" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 27 เมษายน 2013.

  1. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    แล้วตอนนี้เรายังสามารถเดินเรื่องปอปได้อยู่ไหมเนี่ย ? ถ้าย้ายเข้ามาในนี้แล้วหลบไม่พ้นสายตาอสูรอ่ะครับ :boo:
     
  2. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    555555555555 จะน้อยใจไปไยคะคุณพายุ ... ไอ้ที่คุณเป็นอยู่ " เราก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนจร้า " ตั้งแต่ตอนเด็ก ๆเลยจนเข้าวัยรุ่นก็ยังเป็นแบบที่คล้ายคุณพายุเป็น .. แต่เพราะเจ็บมาเยอะเจอมาหลายรูปแบบเลยกลายมาเป็นอย่างที่เห็น .. ไม่ใช่เป็นแบบที่เห็นในตอนแรกคะ ... คุณพายุก็ทำได้คะ ... จากพายุอาจกลายเป็นสายฝนพร่ำ ๆ ที่ฉ่ำเย็นก็ได้นะคะ ..
     
  3. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515

    นี่ข้าน้อยปลื้มใจ ในความความก้าวหน้าอยู่นะคะ

    ก็จาก

    ระดับ มีบุญแต่ไร้วาสนา

    มาเป็น

    มีวาสนา แต่ไร้ปัญญา เชียวนะ ๕๕๕๕๕
     
  4. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... พูดได้คะ .. เพียงแค่บางเรื่องที่พูดไม่ได้ก็จะไม่พูด .. ถึงจะเสี่ยง และ ล่อเป้าไปสักหน่อย .. แต่อย่างที่บอกไว้ในเบื้องต้นว่ามันมีคำสาปอยู่ด้วย .. แต่ไม่ใช่สาปแช่งทำร้ายคนอื่นนะคะ .. แต่สาปแช่งคนที่คิดร้ายตัวเราคนในครอบครัวเรา .. โดยเฉพาะเรา .. ใช่คะเราสาปตัวเองไว้นั้นเอง .. ตลกดีไหม๊คะ ..

    ... เราใบ้หน่อยก็ได้คะ .. จะว่าเราโรคจิตก็ได้นะ ... "ใครที่คิดทำร้ายเราไม่ว่าคน หรือ ไม่ใช่คน ก็ให้ถือเทียบเท่าว่าเขาทำร้ายแม่ตัวเอง คิดร้ายต่อครูตนเอง ฯ " .. แค่นี้คงพอเดาออกนะคะว่า .. ผลมันจะเป็นยังไงกับคนแบบนั้น .. เราไม่อยากทำแบบนี้แต่เหมือนทุกอย่างต้องการให้เป็นแบบนี้จริง ๆ ไม่ขอบอกในรายละเอียดว่าทำไมถึงคิดทำแบบนี้ .. แล้วคนอย่างเราจะทำได้เหรอ .. ก็ต้องดูกันต่อไป .. เพราะบางคนเกิดมามีความพิเศษแตกต่างกันออกไป ตัวเราเองก็เช่นกัน .. แต่ก็อาศัยกฏแห่งกรรมร่วมด้วยอาศัยเทคนิคนิดหน่อย.
     
  5. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... ไม่ใช่ไม่มีปัญญาคะ ... เราเชื่อว่าคุณมีปัญญา .. แถมออกแนวร้ายด้วย อิอิ ... เพียงแค่ว่าเป็นพวกไม่ชอบใช้เท่าไหร่ .. มีดไม่ได้ลับนานไปก็สนิมกินได้คะ คือ มันไม่ถึงใจไม่เหมือนใช้กำลังลุยไหนลุยกัน ... แบบนั้นนิชอบเลย 555555555

    .... ถ้าคุณพายุไร้ปัญญาจริง ๆ คงอ่านที่พี่ระมิง หรือ เราเขียนไม่ได้นานขนาดนี้หรอกคะ .. อิอิ คงหายไปนานละจริงไหม๊คะ ... แต่ที่คุณพายุต้องละให้ได้คือ ความดื้อรั้นในตนเองคะ .. ทิฐิมานะ มันคือตัวปัญหาอันยิ่งใหญ่ของคนแบบเราคะ .. เอาเป็นว่าลองไปพิจารณาตัวกาตูนที่คุณใช้แทนตัวก็ได้นะคะ .. ตัวนี้เราชอบมากปลื้มมาก .. อินุยาฉะ .. เราเห็นแล้วก็ให้รู้สึกว่าคุณพายุคงไม่ต่างจากตัวการ์ตูนนี้เท่าไหร่ ..

    ... บางที่เส้นผมอาจบังภูเขาอยู่ก็ได้ .. คุณพายุต้องหามันเองคะเราเองกว่าจะหาเจอก้เกือบสามสิบปีนะคะ .. สมัยก่อนเราเป็นคนที่มี ทิฐิ แรงมากคนหนึ่งแต่มันมีจุดเปลี่ยนให้เราคิดได้ และ พยายามแก้ไขมันจนได้อย่างที่พวกคุณได้เห็น .. ลองมาเริ่มต้นแบบง่าย ๆ ตามแบบที่ อ.ต๋อง แนะนำเราไหม๊คะ

    ..... เริ่มต้นที่ทาน ไปสู่ศีล .. ต่อด้วยสมาธิ .. แล้วจะเกิดปัญญา ..

