เมื่อเพื่อนเก่าบวชเป็นพระแล้วมีเรื่องเดือดร้อน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย mcusys, 31 มีนาคม 2015.

  1. mcusys

    mcusys เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +106
    ไม่นานมานี้ผมได้พบเจอเพื่อนๆสมัยตอนเรียนประถมซึ่งไม่ได้เจอกันมาหลายปีมากตั้งแต่เรียนจบประถมแล้วมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งซึ่งไปบวชเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นวัดดังแถวสังขละบุรี
    ปัญหาเกิดจากพระท่าน โทรไปขอบริจาคปัจจัยกับเพื่อนๆ ในครั้งเมื่อสมัยเรียนประถมซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีผมด้วย พระท่านต้องการนำปัจจัยไปใช้จ่ายเพื่อจะได้เดินทางไปสอนหนังสือเด็กพม่า และต้องการที่จะนำปัจจัยไปใช้ในเรืองๆต่างๆ
    ซึ่งแต่ละครั้งพระท่าน จะโทรไปขอบริจาคปัจจัยกับเพื่อนผม บางครั้งให้บริจาคเพื่อเติมเงินโทรศัพท์บ้าง จนผมและเพื่อนๆ คิดว่าพระท่านอาจจะทำไม่ถูกต้อง
    และอาจจะเป็นบาปติดกับตัวเรา เมื่อเราใชัคำครหา ซึ่งวัดที่ท่านได้บวชเรียนอยู่นั้นเป็นวัดใหญ่ ซึ่งผมกับเพื่อนคิดว่าปัจจัยน่าจะมีให้ใช้จ่ายในบางเรื่องได้
    จึงอยากจะหาทางออก เพราะเวลาเพื่อนคุยกับท่าน พระท่านก็จะบอกว่าท่านเอาไปช่วยเหลือคนอื่น แต่ในทางกลับกันเพื่อน หรือ ผม รู้สึกอึดอัดเพราะบางคนมีครอบครัวซึ่งก็ทำงาน ไม่ได้มีรายได้สูงมาก และเพื่อนปฏิเสธไม่เป็น จึงเกิดเป็นปัญหาอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ

    ในการแก้ไข ผมคิดว่าจะไปหาท่านและคุยกับท่านตรงๆ ว่าท่านกำลังทำให้เพื่อนๆของท่านลำบากใจ แต่ถ้าผลที่ออกมายังคลุมเครือ ไม่ชัดเจน ว่าท่านต้องการอะไร ผมและเพื่อนๆ คงต้องคุยกับท่านเจ้าอาวาสเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ต่อไป

    ที่มาโพสไว้ที่นี่ ผมต้องการความคิดเห็นจาก พี่ๆเพื่อนๆ และ สหายธรรมทั้งหลาย เพื่อจะใช้เอาไปพิจารณาต่อไป
    ไม่อยากทำให้กระทู้ที่ตั้งขึ้นเกิดเป็นบาปเลยนะครับ แต่อยากให้ช่วยกันหาทางออกมากกว่า
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กรรมของคนอื่น อย่าไปเผือก หากรรมเข้าตัวเองดีกว่าคับ เค้าขอใคร จะให้หรือไม่ให้ก็เป็นเรื่องของคนอื่นเค้าคับ

    บอกตรงๆ ไม่มีก็ว่าไม่มี ไม่ต้องไปกลัวหรืออายเพื่อนหรอกคับ

    เค้าจะเอาไปทำอะไร ก็ปล่อยไปตามกรรมโลด คับ
     
  3. mcusys

    mcusys เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +106

    ไม่ได้ไป เผือก กรรมใครท่าน โดนมากับตัว พอปฏิเสธพระท่านก็โทรไปหาเพื่อนคนอื่น.....
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    555+

    คนอื่นไม่ใช่เรา ไม่ต้องไปสงเคราะห์ หากรรมเข้าตัวครับ แนะนำไว้

    เพื่อนคนอื่นก็เรื่องของครอบครัวอื่นครับ คือไม่ใช่อะไรหรอก กฏแห่งกรรม ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ย่อมรับผลกรรมนั้นๆ

