เชิญบูชา...รูปหล่อหลวงตาดำ สัมผัสอภินิหารพระอภิญญาในดง แดนนิพพานเหนือโลก

รูปแบบของการอธิษฐาน

1.การอธิษฐานเพื่อขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
การตั้งจิตอธิษฐานเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น มักพบเห็นกันมากในสังคมไทยคือ แต่ละคนก็จะมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกันไป การไปอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นจุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเป็น “พลังเสริม” หรือไม่ก็ไปขอความช่วยเหลือแล้วหวังผลการอธิษฐานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นไปเลยตรงๆ โดยอาศัยพลังบุญของตนเองเป็นที่ตั้ง ยกตัวอย่างเช่นการบูชาเทวดา ผีบ้านผีเรือน ศาลเจ้า หรือแม่แต่พระสงฆ์อริยะเจ้าที่ได้ดับขันธ์ไปแล้ว โดนมีความเชื่อทางพิธีกรรมโบราณ นำมาผสมผสานกับความเชื่อของพระพุทธศาสนา แล้วตั้งคำอธิษฐานไว้ก็เป็นการขออำนาจจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาช่วยดลจิตใจให้เกิดการกระทำที่ดีและอวยพรให้ชีวิตประสบความสุขและความสำเร็จ หลักการในการอธิษฐานนั้นมีความเหมือนกันกับที่ได้อธิบายไปข้างต้นแล้วคือ จะมีการอธิษฐานก็ต่อเมื่อได้ประกอบบุญสร้างบุญแล้วต้องทำการเชื่อมบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นให้ท่านเหล่านั้นได้พลังเกื้อหนุนที่จะช่วยเหลือให้ผู้ร้องขอได้สมความปรารถนาต่อไป แต่จะได้ช้าหรือเร็วอยู่ที่บุญบารมีที่สั่งสมกันมารวมไปถึงการกระทำในปัจจุบันด้วยว่าได้ทำกรรมดีเอาไว้มากน้อยแค่ไหน
เหตุที่เราต้องไปขอพรหรือขอความช่วยเหลือนั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นเป็นภพที่อยู่สูงกว่า จึงเป็นการสมควรที่ต้องไปสักการบูชาทำความเคารพ ขอโมทนาคุณความดีของตัวท่านให้ช่วยคุ้มครองและดลใจให้เราไม่เดินทางผิดและมุ่งหน้าทำดีต่อไป และตัวผู้ขอก็ต้องมีศรัทธาที่แรงกล้ามากพอ จึงจะมีผลเชื่อมต่อถึงการกระทำที่ได้ให้สัจจะวาจาผ่านทางการอธิษฐานไป การตั้งจิตอธิษฐานเพื่อขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นับว่าเป็นตัวอย่างการอธิษฐานที่ดีแบบหนึ่ง เพราะไม่เป็นการก่อกิเลสหรือก่อบาปกรรมให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเพราะจุดประสงค์เพื่อขอพรและโมทนาบุญความดีให้แก่กันและกันและมุ่งเน้นไปสู่การปฏิบัติตนให้ดีเพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนาสมความตั้งใจเอาไว้ด้วย

2. การอธิษฐานด้วยการบนบาน
การอธิษฐานเพื่อสิ่งที่ต้องการด้วยการบนบานนั้น ความจริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของการอธิษฐานเหมือนกัน เพียงแต่ว่านอกจากเป็นการขออำนาจบารมีของผู้มีอำนาจมาช่วยแล้ว ยังมีการติดสินบนเอาไว้อีกด้วยซึ่งการบนบานนี้มีความเชื่อกันว่าหากนำสิ่งของทั้งหลายไปล่อเพื่อเป็นการตอบแทนหลังการอธิษฐานแล้ว จะยังส่งผลให้เกิดความสัมฤทธิ์ผลเร็วขึ้น สิ่งของที่มักจะนำไปบูชาหรือตอบแทนก็มักจะเป็นอาหารคาว หวาน หรือการกระทำในรูปแบบต่างๆ การฟ้อนรำ การวิ่ง หรือกิจกรรมใดๆ ที่ผู้ที่ได้มาบนมีความถนัด ซึ่งการบนบานนั้นเชื่อว่าเป็นพิธีกรรมหนึ่งที่มาจากวิชาไสยศาสตร์เสียมากกว่า โดยจะดูไปถึงนิสัยเดิมของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ที่ไปบนมีความเคารพนับถือว่า ขณะที่เป็นมนุษย์ชอบอะไรไม่ชอบอะไร เช่น ขณะที่เป็นมนุษย์ชอบรับประทานเนื้อก็มักจะเอาเนื้อสดมาบูชา หรือชอบรับประทานไข่ก็เอาไข่มาบูชา ชอบดื่มเหล้าก็จะเอาเหล้ามาบูชา หรือถ้าไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นท่านชอบอะไรก็มักจะเตรียมกันมาแบบครบเครื่องเผื่อเหลือเผื่อขาด ให้เลือกเอาได้ตามสบาย

