อนไหวตลอด... เพื่อนสมาชิกท่านใดสนใจใคร่รู้ ก็โพสถามติดตามกันได้ครับ ว่างจะเข้ามาตอบ

    พระพิมพ์รัศมีรอพี่นิ่มกับคุณอ๊อดว่างพร้อมกัน เราจะเดินทางไปสักการะหลวงปู่ศุขกับหลวงพ่อกวย และจะขอบารมีหลวงพ่อเกาะหลวงพ่อพร้าเพิ่มเติม จากนั้นจะเอามาตอบแทนเพื่อนสมาชิกที่เราติดค้างกันไว้ครับ
     
  9. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    อินเทรนแท้ ๆ ห้ายอดมนุษย์คุ้มภัยกู้โลก เสียอย่างเดียว กู้เงินไม่ได้
     
  10. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    ตุ๊กตาเด็กยังเอามาทำกุมารทอง กุมารเทพ ได้
    หุ่นฮีโร่พวกนี้ เอามาทำหุ่นพยนต์รุ่นนี้ท่าจะขลังแฮะ ว่าแต่ใครจะรับเสกให้
     
  11. อภิญญา8

    อภิญญา8 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,864
    ค่าพลัง:
    +6,799
    ชุดนี้ตั้งรูป ตั้งนาม เรียกจิต คงต้อง อาจารย์ทางด้าน IT และภาษา ปะกิต ช่วยแน่นอน ใช่ไหมครับ คุณทิพย์
     
  12. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    นึกถึงหลวงปู่ฯ เคยจะเอาหมีแพนด้าให้ท่านเสกให้แล้ว...แต่ถ้าเสกให้จริง ผมมีก๊อตซิล่าฝากเสกด้วย!

    ............

    สมาชิกพรีเมี่ยมผมหมดอายุแล้ว
    ผมติดค้าง เหรียญพิมพ์รัศมี
    ติดค้าง ผ้ายันต์รอยมือ-เท้า
    ติดค้า พระปิดตาในครรภ์

    3อย่างนี้ผมมีฐานข้อมูลแล้ว แต่ช่วงนี้บทบาทผมลดลงเพราะภารกิจนอกราชการเพิ่มขึ้น

    แต่ถ้ายังมีผู้ติดตามก็จะเปิดกระทู้ต่อไปครับ แต่ถ้าหมดช่วงนิยมแล้ว ก็จะปิดไปตามวาระ แต่เมื่อของติดค้างบริบูรณ์แล้ว จะไปเปิดกระทู้ใหม่

    โปรดให้วิพากษ์วิจารณ์การคงอยู่ของกระทู้ครับ ผมจะได้ตัดสินใจได้ง่าย.....

    ...วันศุกร์ที่12นี้ เป็นวันสุดท้าย
     
  13. เอ๋เชียงใหม่

    เอ๋เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    839
    ค่าพลัง:
    +1,791
    ต่อเถอะหนุ่มทิพย์ แฟนประจำเยอะแล้วนี่กระทู้ห้าดาวนะ
     
  14. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    ต่อเถอะครับ พี่หนุ่มทิพย์
     
  15. mai321

    mai321 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    614
    ค่าพลัง:
    +818
    ติดตามอยู่นะครับ
     
  16. มดดำน้อย

    มดดำน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    621
    ค่าพลัง:
    +2,826
    ติดตามอยู่นะครับ
     
  17. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    ติดตามอยู่ครับ
     
  18. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    คาถาหลวงปู่เจี๊ยะ
    .
    ..วันไหนท่านปวดที่ขา ปวดเมื่อยตามเนื้อตาม
    ตัวหรือเจ็บปวดในที่อื่น ท่านก็จะให้ผู้ที่ดูแล
    ท่องคาถาเป่าให้ท่าน ท่านบอกว่าเป็นคาถาดี
    โดยให้ท่องว่า...
    .
    "นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา"
    ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่านผู้หลุดพ้นทั้งหลาย
    ขอความนอบน้อมจงมีแก่ธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้นทั้งหลาย
    .
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • LP Jeae.jpg
      LP Jeae.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.9 KB
      เปิดดู:
      37
  19. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]