    คนเคยมีเวรมีกรรมกันมา เมื่อถึงเวลา มันก็ต้องใช้หนี้ ใช้กรรมกันไป กฏแห่งกรรมบังคับไว้ ครับ

    พอหมดเวรหมดกรรมกันไป ก็ทางใครทางมันครับ เวรกรรมที่เคยสร้าง ก่อกันมายังไม่หมด ก็ต้องใช้หนี้กรรมกันไป
     
  5. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ต้องขอถามท่านก่อนว่าเพื่อนๆและตัวท่านอารตนาเป็นโยมอุปถากพระองค์นี้หรือเปล่า ถ้าเป็นก็คงต้องคุยกันแต่ถ้าไม่เป็นพระต้องอาบัตครับ ต้องยกธรรมขึ้นกล่าวถ้าไม่ฟังต้องเข้าพบเจ้าอาวาสเพื่อช่วยไม่ให้เพื่อนทำกรรมต่อไปอีก. สาธุ
     
  6. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    แค่อ่านข้อความของ จขกท.ผมยังรู้สึกเลยว่าเป็นการเบียดเบียน ประเด็นไม่ใช่ว่าพระท่านเอาเงินไปทำอะไร แต่ประเด็นคือการที่แต่ละคนมีภาระ มีครอบครัว แต่เหมือนจำต้องให้เพราะเป็นเพื่อนกัน การทำบุญ กับการโดนไถเงินมันคนละเรื่องกันนะครับ

    จขกท.ไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องจำนวนเงินมาให้ ผู้ที่เข้ามาอ่านบางคนเลยอาจไม่เข้าใจว่ามันมากน้อยแค่ไหน เขาอาจคิดว่ามันน้อยนิดก็ได้ เนื่องจากไม่ได้โดนกับตัว ดังนั้น จขกท.จะแก้ปัญหานี้ยังไงก็จงทำไปเถอะครับ
     
  7. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ท่านบอกเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อน
    ถ้ารู้สึกว่าท่านไม่ใช่เพื่อนก็ควรบอกไปตรง ๆ ท่านจะได้ปรับตัวถูก
     
  8. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +402
    ทาน ที่แปลว่า การให้ นั้น จัดเป็นบุญเป็นกุศล เป็นความดีอย่างหนึ่ง
    หมายถึง เจตนาที่ เป็นเหตุให้เกิดการให้

    ถ้าให้ไม่เต็มไม่โดยความเต็มใจ หรือให้ด้วยความเกรงกลัวหรือจำใจให้
    จัดได้ว่าผลนั้นมีน้อยมากกว่าได้ เพราะ

    การทำทานของเราก็เพื่อหวังอนุเคราะห์
    คือทานของท่านดีผลที่ได้รับก็ต้องดีเป็นธรรมดา
    เพราะเราอุตส่าห์ละความตระหนี่ นำทรัพย์สินเงินทองออกทำบุญให้ทาน
    แต่แล้วเราก็กลับทำลายศรัทธาของเราเองด้วยการให้แล้วใจไม่ผ่องใส
    คือสงสัยในทาน มีความจำใจต้องให้ ให้แล้วครอบครัวเดือดร้อน
    ทำให้ไม่เกิดความเลื่อมใสในทาน
    ถ้ามีลักษณะนี้ อย่างนี้ชื่อว่าเรากำลังทำลาย คุณงามความดีของเราเอง
    ทำให้เราเกิด อกุศลไปพร้อมกับ กุศล ผลก็คือ ได้ทั้งบุญและบาป

    ถ้ามีความรู้สึกอย่างนี้เราจะเลิกให้
    เพราะหลังจากให้แล้วเกิดเศร้าหมองในใจ

    แต่ถ้าจากการให้แล้วเกิดปิติ ยินดีในการให้ของตน
    ผลนั้นจะพอกพูนกำลังศรัทธา ทำให้ติดนิสัยในการให้
    เมื่อให้ไม่มีผลดีแก่การให้ ยังไม่สมควรแก่การให้ ก็ไม่สมควรจะให้
    เพราะใจไม่พร้อมจะให้