ทั้งนี้โดยปกติแล้วภพภูมิของความเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากเป็นระดับขั้นเทพหรือเทวดาท่านจะมีทิพย์สุขอยู่แล้ว อยากได้อะไรก็มักจะนึกเอาได้ดังใจปรารถนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นขั้นเทพจึงไม่มีความจำเป็นต้องรับสินบนใดๆ เพราะหากเผลอไปรับก็อาจมีสิทธิ์ตกสวรรค์ไปได้ง่ายๆ เพราะเป็นการทำผิดกฎ เป็นการสร้างกิเลส และผลกรรมก็จะตกอยู่กับผู้ที่เอาเครื่องเซ่นไหว้นี้ไปให้ท่านด้วย ดังนั้นการเอาของมาเซ่นไหว้เช่นนี้ ตามความเป็นจริงแล้วเป็นความเชื่อเพื่อไหว้วิญญาณหรือผีที่ต่ำลงมา เช่นวิญญาณบรรพบุรุษหรือเจ้าที่ที่เคยอาศัยอยู่บริเวณนั้น ซึ่งส่วนมากแล้วก็มักจะเป็นการอธิษฐานขอโดยมีจุดประสงค์เพื่อขอให้ช่วยปกป้องคุ้มครองให้มีความปลอดภัย และการดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติและความราบรื่น การบนบานจึงมีความแตกต่างกับการอธิษฐานจิตตรงที่ต้องมีปัจจัยประกอบ การอธิษฐานโดยแท้ตามที่ได้กล่าวมาจะใช้พลังจากเหตุที่จิตของตนเองมีความบริสุทธิ์ และความปรารถนาของตนเองเป็นที่ตั้งแล้วมีการตั้งสัจจะวาจาด้วยการกระทำประกอบลงไปด้วย จึงมีสภาวะที่เหมาะสมที่จะเป็นเหตุปัจจัยให้สำเร็จตามแรงของตนเอง

อย่างไรก้อตามเรื่องการบนบานนั้นจะต้องอาศัยพลังจากปัจจัยอื่นซึ่งในนี้ก็คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตามความเชื่อของผู้ที่ได้บนบานและสิ่งที่อธิษฐานก็เชื่อว่าไม่อาจจะเป็นจริงได้ถ้าไม่ได้รับปัจจัยที่ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบในการอธิษฐานครั้งนั้นๆ ซึ่งการที่จะอธิษฐานให้ได้ผลช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับกรรมองค์ประกอบสำคัญ ไม่ได้อยู่ที่เครื่องเซ่นไหว้อามิสบูชาทั้งหลายอย่างที่เข้าใจกัน

3. การอธิษฐานเพื่อการขอขมาหรือขออภัยในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน
การอธิษฐานเพื่อการขอขมาหรือขออภัยในสิ่งที่ได้ล่วงเกินถือว่าเป็นการอโหสิกรรมอย่างหนึ่ง ในการกระทำที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ทำการล่วงละเมิดต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีความเชื่อว่าต้องการขอขมาไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุอัปมงคลหรืออันตรายทั้งหลายเข้ามาสู่ตัว การกระทำนั้นอาจกระทำด้วยความตั้งใจ ความคึกคะนอง หรือความพลั้งเผลอไม่ได้ตั้งใจก็ตาม เป็นการอธิษฐานขอขมาลาโทษเพื่อไม่ให้เกิดเวรกรรมต่อกัน การอธิษฐานเพื่อการขอขมาหรือขออภัยในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน มีความเชื่อทั้งในด้านไสยศาสตร์และพระพุทธศาสนา หากเป็นในทางไสยศาสตร์ก็จะนิยมเอาเครื่องสักการะ ของเซ่นไหว้มาทำการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ได้เผลอล่วงเกินนั้นเป็นส่วนประกอบ หากเป็นทางความเชื่อทางพุทธก็จะใช้การทำบุญทำทานสร้างกุศลและอุทิศบุญไปให้เป็นการขอขมา

