สงครามพญานาค โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย รามา, 24 ธันวาคม 2013.

  1. รามา

    รามา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +520
    านสโม
    วัดป่าโคกมน บ.โคกมน ต.ผาน้อย อ.
    วังสะพุง จ.เลย
    เขียนบันทึกโดย. .ครูบากล้วย
    พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท..
    ตอน ยุทธนาคา (สงครามพญานาค)
    มีเรื่องพญานาคเ รื่องหนึ่งที่
    พระคุณเจ้าหลวงป ู่ชอบ ฐานสโม เล่า
    ให้ฟัง เป็นเรื่องพญานา
    คที่แปลกกว่าทุก เรื่อง ส่วนมากถ้า
    เป็นเ รื่องเกี่ยวกับพ
    ญานาคหลวงปู่ท่า น
    จะบอกพญานาคที่ นั่นที่นี่มาขอฟ
    ังธรรมกับองค์ท่ าน
    พญานาคจำแลงร่าง เป็นมนุษย์มาใส่
    บาตรให้กับองค์ท ่าน
    หรือพญานาคอันธพ
    าลมาแสดงเดชฤทธิ ์กับองค์ท่านเป็
    นต้น แต่เรื่องพญานาค ที่หลวงปู่เล่าใ
    ห้ฟังตอนนี้เป็น เรื่องของพญานาค
    ทำสงครามนาคายุท ธกัน ซึ่ง
    เป็นเรื่องพ ญานาคที่ประหลาด
    กว่าทุกเรื่องที ่หลวงปู่ชอบท่าน เล่า
    ให้ฟัง..
    ท่านบอกเหตุการณ ์นี้เกิดขึ้นเมื ่อปี
    ๒๕๐๘ ซึ่งเป็นปีแรกที
    ่องค์ท่านหลวงปู ่ชอบมาสร้างวัดป
    ่าม่วงไข่ บ้านม่วงไข่ ตำบลสานตม
    อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
    ท่านว่าสมัยสร้า งวัดป่าม่วงไข่ใ หม่ๆ
    นั้น พระเณรเวลาสรงน้ ำตักน้ำจะ
    ต้องพา กันเดินลงเขาทาง
    ด้านหลังศาลาหลั งเก่าของวัดป่าม
    ่วงไข่ ทางลงไปจะลึกลาด
    ชันเวลาขึ้นลงแต ่ละครั้งพระเณรต
    ้องอาศัยเกาะกิ่ งไผ่ลงไป
    ถ้าเผอเรอเมื่อไ หร่เป็นได้กลิ้ง
    กะโค่โร่ลงไปข้า งล่างทันที..
    องค์ท่านหลวงปู่ ชอบเห็นถึงความล
    ำบากของลูกศิษย์ เวลาลงไปตักน้ำ
    ท่านจึงบอกพ่อเช ียงหมุนให้มาตัด
    ต้นไผ่เพื่อทำทา งลงไปสรงน้ำให้ก
    ับพระเณร ราวสองทุ่มคืนเด ียว
    กันขณะหลวงปู ่ชอบท่านกำลังจะ
    ไหว้พระสวดมนต์อ ยู่ที่กุฏิ ท่าน
    ได้ยินเสียง คนพูดคุยกันผ่าน
    กุฏิของท่านไปทา งด้านหน้าวัด
    องค์ท่านคิดในใจ ว่าค่ำมืดตืดตาป
    ่านนี้แล้วยังจะ มีโยมมาวัดอยู่อ ีกหรือ
    เสียงพูดกันก็ดั งคึกคะนองแบบคนห
    นุ่ม ท่านจึงกำหนดดูถ
    ึงที่มาของต้นเส ียง ท่านเห็นชายหนุ่
    มอายุราวยี่สิบต ้นๆหกคนเดินคุยก
    ันไปทางหน้าวัดป ่าม่วงไข่
    ชายหกคนนี้คุยกั นว่าจะไปเที่ยวเ
    ล่นจีบสาวนาคีที ่เมืองเชียงคาน
    องค์ท่านจึงรู้ว ่าชายหนุ่มกลุ่ม นี้
    เป็นลูกหลานข องพญานาคภูผาหมา
    นจำแลงร่างขึ้นม าเที่ยวเล่นจีบส
    าวนาคีแม่น้ำโขง ..
    หลังจากนาคาหนุ่ มกลุ่มนี้ไปแล้ว
    องค์ท่านก็นั่งไ หว้พระสวดมนต์อย
    ู่ที่กุฏิ ขณะที่หลวงปู่ชอ
    บท่านกำลังสวดมน ต์บทเมตตา
    ยังกิญ จิฯอยู่นั้น ท่านได้ยินเสียง
    คนไล่ตีกันดังลั ่นมาจากทางหน้าว ัด
    ท่านจึงหยุดสวดม นต์กำหนดดูเหตุก
    ารณ์ ท่านเห็นชายหนุ่ มกลุ่ม
    ใหญ่ไล่ตี ชายหนุ่มหกคนที่
    ท่านเห็นเมื่อตอ นหัวคืน ชายหนุ่ม
    ทั้งหกว ิ่งผ่านกุฏิท่าน ไป
    แล้วกระโดดลงเ ขาหายเข้าไปในบ่
    อน้ำซับหลังศาลา เก่าของวัดป่าม่
    วงไข่ ฝ่ายชายหนุ่มกลุ ่ม
    ใหญ่ที่ไล่ตีก ันมาพอเห็นองค์ท
    ่านหลวงปู่ชอบพว กเขาจึงพากันหยุ
