จำเป็นมั้ยที่พระโพธิสัตว์เกิดมา จะต้องมีคู่บารมีตามมาด้วยทุกชาติไป

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thanan, 19 กรกฎาคม 2011.

  1. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    ยกตัวอย่างได้ไหม ว่าเคยหวดเหล่ากอศรีธนชัย กับใครมาบ้าง

    ตรงนี้ก็แล้วทัสสนะของตน เช่นกันที่กำนันPCO บอกว่าตนปรารถนาวิริยะกะพิเศษ

    ก็อาจจะมีใครบางคนที่เข้มจริงกับเนกขัมมะ เอาแน่เอานอนไม่ได้กับวาสนาของสัตว์โลก

    แต่ถ้าบุพเพสันนิวาสนา ก็เป็นเรื่องของการทนแรงเสียดทาน ปุพเพกตปุญญตา ตักบาตรร่วมขัน ไม่ได้

    อันนี้จำพวกชายเมืองสิงห์ เค้าจะชอบ แล่นไปตามแรงแห่งสภาวะ

    แต่ส่วนใหญ่แล้ว ในชาดก พระโพธิสัตว์เป็นฤาษีก็หลายชาติ เหาะตกลงมา ก็กลับไปเป็นฤาษีได้ดังเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2014
  2. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947


    ตอนแรกอ่านๆ เข้าใจว่ามีสองแก้ว
    พออ่านอีกที สามแก้วเหรอ
    ตกลงมีเป็น 10 เลยเหรอคะเนี่ย
    แต่ก็นับถือนะคะ ที่ทุกแก้วรักใคร่กลมเกลียวกันดี หายาก
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,261
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +70,447

    .....ในทัศนะของผม


    และเป็นเรื่องเฉพาะตัวผม


    เมื่อมีคนที่เคยเกี่ยวพันธ์ตั้งแต่อดีตชาติ มาพบเจอกันอีกในชาตินี้ ในฐานะเพศตรงข้าม

    ผมพยายามไม่ให้สร้างความผูกพันธ์แบบชายหนุ่ม-หญิงสาว
    หรือ คนต่างเพศที่มีใจปฏิพัทธ์กัน

    แรงกรรมปัจจุุบันต้องสำคัญกว่า

    โดยเฉพาะ แรงกรรม ที่พิจารณาใตรตรองไว้ดีแล้ว ด้วยความสมควรแก่ธรรม


    ชีวิตทั้งหลาย สามารถเกื้อกูลกันได้ดีที่สุด ในฐานะ กัลยาณมิตร


    ทำดีแล้ว ก็ยกให้เป็นความดีของธรรมที่เราเคารพสักการะ ว่าสมควรเป็นธรรมที่จะรื้อถอน
    สรรพชีวิตให้พ้นจากกองทุกข์ได้

    ถ้ามีโอกาสส่งเสริม ด้วยเห็นกำลังใจกำลังบารมีของคนใกล้ชิดว่าสามารถเจริญขึ้นเป็นที่พึ่งของชีวิตอื่นได้ ก็ส่งเสริมไป

    หมดเปลือก สุดกำลังลำกล้อง ทีจะรีดลูกปืนไปยังเป้าหมายอันมีเพียงหนึ่งเดียว
     
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    คือว่ามันอย่างนี้ทีแรกก็ไม่เข้าใจท่านอื่นไม่เข้าใจหลวงพ่อที่ท่านพูดบ่อยๆที่สายลม ว่าท่านเป็นคนมีเมตตาแล้วท่านก็หัวเราะ ผมเองกว่าจะเข้าใจคำนี้ของท่านใช้เวลานานมากจึงเริ่มเห็นของท่านรางๆ

    ว่าทำไมพ่อขุนเจ้าพระยากาญจนบุรี ท่านถึงมีคนรักท่านมาก และแม่ใหญ่ราวทองท่านก็ไม่ว่าอะไร แม่พิมพิลาไลย ท่านเป็นไง แม่บัวคลี่คิดอย่างไรปฎิบัติต่อพ่อแบบใหน ก็ต้องฟังจากที่หลวงพ่อท่านเล่าไว้ในฤษีสอนลูกที่ใต้ร่มไทรงามเราจะเข้าใจ


    เต็มๆอีกสักครั้งเรื่องของพ่อ
    ขอจดจำจาลึกบันทึกไว้ในดวงใจตลอดไป พ่อขุนช้าง ขุนแผนฉบับเต็มของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ


    หลวงพ่อเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน (เรื่องจริงนอกตำนาน)


    ขุนช้างขุนแผน (เล่า 22 เมษายน 2521)

    เดินทางมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรี พอรถเลี้ยวจากฝั่งนี้ข้ามไปฝั่งตะวันตก เห็นวัดพระธาตุแล้ว เห็นวัดป่าเลไลย์ ตอนนี้ใจหายวาบ เพราะ ปรากฏภาพของบุคคล กลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่คนเดียว เป็นคนกลุ่มหญ่ แต่งตัวสวย สดงดงาม มาถึงก็ยกมือไหว้ มองไปเห็นเป็นคนสำคัญคือ ขุนช้าง