เรื่องการขอขมานี้ถ้าเป็นในทางปฏิบัติ หากเป็นเรื่องของสงฆ์ในพระพุทธศาสนาแล้ว จะใช้การอยู่กรรมเป็นการชำระหนี้และขออภัยในความผิด คือนอกจากการปลงอาบัติ คือการยอมรับผิดแล้วยังต้องชดใช้การกระทำอีกด้วย เช่น หากพระภิกษุกระทำความผิดในขั้นใดก็ต้องรับการลงโทษหรืออยู่กรรมด้วยการกระทำที่สมควรแก่กรรมนั้นเพราะพระพุทธองค์ทรงเน้นถึงกฎแห่งกรรมเป็นหลัก และสอนให้กลัวบาปและผลของการกระทำบาปนั้นเอง อย่างไรก็ตามหากทีการทำผิดหรือคาดว่ามีความผิด โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ควรทำการขอขมาเสีย เพื่อช่วยปัดเป่าอุปสรรคที่จะขัดขวางให้แรงอธิษฐานนั้นไปไม่ถึง

 

สำหรับคนที่ไปบนบานหรือสาบานอะไรไว้แบบมั่วไปหมด เมื่ออยากจะได้อะไร อยากขอความช่วยเหลือ ก็เอ่ยปากบนบานหรือสาบานไปทั่วจน จำไม่ได้แล้วไม่ได้แก้หรือทำตามที่บนบานหรือสาบานเอาไว้พวกนี้ก็อย่าไป หวังเลยว่าจะมีโชคลาภร่ำรวย เพราะกรรมทางวาจาเข้าข่ายไปดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไปสาบานอะไรไว้ต่อหน้าพระอริยะสงฆ์ผู้ปฏิบัติธรรมชั้นสูงแล้วไม่ทำตาม ตัวอย่างมีมากมายที่ชีวิตนี้มีแต่อุปสรรคมาขัดขวาง ดังนั้นอะไรที่ควรได้ก็จะไม่ได้ ลาภใหญ่ที่ต้องได้ด้วยบุญที่ทำมาก็ส่งผลไม่ได้ เพราะมีกรรมหนักฝ่ายไม่ดีมาขวางเอาไว้หรือมาชิงส่งผลเสียก่อน เพราะเป็นกรรมหนักกว่าที่ต้องส่งผลก่อน หรืออาจจะได้แบบโชคลาภเล็กๆน้อยๆแทนที่จะได้รับแบบเต็มที่ ทางที่ดีที่สุด ที่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำเอาไว้ ให้ปลดล๊อคตัวเองเสียก่อน ด้วย 2 วิธีสำคัญคือ

1. การขอถอนคำอธิษฐาน-คำสาบานนั้นเสีย ซึ่งในชาตินี้อาจจะไม่เคยไปอธิษฐาน บนบานหรือสาบานอะไรไว้ เพื่อความไม่ประมาทควารทำเพื่อปลดล๊อคตัวเองเสียก่อน
2. ให้ทำตามในสิ่งที่เราไปบนบาน หรือสาบานเอาไว้ทันที หากจำไม่ได้ ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำทางแก้ไว้ให้แล้ว เป็นการแก้บนรวมที่รวมเรื่องการบนที่จำไม่ได้แล้วด้วย
วิธีการกระทำ...มีแจ้งไว้แล้วชัดเจนในหนังสือที่พิมพ์แจกเป็นธรรมทานครับ

 

เคล็ดการอธิษฐานเพื่อเปลี่ยนชีวิต

การอธิษฐานในทางพระพุทธศาสนาจะมีความเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม คือ ว่าด้วยเหตุและผลที่เป็นไปตามการกระทำเข้ามาเป็นส่วนประกอบเป็นปัจจัยสำคัญ ชาวพุทธศาสนาจะมีความเชื่อและความคุ้นเคยกับการอธิษฐาน ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า การอธิษฐานจะได้ผลก็ต่อเมื่อได้ประกอบคุณงามความดีต่างๆ ให้มากพอก่อนหรือมีการทำเหตุให้ตรงสมบูรณ์พร้อมแล้วค่อยขอพร หรือตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตั้งความปรารถนาไว้ หากมีพลังบุญเป็นปัจจัยเสริมมากพอ แรงอธิษฐานก็จะส่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ และเมื่อเหตุนั้นตรงและสมบูรณ์ ปัจจัยสมบูรณ์ ผลที่ออกมาจะสมบูรณ์ตามที่อธิฐานนั้น

