เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. Year of the Cat

    Year of the Cat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +236
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ wp-ivory [​IMG]
    สวัสดีค่ะขอส่งการบ้านด้วยคน
    ภาพนี้คุณ Opra ดูจิงจัยไปหน่อยนะคะ ปากกว้างกว่าเดิมมาก แหะ แหะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    น้องลูกเกดฝีมือแจ๋วเหมือนเดิมค่ะ :cool:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ VeggieGuy [​IMG]
    คราวนี้ผมมาพร้อมชุดใหญ่นะครับ
    แบบว่ามั่วๆ ไปก่อนละกัน ยังจับอะไรไม่ถูก
    วาดเอามันไว้ก่อนว่างั้นเถอะ อิอิ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ภาพคุณ Veggie ดูแล้วอารมณ์ประมาณว่าอ่านการ์ตูนนิยาย (ที่เคยอ่านตอนเป็นเด็กๆ เล่มละบาท 2 บาท ไม่ทราบตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า) เพราะลายเส้นคม+เข้มมาก มีใครคิดเหมือนเราบ้างเอ่ย:eek:


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ khajornwan [​IMG]
    ลองวาดรูปชายหนุ่มดูค่ะเหมือนขึ้นมาบ้างรึปล่าวคะ?
    รู้สึกว่าตัวเองจะมีปัญหาเวลาวาดเส้นผมและให้แสงเงาน่ะค่ะ.. ทำงัยดี?


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ภาพคุณขจรวรรณฝีมือดีขึ้นมากค่ะ (||) ..เรื่องวาดแสงเงาดิฉันก็มีปัญหาค่ะ รู้สึกว่าภาพที่ตัวเองวาดยังเลอะๆ อยู่ โดยเฉพาะจมูกกับปาก นี่สิ จากคนยิ้มกลายเป็นแยกเขี้ยวได้น่ะ คิดดู
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    แบบนี้เข้าเรียกว่าเขี้ยวเสน่ห์..แดรคดูล่า
    หวาดเสียวมาก อิอิอิ ล้อเล่นนะครับ

    (evil)
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    พี่จินตวดีว่า กฏแห่งกรรมตามพุทธศาสนาคือหลักการเดียวกับ กฏแห่งจักรวาลตามที่ระบุไว้ใน ธรรมชาติของชาติภพ เมื่อเราได้มอบสิ่งใดให้กับใครสักคนด้วยความจริงใจ เราก็มักจะได้สิ่งนั้นตอบ เหมือนจิตวิญญาณเราเรียนรู้ประสบการณ์ของการให้ และเติมเต็มกับมัน หลังจากนั้นจิตวิญญาณเราก็จะเรียนรู้ประสบการณ์ของการถูกให้ (การรับ) เหมือนกับ ถ้าเราทำร้ายใครให้เจ็บ จิตวิญญาณเราได้เรียนรู้ประสบการณ์ ความรู้สึกตรงนั้น ต่อไปจิตวิญญาณาจะเรียกร้อง ความรู้สึก ประสบการณ์ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ด้านตรงข้าม ขอโทษนะคะ พี่ :) จินตวดีเข้าใจ แต่อธิบายไม่ถูก แต่อยู่ในหนังสือธรรมชาติชาติภพค่ะ ลองย้อนกลับไปดูได้ค่ะ ก่อนที่คุณนักเขียนจะเข้ามาอธิบายต่อไป
     
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คุณวิกกี้กายวาดตามแนวที่แนะนำใหนหนังสือวาดภาพเหมือนที่ซื้อมาใช่หรือเปล่าคะ เพราะลายเส้น แรเงา ใช่เลยค่ะ
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 12 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>mead*, fidgi, JINTAWADEE, Year of the Cat</TD></TR></TBODY></TABLE>

    คุณ ฟิดจี้ แวะมา..สงสัยมาเก็บข้อมูลทำไฟล์ PDFต่อ นึกได้ว่าของเรายังก็ไม่เสร็จเลย ..
    ยังไงก็รอได้เสมอใช่มั๊ยครับครับคนอ่าน..ติดตามกันต่อไปนานๆครับ
     