    ส่วนเรื่องการลำบากใจ หากพระเพื่อนกันคุยกันได้ทุกเรื่องไม่หมองใจกันก็เป็นสิ่งที่ดี
    เพราะธรรมดาพระภิกษุถ้าท่านไม่ต้องการทำเพื่อตัวเอง ท่านต้องการทำเพื่อคนอื่น
    ธรรมดาพระภิกษุย่อมทำให้ผู้ไม่เลื่อมใส ให้เลื่อมใส ย่อมทำให้มีไม่มีศรัทธา ให้มีศรัทธา
    ถ้าท่านรู้เจตนาของเราจริง ท่านคงไม่ขอเพื่อทำลายความเลื่อมใสและศรัทธาของเรา
    ที่มีต่อพระศาสนาแน่นอนคะ
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กรรมของผู้ที่ชอบขวางคนทำบุญ ขัดขวางบุญของผู้อื่น
     
  10. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    การให้ทาน กำลังใจในการให้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าทุกคนไม่เห็นด้วยก็บอกพระท่านไปตามจริง แต่ถ้าเพื่อนเขาเลือกที่จะให้ทานเพราะไม่อยากปฏิเสธพระท่านก็ไปคิดแทนเขาไม่ได้ หรือถ้าเห็นว่าพระทำไม่เหมาะสมก็อาจจะลองบอกท่านไปตามตรง
     
  11. mcusys

    mcusys เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +106
    ไม่เคยขัดขวางเรื่องการทำบุญกับใครนะครับ ....
    ถึงพระเป็นเพื่อน หรือ มีเพื่อนเป็นพระ เมื่อท่านขอมาก็ก็ยินดีให้
    ในเดือนหนึ่งท่านจะโทรหาเพื่อน และ เพื่อนๆทุกคน
    ในเดือนหนึ่งผม และ พวกเพื่อนจะให้ท่านเป็นปัจจัยประมาณ 2000 - 3000 บาท
    หรือแล้วแต่ที่ท่านโทรมาในแต่ละครั้ง
    อยากให้ท่าน Saber เข้าใจไว้ด้วยครับ ไม่เคยขัดขวางการทำบุญของใคร
    ใครมาขอเงินผมให้หมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือ พระ หรือใครๆ ก็ตาม หมาแมวบริจาคหมดนะครับ ช่วยหมดนะครับ ไม่เคยแบ่ง แค่อยากจะขอคำแนะนำในแง่บวกนะครับ

    ท่านอย่ามองผู้ตั้งกระทู้ในแง่ลบซิครับ ผมเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา เลื่อมใสและมีศรัทธาแรงกล้า สังคมย่อมีบุคคลประเภทที่เป็นทั้งยางลบและดินสอ ผมพอเข้าใจนะครับ
    ไม่ทราบว่าท่านทำงานในสายงานไหนหรือครับ ผมอยากรู้จริงๆ
    ถ้าท่านมีใจเป็นคิดแบบสัมมาทิฎฐิ ลองพิจารณาข้อความที่ผมได้เขียนไว้ในข้างต้นอีกรอบนะครับ.....
     
  12. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    :cool:

    เอามาให้อ่าน ไม่ได้ต้องเข้าใจว่า ไปขวางบุญครับ
     
  13. mcusys

    mcusys เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +106
    ขอบคุณท่านที่ให้ข้อคิด ผมจะพิจารณาตามความเป็นจริงนะครับ...
    ขอบคุณท่าน saber อีกครั้งที่เจตนาดี...
     
  14. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    จริงๆ ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากหรอก เด่วเข้าตัวเอง 55+

    ที่แนะนำว่า อย่าไปยุ่งกรรมคนอื่น ก็ให้ลองอ่านประวัติพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัตดูก็แล้วกันครับ

    ว่าก่อนผูกกรรมกันมา ก็เป็นเพื่อนรักกัน แต่เพราะว่ากรรมเรื่องซื้อถาดทองคำก็เลยทำให้เป็นเวรกรรมผูกกันข้ามชาติกันมา

    จริงๆจะบอกว่า จะทำอะไร ก็ลองพิจารณาดู ว่าเราทำแล้ว เราได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ อย่างไร ถูกต้องตามธรรมหรือไม่

