-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย pmorn3339, 29 กันยายน 2011.

  1. Peet

    Peet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +324

    ถ้าเถียงชนะกันด้วยเหตุผลไม่ได้ก็ลบกระทู้ไปเลยครับ ผมยินดี และจะไม่ตามไปที่กระทู้ในเวบอื่นด้วย ที่เข้ามากระทู้นี้เพราะว่ามีคนอ่านมาก กระทู้ที่ขอนแก่นจะคงไว้ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่เข้าไปโต้ตอบ
     
  2. พี ชลบุรี

    พี ชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    1,775
    ค่าพลัง:
    +15,052
    คำพังเพยวันละคำ อย่าตื่นยกยอตน = ไม่ควรพูดยกยอตนเองเปรียบเทียบเหมือนกลองจะดังต้องมีคนตี ถ้ากลองดังโดยไม่มีคนตีเรียกว่ากลองจัญไร
     
  3. Powfull

    Powfull เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +640
    ในที่นี้่ อยากให้ท่าน Peet แยกเรื่อง มโน , มยิทธิ , จับพลัง

    หรือ ต่อว่าท่านอื่นไว้ก่อน จะดีไหมครับ...

    เรื่องหลักฐาณ ค่อยฯหาครับไม่ต้องรีบร้อน..ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ท่านใช้ข้อมูล

    ใหม่ฯ หรือ ลงพิ้นที่ไปดูสถานที่จริง ที่ทุกท่านกล่าวอ้างกันมา ทั้งที่มี ของปลอม

    ทั้งที่มี ของจริง แล้ว รวบรวมเป็นชุดข้อมูลของท่านเอง อย่าไปเอาของเก่าที่เขาเห็น

    เขาอ่านกันมานาน มาเป็นข้อมูลของท่าน คนอื่นเขาจะว่าได้ ว่าก้อบปี้มาครับ

    วิงวอน และขอร้อง ท่าน Peet ให้ช่วย ถ่ายรูปชัดฯ สวยฯ หรือ เข้าใช้บริการ

    ตามร้านถ่ายรูป ก็ยิ่งดี หน้า หลัง ซ้าย ขวา และ ฐาณ รูปละ 60 บาทเองครับ

    เพื่อมาศึกษา และ วิจัย ชี้ชัดไปเลย ว่านี่ของกรุนี้ หรือ ที่ไหน

    (อย่าลืมใส่ชื่อใต้รูปภาพด้วย เพราะ พวกมิจฉาชีพอาจนำภาพของท่านไปทำทุตจริต)

    เอาที่เรื่องของ วัตถุ ก่อนเลยครับ เพราะ ของอยู่ในมือท่าน

    แล้ว พอหลักฐาณ ข้อมูลใหม่ฯมา ก็นำมาประกอบกัน ว่าเพราะเหตุได

    ท่าน จึงบอกว่า แท้ และ ท่านอื่นฯ บอกว่า เก๊ ผมว่า น่าสนใจไม่น้อยครับ

    เพราะ ส่วนตัวผมเอง ดูจากวัตถุ เป็นที่ตั้งครับ ส่วน เรื่องเล่าประสพการณ์ เป็นเรื่องรอง

    (ขอด่วนเลยนะครับ ยิ่งท่านอ้างว่าเป็นทองคำแท้ ผมเขื่อว่าหลายฯท่าน อยากชมแบบ ชัดฯ ให้สม ราคากับ วัตถุสักนิด ถ้ายังไง ถ่ายหลายรูป ต่อเขาสักรูปละ 40 ก็ได้ครับ )
     
  4. narmja

    narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496

    ถ้าพี่อยากดูวัตถุ ผมรบกวนดูย้อนหลังได้เลยครับ ผมลงเทียบให้ดูแล้ว งานหล่อโบราณ กับงานที่หล่อฉีดของท่านพี่ peet ที่บอกช่างหลวงสิบมือสิบหมื่น

    ถ้าพี่ดูงานหล่อโบราณออก ผมว่าน่าจะเห็นความแตกต่าง
     
  5. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    แต่ชุดข้อมูลของคุณ มันไม่มีอะไรที่ตอบโจทย์ที่คนอื่นๆที่เค้าถามคุณกลับได้เลย คุณก็มั่วแถ ไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งแม้แต่หลักฐานที่คุณเอามาให้ดูมันก็ขัดแย้งกันเองเลย พอเค้าถามคุณก็ไปอย่างอื่นอีก คราวนี้ไปเรื่องจับพลัง กันแล้ว อีกซักพักคงออกอ่าวไทย และถ้าคุณจะให้เค้าเชื่อคุณ ผมว่าหากคุณจะนำเอาเหตุผลมาหักล้างกันดีกว่า ว่าด้วยเหตุผลล้วนๆ ไม่ต้องมีว่ากระทบกระเทียบกัน แต่เหตุผลที่คุณเอามาอ้างนั้นมันรับไม่ได้เลย ไม่มีหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ตอบมายืดยาว น้ำล้วนๆใครก็ตอบได้ ตั้งสติและลองกลับไปอ่านที่ละกระทู้ ค่อยๆตอบทีละอัน ไม่ต้องเจาะจงว่าเอาแค่ท่านPmornหรือว่าเป็นใคร เพราะถ้าหากคุณจะให้พระของคุณมีหลักฐานแน่นอน มีที่มาที่ไป ไม่เก๊ ตามที่คุณว่าแล้วละก็ โชว์ให้เห็นเลยคับ ว่าอะไรเป็นอะไร คนอ่านในพลังจิต มีเป็นแสน มีความคิดกันทุกคน พวกเขาตัดสินใจเองได้ ว่าอันไหนผิด อันไหนถูกคับ..

    ที่มาพิมพ์นี้ ไม่ไช่ว่าเพราะอยากจะตอบอะไรนัก แต่อยากจะให้ถอนคำพูด ที่คุณบอกว่า คนเล่นพระ เช่า-ซื้อ-ขายพระนั้น เป็น มิจฉาอาชีวะ ผมคิดว่ามันไม่น่าจะไช่คำพูดของคนที่มีความคิดและสติปัญญาที่เค้าทำกัน.. ถ้าอย่างนั้น
    มันก็หมายถึงคุณด้วย เพราะคุณบอกเองก็เช่าเค้ามา คนขายพระให้คุณก็พวกมิจฉาชีพ และคุณเช่าเค้ามาอีกที และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่าคุณจะไม่เคยปล่อยเช่ามาก่อน.
     