    ดไล่ร้องบอกกันว ่า พระๆ
    ทุกอย่างที่พญาน าคแสดงออก
    ในขณะน ั้นท่านบอกเหมือ นกัน
    กับมนุษย์เร าทุกอย่างเลย..
    องค์ท่านถามพญาน าคหนุ่มกลุ่มนี้ ว่า
    เพราะอะไรถึงต้อ งได้ไล่ทำร้ายกั น
    เข้ามาในวัดซึ่ งเป็นเขตธรณีอภั
    ยทาน พญานาคหนุ่มผู้เ
    ป็นหัวหน้าบอกอง
    ค์ท่านว่าพวกพญา นาคกลุ่มที่นี่ไ
    ปเที่ยวเล่นที่บ ้านเมืองของพวกต น
    แล้วมีเรื่องผิ ดใจกันจึงต้องไล ่ทำร้าย
    กันมาถึง ที่นี่ ข้าพเจ้าไม่รู้ม
    าว่าสถานที่แห่ง นี้เป็นวัดวาพระ
    ศาสนา แต่ไหนแต่ไรพวกข
    ้าพเจ้าไปมาหาสู ่กันก็ไม่เห็นว่ าที่นี่
    เป็นวัดว าศาสนามาก่อนเลย ..
    องค์ท่านจึงบอกพ ญานาคหนุ่มกลุ่ม
    นี้ให้กลับไปบ้า นเมืองของตนเองเ
    สียอย่ามาเบียดเ บียนกันที่ในวัด
    วาศาสนาเลย พวกพญานาคหนุ่มก
    ลุ่มนี้จึงพากัน ลาองค์ท่านกลับไ ป
    ยังบ้านเมืองขอ งตน ท่านว่าเวลาที่พ
    ญานาคหนุ่มกลุ่ม นี้ลาจากไปพวกเข
    าพากันจมหายลงไป ในธรณีทันที
    เหมือนกับว่าดิน ผาหน้าภูที่นี่ไ ม่ได้
    เป็นอุปสรร คในการไปการมาขอ
    งพวกเขาเลย..
    ผู้บันทึกกับหมู ่เพื่อนที่นั่งฟ
    ังองค์ท่านหลวงป ู่ชอบเล่าพากันแ
    ปลกประหลาดใจว่า ทำไมพญานาค
    ซึ่งเ ป็นเทพเทวดาประเ ภทหนึ่ง
    จึงมีประ พฤติบางอย่างที่ คล้ายกัน
    กับมนุษ ย์เรา..
    หลวงปู่ชอบท่านว ่า พญานาคถึงจะ
    เป็น ภูมิเทพเทวดา เขาก็มา
    จากมนุษย ์เรา มีกิเลสรักโลภโก
    รธหลงเหมือนกันก ับมนุษย์เรา ถ้า
    ไม่พอใจกันขึ ้นมาก็โกรธาเกรี
    ้ยวกราดทำร้ายกั นเหมือนกับมนุษย
    ์เรา ต่างแต่พวกพญานา คเทพเทวดา
    เขาจะไ ม่ทำร้ายกันถึงข
    ั้นหมายเอาชีวิต เหมือนกับมนุษย์ เรา
    พวกพญานาคเทพเทว ดาเขาจะสู้
    กันพอ รู้ฤทธิ์แล้วก็เ ลิกรากันไป..
    การให้อภัยกันขอ งภพภูมิเทพเทวดา
    เขาจะให้อภัยกัน ง่ายกว่ามนุษย์เ รา
    เพราะพวกเขามีเท วะธรรมหิริโอตัป
    ปะความละอายแก่ใ จ
    ความเกรงกลัวต่
    อบาปกรรมของเทพเ ทวดาเขา
    จะมีมากก ว่ามนุษย์..
    ถ้าจิตใจไม่มีเท วะธรรมสองอย่างน
    ี้เป็นเครื่องถื อครองแล้ว บุคคลนั้น
    จะเกิด เป็นเทพเทวดาไม่ ได้เลย
    ถึงแม้เกิดเป็นม นุษย์ ก็จะได้เกิดเป็น
    มนุษย์ผู้ที่มีค วามบกพร่องในสติ
    ปัญญาและร่างกาย ..
    องค์ท่านเล่าให้ ฟังต่อว่า หลัง
    จากพญานาคหน ุ่มกลุ่มนี้จากไ ป
    ไม่นานท่านได้ย ินเสียงดังโหวกเ
    หวกอึงคะนึงไปทั ่วบริเวณวัดป่าม
    ่วงไข่ ท่านเห็นพญานาคพ า
    กันจัดเตรียมทั พมีช้างม้าไพร่พ
    ลถืออาวุธครบมือ เหมือนกับทหารศึ ก
    ในสมัยโบราณ ท่านว่าทุกอย่าง
    เหมือนกับคนเราเ วลาเตรียมทัพออก
    ศึกไม่มีผิดเพี้ ยนกันเลย..
    องค์ท่านถามพญาน าคผู้เป็นแม่ทัพ
    นายกองว่าจะพากั
    นไปออกศึกออกเสื อที่ไหนถึงได้แต
    ่งทัพใหญ่โตมโหฬ ารถึงปานนี้ แม่ทัพ
    ใหญ่พญานา คบอกองค์ท่านว่า
    พวกข้าพเจ้าจะไป รบ
    กับพวกพญานาคแ ม่น้ำโขง
    พญานาคพวกนี้มาห ยามหมิ่นรังแกลู
    กหลานของพวกข้าพ เจ้า..
    องค์ท่านบอกอย่า ไปเบียดเบียนกัน
    เลยมันจะเป็นบาป เวรต่อกัน
    แต่พญานาคใหญ่ผู ้เป็นแม่ทัพนายก
    องไม่ฟังคำที่อง ค์ท่านทัดทาน
    เขายืนกรานที่จะ
    ออกรบตามมานะศัก ดิ์ศรีที่เขาถือ
