ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

ที่มา : Archangel Michael via Ronna Herman: New Rays of Individualized Expression « Golden Age of Gaia

Archangel Michael via Ronna Herman: New Rays of Individualized Expression

Archangel Michael : แสงรัศมีใหม่ต่างๆของการแสดงออกมาอย่างเฉพาะของแต่ละบุคคล

ที่รักทั้งหลาย, เราจะสานต่อการตรวจสอบและการขยายตัวโดยใช้เทคนิคพิเศษต่างๆที่สำคัญที่สุด และข้อมูลที่เราได้มอบให้คุณตลอด 22 ปีที่ผ่านมา. มันคือเวลาแห่งการปลดปล่อย, การเปลี่ยนรูปแบบหรืออัพเกรดรูปแบบต่างๆของความคิดที่เป็นข้อจำกัดเก่าๆมากมาย และโครงสร้างต่างๆที่คุณได้รับมันไว้ในชีวิตที่ผ่านมาของแต่ละบุคคล.

ถ้าคุณจะใช้บางเวลาในการนั่งสมาธิหรือการพิจารณาใคร่ครวญดู, เพื่อตรวจสอบโครงสร้างต่างๆที่คุณได้สร้างขึ้นมาในความเป็นจริงแบบสามมิติหรือสี่มิติของคุณ, ซึ่งประกอบไปด้วยจิตใจ, อารมณ์, กายภาพ และแม้แต่การจำกัดต่างๆของทางจิตวิญญาณ. คุณจะรู้สึกถูกกระตุ้นว่ามันถึงเวลาที่จะปลดปล่อยสิ่งผูกมัดต่างๆที่ผูกคุณไว้, เพื่อว่าคุณจะได้เคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นและอย่างสง่างามเข้าสู่โลกที่กำลังขยายตัวและขยายพลังอำนาจในอนาคต.

หลายคนรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังอยู่ในภาวะขึงตึงขั้นสุดท้ายมาอย่างยาวนาน, ยากที่จะเร่งรีบแถมยังรู้สึกว่าพลังงานและความกระตือรือร้นของคุณนั้นกำลังอ่อนล้า, และสิ่งต่างๆที่เคยใช้เพื่อทำให้คุณตื่นเต้นก็ดูเหมือนว่ากลายเป็นทำให้เศร้าหมองและไม่สนุก.

มันเป็นเพราะว่าคุณกำลังเลื่อนระดับเข้าและออกจากความเป็นจริงต่างๆที่แตกต่างกันอย่างไพศาล หรือเข้าออกหลากหลายมิติต่างๆในเวลาเดียวกัน. และระบบทางร่างกายสี่อย่างนี้ของคุณ คือ กายภาพ, จิตใจ, อารมณ์, และกายทิพย์(etheric) ซึ่งกำลังพยายามปรับสภาพและไล่ตามจิตวิญญาญ/วิญญาณของตัวเอง(catch up with your Soul/Spiritual Self), ซึ่งมันจะทำให้รู้สึกถึงความเค้นและความตรึงเครียดอย่างมากในตัวตนของคุณทางโลก.

ผู้คนจำนวนมากกำลังก้าวกระโดดแบบควอนตัม(quantum leap)เข้าสู่การตระหนักรู้ในแบบกาแล๊กติก(Galactic consciousness), โดยอาศัยรูปธรรมในแบบระดับเก่าหรือโลกเก่าของคุณนี้ ที่กำลังหมดวาระและเลิกสนับสนุนคุณอย่างรวดเร็วมาก จนเกินกว่าที่คุณจะสามารถผสมผสานเข้ากับการสั่นสะเทือนต่างๆและพลังงานต่างๆที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ขึ้นมาใหม่ได้, รวมทั้งกรอบความคิดใหม่ของคุณ และการดำรงชีวิตอยู่ในความถี่ที่สูงขึ้น. ซึ่งถ้าคุณได้ทราบแล้วว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น, คุณก็จะไม่รู้สึกตึงเครียดและสับสนมาก.

โปรดเชื่อเราเมื่อเราบอกว่า, การปลดเปลื้องใกล้มาถึงแล้ว, ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราคือการช่วยเหลือคุณในกระบวนการนี้, เพื่อว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเปลี่ยนรูปแบบของคุณจะได้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้โดยง่ายและงดงาม. ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเหล่านี้, ซึ่งคือข้อมูลจำนวนมากมาย, การทำสมาธิต่างๆ, และการบริหารร่างกายต่างๆ ที่เรามอบให้คุณเพื่อช่วยในการเปลี่ยนรูปพลังด้านลบเก่าๆต่างๆของคุณ. กระบวนการนี้จำเป็นต้องทำเพื่อให้เกิดการแทรกซึมและผสมผสานกับการชำระล้างให้บริสุทธิ์ต่อเซลล์ต่างๆของแสงสว่างแห่งการสร้างสรรค์ - ความถี่ที่สูงขึ้น, แสงรัศมีต่างๆที่ทรงพลังอำนาจของการแสดงออกมาที่เฉพาะของแต่ละบุคคลจากพระผู้สร้างสูงสุด.