  6. hemicuda

    hemicuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,357
    ค่าพลัง:
    +2,246
    555++ ทำไปทำมาเริ่มมีพลังวิเศษแล้ว ต่อไปคงมีดำดิน มุดน้ำ หรือเหินฟ้าแน่ๆ ครับ


    ปล. ส่วนเรื่องสะสมพระสำหรับผมนะ เก็บเข้าอย่างเดียว ไม่เคยมีปล่อยออกนอกจากให้ฟรีเท่านั้นครับ
     
  7. Peet

    Peet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +324
    พระของผมยินดีให้มาส่ององค์จริงได้ครับ แต่ผมขอคัดคนด้วยตนเองครับ บางคนมันมาแบบไม่หวังดี คนดีไม่ดีผมดูหน้าก็รู้แล้วไม่ต้องเจรจาถ้อยคำดอก

    เรื่องถ่ายรูปโชว์พระผมไม่นิยมครับโชว์ครับ เพราะโชว์ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรของดีสมควรอยู่กับผมไม่ใช่คนกเฬวรากที่ทำธุรกิจพุทธพานิชย์หรอก

    ที่เอามาโชว์นี้ก็นับว่าเป็นบุญตาที่ได้เห็นแล้ว ยังมีพวกดูพระที่ขึ้นรูปแบบหล่อ Loss Wax กับ Injection Moulding ไม่เป็นมาให้ความเห็นอีก อนาจจิตจริงๆ

    ที่มาโต้ตอบกระทู้นี้ก็จะเอาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มาหักล้างตรรกะวิบัติของนาย pmorn อย่างเดียวเท่านั้น

    พระที่โชว์แค่ของแถมจะจริงจะปลอมก็ไม่เป็นไรเพราะว่าเป็นพระทองคำเช่าซื้อมาในราคาถูกกว่ากินข้าวกลางวันหนึ่งมื้อ แต่รับรองว่าจริงพระว่ามีพลังพุทธคุณ พวกที่ไม่มีบุญที่จะสัมผัสพลังพุทธคุณได้ก็เป็นพวกมืดบอดเข้าข่ายพวกปทปรมะแล้วยังไปปรามาสคนที่ทำได้อีก ก็ต้องปล่อยไป
     
  8. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ชัดเจนดีครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2015
  9. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    อันนี้ ก๊อปไว้เมื่อเกือบ 4 ปีแล้ว

    http://www.ariyasound.com/images/sub_1289313246/somdet%20daily%20news.doc ....

    “พระสมเด็จวัดระฆัง” ปฐมบทแห่งพระเก๊
    โดยนายรู้ลึก แสนชัดลึก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


    (บทความอื่นลองควิ๊กเข้าไปอ่านดูนะครับ เอามาลงแต่บทความที่7)

    บทความที่ 7

    (ต่อจากฉบับที่แล้ว) ในฉบับที่แล้วได้ทิ้งท้ายไว้ด้วยเรื่องการปลอม “พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต” เกิดขึ้นในช่วงที่มีการบูรณปฏิสังขรณ์ “วัดพระแก้วมรกต” ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๔ โดยพบขณะที่ทำการบูรณะ “หลังคาพระอุโบสถวัดพระแก้วมรกต” จึงเรียกกันว่า “พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต” ซึ่งตามที่ผู้เขียนสาธยายมาก็ล้วนแต่เป็น “ข้อมูล” ที่บรรดา “นักปลอมพระ” กุข่าวขึ้นมาทั้งสิ้นด้วยการแต่ง “นิยาย” เป็นการประกอบการขายเพื่อให้ “เหยื่อ” หลงเชื่อซึ่งก็ถือว่า “ได้ผล” ในระดับหนึ่งเพราะมี “คนหลงเชื่อ” มากมายทีเดียวเนื่องจาก “แก๊งปลอมพระ” แก๊งนี้มันเล่นเล่านิยายจนเลยเถิดโดยบังอาจแอบอ้าง “เบื้องสูง” เพื่อให้การหลอกขาย “ของปลอม” ที่พวกมันสร้างขึ้นดู “สมจริงสมจัง” มากขึ้น

    ทั้งนี้ก็เพราะการปลอมพระ “สมเด็จกรุ วัดพระแก้วมรกต” ครั้งนี้มีการสร้างออกมาหลากหลายพิมพ์ รวมทั้ง “พระสมเด็จสายรุ้ง” ที่บางพิมพ์ก็มี “๕ สี” และบางพิมพ์ก็มี “๗ สี” ที่ดูแล้วคล้ายกับ “พระสมเด็จ” ของ “หลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง” ยังไงยังงั้น นอกจากนี้พวกแก๊งปลอมพระชุดนี้ยังตั้งชื่อ พระสมเด็จสายรุ้งที่ว่านี้เสีย “โก้หรู” คือเรียกขานว่า “พระสมเด็จพิมพ์เบญจรงค์” บ้าง “พระสมเด็จ สัตตรงค์” บ้าง รวมทั้ง “พระสมเด็จจตุรงค์” และ “พระสมเด็จไตรรงค์” ไปโน่นเลยโดยอาศัยตรงที่ “พระสมเด็จปลอม” ชุดนี้มีความ “สวยงาม” อีกทั้งเฉดสีก็มี “หลายสี” ในองค์เดียวกันดังกล่าวข้างต้น

