ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

(f)(f)(f)(f)(f)(f)

 

คุณเป็นคนดีนะครับ (อ่านแล้วรู้เลยว่าคุณเป็นคนดี เป็นกำลังใจให้คับ)

 

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

ที่มา : Multi-dimensional Ocean – SaLuSa on the Present Energies – 4-23-14 | Higher Density Blog

Channel: Multidimenisonal Ocean

– SaLuSa on the Present Energies – 4-23-14

พลังงานต่างๆ ณ ขณะนี้

ที่รักทั้งหลาย, เรามาหาคุณพร้อมกับข้อความอีกครั้ง, แสงสว่างกำลังสาดส่องอย่างแข็งแรงไปทั่วโลกในสองสามวันที่ผ่านมา, คุณน่าจะสามารถรู้สึกถึงความรักและพลังงานระดับสูงต่างๆที่กำลังแผ่ไปทั่วดาวเคราะห์โลก และรวมถึงรูปธรรมชีวิตต่างๆที่อาศัยอยู่กับโลกด้วย.

หลายคนอาจจะรู้สึกว่ากำลังต้านทานพลังงานต่างๆเหล่านี้ในช่วงเริ่มต้น, มันคือการตอบสนองโดยธรรมชาติของร่างกายและจิตใต้สำนึกเพื่อต้านทานสิ่งที่ไม่คุ้นเคยและต้านทานการทำลายรูปแบบต่างๆของพฤติกรรมแบบเก่าของคุณ, มันเป็นการตอบสนองโดยสัญชาตญาณทางธรรมชาติต่อภาวะการทำลายสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดต่อคุณ และต่อพลังงานใหม่ต่างๆจากพระเจ้าด้วย.

พลังงานเก่ากำลังสลายไปอย่างช้าๆจากโลกนี้, และสลายไปจากร่างกายของคุณด้วย, เรา(หมายถึงโลกและทุกชีวิตที่อยู่กับโลก:ผู้แปล) กำลังอยู่ใกล้อย่างมากกับจุดแห่งทางลาดขึ้นหรือยกระดับขึ้น (tilting and shifting point) ที่ Light worker ทั้งหลายได้บอกไปทางอินเตอร์เน็ต.

ที่รักทั้งหลาย, วันต่างๆที่กำลังจะมาถึงนี้, จะเป็นพลังงานที่ถูกชาร์จพลังขึ้น(charged up) และผลต่างๆของมัน. สิ่งที่คุณได้เผชิญผ่านมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น, คือ "การเปิดช่องโหว่", ตอนนี้ คุณกำลังจะได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ต่างๆของการเปิดนี้ผ่านเข้าสู่หัวใจของคุณ.

หัวใจคือประตู, อย่างที่คุณรู้, ไม่ได้มีแต่ในมิติต่างๆแห่งความรักในระดับสูง, แต่ในอาณาจักรแห่งความรู้สึกต่างๆของคุณเองด้วย และในประสาทสัมผัสต่างๆของร่างกายของคุณ, ผ่านเข้าสู่ความรู้สึกต่างๆของคุณ.

อีกครั้ง, ฉันอยากจะย้ำเตือนว่าอารมณ์ต่างๆและความรู้สึกต่างๆ, สองสิ่งนี้นั้นค่อนข้างแตกต่างกันเลยทีเดียว. เพราะอารมณ์ต่างๆนั้นสามารถเปลี่ยนเข้าสู่ด้านลบได้, ขณะที่ความรู้สึกต่างๆจะไม่สามารถเปลี่ยนเข้าสู่ด้านลบใดๆได้เลย.

ฉันรู้ว่ามันยากที่จะเข้าใจกับคำพูดที่อธิบายเพียงเล็กน้อยนี้, แต่ก็ให้ลองพิจารณาถึงมันบ้างบางครั้งบางคราว, และถามตัวคุณว่าคุณกำลังรู้สึกแบบไหน. อีกวิธีหนึ่งในการสังเกต, มันคือความจริงที่ว่าอารมณ์ต่างๆจะเป็นปฏิกิริยาสะท้อนต่อเหตุการณ์ต่างๆภายนอก, อารมร์จะถูกยั่วยุโดยภายนอก. ขณะที่ความรู้สึกนั้นมาจากภายใน อย่างจำเพาะเจาะจงจากหัวใจของคุณ, ความรู้สึกทั้งหลายมาจากพระเจ้าและความศักดิ์สิทธิ์.

เมื่อคุณรักใครซักคน, มันสามารถเป็นทั้งอารมณ์ต่างๆหรือความรู้สึกต่างๆ. ความรักไม่เคยเลือนจางหายไป, ความรักที่แท้จริงจากพระเจ้ามาจากส่วนลึกของหัวใจและจะอยู่ไปชั่วนิรันดร์.

ส่วนความรักแห่งอารมณ์สามารถเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่ตรงข้างกับความรักได้.

หลายคนจะรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องยุติความสัมพันธ์ต่างๆที่ไม่มีความหมายต่อไปแล้วสำหรับพวกเขา, และจะเรียนรู้เพื่อปล่อยสิ่งเหล่านั้นไป. มันจะเป็นเพียงการสร้างห้องที่เหมาะสมมากขึ้นต่อความสัมพันธ์ต่างๆกับผู้คนผู้ซึ่งเชื่อมต่อมากขึ้นกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ, ต่อหัวใจที่แท้จริงของคุณ.

คุณกำลังเริ่มต้นที่จะเปิดเผยความรักนั้นข้างนอกร่างกายของคุณ, คุณกำลังเริ่มต้นที่จะรวบรวมงานที่หนักบนโลก, และความสวยงามของความรักที่แท้จริงที่กำลังเติบโต. ไม่มีความกลัวต่อการสูญเสียผู้เป็นที่รักด้วย, ขณะที่การเชื่อมต่อต่างๆของความรักที่แท้จริงถูกสร้างขึ้นแล้วตลอดกาล.