  6. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ตอนนี้วาดรูปกันสนุกเลยแฮะ

    ผลึกมะเทเรียที่เห็นในฝันมีรูปร่างคล้ายๆ กับที่วาดมา
    มันไม่มีจริงหรอก มันเป็นผลึกในเกม final fantasy 7 ที่เอาไปประกอบกับอาวุธแล้วจะใช้เวทย์ได้ แต่รูปร่างก็คิดว่าไม่เหมือนอย่างในฝันหรอก

    ส่วนเรื่องไม้กางเขน แจกันกับดอกหลิว เหมือนเคยได้เห็นคุยกันในกระทู้ไหนซักกระทู้นี่แหล่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • materia.gif
      materia.gif
      ขนาดไฟล์:
      5.2 KB
      เปิดดู:
      48
  7. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ผลลัพธ์จากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบ หรือ บวก

    กฎแห่งกรรมเป็นกฎเกณฑ์ในแนวพุทธศาสนา ซึ่งเป็นกฎที่เป็นไปตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จัก แต่กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการเผชิญกับผลลัพธ์ของการทำดี หรือทำชั่วของท่านอาจารย์อนาลัย เป็นกฎเกณฑ์เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นไปของจิตวิญญาณ และการก่อเกิดสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกทางกายภาพ รวมทั้งร่างกายตัวตนของเรา ซึ่งมีต้นกำเนิดมากจากพลังอำนาจของจิตวิญญาณ อันได้แก่พลังอำนาจของ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อ ซึ่งเป็นไปนอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา

    พี่นักเขียนจะขออธิบายเกี่ยวกับผลลัพธ์อันมาจากการกระทำความดี-ความชั่วของคนเรา ในแนวทางที่ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวถึง เพราะเข้าใจว่าคือประเด็นที่คุณน้องขจรวรรณอยากจะให้พี่นักเขียนช่วยขยายความ หากไม่ถูกประเด็นช่วยแย้งด้วยนะคะ

    พี่นักเขียนขอละไม่ใช้คำว่ากฎแห่งกรรม แต่ถ้าหากใครถามพี่นักเขียนว่า พี่นักเขียนเชื่อเรื่องกรรมหรือไม่ ก็ตอบได้ทันทีว่า-เชื่อค่ะ และเชื่อว่ากรรมส่งผลลัพธ์ได้ล่วงหน้า หรือส่งผลลัพธ์รวดเร็วฉับพลันน่ากลัวกว่าที่พี่นักเขียนเคยเข้าใจ ตามกฏแห่งกรรมตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เคยรู้จักเป็นอันมาก และทำให้พี่นักเขียนมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรานั้นมาจากไหน อย่างไร และจะหลีกเลี่ยง หรือแก้ไขได้อย่างไร

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่า หากเราคิดดี-ทำดี เราไม่ต้องคอยรับผลสืบเนื่องของการคิดดี-ทำความดีนั้นๆในชาติภพหน้า หากเราคิดชั่ว-ทำชั่ว เราก็ไม่ต้องคอยรับผลสืบเนื่องของการคิดชั่ว หรือทำความชั่วนั้นๆในชาติภพหน้า เพราะความคิดและการกระทำของเราในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อชาติภพอื่นๆอย่างเป็นป้จจุบันทันด่วน

    แม้ท่านอาจารย์อนาลัยจะกล่าวว่า เธอจดจ่อสิ่งใดได้สิ่งนั้น -ไม่มีกฏเกณฑ์อื่น
    และแม้ท่านจะกล่าวว่า เธอทั้งหลายไม่ได้มาถือกำเนิดในโลกทางกายภาพเพื่อรอรับโทษ หรือรับผลรับจากการกระทำในอดีต
    แต่ท่านก็ไม่ได้หมายความว่า หากผู้ที่ทำชั่ว-คิดร้าย-ไร้คุณธรรม-ไม่จดจ่อกับความชั่วของตนเองแล้วจะไม่ต้องรับโทษ หรือไม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายอันเป็นผลลัพธ์มาจากความชั่วของตนเอง