    ซึ่งหากจะอธิบายให้ชัดก็คือคล้ายกับการเรียก “จตุคามรามเทพ” ที่เป็น “เนื้อก้นครก” นั่นเองซึ่งก็คือ “ที่มา” ของการเรียกชื่อเหมือนกันแต่ “ขอโทษ” แม้จะพยายามผลักดัน “ของปลอม” ให้เป็น “ของแท้” เช่นไร แต่ก็ผลักดัน “ไม่ได้” เพราะของปลอมก็คือ “ของปลอม” วันยังค่ำ นอกจากนี้แล้ว “พระสมเด็จปลอม” ชุดนี้ยังมี “พิรุธ” ให้จับได้อีกหลายประการ เช่นนอกจากปลอมพระสมเด็จ “พิมพ์มาตรฐาน” ทั้งของ “วัดระฆัง” และ “บางขุนพรหม” แล้วยังปลอมพิมพ์ “รูปเหมือนสมเด็จโตรุ่น ๑๐๐ ปี” ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๕ พร้อมทั้งรุ่น “๑๐๘ ปี” ที่สร้างเมื่อปี ๒๕๒๓ และ ๒๕๓๓ แค่นั้นไม่พอยังทำการปลอมพิมพ์ “รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดร” ออกมาอีกด้วย เพราะแก๊งปลอมพระชุดนี้ “มองการณ์ไกล” ว่าสามารถ “ทำเงิน” ให้พวกมันได้ “อิ่มหมีพีมัน” ได้แน่นอนนั่นเอง

    ทั้งหมดที่บรรยายมานี้คือ “พิรุธ” ที่ทำให้นักสะสมพระอาชีพ “จับได้” และ “ไล่ทัน” เพราะการสร้าง “พระสมเด็จปลอม” ชุดนี้แล้วทำการสร้างข่าวแบบอ้างอิงว่าเป็น “พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต” และเป็นพระสมเด็จที่ “สมเด็จ (โต วัดระฆัง)” สร้างขึ้นมาเพื่อถวาย “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ดังนั้น “คนภายนอก” จะไม่มีใครทราบนอกจากพวก “แก๊งปลอมพระ” เท่านั้นที่ทราบ ซึ่งนั่นก็คืออีก “หนึ่งพิรุธ” ของแก๊งปลอมพระชุดนี้ เพราะใน “ความเป็นจริง” แล้วพระสมเด็จปลอมชุดนี้ทำการสร้างขึ้นเมื่อ ปี ๒๕๒๕-๒๕๓๐ นี้เอง โดยอาศัยช่วงที่มีการบูรณปฏิสังขรณ์ “วัดพระแก้วมรกต” และ “พระบรมมหา ราชวัง” ระหว่าง ปี พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๔ มาอ้างอิง ซึ่งหากท่านผู้อ่าน “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ทราบถึงมูลเหตุแห่งการ “บูรณปฏิสังขรณ์” วัดพระแก้วมรกตแล้วก็จะทราบดีว่า

    “ก่อนการฉลองสมโภชพระนครที่ครบ ทุก ๕๐ ปี ก็จะมีการบูรณปฏิสังขรณ์ “วัดพระแก้วมรกต” และ “พระบรมมหาราชวัง” ก่อนทุกคราวตามประเพณีที่คุณ “ศุทธิวิทย์ กิจไชยพร” นำเรื่องราวเหรียญ “พระแก้วมรกตหลัง ภ.ป.ร.” ที่สร้างเป็น “ที่ระลึก” ในคราวฉลองพระนครครบ “๒๐๐ ปี” เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ ตรงเนื้อที่ “มุมนี้มีดีอวด” ประจำฉบับ “ทุกวันอาทิตย์” โดยเนื้อหามีว่า “ก่อนการฉลองพระนครครบ “๕๐ ปี” ในปี พ.ศ. ๒๓๗๕ ของ “รัชกาลที่ ๓” ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา “พระเจ้าน้องยาเธอฯ” เป็นแม่กองคุมงานบูรณะวัดพระแก้วมรกตก่อนการฉลองพระนคร และต่อมาในรัชสมัย “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ ๕ ก่อนการฉลองพระนครครบ “๑๐๐ ปี” ในปี พ.ศ. ๒๔๒๕ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาแม่กองเพื่อควบคุมงานบูรณะปฏิสังขรณ์เช่นกัน

    จากตรงนี้เองที่เป็น “จุดสำคัญ” ของการจับ “พิรุธ” แก๊งปลอมพระสมเด็จวัดพระแก้วมรกตคือ “หากท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต วัดระฆัง)” ทำการสร้าง “พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต” ขึ้นถวาย “พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” จริง แล้วไฉนพระสมเด็จชุดนี้จึงรอดพ้น “สายตา” ของบรรดานายช่างที่ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระแก้วมรกตถึง “๒ ครั้ง ๒ ครา” คือครั้งแรกคราวที่กรุงรัตนโกสินทร์ครบ “๑๐๐ ปี” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๕ และครั้งที่สองครบ “๑๕๐ ปี” ในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ เพราะตามบันทึกประวัติศาสตร์ “การบูรณะวัดพระแก้วมรกต” ก่อนการฉลองพระนครในทุก “๕๐ ปี” จะเป็นการบูรณะครั้งใหญ่ที่ถือเป็นประเพณีสืบมา

    ดังนั้นจึง “เป็นไปไม่ได้” ที่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต วัดระฆัง)” จะทำการสร้าง “พระสมเด็จวัดพระแก้วมรกต” แล้วบรรจุไว้บนเพดาน โบสถ์พระแก้วมรกตตามที่ “แก๊งปลอมพระสมเด็จ” ชุดนี้สร้างนิยายน้ำเน่ามาหลอกลวงกัน

    จากจุดนี้เองวงการ “พระเครื่อง” จึงไม่ยอมรับ “พระสมเด็จวัดพระแก้วมรกต” เข้าไว้ใน สารบบของ “การสะสม” เพราะหากวิเคราะห์ด้วย “หลักการ” ตามที่ผู้เขียนบรรยายมาก็เพียงพอต่อการ “ชี้ชัด” ได้ว่าเป็นการ “สร้างปลอม” ขึ้นมาเพื่อ “เจตนา” หลอกขายนักสะสมที่โง่เขลาเบาปัญญาเท่านั้น ฉะนั้นหากไม่อยากตกเป็นผู้โง่เขลาเบาปัญญาแล้วถ้ามี “มนุษย์ตนใด” นำพระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกตมาท้าพิสูจน์จะด้วย “หลักอะไร” รวมทั้งหลัก “วิทยาศาสตร์” แล้วจงรู้ไว้เถอะว่า “ท่านกำลังถูกมันหลอกลวง” ฉะนั้นก่อนที่จะถูกมันหลอกเอาต้องไล่ “ตะเพิดมันไปซะก่อน” ดีที่สุด หรือ หากไม่อยาก “มีเรื่อง” ก็อย่าไปข้องแวะ....แล้วท่านจะ “ปลอดภัยไร้กังวล” ทุกกรณี.

