โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

47=1234

 

วันเปิดประมูล 14 ธ.ค. ชุดที่4 รายการที่ 46-60

ปิดประมูล วันที่ 15 ธ.ค.

รายการที่ 46-50 ปิดประมูลเวลา 20.30น.

รายการที่ 51-55 ปิดประมูลเวลา 21.00น.

รายการที่ 56-60 ปิดประมูลเวลา 21.30น.


รายการที่46. เหรียญพระอุปคุตจิ๋ว(ชนะมาร) เนื้อทองเหลือง คุณนสิทธิ 1,000 บาท

รายการที่47. เหรียญรูปไข่รุ่น3 หลวงปู่พิศดู คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่48. เหรียญหน้ากากพระอุปคุต สร้างเพียง1องค์ คุณนสิทธิ 17,000 บาท

รายการที่49.ล็อกเก็ตพระอุปคุตมหาลาภ คุณเอก-ชัย 3,100 บาท

รายการที่50.พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู คุณหอยสังข์ 2,800 บาท

รายการที่51. ผ้ายันต์ปั๊มมือ ครูบากฤษดา ซ้าย-ขวา คุณธรรมอิสระ 1,000 บาท

รายการที่52. เหรียญพระอุปคุต เนื้อตะกั่วไม่ตัดปีก คุณxxx_Udomsak 4,000 บาท

รายการที่53. เบี้ยแก้ รุ่นเศรษฐีแก้จน หลวงปู่ท่อน คุณmelonn 3,500 บาท

รายการที่54. พระปัจเจกเนื้อผง-เชือกข้อมือ(หลวงปู่อธิษฐานจิต) คุณเบเบ้ 678 บาท

รายการที่55. ตะกรุดฝนแสนห่า หลวงปู่พิศดู คุณhommaung 5,000 บาท

รายการที่56. เม็ดยาจินดามณี(เม็ดใหญ่)-แหวนนาคบาศ คุณเอก-ชัย 5,000 บาท

รายการที่57. รูปเหมือนหินหยกก้นเงิน หลวงปู่พิศดู คุณเอก-ชัย 5,700 บาท

รายการที่58. แหวนหยก-ลูกอมผงรุ่น10ผงที่อุดล็อกเก็ตพ่อลูก(หลวงปู่อธิษฐานจิต
ทั้ง2รายการ) คุณเอก-ชัย 2,500 บาท

รายการที่59. พระบูชาหลวงปู่พิศดู วัดเขาน้ำซับ หน้าตัก 12 นิ้ว คุณกวางคำ 10,000 บาท

รายการที่60. เหรียญองค์ปฐม(ประกวดติดที่1)-หนังสือพระยอดธงเมืองจันทบุรี คุณเบเบ้ 1,789 บาท




รูปวัตถุมงคล รายการ 46-60

 

49-3,500

 

46=1234

 

ผู้ชนะประมูลงานบุญ โอนเข้าบัญชีด้านล่างครับ แล้วช่วยนำหลักฐานการโอนมาโพสในกระทู้ด้วยครับ พร้อมทั้งแจ้งที่อยู่จัดส่งในpmได้เลยครับ มีเวลาให้โอนร่วมบุญวันสุดท้าย คือวันที่ 16 ม.ค. 2558 ครับ

​

 

54=789

 

49.....4000ครับ

 

วันเปิดประมูล 14 ธ.ค. ชุดที่4 รายการที่ 46-60

ปิดประมูล วันที่ 15 ธ.ค.

รายการที่ 46-50 ปิดประมูลเวลา 20.30น.

รายการที่ 51-55 ปิดประมูลเวลา 21.00น.

รายการที่ 56-60 ปิดประมูลเวลา 21.30น.


รายการที่46. เหรียญพระอุปคุตจิ๋ว(ชนะมาร) เนื้อทองเหลือง คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่47. เหรียญรูปไข่รุ่น3 หลวงปู่พิศดู คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่48. เหรียญหน้ากากพระอุปคุต สร้างเพียง1องค์ คุณนสิทธิ 17,000 บาท

รายการที่49.ล็อกเก็ตพระอุปคุตมหาลาภ คุณtanakorn_n 4,000 บาท

รายการที่50.พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู คุณหอยสังข์ 2,800 บาท

รายการที่51. ผ้ายันต์ปั๊มมือ ครูบากฤษดา ซ้าย-ขวา คุณธรรมอิสระ 1,000 บาท

รายการที่52. เหรียญพระอุปคุต เนื้อตะกั่วไม่ตัดปีก คุณxxx_Udomsak 4,000 บาท

รายการที่53. เบี้ยแก้ รุ่นเศรษฐีแก้จน หลวงปู่ท่อน คุณmelonn 3,500 บาท

รายการที่54. พระปัจเจกเนื้อผง-เชือกข้อมือ(หลวงปู่อธิษฐานจิต) คุณเบเบ้ 789 บาท

รายการที่55. ตะกรุดฝนแสนห่า หลวงปู่พิศดู คุณhommaung 5,000 บาท

รายการที่56. เม็ดยาจินดามณี(เม็ดใหญ่)-แหวนนาคบาศ คุณเอก-ชัย 5,000 บาท

รายการที่57. รูปเหมือนหินหยกก้นเงิน หลวงปู่พิศดู คุณเอก-ชัย 5,700 บาท

รายการที่58. แหวนหยก-ลูกอมผงรุ่น10ผงที่อุดล็อกเก็ตพ่อลูก(หลวงปู่อธิษฐานจิต
ทั้ง2รายการ) คุณเอก-ชัย 2,500 บาท

รายการที่59. พระบูชาหลวงปู่พิศดู วัดเขาน้ำซับ หน้าตัก 12 นิ้ว คุณกวางคำ 10,000 บาท

รายการที่60. เหรียญองค์ปฐม(ประกวดติดที่1)-หนังสือพระยอดธงเมืองจันทบุรี คุณเบเบ้ 1,789 บาท




รูปวัตถุมงคล รายการ 46-60

 

59=11,000

 

วันเปิดประมูล 14 ธ.ค. ชุดที่4 รายการที่ 46-60

ปิดประมูล วันที่ 15 ธ.ค.