    เมื่อไพฑูรย์ได้ไปขอเรียนวิชากับหลวงพ่อเเช่มวัดตาก้องและได้ไปอยู่กับหลวงพ่อแช่ม ท่านให้ไปพักที่กระท่อมซึ่งปลูกไว้รับรองพระ หรือผู้ที่มาเล่าเรียนวิชาอาคมกับท่าน มีมุ้ง เสื่อ และหมอนอย่างละหนึ่ง เป็นกระท่อมไม้ไผ่ขัดแตะ มีแคร่ไม้ไผ่สำหรับนอนหนึ่งแคร่ ตุ่มดินขนาดเล็กใส่น้ำดื่ม มีกระบวยทำจากกะลาหนึ่งอันสำหรับตักน้ำดื่ม
    เรื่องอาหารไม่ต้องเป็นห่วง โยมอุปัฏฐากจะนำมาถวาย ท่านฉันไม่มาก ท่านไม่มีลูกศิษย์ประจำจะไปไหนก็เรียกปู่ทองมาเดินถือย่ามตามหลัง สำหรับปู่ทองนั้น อายุเพียง 50ปี แต่สักเต็มตัว หัวล้าน หน้าตาแก่เหมือนคนอายุ 70 บรรดาศิษย์หลวงพ่อแช่มจึงเรียกกันติดปากว่า ''ปู่ทอง''

    ปู่ทองกับไพฑูรย์เข้ากันได้ดีเพราะเป็นพวกชอบคาถาอาคมและเล่นเครื่องรางของขลัง คุยกันถูกคอ โดยเฉพาะเมื่อถองเหล้านอกสำนักหลวงพ่อแช่ม เพราะในบริเวณสำนักของหลวงพ่อเเช่มท่านห้ามนำสุราเข้ามาดื่มเด็ดขาด มีบางคนถือเหล้าเดินเข้ามาบริเวณสำนักของท่าน พอจะดื่มก็ต้องประหลาดใจ เพราะเหล้าแม้จะมีกลิ่นเป็นเหล้า แต่พอยกดื่มกลับจืดเป็นน้ำเปล่า

    ปู่ทองเล่าถึงอภินิหารหลวงพ่อแช่มที่ได้เผชิญมาด้วยตัวเองให้ไพฑูรย์ฟังว่า
    วันหนึ่ง หลวงพ่อแช่มไปที่ตัวจังหวัดนครปฐม ปู่ทองก็ตามไปด้วย ท่านเดินไปที่หน้าเรือนจำจังหวัดนครปฐม บอกกับปู่ทองว่าจะเข้าไปเยี่ยมลูกศิษย์ในเรือนจำ ปู่ทองจึงบอกว่าตอนนี้เกินเวลาเยี่ยมแล้ว หลวงพ่อแช่มกลับตอบว่า ''สำหรับข้าไม่มีเวลา ข้าจะเข้าไปเยี่ยมลูกศิษย์ข้า เรื่องของความเมตตา ใครก็ห้ามไม่ได้ เอ็งไปทำธุระที่ไหนก็ได้ อีกชั่วโมงมารอข้าตรงนี้แหละ''

