ควรที่จะปิดห้อง ภัยพิบัติพิชิตพลังจิตได้ รึยัง...........?

เผลอเข้าไปอ่านในห้องย่อยของห้องวิทยาศาสตร์ทางจิตลึกลับทีไรจิตตกทุกทีเพราะว่าเข้าไปอ่านแล้วเจอแต่พวกขี้ตระหนกตกใจกระต่ายตื่นตูมชัดๆมีที่ไหนที่บอกว่านั่งสมาธิแล้วทำให้ภัยพิบัติเลื่อนมีแต่พวกขี้โม้ไปวันๆก็ไม่รู้ว่าจะเปิดทำไมอันนี้เป็นกรรมชนิดหนึ่งที่เขาเรียกกันง่ายๆว่าพวกที่ตื่นตูมตู้มตุ้มตูมไม่มีผลงานมีแต่เอาของนอกมาโพสท์ไปเรื่อยๆและอีกอย่างหนึ่งที่ดูแล้วเสมือนประหนึ่งตื่นข่าวอัปมงคลที่เป็นข่าวไม่โสภีโสภาอะไรนักหรอกเป็นข่าวที่ตื่นเป็นข่าวที่แหกตาชาวบ้านบางคนนี่ก็เก่งจริงๆสามารถที่จะสื่อสารกับเบื้องบนได้คุยได้กับเทพเทวาคุยได้หมดติดต่อจิตอรหันต์ติดต่อกับจิตนางฟ้าแล้วก็มาประโคมข่าวร้ายๆโดยอ้างสถิติมั่งหล่ะอ้างความน่าจะเป็นมั่งหล่ะอ้างโน่นอ้างนี่และผลสุดท้ายภัยพิบัติไม่เป็นดั่งที่คาดหวังก็แถไปเรื่อยๆอ้างคนนั้นอ้างคนนี้นั่งสมาธิเพื่อให้ภัยพิบัติเลื่อนซึ่งความจริงมันเป็นไปไม่ได้และขอให้ยอมรับด้วยเถิดว่าคนที่ประโคมข่าวอัปมงคลเหล่านี้สมควรที่จะอยู่ในที่ใดในสามภพนี้ผมขอการันตีว่าคงไม่แคล้วต้องตกอยู่ในภพล่างอย่างแน่นอนใครจะเห็นด้วยมั๊ยหากใครเห็นด้วยขอให้ยกมือขึ้นกดโมทนาเยอะๆหากใครไม่เห็นด้วยให้อยู่เฉยๆแถบสีม่วงๆที่ไม่เห็นด้วยนั้นผมไม่อยากเห็นตอนนี้อ่านกันยากนิดนึงเนื่องด้วยผมอยากจะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมั่งใช้สมาธิจิตอภิญญาความเท่ห์ที่ทุกคนมีอ่านความคิดของผมสิว่าผมต้องการสื่อสารอะไรกับพวกคุณหากคุณๆท่านๆทั้งหลายไม่มีความสามารถในการอ่านโปสของผมก็ต้องทำใจนิดหนึ่งว่าพลังจิตของพวกคุณๆท่านๆนั้นถดถอยไปแล้วครับ
(tm-love)

 

แล้วทำไมกด "ไม่เห็นด้วย" ไม่ได้หล่ะ

 

ผมตั้งกระทู้ทีไร มีแต่สีม่วงๆ มีแต่คนไม่เห็นด้วยทั้งน้าน คุณก็เป็นคนหนึ่งที่ให้สีม่วงๆ กับผม

 

แล้วสักวันคุณจะได้รู้ถึงสิ่งที่เหล่าท่านผู้หวังดี [ที่คุณคิดว่าไม่หวังดี] ทั้งหลายเตือนน่ะว่าจะเป็นยังไง ใครที่ไม่เชื่อ นั่นอาจหมายถึงคุณจะไม่ได้ตระเตรียมอะไรเลย แม้แต่บุญที่จะเก็บไว้เป็นเสบียงสำหรับภพหน้า