    เมื่อพญานาคผู้เ ป็นใหญ่ไม่เอาคำ
    องค์ท่านจึงบอกเ ขาว่า ถ้าจะไปรบ
    กันแล้ วอาตมาขอให้โยมท
    ำทางลงไปสรงน้ำใ ห้พระเณรได้ไหม
    จะเป็นการถวายคว ามสะดวกให้
    กับพร ะเณรผู้ที่ท่านพ ักอาศัยอยู่
    ในอา วาสนี้ อาตมาอยากให้ท่า
    นแสดงฤทธิ์ไว้เป ็นหลักฐานให้พระ
    เณรผู้ไม่รู้ได้ เห็นว่าที่นี่มี
    พญานาคอาศัยอยู่ ..
    พอองค์ท่านบอกพญ านาคใหญ่ผู้
    เป็น หัวหน้าให้เขาทำ
    ทางลงไปตักน้ำให ้พระเณร
    องค์ท่านว่าพญาน าคเจ้าจอมทัพดัน
    ภูเขาทีเดียวดิน ที่อยู่บนภูเขาไ
    หลลงไปเป็นร่องท ันที
    ต้นไม้ต้นไผ่พัง ทลายลงไปกองอยู่
    ใต้ภูเขายิ่งกว่ าใช้รถเกรดรถไถด
    ันลงไป หลวงปู่ท่านว่าพ
    วกพญานาคนี้มีฤท ธิ์แรงมากเกินปร
    ะมาณได้ การกระทำด้วยฤทธ
    ิ์เดชของเขาจึงง ่ายดายไม่ต่างอะ ไร
    กับคนเราพลิกฝ ่ามือ..
    เมื่อพญานาคใหญ่ ภูผาหมานพังภูเข
    าทำทางลงไปตักน้ ำให้พระเณรแล้วเ
    ขาก็ลาท่านไปรบก ับ " อิสโรนาคราช
    " ราชันย์นาคาแม่น ้ำโขงเมืองเชียง
    คานที่มีวิมานเม ืองบาดาลอยู่ห่า ง
    จากปาก " แม่น้ำเลย "
    ไหลลงตกแม่น้ำโข งที่ " บ้านคกมาด
    " สี่ร้อยเมตร..
    องค์ท่านหลวงปู่ ชอบดูเหตุการณ์พ
    ญานาคทำนาคายุทธ กันจน
    ถึงตีสองทุ กอย่างจึงยุติศึ ก
    ท่านเห็นไพร่พลท
    หารพญานาคภูผาหม านแตกทัพหนี
    เข้า มาทางวัดป่าม่วง
    ไข่อย่างอลหม่าน พอมาถึงบ่อน้ำซั
    บหลังศาลาวัดป่า
    ม่วงไข่ทหารพญาน าคพา
    กันหายลงไปใ นบ่อน้ำซับแห่งน ี้ทันที
    พวกทหารพญานาคอี
    กฝ่ายหนึ่งก็ไล่ ตามกันมา ผู้ที่
    เป็นหัวหน ้าแม่ทัพใหญ่ "
    อิสโรนาคราช " เห็นหลวงปู่ชอบอ
    ยู่ที่นี่เขาจึง บอกไพร่พลให้หยุ ดทัพ..
    องค์ท่านถาม " อิสโรนาคราช "
    เพราะเหตุอะไรพว กท่านถึงต้องมาร
    บทัพจับศึกกัน อิสโรนาคราชพญาน
    าคแม่น้ำโขงเมือ งเชียงคานบอกท่า
    นว่า พวกลูกหลานพญานา
    คเมืองนี้ไปมีเห ตุวิวาทกับลูกหล
    านของพวกข้าพเจ้ า
    เจ้าเมืองพญานาค ที่นี่ไม่พอใจจึ
    งยกทัพไปท้ารบปร ะลองฤทธิ์
    กับพวก ข้าพเจ้าถึงบ้าน เมือง..
    หลวงปู่ชอบท่านถ
    ามพญานาคอิสโรว่ า พญานาค
    เขามีการร บทัพจับศึกเหมือ นกัน
    กับมนุษย์หร ือ อิสโรนาคราชตอบท
    ่านว่าพญานาคก็เ หมือนกันกับมนุษ ย์
    เมื่อมีเรื่องรา วเจรจาความกันไม ่ได้ก็
    ต้องใช้กำ ลังต่อสู้กันเพื ่อให้รู้แพ้ชนะ
    แต่ไม่ถึงขั้นทำ ลายล้างกันเหมือ น
    กับพวกมนุษย์ พวกข้าพเจ้าจะต่ อสู้
    กันพอรู้แพ้ ชนะเท่านั้นจะไม
    ่ทำอะไรเกินเลยใ ห้กันมากไปกว่าน ี้..
    องค์ท่านบอกเมื่ อรู้แพ้รู้ชนะกั นแล้วก็
    ไม่ต้องม าต่อสู้อะไรกันอ ีก พวกท่าน
    เป็นเทวะ ฤทธิ์มีเดชมาก
    การต่อสู้ของพวก ท่านจะทำให้มนุษ
    ย์และสัตว์ที่อา ศัยอยู่ที่นี่จะ
    ได้รับอันตรายเด ือดร้อนจากการสู
    ้รบของพวกท่านได ้ อาตมาขอ
    ให้ท่านท ั้งสองจงเว้นปล่ อยวาง
    ในเรื่องนี ้เสีย อิสโรนาคราชพญาน
    าคแม่น้ำโขงอ่อน ยอม
    ในคำขอขององค ์ท่านหลวงปู่ชอบ
    จึงถอนทัพลาองค์ ท่านกลับไปยังบ้
    านเมืองของเขา..
    รุ่งเช้าก่อนที่ องค์ท่านหลวงปู่ ชอบ
    จะออกไปบิณฑบ าตที่บ้านม่วงไข ่
    ท่านเดินไปดูทาง พญานาคดันภูเขาเ
