ปริศนาธรรม เชิญตอบ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lovepyou, 15 กันยายน 2014.

  1. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ข้าพเจ้ามีคำถามให้พวกท่านผู้มีปัญญามากทั้งหลายเชิญตอบตามอัธยาศัยเถิด
    ไม่มีถูก ไม่มีผิด แค่อยากเห็นความเห็นหรือประสบการณ์ เฉย ๆ
    และก็ไม่ได้จะลองภูมิ
    และถ้าท่านตอบมาแล้ว ยังไม่ชัด อาจจะมีการถามต่อ
    แต่ถ้าคำตอบท่านชัดเจนแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่ถามต่อใด ๆ
    เอาละ เริ่มเลย

    ข้าพเจ้าได้สดับฟังมาว่า การถืออุโบสถศีล นั้นเป็นของเก่า เป็นของดี มีมาแต่โบราณ พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ไม่ปฏิเสธ
    หากแม้ผู้ใดได้ลองถือไว้สักครั้ง เพียงแค่ค่ำคืนเดียว ผลของอานิสงส์ในการถือนี้ เพียงแค่ค่ำคืนเดียวก็มากมายเกินกว่าที่จะคณานับได้ เปรียบเสมือน แม้ได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ มีดินแดนแผ่กว้างใหญ่ไพศาลไปถึง 16 โยชน์
    มีบริวาร และโภคสมบัติอันไพบูลย์ ก็ไม่อาจเทียบได้หนึ่งในสิบหกส่วน ของอานิสงส์ที่จะได้รับ จากการถืออุโบสถศีลเพียงแค่คืนเดียว เพราะสมบัติทิพย์นั้น ของหยาบเทียบได้ยากนัก...

    คำถาม:
    เหตุผลของการถืออุโบสถศีลแค่คืนเดียวจะได้อานิสงส์มากกว่า การเกิดเป็นพระเจ้าจักพรรดิอันเพราะสมบัติทิพย์นั้น คืออะไร? ขอให้ขยายความ. และมีผลอันประจักษ์ให้เห็นไหม?

     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ข้าพเจ้าได้สดับฟังมาว่า

    ผลของอานิสงส์ เพราะสมบัติทิพย์

    ของหยาบเทียบได้ยากนัก
     
  3. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ให้ขยายความจ๊ะ.
     
  4. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    Saber ย่อมตอบแบบ Saber

    555555++
     
  5. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    มีข้าวสารเต็มร้อยเกวียนเอาไปขายหมด กับ มีข้าวหนึ่งจานที่ตักเข้าปากกิน อันไหนอิ่มกว่ากัน?
     
  6. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974

    ให้ตอบด้วยความเห็นของตัวเองนะครับ
    จะจากประสบการณ์ หรืออะไก็ได้ แต่...

    please โนว ตอบคำถามของผมด้วยการเอาคำถามผมมาตอบ
    and please โนว ตอบคำถามผม ด้วยการถามผมกลับ?
    and please please โนว crtC + crtV
    ผมกำลังถามความเห็นครับ
    เวลาผมจะสนทนาธรรม ผมจะจริงจังหน่อยนะครับ

    ขอโทษด้วยนะครับ แต่


    0 0 0


    และก็
    0 0 0
     
  7. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    แค่อยากเห็นความเห็นหรือประสบการณ์ เฉย ๆ






    "ความเห็น" หรือ "ประสบการณ์" เฉย ๆ
     
  8. บรา

    บรา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +17
    อืม ท่านถามแล้วตัดสินเองให้คะแนนเอง
    คำตอบจากท่านคงเต็ม 100
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ขอร่วมตอบแบบกลางๆนะครับ
    ความจริงถ้ามองในแบบนามธรรมได้เข้าใจ
    หรือเข้าใจในมุมส่วนนามได้บ้างครับ
    จะตอบคำถามแบบนี้ได้ไม่ยากครับ
    เราต้องเข้าใจว่าแม้เค้าจะเปรียบเทียบว่า
    มหาเศรษฐีมีทรัพย์เพียงใดก็ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบ
    กับพระเจ้าจักพรรดิ์ เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง
    แต่เราต้องไม่ลืมว่า
    ทรัพย์พวกนี้เราถือว่าเป็นทรัพย์อย่างหยาบครับ
    เพราะเป็นทรัพย์สินแบบทางโลกมนุษย์ หรือแบบโลกๆ
    ระยะเวลามันไม่มาก ผมให้๑๕๐ ปีเลยสำหรับมนุษย์นะครับ.
    สำหรับระยะเวลาในการเสวยสุขกับสมบัติพวกนี้
    แต่การถืออุโบสถฯ เราถือว่าเป็นทรัพย์สินละเอียดหรือทรัพย์
    ที่มีความเป็นทิพย์ครับ
    เป็นทิพย์คือเราเนรมิตร เป็นอะไรก็ได้ครับ
    ตามความเชื่อ เราเชื่อว่ากินระยะเวลา
    ได้เป็นกัปล์ ซึ่งกินเวลานานมากๆๆ
    หากด้วยประกอบด้วยบารมีที่ตนเคยสะสมมา
    บวกอานิสงค์ตรงนี้ เราอาจเรียกได้ว่า
    เป็น สมบัตินิพพานหรือ ทรัพย์ที่จะเกิดขึ้น
    กับเราระหว่างจนกว่าจะเข้านิพานครับ