หลายคนจะรวมเข้ากันใหม่กับผู้เป็นที่รักที่มีมาอย่างยาวนานทั้งหลาย, จากอดีตชาติก่อนๆ, จากกาแล๊กซี่อื่นๆ, พร้อมด้วยครอบครัวและพี่น้องทั้งหลายในสัปดาห์ต่างๆที่กำลังมาถึง(over the coming weeks)(ใกล้ถึงเวลาแล้วเหรอ:ผู้แปล), และบางทีอาจจะอีกไม่กี่วัน(even perhaps days.) (อู้ย ยิ่งเร็วเข้าไปใหญ่ อย่าให้รอเก้อนะคราวนี้: ผู้แปล), ตอนที่ม่านบังแห่งมายาต่างๆยังไม่ได้ทลายไปนั้น, ผู้คนเหล่านี้ก็อยู่ใกล้ๆคุณนั่นแล่ะ แต่คุณไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง, แต่ตอนนี้ ม่านบังแห่งมายาต่างๆกำลังพังทลายลง, ตอนนี้พลังงานเก่าและความไม่จำเป็นต่างๆกำลังพลังทลายลง, คุณจะเริ่มต้นที่จะเข้าใจถึงชีวิตใหม่ของคุณ, ทุกๆสิ่งจะกระจ่างชัดมากขึ้นต่อคุณและผู้คนมากมาย.

ผู้คนเหล่านั้นจะมีดวงตาที่เปิดแล้ว ท่ามกลางชาวโลกที่กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น(half asleep) , อย่างไรก็ตามผู้คนเหล่านั้นจะสร้างความแตกต่างอย่างมหึมาในคุณภาพแห่งการสั่นสะเทือนต่างๆของดาวเคราะห์โลก, และต่อสิ่งต่างๆรอบตัวคุณ.

อันที่จริงคือ ระดับของการตระหนักรู้จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว, และในท้ายสุดจะท่วมท้นไปทั่วทั้งโลก.

มันยังจะคงมีความยุ่งเหยิงอลหม่านและความสับสน, เช่นเดียวกับ ความกลัวของผู้คนที่ยังไม่สอดประสานกับพลังงานต่างๆเหล่านี้, ซึ่งจะไม่สามารถทนอยู่กับพลังงานเหล่านี้ได้นานนัก.

นี่จึงกลายเป็นกรณีต่างๆของการรักษาเยียวยา: สิ่งต่างๆเลวร้าย, ก่อนที่มันจะดีขึ้น, สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะความต้านทานที่แข็งแกร่งต่อพลังอำนาจที่สูงกว่าและพลังงานต่างๆแห่งแสงสว่าง.

แสงสว่างจะได้ชัยชนะที่นี่, โปรดอย่าเข้าใจผิด. คุณได้เลือกที่พักของคุณไปแล้ว, กล่าวคือ, คุณได้เป็นคนเลือกเองที่จะมามีกายเนื้อที่ดาวเคราะห์โลก สำหรับการเลื่อนระดับที่งดงามนี้.

We love you very much.
Thank you, SaLuSa

 

สมาธิในที่นี้ น่าจะหมายถึง สมาธิแบบที่นิ่งสงบอยู่ในอารมณ์อันเดียวน่ะค่ะ ส่วนมากก็ได้พวกหูทิพย์ ตาทิพย์ ฯลฯ แต่ไม่ได้เป็นไปเพื่อการละ เพื่อปล่อยวาง
แต่สมาธิชนิดนี้ก็มีผลดีตรงที่ช่วยให้จิตสงบไม่ซัดส่ายไปมา(ทางปฏิบัติเค้าเรียกกันว่าสมถะ)

แต่ถ้าเกิด ได้ พวกหูทิพย์ ตาทิพย์ ฯลฯ อะไรมาแล้วหลงคิดว่าบรรลุนั่นนี่แล้ว ไม่เจริญปัญญาซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นได้จริง ก็จะกลายเป็นคล้ายๆกับติดกับดักของกิเลสอยู่ดี อันนี้คงนึกภาพกันออกนะคะ


ไม่ใช่ไม่สนับสนุนการทำสมาธินะคะ เพราะมีอีกทางหนึ่งที่อาศัยสมาธิสติก็เกิดเมื่อมีสติก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะก่อให้เกิดปัญญาค่ะ และปัญญาจะก่อให้เกิดการถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นค่ะ
ซึ่งคือหัวใจคือเป้าหมายที่แท้จริง ฝึกปฏิบัติเพื่อให้รู้ให้เห็นความจริงเพื่อละเพื่อวางไม่ใช่เพื่อให้ได้อะไร วางหมดเมื่อไหร่หรือไม่ยึดอะไรเมื่อไหร่ก็กลับไปเป็นสิ่งๆนั้นดังเดิม (อ่านแล้วเห็นต่างได้นะคะ เป็นเรื่องปกติ^__^);43

 

ช่วงนี้อะไรๆก็กำลังเข็มข้นเข้ามาเรื่อยๆนะครับ ใกล้แหล่ะ

 

อ๋อ..เป็นหนังสือของอาจารย์สถิตธรรมหนะครับ
ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ก็เป็นอีกผู้หนึ่งหละ ที่มาทำภาระกิจพิเศษ
บนโลกใบนี้ เหมือนกับเราๆท่านๆในที่นี้แหละครับ

ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ถูกกล่าวถึงโดยอาจารย์ท่านนี้นะครับ

https://www.se-ed.com/product/Secre...tm_source=มิติที่+5&utm_medium=name&utm_term=

ถ้าใครอยู่ที่เมืองไทย ก็ลองไปหาซื้อมาอ่านดู
แล้วเอาข้อมูลในหนังสือมาสรุปย่อๆเล่าสู่เพื่อนๆในนี้ฟังด้วยนะครับ

.......................................