    ... สั้น ๆ แค่นี้แหละคะที่ท่านสอนมา .. แต่เวลาเอาไปทำนั้นคุณพายุต้องต่อยอดเองจะได้เข้าใจอย่างท่องแท้ เพราะหากให้คนอื่นมาสอนทั้งหมด .. คุณจะเกิดแรงต่อต้านภายในพร้อมด้วยคำถามมากมาย .. แต่ถ้าคุณนำหลักไปต่อยอดเองคุณจะได้อะไรมากกว่าที่ฟังเขาอย่างเดียวนะคะ .. เอาไว้ถ้าอ่านแล้วงงค่อยถามเรามาละกันเพราะเราก็สอนใครไม่เป็น
     
  6. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... มีสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง คำสาป พร คำสัญญา สาบาน คำอธิฐาน ที่เราศึกษามาแล้วได้ข้อสรุปประมาณว่า .. สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น กรรม ชนิดหนึ่งเป็นเหมือนตัวเชื่อมสิ่งต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันไม่มีข้อจำกัดเรื่องภพภูมิ ... ถ้าองค์ประกอบพร้อมมูลสิ่งเหล่านี้สามารถให้ผลได้ทันทีคะ .

    ... แล้วระหว่าง คำสาปแช่ง หรือ พรต่าง ๆ ก็มีความเหมือนกันอยู่ที่มุมมองสำหรับเราไม่ต่างกัน เพียงแค่พรต้องให้คนอื่นเป็นคนให้ แต่คำสาปแช่งนั้นเราต้องเป็นผู้ให้คนอื่น หรือ ผุ้อื่นให้เรา และ มีเรื่องของอารมณืเข้ามาเป้นส่วนประกอบสำคัญมากเลยทีเดียว ... แต่คำที่ออกมาจากอารมณ์ที่ขุ่นมัว มืดดำ รุนแรง มักมีความรุนแรงมากกว่า บวกกับตัวช่วยที่มีพลังมาก พรนั้นเกิดจากอารมณ์แห่งความ ปิติ พอใจ เมตตาที่มีมาก ถ้าบุคคลนั้นมี " วาจาสิทธิ์ + บารมี " ยิ่งมีมากมันยิ่งส่งผลให้เกิดได้เร็ว และ มีผลมากขึ้นเท่านั้น

    .... ส่วนคำอธิฐาน สัญญา สาบาน พวกนี้จะมีผลข้ามภพข้ามชาติผูกพันธ์เกี่ยวเนื่องยาวนานยากจบสิ้น .. จึงได้มีการแนะนำกันว่าอย่าไป สัญญา สาบาน กับใครถ้าไม่มั่นใจว่าทำไม่ได้ เพราะมันมีผลในระยะยาว

    ... ตัวแปรที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง คือ บุคคลที่ 3 หรือ พยาน คือตัวควบคุมเร่งรัดให้ผลเกิดขึ้นตามคำนั้น เป็นเหมือนกรรมการบนเวที เป็นเหมือนศาลยุติธรรมที่เที่ยงตรง ..

    .... บางคนมีคำถามในใจมากมายแล้วว่า .. มีทางแก้ไหม๊ ... เราขอตอบว่า " ควรพิจารณาเป็นกรณีไป " .. เพราะไม่ใช่อยุ่ ๆ คิดจะสาปแช่งใครก็ได้ หรือ จะให้พรใครก็ได้องค์ประกอบมันต้องมีครบพอสมควรจึงทำได้ .. แล้วมันจะมีอีกอย่างที่พ่วงมาด้วย คือ กรรม เรียกว่า " กรรมมะวาจา " ผลของมันอาจไม่เต้มร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือ อาจไม่เกิดเลย ถ้าเรามีบารมีมากกว่าเขา ดวงเราไม่ได้ตก หรือ เราไม่ได้ผิดจริง เป็นต้น
     
  7. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. พี่ระมิงพูดถึงจริต 6 เราเองก้อยากรู้เลยไปค้นเจอมา .. เผื่อจะมีคนอยากรู้ ..

    จริต 6

    จริต แปลว่า จิตท่องเที่ยว สถานที่จิตชอบท่องเที่ยวหรืออารมณ์ที่ชอบท่องเที่ยวของจิตนั้น

    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ มี 6 ประการคือ


    1.ราคจริต จิตท่องเที่ยวไปในอารมณ์ที่รักสวยรักงาม คือ พอใจในรูปสวย เสียงเพราะ
    กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสนิ่มนวล ชอบการมีระเบียบ สะอาด ประณีต พูดจาอ่อนหวาน
    เกลียดความเลอะเทอะ

    2.โทสจริต มีอารมณ์มักโกรธ เป็นคนขี้โมโหโทโส จะเป็นคนที่แก่เร็ว พูดเสียงดัง เดินแรง
    ทำงานหยาบ แต่งตัวไม่พิถีพิถัน เป็นคนใจเร็ว

    3.โมหจริต มีอารมณ์จิตลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ ชอบสะสมมากกว่าจ่ายออก
    มีค่าหรือไม่มีค่าก็เก็บหมด นิสัยเห็นแก่ตัว อยากได้ของของคนอื่น แต่ของตนไม่อยากให้ใคร
    ไม่ชอบบริจาคทานการกุศล เรียกว่า เป็นคนชอบได้ ไม่ชอบให้

    4.วิตกจริต มีอารมณ์ชอบคิด ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่กล้าตัดสินใจ
    คนประเภทนี้เป็นโรคประสาทมาก มีหน้าตาไม่ใคร่สดชื่น แก่เกินวัย
    หาความสุขสบายใจได้ยาก

    5.สัทธาจริต มีจิตน้อมไปในความเชื่อเป็นอารมณ์ประจำใจ เชื่อโดยไร้เหตุผล
    พวกนี้ถูกหลอกได้ง่าย ใครแนะนำก็เชื่อโดยไม่พิจารณา

    6.พุทธิจริต เป็นคนเจ้าปัญญาเจ้าความคิด มีความฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบ
    การคิดการอ่าน ความทรงจำดี