    ขุนช้างท่านเป็นเทวดา คือ เจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จึงถามท่านว่า หน้าตาของท่านเวลานี้สวย แต่ตามนิยายเขาบอกว่า ท่านหัวล้านน่ะ ไม่รู้ว่าหัวใคร แต่หัวผมจริงๆ มันไม่ล้านครับ เป็นหัวเถิกง่ามถ่อ ธรรมดาๆ เท่านั้น ถามท่านว่า สมัยนั้น เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ใช่ไหม ท่านบอกว่า ใช่ แล้วก็รับราชทินนาม เป็นขุน ก็เป็นเรื่องน่าแปลก ก็เลยถามว่า เรื่องวันทอง เรื่องขุนแผน กับท่านนี่ ดูแล้วมันเลวจริง ๆ ก็อยากจะทราบว่า เรื่องแห่งความเป็นจริงนั้นมันยังไง เลวทรามขนาดนั้น ก็แสดงว่า บ้านเมือง ไม่มีขื่อไม่มีแปดู เหมือนว่า พระราชาไม่มีความหมาย

    ท่านขุนช้างฟังแล้วท่านก็ยิ้ม บอกว่า มันแย่จริงๆ เรื่องราวในคราวก่อนนี้ ผมกับขุนแผนไม่เคยมีเรื่องร้าย เพราะ เป็นเพื่อนเล่นกันมา ตั้งแต่อยู่วัดเป็นเด็กๆ แล้วต่อมา ก็เป็นเพื่อนร่วมน้ำสาบานกัน ถ้าผมบังเอิญ จะไปแย่งเมียขุนแผนอย่างนั้นผมคิดว่า ผมคงจะตายไม่รู้ว่าแบบไหน จึงถามว่า เป็นเพราะอะไรท่านบอก ว่าขุนแผนนี้ มีความรู้ ร้ายกาจมาก ถ้าปรารถนา จะฆ่าคน อย่างผมนี้ มันไม่ยาก ไม่ต้อง ใช้อาวุธ เป็นแต่ เพียงแกหยิบเอาต้นหญ้าขึ้น มาต้นเดียว ต้องการให้ต้นหญ้านั้นเข่นฆ่าผม ผมก็ตายแล้ว

    ท่านขุนช้างนี่ ท่านเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ท่านมาให้เห็นไม่ใช่ว่า ผู้เห็นจะใช้ฌานสมาบัติใช้ฌานอะไร เป็นอานุภาพของเทวดาแสดงให้เห็น อย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า ผีหลอก คนถูกผีหลอก เขาเข้าฌานสมาบัติ หรือก็เปล่า

    ถามท่านขุนช้างว่า ก็เมื่อท่านเป็นเพื่อนกับขุนแผน แล้วเรื่องร้ายทั้งหลายแหล่ ที่คนเขียนขึ้นนั้นมันมาได้ยังไง ท่านก็กล่าวว่า เวลานั้นเป็นสมัยราชาธิปไตย คนที่อยู่ในสมัยราชาธิปไตยต้องเป็นคนดี มีจริยาดี ทั้งสองคน เป็นขุน ขุนช้างเป็นมหาเศรษฐี แต่ก็มีความรู้ดี ขุนแผนเป็นคนจนแต่ก็จนอย่างขุนแผน ไม่ใช่จนอย่างยาจก เป็นคนที่มีวิชาความรู้ดี คำว่า จน ก็หมายถึงว่า ไม่ได้มีเงินอย่างเหลือล้นนั่นเอง และขุนแผน เป็นคนมีลูกน้องมาก นอกจากเบี้ยหวัดเงินปี ที่พระราชาให้ ขุนแผนก็ต้องล้วงเงินในกระเป๋าของตนเลี้ยง คนทั้งหลายที่มีกำลังดี เก็บเอาไว้ต่อสู้กับฆ่าศึก ขุนแผนเป็นลูกขุนไกร ท่านบอกว่า ความจริงขุนแผนกับขุนช้างไม่มีเรื่องอะไร มีความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ตอนที่ขุนแผนไปตีเมืองจอมทอง มีคนเขามาแกล้ง แย่งความดีของขุนช้าง คิดจะให้ขุนช้างถูกขุนแผน ฆ่าตาย จึงเอากระดูกคนมาแสดงว่า เวลานี้ขุนแผนตายแล้ว และขุนแผนก็สั่งว่า สำหรับวันทอง ซึ่งเป็นเมียเล็ก เห็นว่า ไม่คู่ควรกับใคร ขอมอบไว้กับขุนช้าง ปกครองด้วย ช่วยรักษาเธอให้มีความสุข


    นี่เห็นไหม เห็นว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขียนกันไปน่ะ มันลอกเปลือกกันมาก