 

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ข้อความสื่อสารจากท่าน Hilarion
ประจำสัปดาห์ที่ 20 – 27 เมษายน 2014

ที่มา: HILARION 2014 - The Rainbow Scribe


ที่รักทั้งหลาย

ในขณะนี้ มันกำลังมีการดาวน์โหลดของพลังงาน และการปรับตั้งค่าใหม่
จำนวนมากมาย เกิดขึ้นภายในร่างกายของพวกคุณอยู่
ซึ่งมันก็สามารถที่จะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายขึ้น
ภายในร่างกายของพวกคุณได้ ในหลายๆด้านด้วย
เช่น เกิดอาการเจ็บปวด และเมื่อยล้าบริเวณข้อต่อต่างๆ,
มีเสียงดังก้องอยู่ในหู, มีอาการปวดและกดเจ็บตรงจุดต่างๆของกระดูกสันหลัง,
รู้สึกหงุดหงิด, มีอาการวิงเวียนศีรษะแบบเป็นๆหายๆ,
มีพลังงานที่รุนแรงไหลผ่านลงไปจนถึงฝ่าเท้า และอาการอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ว่าพวกเขากำลังอยู่ในขั้นตอนใดของการขยายตัวด้วย

การเปลี่ยนรูปแบบของร่างกายเนื้อ, กายแห่งจิตใจ และกายแห่งอารมณ์ของพวกคุณ
กำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอยู่
ดังนั้น บรรดาผู้ที่อยู่ในระดับแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย
จึงมีความไวต่อผลกระทบของมัน ที่มีต่อ “ระบบปฏิบัติการมนุษย์” ของพวกเขาเอง
มากกว่าคนอื่นๆ และจึงทำให้บางครั้งพวกเขารู้สึกว่า ความตึง, ความเครียด,
ความวิตกกังวล, ความหงุดหงิด และความรู้สึกไม่สบายที่บริเวณจักระที่ 3
หรือบริเวณกึ่งกลางท้อง ( solar plexus) ของพวกเขา
ดูเหมือนจะไม่มีวันจบสิ้นลงซะที

ซึ่งอาการเหล่านี้ทั้งหมด คืออาการของการเริ่มเปิดขึ้นมา
หรือ การเปิดขึ้นมา มากขึ้นกว่าเดิม
ของ “สัมผัสทางจิต หรือ ญาณทิพย์”
(psychic senses) ของพวกคุณเอง

ดังนั้น จงหัดเป็นคนที่ช่างสังเกตให้มากขึ้น ในชีวิตประจำวันของพวกคุณเอง
และจงคอยมองหาเงื่อนงำเล็กๆน้อยๆที่บ่งบอกถึงการเปิดขึ้นมา
ของ “สัมผัสพิเศษ” (expanded senses) และ “ญาณหยั่งรู้”
(expanded perceptions) ของพวกคุณด้วย
ซึ่งพวกคุณแต่ละคน จะมีวิธีการใช้งานญาณหยั่งรู้
และความสามารถพิเศษต่างๆของตัวเอง ในแบบที่แตกต่างกันออกไป
และพวกคุณแต่ละคนก็กำลังจะค้นพบแล้วว่า “พรสวรรค์” (gifts) อันไหนบ้าง
ที่เข้มแข็งมากที่สุด และเป็นธรรมชาติมากที่สุดสำหรับพวกคุณ
นั่นแหละคือพรสวรรค์ที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับพวกคุณแต่ละคนหละ

ในขณะที่พลังงานปริมาณมหาศาล ยังคงแทรกซึมเข้ามา
ในชั้นบรรยากาศของพวกคุณเรื่อยๆอยู่นี้
“ความสามารถพิเศษ” ต่างๆ ที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณแต่ละคน
ที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ก็จะค่อยๆเปิดเผยตัวมันเองออกมา
มากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย ด้วยวิถีทางที่ยอดเยี่ยมและน่าอัศจรรย์

แต่มันก็จะมีความไม่สะดวกสบายต่างๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้เป็นการชั่วคราวด้วย
ซึ่งจำเป็นจะต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการนี้
และมันก็ไม่มีทางอื่นเลย นอกจากจะต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้เท่านั้น

มีพวกคุณจำนวนมากมายที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับคลื่นความถี่ต่างๆ
ที่แทรกซึมเข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศของโลกอยู่ในขณะนี้ได้
ซึ่งก็นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกคุณ
เพราะว่ามันจะช่วยให้พวกคุณสามารถที่จะผสานเอา และดูดซับเอา
พลังงานเหล่านี้ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และยังช่วยให้พวกคุณ
สามารถทำหน้าที่เป็นท่อนำส่งของพลังงานเหล่านี้
ให้ไหลลงไปสู่แกนกลางของดาวเคราะห์โลกที่เป็นผลึกเพชรได้อีกด้วย

และเมื่อพวกคุณทำเช่นนี้แล้ว ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังนำเอาสรวงสวรรค์
มาตรึงไว้บนโลกใบนี้อยู่ และการระลึกให้ได้เช่นนี้อยู่เสมอ
ก็จะช่วยให้พวกคุณมีความมานะพยายามที่จะทำภาระกิจนี้ของตัวเองต่อไป

มันเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่พวกคุณจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาทีในแต่ละวัน
เพื่อฝึกจิตของตัวเอง โดยวิธีใดก็ได้ที่เหมาะสมกับตัวพวกคุณเองแต่ละคนมากที่สุด
เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถจัดวางตัวเองให้เข้ากับแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองได้
และเพื่อที่จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งขึ้นมาด้วย

สำหรับใครก็ตามที่มายังโลกใบนี้ เพื่อมาเลื่อนระดับขึ้น
ในขณะที่ยังคงอยู่ในกายเนื้อของตัวเองหละก็
เป้าหมายของพวกคุณก็คือการผสานรวมเข้ากับ
ความเป็นพระเจ้าของตัวพวกคุณเองให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

และแน่นอน นั่นก็หมายความว่า พวกคุณจะต้องพร้อม
และยินดีที่จะปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายอันสูงส่งกว่าที่ว่านี้
ออกไปให้หมดด้วย

ดังนั้น อารมณ์และความคิดทุกๆชนิดของพวกคุณ
ที่จำกัดจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
เอาไว้ให้อยู่แต่ในระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆทั้งหลาย
จะต้องได้รับการชำระ และ การล้างให้สะอาด
ด้วยไฟอันศักดิ์สิทธิ์แห่งการชำระให้บริสุทธิ์ทั้งหมด

เพราะฉะนั้นแล้ว การดูดซับเอา “เปลวเพลิงสีม่วง”
(the Violet Flame) แห่งการชำระล้าง
และการนำเอามันมาใช้งานในทุกๆวัน
จึงมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับกระบวนการนี้