    อารมณ์ที่กล่าวมา 6 ประการนี้ บางคนมีอารมณ์ทั้ง 6 อย่างนี้ครบถ้วน บางรายก็มีไม่ครบ
    มีมากน้อยกว่ากันตามอำนาจวาสนาบารมีที่อบรมมาในชาติอดีต อารมณ์ที่มีอยู่คล้ายคลึงกัน
    แต่ความเข้มข้นรุนแรงไม่เสมอกันนั้น เพราะบารมีที่อบรมมาไม่เสมอกัน

    ประโยชน์ของการรู้อารมณ์จริต

    นักปฏิบัติควรรู้อาการของจริตที่จิตของตนคบหาสมาคมอยู่ เพราะการรู้อารมณ์จิตเป็น
    ผลกำไรในการปฏิบัติ เพื่อการละด้วยการเจริญสมาธิก็ตาม พิจารณาวิปัสสนาญาณก็ตาม
    ความสำคัญอยู่ที่การควบคุมความรู้สึกของอารมณ์ ถ้าขณะที่กำลังตั้งใจกำหนดจิตเพื่อเป็นสมาธิ
    หรือพิจารณาวิปััสสนาญาณอารมณ์จิตเกิดฟุ้งซ่าน
    ก็จะได้น้อมนำเอาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้มาประคับประคองใจให้เหมาะสมเพื่อผลในสมาธิ
    หรือหักล้างด้วยอารมณ์วิปัสสนาญาณเพื่อให้ได้ฌานสมาบัติ หรือมรรคผลนิพพาน
    พระธรรมเพื่อผลของสมาบัติ ท่านเรียกว่า "สมถกรรมฐาน" มีทั้งหมด 40 อย่าง


    •อสุภกรรมฐาน 10
    •อนุสสติกรรมฐาน 10
    •กสิณ 10
    •อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1
    •จตุธาตุววัฏฐาน 1
    •พรหมวิหาร 4
    •อรูป 4

    แบ่งกรรมฐาน 40 ให้เหมาะแก่จริต


    สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบถึง ความเหมาะสมในกรรมฐานต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับอารมณ์
    จิตที่มีความข้องอยู่ในขณะนั้น ว่า เมื่อใดอารมณ์จิตของท่านผู้ใดข้องอยู่ในอารมณ์ชนิดใด
    ก็ให้เอากรรมฐานที่พระองค์ทรงประทานไว้ว่าเหมาะสมกันเข้าพิจารณา หรือภาวนาแก้ไขเพื่อ
    ความผ่องใสของอารมณ์จิต เพื่อการพิจารณาวิปัสสนาญาณ เพื่อมรรคผลนิพพานต่อไป
    กรรมฐาน 40 กองที่ท่านได้จำแนกไว้ เพื่อเหมาะสมกับจริตมีดังนี้

    1. ราคจริต

    ราคจริตนี้ กรรมฐานที่เหมาะคือ อสุภกรรมฐาน 10 กับกายคตนานุสสติ 1
    เมื่ออารมณ์รักสวยรักงามเกิดขึ้นแก่อารมณ์จิต จิตข้องอยู่ในกามารมณ์เป็นปกติ
    ก็เอากรรมฐานนี้พิจารณาเป็นปกติ จนกว่าอารมณ์จะสงัดจากกามารมณ์ เห็นคนและสัตว์
    และสรรพวัตถุที่ชมชอบว่าสวยงดงาม กลายเป็นของน่าเกลียดโสโครกโดยกฎของธรรมดา
    จนจิตใจไม่มั่วสุมกับความงามแล้ว ก็พิจารณาวิปัสสนาญาณโดยยกเอาขันธ์ 5 เป็นอารมณ์
    ว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ไม่มีในเรา

    2. โทสจริต

    คนมักโกรธ หรือขณะนั้นมีอารมณ์โกรธพยาบาทเกิดขึ้น ท่านให้เอากรรมฐาน 8 อย่าง คือ
    พรหมวิหาร 4 วัณณกสิณ 4 (วัณณกสิณ 4 ได้แก่ นีลกสิณ เพ่งสีเขียว โลหิตกสิณ เพ่งสีแดง
    ปีตกสิณ เพ่งสีเหลือง โอทาตกสิณ เพ่งสีขาว) ทั้ง 8 อย่างนี้เป็นกรรมฐานระงับดับโทสะ
    เลือกที่เหมาะสมมาเพ่งและใคร่ครวญพิจารณา อารมณ์โทสะจะค่อย ๆ คลายตัวระงับไป

    3. โมหะ และ วิตกจริต

    อารมณ์ที่ตกอยู่ในอำนาจของความหลง และครุ่นคิดตัดสินใจไม่ค่อยได้นั้น
    ท่านให้เจริญอานาปานานุสสติกรรมฐานอย่างเดียว อารมณ์ความลุ่มหลงฟุ้งซ่านก็จะสงบระงับไป

    4. สัทธาจริต

    ท่านที่เกิดสัทธาความเชื่อ ท่านให้เจริญกรรมฐาน 6 อย่าง คือ อนุสสติ 6 ประการ คือ

    1.พุทธานุสสติกรรมฐาน
    2.ธัมมานุสสติกรรมฐาน
    3.สังฆานุสสติกรรมฐาน
    4.สีลานุสสติกรรมฐาน
    5.จาคานุสสติกรรมฐาน
    6.เทวตานุสสติกรรมฐาน

    ทั้ง 6 อย่างนี้จะทำให้จิตใจของท่านที่ดำรงสัทธาผ่องใส

    5. พุทธิจริต

    คนเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันเหตุการณ์ มีปฏิภาณไหวพริบดี ท่านให้เจริญกรรมฐาน 4 อย่าง

    1.มรณานุสสติกรรมฐาน
    2.อุปมานุสสติกรรมฐาน
    3.อาหาเรปฏิกูลสัญญา
    4.จตุธาตุววัฏฐาน