รายการที่ 46-50 ปิดประมูลเวลา 20.30น.

รายการที่ 51-55 ปิดประมูลเวลา 21.00น.

รายการที่ 56-60 ปิดประมูลเวลา 21.30น.


รายการที่46. เหรียญพระอุปคุตจิ๋ว(ชนะมาร) เนื้อทองเหลือง คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่47. เหรียญรูปไข่รุ่น3 หลวงปู่พิศดู คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่48. เหรียญหน้ากากพระอุปคุต สร้างเพียง1องค์ คุณนสิทธิ 17,000 บาท

รายการที่49.ล็อกเก็ตพระอุปคุตมหาลาภ คุณtanakorn_n 4,000 บาท

รายการที่50.พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู คุณหอยสังข์ 2,800 บาท

รายการที่51. ผ้ายันต์ปั๊มมือ ครูบากฤษดา ซ้าย-ขวา คุณธรรมอิสระ 1,000 บาท

รายการที่52. เหรียญพระอุปคุต เนื้อตะกั่วไม่ตัดปีก คุณxxx_Udomsak 4,000 บาท

รายการที่53. เบี้ยแก้ รุ่นเศรษฐีแก้จน หลวงปู่ท่อน คุณmelonn 3,500 บาท

รายการที่54. พระปัจเจกเนื้อผง-เชือกข้อมือ(หลวงปู่อธิษฐานจิต) คุณเบเบ้ 789 บาท

รายการที่55. ตะกรุดฝนแสนห่า หลวงปู่พิศดู คุณhommaung 5,000 บาท

รายการที่56. เม็ดยาจินดามณี(เม็ดใหญ่)-แหวนนาคบาศ คุณเอก-ชัย 5,000 บาท

รายการที่57. รูปเหมือนหินหยกก้นเงิน หลวงปู่พิศดู คุณเอก-ชัย 5,700 บาท

รายการที่58. แหวนหยก-ลูกอมผงรุ่น10ผงที่อุดล็อกเก็ตพ่อลูก(หลวงปู่อธิษฐานจิต
ทั้ง2รายการ) คุณเอก-ชัย 2,500 บาท

รายการที่59. พระบูชาหลวงปู่พิศดู วัดเขาน้ำซับ หน้าตัก 12 นิ้ว คุณเยาวราช2013 - 11,000 บาท

รายการที่60. เหรียญองค์ปฐม(ประกวดติดที่1)-หนังสือพระยอดธงเมืองจันทบุรี คุณเบเบ้ 1,789 บาท




รูปวัตถุมงคล รายการ 46-60

 

49 - 4200

 

50 - 3000
52 - 5000

 

วันเปิดประมูล 14 ธ.ค. ชุดที่4 รายการที่ 46-60

ปิดประมูล วันที่ 15 ธ.ค.

รายการที่ 46-50 ปิดประมูลเวลา 20.30น.

รายการที่ 51-55 ปิดประมูลเวลา 21.00น.

รายการที่ 56-60 ปิดประมูลเวลา 21.30น.


รายการที่46. เหรียญพระอุปคุตจิ๋ว(ชนะมาร) เนื้อทองเหลือง คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่47. เหรียญรูปไข่รุ่น3 หลวงปู่พิศดู คุณเบเบ้ 1,234 บาท

รายการที่48. เหรียญหน้ากากพระอุปคุต สร้างเพียง1องค์ คุณนสิทธิ 17,000 บาท

รายการที่49.ล็อกเก็ตพระอุปคุตมหาลาภ คุณแหยมla 4,200 บาท

รายการที่50.พระกสิณพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่พิศดู คุณแหยมla 3,000 บาท

รายการที่51. ผ้ายันต์ปั๊มมือ ครูบากฤษดา ซ้าย-ขวา คุณธรรมอิสระ 1,000 บาท

รายการที่52. เหรียญพระอุปคุต เนื้อตะกั่วไม่ตัดปีก คุณแหยมla 5,000 บาท

รายการที่53. เบี้ยแก้ รุ่นเศรษฐีแก้จน หลวงปู่ท่อน คุณmelonn 3,500 บาท

รายการที่54. พระปัจเจกเนื้อผง-เชือกข้อมือ(หลวงปู่อธิษฐานจิต) คุณเบเบ้ 789 บาท

รายการที่55. ตะกรุดฝนแสนห่า หลวงปู่พิศดู คุณhommaung 5,000 บาท

รายการที่56. เม็ดยาจินดามณี(เม็ดใหญ่)-แหวนนาคบาศ คุณเอก-ชัย 5,000 บาท

รายการที่57. รูปเหมือนหินหยกก้นเงิน หลวงปู่พิศดู คุณเอก-ชัย 5,700 บาท

รายการที่58. แหวนหยก-ลูกอมผงรุ่น10ผงที่อุดล็อกเก็ตพ่อลูก(หลวงปู่อธิษฐานจิต
ทั้ง2รายการ) คุณเอก-ชัย 2,500 บาท

รายการที่59. พระบูชาหลวงปู่พิศดู วัดเขาน้ำซับ หน้าตัก 12 นิ้ว คุณเยาวราช2013 - 11,000 บาท

รายการที่60. เหรียญองค์ปฐม(ประกวดติดที่1)-หนังสือพระยอดธงเมืองจันทบุรี คุณเบเบ้ 1,789 บาท




