แผ่เมตตาเพื่อเขาไยเรายังทุกข์!

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย nakasamuthra, 28 กันยายน 2014.

  1. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    มองรูปน้อยดวงพักตร์สลักจิต
    อดีตย้ำตรึงติดคิดห่วงหา
    กาลเวลาผันผ่านเนิ่นนานมา
    กายจากลาไยใจรักมิหักคลาย
    ดั่งหมายว่ามารแปลงแกล้งหลอกล่อ
    ให้ทดท้อภาวนาพาห่างหาย
    คร้านต่อตีหนีพ่ายระอาอาย
    หลงเวียนว่ายบ่วงร้อยรัดประหวัดใจ​

    เช้านี้ขอเรียงร้อยถ้อยคำเป็นบทกลอนหน่อยนะคะผิดพลาดประการขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จริงแล้วก็ตั้งใจแต่งถึงใครบางคนแต่ไม่คิดโชว์ให้เขาดูเพราะด้วยความเป็นคนใจแข็งพอตัว ไม่เคยให้ใครเห็นน้ำตา ไม่ตอแยใคร ไยยังมีอารมณ์เป็นทุกข์ เราแผ่เมตตาแก่ใครเราควรมีความสุขมิใช่หรือ?

    เรื่องของเรื่องคืออิฉันแผ่เมตตาให้คน ๆ นึงที่เงียบหายกันไปแล้ว นึกชื่อนึกหน้าปุ้ปแผ่ปั้บแผ่ให้เขาบ่อยครั้งรู้สึกอิ่มเอิบเป็นสุขใจจนเห็นภาพในมโนสำนึกที่เราโอบกอดกัน มือที่เอื้อมแตะผม สภาพแวดล้อมที่อยู่ด้วยกัน กระทั่งชุดฟอร์มสีดำของเขามันแวบเข้ามาเลยทีเดียว แผ่เมตตาเพื่อเขาคนเดียวแต่แล้วก็ยังพบว่าทำไมตัวเองยังทุกข์เพราะเขา ยังโหยหาอาวรณ์ทั้งที่ในคนที่แผ่เมตตามันไม่ควรมีนิวรณ์เยี่ยงนี้มิใช่หรือ แต่ทำไมจึงมาเกิดขึ้นแก่อิฉันได้ (เพียงแต่ไม่เคยแสดงออกให้ใครรู้ให้ต้องรู้สึกอับอายเสียศักดิ์ศรีก้เท่านั้นคนอื่นที่เคยเจอเข้าใจว่าอิฉันเป็นคนหยิ่งด้วยซ้ำ) ความทุกข์ตามที่ได้รจนาอยู่ในบทกลอนนี้ค่ะ อิฉันไม่เข้าใจเลยค่ะว่าสรุปแล้วที่ตนทำอยู่โดยการแผ่เมตตาแก่เขานี้อิฉันได้รับสุขจริงหรือ? ไม่ได้ลบหลู่นะคะแต่ที่เจออยู่มันยากอธิบายจริง ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2014
  2. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    โทษนะคะคุณจขกท..อิฉันอ่านที่คุณแต่งขึ้น มาแล้วขำค่ะ หุหุ.
     
  3. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    ที่เขียนมาเป็นเรื่องจริงค่ะ คอนเฟิร์ม
     
  4. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    เป็นเรื่องจริงค่ะ
     
  5. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    ชอบกลอนที่คุณแต่งนะ ไพเราะดีความหมายดี

    ตกอยู่ในภาวะนี้เช่นกัน แล้วก็แผ่เมตตาให้ทุกครั้ง บางเวลาก็ลืมได้บางเวลาก็คิดถึงจนต้องกลั้นสะอื้นไว้ในอก ดิฉันใช้วิธีก่อนนั่งสมาธิภาวนาจะตั้งจิตอธิฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าเพื่อขอตัดกรรมไม่ดี ตัดพันธสัญญา ที่เคยทำไว้กับเขาทั้งอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ
     