    แล้วบุคคลอื่น ทำให้เสียกำลังใจ หรือ ไปขัดอะไรทำให้เค้าไม่สบายใจ หรือ เสียกำลังใจ เสียน้ำใจหรือไม่ หรืออื่นๆอีกคงบอกไม่หมด

    เรื่องกรรมพวกนี้ อะไรนิดๆหน่อย เราทำอะไรไว้ก็ย่อมได้รับผลกรรมกลับคืนมาครับ

    ผมเลยแนะนำอย่างกระทู้แรกๆไปละว่า อย่าไปยุ่งกรรมของคนอื่น จะได้ไม่ต้องไป ก่อกรรมผูกกรรม ครับ

    บางทีบางเรื่องเราอาจเห็นว่าเล็กน้อย ไม่ถูกหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่บางครั้งบุคคลอื่นเค้าไม่ได้มีกำลังใจเท่าเรา เค้าจะเสียกำลังใจ เค้าจะคิดอย่างไร ในใจเค้าเราก็ไม่อาจรู้ได้ รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ

    เอาว่าผมก็ไม่อยากพูดมากหรอก เดี่ยวเข้าตัวเองซะหมด ^^

    ลองพิจารณาดูหลายๆทางก็แล้วกันครับ ต่างมุม ต่างมอง
    .
     
  15. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    ขออภัยเจ้าของกระทู้ ขอนอกเรื่องหน่อย
    จากข้อความของคุณ saber นี้
    ชาติที่พระเทวทัต โดนพระโพธิสัตว์ตัดหน้าซื้อถาดทองไป
    เป็นชาติแรกที่พระเทวทัตเริ่มผูกเวรพระพุทธเจ้าเหรอ?
     
  16. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ก็เป็นเรื่องที่เกิดจากการผิดใจกัน
    จะว่าโดนตัดหน้าก็ไม่ถูกนะ แต่ประมานว่า ถาดเก่าๆดำ เป็นทองคำ แต่คนขายไม่รู้ ก็แกล้งตีราคาต่ำๆ กะว่า กลับมาอีกรอบจะมาซื้อไป แล้วพ่อค้ารับซื้อของอีกคนมา คนขายถาดก็ให้พระพุทธเจ้าชาตินั้นที่เป็นพ่อค้าดูก่อน พอดูรู้ว่าเป็นทองของตามราคาจริง ก็เลยซื้อตามราคาจริงไป พอพระเทวทัต กลับไปกะว่าจะหลอกซื้อ ก็รู้ทีหลังว่าเ ซื้อไปก่อนละ ก็เลยหาไล่ตามหา อะไรทำนองนี้ละ ต้องลองหาอ่านดูครับ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ แค้นที่ไล่ตามแล้วไปถึงทะเลหรือท่าเรือ หรือที่ไหนไม่แน่ใจนะ ตามขึ้นเรือไม่ทันเรืออกไปก่อน ก็เลยกำทราย อธิฐานผูกเวร ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2015
  17. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    เชื่อเรื่องกรรมแบบไร้สาระ

    กรรมเก่าจะให้ผลอย่างไรก็ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก ส่วนใจแค่ธรรมในปัจจุบันก็พอ

    ความดีย่อมเป็นความดี ถึงกรรมเก่าจะให้ผลเล่นตลกอย่างไร ก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงของธรรมปัจจุบันได้
     
  18. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    ---
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2015
  19. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ให้เพื่อหวังบุญเป็นทาน ให้เพื่อการสละเป็นกุศล(แปลว่า ฉลาด) ทุกอย่างกำหนดไว้แล้ว หากเราจะไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้ ยังไงก็ไม่ได้ใช้ จะมีเหตุเข้ามาจนได้ ที่ทำได้คือการทำใจให้ถูกให้ตรง ทำใจให้ถูกมากที่สุด คิดว่าเราสละเพื่อพระศาสนา นิพพานะ ปัจจโย โหตุ ดีที่สุดแล้ว
    ใครจะรู้ได้ว่า พระพุทธเจ้ารักเทวทัตเพียงใด และเทวทัตรักพระพุทธเจ้าเพียงไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...