    ในทางตรงกันข้ามท่านกล่าวว่า ความคิดทุกความคิดที่เกิดขึ้นนั้น เราไม่สามารถเรียกมันกลับคืนมาได้ และความคิดทุกความคิดของเราก็ไม่ได้สูญสลายไปอย่างไร้ร่องรอยอย่างที่เราเข้าใจ แต่ทุกความคิดจะถูกส่งออกไปและก่อเกิดเป็นความเป็นจริง บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใดเส้นหนึ่งเสมอ ในมิติอื่น โลกอื่น หรือชาติภพอื่น อย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน

    ดังนั้นไม่ว่าเราจะมีความคิดหรือจินตนาการในเรื่องใด เราสร้างเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ หรือสร้างชาติภพหนึ่ง มิติหนึ่งขึ้นอย่างฉับพลัน และหากเรายังจดจ่อกับความคิดนั้นๆต่อไป ในที่สุดเราจะเหนี่ยวนำประสบการณ์จากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนั้น ชาติภพนั้น มิตินั้น มาสู่เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่เราเรียกมันว่า โลกแห่งความเป็นจริง บนเส้นแห่งความเป็นไปได้เส้นนี้ ชาติภพน้ี มิตินี้

    ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่าผู้ที่ทำชั่ว คิดร้าย ไร้คุณธรรมจะได้รับผลลัพธ์เหล่านั้นอย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน ไม่ต้องคอยรับผลลัพธ์ข้ามชาติภพ ท่านกล่าวย้ำเสมอๆว่า เหตุการณ์ทั้งหลายในชีวิตของเรานั้น เกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของเรา ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าที่เหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้นเสมอ ไม่ใช่ในทางกลับกัน

    พี่ีนักเขียนขอยกตัวอย่างจากเรื่องจริงไม่อิงนิยาย เพื่ออธิบายให้พวกเราเห็นภาพชีวิตที่เกี่ยวพันกับประเด็นที่เรากำลังกล่าวถึง เพราะหากยกตัวอย่างโคมลอย เราจะเข้าใจไม่ได้ว่า ภาพชีวิตเหล่านี้จะเป็นจริงได้อย่างไร มีที่มาจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร

    ชายผู้หนึ่งร่วมลงทุนกับเพื่อนและพบกับปัญหาขาดทุน แต่เนื่องจากเขาทำหน้าที่ดำเนินการและถือเงินทั้งหมด เขาจึงยักยอกเงินปันผลจากการค้าซึ่งตนจะต้องแบ่งให้กับเพื่อนผู้ร่วมลงทุน เขาพยายามนำเงินส่วนที่ยักยอกไว้ไปแก้ปัญหาการเงินส่วนอื่นๆ โดยหวังว่าหากแก้ไขได้สำเร็จจะนำเงินปันผลนั้นคืนให้เพื่อน เมื่อเลยกำหนดจ่ายปันผลให้เพื่อน เขาก็ได้แต่บอกปัดกับเพื่อนผู้ร่วมลงทุนไปเริื่อยๆว่า ตนยังไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้

    ชายผู้ยักยอกเงินย่อมจะคิดว่า เขาจำเป็นต้องยักยอกเพราะเขาขาดทุน การยักยอกกลายเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นไปเพราะสถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องทำเช่นนั้น เขาอาจจะมองเห็นแม้กระทั่งว่า การยักยอกเงินของเขาเป็นการกระทำอันชอบธรรมในฐานะหัวหน้าครอบครัว เพราะเขาทำไปเพื่อไม่ให้ครอบครัวของตนเดือนร้อน

    หากเราพิจารณารูปการทั้งหมด เราอาจคล้อยตามความเป็นไปที่ว่า ชายผู้นี้จำเป็นต้องยักยอกเงินเพื่อนเพราะสถานการณ์บีบบังคับ หรือความจำเป็นบีบบังคับ ความเป็นหัวหน้าครอบครัวทำให้เขาต้องเห็นแก่ประโยชน์สุขของครอบครัวของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก

    ธรรมชาติความเป็นจริงของภาวะจิตที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึง จะทำให้เราเข้าใจที่มาของเหตุการณ์ทั้งหมดในทิศทางกลับกันได้ว่า ชายผู้นี้มีความคิดที่จะยักยอก ก่อนหน้าที่การขาดทุนทั้งหมดจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำไป การขาดทุนเป็นเพียงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากความคิดในแง่ลบของเขา หรือกล่าวได้ว่าเป็นผลลัพธ์จากการคิดชั่ว คิดร้าย ขาดคุณธรรมต่อเพื่อนผู้ร่วมลงทุน การขาดทุนมาสู่ความเป็นจริง เพราะเขาคิดจดจ่อกับความขาดทุน การยักยอกเงินปันผล มาสู่ความเป็นจริง เพราะเขาคิดจดจ่อกับการยักยอก ไม่ใช่ในทางกลับกัน

    ชายผู้นี้มีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบตั้งแต่แรกเริ่มว่า หากฉันทำการค้าขาดทุน ฉันจะไม่แบ่งเงินปันผลให้เพื่อนผู้ร่วมลงทุน ฉันจะต้องยักยอกเงินปันผลส่วนของเขาไว้แก้ปัญหาส่วนตนก่อน อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบของชายผู้นี้ เหนี่ยวนำการขาดทุน ความล้มเหลวทางธุรกิจมาสู่ตนเอง กล่าวได้ว่าเขาได้รับกรรมอย่างเป็นปัจจุบันทันด่วนจากความคิดในแง่ลบ หรือรับกรรมอย่างฉับพลันก็คงไม่ผิด

    หากชายผู้นี้มีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกตั้งแต่แรกเริ่มว่า ไม่ว่าฉันจะทำการค้าได้กำไรมากน้อยเพียงไร ฉันก็จะแบ่งเงินปันผลให้เพื่อนผู้ร่วมลงทุนของฉันอย่างชอบธรรม ความคิดในแง่บวกของเขาย่อมเหนี่ยวนำให้เขาประสพความสำเร็จ และไม่เผชิญกับสถานการณ์ที่เขาคิดว่าบีบบังคับให้เขาต้องยักยอก การจดจ่อกับผลกำไร และการปันผลกำไรอย่างชอบธรรม ย่อมจะเหนี่ยวนำให้ชายผู้นี้ได้รับผลกำไร และมีความสามารถที่จะปันผลกำไรให้เพื่อนผู้ร่วมลงทุนได้อย่างชอบธรรม อย่างแน่นอนที่สุด

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวย้ำเสมอๆว่า ให้เราสำรวจความเชื่อของตนเอง และให้เรียนรู้ที่จะจดจ่อกับความคิดในแง่บวกเสมอ

    ตามตัวอย่างนี้ ชายผู้นี้จดจ่อกับความคิดในแง่ลบ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่เหนี่ยวนำประสบการณ์ทั้งหลายมาสู่ชีวิตของเขา เมื่อเหตุการณ์เหล่านั้นมาถึงตัว เขากลับมองเห็นตนเองตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ซึ่งบีบบังคับเขาให้ต้องยักยอกเงินเพื่อน ซึ่งกลายเป็นเสมือนการกระทำที่ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออก

    มันอาจจะเป็นการยากที่ชายผู้นี้จะยอมรับอย่างซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น หรือต่อเพื่อนผู้ร่วมลงทุนได้ว่า เขามีความคิดในแง่ลบเหล่านั้นเกิดขึ้นว่าจะยักยอกเงินของเพื่อนหากขาดทุน ก่อนหน้าที่การขาดทุนทั้งหมดจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำไป

    คนจำนวนมากเชื่อว่าความคิดเป็นเพียงสิ่งลี้ลับส่วนตน ไม่มีผู้ใดรู้เห็น แม้เขาจะมีความคิดในแง่ลบว่า เขาคิดจะยักยอกเงินปันผลก็ต่อเมื่อการค้าร่วมลงทุนนั้นขาดทุน และคิดว่าหากการค้านั้นไม่ขาดทุน เขาก็อาจจะไม่ต้องยักยอก ไม่ว่าเขาคิดจะอย่างไร ความคิดของเขาล้วนมีพลังอำนาจเหนี่ยวนำความเป็นจริงทั้งหลายมาสู่ประสบการณ์ชีวิตเสมอ หากชายผู้นี้จะกล่าวว่า สถานการณ์ของการขาดทุนบีบบังคับให้เขาต้องทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝัน คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวที่เรียกได้ว่า กล่าวเท็จต่อตนเอง และย่อมทำให้เขาตกเป็นเหยิื่อความคิดในแง่ลบของตนเองต่อไป

    หากเราสามารถมองเห็นความคิดของชายผู้นี้ได้ เราจะพบว่า เขาจดจ่อและคิดถึงแต่การขาดทุนหรือไม่ขาดทุน แต่เขาไม่ได้จดจ่อกับการได้ผลกำไร ภาวะจิตของเขาจึงไม่อาจดึงดูดความสำเร็จทั้งหลายมาโลกแห่งความเป็นจริงของเขาได้เลย

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวย้ำเสมอๆว่า
    เธอทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยความเชื่อของตนเอง
    จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหมด
    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้น พร้อมด้วยรูปกายที่คล้องจองกับภาวะนั้นๆ

    พี่นักเขียนเข้าใจว่า กรรม ในนัยของท่านอาจารย์อนาลัย คือ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวก หรือ แง่ลบ ที่ติดบุคลิกภาพของเราไปหลายชาติภพ

    หากเราเรียนรู้ที่จะจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกจนเป็นนิสัย กล่าวได้ว่าเรามีนิสัย หรือมีบุคลิกภาพของจิตวิญญาณที่จะสร้างกรรมดี หรือดึงดูดประสบการณ์ในแง่บวกมาสู่ชีวิตของเรา

    หากเราเรียนรู้ที่จะจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบจนเป็นนิสัย กล่าวได้ว่าเรามีนิสัย หรือมีบุคลิกภาพของจิตวิญญาณที่จะสร้างกรรมชั่ว หรือดึงดูดประสบการณ์ในแง่ลบมาสู่ชีวิตของเรา

    จากตัวอย่างเรื่องราวที่พี่นักเขียนเล่าให้พวกเราฟัง ชายผู้นี้จะสามารถแก้ไขตนเองได้ก็ต่อเมื่อ เขาเรียนรู้ที่จะติดตามความคิดของตนเอง และเรียนรู้ว่า อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบของเขา คือต้นกำเนิดของประสบการณ์ในแง่ลบทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขา เขาไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ของความขาดทุนล้มเหลว หรือเหตุการณ์ที่บีบบังคับให้เขาต้องยักยอก หากแต่ความคิดในซอกมุมหนึ่งของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบของเขา เหนี่ยวนำประสบการณ์ทั้งหมดมาสู่ตนเอง

    แม้จะเป็นการยากที่ชายผู้นี้จะยอมรับกับเพื่อนผู้ร่วมลงทุน หรือยอมรับกับผู้อื่นได้ว่า เขามีความคิดในแง่ลบเหล่านั้นแอบแฝงอยู่ในเบื้องลึกของเจตนาของเขาแต่แรกเริ่ม ก่อนหน้าที่สถานการณ์ทัง้หมดจะเป็นไป แต่จิตวิญญาณของเราทั้งหลายล้วนมีข้อมูลความรู้ และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ทำให้เราตระหนักได้ว่า เรามีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบใดจนเป็นนิสัย หรือเป็นบุคลิกภาพของจิตวิญญาณอย่างไร เพราะมันจะเป็นไปให้เราเห็นในชีวิตประจำวัน เช่นสะท้อนให้เราเห็นในบุคคลอื่นๆที่อยู่ในครอบครัว สังคมและสภาพแวดล้อมของเรา และสะท้อนให้เราเห็นในความฝันของเราเสมอๆ
    [​IMG]
    เราทุกคนรู้เห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อของตนเอง ที่เป็นไปหลายชาติภพในทิศทางหนึ่งๆเสมอๆในความฝัน เช่นเดียวกับที่น้องนกเล่าให้พวกเราฟังว่า รู้เห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่น้องนกต้องการปกป้องคุณธรรมเสมอๆ ส่วนพี่นักเขียนก็รู้เห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ตนเองมีหน้าที่เสมอๆ