การทำความสะอาดจักระต่างๆของพวกคุณในทุกๆวัน
ก็เป็นสิ่งที่ “จะต้องทำ” ด้วยเช่นเดียวกัน
ซึ่งกระบวนการนี้มันใช้เวลาและความตั้งใจเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง
เพราะสุขอนามัยด้านจิตวิญญาณอันนี้ ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
ต่อการกลายไปเป็นผู้บงการจิตมนุษย์ฝ่ายต่ำของตัวเองด้วย
เพื่อที่พวกคุณจะได้สามารถเนรมิตตัวเองให้กลายไปเป็น
“เวอร์ชั่นที่พัฒนาแล้ว” ของตัวเองได้ซะที ในฐานะที่เป็น
“มนุษย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์” (Divine Human) คนหนึ่ง
ซึ่งมีขีดความสามารถต่างๆมากขึ้นกว่าเดิม แบบหลากมิติ

มันจะมีบางช่วงเวลาที่ความรู้สึกคับข้องใจ และความตึงเครียดของพวกคุณ
จะถูกแสดงออกมาในรูปแบบของคำผรุสวาท
ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่มีระดับสั่นสะเทือนสูงสุดเลย
และเมื่อใดที่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น มันมีความสำคัญมาก
ที่พวกคุณจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า มันเป็นผลกระทบขั้นรุนแรงของพลังงานต่างๆ
ที่ร่างกายเนื้อของพวกคุณกำลังขับเคี่ยวด้วยอยู่
เพราะว่าภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
กำลังมีการพุ่งขึ้นมาของพลังงานกุณฑาลิณี (Kundalini) อยู่ด้วย

และดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณต้องเผชิญกับการประทุขึ้นมาของอารมณ์เช่นนี้
มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องใช้เวลานี้ เพื่อปรับตั้งค่าใหม่ให้กับตัวเอง
และจงมีเมตตาต่อตัวเองด้วย

จงพักผ่อนให้มาก, จงปรับตัวเองให้เข้าสู่สมดุลใหม่ และจงผ่อนคลาย,
จงดื่มน้ำให้มากๆ และจงใช้เวลาอยู่นอกอาคารบ้านเรือน เพื่ออยู่กับธรรมชาติ
และดูดซับแสงแดดโดยตรง อย่างน้อย 20 นาที

และจงเรียกหาครอบครัวชาวแสงสว่างของพวกคุณ
แล้วร้องขอคำแนะนำ และความช่วยเหลือจากพวกเขา เมื่อถึงคราวจำเป็น
เพราะว่าพวกเราอยู่ที่นี่เสมอ ข้างๆพวกคุณ และพวกคุณก็ไม่เคยเดินไปโดยลำพังเลย


Until next week…

I AM Hilarion

................

 

สภาวะตอนนี้, ผมรู้สึกว่าสมองมันคิดอะไรไม่ค่อยออกครับ, เหมือนมันทึ่มๆครับ, ส่วนร่างกายก็ไม่รู้เพราะอากาศที่ร้อนมากมั้ง, มันเหมือนกำลังโดนพลังงานบางอย่างทะลุแทรกซึมเข้าในร่างกาย, จนหลายครั้งที่ผมรู้สึก เสียววาบ ไปทั้งตัว, เป็นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ.

วันนี้เลยขออนุญาตแปลข้อความจากท่าน Salusa แบบเนิบๆไปเรื่อยๆนะครับ, เพราะสายตาก็จับตัวหนังสือไม่ค่อยอยู่แล้วตอนนี้.

SaLuSa via Mike Quinsey: April 25, 2014 « Golden Age of Gaia

 

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

ที่มา : SaLuSa via Mike Quinsey: April 25, 2014 « Golden Age of Gaia

SaLuSa via Mike Quinsey: April 25, 2014

ถึงแม้ว่าเรื่องราวต่างๆบนโลกยังคงอยู่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลง, แต่ผลลัพท์จะไม่ได้นำไปสู่สถานการณ์ต่างๆที่เลวร้ายแต่อย่างใด, เรากำลังคิดอย่างเป็นพื้นฐานของการเผชิญหน้าที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน. หลายปีมาแล้วที่มันไม่ได้ดูเหมือนจะกำลังเข้าสู่สภาวะสงครามเฉกเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้.

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในระดับต่างๆของการตระหนักรู้ และการสั่นสะเทือนต่างๆในระดับสูงที่ได้มาถึงคุณ, ทางออกของปัญหาต่างๆถูกค้นคว้าหา ว่ามันคือการโฟกัสในการลงเอยอย่างสงบสุข. ความสงบจะมาเยือนโลกในไม่ช้านี้ และคุณจะสามารถที่จะโฟกัสอยู่กับการสร้างความสัมพันธ์ต่างๆแห่งความสงบสุขขึ้นมาใหม่ระหว่างนานาประเทศ, ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ประเทศต่างๆส่วนใหญ่มีการผสมของเชื้อชาติต่างๆและวัฒนธรรมต่างๆที่แตกต่างกัน, และมันก็ได้กำลังช่วยเหลือชาวโลกอย่างงดงามในการที่จะอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืนและสงบสุข.

รอบๆโลกกำลังมีการแสดงออกต่างๆขั้นสุดท้ายของการแบ่งแยก, และเมื่อใดที่ฝ่ายมืดต่างๆถูกกำจัดออกไป, ชีวิตผู้คนก็จะมีความสงบสุขและไดรับรางวัลชีวิตกันมากขึ้น. มีประชากรในรุ่นอายุต่างๆที่เด็กกว่า(younger generations ) ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องมากกว่าและกำลังรอคอยโอกาสของพวกเขาที่จะนำไอเดียใหม่ๆเข้ามา สำหรับการใช้ชีวิตที่น่าอิจฉามากขึ้น.

เวลานั้นได้กำลังมาถึง, เมื่อผู้นำต่างๆจะก้าวขึ้นมาข้างหน้า เพื่อแทนที่ฝ่ายมืดต่างๆผู้ซึ่งกำลังนับถอยหลังเวลาของตัวเองแล้ว, จิตวิญญาของผู้นำใหม่เหล่านี้ได้มีประสบการณ์ที่พวกเขาสามารถเรียกใช้, ที่จะทำให้แน่ใจว่ามนุษยชาติกำลังได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างงดงามเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่. มันได้มีช่วงเวลาต่างๆในประวัติศาสตร์ของคุณ, ที่ความสงบสุขได้สามารถรุกคืบไปอย่างมากเพื่อที่จะบรรลุผลสำเร็จ. อย่างไรก็ตาม, ช่วงเวลาเหล่านี้ได้กลายเป็นภาพสะท้อนจางๆของอะไรๆที่ยุคทองกำลังจะนำมาให้คุณ. ช่วงเวลาแห่งความสงบสุขจะคืนกลับมา และคุณจะได้เห็นถึงสิ่งที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็น "1,000 ปีแห่งความสงบสุข" "1000 years of peace".