คนที่เชื่อถึงภัยที่จะเกิดขึ้น นั่นหมายถึงคนเหล่านั้นสะสมกรรมดีมามากระดับหนึ่งแล้ว จึงทำให้รู้สึกถึงอะไรได้บางอย่างในอนาคต ส่วนคนไม่เชื่อนั่นอาจเป็นเพราะกรรมบางอย่างบดบังไว้ไม่ให้เห็นถึงภัยที่กำลังจะมาใกล้ๆตัว

ผมคิดว่าพระเกจิทั้งหลายคงไม่มาปดให้ผิดศีลเล่นๆหรอกน่ะ กับหรือแม้กระทั่งพุทธพยากรณ์ทั้ง 16 ข้อของพระพุทธเจ้าก็ตาม ใครที่เชื่อในคำตรัสของพระพุทธองค์ก็คงจะพิจารณาเองได้ล่ะนะ

ขอแสดงความคิดเห็นอีกหน่อย ถ้าคิดว่าบอร์ดพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ไร้สาระเกินสำหรับคุณ ก็อย่าคลิกเข้าไปดูล่ะ มันจะเสียสายตาของคุณน่ะ ผมเป็นห่วง....

แต่คุณ หล่อลากดิน ก็น่าเป็นห่วงเยอะเหมือนกันนะเนี่ย อ่านแล้วรู้สึกเลยน่ะ เอาเป็นว่าตั้งสติให้ดีๆล่ะกัน จะได้ทำอะไรได้ดีมากขึ้นกว่านี้น่ะคับ

บาย

 

คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมไม่เตรียมเสบียงในภัพคะมะโน และอภัพคะมะโน
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าผมมีเจตนา และอนุรักษ์ไว้แล้วซึ่งเจตนาของผม

แต่ห้องภัยพิบัติพิชิตพลังจิต มีแต่ตื่นข่าวอัปมงคล
คุณไปทำความเข้าใจใหม่ในเรื่อง มงคล๓๘ ประการ

เรื่องนี้ไม่ได้มีไว้ท่อง ไม่ได้มีไว้สวด แต่มีไว้ให้ทำ

จำไว้

ปล. คุณพายุเวทย์ คุณก็คือผู้หนึ่งที่ให้สีม่วงๆ กับผม เช่นกัน หึหึ

 

ห้องอะไรต่าง ๆ ชอบก้เข้าไปอ่าน ไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งกะเขา คนหมู่มากที่เขาทำอะไรแสดงว่าเขามีเหตุผลของเขา อีกอย่าง การเตรียมการไว้ ดีกว่าการประทาท ใครจะรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขิ้นกับมนุษย์ในวันข้างหน้า ไดโนเสาร์ยังเคยสูญพันธุ์ไปจากโลกเราเลย คนเคยตายกันครั้งละมาก ๆ ด้วยภัยภิบัติต่าง ๆ หลายต่อหลายครั้ง บางครั้งก็ตายไปครึ่งโลก ไปหาค้นดูซิว่าจริงไหม แล้วการเตรียมการป้องกันเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ

 

คุณหาธรรม ให้สีม่วงกับผมอีกเช่นกัน หึหึ

 

อืม......ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างความรู้ ทุกคนก็มีสิ่งดีๆในตัวเอง หากว่าทุกคนหวังดีต่อเพื่อนมนุษย์ให้ปราศจากทุกข์ ก็ขออนุโมทนาในความปราถนาดีนั้นด้วยเทอญ

 

จะเกิดหรือไม่เกิด แต่คนที่ทำนาย หรือคนที่พยากรณ์ทั้งหลายต้องรับผิดชอบ

เมื่อทำนายผิด เมื่อพญากรณ์ผิด เมื่อคาดการณ์ผิด จะแถสีข้างเหรอท่าน หึหึ

 