    กรรมฐานที่เหมาะแก่จริตทั้ง 6 ท่านจัดไว้เป็น 5 หมวด รวมกรรมฐานที่เหมาะแก่จริต
    โดยเฉพาะจริตนั้น ๆ รวม 30 อย่าง หรือ 30 กอง ที่เหลืออีก 10 กอง คือ อรูป 4 ภูตกสิณ 4
    (ปฐวีกสิณ เตโชกสิณ วาโยกสิณ อาโปกสิณ) และอาโลกกสิณ 1 อากาสกสิณ 1 รวมเป็น 10 อย่าง
    ซึ่งเป็นกรรมฐานเหมาะแก่จริตทุกอย่าง แต่สำหรับอรูปนั้น ถ้าใครต้องการเจริญ
    ท่านให้เจริญฌานในกสิณให้ได้ ฌาน 4 เสียก่อน แล้วจึงเจริญในอรูปได้
    มิฉะนั้นแล้วจะไม่เป็นผลสำหรับผู้ฝึกสมาธิใหม่เพราะอรูปละเอียดเกินไป


    ....
     
  8. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    จากปอบดีๆ จะมาเข้าจริต 6 ไปกรรมฐาน 40 เดี๋ยวก็เลยไปวิปัสสนาญาณ 9 นี่จะไปปู๊น...น...ซะแล้วนะ...

    วกกลับมาเล่าเรื่องปอบต่อดีกว่านะ...
    เอาเรื่องปอบผีฟ้า ก็ได้...ตอนเด็กๆ กลัวมากเลยนะ...กลัวพอๆกับ ผีแม่นาค และ กระสือ...
    ยังจำได้ด้วยว่า เพลงขึ้นต้นเรื่องกระสือเขาร้องว่า...
    "กระสือ กลางวันมันเป็นหญิง มีทุกสิ่งธรรมด๊า..ธรรมดา...ยิ้มแย้มช่างเจรจา...
    มันแหละ...เจ้าผีกระสือ..." 555+ พิมพ์ไปก็ขำตัวเองไป...เดี๋ยวขอตัวไปกลิ้งก่อนนะ...ขำกลิ้งไง...ไปล่ะ...
     
  9. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    5555555555555 โอ๊ยยยยย พี่หนูไม่มีความสามารถไปสอนใครแนวนั้นหรอกคะ .. แต่คิดว่ามันมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับประเด็นของกระทู้คะเลยเอามาลง อิอิ ...

    .... ส่วนเรื่อง ปอบผีฟ้า ... เด้วจะเอามาลงให้คะ .. เพราะหนูก็กลัวคะ ... กลัวตัวเองจะกลายเป็นปอบผีฟ้าเข้าสักวันคะ ... มันจะขำไม่ออก .. ก็เพราะอย่างที่บอก หนูมีกรรมเป็นเผาพันธุ์ ... เผอิญอย่างน่าประหลาดที่หนูดันมีสายเลือดของ 2 ชนิดที่ว่านี้ด้วยสิคะ ... ตอนแรกก็คิดว่ามันคงไม่ใช่เราที่เป็นผู้ถูกเลือก แต่จากที่พระอาจารย์ทั้งสองเคยบอกโอกาศมันมีพอสมควร .. ดีนะที่หนูไม่ใช่ทายาทเพียงคนเดียว ยังมีพี่น้องร่วมสายเลือดที่ใกล้ชิดกว่าตอนนี้อีกคน และ ดูท่าทางว่าโตขึ้นนางจะเก่งสะด้วยสิคะ ... นางไม่ได้ถูกสอนให้มีความกลัวแบบหนูนะคะ นางถูกสอนให้กล้าไม่กลัวใคร และ ชอบสายคุณไสยย์มากพอสมควร อันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องดูกันต่อไป

    ... หนูก็เลยต้องเตรียมตัวรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นทุกกรณี ... เพื่อที่จะสามารถแยกแยะทุกอย่างให้ชัดแจ้งแลถูกต้องเป็นจริง.
     
  10. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ก็มีความจำเป็น เพราะเป็นไฟท์บังคับสินะครับ

    จริงๆในกระทู้ประสบการณ์คนมีองค์ เรื่องสาปแช่งตอนนั้นผมพูดในมุมของผมน่ะครับ (แล้วก็เหมือนเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนให้ตัวเองไม่รู้ตัวอีกด้วย) และพูดถึงในมุมของพวกที่คิดว่าตนวิเศษ แต่ในฐานะที่ไม่ได้ไปยุ่งไปเดือดร้อนอะไรใครมาก ถึงมีก็ยังไม่ร้ายแรงเหมือนคนอื่นเขา เลยพอจะไม่แช่งใครแบบนั้นได้ ตอนนั้นไม่รู้ปัญหาในบอร์ดเกี่ยวกับมุมนี้ด้วยครับ
    ที่เข้าไปคุยในกระทู้เป็นพักๆเพราะคิดว่าเป็นกระทู้ล่อเป้าที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ เลยหาเรื่องคุยโดยเอาเรื่องที่สงสัยไปถาม ซึ่งมีเจตนาดี เพราะเข้าใจว่าไม่มีใครสนใจสิ่งที่คุณสื่ออ่ะครับ ตั้งแต่เรื่องคำทำนายภัยพิบัตินั่นแล้วครับ ในใจก็คิดว่าคุณ Kalina หยิบเรื่องที่ล่อแหลมมาพูดเอาเสียแล้ว.. (tm-love) ตอนนี้ก็พอเข้าใจบ้างแล้วครับ ไม่พูดอะไรมากและหาทางเลี่ยงๆน่าจะดีกว่า

    เรื่องปอป..จริงๆจะถามตั้งแต่อาทิตย์ก่อนๆแล้วครับ แต่รอจังหวะให้คุยกันจบเรื่องกันก่อน

