สวัสดีค่ะ เราเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2006 ก่อนที่เราจะย้ายมาอยู่ ทางอเมริกาเหนือ เราโชคดีมากที่ได้เรียนรู้การสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทาน ศีล มากจากเมืองไทย ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวร เราย้ายมาอยู่ตอนปลายปี 2010 เราเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ยิ่งเชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น ขอลำดับเหตุการณ์ ตามหมายเลยเลยนะค่ะ 1.เราจะสวดมนต์ และนั่งสมาธิ ทุกวันเป็นปกติ ช่วงแรกที่มาอยู่ที่บ้าน เวลาที่เรานั่งสมาธิ จนถึงจิตนิ่ง เราจะได้ยินเสียง ผู้ชายสวมรองเท้าทหาร เดินขึ้นบันได บ้านมา และมาหยุดตรงหน้าประตูบ้าน ทุกครั้ง ( บ้านเราอยู่บนเนินเขา ถ้าจะเดินถึงหน้าประตูบ้าน ต้องเดินขึ้นบันไดบ้าน เราจะนั่งสมาธิ ในห้องนั่งเล่น หันหน้าออกหน้าต่าง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ หน้าประตูบ้าน) ที่เรามั่นใจว่า เสียงนั่นเป็นผู้ชายสวมรองเท้าทหารเดิน เพราะ ทุกครั้งที่ได้ยิน จังหวะการเดิน และน้ำหนักเท้าของเขา เหมือนเดิมทุกครั้ง เขาจะเดินขึ้นมาและ หยุดอยู่หน้าประตูบ้านทุกครั้ง จนกระทั่ง เรารู้สึกว่า กลัว และ รำคาญ จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่เขาเดินมาให้เราได้ยิน เราจึงแผ่เมตตาให้เขา และ บอกว่า เรายินดีแผ่เมตตาให้ท่านได้รับ แต่กรุณาอย่าสร้างความกลัวให้เรา หลังจากนั้น เราก็จะไม่ได้ยินเสียงนั่นอีกเลย บนชั้นบนบ้านเรา มีสองห้องนอน ห้องตรงข้าม ตั้งโต๊ะทำงาน และ คอมพิวเตอร์เอาไว้ ช่วงแรกที่เราไปอยู่ ตอนเคลิ้มๆ จะนอนหลับ จะได้ยินเสียง ผู้หญิง และเด็กผู้หญิง คุยเล่นกันอยู่ในห้อง ทำงาน บางคืน เขาเล่นกันเสียงดังมาก เราตื่นมากลางคืน และหลับต่อ เราเริ่มมั่นใจว่า เราไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวแน่นอน (โดยเฉพาะ เวลาสามีไม่อยู่) วันหนึ่ง เรานั่่งสมาธิ ในห้องนั่งเล่นเหมือนเดิม คราวนี้ สาวน้อย บนชั้นบนเธอวิ่งลงมา แล้วหยุดอยู่ข้างๆที่เรานั่งสมาธิ แล้ว เซย์ฮัลโหล (ลืมบอกไปว่าเขาเป็นวิญญาณฝรั่ง) ตอนนั้นเรานั่งสมาธิอยู่อึ้งเลย เลยบอกเขาว่ากลัวนะ รับบุญไปนะ แล้วอย่าให้เราได้ยินเสียงอีก สาวน้อยอึ้งไป แต่ยังยืนข้างๆ เรา เราบอกเขาว่าขอโทษ เรากลัว หลังจากนั้น เราก็จะไม่ได้ยินเสียงของสองสาว อีกเลย จนเรานึกว่า เขาไปเกิดกันแล้ว แต่มาพักนี้ เราได้ยินเสียงเขาอีก ก็เลยถึงบางอ้อ ว่า เพื่อนเรายังอยู่ แต่เขาเพลาๆ เสียงเพราะไม่อยากให้เรากลัว แต่ทำให้เราสำนึกถึงครูบาอาจารย์เลย ท่านสอนว่าก่อนที่เราจะเริ่มนั่งสมาธิ ก็ควรที่จะมีอาจารย์ เพราะเวลาที่เราเห็นอะไร เวลานึกถึงท่าน ท่านจะมาช่วยเราได้ทันที 2. เวลาที่สามีเรา เดินทางไปต่างประเทศ และเรานอนอยู่บ้านคนเดียว มักจะมีแขกมาเยี่ยม ตอนกลางคืน ถ้าไม่สองสาวที่เราเอ่ยข้างต้น ก็จะเป็นวิญญาณ บางท่านที่มาดูแล มีอยู่ครั้งนึก แปลกมาก เรากำหลับอยู่ และเมื่อถึงเวลาครึ่งหลับครึ่งตื่น มีสัตว์ ที่คล้่ายเวตาล ในนิยายปรัมปรา บ้านเรา เขามีหูยาวเหมือนค้างคาว มีปีก ตัวประมาณ แขน เขาบินมาเกาะบนเพดานห้องนอน มาเป็นกลุ่ม แต่ไม่รู้ว่ากี่ท่าน เราลืมตา และงงมาก มีท่านนึง บอกเราจากบนเพดานว่า เขาแค่มาดูเราเฉยๆ มาดูคนที่มาจากประเทศที่มีศาสนาต่างจากเขา เขาบอกเราว่า เราโชคดีนะ และสบาย เราก็เลยนึกขึ้นมาได้เลยว่า เขาเกิดมาในสภาพอย่างนั้น