    ถามท่านขุนช้างว่า เวลาท่านตายทำไมจึงไม่ไปเป็นสัตว์นรก ท่านก็ยิ้มแล้วชี้หน้าว่า ท่านล่ะตัวท่านเองทำไม จึงไม่ไปเป็นสัตว์นรก ก็เลยบอกว่า ฉันระลึกชาติไม่ออกนี่ ท่านเป็นเทวดา ท่านรู้ก็บอกซี ท่านบอกว่า สมัยนั้น ท่านขุนช้างก็ดี ขุนแผนก็ดี (พระบำราบอรินทร์ก็ดี พระยากาญจนบุรีก็ดี สามชื่อนี้ ได้แก่ ขุนแผน คือ พลายแก้ว) คนสมัยนั้นทั้งหมด เขาเป็นนักบุญกัน ท่านก็ชี้จุดต่าง ๆ ให้ดูว่า เมืองสุพรรณ มันดาดาษไปด้วยวัดวาอาราม กรุงศรีอยุธยาก็ดาดาษไปด้วยวัดวาอาราม วัดติดๆ กัน นั่นแสดงว่า คนสมัยนั้นจิตเขา เป็นมหากุศล ทำบุญ ทำกุศล สวดมนต์ ใส่บาตรไหว้พระ เจริญสมถะวิปัสสนากันเป็นปกติ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับขุนแผน ถามขุนช้างว่า จริง ๆ ราชทินนามของท่านก่อนที่ท่านจะตายน่ะ มีราชทินนามว่ายังไง บรรดาศักดิ์น่ะ ท่านบอก ว่าบรรดาศักดิ์ของผมจริง ๆ ก็เป็นพระยา มีนามว่า พระยาภานุมาศ เอ๊ะ ภานุมาศ ก็ช้างซี ? ใช่แล้วพระยาภานุมาศอยู่กับเมืองหลวง มีหน้าที่ควบคุมช้างสำหรับขุนแผนนั้น ได้แก่ พระยากาญจนบุรี แต่เนื้อแท้ จริง ๆ เป็น เจ้าพระยา ในตอนสุดท้าย แต่ทว่า ประวัติศาสตร์หายไป ทั้งสองคน เวลาที่รับราชการอยู่ก็ชอบทำบุญ ตอนพ้น จากราชการก็ไปจำศีลกันในเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งขุนแผน ไปอยู่ที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนท่านขุนช้าง ปรากฏว่า หลบไปอยู่ทางเขาราวเทียนภูเขาราว เทียนนี่อยู่ทางหลังอำเภอหันคา สองคนจำศีลภาวนาได้ ฌานสมาบัติ ตายจากความเป็นคน ขุนช้างไปเกิด เป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช แต่สำหรับขุนแผน เวลาตายก็เข้า ฌานตาย เพราะมีกำลังใจใหญ่ ตายแล้วไป เกิดเป็นพรหม แล้วท่านก็บอกว่า ขุนแผนขยันเกิด เพราะมีนิสัย ชอบยุ่ง เขาถือว่า คนไทยที่มีน้ำใจดี เป็นคนของเขา เขาถือว่า เป็นพี่เป็นน้องเขา ตายจากสมัยนั้น แล้ว ก็มาเกิดในสมัย พระนารายณ์มหาราช มี นามว่า นายเหล็ก สมัยรัตนโกสินทร์ก็มาเกิดอีก แล้วก็ชอบยุ่งตามเคย อย่ารู้เลย ว่าเป็นใคร

    นี่เป็นเรื่องของขุนช้างขุนแผน ตามที่เทวดาขุนช้างท่านเล่า จริงเท็จอยู่กับท่าน ท่านแถมท้ายว่า อย่าเชื่อ ประวัติว่า ขุนช้างเป็นคนหัวล้าน นั่นไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เป็นนิยายที่เขาเขียนขึ้นมาว่า ขุนช้างเป็นคนเลว ความจริงขุนช้างก็ดีขุนแผนก็ดีเป็นคนที่มีระเบียบวินัย เวลานั้นท่านบอกว่า เป็นสมัยพระเจ้าพันวัสสาหรือ ที่เรียกกันว่า พระเจ้าสามพระยานั่นเอง ขุนแผนนั้น ถ้าจะเอาความร่ำรวยกันจริง ๆ แล้ว มันก็รวยกว่าผม แต่ว่า เงินที่มันสะสมไว้มีน้อย ก็เพราะว่า มันแจกเขามาก ขุนแผนจึงรู้สึกว่า ทรัพย์สินที่มีอยู่ในตนจนจริง ความจริงคำว่า ขุนแผนนี้ ไม่มีในทำเนียบของราชการ ชาวบ้านเขาตั้ง ขุนแผนก็ดีขุนช้างก็ดี ชาวบ้านเขาตั้ง ที่เรียกว่า คนเผ่านี้ว่า เผ่าขุนช้าง สำหรับ ขุนแผน ก็เหมือนกัน ที่เรียกว่า ขุนแผน ก็เพราะ มันเป็นคน ออกแบบออกแผนจู้จี้จุกจิก เห็นอะไรไม่ดี ก็จัดสรร กราบบังคมทูลพระเจ้าพันวัสสา พระองค์ก็เห็นด้วยทุก ประการ อาศัยที่มัน เป็นคนวางแผน ชอบเปลี่ยนแปลง ชอบจัดระบบให้สมดุลย์อยู่เสมอ ชาวบ้านจึงเรียกว่า ขุนแผน