    คือเรื่องการป้องกันแก้ไขน่ะครับ ว่า

    1. คนที่มีศีลเป็นปกติ และมีกำลังสมาธิ หรือ คนปฏิบัติดี เขาจะมีกำลังคุ้มครองตัวเองจากปอปได้ไหม
    2. คนที่มีศีลเป็นปกติ แต่ไม่มีกำลังสมาธิคุ้มครอง ปอปจะสามารถเล่นงานได้หรือไม่
    3. คนที่ไม่มีศีลเป็นปกติ เขาจะมีวิธีไหนป้องกันภัยจากสิ่งนี้
    4. เครื่องราง ของขลัง บางชนิดมีผลกับปอปไหม สามารถใช้คุ้มครองตัวเองได้หรือไม่ครับ
    5. ถ้าทั้ง 4 ข้อนี้ไม่มีปัจจัยไหนป้องกันได้เลย จะมีวิธีไหนในการป้องกันครับ ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2014
  11. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    **** ก็มีความจำเป็น เพราะเป็นไฟท์บังคับสินะครับ

    .... ใช่คะ .. ถึงไม่ได้ตั้งกระทู้แบบนี้ก็ต้องทำอยู่แล้วคะ เพราะชีวิตเกิดมาก็มักแต่เจอเรื่องประมาณนี้อยู่แล้วคะ

    **** จริงๆในกระทู้ประสบการณ์คนมีองค์ เรื่องสาปแช่งตอนนั้นผมพูดในมุมของผมน่ะครับ (แล้วก็เหมือนเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนให้ตัวเองไม่รู้ตัวอีกด้วย) และพูดถึงในมุมของพวกที่คิดว่าตนวิเศษ

    ... สำหรับเราเองไม่ได้ไปซีเรียจกับที่คุณพูดมากนักหรอกคะ .. ทุกคนมีสิทธิ์จะคิดไม่ว่าคิดผิด หรือ คิดถูก ... แต่ในความเป็นจริงที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานั้น ... ไม่ได้คิดอยากล่อเป้า .. เพราะไม่เก่งพอที่จะไปสอนพวกที่เขามีความรู้มาก ๆ เก่งมาก ๆ .. แต่เราต้องการให้กลุ่มของคนนอกที่ไม่มีความรู้มาก่อน .. หรือ ผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้ขั้นพื้นฐานต่างหากคะ .. เหตุด้วยเราเองก็มาจากการไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย ลองผิด ลองถูก มาเหมือนกันแต่เราอาจโชคดีตรงที่มีภูมิคุ้มกันดีกว่าคนอื่นหลายเท่านัก .. จึงรอดมาได้ .. แต่เราได้มาคิดถึงคนอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่มีโอกาศดี ๆ เหมือนเราได้เปิดหูเปิดตา อย่างน้อยก็ยังมีข้อมูลในการตัดสินใจมากขึ้น ... เราไม่มีเจตนาส่งเสริมให้ใครเป็นร่างทรง .. แต่ก็ไม่อยากเห็นคนอีกมากมายถูกล่อลวง .. จะด้วยอะไรก็ตาม .. อย่างน้อยถ้าเขาจะเลือกก็ให้เกิดจากความสมัครใจของพวกเขาเอง .... เพราะร่างทรงไม่ได้ทำได้ทุกอย่างอย่างที่ทุกคนคิดนะคะ .. มันยังต้องมีอะไรอีกเยอะ เช่น ต้องรู้เรื่อง วิชาอาคม คุณไสยย์ มีบริวารไว้รับใช้ มีบารมีมากพอ และ ศีลที่บริสุทธิ์ ... มันไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ หากจะเป็นร่างทรงจริง ๆ ... แล้วหากเราพลาดขึ้นมานี้ " ต้องรับกรรมเป็นสองเท่าของคนปกติ " หากศึกษาไม่ดีพอได้จะไม่คุ้มเสีย ... แล้วยังต้องไปยุ่งเกี่ยวกับกรรมของผู้อื่นด้วยแล้ว .. คิดสภาพว่ามันจะเป็นยังไง ... มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ... คุณต้องยอมเสียสละได้แม้แต่ชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องคนหมู่มาก ... เรียกว่า " ดีเสมอตัว ชั่วนี้นรกเลย "

    .... แล้วถ้าเคยได้อ่านเรื่องเพื่อนของเราที่ชื่อ อ. นั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรายอมเสี่ยงเผยแพร่ข้อมูลที่เราศึกษาแล้วน่าจะมีประโยชน์บ้าง .. เธอต้องมีชีวิตอยู่อย่างทรมานเหมือนตายทั้งเป็น ตอนนี้จะตายมันก็ไม่ตายมีชีวิตอยู่ก็เหมือนคนไม่เต็มคน .. จิตวิญญาณน่าจะถูกครอบงำโดยสมบูรณ์แล้วด้วย .. จนถึงทุกวันนี้พวกนั้นมันยังไม่ยอมปล่อยครอบครัวเราไปเลยที่ไปยุ่งกับคนของพวกมัน .. เราต้องสูญเสียโอกาศหลายอย่างแม้แต่เกือบเอาชีวิตคนในครอบครัวไปเสี่ยงกับการช่วยคน ๆ นี้เราก็ทำมาแล้ว .. จนเรามาคิดได้ว่า .. เราทำไปก็เท่านั้น อ.ต๋อง เองท่านก็ยังส่ายหน้าแล้วบอกว่า " เขาให้โอกาศเธอมากี่ชาติ เธอก็ยังไม่สำนึกยังคงกระทำผิดซ้ำ ๆ เช่นเดิม " แม้แต่คำทำนายของพี่ร้านเสริมสวยที่เป็นร่างทรงก็เคยเตือนเราแล้วว่า " เธอคนนี้ไม่เคยสำนึกบุญคุณใคร เมื่อใดที่เสียงเธอเปลี่ยน แววตาเปลี่ยน ท่าทางเปลี่ยน เธอจะไม่ใช่เพื่อนเราคนเดิมตลอดไป " แล้วเหตุการณ์นี้มันก็เกิดขึ้นแล้วไม่ผิดเพี้ยน เจ้าสิ่งนั้นเราไม่รู้จะเรียกว่าอะไร .. แต่มันเหมือนเป็นพวกอมนุษย์ที่อยู่มานาน .. ใจเราบอกว่ามัน คือ ปอบ .. แต่ตอนที่เราเคยเห็นในนิมิตรนั้น มี เสือสมิง กระสือ อีกหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็น งู หรือ ตะขาบ แต่รุ้ว่ามี 7 ตน ที่เก่งมากและเป็นบริวารที่มีตำหนักเลี้ยงไว้ .... เราช่วยเพื่อนด้วยความรักเพื่อน แต่เขาเห็นเราเป็นศัตรูที่ไปแย่งศิษย์เอกของเขาที่จะกลายเป็นบริวารตัวฉกาจในอนาคต ... ฟังถึงตรงนี้อย่าคิดว่าเรามีวิชาอะไรนะคะ เราไม่มีคะ มีแค่บทสวดมนต์ธรรมดานี้แหละคะ .. ถ้าเราไม่มีภพภูมิเมตตาเราคงตายไปนานแล้ว เราไม่อยากให้ใครเจอแบบเพื่อนเราก็แค่นั้นเอง.