  6. ดานัง

    ดานัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +110
    ขออนุญาต copy กลอนได้ไหมค่ะ
     
  7. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    แผ่ให้ตัวเอง ก่อนสิครับ
     
  8. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=sRZavHAW0Ck]วิธีตัดเวรตัดกรรม - หลวงพ่อพุธ ฐานิโย - YouTube[/ame]
     
  9. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    ได้ค่ะ ตามสบายเลย
     
  10. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
  11. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    บางครั้งอิฉันก็เป็นเช่นคุณค่ะ บ้างก็สุขบ้างก็ปวดร้าว เคยฟังเพลง "ไม่อยากให้เธอรู้" ของใหม่ เจริญปุระ ไหมคะ? บุคลิกของฉันคล้ายอย่างนั้นเลยค่ะ^^ ส่วนเรื่องกลอนเพิ่งหัดแต่งค่ะ เพราะชอบฟังบทกลอน บทขับเสภาในหนังจักร ๆ วงษ์ ๆ แต่โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องกลอนเลยค่ะ งูๆปลาๆ
     
  12. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    ขอบคุณที่เตือนสติค่ะ ข้อนี้ฉันลืมคิดไปเลยจริง ๆ มัวคิดถึงแต่การแผ่เมตตาต่อคนเพียงคนเดียว^^;
     
  13. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    สาธุ คับ
     
  14. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    ถ้าเรายังไม่แผ่เมตตาต่อตนเองก่อน การที่จะเผื่อแผ่แก่คนอื่นนั้นก็ยากที่จะเกิดผล....
    แผ่เมตตาแก่ตนเองยังไง? คือระลึกตามนี้ตอนแผ่แก่ตนเอง...
    ขอให้เราจงมีความสุข...ทางกาย-คิดว่ากายนี้เป็นของไม่เที่ยงเป็นอนิจจังมีแต่สิ่งโสโคลกไหลเข้าไหลออกทุกวัน....เราจงเห็นตามความเป็นจริงเช่นนี้ว่าร่างกายเราก็ดีของคนอื่นก็ดีสักวันหนื่งต้องแตกดับไปเป็นธรรมดา...เราจักไม่เบียดเบียนตนเองให้ได้รับทุกข์ จากอกุศลผลกรรมที่จะเกิดทางกายใดๆ...แม้ทางวาจาก็จักปฎิบัติตามกุศลบท 10....แม้ทางใจคือการปฎิบัติธรรม ให้ทาน รักษาศีล คือจักขนขวายสร้างบุญกุศลให้มากเป็นต้น....
    จงคิดเสียว่า.....
    ตัวเราต้องการสุขเกลียดทุกข์ฉันใดบุคคนอื่นก็ย่อมต้องการเช่นนั้น ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนทุข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งสิ้น....แม้ สุดท้ายเราต้องวางอุเบกขาคือวางใจเป็นกลาง ทุกสิ่งมีเกิดขื้นล้วนดับไปเป็นธรรมดา ...ปล่อยไปตามกฎแห่งกรรม..สิ่งใดที่ควรค่าแก่เราควรค้นหาอย่ารอช้า....

    อันเมตตานั้นดีแท้เหลือคนา จักนํามาชื่งวิมุตความหลุดพ้น
    การไม่เบียดเบียนตนนั้นควรทําก่อน แล้วจื่งย้อนแผ่ไปแก่เหล่าสัพ
    ให้ได้รับความสุขทุกตัวตน ทั่วแห่งหนโลกาจักรวาล
    รักษาตนให้พ้นภัยในสงสาร ตราบจนเข้านิพพานในกาลควรเทิญ....