    ปล.ประมานนี้ครับ
     
  10. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ขอบคุณครับ

    มีท่านอื่นอีกไหมครับ อยากเห็นจากมุมมอง หลาย ๆ คน
     
  11. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ขอเล่นด้วยคน ถูกผิดก็ไม่ถือว่าเสียหน้า ความเห็นผมเป็นดังนี้

    การถือศีลอุโบสถศีลแค่คืนเดียวเป็นอานิสงส์เป็นเหตุให้เกิดในสวรรค์ถึงกับได้เป็นพระอินทร์
    ไปเสวยสมบัติที่เป็นทิพย์ในสวรรค์

    ส่วนการเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิอันเพราะสมบัติทิพย์นั้น คืออะไร ?

    คือการเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิเป็นการเสวยผลของกุศลที่ตนสร้างไว้
    เมื่อตายไปเป็นอันว่าสิ้นไปพร้อมกับความตาย ถ้าหากว่าพระเจ้าจักพรรดิ
    มัวแต่ชื่นชมสมบัติไม่ได้ทำกุศล เมื่อตายไปอาจลงอบายก็ได้

    คงแค่นี้แหละตามความเห็นของผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2014
  12. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    อันนั้น ท่านคิดเอาเองนะครับ ^ ^

    ส่วนให้คะแนนนั้น คิดสะว่า แซวเล่น






     
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เพราะอุโบสถศีลถ้าตั้งใจรักษาจริง ๆ แล้ว

    จะเป็นเหตุส่งเสริมให้การละนิวรณ์กระทำได้ดีและง่ายขึ้นมาก

    และเมื่อละนิวรณ์ได้ ความสงบย่อมปรากฏ

    นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง - สุขอื่นยิ่งกว่าสงบไม่มี

    ดังนั้นแล้ว แก้วแหวนเงินทอง ลาภยศสรรเสริญสุขทั้งหลาย

    จึงเทียบไม่ได้กับ สุขที่เกิดจากความสงบ

    อันมีผลมาจากการตั้งใจรักษาอุโบสถศีลดังนี้เอง..
     
  14. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    เป็นพระราชา มีสมบัติ ข้าทาสบริวาล มากขนาดนั้น จะกินก็ไม่ได้กิน จะนอนก็ไม่ได้นอน ปัญหาร้อยแปดพันเก้าเข้ามาให้คิดให้แก้ไข หาความสงบคงจะยากน่าดูชม ใหนจะห่วงสมบัติ ใหนจะกลัวเขามาแย่งชิง ในจะสนมนางกำนัล ใหนจะลูกเมีย วุ่นวายไม่จบสิ้น ถือศิลอุโบ 1 วัน หาความสงบในใจ ไม่เอาอะไรในโลกใบนี้ปล่อยวางทุกสิ่ง เหลือแต่ลมหายใจ ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่มีเงินกู ลูกกู เมียกู ตัวกู ความสงบแม้จะเกิดในใจเพียงเสี้ยวนาที ก็ถือเป็นสุขที่เกิดขึ้นในใจ และความสงบในใจนี้เองที่เงินและสมบัติของพระราชามิอาจจะซื้อหาได้ เพราะความสงบนี้มันได้เพราะการรักษาศิลอุโบสถนั่นเอง จึงพูดได้ว่าการถืออุโบสถศีลแค่คืนเดียวจะได้อานิสงส์มากกว่า การเกิดเป็นพระเจ้าจักพรรดิ ...เขียนผิดขอภัยความรู้น้อย ^^
     
  15. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ว้าว ลุงหมาน เข้ามาตอบด้วย เห็นหายไปนานนะครับ

    ขอบคุณลุงหมานครับ
     
  16. ZIGOVILLE

    ZIGOVILLE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +792
    โภคทรัพย์
    โภคทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่เกิดขึ้นในภพภูมิของมนุษย์ ใช้ได้ในโลกของมนุษย์เท่านั้นเมื่อดวงจิตเคลื่อนไปยังภพภูมิอื่นก็ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ อันพระราชาเมื่อมีลมหายใจอยู่ก็เสวยสุขในโภคทรัพย์เหล่านั้นเป็นปกติ แต่เมื่อดวงจิตเคลื่อนไปสู่ภพภูมิใหม่ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดๆในโภคทรัพย์เหล่านั้นได้อีก...