    ขุนแผนหรือไอ้แก้ว ที่มันมีเมีย เป็นปี๊บ ๆ น่ะ ความจริงไม่ใช่ว่า มันจะเป็นคนเจ้าชู้วิ่งหาผู้หญิง แต่ความจริงเจ้าแก้วกับผม ลักษณะมันต่างกัน นี่ผมยืนให้ท่านดู ดูมาดนายช้างเสียบ้าง นายช้างน่ะ เป็นคนมาดดี สง่าผ่าเผย ตาผ่องใส แล้วก็หน้ารูปไข่นิด ๆ แต่ว่า หน้าเป็นหน้าของผู้ชาย ไม่ใช่รูปไข่ของผู้หญิง ลักษณะ ท่าท่างองอาจ นี่ท่านจะว่า ละซีว่า หน้าตาคงเหมือนช้าง ซึ่งเป็น สัตว์เดียรัจฉาน ? ท่านอย่าว่า ซิ นี่คนคุมช้าง มันก็ต้องสง่าผ่าเผย มีกำลังเหมือนช้าง แต่ว่า ช้างตัวนี้ มันเป็นตัวที่มีศักดิ์ศรี แต่ว่า เจ้าแก้วมันมีรูปร่างอีกอย่างหนึ่ง เจ้าแก้วนี่ถ้าจะ ดูลักษณะจริง ๆ มันก็เป็นคนสมส่วนสมสัด ท่าทางทะมัดทะแมง แต่ผิวเจ้าแก้ว มันขาวกว่าผม ผมเป็นค่อนข้างขาว อย่างที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า เป็นคนขาว แต่ว่า เวลาเดินเดินแรง เพราะ คุมช้างนี่ ต้องเดินแรง เวลาทำงานผมช้าไม่ได้ ไอ้แก้ว มันเรียกผมว่า ไอ้โคล้ง ๆ ชื่อจริง ๆ มันก็ไม่เรียก ผมชื่อ ศรี นะ ชื่อผมจริง ๆ ว่า ศรี เขาแปลว่า มิ่งขวัญ ไอ้แก้วน่ะชื่อจริง ๆ เขาว่า พลายแก้ว พลายแก้ว คือ ช้างแก้ว ช้างที่มีกำลังใหญ่ ช้างตัวประเสริฐของพระเจ้าจักรพรรดิ ที่เขาให้ชื่อว่า พลายแก้ว ก็เพราะ มันออกมาฤกษ์ดี โหรพยากรณ์ว่า เจ้าเด็กคนนี้จะมีอำนาจมาก สามารถจะปราบปราม ข้าศึกได้ทุกทิศ โดยที่จะใช้กำลังคน เข้าประชิดกับข้าศึก ด้วยกำลังไม่มาก

    ผมสวยสู้ไอ้แก้วมันไม่ได้ ไอ้แก้วมันสวยมาก ท่าทางมันดี กิริยาก็แช่มช้อยกว่า ผู้หญิงปัจจุบัน ผู้หญิงสมัยนี้น่ะ มันเป็นผู้ชายเสียมากกว่าผู้หญิง ผู้หญิงสมัยโน้นน่ะ เขาเป็นคนเก็บตัว มีจริยามารยาทดีพูดน้อย เห็นผู้ชายไม่ใช่ว่าจะวิ่งเข้าไปคุยจะไปควงกับผู้ชาย มีแต่จะเก็บตัวตามจารีตประเพณี เป็นคนน่ารัก แต่ลักษณะการย่อง ๆ หนีไปหาคู่รัก เวลาพ่อแม่เผลอ มันก็มีเป็นของธรรมดา แต่ว่า จริยาท่าทาง หน้าบ้านเขาดี ที่เจ้าแก้วมันมีเมียมากเพราะ

    1.รูปร่างหน้าตามันดี สวยเก๋ มีเสน่ห์
    2.เป็นคนอ่อนโยน
    3.เป็นคนกตัญญูรู้คุณ
    4.มีจิตใจเผื่อแผ่ มันไม่ค่อยเก็บสตางค์ ไปที่ไหน มันก็จ่าย ให้ลูกน้องดะ เห็นคนยากจน เข็ญใจ มันก็สงเคราะห์ให้ตามสมควร มีอะไรพอที่มันจะช่วยเหลือได้ มันช่วยทุกอย่าง

    เวลานั้นบ้านเมืองมันกว้าง คนก็น้อย การทำไร่ไถนาก็เป็นของไม่ยาก เหมือนกับชาวเขาเวลานี้ อยากจะไปฟันป่าตรงไหนก็ไปกัน ทำกันได้ตามชอบใจ ใครไม่มีทุน ไม่มีรอน เจ้าแก้วมันก็ให้ ความจริงผมก็ไม่ ยอมแพ้มันนะ ใครมาขอ ผมก็ให้เหมือนกัน แต่ว่า สู้มันไม่ได้ มันเที่ยวเก่ง มันพูดเก่งกว่า มีคนรู้จักมากกว่า ก็เลยมีคนมาไถมันมาก ในเมื่อมีคนมาไถมันมาก ผมมีคนมาไถน้อยกว่า ลูกไอ้แก้วก็เลย มาไถผม ต่อไปขึ้นมาบนบ้านบอก คุณพ่อไอ้นี่ดี คุณพ่อไอ้นั่นดี มันอยากว่าดีผมก็เลยให้มัน ลูกไอ้แก้วมันเรียกผม ว่าพ่อทุกคนแหละ มันรักผมเหมือนพ่อ ผมก็รักมันเหมือนลูก ฉะนั้นตามนิยายปรัมปราที่เล่ากันมา มันทำเสียไปหมด คนขนาดเป็นขุนน้ำขุนนางเป็นพระยาแบบนั้น ใครจะเลวแบบนั้น เลิกพูดกันทีนะเรื่องไอ้แก้วกับไอ้ช้าง