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  10. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    ใครรู้ช่วยตอบที

    “พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต” เกิดขึ้นในช่วงที่มีการบูรณปฏิสังขรณ์ “วัดพระแก้วมรกต” ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๔ โดยพบขณะที่ทำการบูรณะ นั้น

    แตกกรุ ออกมาจาก อาคารหมายเลขใด บ้าง

    [​IMG]

    [​IMG]


    ท่านใดทราบช่วยตอบให้หายสงสัยทีนะครับ


    -----------------------------------------------------

    .
    นิยาย(หลอกขายพระ) ตอน กรุสมเด็จวัดพระแก้ว แตก
    (นิยายน้ำเน่า เวอร์ชั่นแรก)

    บอกแตกกรุออกมาจากเจดีย์ทอง ==>> โดนน๊อกไปแล้ว
    (นิยายเวอร์ชั่นแรกนี้ ตามหาไม่เจอแล้ว)

    พ.ศ.๒๕๒๓ ก่อนครบรอบ ๒๐๐ ปีรัตนโกสินทร์พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาทรงเป็นประธานในการบูรณะพระบรมมหาราชวัง และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พิพิธภัณฑ์เพื่อจัดฉลองให้ยิ่งใหญ่ ปี ๒๕๒๕ จึงระดมช่างสิบหมู่จากจังหวัดนครศรีอยุธยา อ่างทองสุพรรณ กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรีมาทำการรื้อและบูรณะสิ่งก่อสร้างที่ทรุดโทรมให้สวยงามเหมือนเดิม
    การจะบูรณะก็ต้องมีการรื้อถอนบางส่วนที่เสียทรวดทรงซึ่งเจดีย์สร้างมานานอาจจะเอนเอียงไป ก็ต้องปรับให้ตรง ก็ต้องรื้อเกือบทั้งหมดแล้วทำให้เหมือนเดิม เมื่อ รื้อ เจดีย์ทอง ก็พบเป็นโพรงลงไปข้างในโพรงนั้นเต็มไปด้วยพระเครื่องมากมาย แล้วคนงานซึ่งเป็นคนอิสาน ก็เอาใส่ปิ่นโตข้าวลักลอบแอบขนออกไปขายข้างนอก
    -----------------------------------------------------------------------


    นิยาย(หลอกขายพระ) ตอน กรุสมเด็จวัดพระแก้ว แตก
    (นิยายน้ำเน่า เวอร์ชั่นสอง)
    ไม่บอกจุดแตกกรุ ===>> เชื่อได้ไหม

    พระกรุวัดพระแก้วนั้นไม่ได้ขนมามากจากคนงานที่เข้าไปบูรณะหรอกครับ แต่ถูกขนมาจากทหารยศสูงที่คุมงานโดยรถ ครับ ขนออกมาเป็นคัดรถครับ ประมาณว่ามีถึง ๒ ล้านกว่าองค์ มีนายทหารท่านหนึ่งเอาไปปล่อยไม่นานหลังจากขนออกมาที่ราคาเหมาจ่าย 400,000 บาท (สมัยนั้นทองบาทละ 300 บาท) เมื่อประมาณปี 2523 ป้าคนที่ผมรู้จักแกขายที่ที่บ้านนอกเอามาซื้อเอาไว้ ป้าคนนี้คนเล่นพระกรุวัดพระแก้วรู้จัก แกเพิ่งเอาพระมาปล่อยเมื่อประมาณปี 2553 นี่เองหลังจากที่มีหนังสือจากปู่ ประถม อาจสาคร ออกมา ป้าคนนี้ยังมีชีวิตอยู่อายุ 70 กว่าแล้วป้าเคยพาผมไปบ้านแก โอ้โหตะลึงเลยพระเครื่องมีเป็นแสน พระบูชามีอีกเป็นพัน แบบว่า งงว่าขนออกมา ได้อย่างไร จะว่าปลอมก็ไม่ใช่เพราะว่างานฝีมือพระมันละเอียดมาก พระกรึ่งเนื้อทองคำหลายองค์แต่งแบบทีละองค์ทาครั่งแล้วปิดทองทับที่จีวร จีวรแกะดอกลายพิกุลทีละองค์ๆงานฝีมือสุดๆครับ คนทำพระปลอมไม่มีปัญญาทำแน่นอน และเป็นพระเนื้อทองคำด้วยครับ คิดดูคนทำพระปลอมจะเอาทองคำแท้ๆมาทำพระเหรอ ป้าแกยังเอารูปนายทหารคนที่ขนพระออกมาจากวัดมาให้ผมดูด้วย ผมทราบชื่อ ยศ และสังกัดครับ แต่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว

    อยากบอกว่าพระจากวัดพระแก้วถ้าทันสมเด็จโตจะมีพลังมากๆๆ ถ้าไม่ทันก็มีพลังมากเหมือนกันแต่น้อยกว่าองค์ที่ทัน

    ทราบมาว่าพระจากกรุวัดพระแก้วคนที่รับซื้อต่อจากนายทหารมีสองคนครับ อีกคนหนึ่งยังเก็บเอาไว้ไม่ปล่อยออกมามาก แต่ตอนนี้ท่านเสียชีวิตแล้วครับมีลูกหลานทยอยเอาออกมาปล่อยแล้วครับ