ขั้นแรกของกระบวนการนี้คือการสร้างพีรามิดแห่งพลังอำนาจและแสงสว่างของคุณในมิติที่ห้า. เมื่อคุณสร้างสถานที่ที่พิศวงนี้, ก็เท่ากับว่าคุณได้ตั้งค่าขั้นตอนสำหรับการก้าวโดดแบบควอนตัมที่เราได้บอกไป. พลังงานต่างๆที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ขึ้นมาใหม่อย่างสง่างามของพระผู้สร้างสูงสุดไม่สามารถบีมลงมาโดยตรงสู่พื้นโลกหรือเข้าสู่สภาพแวดล้อมของมิติที่ต่ำกว่ามิติที่สี่(ซึ่งก็คือมิติที่สามของโลกตอนนี้ และมิติที่สองและหนึ่ง).

มนุษยชาติมากมายและสถานที่ที่สำคัญต่างๆบนโลกยังคงไม่พร้อมสำหรับของขวัญชิ้นนี้ - มันจะสร้างความอลหม่านมากมายท่ามกลางผู้คนมหาศาลและต่อดาวเคราะห์โลกของคุณ. ดังนั้น, มันต้องถูกเขยิบลงไปหรือถูกกรองอย่างกระทันหันในวิธีนี้, เพื่อว่ามันจะสามารถเข้าถึงทั้งหมดและเพื่อประโยชน์ที่สง่างามที่สุด.

เราได้อธิบายให้คุณทราบว่าสถานีต่างๆแห่งแสงสว่างของรูปทรงพีรามิดที่แผ่รัศมีอยู่ในสถานที่ที่ผ่านเข้าสู่จักรวาลย่อยนี้(Sub-Universe), ภายในมิติย่อย(sub-dimension), ที่ซึ่งคุณทิ้งไว้ซึ่งกายทิพย์ที่ถอดแบบมาจากตัวคุณเองในแต่ละครั้งที่คุณแตกออกหรือแยกออกจากแก่นแท้ของคุณเข้าสู่เหลี่ยมมุมที่เล็กลงๆต่างๆของการตระหนักรู้ในแบบลักษณะของผู้ชายและผู้หญิง.

กายทิพย์ของคุณหรือคลื่นต่างๆที่ผูกกับแสงสว่างคือเส้นทางผ่านเข้าสู่จักรวาลย่อยนี้. เส้นใยของแสงสว่างแห่งพระเจ้าที่เชื่อมต่อคุณกับชิ้นส่วนต่างๆของตัวเองได้ถูกเชื่อมโยงกับตัวตนแห่งพระเจ้าที่สง่างามของคุณด้วย หรือหมายถึงตัวตนแห่งปัจจุบันขณะของคุณด้วย(I AM Presence), ต่อพระบิดาและพระมารดาของเราภายในใจกลางที่ยิ่งใหญ่ของดวงอาทิตย์ด้วย, และสุดท้าย, ต่อพระผู้สร้างสูงสุดด้วย.

เมื่อคุณเข้าไปสู่โลกพีระมิดแห่งแสงสว่าง, ซึ่งบรรจุแบบจำลองสามมิติของโลก, และหายใจเอาความรักหรือแสงสว่างจากพระผู้สร้างเข้าไปและหายใจเอาความศักสิทธิ์ออกมา, ซึ่งเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข, พลังงานที่อัศจรรย์นี้ถูกกรองหรือถูกเจือจางเพื่อว่ามันจะได้สามารถถูกรับไว้สำหรับทุกคนที่พร้อมและเต็มใจที่จะเปิดศูนย์กลางหัวใจของเขา. ด้วยเหตุนี้ ก็จะเป็นการเริ่มต้นกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบเข้าสู่รูปธรรมแห่งจิตวิญญาณ/มนุษย์แห่งกาแล๊กติก.

เมื่อคุณเข้าไปสู่พีรามิดส่วนตัวของคุณ หรือสร้างพีรามิดสำหรับโปรเจ๊กเฉพาะหรือภารกิจของคุณ, คุณกำลังได้เปิดเส้นทางสำหรับพลังงานขับเคลื่อนที่เต็มกำลัง, หลากหลาย, และแถบสีหลายสีของแสงรัศมีใหม่ต่างๆของการแสดงออกมาเพื่อเทลงไปในวิหารแห่งแสงสว่างของคุณและช่วยเหลือในความบากบั่นอุตสาหะของคุณ.

คุณกำลังเปิดประตูใหญ่ส่วนตัวของคุณเพื่อความอุดมสมบูรณ์, เมื่อคุณสร้างที่ว่างอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระเจ้าเพื่อร่วมกับคุณในกระบวนการสร้างสรรค์ร่วมกัน. โปรดจำไว้ว่า, เราได้บอกคุณหลายครั้งว่า, คุณคือผู้เชี่ยวชาญต่างๆของการสร้างสรรค์ร่วมกัน, คุณพึ่งจะลืมมันไป. และโปรดจำไว้ด้วยว่าความอุดมสมบูรณ์นั้นมาในรูปแบบต่างๆที่มากมายหลากหลาย.

กระบวนการหายใจลึกๆยาวๆ(Infinity Breath process ไม่รู้แปลถูกหรือเปล่านะครับ:ผู้แปล) คือวิธีการหนึ่งของการเข้าถึงพลังงานใหม่ต่างๆของพระผู้สร้าง. ขณะที่คุณจุดไฟให้กับจักระแห่งการเลื่อนระดับที่อยู่บริเวณส่วนบนสุดของสันหลัง (spinal column)และที่ฐานของสมอง, คุณได้เริ่มต้นกระบวนการของการเปิดประตูใหญ่สู่การตระหนักรู้แบบกาแล๊กติก. สิ่งสำคัญของการจุดให้ติดนี้คือส่วนหลักสำคัญที่จำเป็นที่สุดของกระบวนการวิวัฒนาการของมนุษยชาติในเวลานี้.