    มื่อคืนที่ผ่านม า ท่านเห็นทางที่พ
    ญานาคดันเขาพังด ินลงไป
    เป็นทางกว ้างประมาณหนึ่งว า
    ต้นไม้ต้นไผ่ตาม สายทางพังระนาวก
    ราวรูดไม่ต่างอะ ไรกับเอารถไถวิ่
    งดันลงไป เมื่อสำรวจตรวจด ูสถานที่
    โดยทั่ว แล้วองค์ท่านจึง
    เดินมาศาลาเพื่อ พาพระเณรออกไปบิ
    ณฑบาตที่บ้านม่ว งไข่..
    (บันทึกต่อท้าย) ผู้บันทึกเรียนถ าม
    หลวงปู่คำผอง กุสลธโร
    เจ้าอาวาสสำนักส งฆ์ผาแด่น
    ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง
    จังหวัดเชียงใหม ่ ที่ท่านอยู่ปฏิบ ัติ
    กับองค์ท่านห ลวงปู่ชอบที่บ้า
    นม่วงไข่ในตอนนั ้น..
    หลวงปู่คำผองบอก ว่า
    หลวงปู่ชอบบอกท่ าน
    คำผองต่อไปนี้พว กท่านลงไปตักน้ำ
    สบายขึ้นกว่าเก่ าแล้ว
    พญานาคทำทางให้พ วกท่านแล้ว
    เมื่อคืนพวกพญาน าคที่นี่ไปออกสง
    ครามกับพวกพญานา
    คแม่น้ำโขงเชียง คาน
    หลวงปู่ชอบท่านบ อกผม
    กับทิดม่อยบ ้านวังม่วงไปดูท
    างที่พญานาคพังด ินลงจากภูเขา
    พวกผมได้อาศัยทา
    งพญานาคนี่แหละล งไปตักน้ำ
    พระเณรอยู่นั่นล งไปตักน้ำสบายขึ ้น
    เพราะทางสงครา มพญานาค
    เรื่องแบบนี้ตาบ อดอย่างพวกเรามอ ง
    ไม่เห็นเหมือนท ่านหลวงปู่ชอบ
    หลวงปู่ชอบจิตท่ านเป็นทิพย์พิสุ ทธิ์
    จึงมองเห็นท ั้งหมดทุกเรื่อง
    หลวงปู่ท่านให้พ ญานาคทำทาง
    เพราะ ท่านอยากให้พระเ ณรได้เห็น
    เป็นหล ักฐานของเรื่องน ี้ ถ้าไม่เช่น
    นั้นพ วกเราก็จะไม่รู้ ที่มาของเรื่องน
    ี้เลย..
    หลวงปู่คำผองท่า นเล่าต่อถึงเรื่
    องที่ท่านไปอยู่ ปฏิบัติกับครูบา
    อาจารย์แต่ละองค ์
    ท่านบอกครูบาอาจ ารย์แต่ละองค์ก็
    มีบารมีภายนอกภา ยในแตกต่างกัน
    แต่กับหลวงปู่ชอ บท่านบอก
    บารมีภายในเรื่อ งลึกลับที่เกี่ย ว
    กับเทพเทวดาพญา นาค
    และฤทธิ์อภิญ ญาหลวงปู่ชอบท่า น
    จะเด่นมากในเรื ่องแบบนี้..
    หลวงปู่คำผองท่า นถามว่า พวกท่าน
    อยู่กับห ลวงปู่ชอบเคยเห็
    นหลวงปู่ท่านแสด งอะไรให้ดูไหม
    ผู้บันทึกกราบเร ียนท่านว่าเห็นห
    ลายครั้งขอรับ เอาแค่เรื่องหลว
    งปู่ชอบท่านแยกร ูปร่างเป็นหลายค น
    หรือล่องหนหายตั วไปต่อหน้าต่อตา
    ลูกศิษย์ที่นั่ง เฝ้านี่ก็สุดแสน เกิน
    จะบรรยายแล้ ว..
    ยกตัวอย่างเล่าใ ห้หลวงปู่คำผองท
    ่านฟังว่า มีครั้งหนึ่ง หลวงพ่อสีทน
    สีลธโน วัดถ้ำผาปู่ ท่านนั่งรถตู้โย
    มสุพรรณมากราบหล วงปู่ที่วัดป่าโ
    คกมน หลวงพ่อสีทนท่าน
    เข้ามาที่ห้องหล วงปู่ชอบถามผมว่ า
    หลวงปู่ท่านอยู่ ไหม
    ผมชี้มือบอกหลวง พ่อสีทนว่าหลวงป
    ู่ท่านอยู่ที่นี ่ แต่หลวงพ่อสีทนท ่านมอง
    ไม่เห็นหล วงปู่ชอบเลย
    หลวงพ่อสีทนท่าน ก้มลงกราบที่นอน
    ของหลวงปู่ชอบ พอเงยหน้าขึ้นท่
    านมองเห็นหลวงปู ่ชอบ ท่านพูด
    กับหลวงป ู่ชอบว่าพ่อแม่ค
    รูบาอาจารย์ก็ช่ างหยอกลูกศิษย์เ
    น๊าะ หลวงปู่ท่านก็ยิ ้มให้หลวงพ่อสีท
    น..
    หลวงปู่คำผองท่า นฟังแล้วก็หัวเร าะ
    ท่านบอกนี่แหละป าฏิหาริย์ธรรมใน
    พระศาสนา ถ้าปฏิบัติถึงแล
    ้วทุกอย่างเราก็ จะรู้แจ้งแก่ใจข
    องตนเอง เราก็เพลินใจไปก
    ับธรรมของท่านที ่ " กุฏิรุ่งธรรม "
    ต้นมะไฟวัดป่าโค กมน.. ๗
    กุมพาภาพันธ์ ๒๕๓๕..
     