    ทางเลือกทั้งหลายล้วนเป็นของเราทุกขณะจิต แต่ถ้าหากเราไม่เรียนรู้ที่จะติดตามอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบจนเป็นนิสัย และไม่รู้จักแก้ไข หรือเรียนรู้ที่จะจดจ่อกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวก เราก็จะต้องตกเป็นเหยื่อของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบจนเป็นนิสัยของตนเองต่อไป อีกหลายชาติภพ หรือรับกรรมที่เราก่อ ต่อไปอีกหลายชาติภพ

    เป็นการยากที่ชายผู้นี้จะเข้าใจได้ว่า ปัญหาการขาดทุนทั้งหมดและการยักยอกของเขา จะแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนความเชื่อ โดยที่เขาจะต้องเชื่อว่า เขาจะไม่ต้องยักยอกเงินปันผลจากเพื่อนผู้ร่วมลงทุน และเชื่อว่าการค้าของเขาจะกำไรและประสพผลสำเร็จ เมื่อคนเราเผชิญกับเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์เสียแล้ว การแก้ไขแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาจะมองเห็นไม่ได้จากจุดยืนที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้ว่า หากเขายังจะต้องเจียดเงินปันผลคิืนให้เพื่อนผู้ร่วมลงทุน แล้วสถานการณ์ทั้งหมดจะดีขึ้นได้อย่างไร มันน่าจะแย่ลงไปอีก

    แต่กลไกทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่การกระทำ แต่อยู่ที่อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่บวกที่เกิดขึ้นก่อนกระทำของเขา หากชายผู้นี้ตระหนักได้ว่า การปันผลให้กับเพื่อนผู้ร่วมลงทุนของเขาอย่างชอบธรรม ย่อมทำให้ชีิวิตของเขาได้รับพร เขาก็จะได้รับพร และหลุดพ้นจากสถานการณ์อันยากลำบากนี้ได้ในที่สุด

    แต่หากชายผู้นี้ยังยึดติดกับความคิดที่ว่า เงินปันผลที่ยักยอกจากเพื่อนผู้ร่วมลงทุนของเขา คือเงินที่จะช่วยให้เขาอยู่รอด หรือช่วยยืดสายป่านของเขาได้อีกหน่อยหนึ่ง มันก็ย่อมเป็นไปเช่นนั้นคือ ช่วยให้เขาอยู่รอดได้อีกเพียงระยะสั้นเท่านั้น จิตวิญญาณผู้เต็มไปด้วยข้อมูลความรู้ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดและความทรงจำข้ามชาติภพ ย่อมทำให้เราทุกคนตระหนักรู้ได้ว่า อะไรคืิอคุณธรรม อะไรคืออธรรม อะไรคือความดี ความชั่ว ประสบการณ์ชีวิตทั้งหลายเป็นเพียงภาพสะท้อนแก่นแท้ของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเรา

    หากเรากำลังเผชิญกับประสบการณ์ชีวิตที่สุขสมหวัง เราควรตระหนักว่า มันคือภาพสะท้อนแก่นแท้ของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวกของเรา

    หากเรากำลังเผชิญกับประสบการณ์ชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหา ความทุกข์ยาก ความไม่สุขสมหวัง เราควรตระหนักว่า มันคือภาพสะท้อนแก่นแท้ของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบของเรา

    เราจะต้องเริ่มต้นด้วยการมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง สำรวจความคิดและความเชื่อของตนเอง เราจะค้นพบต้นกำเนิดอันเป็นที่มาของประสบการณ์ทั้งปวง และสามารถเปลี่่ยนแปลงแก้ไขชีวิตของเราได้เสมอ