จิตวิญญาณส่วนใหญ่ได้กลับมามีกายเนื้อในหลายภพชาติบนโลก เพื่อที่จะเผชิญประสบการณ์คู่ขนาน. บางคนก็กำลังประสบกับอะไรๆที่กำลังทำให้ระดับของความตระหนักรู้ของพวกเขาสูงขึ้น, ขณะที่คนอื่นๆก็กำลังยกระดับของความตระหนักรู้ของพวกเขาขึ้นอย่างง่ายๆธรรมดาๆสู่ระดับก่อนหน้านี้ที่พวกเขาได้เอื้อมถึงไปแล้ว (น่าจะหมายถึง ระดับของความตระหนักรู้ที่พวกเขาได้เคยเลื่อนระดับขึ้นสูงในระดับหนึ่งไปแล้วในภพชาติก่อนๆ :ผู้แปล), จิตวิญญาณต่างๆบนโลกคือการผสมกันของพวกเขาเหล่านี้ที่อยู่ในช่วงขั้นตอนที่แตกต่างกันต่างๆมากมายของการวิวัฒนาการ.

อย่างไรก็ตาม, ขณะที่คุณล้ำหน้าจนหลุดไปจากโลก, ระดับต่างๆของความตระหนักรู้ที่แตกต่างกันจะถูกกำหนดอย่างกระจ่างแจ้ง, และจิตวิญญาณต่างๆของการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะไม่สามารถเข้าสู่ที่เหล่านั้นที่การสั่นสะเทือนสูงกว่า, ยกเว้นว่าเมื่อพวกเขาถูกร่วมทางไปโดยจิตวิญญาณที่สูงกว่า, ผู้ซึ่งจะแบ่งปันระดับการสั่นเทือนของเขาหรือเธอให้กับจิตวิญญาณต่างๆที่การสั่นสะเทือนต่ำกว่า.

คุณจะได้ค้นพบและเรียนรู้อย่างมากมายอีกครั้ง, และมันจะเป็นช่วงเวลาต่างๆที่น่าตื่นเต้น, จนกระทั่งคุณเอื้อมถึงระดับของการตระหนักรู้ที่สูงกว่า, คุณถูกจำกัดไว้มาก ในเรื่องที่ว่าอีกไกลเท่าไหร่ที่คุณสามารถไปต่อได้, มันคือระดับปัจจุบันของคุณที่ตรึงคุณอยู่ในระดับการตระหนักรู้ที่ถูกจำกัด.

ยิ่งคุณเปิดกว้างให้กับความตระหนักรู้ของคุณ เพื่อคำนึงถึงความเป็นไปได้อื่นๆนั้น, ระดับการสั่นสะเทือนของคุณก็จะยิ่งเพิ่มสูงและรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น, ปัจจุบันนี้คุณได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโลกแห่งความฝัน(dream world), ที่ซึ่งทุกจิตวิญญาณได้ช่วยกันสร้างขึ้นมา, แต่มันจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอก จนกระทั่งคุณได้ยกระดับต่างๆของการตระหนักรู้ของคุณในตอนนี้ให้สูงขึ้น, ซึ่งคุณจะกลายเป็นจิตวิญญาณที่มีอิสระเสรีอีกครั้ง ซึ่งมันคือสิ่งที่คุณเป็นอย่างแท้จริง.

อย่างไรก็ตาม, ด้วยประการณ์ต่างๆทั้งหมด, มันจะขยายระดับต่างๆของการตระหนักรู้ของคุณ และถึงที่สุดแล้วมันจะนำพาคุณก้าวไปข้างหน้า, เรามองดูคุณด้วยความชมเชยและความรัก, ขณะที่เราเห็นจิตวิญญาณต่างๆถูกนำพาสู่สภาวะคู่ขนานอย่างเต็มใจ, ทั้งที่รู้ว่ามันจะดึงพวกเขาลงไปสู่มิติของการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่า, อีกทั้งคุณยังเริ่มงานที่ท้าท้ายอย่างกล้าหาญ, โปรดรู้ว่าคุณไม่เคยถูกทิ้งให้อยู่อย่างลำพัง ในการค้นหาทางกลับมาสู่แสงสว่าง.

ขณะที่จิตวิญญาณต่างๆที่กำลังเคลื่อนออกจากมิติต่างๆที่ต่ำกว่า, คุณกำลังเพิ่มเติมประสบการณ์ซึ่งประมาณค่ามิได้ให้กับความรู้ทั้งหมดของคุณ, ที่ไหนซักที่ในอนาคตอันใกล้นี้ มันจะทำให้คุณเป็นไปได้ที่จะสามารถช่วยจิตวิญญาณอื่นๆ, ผู้ซึ่งสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ต่างๆของคุณ, ไม่ว่าคุณได้มีชีวิตอยู่เพื่อแสงสว่างหรือความมืด มันก็ไม่ได้มีความแตกต่างอย่างใด, ขณะที่คุณจะมีความมั่งคั่งของประสบการณ์ที่จะมอบให้กับจิตวิญญาณอื่นๆด้วย ในเส้นทางแห่งการวิวิฒนาการ.

เราได้สร้างจุดประสงค์ว่าคุณทั้งหมดคือหนึ่งเดียวกันบ่อยๆ, และมันเป็นความจริงที่ว่า อะไรก็ตามที่แต่ละคนในพวกคุณทั้งหลายทำนั้น มันจะส่งผลต่อทั้งหมด, มันคือการรวมกันของจิตวิญญาณต่างๆที่คุณช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อการก้าวหน้าไป, เพราะว่าเมื่อคุณก้าวไปข้างหน้า มนุษยชาติทั้งหมดก็ได้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วย.