    กล่าวจบหลวงพ่อแช่มก็ยื่นมือมารับย่ามกับร่มไปจากมือปู่ทอง จากนั้นก็เดินจากไป ครบหนึ่งชั่วโมง ปู่ทองก็มายืนคอยหลวงพ่อแช่มตามนัด หลวงพ่อส่งย่ามกับร่มคืนให้ถือ พากันเดินไปที่สถานีรถไฟ ปรากฏว่ารถไฟกำลังเคลื่อนขบวนออก โบกี้ท้ายพ้นจากชานชาลาไปแล้ว
    หลวงพ่อแช่มยืนเพ่งขบวนรถไฟแล้วท่านก็พูดว่า
    ''หยุดรอก่อน พระจะขึ้น''
    ปู่ทองบอกว่า''รถไฟมันไปแล้ว มันไม่รอหลวงพ่อหรอก'' หลวงพ่อแช่มจึงบอกว่า ''รอซีน่า เจ้าทองเอ็งคอยดู'' จบคำปรากฏว่าอยู่ดีๆรถไฟหยุดดื้อๆ รถไฟตอนนั้นใช้ไอน้ำต้องเอาฟืนต้มน้ำในหม้อไอน้ำปรากฏว่าอยู่ดีๆ รถไฟก็เคลื่อนที่ไปไม่ได้เหมือนถูกพลังเร้นลับดึงไว้ ขืนเร่งต่อไป หม้อน้ำระเบิดจะไปกันใหญ่

    ''พนักงานขับรถไฟจึงตัดสินใจถอยหลังขบวนรถเข้าจอดในชานชาลาสถานีนครปฐม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ปู่ทองบอกว่า ขนลุกตั้งเมื่อได้เห็นอำนาจอาคมของหลวงพ่อแช่มที่ทำให้รถไฟต้องถอยกลับมาที่สถานี หลวงพ่อแช่มก้าวขึ้นรถไฟ ผู้โดยสารลุกให้ท่านนั่ง คนที่จำได้ก็มาให้ท่านเป่ากระหม่อม ประมาณ 10นาที รถไฟก็เคลื่อนออกจากสถานี พอมาถึงตรวจดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เดินหน้า ถอยหลัง ห้ามล้อได้ตามปกติ จึงออกเดินทางใหม่''

    อีกสองวันต่อมา ก็มีชายแปลกหน้าสามคนถือถาดผลไม้มาขอเข้านมัสการหลวงพ่อแช่มเมื่อหลวงพ่อครองผ้าเรียบร้อยแล้วจึงออกมาต้อนรับ พูดคุยกับคนที่เป็นหัวหน้า ส่วนอีกสองคนซึ่งเป็นคนติดตามได้เข้ามาคุยกับปู่ทองว่า
    ''ท่านเป็น ผบ.เรือนจำนครปฐม มานมัสการหลวงพ่อแช่มครับ''
    ''เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่มเหมือนกันหรือ''
    ''ใช่ แต่ งานท่านยุ่งไม่ค่อยมีเวลามานมัสการหลวงพ่อ''

    ปู่ทองรำลึกถึงเหตุการณ์วันที่หลวงพ่อแช่มบอกว่าจะไปเยี่ยมลูกศิษย์ในเรือนจำ ตัวเองค้านว่านอกเวลาเยี่ยม แต่ท่านว่าจะเข้าเยี่ยมด้วยเมตตาธรรม ใครจะมาทำอะไรท่านได้ ปู่ทองจึงขอให้ผู้ติดตามซึ่งเป็นผู้คุมในเรือนจำเล่าเหตุการณ์ให้ฟังโดยละเอียด
    ผู้คุมเล่าว่า วันนั้นจู่ๆก็มีพระถือย่ามเดินกางร่มเข้าไปในเรือนจำ ขณะนักโทษกำลังทำงานกลางแจ้ง ผู้คุมก็เเปลกใจ เพราะญาติผู้ต้องขังจะเยี่ยมได้เฉพาะที่จัดไว้ให้เยี่ยมญาติเท่านั้น หากจะเข้ามาต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ และมี ผบ.หรือรอง ผบ.เรือนจำ เดินมาด้วย

