เมื่อจิตหยุดไม่อยากท่องเที่ยว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ใจของกาย, 19 กันยายน 2014.

  1. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ผู้แแสดงธรรม หรือครู หรือช่างซ่อม คนที่ทำหน้าที่นี้ ก่อนจะไปแสดงธรรมหรือไปสอนใครหรือไปเปิดร้านซ่อม คุณต้องเปิดใจตนเองได้ก่อนนะ อันนี้สำคัญมาก เพราะ ถ้าคุณยังเปิดใจตนเองไม่ได้ ก็ไม่ต้องคิดที่จะไปทำเพื่อผู้อื่นเลยนะ เพราะผู้อื่นเขาก็รู้ว่า คุณเปิดใจจริงหรือไม่ นั่นเองนะ อันนี้สำคัญมากนะ

    ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ใจ เราต้องมีให้คนอื่นก่อนนะ ก่อนที่เราจะทำเพื่อผู้อื่นน่ะ
     
  2. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    สภาวะธรรม ที่ผมยกมาเป็น สภาวะธรรมของคุณ กลายแก้วนะ
    ซึ่งผมเองก็คือ วงกลมจุด หรือ khajonsak9999 nosono ขจรศักด์ ธรรมภัทรปัญโญ เองนะ ไม่ไช่อื่นไกลนะ

    ขอบคุณนะที่ตามอ่าน
     
  3. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    [​IMG]

    กลับบ้านก่อนเป็นบ้า
    ถ้าเป็นบ้าแล้ว ได้แค่คิดว่ากลับได้..
    แถมเป็นใหญ่เป็นโต ธรรมะไชโย โห่ฮิ้ว นะจ๊ะ
     
  4. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ถ้ากลับบ้านไม่ได้ หรือวางจิตไม่ลงหรือเข้าถึงอนัตาธรรมไม่ได้ ก็คือหลงอยู่นะ หลงตามจิต อยู่กับจิต เฝ้าจิต มีจิต แล้วหนีไม่พ้นปรุงแต่งจิต แบบนี้เรียกว่า มีกรรมหรือเปล่านะ แบบว่า จิตจะปรุงว่าตนเองเก่งจริงเก่งจัง เหมือนแสดงละครที่ยังไม่หนำใจนะ หรือก็อาจมีนะ ประมาณว่าตนเองเล่นละครเป็นผู้วิเศษอยู่ แต่ไม่มีคนอื่นรู้ไม่มีคนอื่นเห็นไม่มีคนอื่นเข้าใจ เลยไม่หนำใจ ไม่ถูกใจ ไม่พอใจ ยังต้องการให้คนอื่นมารู้มาเห็นด้วย ยกย่องสรรเสริญด้วย มาชื่นชมด้วย และภ้าไม่มีใครมารู้มาเห็นมาเข้าใจด้วย ก็จะหยุดไม่ได้เลยนะ เพราะมันยังไม่สมใจที่อยากนะ นี่แหล่ะ โทษของความอยากนะ จะหยุดได้ เพราะ เมื่อสาแก่ใจ สมใจ หรือเห็นโทษของมันนะ

    เมื่อหยุดอยากได้ ก็คือหยุดไล่ตามกิเลส เลิกหลง ถึงจะได้มาดูตนเองได้จริงๆนะ ถึงจะมาค้นหาอาสวะที่มีในตนได้นะ
     
  5. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    กลับมาแล้วก็ยังเหลือคนอีกอยู่ดีครับพี่ขจร
     
  6. บรา

    บรา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +17
    ใครที่ไหน
    ท่านนี่เอง
    ติดตาม กลายแก้ว
    วงกลมจุด
    ขจรศักดิ์ 9999
    ใจของกาย.......เอวัง
     
  7. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    อ่านไปถึงหน้า 3 นี่เหมือนหลุดเข้าไปในโลกของนวนิยายเลยนะครับ เพิ่งทราบว่าคุณ ใจของกาย มาจากแอตแลนติส
     
  8. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ผมก็เพิ่งทราบเหมือนกันนี่แหล่ะ พร้อมกับคุณนี่แหล่ะ ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นอะไร เพราะ ผมก็เพิ่งที่ทราบเหมือนกันนะ มันเป็นนิมิตรในความฝันน่ะ
    ก็ต้องเล่าว่า โลกมนุษย์เรานอกจาก สิบหกชั้นฟ้าสิบห้าชั้นดินแล้ว ภพภูมิที่ซ้อนกันอยู่ในโลกมนุษย์นั้นมีภพภูมิอะไรบ้างนั่นเองนะ
    มันก็เป็นการเรียนรู้นะ เพราะผมไม่ได้มีกายทิพย์ถอดจิตได้ แต่มันมีจิตจากภพภูมิอื่นเขานำพาให้ผมไปรู้เห็นทางนิมิตรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2014
  9. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    ต้นกำเนิดดวงจิตจากแอตแลนติส กะ อาวุธพิเศษ มันเป็นอย่างไรครับ ดูน่าตื่นตาตื่นใจ เหมือนละครจักรๆวงศ์ เลยนะครับ คุณใจของกาย พอจะทราบไหมครับ
     