การคำนึงถึงเรื่องนี้นั้นเป็นผลต่างๆมาจากชีวิตในชาติก่อนๆของคุณบนโลก, คุณได้รับความรู้ที่ได้เรียนรู้มาและประสบการณ์จากวัฒนธรรมต่างๆที่แตกต่างกันมากมาย, ที่ระดับของจิตใต้สำนึก มันส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคุณในปัจจุบัน, และทำให้คุณอดทนมากและใจกว้างต่อความเชื่อต่างๆของผู้คนอื่นๆ, หลายคนกำลังมีชีวิตอย่างถูกจำกัดไว้ต่อความเข้าใจกับความจริง. แต่มันจะเปิดออกในไม่ช้านี้, และบางที การได้รู้ว่าคุณเป็นมากกว่าที่ร่างกายของคุณเป็นนั้น, จะถูกพบว่าเป็นความล้ำลึกและการเปิดเผยถึงถ้อยแถลง.

คุณคือรูปธรรมต่างๆของความสง่างามแห่งแสงสว่าง, ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนที่ก้าวหน้า, และในอนาคตคุณจะสามารถคิดโดยตัวคุณเอง “think yourself” เข้าสู่อะไรก็ตามจากความปรารถนาของคุณ เพื่อเสริมการวิวัฒนาการให้มากขึ้น. และคุณจะมีอิสรภาพที่จะท่องเที่ยวไปที่ใดๆหรือเมื่อใดที่คุณปรารถนา.

ฉันคือ Salusa จาก Sirius, และยินดีเสมอที่ได้ติดต่อกับคุณ, มันได้เป็นเส้นทางที่ยาวไกลและหนักหน่วงสำหรับคุณทุกคน, แต่ตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี.

I leave you with my Love and Blessings.
Thank you SaLuSa,
Mike Quinsey

 

ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

ที่มา : http://www.ashtarcommandcrew.net/profiles/blogs/asana-mahatari-we-live-in-heaven#ixzz2zzPm3pBm

Asana Mahatari : We Live in Heaven

เราอยู่ในสวรรค์

Posted by Andreas Botsaris on April 25, 2014

แสงแห่งทองครั้งที่สองกำลังท่วมท้นไปทั่วโลก, ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า, ซึ่งจะมีไปจนชั่วนิรันดร.

ฉันคือ ASANA MAHATARI , ที่รักทั้งหลาย, ความเบิกบานที่เกิดขึ้นมาใหม่, และการเปิดเผยถึงการเลื่อนระดับของโลกกำลังถึงจุดสูงสุดของมัน(its peak) ในตอนนี้, วันนี้ มันมีความสำคัญนั่นคือการเอื้อมไปถึงทางเข้าแห่งการเลื่อนระดับ. ความ "ไม่เป็นธรรมชาติ" ของแสงที่กำลังแวววับระยิบระยับนั้นขึ้นอยู่กับความจริงที่ว่า, โลกนี้ยังคงอยู่ในสภาวะที่เหลื่อมซ้อนกันอยู่ ระหว่างการสั่นสะเทือนของโลกต่างๆที่แตกต่างกัน, ดังนั้น แสงสว่างของโลกใหม่ที่กำลังส่องเข้ามา จึงไม่สามารถส่องออกมาอย่างสมบูรณ์ในระหว่างช่วงการเลื่อนระดับเหล่านี้, ซึ่งมันได้สร้างตัวกรอง(filter)ที่ค่อนข้างทำให้รู้สึกฉุนเฉียว. ทุกๆชีวิตที่กำลังเลื่อนระดับนั้น "อยู่ในสวรรค์" จริงๆ, ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้น, มันคือสวรรค์ของโลกสามมิติของคุณแห่งมิติที่ห้า(it is the Heaven of your holographic world of the fifth dimension) ที่คุณได้สร้างมันขึ้นมาได้สำเร็จ, เพื่อที่จะไม่กระทบกระเทือนต่อสถานการณ์ต่างๆทั้งหมดในเวลาเดียวกัน.

กระบวนการที่แท้จริงนี้แห่ง "การเปิดเผยมากเกินไปของโลก" “overexposure of the earth” และตามมาด้วยปริมาณของการสั่นสะเทือนของการเลื่อนระดับ, ถูกทำให้คุ้นเคยเพื่อมุ่งไปยังการบรรลุผลสำเร็จของระดับของทางเข้า(level of thredhold)เพื่อการเลื่อนระดับ; มันเหลืออีกไม่กี่วันข้างหน้า และจะถูกทำให้สมบูรณ์ในวันที่ 27 เมษายน 2014.

มองไปยังสวรรค์, จำได้ถึงแสงสว่างใหม่, และวิธีการที่มันส่องสว่างไสวทอดผ่าน; และถึงแม้ว่ามันยังคงดูเหมือนไม่เป็นธรรมชาติ, มันคือเส้นทางไปสู่อิสรภาพ, ที่โลกเก่าในการแสดงปฏิกิริยาขั้นสุดท้ายของการไถ่บาบของมัน ที่ตอนนี้กำลังเดินต่อไป, เพราะตอนนี้แสงสว่างคือประตูระบายน้ำ(salvation)สำหรับขั้นตอนต่างๆขั้นสุดท้ายของการเปลี่ยนรูปแบบ.

I am ASANA MAHATARI
ด้วยความรักที่ไม่สิ้นสุดต่อมนุษยชาติ พี่น้องทั้งหลาย.
ฉันคือความสงบสุข.
ASANA MAHATARI

 

ข้อความสื่อสารจากต่างมิติ บางข้อความก็ช่างตรงใจจริงๆ บางข้อความเราอ่านแล้วก็มีที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก คงขึ้นอยู่กับเส้นทางของวิวัฒนาการจิตวิญญาณของเราในขณะนั้นๆ ว่าอยู่ตรงไหน หรือประสบการณ์ของมนุษย์เราในช่วงนั้นๆด้วยสินะคะ

แต่น่าแปลก ถ้าเราเปิดใจจริงๆ อ่านให้เหมือนเด็กๆ ไม่รีบตัดสิน และไม่มีอคติ ความรู้สึกลึกๆในใจมักจะไม่หลอกเรา ถ้าความคิดเราไม่ชิงหลอกตัวเองเสียก่อนน่ะนะ บางทีก็รับรู้ได้ถึงความรัก ความเมตตา ความยินดีที่ออกมาจากข้อความสื่อสารเหล่านี้เพียงแค่อ่านเท่านั้น ราวกับเขามายืนยิ้มอยู่ตรงหน้าและบอกว่า...พวกเรารักคุณนะ อะไรแบบนั้น (เหมือนที่พวกเขาย้ำเสมอว่า...เราอยู่ใกล้ๆคุณเสมอ(ในโลกภายใน)...ขนลุกเชียวล่ะ_^')