    นักโทษที่เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม พากันทิ้งงานเข้ามากราบเท้าท่านใหญ่ ผู้คุมซึ่งเข้าเวรตอนนั้นจึงวิ่งมาดู ส่วนเพื่อนผู้คุมวิ่งไปแจ้งให้ ผบ.เรือนจำทราบ ผู้คุมจึงเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าพระภิกษุแปลกหน้า ถามด้วยความนอบน้อม

    ''หลวงพ่อเข้ามาได้อย่างไร ที่นี่เป็นเขตหวงห้าม ถือเป็นการบุกรุกสถานที่ราชการ มีโทษตามกฏหมาย''

    ''ข้าชื่อแช่ม อยู่วัดตาก้อง ข้ามาเยี่ยมพวกลูกศิษย์ข้า มาดูว่ามันลำบากไหม มันถูกทารุณหรือเปล่า ข้าเมตตามัน แต่เวลาเยี่ยมตามปกติข้ามาไม่ได้ จึงต้องมานอกเวลา''

    ''แต่ท่านเข้ามาจะทำให้พวกผมพลอยมีความผิดไปด้วย หาก ผบ.เรือนจำมาเจอเข้า ผมเดือดร้อนแน่ รวมทั้งผู้อนุญาตให้หลวงพ่อเข้ามาด้วย หากไม่ถูกตัดเงินเดือน ก็ถูกกักบริเวณ หนักสุดก็ไล่ออก''

    ''ไม่มีการไล่ใครออกไม่มีใครอนุญาต หรือพาข้าเข้ามา ข้าก็เดินผ่านพวกมันเข้ามากลางวันแสกๆ ไม่ได้ป่ายปีนหรือมุดเข้ามา เดินเข้ามาเฉยๆ ไม่เห็นมีใครมาห้ามหรือทักท้วง มีเเต่เอ็งนี่แหละ''

    ท่าน ผบ.เรือนจำเดินเข้ามาพอดี พอเข้ามาใกล้ก็จำหลวงพ่อแช่มได้ รีบคุกเข่าแล้วก้มกราบแทบเท้าท่านทันทีแล้วบอกว่า

    ''หลวงพ่อไม่น่าเข้ามาแบบนี้ ให้เจ้าหน้าที่มาแจ้งผมก็ได้ ผมจะได้ให้เขาเรียกนักโทษมาพบหลวงพ่อเป็นกรณีพิเศษ หรือจะเข้ามาตรงนี้ ผมก็จะให้เขาพาหลวงพ่อเข้ามาได้ตลอดครับ''

    ''ก็ข้าชอบของข้าอย่างนี้ ข้านึกจะเข้ามาเยี่ยมพวกลูกศิษย์ข้าก็มา นี่ดีนะว่าพวกมันต้องอาญาหลวง ข้าช่วยอะไรมันไม่ได้ ถ้าข้าจะพาพวกมันออกไปข้างนอกบ้างก็ทำได้ แต่ก็เอาละ ต่อไปข้าจะไม่เข้ามาอย่างนี้อีก เพราะเอ็งรับคำแล้วว่าให้ข้าเยี่ยมได้ตลอดเวลา''

    ''กราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นที่สุด ผมจะสั้งไว้เลยว่า ผมจะอยู่หรือไม่ในเรือนจำ หากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง มาขอเยี่ยมนักโทษ ให้จัดให้เป็นกรณีพิเศษทุกเวลา ยกเว้นยามวิกาลเท่านั้น''

    ปู่ทองบอกว่ารู้สึกเลื่อมใส และรักหลวงพ่อแช่มมากขึ้นไปอีก เพราะเมตตาของหลวงพ่อ แม้ศิษย์จะเป็นคนขี้คุกขี้ตะรางท่านก็ยังเมตตาเสมอ