    จริงครับพระกรุวัดพระแก้วบางองค์ทันสมเด็จโต บางองค์ไม่ทัน เช่นผมมีพระสมเด็จที่ด้านหลังเป็นเหรียญเฝื้องหนึ่ง เหรียญบาท เหรียญประพาสยุโรป เหรียญฉลองพระบรมรูปทรงม้าก็มี (หายากมากๆ) แน่นอนว่าพระสมเด็จพวกนี้ไม่ทันสมเด็จโต

    พระที่สร้างแล้วบรรจุกรุวัดพระแก้วมีหลายวาระมากโดยเฉพาะสมัยรัชกาลที่ 5 องค์ท่านสร้างพระบ่อยและมาก สร้างเหรียญต่างๆ สร้างหลายๆสิ่งหลายๆอย่างตามแบบยุโรปทำให้ประเทศเจริญทัดเทียมชาติที่เจริญแล้ว พระที่ท่านสร้างเมื่อแจกพระบรมวงค์ศานุวงค์ ข้าราชบริพารแล้วที่เหลือก็บรรจุกรุหมด และพระพิมพ์วังหน้าเมื่อคราวที่รื้อพระธาตุพนมจำลองก็นำพระพิมพ์เหล่านั้นไปบรรจุไว้ที่วัดพระแก้ว และคราวที่รื้ออาคารต่างๆที่วังหน้าเพื่อเปลี่ยนเป็นพิพิทธภัณฑ์สถานแห่งชาติและโรงละครแห่งชาติก็พบพระที่อยู่ตามเพดานหลังคามากมายก็นำไปบรรจที่วัดพระแก้วอีก

    --------------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  11. Powfull

    Powfull เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +640
    ผมได้เข้าไปดูแล้วครับ ขอตอบแบบ เป็นกลาง และ ไม่เกรงใจนะครับ

    วัตถุที่ท่าน Peet กล่าวอ้างว่าเป็นพระกรุ ผมขอบอกว่า

    "เก๊อุปโลก ตามหลายท่านฯ อีก 1 เสียงครับ"

    "เก๊ เนื่องจาก ข้อมูล กับ ชิ้นงาน ที่ท่าน Peet กล่าวอ้างนั้น"

    ไม่สอดคล้อง ทั้ง สภาพเเวดล้อม กาลเวลา กับวัตถุชิ้นนั้นฯ

    ผมจึงบอก วิงวอน ขอร้องให้ท่าน Peet ถ่ายรูปให้ชัด ทุกสัดส่วน

    ไม่งั้น จะกลายเป็นการทำให้ท่าน Peet เสียโอกาส และชื่อเสียงได้

    เพียงเพราะ ภาพไม่ชัดพอที่จะนำมาชั้ชัด ว่า เก๊ หรือ แท้ ได้

    อย่าไป อคติ กับเรื่องค้าขายหรือไม่ขายเลยครับท่าน Peet

    เขามีกันมานานเเล้ว ก่อน ท่าน หรือ ผมเกิดซะอีก คิดซะว่า ถ่ายรูปสวยฯ

    ไว้ ชื่นชมเอง หรือ เล่าให้ลูกฯหลานฟังพร้อมรูปประกอบ ก็ไม่เลวนะครับ

    จะได้เห็นกันไปเลย ในยุคของเรานี่ล่ะ ว่า เก๊อุโลก หรือ แท้ กันแน่
     
  12. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467

    อย่างที่ผมได้คาดการณ์ไว้ ตั้งแต่ 3 ปี ที่แล้วว่า
    จะมี นิยายหลอกขายพระเวอร์ชั้นใหม่ ออกมาอีก
    แล้วก็มี เวอร์ชั่นที่ 2 ออกมาจริงๆ ตามความคาดหมาย

    -----------------------------------

    แบบว่า ต้องไปเขียนนิยายเรื่องใหม่ เลยอะครับ

    --------------------------------------

    แล้ว พสมช ทุกท่าน คิดเหมือนผมไหมครับ ว่า

    ต่อไปก็จะมี นิยายหลอกขายพระ เวอร์ชั่นที่ 3 ตามมา
    ว่า พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต แตกกรุเมื่อปี พ.ศ.2423-2424 เมื่อคราวบูรณวัดพระแก้วเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี พ.ศ.2425 สมัยรัชกาลที่ 5

    และ

    ต่อไปอีกก็จะมี นิยายหลอกขายพระ เวอร์ชั่นที่ 4 ออกมา
    ว่า พระสมเด็จกรุวัดพระแก้วมรกต แตกกรุเมื่อปี พ.ศ.2473-2474 เมื่อคราวบูรณวัดพระแก้วเพื่อฉลองครบรอบ 150 ปี พ.ศ. 2475 สมัยรัชกาลที่ 7

    เพราะ การบูรณวัดพระแก้วมรกต 2 ครั้งนี้ ไม่มีใครจะสามารถหารูปมาโต้แย้งได้
    รอดู นิยายหลอกขายพระ เวอร์ชั่น 3 กับ เวอร์ชั่น 4 ที่จะมีต่อไปอีกล่ะกัน ครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  13. thachapol

    thachapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    2,138
    ค่าพลัง:
    +1,903
    พระรูปหล่อ พระกริ่ง พระเนื้อผง มีเป็นแสนๆถึงล้านองค์น้ำหนักรวมกันต้องหนักเป็นหลายตันแน่ ยิ่งรูปหล่อเป็นเนื้อทองคำน้ำหนักจะยิ่งมาก เนื้อเนาวโลหะน้ำหนักก็มาก เอาขึ้นไปแอบซุกไว้บนฝ้าเพดานโบสถ์ ไม่คิดว่ามันจะถล่มลงทับหัวเลยหรือ ผมขอบอกคุณมะโนโอ้อวดก่อนจะเขียนอะไรขอให้ตั้งสติดีๆ คุณบอกว่ารูปหล่อลอยองค์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯตอกเลข พ.ศ 2411 พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศเป็นผู้สร้างนั้น คุณมีหลักฐานอะไรเอามาแสดงสิ
     
  14. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    ถ้าบอกชื่อเสียงเสียงเรียงนามได้ขนาดนั้นก็จ้องมีหลักฐาน..จิงของท่านจั่วน้อย..แล้วพระเป็นแสนองค์จะไม่มีบ้างเชียวหรือ..ว่าฝังตรงไหน..แตกอย่างไร.หายตอนไหน..มันต้องมีคนเขียนถึงบ้างละเอานะ..ขนาดพระ.ร่วงรางปืนสุโขทัยขึ้นไม่ถึง.ร้อยองค์ได้มั่งยังมีทีมาทีไป.เสนห์จันทร์มีบันทึก..นี้เป็นแสนอะ..เซียนพระไปมุดอยุ่ไหยไม่ไปบุกเลย.กรุคอกควาย.ไหเดียวยังมีที่มาที่ไป


    รุ้จักไอ้เข้เกยชัยมั่ย..ยังมีหลักฐานเลยยยสมัย.ไหนเอ้าาา..