รูปวัตถุมงคล รายการ 46-60

 

รายการที่56. เม็ดยาจินดามณี(เม็ดใหญ่)-แหวนนาคบาศ

เม็ดยาจินดามณี ยังมีให้ร่วมบุญอีกเม็ดหนึ่งครับ ซึ่งก็คงจะเป็นเม็ดสุดท้าย งานหน้าอาจจะไม่มีแล้วครับ
เม็ดยาจินดามณีรายการนี้ เม็ดใหญ่เป็นพิเศษครับ น่าจะเป็นยุคแรกๆเลย
ยาจินดามณีขององค์หลวงปู่ เป็นสูตรเดียวกันกับยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วนะครับเพียงแต่อายุการสร้างต่างกัน เพราะทราบมาว่าร้านยาตำรับโบราณที่เป็นผู้หาตัวยามาทำ เป็นร้านเดียวกันกับที่หาตัวยาให้หลวงปู่บุญ ซ้ำกรรมวิธีการสร้างก็สร้างสร้างไว้คล้ายกันอีกด้วย..

ขอพูดเรื่องยาจินดามณีขององค์หลวงปู่หน่อยครับ หลวงปู่ท่านบอกว่า
" เป็นยาวิเศษ ใช้กินก็ได้ หรือไม่ต้องกินก็ได้ใช้แขวนติดตัว หรือเอาไปบูชาก็ได้.. "

ความศักดิ์สิทธิ์นี้ถึงขนาดว่า คนที่จะตายอยู่ไม่กี่วันนี้แล้ว ก็ยังรอดชีวิต ไม่ตาย หายดีวันดีคืน ไม่ว่าตะขาบป่า หรือสัตว์มีพิษต่างๆขบกัด ให้นำยานี้มาอธิษฐานแปะไว้ที่ปากแผล สามารถดูดพิษ และรักษาได้ชะงัดมาก..ฯลฯ
หรือว่าบางท่านมียานี้เม็ดเดียว เวลาเป็นโรค ไม่ต้องกินก็ได้ ให้ไปหาแพทย์ พอได้ยามาก็ให้อธิษฐานเอายาจินดามณีนี้ใส่ลงไปในถุงยา หรือว่าเอาไปวางทับยาต่างๆที่เราจะกิน นึกถึงองค์หลวงปู่พิศดู อธิษฐานให้อานานุภาพของยาจินดามณีนี้ จงแผ่อานุภาพไปทั่วถึงยาทุกเม็ดทุกอันที่เราจะกิน หากได้กินแล้วขอให้มีอานุภาพเหมือนกับเรากินยาจินดามณีนี้...

ท่านบอกว่าใช้ได้ทุกอย่างครับตามอธิษฐาน แบบฝอยท่วมหลังช้างแล..
แต่ที่แน่ๆหลวงปู่บอกว่า
" โทษหนักเท่าหนักจะถึงความตาย เบาบางผ่อนคลาย ลดน้อยถอยเอย.."

วิธีใช้ ส่วนมากแล้วนั้น เขาจะใช้ฝนกับน้ำ เพื่อกิน หรือทา แต่ถ้าจะกินหมดทั้งเม็ดแนะนำให้เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนครับ
หรือบางท่านมีของน้อย จะค่อยๆแบ่งกินทีละหน่อยก็ได้ หรือจะนำมาบดแช่น้ำมนต์ไว้ใช้ดื่มกินเรื่อยๆก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกและสถานะที่เป็นอยู่ครับ

ส่วนพระคาถาที่องค์หลวงปู่พิศดูท่านใช้สำหรับเสกยาวาสนาจินดามณีนั้นตามนี้เลยครับ..

" จินดามณีเป็นยาวาสนา เลิศล้ำโลกาในโลกแดนดิน
ผู้ใดได้กินจะสวัสโสภิณ กว่าคนทั้งหลาย
ทรัพย์สินเงินทอง มูลมองมากมาย
โทษหนักเท่าหนัก จะถึงความตาย
เบาบางผ่อนคลาย ลดน้อยถอยเอย "

ให้ระลึกถึงองค์หลวงปู่พิศดูเป็นที่สุดนะครับ

ไม่ได้ว่าจะกล่าวเกินความจริงเลยนะครับ.. ที่จะกล่าวว่า " ยาวาสนาจินดามณีขององค์หลวงปู่พิศดู เป็นสุดยอดยาที่หาผู้ทำได้เสมอเหมือนท่านได้ยากยิ่งแล้วครับในปัจจุบัน.."
ด้วยประสบการณ์ที่มีผู้เอาไปใช้ในการรักษาโรคร้ายต่างๆได้หายขาดมาแล้วหลายราย ทั้งมะเร็ง เชื้อราในสมอง เนื้องอก ตลอดถึงโรคเวรโรคกรรมที่มีเจ้ากรรมนายเวร และผีสางนางไม้เข้าสิง หรือโดนยาสั่งคุณไสยต่างๆ ก็มาหายได้เพราะกินยานี้ เป็นยาวิเศษสารพัดนึกจริงๆครับ.. หลวงปู่พิศดูเคยบอกว่า " ใครมียาจินดามณีไม่ต้องกินก็ได้ เอาไปเลี่ยมแขวนคอก็ดี เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง สามารถคุ้มครองเราได้เหมือนกับพระนั่นแหละ.. แต่ถ้าจำเป็นแล้วถึงค่อยกิน " ซึ่งเวลากินก็กินแบบประหยัดนะครับ โดยฝนกับน้ำกินทีละนิด หรือเอาไปแช่น้ำทำเป็นน้ำมนต์อาบ กิน ก็ได้ ยาตัวนี้แข็งมากครับ ไม่ค่อยละลาย จึงสามารถแช่น้ำทำเป็นน้ำมนต์ได้เลยครับ.. สาธุ