    ปู่ทองเล่าอีกว่า ในงานปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดพระปฐมเจดีย์ของท่านเจ้าคุณพระธรรมวโรดม(โชติ) เมื่อปี 2373 หลวงพ่อแช่มได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกสเก เมื่อเสร็จพิธีแล้ว เจ้าพิธีก็นำวัตถุมงคลใส่ถาดมาถวายให้พระที่มาร่วมปลุกเสกเพื่อแจกเป็นของสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์บูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ พระอาจารย์ท่านก็นั้งเเจกแบบว่าศิษย์ใครศิษย์มัน รับกับมือหลวงพ่อเองเลย

    หลวงพ่อแช่มยกถาดวัตถุมงคลไปเทลงในเตาที่เขาใช้หลอมโลหะเบ้า แล้วเอามือล้วงลงไปหยิบวัตถุมงคลขึ้นมาจากถ่านที่กำลังลุกแดงแจกศิษย์ คนที่ได้รับแทนที่จะร้อนกลับบอกว่าเย็นเหมือนน้ำเเข็ง

    ศิษย์องค์สุดท้ายที่เรียนวิชากับหลวงพ่อแช่ม ซึ่งบวชอยู่ที่วัดแถบบางเชือกหนังชื่อ หลวงพ่อทองเล่าให้ไพฑูรย์ฟังว่า

    เมื่อตอนหนุ่มเป็นศิษย์ในท่านเจ้าคุณเข็ม (พระญาณโพธิ์ เมื่อสมเด็จพระสังฆราช (แพ)จัดพิธีปลุกเสกพระกริ่ง ได้รับหน้าที่อุปัฐากพระเกจิย์ที่มานั่งปรก มีโอกาสได้ถวายน้ำแก่หลวงพ่อแช่ม เมื่อท่านรับเเก้วน้ำไปดื่มจนหมด ได้ให้รินให้ท่านอีกแก้ว ท่านเอาใบจากที่มวนบุหรี่มาเสกแล้วหย่อนลงไปในแก้วน้ำ ใบจากกลายเป็นปลากัดสีสวย ว่ายพองเหงือกไปมา พอเห็นว่าหลวงพ่อทองดูเต็มตาแล้วท่านก็เอานิ้วจุ่มลงไปในน้ำ ปลากัดกลายเป็นใบจากตามเดิม

    ครั้นเมื่อท่านจะกลับวัด หลวงพ่อทองได้อาสาตามไปส่ง ท่านบอกว่าจะตามทันหรือ กล่าวจบท่านก็ก้าวเท้าลงจากกุฏิเดินไปตามทางเดินไปยังประตูวัดสุทัศน์ฯ หลวงพ่อทองเดินตามได้สองสามก้าวหลวงพ่อแช่มก็ไปอยู่ที่ประตูวัดแล้ว พอวิ่งตามไปทัน หลวงพ่อแช่มก็หัวเราะ บอกหลวงพ่อทองว่า
    ''ว่าแล้วจะเดินตามทันหรือ''
    ''หลวงพ่อนามใด อยู่วัดไหน ผมนายทองจะไปให้ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์''
    ''ข้าชื่อแช่ม อยู่วัดตาก้อง นครปฐม ไปที่วัดตาก้องแล้วละก็ ได้พบแน่''
    เมื่อเดินทางไปหาหลวงพ่อแช่มที่สำนัก หลวงพ่อแช่มบอกว่า
    ''ไปบวชวัดสุทัศน์ฯ นั่นแหละให้ท่านเข็มเป็นผู้อุปัชฌาย์ ฉันจะเป็นคู่สวดให้ บวชแล้วไปเรียนวิชากับฉันก็เเล้วกัน''
    ไพฑูรย์ได้เรียนคาถาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อแช่มหลายบท ซึ่งไพฑูรย์ได้บอกให้จดคาถาต่างๆไว้ดังนี้