มนุษยชาติทั้งหมดถูกตั้งโปรแกรมเพื่อเหตุการณ์นี้, และไม่ช้าก็เร็ว, มันจะเกิดขึ้นในแต่ละจิตวิญญาณของแต่ละบุคคลบนโลก. ขณะที่คุณหายใจลึกๆยาวๆและเห็นถึงการเคลื่อนที่เป็นวงลงไปสู่โลกและออกไปสู่อากาศธาตุต่างๆ, คุณก็กำลังได้ช่วยให้ของขวัญที่พิเศษนี้สามารถใช้ได้ในมิติที่สี่,ที่สาม,ที่สอง,ที่หนึ่ง, และในทุกๆเหลี่ยมมุมของการตระหนักรู้แบบพระเจ้า.

เรียนรู้ที่จะรักษาระดับที่เหมาะสมของการรู้ตัวถึงจุดเริ่มต้นคือเครื่องมือที่สำคัญ, มันจะช่วยคุณให้บรรลุและรักษาสมดุลอย่างถูกต้องเหมาะสมในสนามพลังงานของคุณ, ด้วยวิธีที่คุณกลายเป็นอุปกรณ์ที่ถูกปรับจูนอย่างละเอียดปราณีตจะสอดประสานเข้ากันได้. ด้วยเหตุนี้, การฉายภาพจึงมีเพียงความถี่ต่างๆของความรัก/แสงสว่างโดยปราศจากความไม่เข้ากัน.

(ขออนุญาตแปลถึงแค่ตรงนี้ก่อนนะครับ:ผู้แปล)

I AM ARCHANGEL MICHAEL and I bring you these truths.

 

เล่ห์เหลี่ยมของฝ่ายมืดก็คือ การให้ข้อมูลข่าวสารที่ทำให้เกิดความกลัว นะครัช (^^)

 

สมัยเด็กญาติชอบเล่าเรื่องผี, ฝังหัวเราตั้งแต่เด็กเลย, เลยเป็นคนกลัวผีจนดูหนังผีไม่ได้, เพราะเก็บไปฝันตลอดเลย.

แต่ตอนนี้ดูหนังเรื่องไหนก็ไม่สนุกอะครับ, ไม่ได้ดูหนัง แม้แต่ดูทางเน็ตมาหลายเดือนแล้ว, หรือถ้าดูก็คือดูไม่จบอะครับ, ไม่ถึงครึ่งเรื่องก็ขี้เกียจดูแล้ว, เหมือนที่ท่านมิชาเอลบอก "สิ่งที่เคยทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเศร้าและไม่สนุก" เหมือนตอนนี้เลยครับ ดูหนังแล้วมันไม่อินกับหนังเลยอะครับ. อินกับข้อความต่างมิติมากกว่าอีกตอนนี้

 

ความกลัว ช่วยเตือนว่า ยังไม่พร้อม
ความกลัวเกิด สติขาด
สติ(รู้อยู่กับปัจจุบันขณะ)เกิด ความกลัวหายไป
(f)

 

ถ้าเดาไม่ผิด ฝ่ายนั้นจะทำให้มีข่าวของสงคราม ความขัดแย้ง ให้คนกลัว และจิตตกซึ่งจะทำให้เข้าสู่ความถี่ต่ำ (พึงระวัง ข่าวเช่นนี้)

 

ทุกสรรพสิ่งย่อมมีวัตถุประสงค์
ความกลัวไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย(ทุกอย่างคือความรักเกิดจากความรักความเมตตา)
ถ้ายังรู้สึกกลัวได้เป็นเรื่องปกติ ก็กลัวซะให้พอจนกว่าตื่น(ตื่นรู้)ขึ้นมา
แค่นี้ความกลัวก็คงดีใจที่เค้าปลุกคุณสำเร็จ
ไม่ใช่แค่ความกลัวนะคะ โกรธ เสียใจ ฯลฯ อารมณ์ด้านลบต่างๆ พวกเค้ามีประโยชน์
แค่มองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นด้วยใจด้วยความรักด้วยความรู้สึกขอบคุณ ที่สิ่งเหล่านั้นช่วยเตือนคุณ เราก็จะเป็นอิสระจากกัน ต่างฝ่ายต่างบรรลุวัตถุประสงค์
(kiss)

 

เหมือนผมเลยอ่ะคับ

 

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

ที่มา : Daily Message ~ Wednesday April 30, 2014 | Trinity Esoterics

Archangel Gabriel - Daily Message Wednesday April 30, 2014

หลายคนกำลังยึดติดอยู่กับเป้าหมายของตัวเอง, คุณจึงเลือกบางสิ่งที่คุณปรารถนาที่จะทำ และคุณเลยครอบงำสิ่งนั้นจนกว่ามันจะเกิดขึ้น, ขณะที่การมีความมุ่งมั่นและโฟกัสคือความงดงาม และจำเป็นสำหรับการสร้างสรรค์, เราพบว่าสิ่งประหลาดกำลังเกิดขึ้น, มากกว่าการร่วมสนุกในกระบวนการของการสร้างสรรค์, เราพบว่าหลายคนกำลังรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างใหญ่หลวงเมื่อคุณโฟกัสในความไม่มีอยู่ของสิ่งที่คุณปรารถนา, ราวกับว่าชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเลยตอนนี้, จนกระทั่งคุณอยู่ในพลังงานของสิ่งที่คุณต้องการ.