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า
    เธอทั้งหลายไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์เลวร้ายทั้งหลายในชีวิตของเธอ
    แต่เธอตกเป็นเหยื่อของความเชื่อในแง่ลบของตนเอง


    เราทุกคนสามารถแก้ไขการตกเป็นเหยื่อความเชื่อในแง่ลบของตนเอง หรือตกเป็นเหยื่อของกรรมชั่วของตนเอง ได้ด้วยการเข้าถึงแก่นแท้ของจิตวิญญาณ หรือเข้าถึงแก่นแท้ของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเองและผู้อื่น ได้ด้วยการรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจ เพราะจิตวิญญาณทั้งหลายล้วนมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน การเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ หรือการประพฤติไม่ชอบธรรมทั้งหลายที่ดูเสมือนเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นเพื่อประโยชน์สุขส่วนตนนั้น จึงเป็นการเบียดเบียนหรือประพฤติไม่ชอบธรรมต่อตนเอง

    เราจะรู้ได้ไม่ยากว่า เรากำลังใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวกหรือลบ สร้างโลกแห่งความเป็นจริงอยู่ เพราะเราย่อมจะรู้สึกเป็นสุขกับการสร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในแง่บวก หรือสร้างโลกแห่งความเป็นจริงด้วยกรรมดีเสมอ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2008
  8. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489

    ยิ้มแบบนี้ โดนอุ้มซะแล้วค่ะ
    น่ารักมากๆเลยค่ะ คุณ Mead(rose)
     
  9. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
  10. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    (||) วาดได้แตกต่างไปจากภาพก่อนๆมากเลยค่ะ คุณนัองขจรวรรณ (rose)
     
  11. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    คุณ VeggieGuy ไฟ Artist แล้บแล้ว
    พี่นักเขียนวาดไม่ทันเลยค่ะ
    แบ่งงานไปวาดบ้างเอาไหมคะ ?(rose)
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เมื่อคืนเจอภาพดาราคนโปรดในแม็กกาซีน ถูกใจมาก เลยหาเศษกระดาษใกล้ ๆ (เศษกระดาษจริง ๆ) มาร่างดู คิดเล่น ๆ ว่าจะวาดตามที่เห็น เลยไม่ได้ตีเส้นเสกล ร่างไป ร่างมา เออ พอดูได้แฮะ ถือโอกาสเอามาส่งเลย คุณนักเขียนคะต้องขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้ตีเส้น เดี๋ยวคราวหน้าเอาใหม่ค่ะ
    ป.ล. ใครเป็นแฟนคุณหมิว ห้ามต่อว่าด้วย (ฮี่ ๆ ชิงบอกไว้ก่อนเดี๋ยวจำกันไม่ได้)
    [​IMG]
     
  13. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    เรื่องกรรม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2008
  14. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    ยี่ยมค่ะ คุณ JINTAWADEE ไม่บอกก็รู้ค่ะว่าเป็นหมิว (good)
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เยี่ยมยอดมากครับคุณจิตต์ฯ วาดแบบไม่ตีเส้นด้วยเก่งจริงๆ
    ทำให้เศษกระดาษธรรมดามีคุณค่าขึ้นมาอีกเยอะเลยครับ
    ยิ่งวาดยิ่งสนุก+

    (good)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2008
  16. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    เชื่อจริงๆ

    เยี่ยมครับ แม้จะไม่ได้ตีเส้น แสดงว่าฝีมือขั้น advance เลยนะครับ
    เชื่อจริงๆ ครับว่าเป็นเศษกระดาษ (สังเกตจากมุมบนขวาของภาพ ยังมีคราบเปื้อนเป็นวงอยู่เลย) เดาว่าน่าจะเป็นถุงกล้วยแขก 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2008
  17. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เย้.. ดีจัยจังค่ะ พี่นักเขียนชมเราด้วยแหล่ะทุก ๆ คน.. อิอิ..