เท่าที่ทราบกันว่าเจ้าตำรับยาวาสนาจินดามณีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่มีใครทำได้เหมือนหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วเป็นแน่แท้..!!!
แต่ทว่า ครูบาอาจารย์ที่ผมนับถือที่สุดองค์หนึ่ง อยู่ทาง จ.ลำพูน ท่านเคยมากราบ และอยู่ดูแลองค์หลวงปู่พิศดูยามบั้นปลายแห่งสังขารธรรม (ผมบอกอย่างนี้หลายท่านคงจะเดาออกใช่ไหมครับว่าครูบาท่านนั้นคือใคร..) ท่านยังเคยได้รับมอบยาจินดามณีนี้จากองค์หลวงปู่ และท่านได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และมีเมตตาให้พวกเราทราบว่า.. " ยาจินดามณีของหลวงปู่พิศดูนี่ดีมากๆน่ะ.. ยาจินดามณีของหลวงปู่ท่านนี่ไม่แพ้ยาจินดามณีของหลวงปู่บุญเลยน่ะ.."
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ผมก็ได้นำยาจินดามณีของหลวงปู่พิศดู ขึ้นไปถวายให้ครูบาท่านอีก 3 เม็ด เพื่ออาจเป็นประโยชน์ในงานของท่าน หรืออาจเอาไว้ช่วยเหลือลูกศิษย์ต่อไป ครูบาท่านยังได้บอกอีกว่า.. " ยาจินดามณีของหลวงปู่พิศดูนี่ดีมากๆเลยน่ะ ไม่แพ้ของหลวงปู่บุญเลยน่ะ.." เรื่องนี้หลายคนได้ยินแบบนั้นครับ สาธุ ของครูบาอาจารย์เราก็ไม่เป็นสองรองใครหรอกครับผม.. สาธุ

และอยากจะบอกดังๆอีกว่า ผมทราบมาว่า.. " ยาจินดามณีที่มีผู้มอบถวายให้มาร่วมบุญ มีเหลือเพียงเท่านี้เองครับ อาจจะไม่มีอีกแล้วในงานประมูลครั้งต่อไป เพราะว่ายาชุดนี้หายากมาก ลูกศิษย์ที่มีต่างหวงแหนกันยิ่งกว่าพระเครื่องของท่านเสียอีก..!!! ครับผม.. "

 

รายการที่53. เบี้ยแก้ รุ่นเศรษฐีแก้จน หลวงปู่ท่อน

ประวัติการสร้าง เบี้ยแก้เศรษฐี องค์หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วัดศรีอภัยวัน จ.เลย ซึ่งเป็นเบี้ยแก้รุ่นแรก ของท่านในครั้งนี้

หลวงปู่ท่อนท่านบอกว่า เบี้ยแก้ เขาใช้แก้ และป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ป้องกันไข้ป่า และใช้ดูดพิษ รักษาการบาดเจ็บจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ โดยเอาเบี้ยแก้ตรงที่เป็นตะกั่วนี้มาถูๆรอบๆตรงที่เป็นนั่น ไอปรอทที่อยู่ข้างในจะช่วยรักษาได้..
แต่เบี้ยชุดนี้นอกจากจะดีอย่างที่หลวงปู่ท่านบอกแล้ว หลวงปู่ท่านตั้งใจลงพุทธคุณให้ดีทาง เมตตา แก้จน แก้ฝืดเคืองอีกด้วย อย่างนี้ก็แสดงว่า ครบเครื่องที่สุดแล้วละครับ

ตัวเบี้ย ปรอท มวลสาร ที่นำมาทำเบี้ยแก้ชุดนี้ หลวงปู่พิศดูท่านอธิษฐานจิตไว้ตั้งแต่ยังทรงขันธ์อยู่ ซึ่งเป็นชุดเบี้ยที่ตั้งใจจะสร้างถวายให้หลวงปู่พิศดู รุ่น 3 แต่ยังไม่ได้สร้าง ตัวเบี้ยมีอยู่ประมาณ 200 ตัวเศษ ต่อมาจึงนำมา สร้างถวายเป็นเบี้ยแก้รุ่นแรกของหลวงปู่ท่อนได้ 201 ลูกครับ ส่วนตัวเบี้ยตัวโตหน่อย นำมาสร้างเป็นเบี้ยครู ด้านหลังบรรจุเหรียญเม็ดแตงรุ่นแรกของหลวงปู่ท่อน สำหรับแจกคณะกรรมการ และครูบาอาจารย์อีก 19 ลูก รวมเบี้ยที่จัดสร้างมีทั้งหมด 220 ลูกครับ

ส่วนรายละเอียดการจัดสร้าง มวลสาร และสิ่งมงคลต่างๆ ที่ใช้บรรจุในตัวเบี้ย ฯลฯ ผมจะมาเขียนให้ศึกษากันอีกต่อไปครับ


กรรมวิธีการสร้างเบี้ยแก้ ของสายหลวงปู่พิศดู ที่ออกในนามหลวงปู่ท่อน

กรรมวิธีสร้างเบี้ยแก้ของสายหลวงปู่พิศูนั้นได้ประยุคกรรมวิธีการสร้างจากเดิมๆให้สลับซับซ้อนขึ้นไปอีกเพื่อให้คงความเข้มขลังในด้านของธาตุศักดิ์สิทธิ์ และกรรมวิธีแบบพิศดาร ด้วยความเชื่อว่าจะเป็นการเสริมพลังอานุภาพให้สูงยิ่งๆขึ้น โดยได้บรรจุมวลสารพุทธคุณที่ได้จากหลายๆที่ ลงไปในตัวเบี้ยด้วย พร้อมทั้งแร่ธาตุสำคัญๆ เช่น จ้าวน้ำเงิน แร่เกาะล้าน เหล็กน้ำพี้ เหล็กเปียก เหล็กละลายตัว แร่บางไผ่ แร่เขาเจ้าหลาว ปรอทดำของหลวงปู่หมุน เมฆพัตร... ฯลฯ