ที่รักทั้งหลาย, มันไม่มีเวทมนตร์ที่จะ "ไปที่นั่นหรอกนะ" ที่ซึ่งคุณจะตั้งรกรากและพักผ่อนอยู่บนเกียรติยศชื่อเสียงต่างๆที่ได้มาของคุณ, จริงอยู่ที่พวกคุณสามารถที่จะมีความสุขอย่างแท้จริงและรู้สึกถึงความอัศจรรย์และการบรรลุเป้าหมาย..เมื่อคุณได้สร้างสรรค์อะไรที่คุณต้องการจะมีประสบการณ์ได้จนสำเร็จแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้หยุดพักจากการสร้างสรรค์แต่อย่างใดเลย, เมื่อใดที่คุณได้อยู่ในทางขึ้นสูงใหม่, คุณจะสร้างมันอีกครั้ง! คุณเติบโตขึ้นเสมอและขยายตัวและเพิ่มประสบการณ์. ซึ่งนั่นคือจุดประสงค์ทั้งหมดของการมีอยู่ของรูปธรรมมนุษย์!

เมื่อใดที่คุณเข้าใจจุดประสงค์ที่เป็นรากเหง้านี้, คุณจะยกระดับเข้าสู่การมีความอัศจรรย์และความซาบซึ้งในทั้งหมดของทุกๆวันของคุณ, คุณจะโอบกอดของขวัญของแต่ละช่วงขณะปัจจุบัน. คุณจะดูแลแต่ละวันของคุณเฉกเช่นการค้นหาขุมสมบัติ, และมีชีวิตอย่างมีความหวัง, และนั่น, ที่รักทั้งหลาย, จะพาคุณไปสู่การบรรลุถึงความรู้สึกที่งดงาม, ความสงบสุขและปิติ ที่คุณได้ค้นหามาโดยตลอด.


Archangel Gabriel

ช่วยเรียบเรียงโดย : พี่ชยุต

 

ถูกเผ็งเลยหละครับ และพวกเขาก็กำลังทำแบบนี้
อยู่ตลอดเวลาซะด้วยนะครับ..สังเกตให้ดี

เพราะบางที อาจจะเหมือนเป็นการหวังดี
ออกมาเตือนให้ระวังภัยโน่นภัยนี่
หรือออกมาบอกว่า มีข่าววงในว่า
จะมีเหตุโน้นเหตุนี้เกิดขึ้น อะไรแบบนั้น

แต่ "ภัย" ที่ว่านั้นหนะ หลายครั้ง ก็มาจาก "แผน"
และ "ปฏิบัติการ" ของพวกเขาเองนั่นแหละ

................................

 