  10. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    เรื่องต้นกำเนิดจิตนี่ แอตแลนติสนี่ อันนี้ผมไม่ได้ศึกษามานะ แต่ดับอวิชชา ปล่อยวางการยึดมั่นถือมั่นเนี่ย ผมถนัดนัก ส่วนอาวุธพิเศษ ก็น่าจะหมายถึง ฤทธิ์ทางใจมั้งครับ ประเภทติดในฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เป็นรูป ฤทธิ์ที่เป็นอรูป หรือสำเร็จได้ด้วยใจอะไรประมาณนั้น

    อย่างผมเคยนิมิตรเจอในฝันก็ พระขรรคฺ์ที่มีสายฟ้าแลบแป๊บ ฟันที วิมานขาดกลางเลย แต่ผมก็โยนคืนเลย เพราะมันแรงเกิ๊น

    เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของพวกที่ต้องผ่านต้องเจอเมื่อ ฝึกจิตจแล้วมีพลังจิต น่ะครับ แต่พลังที่มีก็ควรเอาทำให้เกิดปัญญาในการชำระกิเลสในตนน่ะครับ แต่ว่าพอมีพลัง ก็ย่อมหลงหรือมีความเก่งตามไปด้วย อาจหลงเก่งก็ได้นะครับ จนลืมตัว

    เพราะอภิญญา ที่ใครๆมี ก็ย่อมวางได้ยาก เวลาไม่คิดจะตาย
     
  11. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ผมเคยถามอาจารย์ผมนะเรื่อง ที่ว่า ทำไม ชาวพุทธเรา ไม่เห็นมีเรื่องราวของพระพุทธเจ้า องค์ที่1 2 3 เลย ประวัติบนแผ่นดินโลก ร่อยรอยซากการมีอยู่ ทำไมไม่มีใครกล่าวถึง ซึ่งคำตอบก็คือ มันเป็นจุดเริ่มต้นของแต่ละยุค ไม่ไช่ ยุคต่อๆกันมา

    นั่นหมายถึง พระพุทธเจ้าแต่ละยุค ไม่ไช่เกิดต่อกัน แต่ สาบสูญห่างหายหลายร้อยล้านปี ค่อยหมุนวนกลับมาเริ่มต้นใหม่ อีกครั้ง ดังตัวอย่าง แอตแลนติส ที่สาบสูญหรือ อาณาจักรโรมันที่สาบสูญ

    มาคิดอีกที แค่ สองร้อยปีที่แล้ว เทคโนโลยี ยังล้าหลังมากมายนัก นับประสาอะไรจะ 2557 ปีที่ผ่านมา แต่ถามว่า ทำไมเรื่องราวของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันถึงยังคงมีอยู่ แล้วองค์ก่อนๆ ไม่มีบันทึกอะไรเลยหรือ อย่างไร

    นั่นสินะ อย่าคิดเลยนะ เพราะ พระพุทธองค์สอนให้ดับความอยากทีเดียวหมดเลย ไม่ไช่ให้ค้นหาสนองความอยาก แบบไม่มีที่สิ้นสุด
     
  12. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    งั้นคงต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่นะครับว่า

    ถ้า หมดยุคกัปน์ต่อกัปน์ โลกจะเริ่มต้นใหม่อย่างไร บิ๊กแบง บึ๊ม
    หรือ
    ถ้าหมดยุคพระพุทธเจ้าแต่ละองค์แต่ กัปน์เดียวกัน โลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร แผ่นดินไหวรุนแรงยุบหายทั้งแผ่นดิน

    ขอบอกก่อนนะครับว่า ห้ามคิดนะครับ แค่ฟังเท่าที่ผมโม้ ก็พอนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องไม่ไช่รู้เพื่อการพ้นทุกข์ หรือ เพื่อชำระอวิชชาแต่อย่างใด

    ผมเองก็ไม่รุ้เหมือนกัน แค่เพ้อรำพัน ว่าฉันรักเธอ เท่านั้นเอง
     
  13. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    คำถาม ครับ คำถาม

    ใครเคยถอดจิต แล้วเดินทางไปถึงสุดขอบจักรวาล แล้วเดินทางกลับมาที่โลก ใช้เวลาในการเดินทางของจิต นานแค่ไหนครับ และการไปถึงสุดขอบจักรวาล แล้วย้อนกลับมาที่โลก มันได้อารมณ์เหมือนเดิม หรือ เกิดความเข้าใจอะไรใหม่ๆ บ้างมั้ยครับ