    ส่วนเรื่องกฏแห่งกรรมที่พี่นักเขียนช่วยขยายความให้นั้น ก็เข้าใจขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ เพราะที่ผ่านมาเราศึกษาเรื่องนี้ตามความเข้าใจของกาลเวลาที่เป็นเส้นตรง จึงทำให้เราสับสนก็เป็นได้ค่ะ.. ขอบคุณมากค่ะ..(kiss) (kiss) (kiss)
     
  18. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เมื่อวันที่ 18 ที่ผ่านมา พอดีที่ทำงานทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรฯ ในวันกองทัพไทยค่ะ ก็มีคุณหมอทหารอากาศท่านนึงมาร่วมพิธีด้วยและได้ถ่ายภาพมาเป็นอัลบั้มเลยค่ะ ก็อยากจะนำมาให้พวกเราชาวห้องวิทย์ฯ ได้ชมกัน เมื่อวานก็ได้ขออนุญาติผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ท่านบอกว่ายินดีที่จะให้พวกเรานำมาใช้อ้างอิงในการเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณได้ แต่ต้องคัดเอาภาพที่ไม่มีผู้ใหญ่ในที่ทำงานมาให้ชม จึงเอามาให้ชมกันค่ะเป็นภาพของจิตวิญญาณที่ติดมากับกล้องดิจิตอล ภาพไหนที่มีแสงสว่างมากหมายถึงจิตวิญญาณนั้นมีพลังสูง ส่วนภาพแรกตรงปลายดาบนั้นเกิดจากจิตวิญญาณหลายดวงมารวมตัวกันจึงทำให้เกิดแสงสว่างจ้าตามที่เห็นค่ะ.. อาจารย์ท่านนึงเล่าให้ฟังว่ามีจิตวิญญาณของทหารมาเป็นกองทัพเลยค่ะ.. ส่วนรูปปั้นนั้นศิลปินท่านนึงปั้นตามที่เห็นในนิมิตของท่านและปั้นด้วยจิตวิญญาณเหมือนที่พี่นักเขียนวาดภาพเลยค่ะ..(f) (f) (f)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. Year of the Cat

    Year of the Cat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +236
    ขอแสดงความเห็นที่ต่างออกไปนิดนึงนะคะ ไม่คิดว่าภาพที่เห็นจะเป็นจิตวิญญาณนะคะ เพราะเคยมีการทดลองถ่ายภาพตอนกลางคืนโดยกล้องดิจิตอลความเร็วสูง โดยช่างภาพคนนึงทำการทดลองถ่ายภาพ แล้วภาพที่ออกมาก็จะเป็นจุดกลมๆ ประมาณนี้เลย เคยลงในเวบไหนก็จำไม่ได้ ประมาณว่าเป็นการหักเหของแสง หรือแสงแฟลชที่ไปกระทบกับละอองฝุ่นหรือละอองน้ำเข้า การมองเห็นภาพดังกล่าวเป็นจิตวิญญาณน่าจะเป็นการแปลความหมายของตาเนื้อตามอุปมาอุปมัยของสมองมากกว่า

    แต่ก็ว่ากันไปเน๊าะ อาจเป็นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถจับเอาคลื่น/พลังงานของจิตวิญญาณนั้นๆ มาให้เราเห็นกันจะจะก็ได้..อันนี้ต้องรอให้ผู้รู้มาไขปริศนาอีกที..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pic_6.jpg
      pic_6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.7 KB
      เปิดดู:
      52
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]

    ใช่ครับภาพถ่ายนี้จะถ่ายติดจริงหรือไม่? ยังไงเราคงไม่ปฎิเสธความมีอยู่ของจิตวิญญาณแน่นอนครับ การพิสูจน์เรื่องพลังงานแบบนี้เกิดขึ้นเสมอเพราะมนุษย์สงสัยในสี่งที่มองไม่เห็นมาตลอด อาจเป็นภาพมายาของการหักเหแสงก็ได้ ถ้าแสงไม่ตกกระทบก็มองไม่เห็นสิ่งนั้น แต่ว่ารูปนี้สิดูแปลกกว่าทุกรูปเลยครับ แสงสว่างจ้าเลยล่ะ..(ถ้าไม่ใช่แมลงบินผ่านหน้ากล้องพอดี?) นักพิสูจน์ทั้งหลายมาลองเพ่งดูดีๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...