สวัสดีค่ะคุณชยุต ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณมากที่มีน้ำใจแปลเรื่องราวของการเลื่อนระดับขั้นมาให้พวกเราอ่าน ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ มันสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่ค่อนข้างอ่อนภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ได้ติดตามอ่านกระทู้ การเลื่อนระดับขั้นแล้ว ซึ่งจะตรงกับอาการของตนเองที่เป็นอยู่อย่างเหลือเชื่อ ช่วงที่ไม่ได้รับข้อมูลนี้นึกว่าตัวเองมีปัญหาทางจิต คิดจะไปพบจิตแพทย์หลายครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับหมออย่างไรดี รู้แต่ว่าตัวเองไม่ได้บ้าแน่ แต่ก็ยังอยากให้หมอช่วยวิเคราะห์ให้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เมื่อได้ติดตามอ่านกระทู้ของคุณและเพื่อนๆที่ช่วยกันแปล ถึงแม้จะติดตามอ่านยังไม่หมด แต่มันใช่เลยสำหรับตัวเอง...และค่อนข้างเชื่อในสิ่งนี้เพราะมันเกิดกับตัวเองก่อนโดยที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วเมื่อเกิดอะไรขึ้นเล่าให้ญาติๆ ฟังเขาก็หาว่าเพื้ยนและผิดปกติ นานเข้าก็ไม่กล้าเล่าเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนที่ไม่พบเจอสิ่งเหลือเชื่ออย่างเรา เล่าไปเขาก็ไม่เข้าใจ เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้นจึงใช้วิธีเข้าอินเตอร์เน็ต ก็แปลกอีกนั่นแหละว่าทำไมจึงพบคำตอบที่เราต้องการ
เรื่องแปลกล่าสุดเลยนะค่ะ เมื่อไม่กี่คืนที่ผ่านมา เมื่อตัวเองหยุดนั่งสมาธิหลังจากสวดมนต์เสร็จก็ล้มตัวนอน แต่ด้วยอาการติดนั่งสมาธิก็เลยนอนกำหนดดูลมหายใจ เมื่อจิตเริ่มนิ่งก็มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า จากนั้นก็เห็นดาวอยู่ 7 ดวงที่สว่างไสวและดวงใหญ่กว่าดาวทุกดวงที่อยู่บนท้องฟ้า แล้วก็เห็นตัวเองกำลังยืนมองดาวกลุ่มนั้นอยู่บนเนินสูงคล้ายสนามก็อฟ ขณะยืยมองอยู่นั้นดาวดวงหนึ่งในกลุ่มนั้น ซึ่งเป็นดวงที่อยู่ด้านบนทางซ้ายมือที่ตัวเองยืนดูอยู่ก็ขยายดวงใหญ่ขึ้นแล้วก็พุงแสงลงมาตรงหน้าผากของเรา จนเราผงะ สะดุ้งลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนที่นอน ลืมตามองเพดานภาพก็ยังเป็นภาพที่ท้องฟ้าในคืนเดือนมืนที่มีดาวเต็มท้องฟ้า จึงหลับตาลงแล้วคิดว่าเมื่อกี้ดาวดวงไหนพุงแสงลงมาหา ขอดูอีกทีได้มั๊ย จากนั้นก็เห็นภาพดาวดวงเดิมพุงแสงลงมาหาสว่างจ้าเต็มหน้าเลย จนผุดลุกขึ้นนั่ง หลังจากคืนนั้นเวลาสวดมนต์เสร็จล้มตัวนอนก็จะเห็นภาพดาวเต็มท้องฟ้าติดต่อกันอีกสามคืน จนรู้สึกว่าจิดเราจะยึดติดกับภาพนี้มากไป จึงใช้วิธีหลังจากสวดมนต์เสร็จก็จะใช้หูฟังครอบหูไว้แล้วเปิดเพลงฟังดังมาก ภาพนั้นจึงหายไปมาสองคืนแล้วค่ะ เราจึงต้องการหาคำตอบว่าดาวที่เห็นนั้นคือดาวอะไร จึงเข้าเน็ตค้นหาเหมือนเคย ซึ่งก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเจอรูปในเน็ตว่ามันคือ "ดาวลูกไก่" ภาพดาวในเน็ตกับภาพดาวที่เราเห็นมันคือภาพเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่เคยเข้าไปค้นหาดูภาพดาวในเน็ตเลย นี่ก้เป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเราอีกเรื่องหนึ่งเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และคิดว่าแล้วต้องการสื่อถึงอะไร....
เรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้น โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่อยากยึดติด และตอนนี้รู้สึกตัวเบาๆ ลอยๆ จิตมันว่างๆ บางครั้งก็รู้สึกเบื่อจนหลุดพูดออกมาว่า "เบื่อ" มันไม่อยากได้ใคร่มีอะไรสักอย่าง ขนาดมีคนที่พบกันตอนไปปฏิบัติธรรมเขาจะให้เงินฟรีๆ 7 หลัก ก็ปฏิเสธเขาไป เขาบอกว่าเขามีมากเกินไปและตัวคนเดียวให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน (เป็นผู้หญิงค่ะ เดียวเข้าใจผิด อิๆ) คุณว่าคนแบบนี้จะมีในโลกมั้ย เขาคอยติดตามที่จะยกเงินให้จนใช้นักสืบตามหาถึงสองปี เพื่อจะเอาเงินให้...แปลกมั๊ยล่ะค่ะ..จนต้องย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่หมด เพราะคิดว่าหากเขาไม่ต้องการสิ่งตอบแทนทำไมต้องตามหาขนาดนี้ เขาเห็นอะไรในตัวเรา จริงมั้ยค่ะ...นี่เป็นประสบการณ์แปลกเรื่องหนึ่งที่เล่าให้ฟัง...
ส่วนที่คุณชยุตว่าเราอาจจะยังคงไม่ตื่นรู้นั้น...ที่จริงสามารถสื่อสารกับครูบาอาจารย์หรือเทพผู้นำทางได้ แต่แรกๆ ไม่ยอมรับและดื้อที่จะไม่ขอสื่อสารด้วย แต่ด้วยตัวเองเฉียดตายมาหลายครั้งและก็รู้ว่าท่านช่วยอยู่ตอนนี้จึงเปิดใจยอมรับ เพียงแต่ว่าต้องมีอะไรค้างคาใจกันอยู่ เมื่อท่านสื่อมาจึงแกล้งไม่รับรู้ มันเหมือนกับอาการคนรู้สึกน้อยใจที่ถูกทอดทิ้งมาอย่างยาวนาน...แม้จะรับรู้ว่ามันไม่ถูกต้องที่ทำตัวแบบนี้...แต่...ขอเอาคืนนิดหนึ่ง...ประมาณนี้ค่ะ เฮ้อเรื่องมันยาวเล่าสักปีก็คงไม่จบค่ะ...เพื่อนๆหลายคนแนะนำให้เขียนเป็นนิยายขายค่ะ 555 (เคยคิดจะหนีด้วยการไปบวชตลอดชีวิตก็ถูกขัดขวางเกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน)
หวังว่าคุณชยุตจะนำเรื่องราวแปลกๆของตัวเองมาเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันแบบนี้เรื่อยๆ นะค่ะ เพราะรู้สึกว่าเข้ากระทู้นี้แล้วสื่อสารกันรู้เรื่อง รู้สึกสบายใจ อีกคนที่ต้องขอบคุณคือคุณ nununo ที่หาลิงค์ให้อ่านค่ะ ขอบคุณในน้ำใจจริงๆ ค่ะ