    **** แต่ในฐานะที่ไม่ได้ไปยุ่งไปเดือดร้อนอะไรใครมาก ถึงมีก็ยังไม่ร้ายแรงเหมือนคนอื่นเขา เลยพอจะไม่แช่งใครแบบนั้นได้ ตอนนั้นไม่รู้ปัญหาในบอร์ดเกี่ยวกับมุมนี้ด้วยครับ
    ที่เข้าไปคุยในกระทู้เป็นพักๆเพราะคิดว่าเป็นกระทู้ล่อเป้าที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ เลยหาเรื่องคุยโดยเอาเรื่องที่สงสัยไปถาม ซึ่งมีเจตนาดี เพราะเข้าใจว่าไม่มีใครสนใจสิ่งที่คุณสื่ออ่ะครับ ตั้งแต่เรื่องคำทำนายภัยพิบัตินั่นแล้วครับ ในใจก็คิดว่าคุณ Kalina หยิบเรื่องที่ล่อแหลมมาพูดเอาเสียแล้ว.. ตอนนี้ก็พอเข้าใจบ้างแล้วครับ ไม่พูดอะไรมากและหาทางเลี่ยงๆน่าจะดีกว่า


    ..... ขอบคุณนะคะที่เข้าใจ ... เพราะว่ามันทำให้มีกลุ่มคนบางพวกอาจต้องเสียประโยชน์ไงละคะ ... พวกหากินกับความงมงายยังมีอีกมากคะ ... อาศัยความอยากของคนเป็นเครื่องมือชั้นดี .. มองข้ามปัญหาที่จะตามมา ... บางคนเขาก็อยากจะลองวิชาตัวเองก็มีคะ ... ตอนแรกก็พยายามจะอยู่เฉย ๆ คะ เพราะเราเชื่อในกฏแห่งกรรม และ เชื่อว่าเราตั้งใจดีไม่ได้คิดร้ายใคร หากพวกเขามีจิตคิดชั่ว หรือ อยากทำร้ายเราเพื่อความสนุก .. กรรมมันจะตามชำระให้เราเองคะ. เพราะไม่มีใครใหญ่เกินกรรม ... ทุกภพภูมิมันมีกฏควบคุมอยู่ไม่ใช่ใครจะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ .. มีบทลงโทษ .. จริงไหม๊คะ

    .... อีกประการหนึ่งชื่อเราก็บอกอยู่แล้วว่า กาลีนะ .. คงไม่ต้องแปลว่าคือใคร .. นางยักษ์ อสุรกายบ้าเลือด ... คงไม่มีใครมาถือสาคนบ้าหรอกคะ
     
  12. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    หน้าตาเหมือนการ์ตูนตัวนี้ด้วยค่ะ
    ชอบใช้กำลังด้วย

    ไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ยอมคิด ไม่ใช้สมองค่ะ ขี้เกียจมากๆๆ เลยค่ะ
    (สอนยากสอนเย็น)
    อย่างที่ ที่านระมิงค์ ว่า
    ก็คือ
    ถ้าไม่มีใครมาท้าทาย กลั่นแกล้ง อะไรมาก ก็จะอยู่นิ่งๆ

    ถ้าจำเป็นจริงๆ ต้องเอาชีวิตรอดหรือ ต้องแก้ไขสถานการณ์ ถึงจะใช้ความคิด สักหนหนึ่ง


    เรื่อง ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา นี้ ขอบคุณมากค่ะ ที่เตือน (เกือบลืมไปแล้ว)

    ทำทานนี้ พยายาม ทำให้เป็น อาจิณกรรมค่ะ (น้อยๆ แต่บ่อยๆก็ดี)
    ศีล ก็พยายามรักษา (ไม่ให้ใครรู้ เดี๊ยวคนใจร้ายรู้ ว่าเราไม่ยอมผิดศีลถ้าไม่จำเป็นจะแกล้งเอา)

    สมาธิ นี่ล่ะ ที่ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ค่อย ได้ทำเลยค่ะ แบบว่าไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา เน้อ
     
  13. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    สมาธิ นี่ล่ะ ที่ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ค่อย ได้ทำเลยค่ะ แบบว่าไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา เน้อ

    หั่นหอมแดงแล้วบีบใส่ลูกกะตาก็ได้นะ...ไม่ต้องรอให้เห็นโลงศพ ก็หลั่งน้ำตาได้...จริงๆนะ...ไม่เชื่อลองดูก็ได้ ช่วงนี้หอมแดงกำลังถูก...