    ◎คาถาเสกข้าว◎ น้ำ อาหาร หมาก พลู ให้เกิดคงกระพันกับร่างกาย ให้ว่า
    ''อัตตะฑีโต นะโม พุทธายะ''
    เสกข้าว 7คำแรกที่กิน โดยเมื่อตักข้าวเข้าปากก็ภาวนาในใจ เคี้ยวแล้วกลืนลงไป ทำให้ได้ทุกวันอย่าให้ขาด จะเกิดความคงกระพันชาตรีดีนัก จะกินน้ำก็เสกเสียก่อนจะดื่ม เสก 7คาบ เสกหมาก เสกพลู 7คาบ ถ้ากินหมากก็เสกคำหมาก 7คาบ จึงเคี้ยวกิน

    ◎คาถาป้องกันคุณไสย◎ ให้ว่า
    ''พุทโธ พุทธัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''ธัมโม ธัมมัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''สังโฆ สังฆัสสะ กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล''
    ''สุสุ ละละ ทาทา โสโส นะโมพุทธายะ''
    ''พุทโธพระบัง ธัมโมพระบัง สังโฆพระบัง''

    เมื่อล้มตัวลงนอนที่ใดก็ตาม ให้ร่ายพระเวทป้องกันคุณไสยด้วยใจมั่น กราบลงที่หมอน หรือที่พื้นดิน หรือท่อนไม้ที่หนุนศีรษะ จะป้องกันคุณไสยและภูตผัปีศาจ ตลอดจนศัตรู เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา จะทำให้รู้ตัวตื่นมาป้องกันอันตรายได้

    ไพฑูรย์ใช้ภาวนาก่อนนอน เวลาหนีการตามล่า ตำรวจมักแปลกใจว่า แม้ว่าจะวางแผนเข้าใกล้ตัวไพฑูรย์แบบไม่ให้ไหวตัว แต่ด้วยพระคาถานี้ทำให้รู้ตัว เป็นเสียงคนมาพูดข้างหูบ้าง สะดุ้งเหมือนมีใครมาจี้สีข้างบ้าง มีเหตุให้รู้ตัวและหนีได้ทันท่วงที บางครั้งหนีจนไม่มีเวลาดับไฟที่สุม เรียกว่าหากช้านิดเดียวเป็นถูกจับเเน่

    ใครทำได้จะเห็นผล มีโจรมีขโมยมาถึงบ้าน ก็จะรู้ตัวก่อนจนเตรียมตัวป้องหันได้ทันท่วงที ไพฑูรย์บอกว่าแม้อยู่กับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องเพียง 7วัน ก็รักและเคารพท่านดุจเดียวกับหลวงพ่อเดิม เพราะท่านเป็นพระที่มีศีลสังวรและมีอภินิหารมากมายจนกล้าพูดได้ว่าตายแล้วเกิดใหม่ก็หาไม่เจอ

    [​IMG]

    ใครเล่นเฟสบุ๊ค ก็ติดตามได้ใน "นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว"
    ส่วนใครจะเรียนคาถา ก็ทำบุญใส่บาตรวันพฤหัส อุทิศให้เจ้าของคาถาขอให้ท่านเป็นครูอาจารย์ แล้วเรียนเอาเถิด มีแต่ได้ไม่มีเสีย

    ปู่ทองที่พูดถึงในเรื่อง มีผู้เข้าใจว่าเป็นองค์เดียวกับหลวงปู่ทอง วัดเกาะบางเชือกหนัง และหากเป็นเช่นนั้นจริง ผมก็ทันได้ไปกราบท่านเหมือนกัน แต่ที่ไปตอนนั้นไม่รู้พื้นเพเดิมท่านมาก่อน เลยไม่ได้อะไรนอกจากไปทำบุญ
     
  20. vrk6223

    vrk6223 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    644
    ค่าพลัง:
    +1,991
    สวัสดีครับ คุณทิพย์ อีก ๑ เสียงขอให้ต่ออายุสมาชิก PREMIUM ออกไปอีกนะครับตามเพื่อนสมาชิกที่รอติดตามกระทู้อยู่ โดยเฉพาะเรื่องราวประวัติพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าถูกใจมากเลย ขอบคุณครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...