  2. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    แบบนี้ใครจะอ่าน
     
  3. ผู้ไกล

    ผู้ไกล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +4,752
    ผมเนียและอ่านครับแล้วก็อ่านจบด้วย

    สาธุ ๆ ๆ บารมีพระเดชพระคุณหลวงปู่ชอบ
     
  4. ขอนไม้แห้ง

    ขอนไม้แห้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    228
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อนุโมทนาครับ ผมว่าก๊อปมาน่าจะแก้ตัวอักษรบ้าง น่าจะดูความเรียบร้อย ตัวหนังสือมันเพี้ยน
     
  5. VisionMind

    VisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +320
    (เวอร์ชั่นจัดข้อความ)

    ตอน ยุทธนาคา (สงครามพญานาค)

    โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน บ.โคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย

    เขียนบันทึกโดย. .ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท..


    [​IMG]

    มีเรื่องพญานาคเรื่องหนึ่งที่พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องพญานาคที่แปลกกว่าทุกเรื่อง ส่วนมากถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพญานาค หลวงปู่ท่านจะบอกพญานาคที่นั่นที่นี่มาขอฟังธรรมกับองค์ท่าน พญานาคจำแลงร่างเป็นมนุษย์มาใส่บาตรให้กับองค์ท่านหรือพญานาคอันธพาลมาแสดงเดชฤทธิ์กับองค์ท่านเป็นต้น แต่เรื่องพญานาคที่หลวงปู่เล่าให้ฟังตอนนี้เป็น เรื่องของพญานาคทำสงครามนาคายุทธกัน ซึ่งเป็นเรื่องพญานาคที่ประหลาดกว่าทุกเรื่องที่หลวงปู่ชอบท่านเล่าให้ฟัง..

    ท่านบอกเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๘ ซึ่งเป็นปีแรกที่องค์ท่านหลวงปู่ชอบมาสร้างวัดป่าม่วงไข่ บ้านม่วงไข่ ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ท่านว่าสมัยสร้างวัดป่าม่วงไข่ใหม่ๆนั้น พระเณรเวลาสรงน้ำตักน้ำจะต้องพากันเดินลงเขาทางด้านหลังศาลาหลังเก่าของวัดป่าม่วงไข่ ทางลงไปจะลึกลาดชันเวลาขึ้นลงแต่ละครั้งพระเณรต้องอาศัยเกาะกิ่งไผ่ลงไป ถ้าเผอเรอเมื่อไหร่เป็นได้กลิ้งกะโค่โร่ลงไปข้างล่างทันที..

    องค์ท่านหลวงปู่ ชอบเห็นถึงความลำบากของลูกศิษย์ เวลาลงไปตักน้ำท่านจึงบอกพ่อเชียงหมุนให้มาตัดต้นไผ่เพื่อทำทางลงไปสรงน้ำให้กับพระเณร ราวสองทุ่มคืนเดียวกันขณะหลวงปู่ชอบท่านกำลังจะไหว้พระสวดมนต์อยู่ที่กุฏิ ท่านได้ยินเสียงคนพูดคุยกันผ่านกุฏิของท่านไปทางด้านหน้าวัด องค์ท่านคิดในใจว่าค่ำมืดตืดตาป่านนี้แล้วยังจะมีโยมมาวัดอยู่อีกหรือ เสียงพูดกันก็ดังคึกคะนองแบบคนหนุ่ม ท่านจึงกำหนดดูถึงที่มาของต้นเสียง ท่านเห็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบต้นๆหกคนเดินคุยกันไปทางหน้าวัดป่าม่วงไข่ ชายหกคนนี้คุยกันว่าจะไปเที่ยวเล่นจีบสาวนาคีที่เมืองเชียงคาน องค์ท่านจึงรู้ว่าชายหนุ่มกลุ่มนี้เป็นลูกหลานของพญานาคภูผาหมานจำแลงร่างขึ้นมาเที่ยวเล่นจีบสาวนาคีแม่น้ำโขง ..