    นี้มีแต่ว่าลักไปลักไป..เฮ้ออออ

    แต่อย่างว่าแหล่ะขนาดพุทธคุณยังจับพลังได้..นับประสาอะไรกับจะนั่งทางในจุดเทียนหาชื่อไม่ได้..
     
  15. เฉาก้วย

    เฉาก้วย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ติดตามศึกษาด้วยคนครับอย่างกับ CSI : Thailand เลย อิอิ
     
  16. Peet

    Peet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +324
    pmorn ผมขอให้แย้งในประเด็นที่ผมยกมา เรื่องอื่นไม่ต้องไปเบี่ยงเบน จะไปอ้างนักเขียนคอลัมถ์ในหนังสือพิมพ์มันก็ไม่มีน้ำหนักอะไร พวกนักหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่เป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้มากที่สุด

    ประเด็นที่ผมหยิบยกมาเบื้องต้นมีดังนี้

    1. เลขอารบิก ผมกล่าวว่าสยามมีการใช้เลขอารบิกมาตั้งแต่สมัยอยุธยาซึ่งสยามเริ่มติดต่อกับต่างชาติแล้วโดยเฉพาะชาวเปอร์เซียซึ่งเป็นเจ้าของเลขอารบิกตัวจริง เลขอารบิกคือเลขของชาวอาหรับที่พูดภาษาอารบิก แต่นาย pmorn กล่าวอ้างว่าไทยไม่มีการใช้เลขอารบิกก่อนที่จอมพล ป.จะประกาศให้เริ่มใช้ ผมได้ยกตัวอย่างเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์มาดูแล้ว

    2. เรื่องตราพระครุฑพ่าห์ นาย pmorn ได้กล่าวอ้างว่าตรานี้ไม่มีการใช้ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๓๖ แต่ผมบอกว่าสยามมีการใช้มาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว เนื่องจากสมัยอยุธยาสยามได้รับอิทธิพลของขอมที่มีคติว่ากษัตริย์คือองค์สมมุติเทพเปรียบเสมือนพระนารายณ์อาวตารลงมาเกิด ครุฑซึ่งเป็นพาหนะของพระนารายณ์ก็เลยได้เป็นสัญญลักษณ์ขององค์กษัตริย์ด้วย

    3. เรื่องปี ๒๔๑๑ นาย pmorn กล่าวอ้างว่า พระที่มีตรา จปร และ ๒๔๑๑ เป็นของปลอมเนื่องจากตรา จปร มีการใช้ครั้งแรกในปี ๒๔๑๖ แต่ผมบอกว่า ๒๔๑๑ เป็นเพียงการบอกว่า รัชกาลที่ ๕ ทรงขึ้นครองราชในปีนี้ เหมือนกับทางยุโรปชอบใช้ปีก่อตั้งในโลโก้สัญญลักษณ์ต่างๆ ดังนั้นจึงสามารถตีความอย่างคนมีทัศนคติบวกได้ว่า พระพิมพ์องค์นี้สร้างคราวฉลองพระนามย่อ จปร ซึ่งเริ่มครองราชตั้งแต่ปี ๒๔๑๑

    ๔. ผมเปิดประเด็นเรื่องพระสมเด็จบางพิมพ์ที่ประดับเพชรพลอยว่าเป็นเพชรพลอยที่เจียรเหลี่ยมโบราณไม่สามารถหาซื้อได้ในปัจจุบัน ประเด็นนี้นาย pmorn ยังไม่ได้มีข้อมูลอะไรมาโต้แย้ง ที่ผมยกประเด็นนี้มา เนื่องจากว่ามีคนจำนวนมากเห็นพระแบบนี้แล้วตีปลอมทันที โดยมีอคติส่วนตัวซึ่งเป็นการกระทำที่คนมีปัญญาไม่ทำกัน

    ๖. ผมยกประเด็นพระสมเด็จบางพิมพ์ที่ฝังลูกปัดโบราณ ว่าพระสมเด็จแบบนี้ไม่สามารถทำเทียมในสมัยปัจจุบันได้ นาย pmorn ยังไม่แย้งอะไรเพราะคงไม่รู้อะไร

    ถ้านาย pmorn พร้อมลูกสมุนถกกันในแต่ในประเด็นก็คงจะดี มีประโยชน์แก่ผู้ติดตาม เพราะว่าผมก็ยกข้อมูลมาแย้งในสิ่งที่นาย pmorn นำเสนอมาก่อนหน้านั้น ถ้าจากจะเสวนาก็ขอให้เสวนาในฐานะของผู้มีปัญญาด้วยเถิด

    เรื่องที่ผมสัมพัสพลังพุทธคุณองค์พระได้นั้น มีบางคนว่าผมอวดอุตริ ผมจะขอใครอธิบายเรื่องนี้สักหน่อย การอวดอุตรินั้นตามบาลีเต็มคือคือ อวดอุตริมนุสธรรม หมายถึงธรรมอันยิ่งยวดพ้นวิสัยมนุษย์ปุถุชน ถ้าภิกษุไปอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน อันนี้อาบัติถึงขั้นปราชิกคือต้องสึก แต่ถ้าอวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตนอันนี้อาบัติเล็กน้อยคืออาบัติปาจิตตีย์ซึ่งสามารถปลงอาบัติได้ง่ายๆ ถ้าเป็นฆารวาสก็ไม่ได้อาบัติอะไร ผมเป็นฆารวาสสามารถบอกให้ฟังได้