    :VO



     
  15. nakasamuthra

    nakasamuthra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +247
    ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ
     
  16. tuti

    tuti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +285
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ คงต้องใช้เวลานะคะ

    สู้ๆ เพื่อวันที่แผ่เมตตาออกไปแล้วใจเบาสบาย ไม่รู้สึกติดค้างอะไร chearr
     
  17. ทะเล้น

    ทะเล้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +208
    เพราะคุณยังแผ่เมตตาไม่เป็นจึงยังทุกข์และทุกข์และทุกข์

    ทุกข์นั้นเพราะอะไร ในขณะที่ใจพร่ำบอกให้เขาจงเป็นสุขๆไม่มีทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีความพยาบาท อย่ามีความทุกข์กายและใจ จงมีความสุขกายและใจ
    แต่ทว่าตัวคุณนั้นเอง กลับไปมีจิตที่อยากให้อยู่เขานั้นจงกลับมาอยู่กับเราๆๆๆ มีสุขอยู่กับเราๆๆๆ ขอให้เขาไม่มีเวรแต่ขอให้เขากลับมาอยู่กลับตน ขอให้เขาปราศจากเวรภัยเบียดเบียนแต่จิตใจเราไปเบียดเบียนถวิลหาเขาหน่วงอธิษให้เขากลับมาๆๆๆๆๆๆ นี่น่ะ มันไม่มีผล ไม่มีอานิสงส์

    - ที่ผมกล่าวว่ามันไม่มีผล ไม่มีอานิสงส์ มีแต่โลภ มีแต่ราคะ มีแต่โทสะ มีแต่โมหะ นั้นเพราะเหตุใด ผมเอาอะไรมากล่าว
    - นั่นเพราะจิตใจคุณนั้นเศร้าหมองอยู่ เหตุเพราะถวิลหาปารถนาในตัวเขาอยู่ อุปมาดุจดั่งคุณนำปลาจากตู้กระจกเล็กๆมาปล่อย แต่ปล่อยในอ่างน้ำบ่อน้ำที่เลี้ยงปลาที่คับแคบที่ไม่มีที่ให้น้ำไหลเวียน ปลานั้นแม้จะได้อยู่ในที่ๆกว้างขึ้นแต่ก็กว้างขึ้นเฉพาะสถานที่ แต่น้ำในบ่อน้ำนั้นไม่นานก็ต้องเน่าเหม็นเพราะไม่มีการไหลเวียนเปลี่ยนใหม่ ไหนจะอาหารเก่าอาหารใหม่จากสัตว์น้ำหรือปลาตัวอื่นๆในน้ำนั้น
    แล้วคุณคิดว่าปลาตัวนั้นจะอยู่ในน้ำสภาพนั้นสภาวะอย่างนั้นได้อย่างมีความสุขหรือไม่ คงไม่ใช่ไหมครับ ด้วยเหตุอย่างนี้ๆฉันใด การที่คุณจะมีเมตตาต่อเขาก็เหมือนกันฉันนั้น

    เปรียบปลาเป็นคนที่คุณรัก
    เปรียบการปล่อยปลานั้นเหมือนการที่คุณปล่อยเขาไป
    เปรียบบ่อน้ำนั้นเป็นความรักที่คุณมีให้เขาอยู่
    เปรียบน้ำอันมีปฏิกูลนั้นเป็นดั่งความรู้สึกนึกคิด ทั้งกุศลและอกุศลที่คุณมีต่อเขา