    เพ้อรำพัน รำพัน ว่าฉันรักเธอ
    เพ้อรำพัน อย่างนี้อย่างนั้น นักหนา เพ้อรำพัน ไปต่างๆนาๆ นา ๆๆๆๆๆอยู่นานแสนนาน
     
  14. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ผมไม่เคยถอดจิตไปเองหรอกนะ แค่มีผู้กำกับ มาพาผมไปในนิมิตรทางฟามฝัน น่ะคะรับ แล้วบังเอิญเกิดอารมณ์ กลัวความสูง(ตกลงมันไปทางขึ้น ทางข้างหรือทางลงนะ ขอบจักรวาลเนี่ย) เพราะโลกลอยเท้งเต้ง ในอวกาศ อะไรคือทางหัวทางหาง ทางบนทางล่างล่ะ นอกจากกลัวความสูงแล้ว ยังกลัวความเวิ้งว้างอันว่างเปล่าอีกด้วย แหมมัน แสงสีครบครันแต่ฉันได้แค่หรี่ตาดู เพราะ ไม่ได้พิศวาสอะไรนักหนา พอขากลับมา ก็ถอยหลังกลับ คล้ายว่าเดินทางไปกลับ ไช้เวลาเกือบ พันปี หรือ 999 ปีนี่แหล่ะ แต่ไหงกลับมา โลกกลับแปลเปลี่ยนเป็น กลับไปสู่ยุคหลังภัยพิบัติ ตึกรามบ้านช่อง หายหมด เหลือแต่ป่่าและเรื่องราวใหม่ๆ ไม่เหลือเรื่องราวเก่าๆที่เป็นของปัจจุบัน ของปี 2557 เลย เหมือนลอยกลับมาที่ยุค 3557 ประมาณนั้นครับ บ้านหลังคามุงหญ้ากัน เมืองต่างๆเป็นซากปรักหักพัง

    อิอิ เพ้อรำพัน
     
  15. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ผู้กำกับนี่ หมายถึง อาจารย์ผมเองแหล่ะ(เป็นคนมีชีวิตนี่แหล่ะในปัจจุบัน)

    ผมเรียกท่านว่าผู้กำกับ เพราะท่าน จัดการกำกับให้ผมเล่นละครหลายฉากหลายตอน หลายดวงดาวซะเหลือเกิน)

    และท่านผู้กำกับนี่แหล่ะที่มาสอนวิชาช่างซ่อมให้กับผม ท่านมาช่วยชี้ให้ผม ชำระอวิชชาได้

    แต่ตอนนี้ ท่าน ไม่สนมนุษย์หน้าไหนแล้ว เพราะ ท่านบอกว่า หาคนที่คุยกับท่านรู้เรื่องยากเหลือเกิน

    ท่านเคยถามผมว่า อยากรู้เรื่องอะไรอีกมั้ย ผมตอบว่าผมพอละครับ เอาแค่ชำระอวิชชาได้ ก็พอละครับ เรื่องอื่นไม่สนครับ ขี้คร้านจะเรียนครับ

    เพราะเปลืองพลังงานจากอาจารย์น่ะครับ

    ใครอาจจะไม่รู้นะว่า การสอนคน ช่วยคน มันเปลืองพลังงานมากเลย เพราะก่อนจะสอน ไม่ไช่ว่าจะสอนเลย มันต้องเตรียมกายใจ ให้เขาพร้อมก่อน นั่นเอง

    ไม่ไช่อยากสอนก็สอนเลย มัน ต้องเหมือนหนังเฉินหลงที่ เตรียมกายใจ ก่อน ค่อยฝึกวิชาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2014
  16. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    เหมือนกัน ใครที่อยากเกิดปัญญา ให้สะสมฌาณ หรือ ความสงบให้ได้เยอะๆก่อนนะครับ เพราะถ้าความสงบไม่พอ ปัญญาไม่เกิดหรอกครับ

    ขั้นแรก สงบทันกาย จน สงบกว่ากาย
    ขั้นที่สอง สงบสงบทันอารมณ์ จนสงบกว่าอารมณ์ และทันความคิด
    ขั้นที่สาม สงบทันความคิด แล้ว สงบกว่าความคิด คือรู้ทันใจ สงบกว่าใจ
    ขั้นที่สี่ สงบทันตัวรู้ จน สงบกว่าตัวรู้ สงบทันขันธ์ สงบกว่าอุปทานขันธ์