ปรอท ปรอทธรรมชาติได้มีลูกศิษย์ดักมาถวายหลวงปู่เพื่อสร้างเบี้ยแก้ และรวมกับปรอทของครูบาอาจารย์ต่างๆ อาทิ หลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรเพชรบูรณ์ , หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว , หลวงปู่แช่ม วัดบ่อพุ , หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน , หลวงปู่หลวง กตปุญโญ , หลวงปู่เสียน วัดมะนาวหวาน , หลวงปู่เรือง เขาสามยอด , หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร ..ฯลฯ ปรอททั้งหมดนำมาผสมรวมกัน และเลี้ยงไว้ด้วยแผ่นทองคำแท้ เพื่อให้ปรอทได้จับทอง หรือกินทองคำนั้นเอาไว้ และปรอททั้งหลายนี้ หลวงปู่พิศดูได้เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นพิเศษ ตามกรรมวิธีที่ไม่เหมือนใคร..

ส่วนชันโรง ได้หามาจาก จ.อุบลราชธานี(เมืองดอกบัว) และประเทศลาว โดยได้ชันโรงตามลักษณะอาถรรพ์ถึง 3 ประการคือ
1.ชันโรงใต้ดินพื้นราบ (เพียงดิน)
2.ชันโรงใต้จอมปลวก
3.ชันโรงใต้ดินที่อยู่กลางนา
ทั้งหมดนี้ได้ปั้นผสมรวมกันไว้ทั้งหมด

จากนั้นนำของทั้งหมดเข้าพิธีเสกจากหลวงปู่พิศดูก่อน เพื่อให้กระแสธรรมของท่านเข้าสถิตเพื่อ ปรับ สิ่งที่อาจไม่เป็นมงคล ที่ติดมากับแร่ธาตุต่างๆได้ แล้วจึงนำมาสร้างตามกรรมวิธีต่างๆต่อไป
กรรมวิธีที่ทำนั้นต้องขอบอกว่าบางอย่างได้ปรับประยุควิธีการเข้าไปอีก แต่ยังคงลักษณะวิธีการของครูบาอาจารย์ดั้งเดิมไว้อยู่ เพื่อเพิ่มความพิเศษหลากหลายเข้าไว้ในเบี้ยแก้ชุดนี้ กล่าวคือ..

- หลวงปู่พิศดูได้เมตตาให้นำหอยเบี้ยไปแช่น้ำในลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัด และให้นำปรอททั้งหลายนี้ไปแช่ในสระมรกตที่อยู่ข้างกุฏิของหลวงปู่ ทั้งหมดนี้ได้กำหนดให้ทำในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (ลอยกระทง) ตลอดราตรี จนถึงรุ่งอรุณ และได้นำมาแช่น้ำพระพุทธมนต์จากที่ต่างๆ เพื่อรับกระแสพลังธาตุจาก น้ำ และ ดิน อีกนัยหนึ่งมีพระท่านผู้รู้ ท่านบอกมาว่าการนำไปแช่ในน้ำที่ไหลผ่านจะเป็นการล้างสิ่งที่ไม่ดีออกด้วย และเป็นการเพิ่มหรือซับพลังธรรมชาติเข้าไว้ในนั้นด้วย

- นำของที่จะทำทั้งหมดมาถวายให้หลวงปู่ท่านเสกเป็นวาระแรก ก่อนที่จะนำไปสร้างเป็นเบี้ยแก้ต่อไป...
แต่หากเบี้ยแก้ที่ออกในนามหลวงปู่ท่อนนั้น องค์หลวงปู่พิศดูท่านได้อธิษฐานจิตเปลือกหอยเบี้ย ปรอท และมวลสารต่างๆให้อีกหลายวาระ รวมถึงเข้าพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตครั้งสุดท้าย ในปี 2553 ด้วย และได้เก็บรักษาไว้ เพื่อเตรียมทำเบี้ยแก้รุ่นต่อไป ซึ่งในระหว่างนี้ ทางคณะศิษย์ผู้สร้างได้นำปรอท อันเป็นหัวใจสำคัญของเบี้ยแก้ ไปเข้าพิธีพุทธาภิเษก และให้ครูบาอาจารย์ต่างๆเมตตาอธิษฐานจิตพร้อมๆกับวัตถุมงคลที่ได้จัดสร้าง และที่ได้มีโอกาสไปกราบทำบุญกับพ่อแม่ครูอาจารย์อีกหลายต่อหลายองค์ และได้ขอให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตพร้อมกับวัตถุมงคลต่างๆที่ได้สะสมกันมา รวมแล้วกว่า 50 พิธี หากนับคร่าวๆแล้ว พระคณาจารย์ที่เมตตาอธิษฐานปรอทดังกล่าวนี้จะมีมากกว่า 100 รูปเลยทีเดียว...