    (เพิ่มเติมที่ไทรงาม อำเภอพิมาย เมื่อ 21 มีนาคม 2522 คัดเอาแต่ใจความ)

    รุกขเทวดา แสดงภาพเป็นหญิง แต่งชุดเขียว ๆ มาเล่าว่า ตนเองชื่อบัวคลี่ ตายตั้งแต่สมัยขุนช้างขุนแผน แล้วมาเป็นรุกขเทวดาอยู่ที่นั่น รู้สึกเสียดาย ที่เป็นพระอริยะเบื้องต้น หากได้รับการสั่งสอนทีดี ก็คงจะบำเพ็ญไปนิพพาน เสียตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์

    ในการตอบคำถาม ปรากฏว่า บัวคลี่ไม่ได้ตาย เพราะถูกขุนแผนผ่าท้องเอาลูกไปทำลูกกรอก ความจริงลูกกรอกเขาเกิดมา เพื่อให้คุณแก่พ่อแม่ และมีลักษณะพิเศษ คือ เวลาท้องนั้น ท้องโตได้ยุบได้ บัวคลี่คลอด ลูกออกมาเป็นลูกกรอก แล้วต่อมาอีก 3-4 เดือน จึงได้ตายด้วยโรคภัยธรรมดา

    ใครที่ใจมีคุณธรรมแบบพ่อนี้มีเมียได้ไม่ยาก

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=dxtG29lDuXg"]????????? ?????????????????????? 04 ?????????????????????? ????????????????? ???@11 ?????? 2522 - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2014
  5. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    สำหรับผมขอแค่วิริยาธิกะเติมความพิเศษก็พอ เอาแค่คนที่เขารักและเลื่อมใสสรัทธาติดตามผมเอาแค่นี้พอคนที่เขาไม่ต้องการเรา เราก็ไม่ตามเขาเหมือนกันด่วนขบวนพิเศษคนที่จะไปด้วยมันก็ต้องอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า หิ้วกระเป๋าไปรอที่สถานี ด่วนพิเศษไม่มีการแวะเข้าตรอกซอกซอยไปรอใครที่หน้าบ้าน ผู้โดนสารอื่นๆเขามี หากจอดแช่นานเกินไปมันก็แค่จอดติดเครื่องแม้จะเปิดแอร์เย็นดูหนังฟังเพลง แต่ธรรมชาติผู้โดยสารเขารอได้ไม่นาน หากขืนจอดแช่นานเขาก็ลงจากขบวนไปขึ้นขบวนที่จะออกเดินทางก่อน

    การเป็นครูสอนมันก็มีวันเหนื่อยมีวันเบื่อหน่ายที่จะหยุดสอน มีวันที่อยากพักผ่อนนอนอยู่กับบ้านเสียที

    สอนรุ่นเก่าพอรู้เรื่องรู้ประสา เด็กใหม่มาไม่รู้เรื่องต้องจับอาบน้ำแต่งตัวป้อนข้าว กินนมนอน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    สำหรับผมขอแค่อายุราชการพอ อาจจะต่ออีกนิดหน่อยเพราะผู้ชมไม่ยอมถอยขอให้ต่ออีกสักสองสามเพลงอันนี้พอได้

    หากเป็นดนตรีแต่ละเพลงที่เล่นมันซ้อมกันมาซะจนจะอาเจียร ออกมาเป็นเพลงที่เล่น

    การจะเป็นคนของประชาชน ลองทำตัวให้เป็นประโยชน์สุงสุดของคนใกล้ชิดก่อน ของหมู่ญาติก่อน พาคนของเรารอบตัวให้เป็นสัมมาทิฐิให้ได้ก่อน พาหมู่คณะญาติมิตรให้อยู่ในศีลในธรรมให้ได้ก่อน พาได้หมดแล้วค่อยขยายไปชวนข้างๆบ้าน คนในหมู่บ้าน คนในตำบลไปวัด

    สำหรับผมต้องพาคนในบ้านก่อนชวนคนในบ้านก่อน ต้องพาพ่อแม่ลูกเมียก่อน ไม่มีการมองข้ามคนสำคัญสำหรับผมเหล่านี้อุ้มไปได้ก็อุ้ม แบกได้ก็จะแบก

    แต่หากคนอื่นเขาไม่เอากับเรา มันธุระอะไรที่จะต้องไปรอเขาให้เสียเวลาของพ่อแม่หมู่คณะเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2014
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,261
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +70,447


    สำหรับผม ผมคงจะทำในนามหจก. หรือ บริษัท หรือ เครือข่ายระหว่างบริษัท
    ไม่ต้องมายึดติดกับตัวคนขับรถโดยสาร หรือ เรือโดยสารลำใด