เขาไม่ได้เจอพระพุทธศาสนา ไม่สามารถทำบุญ กุศลได้ และหลังจากนั้นไม่นาน เรากับสามี ก็ไปเที่ยวสถานที่ นึง พอเราเดินขึ้นไปบนยอดตึกของสถานที่นั้น เราเจอพวกเขา เป็นรูปปั้นอยู่บนข้างฝา ของสถานที่นั้น เราจำพวกเขาได้แม่น ยิ่งตอกย้ำเราอีกเลยว่า คนเราตายแล้วไม่สูญ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม 3. เรื่องนี้เกิดกับพี่ที่เรานับถือ เป็นคนไทย พี่คนนี้อยู่ในเมืองเดียวกับเรา พี่เขาไม่สบายมากในช่วงนึง เหมือนกับจะไม่รอด สามีและลูกพาส่งโรงพยาบาล พี่เขาบอกว่า หมอบอกว่า ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าพี่จะหายดี มีอยู่คืนนึง พี่เขานอนอยู่ช่วงกลางคืน เขาตื่นขึ้นมา และเห็นกลุ่มคนยืนอยู่ปลายเท้า แต่คนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด เห็นได้ชัดว่าเป็นฝรั่ง ใส่ชุดทหารโบราณ แล้วกลุ่มคนพวกนี้สูงผิดปรกติ พี่เขาบอกว่า ตอนนั้นรู้เลยว่าเจอ เปรต เขาเลยถามว่ามาทำไม มาหลอกคนอย่างนี้ ยิ่งบาปหนักนะ เอาอย่างนี้ถ้าฉันหายเป็นปรกติ ฉันจะไปทำสังฆทานที่วัดไทยให้ พวกเปรตเลยหายไป หลังจากนั้น พี่เขาก็หายเป็นปรกติ ซึ่งหมอก็ยัง ให้เหตุผลไม่ได้ว่า ทำไมพี่เขาถึงหายไวขนาดนั้น 4. พระพุทธเจ้าหลวง พี่คนที่เราเล่าถึงในข้อ3 มีลูกชายสองคน เกิดที่นี่ และโตที่นี่ ซึ่ง เขาจะไม่รู้จักประเทศไทย และ ไม่รู้จักพระพุทธเจ้าหลวง ในร้านขายของของพี่คนนี้ จะมีรูปบานใหญ่ของพระพุทธเจ้าหลวงตั้งอยู่ แต่เด็กสองคนนี้ไม่รู้จักท่าน และ คนพี่ บอกว่า แม่เอารูปใครมาติด ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลย หลังจากนั้น อีกสองวันถัดมา ลูกคนโตของพี่คนนี้ อยู่ที่ร้านคนเดียว และเห็นผู้ชาย เหมือนในรูปบานใหญ่ เดินอยู่ในร้าน แล้วหายไป เขาเลยถามแม่ว่า เขาเห็นคนที่อยู่ในรูปเดิน แล้วหายไป ตกลงว่า คนที่อยูในรูปเป็นใคร พี่เขาเลยต้อง เล่ายาว เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าหลวง เรื่องนี้ ทำให้เราเข้าใจได้เลยว่า ที่ครูบาอาจารย์สอนว่า จิตตั้ง ใจถึง หมายถึงอะไร ทั้งหมดนี้ เราอยากจะบอกทุกคนว่า พวกเราโชคดีที่ได้เกิดมาใต้พระพุทธศาสนา มีพระมหากษัตริย์ ที่เป็นพระโพธิสัตว์ อย่าได้ท้อ ซึ่งคำนี้เราต้องใช้เตือนตัวเราอย่างมาก เพราะอยู่ต่างประเทศ คนมาจากต่างๆ วัฒนธรรม ซึ่งบางครั้ง สร้างความปวดหัว และท้อให้กับเราอย่างมาก แต่เรานึกถึงพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ แล้ว เราจะรู้สึกดีขึ้นอย่างมาก
เกิดมาโชคดีก็จริง...แต่บางคนก็เหมือนลิงได้แหวน....หัวล้านได้หวี....ไก่ได้พลอย.....ดีของดีประจำชาติ....แต่หาว่าโบราณคร่ำครึ...ไม่เอาเป็นแบบอย่าง....สังคมเลยวุ่นวาย...เพราะคนมักจะทำตามใจตัว...ไม่สนใจเรื่องศีลธรรม...สวัสดี...
คุณจะโชคดีกว่านี้อีก ถ้าได้รูว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนอะไร และต้องเรียนรู้อะไรในคำสอนของพระองค์ สิ่งแรกที่ควรรู้คือ รู้ในอริยสัจสี่ และปฏิบัติตามมรรคแปด
ในเมื่อรู้ว่าโชคดีแล้ว ก็มาใช้ชีวิตนี้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด และช่วยคนรอบข้างเท่าที่ช่วยได้กันเถอะครับ เพราะเขาคือพี่น้องของเราทั้งนั้น ทำความดีใดๆอย่าย่อท้อให้ตั้งใจว่าทำเพื่อพระนิพพาน
อนุโมทนาสาธุครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งนับวันคนจะยิ่งห่าง ศีลธรรมกันมากขึ้น ขอให้พุทธศาสนาอยู่คู่คนไทยไปอีกนานแสนนานครับ