    หลังจากนาคาหนุ่มกลุ่มนี้ไปแล้ว องค์ท่านก็นั่งไหว้พระสวดมนต์อยู่ที่กุฏิ ขณะที่หลวงปู่ชอบท่านกำลังสวดมนต์บทเมตตายังกิญจิฯอยู่นั้น ท่านได้ยินเสียงคนไล่ตีกันดังลั่นมาจากทางหน้าวัด ท่านจึงหยุดสวดมนต์กำหนดดูเหตุการณ์ ท่านเห็นชายหนุ่มกลุ่มใหญ่ไล่ตีชายหนุ่มหกคนที่ท่านเห็นเมื่อตอนหัวคืน ชายหนุ่มทั้งหกวิ่งผ่านกุฏิท่านไป แล้วกระโดดลงเขาหายเข้าไปในบ่อน้ำซับหลังศาลาเก่าของวัดป่าม่วงไข่ ฝ่ายชายหนุ่มกลุ่มใหญ่ที่ไล่ตีกันมาพอเห็นองค์ท่านหลวงปู่ชอบ พวกเขาจึงพากันหยุดไล่ร้องบอกกันว่า พระๆ ทุกอย่างที่พญานาคแสดงออกในขณะนั้น ท่านบอกเหมือนกันกับมนุษย์เราทุกอย่างเลย..

    องค์ท่านถามพญานาคหนุ่มกลุ่มนี้ว่า เพราะอะไรถึงต้องได้ไล่ทำร้ายกันเข้ามาในวัดซึ่งเป็นเขตธรณีอภัยทาน พญานาคหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าบอกองค์ท่านว่า พวกพญานาคกลุ่มที่นี่ไปเที่ยวเล่นที่บ้านเมืองของพวกตน แล้วมีเรื่องผิดใจกัน จึงต้องไล่ทำร้ายกันมาถึงที่นี่ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นวัดวาพระศาสนา แต่ไหนแต่ไรพวกข้าพเจ้าไปมาหาสู่กันก็ไม่เห็นว่าที่นี่เป็นวัดวาศาสนามาก่อนเลย ..

    องค์ท่านจึงบอกพญานาคหนุ่มกลุ่มนี้ให้กลับไปบ้านเมืองของตนเองเสียอย่ามาเบียดเบียนกันที่ในวัดวาศาสนาเลย พวกพญานาคหนุ่มกลุ่มนี้จึงพากันลาองค์ท่านกลับไปยังบ้านเมืองของตน ท่านว่าเวลาที่พญานาคหนุ่มกลุ่มนี้ลาจากไปพวกเขาพากันจมหายลงไปในธรณีทันที เหมือนกับว่าดินผาหน้าภูที่นี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการไปการมาของพวกเขาเลย..

    ผู้บันทึกกับหมู่เพื่อนที่นั่งฟังองค์ท่านหลวงปู่ชอบเล่าพากันแปลกประหลาดใจว่า ทำไมพญานาคซึ่งเป็นเทพเทวดาประเภทหนึ่งจึงมีประพฤติบางอย่างที่คล้ายกันกับมนุษย์เรา..

    หลวงปู่ชอบท่านว่า พญานาคถึงจะเป็นภูมิเทพเทวดา เขาก็มาจากมนุษย์เรามีกิเลสรักโลภโกรธหลงเหมือนกันกบมนุษย์เรา ถ้าไม่พอใจกันขึ้นมาก็โกรธาเกรี้ยวกราดทำร้ายกันเหมือนกับมนุษย์เรา ต่างแต่พวกพญานาคเทพเทวดาเขาจะไม่ทำร้ายกันถึงขั้นหมายเอาชีวิตเหมือนกับมนุษย์เรา พวกพญานาคเทพเทวดาเขาจะสู้กันพอรู้ฤทธิ์แล้วก็เลิกรากันไป..

    การให้อภัยกันของภพภูมิเทพเทวดาเขาจะให้อภัยกันง่ายกว่ามนุษย์เรา เพราะพวกเขามีเทวะธรรมหิริโอตัปปะความละอายแก่ใจความเกรงกลัวต่อบาปกรรมของเทพเทวดาเขาจะมีมากกว่ามนุษย์..

    ถ้าจิตใจไม่มีเทวะธรรมสองอย่างนี้เป็นเครื่องถือครองแล้ว บุคคลนั้นจะเกิดเป็นเทพเทวดาไม่ได้เลย ถึงแม้เกิดเป็นมนุษย์ก็จะได้เกิดเป็นมนุษย์ผู้ที่มีความบกพร่องในสติปัญญาและร่างกาย ..


    องค์ท่านเล่าให้ฟังต่อว่า หลังจากพญานาคหนุ่มกลุ่มนี้จากไปไม่นาน ท่านได้ยินเสียงดังโหวกเหวกอึงคะนึงไปทั่วบริเวณวัดป่าม่วงไข่ ท่านเห็นพญานาคพากันจัดเตรียมทัพมีช้างม้าไพร่พลถืออาวุธครบมือเหมือนกับทหารศึกในสมัยโบราณ ท่านว่าทุกอย่างเหมือนกับคนเราเวลาเตรียมทัพออกศึกไม่มีผิดเพี้ยนกันเลย..

    องค์ท่านถามพญานาคผู้เป็นแม่ทัพนายกองว่าจะพากันไปออกศึกออกเสือที่ไหนถึงได้แต่งทัพใหญ่โตมโหฬารถึงปานนี้ แม่ทัพใหญ่พญานาคบอกองค์ท่านว่า พวกข้าพเจ้าจะไปรบกับพวกพญานาคแม่น้ำโขง พญานาคพวกนี้มาหยามหมิ่นรังแกลูกหลานของพวกข้าพเจ้า..