    ปอบเก่งๆ เขาไปสิงคนแล้วทำตัวเป็นร่างทรงองค์เทพก็ยังได้นะ...แม่กาลีนะเคยเจอหรือเปล่า...เล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยสิ...
     
  14. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    เคยเจอแม่ยายของลูกน้องเก่า เป็นคนสุราษฎร์ ที่บ้านนี้เป็นเชื้อสายของผีครู มโนราห์ ทุกๆปีจะมีการเซ่นไหว้ผีปู่ผีตา...ในบ้านจะต้องมีพื้นที่ยกพื้นขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร เหมือนเป็นที่อาศัยของผีปู่ผีตา โดยที่เสาจะมีผ้าผูกและมีเครื่องเซ่น...

    แม่ยายของลูกน้องคนนี้สืบสายผีครูมโนราห์ ทำมาค้าขายในตลาด ขายของดี จนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ทำคุณไสยใส่ จนกินไม่ได้ นอนพะงาบๆ แต่ก็ไม่เห็นผีครูจะช่วยอะไรได้เลย...
    ลูกน้องเล่าให้ฟังว่า แม่ยายนอนพับเอาหลังเท้าแตะหลังหัวได้เลย อาหารไม่กิน กลางวันไม่มีเรี่ยวแรง กลางคืนแรงเยอะขนาดผู้ชาย 4 คนจับไม่อยู่...

    ตอนนั้นเขาพาฆารวาสและพระสงฆ์รูปหนึ่งมาทำพิธีไล่ แล้วให้ผมไปช่วยดู พอไล่เสร็จเขาว่าออกหมดแล้ว แต่ผมเห็นว่ามันหลบอยู่ในไขกระดูก คนไล่มองไม่เห็น 3เดือนให้หลังก็เสียชีวิต ตามคำทำนายของหมอเดา...

    จากนั้นเมียของลูกน้องจะเป็นคนรับเชื้อต่อจากแม่ แต่ลูกน้องมาเถียงว่าเป็นน้องชายเมียมากกว่า เพราะเห็นว่าในพิธีนั้นเขาขึ้นรำอย่างสวยงาม...ส่วนเมียลูกน้องมาบอกว่า หลวงปู่ทวดท่านจะมาอาศัยร่างอยู่ด้วย พี่ว่าจริงไหม เพราะทุกวันพระเขาจะให้นุ่งขาวห่มขาว รักษาศีล 8 ให้ด้วย...
    คือถ้าเห็นด้วยสมาธิตัวเองก็จะเป็นหลวงปู่ทวด แต่ถ้าอาศัยบารมีพระและครูบาอาจารย์ จะเห็นว่าเป็น ปีศาจ น่าจะเรียกว่าปีศาจ เพราะหน้าตาแม้จะเหมือนอสุรกาย แต่ตัวใหญ่ และฤทธิเยอะมาก มีอายุอยู่มานับพันปี เล่นด้วยยาก หน้าแสยะ ผมดำยาวกระเซิง ตากลมโตใหญ่ แดงฉานเป็นไฟ ถลนออกมาเหมือนคนตาโปน นุ่งห่มสีดำ เล็บยาว ผอมเกร็ง ยืนคุมหลัง เมียของลูกน้องรายนี้อยู่....

    เจอพวกนี้เข้าก็ไม่อยากยุ่งด้วย...รีบใส่คอนเวอร์สออลสตาร์ทันที...ทางใครก็ทางใคร ทางมันก็ทางมัน...ต่อมาสองคนนี้แยกทางกัน ฝ่ายอดีตเมียทำโรงขนมเส้น(แถวบ้านเรียกข้าวปุ้นอ่ะ) กิจการดีขึ้น และไม่ได้ติดต่ออะไรด้วยอีก เนื่องจากท่านผู้คุมหลังขอไว้ว่า อย่ายุ่ง...จบป่ะ...จบสิ...
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    เคยคิดจะไปดูเขาทำพิธีไล่ปอบค่ะ
    ฟังพี่ระมิงค์เล่าแล้วหายอยากเป็นปลิดทิ้ง
    ปอบน่ากลัวกว่าที่คิด
     
  16. Asvel

    Asvel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +822
    ฟังจากที่คุณระมิงเล่า ขนาดแฝงหลอกให้ร่างที่หลอกใช้รักษาศีล 8 ก็ได้ แสดงว่ามีฤทธิ์มากมายและมีเล่ห์หลอกคนได้สารพัดสินะครับ แบบนี้ก็ไม่ควรจะไปยุ่งนักยิ่งถ้าเราไม่สามารถแยกออก และรู้สึกว่าจะมีหลายหมู่หลายเหล่าจนแยกไม่ออกเสียแล้ว ส่วนตัวอยากรู้แต่ไม่อยากลอง อยากเฝ้าสังเกตุอยู่ห่างๆมากกว่า แต่ตอนนี้คิดว่าไม่เอาละ ฟังๆจากคนที่ผ่านมาแล้วเอาดีกว่า