มันจะไม่มีสีม่วงถ้าคุณรู้จักการพิจารณาคำพูดคำเขียนต่างๆของคุณที่นำมาลงเว็บ

 

กระต่ายตื่นตูม = คนไม่ประมาท

ส่วน จขกท. ตั้งแต่กระทุ้ขยะ คนจึงกดไม่เห็นด้วย ใช้รูปสมองซธเปล่าแต่ไม่รุ้จักหัดใช้สมองในการตั้งกระทู้ Use brain สินาย

 

ขอความเจริญ ในธรรม ของท่านเถิด

พิจารณา ให้ครบด้วย สติ ปัญญา

ลองถามครูอาจารย์ ของทาน ว่า ภาพนี้ อยู่ ที่ไหน และ เกี่ยวข้อง กับอะไร )

 

ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา

 

ขออนุญาติไม่เห็นด้วยนะค่ะ จริงอยู่เรื่องภัยพิบัติดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน
เหมือนตัวเองเมื่อ 10 ปีก่อน ที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติต่าง ๆ
ของ ดร. พิชัยฯ หนังสือที่ท่านเขียน ท่านเขียนถึงเรื่องภัยพิบัติรู้สึกจะเป็น
ปี 1999 วาระสุดท้ายของโลก (คล้าย ๆ แบบนี้แหละค่ะ เผอิญหนังสือเหล่านั้น
เอาไว้อยู่ที่บ้านที่เชียงใหม่ ก็เลยอาจจะเขียนผิด เขียนถูก ต้องขออภัยนะค่ะ)
ซึ่งได้พูดถึงสึนามิในภาคใต้ ซึ่งตอนนั้นเราก็มีความคิดเห็นขัดแย้งเหมือนกัน
ว่าไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ประเทศไทยไม่เคยมีสึนามิมาก่อน จะ้เกิดได้อย่างไร
แล้วเหตุการณ์สึนามิ เกิดขึ้นจริง ๆ และข่าวจากทุกวงการ ซึ่งสามารถตรวจสอบ
ได้ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และจิตศาสตร์ ก็เิริ่มบอกแล้วว่าน้ำจะท่วมโลกแน่นอน
ถ้าเหตุการณ์เหล่านั้นไม่เกิดขึ้นจริง ๆ ก็ดี ซึ่งเราทุกคนก็สวดมนต์ภาวนาว่า
อย่าให้เกิดเหตุการณ์นั้นจริง ๆ เลย แต่ถ้ามันเกิดแล้ว เรารู้ เราเตรียมการไว้
อย่างน้อยเตรียมตัวเองทางจิตวิญญาณ ทำบุญทำกุศล ไว้มาก ๆ มันก็ดีไม่ใช่หรืออย่างน้อย ๆ ก็มีคนทำความดีเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องเตรียมเสบียง
ทั้งหลาย ก็เป็นเรื่องของคนที่มีปัจจัยพอทำได้ แต่ทุกคนที่ทำงานตรงนี้
ทำเผื่อไว้ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น แม้เหตุการณ์จะเกิดหรือไม่เกิด
ความรู้สึกดี ๆ แบบนี้คุณจะลบทิ้งไปทำไม อย่างน้อยก็ยัีงมีกลุ่มคนดี ๆ
มีจิตวิญญาณที่ดี เราไม่ช่วยเขา ก็อย่าไปทำลายเขาเลยนะ เพราะทุกวันนี้
โลกเราก็มีแต่เรื่องทำลายล้างมากพอแล้ว มาสร้างสรรสิ่งดี ๆ ให้กับมนุษย์
ด้วยกันดีกว่า ต้องขอภัยอีกครั้งนะค่ะ เจ้าของกระทู้ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง
กับคุณ

 

ภัยพิบัติมันก็เกิดทุกปีล่ะคุณ
ดูข่าวมั่งป่าว หรือว่ามีทีวีไว้ดูอย่างอื่น

 