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - กลุ่มดาวลูกไก่)

คำว่า "ตื่น" ในความหมายของแนว New Age นี้
ผมรู้สึกว่า คือรู้สึกเอาเองคนเดียวนะครับ ว่า..
มันจะมีนัยยะว่า ตื่นขึ้นมาจากการถูกครอบงำของ
ข้อมูล - ข่าวสาร - สิ่งที่ถูกปลูกฝังมา - ความคิด - ความเชื่อทั้งหลาย
ที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงในระดับจักรวาล
โดยสังคม - ศาสนา - วัฒนธรรม - พ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงคนรอบข้าง
และรวมถึง "สื่อ" ต่างๆด้วย

คือตื่นขึ้นมาสูุ่ความเป็นจริงในระดับจักรวาล
ตื่นขึ้นมาสู่สัจธรรมในระดับจักรวาล ที่ว่า..
แก่นแท้ของเรามีความยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์เพียงใด
ว่า..ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ว่า..ฯลฯ

ที่ผมบอกว่าคุณอาจจะยังไม่ตื่น ก็เพราะนัยยะนี้แหละครับ
เพราะว่าคุณยังกลัวอยู่ กลัวกะอีแค่เห็นภาพนิมิตพวกนี้เท่านั้นเอง
แล้วจะนับประสาอะไรกับภารกิจใหญ่ และ สำคัญยิ่งยวด
ที่คุณรับอาสาลงมาทำ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรวมหละครับ

ไม่ว่าคุณจะเรียกว่ากลัว หรือจะเรียกว่า ดื้อ ที่จะสื่อสารกับเบื้องบน
หรือที่จะ "ใช้งาน" สิ่งที่ตัวเองได้นำติดตัวมาด้วยแต่กำเนิดแล้ว ก็ตาม
แต่นั่นก็เพราะอิทธิพลของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ผมได้กล่าวไปแล้วนั่นแหละ
ไม่มากก็น้อย ที่ทำให้คุณมีความเข้าใจว่าจะต้อง "ไปกลัว" มัน

แล้วเมื่อไหร่ที่คุณ "ตื่น" จากการถูกครอบงำ
ของความกลัวกิ๊กๆก๊อกพวกนั้นได้แล้ว
คุณถึงจะเริ่มเดินหน้าทำภารกิจของตัวเองได้อย่างเต็มศักยภาพ
อย่างที่ควรจะเป็น..

แต่คุณอาจจะบอกว่าคุณก็กำลังทำภารกิจของตัวเองอยู่แล้วนี่
แต่ให้ผมเดานะว่า..ศักยภาพที่แท้จริงของคุณนั้น
มันยิ่งใหญ่ และเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจมากกว่าที่คุณอาจจะคิดเอาไว้มากมายนัก
ดังนั้น ถ้ามันมาแบบเต็มๆหละ คุณจะทำประโยชน์ให้กับโลกใบนี้
ได้มากขึ้นอีกซักแค่ไหน..นึกออกไหม๊ครับ?

ปล..คุณก็อาจจะเหมือนกับผม ที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างใดอย่างหนึ่ง
อยู่กับดาวลูกไก่เหมือนกัน..และก็บังเอิญอีกเหมือนกัน
ที่ไม่กี่วันมานี้ผมก็มีความฝันอันหนึ่ง
ที่ทำให้ผมพูดอย่างที่พูดไปแล้วเมื่อซักครู่นี้ได้
ที่เกี่ยวกับดาวลูกไก่หนะนะครับ

............................................

 

จะว่าไปแล้ว พักนี้ผมก็ฝันแบบตะลุยจักรวาลไปทั่วเลยนะครับ
ไม่รู้ไปโผล่ที่ไหนมาบ้าง มันเยอะแยะไปหมด
บางทีก็ฝันหลายๆซีนซ้อนๆกัน ในเวลาเดียวกันก็มี
จนสมองเรียงลำดับ และ จดจำไม่หวาดไม่ไหวเลย อิอิ

แล้วก็..ดูเหมือนว่าข้อความของท่าน Hilarion สัปดาห์นี้
ท่านพี่อจิตตะกำลังรอให้ผมแปลและโพสต์อยู่กระมัง
คุณพี่ท่านถึงได้นิ่งๆอยู่เช่นนั้น..อิอิ..ผมรู้แล้วหละครับ
และดังนั้น ผมเลยกำลังแปลอยู่
แล้วก็คาดว่าจะเสร็จและโพสต์ได้เร็วๆนี้แหละครับ

...........................................

 