    องค์ท่านบอกอย่าไปเบียดเบียนกันเลยมันจะเป็นบาปเวรต่อกัน แต่พญานาคใหญ่ผู้เป็นแม่ทัพนายกองไม่ฟังคำที่องค์ท่านทัดทาน เขายืนกรานที่จะออกรบตามมานะศักดิ์ศรีที่เขาถือ เมื่อพญานาคผู้เป็นใหญ่ไม่เอาคำองค์ท่านจึงบอกเขาว่า ถ้าจะไปรบกันแล้วอาตมาขอให้โยมทำทางลงไปสรงน้ำให้พระเณรได้ไหม จะเป็นการถวายความสะดวกให้กับพระเณรผู้ที่ท่านพักอาศัยอยู่ในอาวาสนี้ อาตมาอยากให้ท่านแสดงฤทธิ์ไว้เป็นหลักฐานให้พระเณรผู้ไม่รู้ได้เห็นว่าที่นี่มีพญานาคอาศัยอยู่ ..

    พอองค์ท่านบอกพญานาคใหญ่ผู้เป็นหัวหน้า ให้เขาทำทางลงไปตักน้ำให้พระเณร องค์ท่านว่าพญานาคเจ้าจอมทัพดันภูเขาทีเดียวดินที่อยู่บนภูเขาไหลลงไปเป็นร่องทันที ต้นไม้ต้นไผ่พังทลายลงไปกองอยู่ใต้ภูเขายิ่งกว่าใช้รถเกรดรถไถดันลงไป หลวงปู่ท่านว่าพวกพญานาคนี้มีฤทธิ์แรงมากเกินประมาณได้ การกระทำด้วยฤทธิ์เดชของเขาจึงง่ายดายไม่ต่างอะไรกับคนเราพลิกฝ่ามือ..

    เมื่อพญานาคใหญ่ภูผาหมานพังภูเขาทำทางลงไปตักน้ำให้พระเณรแล้ว เขาก็ลาท่านไปรบกบ "อิสโรนาคราช" ราชันย์นาคาแม่น้ำโขงเมืองเชียงคานที่มีวิมานเมืองบาดาลอยู่ห่างจากปาก "แม่น้ำเลย" ไหลลงตกแม่น้ำโขงที่ "บ้านคกมาด" สี่ร้อยเมตร..

    องค์ท่านหลวงปู่ชอบดูเหตุการณ์พญานาคทำนาคายุทธกันจนถึงตีสองทุกอย่างจึงยุติศึก ท่านเห็นไพร่พลทหารพญานาคภูผาหมานแตกทัพหนีเข้ามาทางวัดป่าม่วงไข่อย่างอลหม่าน พอมาถึงบ่อน้ำซับหลังศาลาวัดป่าม่วงไข่ทหารพญานาคพากันหายลงไปในบ่อน้ำซับแห่งนี้ทันที พวกทหารพญานาคอีกฝ่ายหนึ่งก็ไล่ตามกันมา ผู้ที่เป็นหัวหน้าแม่ทัพใหญ่ "อิสโรนาคราช" เห็นหลวงปู่ชอบอยู่ที่นี่เขาจึงบอกไพร่พลให้หยุดทัพ..

    องค์ท่านถาม "อิสโรนาคราช" เพราะเหตุอะไรพวกท่านถึงต้องมารบทัพจับศึกกัน อิสโรนาคราชพญานาคแม่น้ำโขงเมืองเชียงคานบอกท่านว่า พวกลูกหลานพญานาคเมืองนี้ ไปมีเหตุวิวาทกับลูกหลานของพวกข้าพเจ้า เจ้าเมืองพญานาคที่นี่ไม่พอใจจึงยกทัพไปท้ารบประลองฤทธิ์กับพวกข้าพเจ้าถึงบ้านเมือง..

    หลวงปู่ชอบท่านถามพญานาคอิสโรว่า พญานาคเขามีการรบทัพจับศึกเหมือนกันกับมนุษย์หรือ อิสโรนาคราชตอบท่านว่าพญานาคก็เหมือนกันกับมนุษย์ เมื่อมีเรื่องราวเจรจาความกันไม่ได้ก็ต้องใช้กำลังต่อสู้กันเพื่อให้รู้แพ้ชนะ แต่ไม่ถึงขั้นทำลายล้างกันเหมือนกับพวกมนุษย์ พวกข้าพเจ้าจะต่อสู้กันพอรู้แพ้ชนะเท่านั้นจะไม่ทำอะไรเกินเลยให้กันมากไปกว่านี้..

    องค์ท่านบอกเมื่อรู้แพ้รู้ชนะกันแล้วก็ไม่ต้องมาต่อสู้อะไรกันอีก พวกท่านเป็นเทวะฤทธิ์มีเดชมาก การต่อสู้ของพวกท่านจะทำให้มนุษย์และสัตว์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ จะได้รับอันตรายเดือดร้อนจากการสู้รบของพวกท่านได้ อาตมาขอให้ท่านทั้งสองจงเว้นปล่อยวางในเรื่องนี้เสีย อิสโรนาคราชพญานาคแม่น้ำโขงโอนอ่อนยอมในคำขอขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ จึงถอนทัพลาองค์ท่านกลับไปยังบ้านเมืองของเขา..