ในศาสนาพุทธเชื่อว่าโชคชะตาชีวิตของคนนั้นจะดีหรือเลวจะมั่งมีหรือจน จะทุกข์หรือสุข จะผ่านอุปสรรคในชีวิตนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เทพเจ้า ดวงดาว หรืออำนาจอื่นใดทั้งสิ้นไม่มีฟ้าลิขิต มนุษย์เป็นผู้กำหนดโชคชะตาชีวิตของตัวเองด้วยการกระทำที่มาจากกาย วาจา ใจ ที่รวมเรียกว่า กรรม และมีกฎแห่งกรรมเป็นผู้ควบคุม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีใครมีอำนาจมาเบี่ยงเบนผลลัพธ์ได้ ใครทำเหตุอะไรไว้ก็ต้องได้ผลตามเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ใครทำชั่วแล้วได้ดี หรือทำดีแล้วได้ชั่วเป็นอันขาด

การอธิษฐานนั้นเป็นการสร้างพลังจิตให้เข้มแข็ง เป็นการตั้งเป้าหมาย หรือจะเรียกว่าเป็นการกำหนดเป้าหมาย ว่าเราจะทำสิ่งใดให้สำเร็จลุล่วงไป ถือเป็นเข็มทิศของจิต หากแต่จะสำเร็จหรือไม่มีองค์ประกอบสำคัญๆอยู่หนึ่งประการ คือจิตในขณะที่กำลังอธิษฐานนั้นมีกำลังหรือไม่ ดังนั้นการสร้างบุญจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอันดับหนึ่งในการอธิษฐานให้ได้ผล แต่มียังองค์ประกอบอื่นสนับสนุนอยู่อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เคยเป็นผู้ประกอบกรรมที่สนับสนุนกับการอธิษฐานนี้หรือไม่ หากมีมากก็จะอธิษฐานให้สำเร็จได้โดยง่าย หากมีน้อยก็จะสำเร็จได้โดยยาก และหากไม่มีก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จได้เลย

การอธิษฐานกับการบนบานไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ทั้งสองสิ่งนี้เป็นคนละเรื่องคนละทางกันเลย การอธิษฐานเป็นเรื่องดีในชีวิตที่ควรทำแต่การบนบานนั้นเป็นการไปติดสินบนที่ไม่ควรทำ สำหรับการอธิษฐานให้สัมฤทธิ์ผลนั้นมีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 5 ประการก็คือ
1. พลังจิตที่บริสุทธิ์สะอาด
2. บุญบารมีที่ได้ทำมาไม่ว่าจะเป็นบุญเก่าและบุญใหม่เป็นตัวเชื่อม
3. จุดประสงค์แห่งการอธิษฐาน
4. อย่าอธิษฐานให้เกินบุญของตน
5. ต้องทำเหตุให้ตรงกับสิ่งที่อธิษฐานขอไว้

ดังนั้นเมื่อทราบถึงเหตุผลและองค์ประกอบของการตั้งจิตอธิษฐานให้ได้ผลแล้ว จะเห็นได้ว่าเราไม่อาจย้อนไปแก้ไขเหตุต้นเดิม หรือจิตฐานเดิมในอดีตชาติได้ สิ่งสำคัญก็คือเราจะเรียนรู้ต่อไปว่า จิตที่มีพลังนั้นคืออะไร และจะฝึกจิตอย่างไรในปัจจุบันให้มีพลัง เพื่อเป็นพื้นฐานในการอธิษฐานที่ทรงพลังและมีอานุภาพต่อไป…………………

 

ผมได้โอนเงินแล้ว ตามสลิปแนบครับ

ส่วนที่อยู่ในการจัดส่งพระ กรุณาจัดส่งตามที่อยู่เดิมครับ

 

โอนยอดค่าส่งที่ไม่ครบครับ

 

ด้วยความเห็นใจเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่ได้จองบูชาวัตถุมงคลไว้ รวมทั้งผู้ที่มีเจตนาต้องการทำบุญกับวัดทองฯและร่วมกุศลกับหลวงพ่ออภิชิโตด้วยศรัทธาอย่างแท้จริง แต่อาจยังติดปัญหาภาระต่างๆและยังไม่คล่องตัวในก่อนกลางเดือนพฤศจิกายนนี้