ใช่เลยค่ะคุณชยุตภาพนี้เลยค่ะ...สำหรับความกลัวนั้น ถ้าเทียบกับเมื่อหลายปีก่อนถือว่าตัวองแทบจะไม่มี แต่ที่แสงพุ่งเข้าใส่ คิดว่าน่าจะเป็นสัญชาตญาณของคนเราที่สะท้อนออกมาเหมือนกับมีคนสาดน้ำเราเวลาเราอยู่ในรถ รู้ทั้งรู้ว่าไม่เป็นไร เราก็ยังหลับตาเมื่อเขาสาดน้ำใส่กระจกรถเรา อาการมันเป็นอย่างนั้นละค่ะ ส่วนค่ำว่า"ตื่น"ก็เข้าใจอย่างคุณชยุตว่า เพียงแต่จะชอบเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ ที่เราเชื่อมาแต่เดิม เมื่อข่าวสารมาใหม่มันเป็นแบบนี้ แล้วจะคิดว่าที่ผ่านมาอะไรเป็นปัจจัยทำให้เราเชื่อได้กันมาอย่างยาวนาน...อะไรประมาณนี้แหล่ะ เพราะเป็นคนชอบคิดนอกกรอบที่คนทั่วไปเขาคิดกัน จึงถูกเรียกว่าพวก "NGOs" นั่นแหละค่ะ ที่ตัวเองมีมีแนวคิดแบบนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะงานที่ตัวเองทำ คือ ทำวิจัยสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติ จึงทำให้ค่อนข้างที่มีแนวคิดต่างจากคนในสังคมทั่วไป ที่ถูกหล่อหลอมจากสิ่งที่เราต้องทำมันอยู่ทุกวัน อีกอย่างตัวเองเกิดในถิ่นที่นับถือในเรื่องของจิตวิญญาณควบคู่ไปกับการนันถือศาสนาด้วย จึงน่าจะถูกครอบงำและค่อนข้างที่จะตื่นช้ากว่าคนอื่น ประมาณว่าคอยแต่จะมีอะไรมาขวางไม่ให้เดินไปข้างหน้านะค่ะ...แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลมาจากการฝึกสมาธิของเรา ซึ่งตัวเองเชื่ออย่างนั้น แม้แต่คนอื่นก้เห็นในความแปลี่ยนแปลงของเราที่ร่างการและจิตใจ...

 

อาการที่เห็นแสงยุ่บๆยั่บๆนั่นไม่เคยหายไปเลยค่ะ
มันคงอยู่ที่นั่นเสมออยู่ที่ว่าเราจะให้ความสนใจหรือเปล่า
เราเคยมีโมเม้นต์นึงนะคะที่มีความรู้สึกราวกับว่า
เราได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับอากาศโดยรอบ
ตัวเราหายไปในความลื่นไหลกลมกลืนของทุกสรรพสิ่ง
แต่ถ้าพูดถึงเจ้าพวกเม็ดๆตอนนี้ เรารู้สึกเหมือนเค้าค่อยๆ
ซึมเข้ามาเหมือนภาพโฆษณาที่เวลาทาครีมแล้วเนื้อครีม
ซึมเข้าผิวยังไงยังงั้นเลยล่ะ

และก้เหมือนที่หลายๆท่านได้โพสต์ไว้
ความรู้สึกภายในมันปั่นป่วนเอามากๆ
เหมือนเรากวนน้ำจนตะกอนที่นอนก้นมันขุ่นขึ้นมา
ให้เห็นว่ามันยังหลงเหลืออะไรบางอย่างอยู่
มันไม่ได้หายไปทั้งหมดจริงๆ

ในขณะเดียวกันการรับรู้อารมณ์ด้วนบวกมันก็ไวขึ้นด้วย
มันเซ้นสิทีฟ พอๆกันทั้งสองขั้ว เราก็เลยใช้ความรู้สึก
ด้านบวกที่มีเป็นตัวช่วยค่ะ ไม่ใช่เอาไปข่มด้านลบนะคะ
เราใช้วิธีเพิ่มพลังให้ด้านบวกให้มากขึ้นๆแทน
จนรู้สึกว่ามันสมดุลย์ขึ้น

ลองทำดูนะคะเผื่อว่านี่จะเป็นวิธีนึงที่พอจะช่วยได้บ้าง
รัก คิดถึง และขอบคุณเพื่อนๆและพื้นที่แห่งนี้เสมอค่ะ

 

ดูเหมือนสัญญาณใจมันจะแรงไปไม๊นี่...อิอิ & อิอิ
ก็ฝากคุณแปลของ คุณ Hil...ไปก่อนละกันนะ...

2เรื่องยังค้างจออยู่เลย....หากแปลให้เสร็จเร็วคงดี...
- IS ASCENSION REALLY HAPPENING?
การเลื่อนระดับมันกำลังเกิดขึ้นจริง ๆ น่ะหรือ?
- How To Shift Into The 5th Dimension : 7 Things You Must Know...
จะเลื่อนขึ้นสู่ มิติที่ 5 อย่างไร? : 7 สิ่งที่คุณต้องรู้

เรื่อง 7 สิ่งนี้เหมือนผ่านตาว่าคุณชยุตแปลแล้ว
แต่ก็หาไม่พบ...ก็เลยแปลดีกว่า...

ส่วนเรื่อง"ดาวลูกไก่"นี่นะ...
เจออยู่คนนึงชอบร้องแต่เพลง "ดาวลูกไก่" ของคุณพร พิรมย์
ร้องมาสี่ห้าสิบปีแล้ว จำเนื้อเพลงแม่นซะ...อย่างนี้ไม่รู้ว่า จะเยอะไปหรือเปล่านี่...2อิอิ

 

ผมก็รักและคิดถึงเพื่อนๆที่นี่มว๊ากกว่าที่อื่นครับ
ปล.อย่าลืมพกน้ำไว้ติดตัวด้วยครับ ด้วยรักและเป็นห่วง

 

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ กับทุกๆก้าวย่างอันศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม
ที่คุณกำลังทำอยู่เพื่อโลกใบนี้และเพื่อทุกผู้ทุกนาม

อันที่จริงผมก็แค่กระตุ้นเอาความกล้าและความหึกเหิม
ออกมาจากภายในของคุณเองเท่านั้นแหละครับ..