    เห็นมั้ย ความสงบเป็นขั้นๆนี่แหล่ะที่เรียกว่าฌาณ ดังนั้น ไอ้สงบเข้าฌาณสี่ได้ น่ะ กระจอก เพราะหาเกิดปัญญาใดใดไม่ นอนหลับแบบฝันหวานไม่ดีกว่าหรือ ที่จะเข้าไปหลบในฌาณสี่
     
  17. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    อะไรคือการฟังธรรม
    อะไรคือการเสวนาธรรม

    ทั้งหมดก็คือการเตรียมความพร้อม ทางกายใจ ให้เขาปล่อยวางเรื่องที่แบกมา ที่สงสัยมา ที่อ่านมา ที่จำมา ที่ตอบไม่ได้ ให้เขาวางสัมภาระทั้งหมดทิ้งลงได้ เหมือนให้เขาเทน้ำที่อยู่ในแก้วออกให้หมด นั่นเอง

    การฟังธรรม คุยเสวนาธรรมก็เพื่อให้เขาได้เข้าใจในสิ่งที่เขา ยังไม่เข้าใจได้ก่อน จนเขาหมดนิวรณ์ นั่นแหล่ะ ค่อยฝึกสติปัฏฐานสี่ จึงจะเป็นกายใจที่พร้อม แล้วฝึกสติปัฏฐาน และก็ฟังธรรมจริง ตามไปด้วย จะได้ เข้าใจเพิ่มขึ้นได้ครับ

    อย่าคิดว่า ทำเองปฏิบัติเองจะได้เอง นั้น โนเว แอนสเตชั่นเลยนะครับ

    เพราะ ของจริงมันคนละเรื่องกับ ที่พากันทำอยู่นี่
     
  18. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ฝึกฌาณ เพื่อสะสมปัญญา เอาปัญญาที่สะสมมานั้น มาชำระอวิชชา

    เนื้อหาขั้นตอนก็แค่นี้เองครับ แบบย่อๆ สั้นๆ

    แต่ ส่วนที่ยุ่งยากไม่ไช่ส่วนที่ปฏิบัติสติปัฏฐานสี่หรอกนะครับ

    ส่วนที่ยุ่งยากก็คือ กว่าจะเคลียร์ปัญญาคาใจที่แบกมา ที่อ่านมาที่รู้มา เพื่อเหลือเพียงกายใจที่หมดสงสัยเรื่อง สัพเพเหระให้ได้ก่อนนี่สิ หน้าดำหน้าแดงเชียวล่ะ

    ธรรมน่ะไม่ยาก ยากที่ กายใจยังไม่พร้อมจะปฏิบัติธรรม ต่างหาก
     
  19. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    การที่จะทำฌาณให้เป็นปัญญา ก็คือ การฝึกตามสติปัฏฐานสี่นั่นเอง เพื่อรู้ไตรลักษณ์

    ใครรู้และเข้าถึงพระไตรลักษณ์ได้ นั่นแหล่ะคือตัวปัญญาญาณ หรือ ญาณ นั่นแหล่ะ

    ใครๆก็รู้ ว่าอะไรคือฌาณ แต่ ญาณที่เป็นปัญญาที่เรียกว่าพระไตรลักษณ์น่ะ เข้าถึงกันได้จริงหรือเปล่า เท่านั้นเอง

    ข้อสำคัญก็คือ อะไรคือ สติปัฏฐานสี่ ที่เป็นจริงล่ะ แบบไหนถึงเรียก สติปัฏฐานสี่

    แปลง่ายๆเลยนะ อย่าคิดมาก อย่ายุ่งยาก อย่าซับซ้อน อย่ากายนอกกายใน อย่ากายซ้อนกาย กายอย่ามาก

    สติปัฏฐานสี่ แปลว่า ทำอะไรก็ได้ให้ สติรู้เห็นรู้ทันทั้งสี่ฐานพร้อมกันทีเดียว อยู่ตลอดเวลาให้ได้ ทุกวินาทีที่รู้ตัวที่ตื่นอยู่ แค่นี้เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2014
  20. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    คนทุกคนก็มี กายเดียวของใครของมัน ใจเดียวของใครของมัน

    แต่ทำไม ความคิด การตีความ ถึง หลากหลายกายกันจัง

    จิตก็คือความคิดของใจ เจตสิกก็คือความคิดที่สร้างรูปขึ้นมาเสวยอาหาร อะไรคืออาหาร ก็คือเวทนาสุขหรือทุกข์นั่นเอง

    ดูกายตนเองกายเดียว ให้มันได้ ให้มันถูก ให้มันเป็นเถอะ เพราะ ฐานทั้งสี่ มีครบในกายใครกายมันนั่นแหล่ะ

    แค่นี้เอง สติปัฏฐานสี่
     

แชร์หน้านี้

Loading...