    ถ้าเชื่อมั่น ในคุณภาพของการอบรม คัดเลือกคนขับ คุณภาพยานพาหนะ คุณภาพการบริหาร

    ก็ไม่มีการรอนาน ให้คนโดยสารอื่นเสียเวลา


    ให้อาศัยคันต่อไป ที่จะเวียนมา ไม่ว่าเป็นของบริษัทเดียวกันหรือต่างบริษัท


    ( ยกประโยชน์สูงสุด ให้บริษัทยักษ์ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวคือ บริษัทสี่ของพระพุทธศาสนา )


    บริษัท จัดเตรียมยานพาหนะไว้หลายคัน
    ไมต้องขับเร็ว เร่งทำเวลา
    ไม่ต้องเสียประโยชน์คนอื่นๆ


    ...เพียงแต่ ขั้นตอนต่อนก่อตั้งบริษัท อาจต้องฝ่าฝันแสนสาหัสหน่อย

    เกิดๆตายๆ ถี่มาก

    คู่กรณีเคสต่างๆ ยังเสวยสุข เสวยทุกข์ในภพอื่น แต่เจ้าตัวมาเป็นคนอีกแล้ว


    ลูก เมีย คนใกล้ๆ ตามมาไม่ค่อยทัน

    ที่อยู่ต่างถิ่น พอมองเห็นกัน ก็ช่วยกันในรูปแบบอื่นไป ถ้าจะช่วย


    บุญกุศล หรือทรัพย์ที่จำเป็นต้องใช้จ่าย คือสิ่งติดตัวที่ต้องเรียกมาใช้ได้ ยามจำเป็น
    อยู่ใกล้ตัวเราที่สุด สมัยนี้ก็เป็นคล้าย PHONE BANKING

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2014
  7. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เข้ามาดูหลักสูตรผู้บริหาร

    ว่าแต่คุณธัมมะสามี คุณบุญทรง หายไปไหนครับ ลุงกำนัน
     
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    หากสงสัยเรื่องนางแก้ว
    นี่คนสงสัย
    หรืออวิชชาสงสัย
     
  9. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องระบบบริษัทผมเข้าใจ ผมเองก็มีบริษัทเองและในเครือหลายแห่ง แม้จะเป็น MD มีบอร์ด มีแผนกต่างๆทำงานอย่างเป็นระบบ แต่ PD. เองก็เหนื่อยสาหัสมาก PD.ไม่มีคนใหนขับรถเอง แต่ก็ต้องคิดต้องวางแผน จัดระบบการขนส่ง Logistics ก็ต้องลงนามเซ็นหนังสือ ที่คนอื่นแทนไม่ได้ หลับอยู่ก็ต้องกระเด้งขึ้นมาเพื่อตัดสินใจสั่งการให้เขา เพราะอาจมีบางคันแม้จะวิ่งทำเวลาตามกำหนด แต่ก็มีการหงายท้องได้

    ตัวบริษัทเองบางทีต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ธุระกันดาร ทรัพยากรวัสถุดิบบางอย่างก็มีวันหมด บางอย่างไม่วันหมดก็จริงเช่นโรงงานผลิตน้ำดื่มอันนี้หมดยาก ไม่ต้องย้ายโรงงาน แต่สินค้าราคาไม่แพง บางบริษัทเช่นเหมืองแร่ต่างๆ มันมีวันหมด มันก็ต้องมีวันเลิกลา การขุดเจาะน้ำมัน ก็เช่นกันมีวันหมดวันพร่อง ก็มีวันที่ต้องปิดตัวไปหลายต่อหลายบริษัท

    หากเราเองเป็นเพียงแค่บริษัท Logistics คลังสินค้าและขนส่งอย่างเดียว สำรวจและผลิตเองไม่ได้ เราจะเอารถเทเลอร์หัวลากที่ใหนมาวิ่งรับส่งสินค้า ในเมื่อเจ้าของรถเขาขับเองได้หาสินค้าและผู้โดยสารเองได้ ไม่จำเป็นสังกัดบริษัท Logistics

    เราจะจัดการเขา แต่เขาไม่ยอมให้เราจัดการอยู่ดี แล้วเราจะเอาอะไรไปบังคับเขา ให้ต้องมาอยู่ในControlเรา

    สุดท้ายเราก็มีแค่รถของเรากับคนขับของเราเพียวๆที่บุกน้ำลุยโคลนมากับเรายืนโด่หมุนซ้ายหมุนขวากันสองคนคือคนขับกับMD

    แต่เรื่องแบบนี้ผมเองไม่ขัดคอใครใครถนัดแบบใหนก็เอาแบบนั้น ผมเองถนัดของผมแบบนี้ ผมก็จะไปแบบนี้เมื่อได้ทรัพยากรเป็นเพชรเม็ดสุดท้ายของเหมืองนี้แล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องเดินเครื่องเปล่า และไม่ไปจัดของใคร บอกทุกคนเข้าประจำที่ รัดเข็มขัด ออกเดินทาง ปิดโรงงานที่นี่ แล้วไปฉลองความมั่งคั่งกันที่พระนิพพาน
     
  10. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ผมมันเด็กเลี้ยงควายเก่ามาแต่เดิม เรียนในโรงเรียนมาน้อย ความรู้แค่ภูมิปัญญาชาวบ้าน ฟังภาษาแบบนี้แล้วไม่เข้าใจ ต้องไปถามผู้รู้ครับ
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,261
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +70,447