ผมขออนุญาตเลื่อนการปิดชำระเงินค่าบูชา จากกำหนดเดิม (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557) เป็นสิ้นสุดการชำระเงินค่าจองบูชารูปเหมือนหลวงตาดำ อุดผงของหลวงพ่ออภิชิโต ในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2557 โดยโอนชำระเงินค่าบูชาเข้าบัญชีของวัดทั้งหมดเช่นเดิม ดังนี้

ชื่อบัญชี กองทุน สร้างกุฏิพระอภิชิโต ภิกขุ
ธนาคาร กสิกรไทย สาขา บางขุนนนท์
หมายเลขบัญชี 753 – 2 – 38758 – 7

 

วันนี้ (3/พ.ย./57) เวลา12:54น. ได้โอนเงินร่วมบุญบูชาหลวงตาดำเนื้อธรรมดา 1 องค์ เนื้อรมดำ 1 องค์ รวมจำนวน 2 องค์ เป็นจำนวนเงิน 2,080 บาท โอนเรียบร้อยแล้วครับ พร้อมแนบหลักฐานการโอนมาด้วยครับ
กรุณาส่ง นายนิธิ รัตนนาคินทร์
รอจ่ายไปรษณีย์รามอินทรา
กรุงเทพฯ 10220
ขอบคุณครับและขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญนี้ครับ

 

ผมขออนุญาติลด การบูชาจากที่จองไว้สององค์ เหลือบูชาไว้ องค์เดียวครับ
ผมขอบูชา เป็นแบบรมดำครับ
ผมโอนวันนี้ 1,080 บาทตาม สลิปที่แนบมาครับ
กรุณาจัดส่งที่
ปกรณ์เกียรติ รัถยาวงศ์
โฟร์ดี เรสซิเด้นส์ ห้อง D11
118 ถนน คฑาธร ตำบล หน้าเมือง
อ.เมือง ราชบุรี 70000

 

แจ้งโอนเงินครับ
วันนี้4/11/57 เวลา09:31:17น. ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีกองทุนสร้างกุฎิพระอภิชิโตภิกขุ เป็นจำนวนเงิน2,112บาท เป็นค่าบูชารูปหล่อหลวงปู่ดำจำนวน2องค์(ผิวธรรมดา 1องค์ ผิวรมดำ 1องค์) ที่อยู่จัดส่งผมแจ้งทางPM ไปที่พี่หนุ่มแล้วครับ

 

[FONT=&quot]เงื่อนไขการจองบูชา[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot] ปิดรับจองแล้ว.... ในวันศุกร์ที่ [/FONT][FONT=&quot]31 ตุลาคม 2557 เวลา 24.00[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ชำระเงินค่าจองบูชาทั้งหมด ภายในวันอังคารที่ [/FONT][FONT=&quot]17 พฤศจิกายน 2557 เวลา 24.00[/FONT]

[FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]ผู้ที่จองบูชาไว้ในหน้ากระทู้ จะได้รับการส่งมอบวัตถุมงคลทางพัสดุไปรษณีย์เท่านั้น งดการส่งมอบในพิธีถวายพระประธานที่วัดทองฯ เพื่อป้องกันความยุ่งยากและปัญหาต่างๆที่จะตามมา[/FONT]

[FONT=&quot] *** [/FONT][FONT=&quot]โปรดช่วยค่าจัดส่ง [/FONT][FONT=&quot]80.-บาท ทุกครั้งในการจัดส่งพัสดุ เพื่อเป็นค่ากล่องและค่าส่ง ems[/FONT]

http://palungjit.org/threads/เชิญบู...ง-แดนนิพพานเหนือโลก.539420/page-9#post9291666