    อริยทรัพย์
    อริยทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่พุทธปราชญ์ทั้งหลายท่านสรรเสริญว่าเป็นทรัพย์ที่สามารถติดตามดวงจิตไปได้ทุกหนแห่ง แม้นดวงจิตนั้นเคลื่อนไปยังภพภูมิใดๆ คุณความดี กุศลแห่งอริยทรัพย์นั้นก็จะติดตามไปเหมือนรอยแห่งเกวียนย่อมติดตามเกวียนไปฉันนั้น จนกว่าจิตดวงนั้นจะเข้านิพพาน

    อุโบสถศีล
    การถืออุโบสถศีลนั้น เป็นการรักษา กาย วาจา และ จิต ให้สงบเป็นปกติสุข สงบ และมีผลทำให้สมาธิบังเกิดได้ง่าย เพราะมีการเพิ่มข้อกำหนดในเรื่องการงดความสะดวกสบายทางใจ เช่นงดสื่อบันเทิงต่างๆ งดความสะดวกสบายทางกาย เช่นการนอน และอาหารเย็น...

    ธรรมะเกี่ยวกับโภคทรัพย์ และอริยทรัพย์
    ส่วนธรรมะที่จะแชร์นี้คือธรรมะที่สติได้สอนในจิตขณะที่จิตกำลังพิจารณาเรื่องโภคทรัพย์ และอริยทรัพย์ เมื่อปีที่แล้ว ดังนี้ "จิตเอ๋ย ปราชญ์ผู้มีปัญญามีโภคทรัพย์อันเจริญแล้ว ควรทำโภคทรัพย์ให้บังเกิดเป็นอริยทรัพย์อย่างไร ?ปราชญ์นั้นควรทำตัวให้เหมือนแม่น้ำ เพราะเหตุใด ? เพราะลักษณะของแม่น้ำนั้น มันจะไหลลงต่ำเสมอ เมื่อเจอตลิ่ง น้ำจะหาทางลัดเลาะไปจนได้ หรือถ้าไม่ได้มันจะรอคอยเพื่อนเพื่อสมทบกำลังพังทลายตลิ่งนั้น และคนทั้งหลายที่น้ำนั้นไหลผ่าน จะได้ใช้ประโยชน์จากมัน จิตเอ๋ย ปราชญ์ผู้มีปัญญามีโภคทรัพย์อันเจริญแล้ว ไม่ควรทำตัวเหมือนสระน้ำส่วนตัวที่ได้ใช้เฉพาะบ้านหลังเดียวเท่านั้น เพราะจะไม่ทำให้อริยทรัพย์บังเกิดขึ้น"
     
  17. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    เรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ์ เคยอ่านมามากพอหรือป่าวครับ?

    เคยอ่านถึงตอนที่ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ สิ้นไปหรือสละบัลลังค์ไป จะเกิดอะไรขึ้น? .. ตอนนั้นสัญลักษณ์กงจักรของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่ลอยอยู่จะหายไปนะครับ

    คนที่มาสืบต่อบัลลังค์ต้องบำเพ็ญความดีหรือมีพอ แล้วกงจักรความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์จะปรากฎขึ้นคู่บารมีนะครับ

    ดังนั้นความดีการบำเพ็ญอุโบสถศีลนั้น ถ้าเทียบกันที่กำลังบุญ ถือว่าเทียบไม่ได้กับบุญที่ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นะครับ

    แต่ถ้าเทียบในมุมการหลุดพ้นทุกข์นั้น การถือศีลรักษาศีลประเสริฐกว่า เพราะสามารถติดตัวข้ามพบชาติหนุนนำไปจนถึงนิพพานได้
     
  18. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    งั้นผมอาจจะใช้คำผิด อาจจะไม่ใช่ พระเจ้าจักรพรรดิ แต่เป็นกษัตริย์ เฉย ๆ
    จะเป็น 2 คำนี้ คำไหน ผมไม่แน่ใจ
    อย่างไงก็ต้องขออภัย