    จริงแล้วเรื่องสัมผัสพลังไม่ใช่เรื่องยากคนที่เข้าสมาธิได้ก็สามารถสัมผัสพลังได้ เพราะว่าองค์พระนั้นมีพลังอยู่แล้วแค่น้อมจิตขอสัมผัสองค์พระก็รับทราบแล้ว



    ผู้มีปัญญาโปรดไตร่ตรอง
     
  17. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467
    เอาข้อความที่ผมลงไว้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มาให้อ่านกันครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2015
  18. Peet

    Peet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +324
    ประเด็นเรื่องพระกรุวัดพระแก้วถูกลักลอบขนออกมาจากวัดได้อย่างไรผมได้กล่าวเอาไว้แล้ว ว่าถูกลักลอบขนโดยนายทหารและเรื่องนี้เป็นเรื่องลับผมรู้มาจากคนที่รับซื้อมาจากนายทหารอีกทีหนึ่ง ส่วนพระจะถูกเก็บไว้ส่วนไหนของวัดพระแก้วบ้างเป็นอีกประเด็นหนึ่งเอาไว้ถกประเด็นนี้กันวันหลังเพราะมีเรื่องราวอีกมาก ขอให้นาย pmorn ตอบผมในประเด็นที่ผมแย้งมา อีกทั้งประเด็นที่ผมแย้งก็เป็นประเด็นที่นาย pmorn หยิบยกมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว

    ผมเห็นพระกรุนี้ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่บ้านของผู้รับซื้อต่อจากนายทหาร เห็นว่ามีมากล้วนแต่แต่เป็นของแปลกๆและมีความสวยงามจึงได้เช่าบูชาเอาไว้ อีกทั้งยังสัมผัสพลังพุทธคุณได้ว่าแรงจริง เรื่องแบบนี้พวกเซี้ยนตู้พระในห้างใหญ่ก็คงไม่เชื่อเพราะว่าเชื่อจากกล้อง 10 แรง 15 แรง และมีคติแบบเด็กอมมือว่าดูพระแท้ให้ดูที่ตาไม่ต้องฟังจากเสียง อืมก็ได้แค่นี้สินะ

    พระกรุวัดพระแก้วนี้ส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์เนื้อกระเบื้องอันฮุยจากจีนมีมากที่สุด รองลงมาเป็นพระเนื้อปูนเปลือกหอยผสมมวลสารแบบวัดระฆัง บางพิมพ์เป็นแบบวัดไชโย แต่ไม่มีพิมพ์แบบวัดบางขุนพรหม พระพิมพ์พิเศษแบบประดับเพชรพลอยมีไม่มาก ส่วนพระเนื้อโลหะเป็นเนื้อเนาวโลหะมากที่สุด พระเนื้อทองคำมีน้อยที่สุด ผมประเมิณคร่าวๆด้วยสายตามีไม่ต่ำกว่า 500,000 องค์ เจ้าของพระก็ไม่รู้หรอกว่ามีเท่าไร เพราะเหมาซื้อมาทั้งหมด

    ถ้าเป็นแก๊งปลอมพระขาย คงไม่มีแก๊งปลอมพระลงทุนทำพระปลอมครั้งละ 400,000, 500,000 องค์หรอก แก๊งปลอมพระก็จะทำครั้งละน้อยๆแล้วค่อยๆปล่อยออก ทำครั้งละมากๆมันก็ต้องลงทุนเยอะ ถ้าขายไม่ออกก็ขาดทุนหนัก แก๊งปลอมพระวันๆคิดแต่เรื่องอกุศลหาเงินด้วยวิธีหลอกลวงไม่มีทางที่จะลงทุนคราวละมากๆ และคงไม่ลงทุนทำพระเนื้อทองคำออกมาขาย เฉพาะที่ผมเช่าออกมาก็เกิน 500 องค์แล้วที่เป็นพระเนื้อทองคำ รวมน้ำหนักทองก็ประมาณ 1,500 บาทเข้าไปแล้ว ผมเห็นด้วยตา เป็นพยานเชิงประจักษ์และไม่ได้มีมิจฉาอาชีวะประกอบอาชีพซื้อขายพระซึ่งเป็นของสูงแล้วยังปรามาสเรื่องพลังพุทธคุณอีก
     
  19. pmorn3339

    pmorn3339 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,342
    ค่าพลัง:
    +2,467

    ตามนิยาย เวอร์ชั่นที่ 2
    ใส่รถบบรทุกออกมาจากวัดพระแก้วากกว่า 2 ล้านองค์ ครับ
    ไม่ใช่แค่ แสน หรือ ล้าน องค์




    กะว่า พอแถเสร็จ เอานิยายไปเล่าหลอกขายพระเก้ ให้คนโง่เขลาเบาปัญญา ในคราวเดียวฟัง

    นิยายเทพๆเรื่องเดียว หลอกขายพระเก้ได้ 2,000,000 องค์ รวยไปเลย

    ขนาดเอาใส่รถบรรทุกขนออกมาได้ 2 ล้านกว่าองค์แบบนี้ ต้องบรรทุกออกมากี่คันรถ และ รถคันละกี่เที่ยว
    ต้องไล่ ทหารชุด รปภ หน้าประตูวัดพระแก้วมรกต และ ประตูพระราชวัง (ไม่รู้ว่าต้องผ่านกี่ด่าน) ออกจากราชการให้หมดทุกชุดทุกนาย

    คนเชื่อ ก็เชื่อแบบงมงายจริงๆ
    ความโลภ ความโง่เขลาเบาปัญญา ของคน ทำให้คนมองเลยผ่าน หลักความเป็นจริง หลักความเป็นไปได้
    ประตูพระราชวังนะครับ ไม่ใช่ประตูห้างสรรพสินค้า
    (แม้แต่ประตูห้างสรรพสินค้า ยังมีระบบป้องกันขโมยเลยท่าน)
    แค่คิดว่า จะเอาเศษก้อนอิฐสักก้อนซุกซ่อนเอาผ่านประตูออกไป ก็หนาวแล้ว อย่าว่าแต่พระเครื่องเลย