    รุ่งเช้าก่อนที่องค์ท่านหลวงปู่ชอบ จะออกไปบิณฑบาตที่บ้านม่วงไข่ ท่านเดินไปดูทางพญานาคดันภูเขาเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่านเห็นทางที่พญานาคดันเขาพังดินลงไปเป็นทางกว้างประมาณหนึ่งวา ต้นไม้ต้นไผ่ตามสายทางพังระนาวกราวรูดไม่ต่างอะไรกับเอารถไถวิ่งดันลงไป เมื่อสำรวจตรวจดูสถานที่โดยทั่วแล้ว องค์ท่านจึงเดินมาศาลาเพื่อพาพระเณรออกไปบิณฑบาตที่บ้านม่วงไข่..

    (บันทึกต่อท้าย) ผู้บันทึกเรียนถามหลวงปู่คำผอง กุสลธโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ผาแด่น ตำบลสันป่ายาง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ท่านอยู่ปฏิบัติ กับองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ที่บ้านม่วงไข่ในตอนนั้น..

    หลวงปู่คำผองบอกว่า หลวงปู่ชอบบอกท่านคำผองต่อไปนี้พวกท่านลงไปตักน้ำสบายขึ้นกว่าเก่าแล้ว พญานาคทำทางให้พวกท่านแล้ว เมื่อคืนพวกพญานาคที่นี่ไปออกสงครามกับพวกพญานาคแม่น้ำโขงเชียงคาน หลวงปู่ชอบท่านบอกผมกับทิดม่อยบ้านวังม่วงไปดูทางที่พญานาคพังดินลงจากภูเขา พวกผมได้อาศัยทางพญานาคนี่แหละลงไปตักน้ำ พระเณรอยู่นั่นลงไปตักน้ำสบายขึ้น เพราะทางสงครามพญานาค เรื่องแบบนี้ตาบอดอย่างพวกเรามองไม่เห็นเหมือนท่านหลวงปู่ชอบ หลวงปู่ชอบจิตท่านเป็นทิพย์พิสุทธิ์ จึงมองเห็นทั้งหมดทุกเรื่อง หลวงปู่ท่านให้พญานาคทำทางเพราะท่านอยากให้พระเณรได้เห็น เป็นหลักฐานของเรื่องนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่รู้ที่มาของเรื่องนี้เลย..

    หลวงปู่คำผองท่านเล่าต่อถึงเรื่องที่ท่านไปอยู่ปฏิบัติกับครูบาอาจารย์แต่ละองค์ท่านบอกครูบาอาจารย์แต่ละองค์ก็มีบารมีภายนอกภายในแตกต่างกัน แต่กับหลวงปู่ชอบ ท่านบอกบารมีภายในเรื่องลึกลับที่เกี่ยวกับเทพเทวดาพญานาคและฤทธิ์อภิญญาหลวงปู่ชอบท่าน จะเด่นมากในเรื่องแบบนี้..

    หลวงปู่คำผองท่านถามว่า พวกท่านอยู่กับหลวงปู่ชอบเคยเห็นหลวงปู่ท่านแสดงอะไรให้ดูไหม ผู้บันทึกกราบเรียนท่านว่าเห็นหลายครั้งขอรับ เอาแค่เรื่องหลวงปู่ชอบท่านแยกรูปร่างเป็นหลายคน หรือล่องหนหายตัวไปต่อหน้าต่อตา ลูกศิษย์ที่นั่งเฝ้านี่ก็สุดแสนเกินจะบรรยายแล้ว..

    ยกตัวอย่างเล่าให้หลวงปู่คำผองท่านฟังว่ามีครั้งหนึ่ง หลวงพ่อสีทน สีลธโน วัดถ้ำผาปู่ ท่านนั่งรถตู้โยมสุพรรณมากราบหลวงปู่ที่วัดป่าโคกมน หลวงพ่อสีทนท่านเข้ามาที่ห้องหลวงปู่ชอบ ถามผมว่าหลวงปู่ท่านอยู่ไหม ผมชี้มือบอกหลวงพ่อสีทนว่าหลวงปู่ท่านอยู่ที่นี่ แต่หลวงพ่อสีทนท่านมองไม่เห็นหลวงปู่ชอบเลย หลวงพ่อสีทนท่านก้มลงกราบที่นอนของหลวงปู่ชอบ พอเงยหน้าขึ้นท่านมองเห็นหลวงปู่ชอบ ท่านพูดกับหลวงปู่ชอบว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็ช่างหยอกลูกศิษย์เน๊าะ หลวงปู่ท่านก็ยิ้มให้หลวงพ่อสีทน..

    หลวงปู่คำผองท่านฟังแล้วก็หัวเราะ ท่านบอกนี่แหละปาฏิหาริย์ธรรมในพระศาสนา ถ้าปฏิบัติถึงแล้วทุกอย่างเราก็จะรู้แจ้งแก่ใจของตนเอง เราก็เพลินใจไปกับธรรมของท่านที่ "กุฏิรุ่งธรรม" ต้นมะไฟวัดป่าโคกมน..

    ๗ กุมพาภาพันธ์ ๒๕๓๕..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2013
  6. potilan

    potilan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2014
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +40
    ผมอ่านครับ
     
  7. moopanda_kae

    moopanda_kae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2009
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,107
    เราก็อ่านนะ...แต่อ่านเวอร์ชั่นที่จัดข้อความแล้วนะ ฮี่ๆ (f)
     

แชร์หน้านี้

Loading...