    เมื่อคุณปล่อยเขาไปด้วยจิตที่ไม่ยึดผูกหวังปารถนาให้เขากลับมาอยู่กับคุณ

    - พึงเห็นว่าเราได้ยืมเขามาเสพย์สุขได้ตามสมควรที่จะมีแก่กันแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องสละคืนเขากลับสู่ที่ๆเขาควรอยู่ควรเป็น คุณทำไว้ในใจด้วยความมีใจปารถนาแค่อยากให้เขานั้นได้อยู่ในที่ๆเหมาะสมควรแก่เขา ให้เขามีอิสระสุขในการดำรงชีพ ได้พบเจอแต่สิ่งดีงาม ให้เขาเป็นสุขจากการสละคืนเขาไปนี้ๆของคุณ จิตใจคุณจากเป็นเพียงบ่อน้ำที่คับแคบก็จะกลายเป็นแม่น้ำลำธารที่กว้างใหญ่
    - เมื่อคุณมีจิตปารถนาดีต่ออย่างให้เขามีอิสระสุขไปอย่างนี้แล้ว เขาย่อมได้รับสุขยินดี กุศลจิตก็เกิดขึ้นแก่คุณ จิตใจคุณก็เต็มใจด้วยการสละอันเกิดแต่ความปารถนาดีอยากให้เขาเป็นสุข ดั่งพ่อแม่ที่รักลูกดูแลลูกตนอย่างดี แต่ไม่หวังจะครอบครองเป็นเจ้าของลูก เพียงหวังให้ลูกนั้นได้ดีมีสุขฉันนั้น

    - เมื่อคุณสละคืนเขาไป คืนอิสระสุขให้กับเขาแล้วโดยไม่ติดใจข้องแวะไรๆ ไม่ปารถนาจะให้เขาตอบแทนส่งไรๆคืน ไม่ว่าจะเป็นความรักความรู้สึกดีกับคุณที่ยอมสละคืนอิสระสุขให้เขาโดยความสงบใจของคุณนั้น สละคืนเขาไปแล้วไม่มาเสียดายเสียใจในภายหลัง ไม่มาอยากจะรั้งเขาไว้หรือให้เขากลับคืนมาในภายหลัง มีแต่จิตยินดีเมื่อเขาเป็นสุขที่เขาปารถนา คงอยู่ซึ่งความสุขของเขาเป็นต้น
    - คุณมีจิตอันเป็นกุศลไม่มีความกำหนัดยินดีมีใจฝักใฝ่มั่นหมายปารถนาใน ร่างกายของเขา เสียงของเขา กลิ่นของเขา การแสดงออกของเขาที่มีต่อคุณ สิ่งต่างๆทุกอย่างที่เป็นเขา มีเพียงจิตอันสงเคราะห์อนุเคาะห์เอื้อเฟื้อแล้วสละคืนให้เขาได้รับอิสระสุขนั้นๆจากการให้โดยไม่ติดใจข้องแวะใดๆต่อเขาในภายหลัง ไม่มีจิตมาหน่วงมาเหนี่ยวรั้งเขาไว้ ไม่มีจิตอยากฉุดดึงเขากลับมา ความรู้สึกนึกคิดที่คุณมีให้เขานี้ก็เท่ากับเป็นสายน้ำในลำธารที่ใสสะอาดที่หมุนเปลี่ยนเวียนไปเสมอๆ เขาย่อมได้รับแต่สิ่งที่ดี จิตใจคุณก็เต็มกำลังใจอิ่มเอมด้วยความมีจิตสงเคราะห์และได้สละคืนนั้น

    ทีนี้เมื่อรู้ว่าควรทำไว้ในใจอย่างไรแล้ว ก็มาแผ่เมตตาให้ตนเองทำพึงไว้ในใจน้องไปตามบทสวดมนต์ หรือบริกรรมตรึกนึกน้อมนำใจว่า