- จากนั้นจึงได้นำสิ่งมงคลทั้งหลายมาบรรจุเข้า ตามกรรมวิธีการสร้างเบี้ยแก้ตำหรับของ หลวงปู่รอด วัดนายโรง ต่อไป...
ซึ่งกรรมวิธีการทำเบี้ยแก้ตำหรับของหลวงปู่รอด วัดนายโรง ที่เกือบจะเป็นความลับที่หลายท่านไม่เคยทราบมาก่อน หลวงปู่แช่ม วัดบ่อพุ(ละสังขารไปแล้ว) ลูกศิษย์สายวัดนายโรงอีกรูปหนึ่ง และเป็นศิษย์ผู้น้องของหลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง ท่านได้เมตตาถ่ายทอดเคล็ดลับบางอย่างว่า " เบี้ยแก้สำนักนี้ถ้าจะให้สมบูรณ์แบบจริงๆ จะต้องหา ตาลปัตรใบลานเก่า ที่พระท่านเคยใช้สวดให้ศีลให้พรมาก่อน นำมาทำตะกรุดปิดปากเบี้ย "อาจจะเนื่องมาจากคำว่า ตาลปัตร(ปัด) หรือ ปัตร(ปัด) จะได้ช่วยปัดสิ่งไม่ดี หรือปัญหาอุปสรรคให้ผ่านไป... ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้เบี้ยแก้ตำหรับของวัดนายโรงจึงมีความแตกต่างจากเบี้ยแก้ของสำนักอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบันการจะหาตาลปัตรใบลานเก่าดูจะเป็นของยุ่งยากมิใช่น้อย ซึ่งคงต้องไปหาตามวัดแถบภาคเหนือ เพราะที่นั่นยังพอจะมีการใช้ตาลปัดใบลานกันอยู่ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทางคณะผู้จัดสร้างคิดหนักกันมิใช่น้อย ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะหาตาลปัดใบลานใหม่ๆ แล้วนำไปถวายพระให้ท่านได้ใช้สักชั่วคราว แล้วจะขออนุญาติทำบุญต่อมาเพื่อนำมาทำตะกรุดปิดปากเบี้ย แต่ก็คิดว่าจะมักง่ายเกินไป.. แต่ก็เหมือนเดชะบารมีของครูบาอาจารย์ท่านจริงๆ กล่าวคือ ในระหว่างที่กำลังหาตาลปัดใบลานเก่าอยู่นั้น ก้ได้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ท่อนคนหนึ่ง ไปทำบุญที่วัดบ้านปง จ.เชียงใหม่ ก็ได้มีโอกาสสนทนากับท่านครูบาเกตุ ลูกศิษย์ของ หลวงปู่ครูบาน้อย(หน้อย) อดีตพระอริยเกจิอาจารย์เชื่อดัง ของเมืองเชียงใหม่ ว่ามีความตั้งใจจะหาตาลปัดใบลานเก่า ไปสร้างเบี้ยแก้ให้หลวงปู่ท่อน ท่านครูบาเกตุพิจจารณาอยู่สักครู่หนึ่ง จึงเอ่ยปากบอกว่า " มีตาลปัดเก่า ของครูบาหน้อย อยู่ 2 อัน ตาลปัตรนี้ เป็นของที่หลวงปู่ครูบาหน้อย วัดบ้านปงใช้มานานมาก เวลาไปไหนท่านก็จะติดไปด้วย ผ่านการให้ศีลให้พรญาติโยมมาแล้วหลายปี และทางวัดยังเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี อาตมาขอมอบให้ไปทำวัตถุมงคลถวายหลวงปู่ท่อน 1 อัน..." นั่น..ได้มาทั้งทีกลายเป็นของดีมากเลยครับ เพราะว่าหลวงปู่ครูบาหน้อยนั้น ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ดวงประทีปดวงหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ และยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และเกียรติคุณมากมาย ใครศึกษาสายนี้ก็คงรู้จักกันดีนะครับ..

ท่านพระอาจารย์หนึ่ง แห่งสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ ท่านเป็นผู้หาปรอทป่าธรรมชาติ ปรอทบ้าน และมวลสารหลายอย่าง มาผสมให้สร้างเบี้ยแก้ถวายองค์หลวงปู่พิศดูตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบันนี้..
ชันโรงที่นำมาสร้างเบี้ยแก้นั้น เป็นชันโรงใต้ดิน ชันโรงใต้จอมปลวก ชันโรงกลางนา มาผสมกัน ที่มีอยู่ในเมืองไทย และที่อยู่ประเทศลาว โดยต้องจ้างพวกชาวบ้านขุด และเลือกเอาเฉพาะชันโรงที่ทำรังอยู่ใต้ดินเท่านั้น..

ครูบาเกตุ วัดบ้านปง และคุณอั๋น ลูกศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่ท่อน ที่มอบมวลสารต่างๆของหลวงปู่ท่อน ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ท่อน ชาญหมากหลวงปู่ท่อน ยาวาสนาจินดามณีของหลวงปู่เพิ่ม และพระอาจารย์ใบ วัดกลางบางแก้วจำนวนหลายสิบเม็ด รวมถึงตาลปัดใบลานเก่า ของพระอริยสงฆ์ทางภาคเหนือ เพื่อนำมาใช้ทำตะกรุดสำหรับปิดปากเบี้ยตามตำหรับของวัดนายโรง และยังเป็นผู้นำเบี้ยแก้ชุดนี้ไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกได้อย่างอลังการเป็นที่สุด..

ท่าน อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์ เฮียบ๊อบ พี่อั๋น และลูกศิษย์ใน สายหลวงปู่ดู่ สายสมเด็จลุน หลวงปู่คำพันธ์ ญาท่านสวน และครูบาอาจารย์สายอีสานอีกหลายท่าน ท่านเหล่านั้นได้มอบมวลสารสำคัญของแต่ละท่านนั้นมาให้เพื่อสร้างวัตถุมงคลต่างๆ..

คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่พิศดู ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์กลาง ศิษย์ใหม่ ที่มอบมวลสารสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงปู่พิศดู และที่ใช้สร้างวัตถุมงคลทุกรุ่นขององค์หลวงปู่ โดยเฉพาะผงตะไบพระกริ่งธัมมะจารี ผงที่ใช้สร้างพระผง และอุดล็อกเก็ตทุกรุ่นขององค์หลวงปู่..