 

ช่วงนี้มีปัญหาเยอะ เจอเลขเบิ้ลซ้ำๆต่อๆ หลายตัวมึนไปหมด จะทำงัยดีน่ะ

 

ผมว่าจะมาแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่เมื่อวาน, แต่เห็นว่ามันยังมองเห็นไม่ชัดในตอนกลางวัน, แต่วันนี้ตื่นมา, ทำกิจวัตรประจำวัน ออกไปนอกบ้าน ก็ยังเห็นมันตลอด, มันคือ,,,จุดแสงสว่างเป็นล้านๆที่คุณเคยเห็นมันเวลาหลับตา, พอลืมตา มันก็ยังซ้อนภาพอยู่กับสิ่งที่คุณกำลังมองอยู่, จริงๆแล้ว, ผมเห็นจุดแสงจำนวนมหาศาลนี้ตั้งแต่ช่วงปี 2010 ละ, แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะดวงตาของเราผิดปรกติไปเองหรือเปล่า และมันยังสว่างไม่มาก จนไม่ได้รบกวนภาพปรกติที่มองเห็น, แต่จนมาถึงวันที่ 26-27 เมษายน 2014 ที่เพิ่งผ่านมานี่ล่ะครับ, ผมเริ่มมองเห็นจุดแสงนับล้านนี้ชัดมากในเวลากลางคืน.

วิธีสังเกตคือ, ให้คุณมองไปที่อะไรก็ได้ที่อยู่ห่างคุณซักประมาณ 3-10 เมตร เริ่มจากบริวเณที่ไม่สว่างมาก เพราะมันจะกลบกลืนกันไปหมด ทำให้สังเกตยาก, จากนั้นให้คุณล่นระดับที่คุณกำลังโฟกัสเข้ามาใกล้คุณมากขึ้น, เหมือนคุณกำลังมองอากาศที่อยู่ตรงกลางระหว่างคุณและวัตถุหรือผนังที่คุณกำลังมองอยู่, คุณจะเห็นเป็นจุดแสงสว่างเป็นล้านๆจุด(เพราะมันนับไม่ได้ ผมเลยไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี จะเรียกว่าแสงที่ทอดผ่านก็ไม่ใช่ เพราะมันไม่ใช่ลำแสง แต่เป็นจุดแสงสว่างจำนวนมหาศาล), ซึ่งถ้าไม่ใช่แสงของจิตวิญญาณของสรรพชีวิตที่เชื่อมต่อกับ Divine Spirit,(วิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า หรือจากใจกลางแห่งการสร้างสรรค์) ผมก็คงผิดปรกติไปเอง, ผมก็ขออนุญาตเดาว่า, มันคือแสงสว่างที่ส่องออกมาจากจิตวิญญาณทั้งหลายบนโลกนี้, รวมถึงจิตวิญญาณของโลกด้วย, ซึ่งวันนี้มันเห็นแสงนี้ชัดกว่าเมื่อวานมาก, จนทำให้ผมรู้สึกว่า แสงที่เห็นนี้หรือ ที่คือความจริง, ส่วนวัตถุที่เคยเห็นมาทั่วไปนั้น มันไม่จริง, ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ อาจจะเห็นความแตกต่างได้ชัดมากขึ้นไปอีก.

เคยได้ยินประโยคนี้ไช่ไหมครับ, "เวลาฉันหลับตา มันสว่างกว่าตอนลืมตาซะอีก", ซึ่งผมจำไม่ได้ละว่าไปอ่านเจอมาจากที่ไหน, แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาที่สามารถมองเห็นได้ชัดมาก, ให้คุณลองในที่ๆไม่สว่างมากจากแสงอาทิตย์ก่อน, เพราะไม่งั้นมันจะสังเกตเห็นยาก เพราะมันจะกลืนไปกับแสงอาทิตย็. และเมื่อคุณเริ่มมองเห็นแสงชัดขึ้นแล้ว, คุณจะเห็นมันทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าคุณจะลืมตามองอะไรก็ตาม หรือแม้แต่ตอนคุณหลับตา.

อยากให้มาแชร์ประสบการณ์แสงสว่างกันบ้างนะครับ จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

 

---เห็นเหมือนกันจ้า..nununo--มันเป็นจุดสีใสๆสาระพัดสีใช่มัย..ใสเหมือนแก้วดวงเล็กๆกลมๆเหมือนจุด..แต่สีเป็นสีจริงๆ..หมายถึงว่า..ความเป็นสีนั้นสดใสมากๆ..เหมือนว่าสีน้ำเงินก็เป็นสีน้ำเงินเพียวๆสดๆเกินหาสิ่งเปรียบได้มันเป็นสีในตัวเองจริงๆ..ที่เห็นชัดมีน้ำเงิน.แดง.เหลือง.เขยีว..ใส..เจ้ก็เห็นแป็บๆแต่ชัดเจนมาก..เจ้ว่าน่าจะเป็นออร่าของจิต..แต่ทำไมถึงเยอะอย่างนี้ก็ไม่รู้..หรือจะเป็นพลังงานเต๋า..โอ๊ะ..ออกนอกโลกไปแล้วละ..อ้าว..ตั้งใจหายใจลึกๆ..บอ่ยๆ..พลังงานที่บริสุทธ์เต็มไปหมดเลย..ทำจิตให้บริสุทธ์ดว้ยนะจ๊ะเพื่อจะรับได้อย่างเต็มกำลัง....(kiss)(f)

 

เคยได้อ่านมาว่า กายของรูปธรรมชีวิตในมิติที่ห้าจะเป็นสีน้ำเงิน, ที่คุณบอกว่า "มันเป็นจุดสีใสๆสาระพัดสีใช่มัย..ใสเหมือนแก้วดวงเล็กๆกลมๆเหมือนจุด" ตรงนี้เหมือนกันครับ, แต่ผมไม่ได้เห็นชัดขนาดแวววับขนาดนั้นอะครับ, คือมันจะเป็นสีประมาณโทนน้ำเงิน ฟ้า เขียว อะครับ แต่โดยรวมแล้วเป็นแสงจางๆ (Pale light), ซึ่งจะเห็นตลอดเวลาที่ตื่นเลยนะครับ, เหมือนเราเห็นมวลของอากาศได้อะครับ, ไม่ได้เห็นเหมือนเป็นนิมิตในบางช่วงเวลาอะครับ.