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุ่มเมืองแกลง
หนังสือ 2 เล่ม พร้อมรูปหล่ออุดผง(บรรจุกล่อง 2องค์) จะใส่ลงพอดีในกล่องพัสดุขนาด ข. มีน้ำหนักชั่งได้ประมาณครึ่งกิโล รวมค่ากล่อง12บาท ค่าจัดส่งems อีก 50.บาท ค่าวัสดุกันกระแทก 6 บาท ดังนั้นหากท่านใดจองไว้เกิน2องค์และขอรับหนังสือครบตามจำนวน ก็ลองพิจารณาค่าจัดส่งพัสดุให้สักนิดครับ แต่หนังสือนี้ดีมากสำหรับคนแขวนพระและเชื่อในอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อำนาจพระพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณ แต่ยังบูชาใช้พระไม่ค่อยได้ผลมากเต็มประสิทธิภาพ เมื่อมีไว้และอ่านโดยพิจารณาอย่างรอบคอบพร้อมฝึกไปด้วยตนเองแล้ว จะพบวิธีกำหนดจิตในการอาราธนาบูชาที่ให้ผลอย่างที่ใจปรารถนา เป็นแขนงหนึ่งของวิชาทางวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ผนวกเข้าด้วยกัน

2 องค์ พร้อมหนังสือ 2เล่ม หนัก 500 กรัม ค่าส่ง ems 50.บาท
4 องค์ พร้อมหนังสือ 4เล่ม หนัก 1,000.กรัม ค่าส่ง ems 70.บาท

[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ผู้ที่โอนชำระค่าบูชาช้ากว่ากำหนด หรือขาดการโอนตามกำหนด ถือว่าสละสิทธิ์การจอง[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ผู้ที่โอนชำระค่าจองบูชาแล้ว กรุณาแสดงหลักฐานไว้หน้ากระทู้ หรือส่งสำเนาให้คุณ[/FONT][FONT=&quot]moo noi เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
[FONT=&quot] [/FONT]เพราะผมไม่สามารถตรวจสอบได้ตามปกติเช่นที่เคยทำมา[/FONT]

[FONT=&quot]***[/FONT][FONT=&quot]ค่าบูชาวัตถุมงคลและค่าจัดส่งทั้งหมด ให้โอนเข้าบัญชีของวัดทองฯ ตามรายละเอียดดังนี้[/FONT]

[FONT=&quot] ชื่อบัญชี กองทุน สร้างกุฏิพระอภิชิโต ภิกขุ[/FONT]
[FONT=&quot] ธนาคาร กสิกรไทย สาขา บางขุนนนท์[/FONT]
[FONT=&quot] หมายเลขบัญชี [/FONT][FONT=&quot]753 – 2 – 38758 – 7[/FONT]

update ยอดโอนเงินค่าบูชา ณ วันที่ 4 พ.ย. 57....

<a href="http://picture.in.th/id/6e7eb9acbeda1e70103fc754da027cbc" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ic/141104110223.jpg" alt="images by free.in.th" /></a><a href="http://picture.in.th/id/c994eaa840330c8ea1f4b94afa30250e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ig/141104110319.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ผมโอนเงินจำนวน 1,080 บาทตามรายสลิปโอนเงิน
ที่อยู่แจ้งทาง PM

 

แจ้งโอนเงิน 4,080 บาท ที่ส่งจะแจ้งใน pm ครับ ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

 

สลิปโอนเงิน

 

วันนี้โอนแล้วครับ 1080.03 บาท 04/11/2557 เวลา 17:59 น.
ที่อยู่แจ้ง pm ครับ

 

โอนให้แล้วนะครับวันนี้ 4080 บาท

ที่อยู่ในการจัดส่ง

พิภพ บุญเรือง
4/143 หมู่7 ต.บ้านสวน
อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000

04/11/14 14:47 A978B347
BBL BE 1ST CARD
7-11 KHAONOI SAPANAN-CHON
RECORD NO. 3739
TRANSFER. 4080.00
FR BBLA 7048926
TO KBNK 7532387587

 

พระพุทธประทานพร ศิริสมบัติ

องค์พระประธานที่หล่อถวายท่านอาจารย์ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ (อภิชิโตภิกขุ) เพื่อติดตั้งให้ผู้เคารพนับถือได้สักการะบูชา
ที่ศาลาท่าน้ำวัดทองฯตลิ่งชัน ขณะนี้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสององค์ เหลือเพียงในขั้นตอนการขัดผิวอีกครั้งเดียวเท่านั้น

 

เรียน พี่หนุ่มอละพี่เอม

แจ้งโอนร่วมบุญ..... วันนี้ เมื่อเช้าครับ...
จำนวน 2080.49 บาท

 

แจ้งโอนร่วมบุญ..... เมื่อวันที่4/11/57 เวลา 21.22 น.
จำนวน 1,080 บาท

 

แจ้งโอนเงินชำระเงินที่จองไว้4องค์ วันที่4/11/14เวลา 22.48 น. จำนวน4,089.99บาท

ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