    ยังไง ก็โมทนาสาธุครับ

    น้ำ ยังไงก็เป็นน้ำ คนเราก็ยังนิยมยี่ห้อ รสนิยมต่างกัน ทั้งที่เป็นน้ำเหมือนกัน


    หลายบริษัท หลายรููปแบบก็ดีแบบนี้แหละ


    ผ่อนตามอัธยาศรัยบางประการของผู้ใช้บริการ

    แต่ไม่เสียประโยชน์ใหญ่ คือ คนซื้อก็ได้กินน้ำ คนชายก็ดำรงบริษัทต่อไปได้
     
  12. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ในการสั่งสมความดีในทุกรูปแบบตามพระสัจธรรมคำสั่งสอน ผมเองโมทนาสาธุการกับทุกท่าน สภาพแวดล้อมต่างๆของแต่ละคน ย่อมไม่เหมือนกัน การบำเพ็ญของผมมันก็ทำได้แค่สถานการณ์ตรงหน้าเพียงแต่ว่าก่อนทำอะไรลงไปต้องคิดถึงสภาพแวดล้อม ผลต่างๆที่จะตามมา ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่คุยกัน
     
  13. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    สองคนนั่นคงไปปลีกวิเวก และข่าวว่าก็ไม่ค่อยอยากไปกินเหล้านอกบ้าน(คุยในกระทู้อื่น)เพราะพอฟัดกันไปไม่กี่ก๊งมันชักจะเมา คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง พอดีในบ้านผมเองก็ไม่ค่อยมีเรื่องขัดแย้งอะไรให้เถียงกัน เลยต่างคนต่างนอนคลุมโปง งีบเอาแรง พี่Amarmyก็จะไปอยู่เวร สุราใบไผ่เขียว หมักเม็ดมะขามคั่วยังเหลืออีกหลายไห ซัดกันยันสว่างสามวันสามคืนก็ไม่หมด แต่ตอนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2014
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,261
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +70,447

    ถ้าได้เคยฟัง เคยอ่าน เรื่องนางมาคันทิยา ที่หลวงพ่อฤาษีฯท่านเทศน์ไว้

    ก็จะเห็นว่า (ตามที่หลวงพ่อท่านเล่า) พระพุทธองค์ทรงรักษาประโยชน์ของคนที่จะได้ประโยชน์อันสูงคือมรรค ผล ไว้ก่อน (พ่อ แม่ของนาง) ส่วนนางนั้น
    จะต้องตกนรกอยู่แล้ว ถึงพระพุทธองค์ไม่ทรงกล่าวอะไรที่ไม่มีเจตนาหักหาญน้ำใจนางก็ตาม

    พี่PCO เป็นลูกหลานที่ศรัทธาหลวงพ่อฤาษี มีแนวการดำเนินชีวิตแบบนี้ได้
    โดยไม่ทิ้งเรื่องมรรคผลนิพพาน ก็มีความสามารถไม่ใช่น้อย ที่เปลี่ยนอาวุธพระยามาร(ไม่ใช่บุคคลนะครับ เป็นสภาวะ )มาเป็นมาลัยถวายพระได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2014
  15. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    นึกว่าทั้งสองสามท่านหายไปไหน

    ผมมันนักรับพเนจร ไร้หลักแหล่งซุ่มทุกสถานการณ์ แต่ยืนอยู่บนพื้น

    ว่าแต่ลุงกำนัน นี่ฟันไม่ธรรมดานะ ไม่รู้ว่าเม็ดมะขามคั่ว หมดไปกี่ไหแล้ว

    ทว่า..ที่ยังเหลืออีกหลายไห ต่อไปจะเคี้ยวไหวหร๊ออ

    อ๋อ หรือว่าไม่ต้องเคี้ยว เพียงแต่เอามาหมักกับใบไผ่เขียว

    เพิ่มดีกรี ความกระชุ่มกระชวย กระฉับกระเฉง ^^ :cool:
     
  16. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    แค่หมักโชว์ แล้วอาศัยกลิ่นมันก็พอ ไม่เอาดื่มไม่เอาเคี้ยวมันไม่ไหว มันแก่ใกล้จะตาย ไว้เป็นในชาติต่อไปค่อยว่ากันใหม่
     
  17. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    สุรายิ่งหมักนาน ยิ่งรสชาดดี มีราคา

    มีคำหนึ่งว่าไว้ "สุราชั้นดี ต้องมีนารีข้างกาย"

    สมแล้วๆที่ อสุรา.!! เก็บรักษาไว้ เพราะถ้าดื่มจะทำให้สูญสิ้น เสียสุขภาพ

    ข้าน้อยขอคารวะ ลุงกำนัน ด้วยชาเขียวใบหม่อน โกอิชิ :cool:

    ;aa8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2014
  18. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252