    1. เรารักไม่ผูกเวรเขาและผู้ใด เราจักไม่พยายาทเบียดเบียนเขาทั้งทางกายก็ดี วาจาก็ดี หรือใจก็ดี เราจักสละคืนมิจฉาทิฐิความเข้าไปยึดว่าเขาเป็นเราเป็นของเรานั้นๆทิ้งไป ด้วยเดชแห่งบุญนั้นขอให้เราจงเป็นสุข ไม่มีความทุกข์ิันเร่าร้อนกายใจ ไม่มีความเศร้าหมองทั้งกายและใจ มีชีวิตร้อดพ้นอกุศลธรรมเครื่องเศร้าหมองใจทั้งหลายทั้งปวงนี้เทอญ
    2. ตั้งสติกำหนดระลึกถึงความเป็นพระอระหังของพระพุทธเจ้า คือ มีความดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิงนั้นของพระพุทธเจ้า ซึ่งสภาวะนั้นๆย่อมเป็นบรมสุข มีความว่างจากความเร่าร้อนร้อนรุ่มเศร้าหมองกายใจ ไม่มีทุกข์ใดๆทั้งสิ้น
    - พึงหายใจเข้าก็มีสติรู้ลมหายใจเข้า พร้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้ทรงแผ่ฉัพพรรณรังสีนำพระบารมีธรรมแห่งความเป็นพระอรหังอันดับสิ้นทุกข์สิ้นกิเลสเครื่องเร่าร้อนกายใจนั้นมาสู่เรา
    - เมื่อหายใจออกก็มีสติรู้ลมหายใจออก พร้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้ทรงแผ่ฉัพพรรณรังสีนำพระบารมีธรรมแห่งความเป็นพระอรหังนั้นล้างขจัดสิ้นซึ่งความเศร้าหมองออกไปจากกายและใจเราจนหมดสิ้น
    - ทำอย่างนี้สัก 3-5 รอบ ความสงบใจจะเกิดขึ้นแก่คุณ
    3. แผ่เมตตาไปให้เขา พึงทำไว้ในใจด้วยความเป็นมิตรที่ดีต่อเขา ไม่ผูกใจไรๆต่อเขา ไม่ติดใจข้องแวะไรๆต่อเขา พึงเห็นว่าเราสละคืนเขาไปนี้แล้ว ย่อมไม่มีความเป็นเจ้าของของเขาอีกแล้ว เขาไม่ใช่เราไม่ใช่ของเราอีกอีก สิ่งที่เรานั้นพึงกระทำได้ให้เขานั้นคือให้เขาเป็นสุขซึ่งปราศจากมลทิลความผู้ใจของเราที่มีต่อเขานี้ แล้วแผ่เอาความสุขที่ดีไปสู่เขา เห็นว่าเขาเป็นสิ่งอันงดงามที่ควรได้รับสิ่งที่ดีงามดังนี้


    ลองดูนะครับซึ่งผมได้ทำแล้วแจ้งแล้วในส่วนนี้ เพราะผมเองก็มีทุกข์มหันต์ ทุกข์จนจะฆ่าตัวตายแต่ผ่านมาได้ด้วยประการฉะนี้ เพราะทำซึ่ง เมตตา กรุณา ทาน มุทิตา อยู่อย่างนี้ๆ จนเข้าถึงความไม่มีอคติไรๆต่อสิ่งใดมากขึ้น ความสงบใจก็เกิดขึ้น ที่สำคัญคุณจะทิ้งไม่ได้เลยคือศรัทธาใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วน้อมเอาพุทธคุณนั้นอยู่เป้นประจำ แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้น


    สุดท้ายนี้ด้วยบุญบารมีใดที่ผมเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้ทำให้คนที่ทุกข์ได้เห็นทางพ้นทุกข์ด้วยธรรมของพระพุทธเจ้า แล้วมาศึกษาปฏิบัติศรัทธาในพระรัตนตรัยและพระพุทธศาสนานี้ ด้วยเดชแห่งบุญนั้น

    ขอความเร่าร้อน เศร้าหมองกายใจของคุณจงมลายสูญไป ให้ได้มีชีวิตที่ดีงาม มีความสงบกายใจ ตั้งแต่นับบัดนี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. ชะมะนาด

    ชะมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,383
    ค่าพลัง:
    +1,778
    แต่งกลอนได้ไพเราะมาก สู้ๆๆน่ะค่ะ ตอนนี้อยู่คนเดียวแล้วใช่ไม๊ค่ะ ขอให้มีความสุขต่อการไม่มีห่วงน่ะค่ะ อย่าคร่ำครวญถึงอดีตที่ผ่านมาเลย เดินต่อไปข้างหน้าเถอะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...