แต่ไม่ว่าจะต่างกันบ้างหรือเหมือนกันด้วย, ถ้ามันพีคขึ้นมาในช่วงนี้, มันก็ตรงกับช่วงที่ต่างมิติเขาบอกเกี่ยวกับ ประตูที่เปิดเชื่อมโลกกับมิติที่สูงกว่า, ซึ่งมิติที่ห้านั้นเป็นมิติที่สามารถเชื่อมไปสู่มิติไหนก็ได้อะครับ, เพราะฉะนั้น จากนี้เป็นต้นไป ประสบการณ์ของแต่ละท่านที่ชัดเจนอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น ก็อาจจะแตกต่างกันในการรับรู้ถึงมิติต่างๆที่ต่างกันได้ครับ.

 

เคยเห็นครับ เราต้องปรับระยะโฟกัส ของสายตาให้เบลอๆ แล้วมันจะค่อยๆปรากฏขึ้น เป้นจุดแสง ลอยไปลอยมา เคลื่อนที่ไร้ทิศทาง

คนมีคนโพสไว้ในบอร์ดนานมากแล้ว ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร

 

มันยังไม่ตรงกับที่ผมเห็นนะครับ, ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้ อยู่ระหว่างหน้าผมกับจอคอมอะครับ เพราะผมกำลังมองหน้าจออยู่(แต่มันเห็นไม่ชัดหรอก ให้มองไปที่ผนังดีกว่าครับ), และไม่ได้ลอยไปมานะครับ, เปรียบเทียบง่ายๆคือ เหมือนตอนที่เราเปิดช่องทีวีที่ไม่มีสัญญาณภาพน่ะครับ, ที่เป็นจุดสีเทาๆเต็มหน้าจอ เหมือนหนังเรื่อง The Ring อะครับ. นั่นแล่ะ จุดเยอะๆอย่างนั้นแล่ะ แต่ไม่ได้เป็นสีเทา แต่เป็นสีฟ้า เขียว น้ำเงิน สว่างๆแบบจางๆอะครับ. เห็นตลอดเวลาเลย วันนี้ชัดที่สุดในชีวิตแล้วอะครับ ลองดูกันใหม่นะครับ มันออกจะเป็นเรื่องปรกติไปเลยนะครับ ไม่ใช่เป็นแสงอภินิหารอะไรเลยนะครับ.

วิธีสังเกตที่ง่ายกว่านั้นอีกนะครับ, คือ แสงที่คุณเห็นตอนหลับตานั่นแล่ะครับ ซึ่งพอลืมตาก็ยังเห็นแสงต่างๆนั้นอยู่ในอากาศที่เรามองน่ะครับ.

 

อ่อ เข้าใจและครับ ถ้าแบบที่คุณว่า ผมยังไม่เห้นชัดแบบนั้นนะ อิอิอิ
เข้าใจว่า แต่ละคนจะมีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันนะครับ อย่างที่ต่างมิติบอกเอาไว้

 

เห็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ เหมือนเห็นมวลสารที่เคลื่อนไหวอยู่ในอากาศ มันเป็นแสงยิบๆเล็กๆ คล้ายกับภาพจอขาวดำตอนที่ทีวีไร้สัญญาณเหมือนที่คุณnununo บอก

แต่มันสว่างและเล็กละเอียดกว่า และเหมือนมันจะสั่นสะเทือนเคบื่อนไหวยิบๆอยู่ตลอดเวลาด้วย แต่เอ...ไม่สังเกตว่าสีอะไรนะคะ

แต่คิดเอาเองว่าตาเราคงเห็นมวลสารในอากาศได้เวลาที่เราไม่ได้จดจ่อและโฟกัสภาพอื่นๆตรงหน้า ก็เลยไม่ค่อยได้สนใจ ไม่รู้เป็นแบบเดียวกับที่คุณnununoบอกหรือเปล่านะคะ ไม่ได้ชัดเจนแบบนั้น แค่สังเกตเห็นเฉยๆ

 

ใช่ครับ, คล้ายกันครับ เมื่อก่อนผมก็คิดแบบที่คุณบอกว่า "คงเป็นแค่มวลสารในอากาศ" แต่คุณคิดว่าช่วงสองสามวันมานี้ คุณเห็นมันชัดขึ้นไหมอะครับ, ที่ผมเห็น มันแค่รู้สึกระยิบระยับ และก็เป็นสีรวมๆหลายสี จริงๆแล้วก็ดูไม่ออกเลยด้วยว่าสีไหนชัดเจนที่สุด แต่มันไม่ได้เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆหรือเคลื่อนแบบไร้ทิศทางใดๆ, มันเหมือนผมกำลังอยู่ในมหาสมุทรของพลังงานพวกเนี้ยอะครับ ที่มันซ้อนอยู่กับโลกที่เราอยู่ๆกันมา, ยิ่งตอนกลางคืน ลองไปนั่งเล่นนอกบ้าน แถวที่ไฟไม่สว่างมาก ยิ่งเห็นชัดมากครับ


มันเหมือนผมกำลังสวมใส่แว่นตาที่มีฝุ่นเยอะๆอยู่อะครับ, แต่มันเป็นฝุ่นที่ไม่ใช่มีแต่สีเทาอะครับ และมันไม่ได้เคลื่อนที่อย่างชัดเจนนะครับ(น่าจะคล้ายการสั่นสะเทือนอยู่กับที่มากกว่าครับ), ส่วนที่เป็นดวงไฟและเคลื่อนที่ได้ ลอยไปมาสว่างไสวชัดเจน, นั้นแม่ผมก็เล่าให้ฟังบ่อยๆเวลาแม่ไปปฏิบัตินุ่งขาวห่มขาวในวัด(หรือที่สถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ที่มีพลังงานบริสุทธิ์มาอยู่กันเยอะๆ), ซึ่งผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนั้นด้วยครับ, แต่ที่ผมเห็นอยู่เนี้ย มันเหมือนผมเห็นอนุภาคของอากาศรอบตัวเรา เหมือนอากาศมันสว่างขึ้นอะครับ