ได้สนทนาธรรมกับสหธรรมมิกบางท่าน ที่ยังหาขอยุติไม่ได้ ถูกล๊อกกระทู้ไปเสียก่อน เพราะฝ่ายหนึ่งได้หาเหตุผลอ้างอิงหลักฐานจากพระพุทธพจน์ ที่มาจากพระสูตร ทรงได้ตรัสไว้ดีแล้วก็ตาม ก็ยังไม่สามารถทำให้ทิฐิในการยึดมั่นถือมั่นของอีกฝ่ายให้ลดลงได้ เพราะอีกฝ่ายยังพอใจจะเชื่อในแบบเชื่อตามๆกันมา โดยขาดการพิสูจน์ความจริง ด้วยการเพียรเพ่งฌาน ซึ่งพระพุทธองค์รับรองไว้ว่า "จะเป็นผู้ไม่เดือดร้อนในภายหลัง" แบบชัดๆ ก็ยังปฏิเสธว่า สมาธิไม่ทำให้เกิด " ปัญญา" ทั้งที่ผู้ที่ไม่เดือดร้อนในภายหลังได้ ต้องเป็นผู้มีปัญญาที่เกิดจากจิตของตนสงบตั้งมั่นเท่านั้นก็ตาม มาเรื่อง"ไฮไลท์"ดีกว่า พระนิพพานเป็นธรรมณ.ภายในกาย(อัชฌัตตา) หรือเป็นธรรมณ.ภายนอกกาย(พหิทา) มีพระพุทธพจน์ชัดๆว่า พวกเธอจงค้นหาอมตธรรม(พระนิพพาน)จากกายที่ยาววา หนาคืบ กว้างแค่ศอก ถ้ากายที่ยาววา หนาคืบ กว้างศอกนี้ ไม่มีจิตครองอยู่แล้ว จะค้นหาได้มั้ย? ย่อมไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะอะไร? จิตที่เข้ามาอาศัยด้วยความยึดมั่นถือมั่นทำให้เกิด"ชีวิตินทรีย์"ขึ้นมา ปรากฏอาการของจิต เกิดมีความรัก ชอบ ชัง เย็น ร้อนอ่อน แข็งให้รู้ได้ ถ้าฝ่ายที่ยังเชื่อพระนิพพาน(อมตธรรม) เป็นเรื่องภายนอกกายไปเสียแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ทำให้น่าเป็นกังวลไปได้ว่า คนพวกนี้กำลังหลงไปเชื่อตามแบบคนนอกศาสนาพุทธ ที่เชื่อเรื่อง"พระเจ้า" เป็นเรื่องภายนอกกายที่สามารถปกป้องคุ้มครองเราได้ เจริญในธรรมทุกๆท่าน
.........ถ้าจับเอา สิ่งใดสิ่งหนึ่งมา วิเคราะห์ ด้วยการการ วิเคราะหื วิจารณ์...คำตอบนั้นก็ ยังเป็นความเห็นของ คนอยู่ดี...ไม่ใช่ สภาวะ จริง ใช่มั้ยครับ คุณ อาว์
.........หมายถึง แสดง ความเห็น ยังไง มันก็ เป็นความจริง ชั้นรอง..เหมือนการท่องเที่ยว ด้วยการอ่านหนังสือ หรือ ดู สารคดี..
^ ^ หลานรัก ใครบอกหละว่า "ไม่ใช่สภาวะจริง" ถ้าวิเคราะห์ วิจารณ์ จากการอ่าน ฟัง คิด จนตกผลึกหนะ "ใช่" ยังเป็นแค่ความคิดเห็น ที่เอาแน่ไม่ได้ ส่วน วิตก(วิเคราะห์) ยกจิตขึ้นสู่ฐานในสติปัฏฐาน วิจารณ์ ประคองจิตให้ระลึกรู้อยู่ที่ฐาน นี่แหละ "สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นจริง" พิสูจน์ได้หนิ เจริญในธรรมทุกๆท่าน
^ ^ ถ้าความคิดเห็นที่ผ่านจากการปฏิบัติธรรมแบบจริงจังเพื่อพิสูจน์ความจริง ความคิดเห็นเช่นนั้น ไม่ใช่การท่องเที่ยวที่ไปรู้เห็นเรื่องนอกกาย แม้การออกท่องเที่ยว ก็ยังดีกว่าอ่านเอา แล้วมโนไม่เองว่า ที่ท่องเที่ยวเป็นแบบนั้นแบบนี้55+ เจริญในธรรมทุกๆท่าน
เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ. ภิกษุมีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริง. ก็ภิกษุย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงอย่างไร. ย่อมรู้ชัดซึ่งความเกิดและความดับแห่งรูป ความเกิดและความดับแห่งเวทนา ความเกิดและความดับแห่งสัญญา ความเกิดและความดับแห่งสังขาร ความเกิดและความดับแห่งวิญญาณ. ^ ^ ลองพิจารณาพระสูตรให้ดีๆนะครับ การปฏิบัติสัมมาสมาธิ ยังให้เกิดปัญญารู้เห็นตามจริง คือเห็นการเกิด-ดับของขันธ์๕ได้ชัดเจน เจริญในธรรมทุกๆท่าน