    ถ้าใครหาพระสูตรที่ว่า เกิดเป็นกษัตริย์ อานิสงฆ์ไม่สู้กับที่จะได้จากอุโบสถค่นเดียว มาแปะได้ก็ดีครับ
    พอดี ผมเคยอ่านไว้แล้วหาไม่เจอแล้ว เพราะตอนนั้นไม่ได้จดไว้
    แต่พูดไปตามลักษณะที่พอจะจำได้ ถ้าใครมีเว่อรชั่นเต็ม เอามาช่วยแก้ด้วย ก็จะขอบคุณมากครับ
     
  19. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385

    อ่านกระทู้คุณ lovepyou แล้วคิดถึงพระสูตรนี้มากกว่าครับ ส่วนอนิสงส์ของ อุโบสถศีล อันนั้นหาไม่เจอครับ แต่ถ้ามีเดี๋ยวคงมีคนหาเจอครับ ผมเข้าใจว่ามีการดัดแปลงมาจาก พระสูตร ความเป็นโสดาบันประเสริฐกว่าการได้เป็นพระเจ้าจักพรรดิ

    ภิกษุ ท. ! แม้พระเจ้าจักรพรรดิ ได้ครองความ
    เป็นใหญ่ยิ่งแห่งทวีปทั้ง ๔ เบื้องหน้าจากการตายเพราะ
    การแตกทำลายแห่งกาย อาจได้เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
    เป็นสหายอยู่ร่วมกับเหล่าเทวดาชั้นดาวดึงส์ ถูกแวดล้อมอยู่
    ด้วยหมู่นางอัปษร ในสวนนันทวัน ท้าวเธอเป็นผู้เอิบอิ่ม
    เพียบพร้อมด้วยกามคุณทั้งห้าอันเป็นของทิพย์อย่างนี้ก็ตาม,
    แต่กระนั้น ท้าวเธอก็ยังรอดพ้นไปไม่ได้ จากนรก จากกำเนิด
    เดรัจฉาน จากวิสัยแห่งเปรต และจากอบาย ทุคติ วินิบาต.


    ภิกษุ ท. ! ส่วนอริยสาวกในธรรมวินัยนี้ แม้เป็น
    ผู้ยังอัตตภาพให้พอเป็นไปด้วยคำข้าวที่ได้มาจากบิณฑบาต
    ด้วยปลีแข้งของตนเอง พันกายด้วยการนุ่งห่มผ้าปอน ๆ
    ไม่มีชาย,
    หากแต่ว่าเป็นผู้ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยธรรม
    ๔ ประการ เธอก็ยังสามารถ รอดพ้นเสียได้ จากนรก
    จากกำเนิดเดรัจฉาน จากวิสัยแห่งเปรต และจากอบาย
    ทุคติ วินิบาต.



    ภิกษุ ท. ! ธรรม ๔ ประการนั้นเป็นไฉน ?
    ๔ ประการคือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้
    ประกอบพร้อมแล้ว ด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น
    ไม่หวั่นไหว ในองค์พระพุทธเจ้า ... ในองค์พระธรรม ... ใน
    องค์พระสงฆ์... เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วยศีลทั้งหลาย
    ชนิดเป็นที่พอใจเหล่าอริยเจ้า อันเป็นศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ
    ไม่ด่าง ไม่พร้อย ... ดังนี้.

    ภิกษุ ท. ! ระหว่างการได้ทวีปทั้ง ๔ กับการได้
    ธรรม ๔ ประการนี้นั้น การได้ทวีปทั้ง ๔ มีค่าไม่ถึงเสี้ยว
    ที่สิบหก ของการได้ธรรม ๔ ประการนี้ เลย.
     
  20. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    ขอเสริมเพื่อความแน่นของข้อมูลครับ

    อบายภูมิ 4 มี =>
    สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน .. ครับ

    ธรรม ๔ ประการ => โสดาบัน, สกิทาคามี, อนาคามี, อรหันต์

    ถ้าเทียบว่าไม่ถึงเสี้ยวใน 16 ส่วน ก็แสดงว่า บุญพระจักรพรรดิ์ก็ยิ่งใหญ่อยุ่นะครับ

    ในตำนานนั้น พระจักรพรรดิ์จะมีของวิเศษ สามารถเหาะลอยไปที่ใดๆ ในทวีป
    ที่มีทะเลทั้ง 4 โดยรอบนี้ได้

    ซึ่งถ้าทำได้ขนาดนี้ ก็เทียบได้กับผู้ที่ได้ อิทธิฤทธิ์ขั้นสูงแล้วนะครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...