คณะศิษย์ผู้ที่หลวงปู่พิศดูได้มอบหมายให้สร้างเบี้ยถวายตั้งแต่รุ่นแรก รุ่น2 เรื่อยมาจนถึงรุ่นปัจจุบันนี้ ที่เป็นผู้เก็บรักษาหอยเบี้ย และชนวน-มวลสารที่ทันองค์หลวงปู่พิศดูไว้ และคณะศิษย์หลวงปู่ท่อน เพื่อรอโอกาสสำคัญแบบนี้ จึงได้ปรึกษากัน และร่วมกันจัดสร้างเบี้ยแก้เพื่องานบุญดังกล่าว..

โค๊ดที่ใช้ตอกเบี้ยแก้หลวงปู่พิศดู+หลวงปู่ท่อน ชุดนี้มีดังนี้ครับ

โค๊ดอักษรจีนซ้ายขวานั้น อ่านว่า เฮง , เฮง ครับ ไม้ต้องบอกก็คงรู้กันนะครับว่าแปลว่าอะไร อักษรจีนนี้ หลวงปู่ท่อนท่านชอบใช้เขียนเจิมให้ลูกศิษย์บ่อยๆครับ

ส่วนโค๊ดตัวกลางด้านล่างเป็นโค๊ดลายมือ อ่านว่า รุ่นแรก

ส่วนโค๊ดตัวกลางถัดขึ้นไปนั้น เป็นสัญลักษณ์ว่า ท.85 ซึ่งย่อมาจาก..
ท.= ท่อน
85 = อายุของหลวงปู่ท่อนครบ 85 ปี

ส่วนโค๊ด ยอดทั้ง 3 ยอดตัวบนนั้น เป็นโค๊ด นะเศรษฐี ซึ่งเป็นยันต์ที่หลวงปู่ท่อนมักจะใช้ลงให้ลูกศิษย์ชองท่านเสมอ มีพุทธคุณทางโชคลาภมากครับ


พิธีการพุทธาภิเษก และอธิษฐานเบี้ยแก้ชุดนี้ นอกจากจะเป็นหอยเบี้ย ปรอท และมวลสารต่างที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากองค์หลวงปู่พิศดูมาอย่างดีแล้ว.. เมื่อจัดสร้างเบี้ยแก้ตามกรรมวิธีตามสูตรหลวงปู่รอด วัดนายโรงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไม่รับความเมตาจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ยอดพระอริยสงฆ์เพชรน้ำหนึ่งแห่งอีสานอธิษฐานจิตเป็นกรณีพิเศษอีกหลายวัน หลายวาระ..
- หลวงปู่ท่อนท่านอธิฐาน เดี่ยวหลายวัน และอีกหลายวาระ
- พิธีพุทธาภิเษกพร้อมเหรียญรูปเหมือนรุ่นเศรษฐี องค์หลวงปู่ท่อน ที่จะมอบให้
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญสร้างพระมหาเจดีย์ พิธีได้ทำในพระอุโบสถ
มีพระอริยสงฆ์สายองค์หลวงปู่มั่น มารับร้อยๆองค์ หลังจากนั้นหลวงปู่ท่อนได้อธิษฐานจิตเดี่ยวอีกถึง 3 วัน ก่อนจะนำมาให้ร่วมบุญสร้างผอบทองคำ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อประดิษฐานในพระมหาเจดีย์ของวัดศรีอภัยวันต่อไปครับ.. สาธุ

 

เบี้ยแก่รุ่นแรก หลวงปู่ท่อน (หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิต เปลือกหอย ปรอท และมวลสารเอาไว้ให้)

​

 

รายการที่55. ตะกรุดฝนแสนห่า หลวงปู่พิศดู

ตะกรุดฝนแสนห่า ตะกรุดฝนแสนห่านี้ สร้างเป็นการเฉพาะโดยลูกศิษย์ชุดดูแลอุปัฏฐากครับ เพื่อไว้ใช้กันเอง สร้างได้เพียง 10 ดอก ไม่ได้ออกเป็นทางการแต่อย่างใด.. จะว่าไปก็พอดีได้ตำรากันมาเลยขออนุญาตองค์หลวงปู่สร้างน่ะครับ ขนาดยาวประมาณ 3 นิ้ว
แผ่นตะกรุดชุดนี้เป็นแบบ 3 กษัตริย์ครับ มีแผ่นตะกั่วนม ทองแดง ทองเหลือง โดยลงจารอักขระเลขยันต์ต่างๆตามตำรา ทั้งหน้า-หลัง ทั้ง 3 แผ่น โดยใช้เหล็กจารขององค์หลวงปู่พิศดูครับ (แต่ลูกศิษย์เป็นผู้ลงแทน) โดยประกอบพิธีลงจารในพระเจดีย์เล็กหน้ากุฏิหลวงปู่ครับ โดยดูฤกษ์ยามที่ดี เมื่อจารเสร็จก็แช่น้ำมนต์ไว้ และจึงนำไปขอให้หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตรอบหนึ่งก่อน อยู่กับหลวงปู่ประมาณ 3 เดือนเต็ม ซึ่งการทำในแต่ละขั้นตอน ก็อยู่ในข่ายญาณขององค์หลวงปู่ท่านตลอดครับ..
จากนั้นรอถึงฤกษ์ดีๆเพื่อม้วนกรึง จากนั้นก็ทำการถักเชือก ลงรักคลุกคลีด้วยผงวิเศษต่างๆ เช่น ผงกสิณ ผงพุทธมงคล ชาญหมาก ผงยาจินดามณี ผงใบไม้รู้นอน 7 ชนิด และผงพุทธคุณต่างๆขององค์หลวงปู่ แล้วทำการลงรักปิดทองอีกชั้นหนึ่ง จึงนำไปฝากขอเมตตาจากองค์หลวงปู่เมตตาอธิษฐานให้อีกอย่างน้อย 3 เดือน (ได้เข้าพิธีเสกพร้อมกับเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรก) จึงได้นำมาแจกจ่ายกันไปบูชาติดตัว
ที่เรียกว่าตะกรุดฝนแสนห่านั้น ก็เนื่องมาจากยันต์ใหญ่ที่ใช้ลงตะกรุดชุดนี้ คือยันต์ฝนแสนห่า ซึ่งมีอานุภาพในเรื่องแคล้วคลาดสูงมาก แต่ก็ได้คัดสรรนำพระยันต์อื่นๆมาลงไว้ในตะกรุดชุดนี้อย่างมากมายทั้งด้านหน้า-ด้านหลังทุกแผ่น โดยเฉพาะอักขระพระคาถาวันโลกดับ(ทิตะทิรา...) คาถาป้องกันภัยขององค์หลวงปู่ ฯลฯ...
ตะกรุดชุดนี้แม้สร้างไว้เพียงไม่กี่ดอกก็จริง เนื่องด้วยกรรมวิธียุ่งยากมาก แต่ก็มีประสบการณ์เรื่องแคล้วคลาดสูง หลายต่อหลายครั้งกันแล้วครับ..