แล้วจากนั้น พวกเราก็คอยดูกันต่อไป..
คอยดูตัวเองและเพื่อนๆร่วมทางสายนี้คนอื่นๆด้วย..
ว่า..สิ่งดีๆมากมายและอัศจรรย์ จะเกิดขึ้นกับทุกผู้ทุกนามจริงหรือไม่
โดยเฉพาะกับใครๆที่เป็นแนวหน้าบนเส้นทางสายนี้หนะนะครับ
ก็จะได้เจอก่อนเพื่อน เพราะเสมือนเป็นทัพหน้าว่างั้นเถอะ 555

โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมก็กำลังเฝ้าดูมันค่อยๆคลี่คลายออกมาอยู่เรื่อยๆเช่นกันครับ
แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่จะเล่าให้ฟังได้เท่านั้นเอง
รออีกหน่อยครับ ถ้ามีอะไรดีๆจะเอามาเล่าให้ฟังเช่นเคยครับ

...............................

 

ทั้งสองข้อความนั้น ผมว่าผมยังไม่ได้แปลนะครับ
ถ้าผมไม่ลืมนะครับ..สรุปว่า ก็แปลไปได้เลยครับ

ที่ต้องบอกว่า ถ้าผมไม่ลืม ก็เพราะว่า
ตอนนี้สมองกำลังมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับความจำอย่างหนักครับ
หนักขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก็ไม่ใช่การเป็นโรคร้ายอะไรหรอกหนะครับ
เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับการเลื่อนระดับขึ้น
มันเกี่ยวกับการรับข้อมูลข่าวสารหลากมิติมามากกว่าปกติ
จนสมองมันโอเวอร์โหลด และสับสนไปหมด
จนจำอะไร โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องพื้นๆ
และเรื่องที่เราไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยได้

แล้วก็..สภาวะจิตใจตอนนี้มันเบาสบายมากกว่า และบ่อยครั้งกว่าแต่ก่อนเยอะ
หลายครั้ง มันก็จะรู้สึกนุ่มนิ่มไปหมด ในทุกอริยาบทของตัวเอง
เหมือนตัวเองกำลังดูภาพสโลโมชั่นของตัวเองอยู่กรายๆอย่างงั้นแหละ แหะ แหะ
ก็แปลกดี แต่ชอบครับ เพราะมันนุ่มๆดี
แต่ก็ยังเป็นไม่เยอะหรอกนะครับ
เป็นนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง พอให้ได้ชิมลาง

และพอมีอาการอย่างนี้แล้ว ผมก็เลยย้อนกลับไปคิดถึงข้อความของคุณป้า Almine เข้า
ซึ่งผมโพสต์ไว้ในกระทู้ Almine หนะนะครับ
ว่า..ตอนที่เธออายุครบ 42 ปี เธอเริ่มบรรลุธรรม
และเธอก็เริ่มมีประสบการณ์ทางจิตคล้ายๆอย่างงี้แหละครับ



http://palungjit.org/threads/almine...r-และ-คู่มือการเลื่อนระดับขึ้น-จากเธอ.315634/

เธอบอกว่าเวลาเธอเดิน มันจะรู้สึกเบาสบาย
จนเธอไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าเท้าของเธอหนะกำลังแตะพื้นอยู่หรือเปล่า
แล้วหลังจากนั้นมา เธอก็คงจะค่อยๆอ่อนเยาว์ลงเรื่อยๆ
จนกลายเป็นคนที่หน้าตาไม่เหมือนคนอายุ 65 ปีกระมัง

ท่อนหลังนี่เธอไม่ได้บอกไว้ แต่ผมเดาเอาเองนะครับ
เพราะเห็นต่างมิติบางท่านก็เคยพูดเอาไว้อยู่บ้างเหมือนกัน
ว่าบางคน ร่างกายเนื้อของพวกเขา ก็จะเจริญเติบโตย้อนกลับได้
และก็อย่างที่ Almine พูดเอาไว้ว่า
การเป็นอมตะ เป็นแค่ทางเลือกอย่างหนึ่งเท่านั้น
ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
เพียงแต่ว่าผู้ใดที่บรรลุธรรมถึงขั้นนั้นแล้ว
จะเลือกเดินทางนี้หรือไม่เท่านั้นเอง
..................................................

 

Free Energy Live In Action – The Quantum Energy Generator in Morocco 04/28/14

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=_7--G5qSDag#t=29]QEG Resonance in Morocco - OPC: Aouchtam 04/28/14 - YouTube[/ame]

Free Energy Live In Action – The Quantum Energy Generator in Morocco | Illuminations Now!!

 

หากต้องการรู้ว่าสภาาวะของคุณกำลังอยู่ในมิติที่ 3 หรือ มิติที่ 4
ในด้านของ "สัมพันธภาพ" Comparing 3d to 4d relationships
ก็ลองตรวจสอบกันดูนะ...แต่ได้ไปโพสท์ไว้กระทู้ข้างล่างนี้จ๊ะ...

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ.492683/

และขอให้ทุกคนโชคดี ได้ 4-D กันถ้วนหน้านะ...
อจิตตะ...