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ตอนนั้น องค์สมเด็จพระเทพฯ นะครับ เป็นองค์ประธานการบูรณะ ใครจะกล้า
    นอกจากนี้ การบูรณะปฏิสังขรณ์ก็อยู่ในการควบคุมดูแลของกรมศิลปากร จึงไม่มีนายทหารระดับสูงมาคุมงาน
    และ หากจะคิดว่า ผ่านทหาร รปภ ออกไปได้ เพราะทหาร รปภ เฝ้าประตูพระราชวัง รับสินบน ให้เลิกคิดได้เลย

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    นายทหารยศสูง ผู้ควบคุมงาน ท่านอยู่ไหน ?????
    พระเครื่อง 2,000,0000 กว่าองค์ แตกกรุออกมาจากไหน ?????
    ใส่รถบรรทุก ขับผ่านด่านประตูพระราชวัง ออกมาได้ยังไง ?????
    ....................
    คนเชื่อ นิยาย ก็เชื่อแบบ โง่งมงาย ขลาดเขลาเบาปัญญา จริงๆ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2015
  20. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,634
    สร้างพระ 500,000 - 2,000,000 องค์ ไม่ใช่งานเล็ก ๆ
    อย่างน้อยแม่พิมพ์ที่แกะไว้ต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บล็อค ยิ่งมีหลายพิมพ์ยิ่งต้องมากกว่านี้
    วัสดุที่จะทำมวลสารกดพระต้องมีเป็น 10,000 -100,000 กระสอบ
    สถานที่ตากพระอย่างน้อยก็ 1 สนามฟุตบอล
    กระด้งตากพระอย่างน้อยต้อง 100,000 ใบ
    แรงงานคนที่กดพระอย่างน้อยต้อง 500 - 1000 คน
    ตุ่ม ไห ที่บรรจุพระลงกรุ อย่างน้อยก็ต้อง 100,000 ลูก

    สร้างพระมากขนาดนั้น ทำไมในปูมจดหมายเหตุ , พงศาวดาร ถึงไม่บันทึกไว้
    เพราะงานสร้างพระ ชักพระ อัญเชิญมาจากที่ต่าง ๆ ยังมีบันทึกไว้ในพงศาวดาร
    สร้างพระเยอะขนาดนั้นขุนนางผู้ใหญ่ก็ต้องรู้เห็น พระพิธีกรรมก็น่าจะบันทึกไว้เช่นกัน

    บล็อคพิมพ์ของพระก็น่าจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง เพราะเป็นงานใหญ่แค่

    การกดพระก็เช่นกันถ้าแค่บล็อค 2 บล็อค 10 บล็อค คงกดไม่ทัน ไม่ถึงแสน ไม่ถึงล้านองค์เป็นแน่แท้ ลองหารเฉลี่ยดู ถ้ากดวันละ 1000 องค์ 10 วัน หมื่น ร้อยวัน แสน พันวัน ล้าน ก็ราว ๆ 3 ปีเศษ ๆ ระยะสามปีนี่ต้องมีคนรู้เห็นและบันทึกไว้

    วัตถุดิบที่นำมาใช้กดพระเอามาจากแหล่งไหน ปูนหอยกี่กระสอบ กล้วยสุกกี่ล้านหวี ข้าวสุกกี่ร้อยเกวียน ครกบดมวลสารกี่ครก คนกดพระมากน้อยขนาดไหน ทำไมไม่มีคนรู้คนเห็น

    สถานที่ตากพระอยู่ไหน ผึ่งไว้กี่วันจึงจะแห้ง สถานที่เก็บก่อนบรรจุอยู่ไหน กี่โกดัง หมดลังหมดหีบหมดไหหมดตุ่มใส่พระ ไปเท่าไหร่ แตกกรุออกมาแล้วทำไมไม่มี ไห ไม่มีตุ่มใส่หลงเหลือ หีบไม้ไปไหน

    ถ้าใช้ลังไม้ กำหนดขนาดให้ สมเด็จกว้าง 3 ซม.ยาว 5 ซม. หนา ครึ่งเซ็นต์ 1 ลังบรรจุได้เท่าไหร่ ถ้า 1 ลัง หมื่นองค์ 10 ลังแสน 100 ลังล้าน ขนาดลังจะกว้างยาวเท่าไหร่ ห้องกรุจะกว้างยาวเท่าไหร่ ถ้าไว้เพดานโบสถ์ 1 ลังน้ำหนักเท่าไหร่ ความสูงจากเพดานถึงหลังคาโบสถ์พอบรรจุไหม คานทานน้ำหนักได้หรือไม่

    ถ้าเป็นเนื้อโลหะ จะเอาโลหะมาจากไหนทั้ง ทองแดง ดีบุก สัมฤทธิ์ ทองเหลือง ทองคำ ฯลฯ ยิ่งช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นไปถึงตอนกลาง ทำศึกกับพม่าบ่อยครั้ง โลหะหายาก
    หากวังหน้าสะสมโลหะไปทำพระ อาจถูกข้อหาเตรียมก่อการกบถเอาโลหะไปทำอาวุธ

    ถึงแม้ว่าจะเป็นวังหน้าก็ตาม หากสร้างพระจำนวนมโหฬารขนาดนี้ อารักษ์หลวงทั้งวังหน้า วังหลัง ก็น่าจะรู้น่าจะเห็นน่าจะมีบันทึกเอาไว้บ้าง เอกสารอยู่ไหน

    แค่สร้างตามคติโบราณให้เท่ากับพระธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์ในยุคนั้น ขนาดวัดหลวงบางวัดยังสร้างได้ไม่ครบเลย แค่สร้างและกดให้ทันตามฤกษ์ยามที่กำหนด 50-100องค์ก็เต็มที่แล้ว ไม่ใช่งานOTOP ที่จะมี OT ผลิตกันทั้งวันทั้งคืนโดยใช้เครื่องจักรเหมือนยุคปัจจุบัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...