 

50=3,500
52=6,000
54=1,000
55=6,000

 

รายการที่48. เหรียญหน้ากากพระอุปคุต

หน้ากากเหรียญพระมหาอุปคุต รุ่นแรก ของหลวงปู่พิศดู เนื้อทองฝาบาตร..
หน้ากากเหรียญนี้ สร้างปี 2550 จำนวนการสร้างเพียง 1 เหรียญครับ เพราะเป็นการทดลองทำครับดู เพื่อไว้เป็นตัวอย่างเท่านั้นครับ เหรียญหน้ากากนี้ สร้างและเข้าพิธีอธิษฐานจิต พร้อมกับเหรียญพระมหาอุปคุตรุ่นแรกของวัดเทพธารทอง(อยู่ในห้องนอนหลวงปู่) ครับ
และเหรียญหน้ากากนี้ ผู้ครอบครองยังได้นำไปเข้าพิธีเสกพร้อมกับวัตถุมงคลอื่นๆของทางวัดอีกหลายพิธี.. อาทิ พิธีพุทธาภิเษกพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี พิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต พิธีพระธรรมธาตุ...ฯลฯ เรียกได้ว่าเสกมาเยอะมากๆครับ
ทางผู้ครองครองตั้งใจสละร่วมบุญประมูล จึงได้นำไปทำตลับเงินกันน้ำ ชุบทองคำขาวอย่างดี และเสริมออฟชั่นพิเศษให้อีก โดยการบรรจุเล็บ(นขาธาตุ)ขององค์หลวงปู่พิศดู ผ้าจีวร แก่นไม้ชองระอา(กันคุณไสย) ตะกรุดลงถมเนื้อชนวน และเนื้อเงิน ไว้ที่ด้านหลังองค์พระอีกด้วยครับ.. หน้ากากเหรียญองค์นี้ ตอกโค๊ดกำกับเอาไว้ด้วย และตอกเลข ๑ กำกับ เพื่อให้รู้ว่าเป็นรุ่นหนึ่ง และมีเพียงแค่หนึ่งเดียวจริงๆครับผม..
ท่านใดได้รายการนี้ นับว่าคุ้มสุดคุ้ม นอกจากจะเป็นของที่มีหนึ่งเดียวในสามโลกแล้ว ยังมีของมหามงคลที่หาได้ยาก เช่น เล็บมือของหลวงปู่อีกด้วยครับ.. สาธุ

 

​

รายการที่57. รูปเหมือนหินหยกก้นเงิน หลวงปู่พิศดู

รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู เนื้อหยกแม่น้ำโขง
ฝีมือแบบช่างชาวบ้านๆคลาสสิคไปอีกแบบครับ จัดสร้างโดยพระอาจารย์หนึ่ง เจ้าสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ สมัยที่ยังดูแลอุปัฏฐากใกล้ชิดองค์หลวงปู่ครับ สร้างจากหินหยกเขียวแม่น้ำโขง (ปฐวีธาตุ..) สร้างประมาณปี 2551 ก่อนมหาพระอุปคุตหินหยกอีกครับ จำนวนการสร้างสิบกว่าองค์เท่านั้น
และตามปกติจะไม่มีปิดฐานเงิน แต่ว่าเฉพาะองค์นี้ องค์เดียวเท่านั้น ได้นำมาเข้าพิธีเพิ่มพร้อมกับพระมหาอุปคุตหินหยกอีกวาระหนึ่ง จึงได้นำไปทำฐานเงิน และตอกโค๊ดกำกับเหมือนกับพระมหาอุปคุตหินหยกครับ

องค์นี้ผู้ครองครองได้ติดเส้นเกศาขององค์หลวงปู่พิศดูเอาไว้ที่มือ และได้นำไปทำตลับเงินกันน้ำ ชุบด้วยทองคำขาวอย่างดี และที่สำคัญใต้ฐานเงินของพระองค์นี้ ยังได้นำไปขอเมตตาท่านครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จารใต้ฐานให้อีกด้วย องค์นี้มีผู้สละเพื่อการประมูลร่วมบุญสร้างมณฑปครั้งนี้โดยเฉพาะครับ.. สาธุ

​

รูปที่ถ่ายแบบเต็มๆ ชัดๆ ก่อนติดเกศา และก่อนนำไปเลี่ยมตลับเงิน กันน้ำครับ..