    คือมันอย่างนี้คนเรามันเลือกเกิดกันไม่ได้เขาว่างั้น แม้เราจะเป็นชาวประมง เราจะเป็นพรานล่าสัตว์ เพราะถิ่นเกิดเรามันเป็นแบบนั้น แต่เมื่อเราบังเอิญได้ฟังพระสัจธรรมคำสอน ปลาที่เราหามาได้ สัตว์ต่างๆที่เราหามาได้ ในเบื้องต้นเมื่อทำเป็นอาหารถวายพระได้ พระท่านรับ แม้จะเป็นบาปอกุศลปาณาติบาทสำหรับเรา อีตอนที่เราฆ่ามันทั้งความจำเป็นทั้งเราไม่รู้ แต่มันก็เป็นบุญอีตอนเราถวายพระ

    แต่เมื่อเราฟังเทศฟังธรรมกลับไปทำการล่าใหม่ เราก็จะเริ่มเลือกล่าแค่จำเป็น ล่าไปพราง ทำบุญไปพราง หนักๆเข้าก็มองหาอาชีพใหม่ที่เบียดเบียนชีวิตเขาน้อยลง จนท้ายที่สุดเมื่อมีอาชีพใหม่พอเลี้ยงตัวได้เราก็เลิกแบบนี้ฉันใด การที่เปลี่ยนอาวุธ จนมาเป็นมาลัยถวายพระได้ก็ใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไปลักษณะนี้

    ถือว่าเป็นวาสนาของผมอย่างมากที่ได้มาพบคำสอน ได้มาทันพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จึงได้รู้จักทำมาลัย มาถวายพระท่านได้

    เคยฟังเรื่องราวของนางมาคันทิยา แล้วผมก็ยังเก็บรวบรวมไว้

    ผมเองมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นบูรพาจารย์อยู่ก็จริง แต่บางทีตอนหลวงพ่อจำวัด ผมก็ย่องออกทางหลังวัด แอบไปฝึกเพลงกระบี่ โคจรลมปราณเจ็ดฐานของพระเดชพระคุณหลวงปู่สดเหมือนกัน เพราะแอบไปเห็นคณะศิษย์ของท่าน หาคนจนทำยายาก รูปของหลวงปู่จะติดตามร้านขายทอง ขายเพชร บริษัทห้างร้านเป็นส่วนมาก นั่นก็หมายความว่าอดีตยอดกระบี่สะท้านพุทธภูมิอย่างท่าน สมัยท่องยุทธภพ หนักไปทางทานบารมีทำให้ลูกหลานของท่านในปัจจุบันหาคนจนยาก นี่ผมก็แอบย่องๆไปเอาอย่างมา รู้แล้วก็อย่าไปบอกใคร

    แถมบางทีตอนกลับก็แอบแวะไปเรียนเคล็ดวิชาพลังฝ่ามือฟาดกับต้นไมยราบทดลองพลังลมปราณ มหาสติปัฏฐานสไตร์อุกฤษทะลุอภิญญาในแบบฉบับของยอดบูระพาจารย์พระเดชพระคุณหลวงปู่มั่นไปโน่น สายนี้โดยเนื้อแท้ วิริยาธิกะขั้นอุกฤษ หากใจไม่ถึงจริงเหมือนรุ่นครูบาอาจารย์ อย่ามาฝึกเพลงกระบี่สำนักนี้เลยเสียหายครูบาอาจารย์เปล่าๆ

    แล้วบางครั้งบางคราวหลวงพ่อไม่อยู่วัดผมก็แอบไปลง ณ หน้าทองสเน่ห์เมตตามหานิยม ของสุดยอดปรมาบูระพาจารย์พระเดชพระคุณหลวงปู่ครูบาศรีวีชัย สุดยอดกระบี่สท้านพุทธภูมิวิริยาธิกะ ที่หนักในทางเมตตาบารมี ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อไร จะทรงพระนามว่า พระศิริอาริยเมตไตร ตำราท่านว่าไว้อย่างนั้น นี่ผมก็แอบๆไปรำทบทวนท่ากระบี่ เมตตามหานิยมตามท่านมา ก็จำของท่านมาได้รางๆ

    แอบไปเห็นศิษย์ของท่านหลายท่านทางเหนือ อย่างหลวงปู่คำแสนใหญ่ หลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่ชัยวงค์ศา หลวงปู่ครูบาบุญทืม หลวงปู่ธรรมชัยเป็นต้น สายนี้ในบารสิบ เมตตาเป็นตัวนำ นั่นก็หมายความว่า พระโพธิสัตว์เจ้าแต่ละท่านนั้น ในบารมีสิบทัศ ท่านจะเน้นหนักไปทางบารมีใหน ตัวเมตตาบารมี ผมเองก็จำเป็นต้องเรียนรู้อย่างหนัก เอาไว้ป้องกันตัวเผื่อว่าจะต้องดวลกระบี่ กับบรรดาแก้วๆทั้งหลาย แล้วก็คนที่มาเป็นลูกแก้วอีกเป็นโขยง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2014
  19. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200

    แอ้ๆ กระซิบอะไรกัน ผมได้ยินน๊าาา
     
  20. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ได้ยินแล้วก็เงียบๆไว้ โบราณท่านบอกว่าเป็นคาถาลอดร่องไม่ต้องทำพิธียกขันท์ห้า ระลึกถึงพระคุณครูบูชาเทิดทูนอยู่ไว้ในดวงใจก็พอ มิต้องมากพิธี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 พฤษภาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...