ความไม่ประมาท และการระวัง คนละเรื่องกับ การระแวง

ความประมาท นี้ เป็นไปด้วยการไม่เผลอ จนลืมมองตามความเป็นจริงในปัจจุบัน
ถ้าเผลอลืมมองตามความเป็นจริงในปัจจุบันเมื่อไร เรียกว่าประมาท

และ การระแวง นี้คือ การเอาสิ่งนั้นสิ่งนี้มาโยงใยแล้วเกิดอาการ คิดไปเอง โดยยังสรุปไม่ได้ว่าจริงหรือเท็จ เรียกว่าระแวง

ถ้าระวัง นี้ รู้อยู่ว่า ทางที่เดินไปนี้ อันตราย ก็คอยระวัง

เพราะฉะนั้น ถ้าเรากำลังเดินทางไปในทิศทางที่อันตราย เรียกว่า ระัวัง และไม่ประมาท
ก็มาดูว่า ปัจจุบันเรากำลังเดินไปในทิศทางไหน ตอบว่า ทิศทางที่เต็มไปด้วย สิ่งไม่ดีสิ่งชั่วร้าย ในอนาคต เพราะฉะนั้น ระวังบ้างก็จะดี แต่อย่าถึงกับระแวง
ระวังในที่นี้ ต้องไม่ใช่ให้คนอื่นมาชี้นำ เพราะจะกลายเป็นระแวง เราต้องระวังของเราเอง เช่นว่า ระวังภัยเกี่ยวกับตัวเองและทรัพย์สิน ระวังต่อการทำอกุศล ทำอะไรมีสติ เท่านั้นพอ และไม่ประมาทในการใช้ชีวิต

ทีนี้ การที่บุคคลอื่นเอามาบอกว่า ประเทศไทยจะไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แบบนี้ถือว่า เป็นการระแวง เพราะความไม่ดี ไม่ได้เกิดจากดวง แต่เกิดจากเราทุกคนทำมัน ถ้าคนไทยสามัคคีกัน ไม่ระแวงกัน มันก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้น

ก็ขอฝาก สามคำ คือ ไม่ประมาท ระแวง และ ระวัง แยกกันให้ออกว่าอะไรคืออะไร สิ่งที่ไม่ดี คือ ระแวง อันทำให้แตกแยก ตระหนก และระแวงนี้เกิดจาก ความห่วงตัวเองเป็นหลัก

แต่ ระวังนี้ นอกจากห่วงตนเองแล้วยังห่วงผู้อื่นอีก
มาดีที่สุดคือ ความไม่ประมาท คือ ไม่ห่วงใคร แต่ใช้ชีวิตตามความเป็นจริงอย่างไม่ประมาท

 

ถ้าถึงเวลาอันใกล้ รู้วันเวลาที่แน่ชัดว่าภัยพิบัติจะเกิดแน่ เตรียมการรับมือไว้บ้างก็ไม่แปลก ใครมั่งจะนั่งนิ่ง รอความตายอยู่ที่เดิมในเมื่อยังมีทางที่จะต่อสู้ แต่ถ้าวิตกจริตเกินเหตุ หวาดกลัวเพียงเพราะคำพยากรณ์ที่ไร้แก่นสาร อันนั้นน่ะประสาทแด๊กล่ะ ความตายไม่มีใครหลีกพ้น สำหรับบางคนมันอาจมาเยือนวันนี้พรุ่งนี้ ไม่จำเป็นต้องรอวันโลกแตกหรอก ส่วนเรื่องทำบาปทำบุญก็ทำกันเป็นปกติไม่ใช่หรอ รึใครคิดจะเร่งทำเผื่อโลกแตกตายไปจะได้สบาย ถ้าเกิดภัยพิบัติอ่ะนะ ไม่มีใครสบายหรอก

 

ยังไม่เกิด ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิด

การวางตัวอยู่ในความไม่ประมาท ย่อมเป็นสิ่งที่ดีน้า