    เคยได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับคนถอดจิต(น่าจะหนังสือรุ่นลุงรุ่นปู่ได้) เห็นเขาว่าถอดจิตออกไปแล้ว พบว่าบางทีจะมีพวกอสูรแอบทำวิมาณเทวดาล่อให้คนที่ถอดจิตแล้วไม่มีใครคุ้มครองให้เข้าไป ถ้าเป็นผู้ชายก็จะรุมซ้อมถ้าหนีได้หรือถูกปล่อยกลับเข้าร่างก็จะต้องนอนซมหยอดน้ำเกลือเป็นอาทิตย์ ถ้าเป็นผู้หญิงหลงเข้าไปก็จะรุม..ทำร้าย... บางทีกักเอาไว้เป็นทาส และอสูรพวกนี้สามารถดลใจทำให้คนมีจิตคิดอะไรไปในทางที่เป็นอกุศล การเกิดอุบัติเหตุตายหมู่หลายที่เกิดจากพวกนี้ไปทำไว้ให้คนตายแล้วจับเอาไปเป็นบริวาร ก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นอสูรแบบไหน แต่ไม่น่าจะเป็นเทวดาอสูร น่าจะพวกแบบที่คุณระมิงเล่า ซึ่งคนเขียนบอกว่าเขาเคยถูกพวกมันตามเล่นงานอยู่พักหนึ่งเพราะไปรู้ความลับของมัน บางทีเขาถอดจิตไปเห็นมันเข้าแต่มันไม่ได้สนใจก็ไม่กล้ามองตา กลัวมันจะหันมาทำร้าย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาเขียนเกินจริงหรือเปล่า..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2014
  17. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    ขอเรียนถามบ้างดีกว่าแฮะ เพิ่งเจอมาสดๆ ร้อนๆ สองสามวันนี้เอง
    ไม่คิดเล้ย ว่าจะต้องอยากรู้อะไรแบบเนี้ย แต่ชักสงสัยแล้วสิ รบกวนหน่อยนะครับ

    คือว่าสามคืนก่อน พาพระไปงานศพ พอจอดรถเสร็จ ก็บังเอิญอยากกินไข่ต้ม กะน่องไก่ย่าง
    แต่ตอนหลังคิดเอาเองว่า ผีเจ้าของงานอยากกิน แต่กินไม่ได้ และไอ้ตัวข้างบ้านที่ฤทธิ์แยะ ช่วยบอกเรา

    พอกินไข่ต้มและน่องไก่เสร็จ เหลือกระดูกติดไม้ย่าง ก็เดินเอาไปปักดินไว้ ตรงใกล้ๆ ที่จอดรถ ซึ่งเป็นทางสามแพร่งในหมู่บ้าน
    ไม่รู้ทำไมถึงทำนะ แบบออโต้น่ะครับ ปักแล้วก็เรียกด้วยนะ เฮ้ยใครวะ ออกมากินเร็ว 555
    เสร็จแล้วกลับมาที่รถ กินน้ำนิดนึง แล้วเทผ่านนิ้วมือลงพื้น เหมือนกรวดน้ำเลยครับ ทำไปโดยอัตโนมัติ

    ซักพัก จากหางตา เห็นด้านขวาอะไรโบกมือแว๊บๆ สองอันโบกไปมา ทีแรกคิดว่าเค้าตากเสื้อไว้
    โบกไปมาคล้ายทักทาย และส่งข่าวอะไรซักอย่าง ก็เพ่งมองดู แล้วเดาว่าให้ช่วยอะไรหน่อย
    มองซ้ายมองขวา ก็เห็นบนหลังคาบ้านด้านซ้าย มีเศษผ้าโบกอยู่หยอยๆ ถัดไปเป็นต้นไม้ที่คงจะแจ๋ว

    เห็นแล้วเดาว่า ช่วยหน่อย ทรมานจัง เบื่อมาก รังแกแถวนี้จนเค้ากลัวกันไปหมดแล้ว ช่วยอะไรบ้างได้ไหม
    ก็เลยเริ่มกระบวนการแบ่งปันบุญ แล้วตั้งเสาลำแสง เตรียมส่งวิญญานไปเกิดใหม่ ลูกค้ามารอแยะเหมือนกันนะ
    บังเอิญคิดได้ว่า เพิ่งได้ท่าไม้ตายมาใหม่ ที่ให้ชื่อว่า "มือที่มองไม่เห็น มากมายก่ายกอง" เลยลองใช้ดู
    แค่นึก ก็ไม่เห็นหรอกนะ ว่ามีมือเยอะแยะโผล่ออกมา แล้วดึงไอ้ตัวแสบนั้นขึ้นไปข้างบน
    ส่วนวิญญานเร่ร่อน และตัวน้อยๆ ก็ลอยตามแสงขึ้นไปก่อนและหลัง เรื่อยๆ ไม่รู้กี่ตัว มองไม่เห็นเลย แต่เดาเอา

    พอเสร็จแล้ว ซักพักเหมือนกะมือโบกสองอันทางขวา จะขอตามไปด้วยมั้ง นะ
    ก็เพิ่งเห็นตอนหลัง ว่าเป็นใบกล้วยสองใบ อันใหญ่เชียว สองอันคู่กัน ชูขึ้นฟ้า โบกลมไปมา
    ก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นนางตานีนะ เห็นแค่เป็นใบกล้วย เลยไม่กลัวและบอกว่า อยากจะไป.ก็ไปด้วยกันนะ 555

    ก็เป็นอันว่าเสร็จภารกิจ รู้สึกเอาเองนะครับ ว่าหมดงานแล้วที่นี่ วันนี้ แล้วนั่งฟังเพลงจนหลวงพ่อเสร็จงานก็กลับวัด

    อ่านแล้วพอจะแนะนำ หรือติชมอะไรได้บ้างไม๊ครับ ขอเชิญได้เลย ท่านใดมีจิตศรัทธา เชิญหน่อยนะครับ

    ยังมีวันต่อมาด้วยนะครับ ไปงานเผาศพรายนี้แหละ ตอนบ่าย เจอหนักหน่อย ถ้าอยากรู้ วันหลังจะมาโม้ให้ฟังนะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับ "คนที่เราก็ไม่รู้ว่าใคร" ที่มาตอบบ้าง 555


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  18. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042

    เรื่องปอป..จริงๆจะถามตั้งแต่อาทิตย์ก่อนๆแล้วครับ แต่รอจังหวะให้คุยกันจบเรื่องกันก่อน

    คือเรื่องการป้องกันแก้ไขน่ะครับ ว่า

    1. คนที่มีศีลเป็นปกติ และมีกำลังสมาธิ หรือ คนปฏิบัติดี เขาจะมีกำลังคุ้มครองตัวเองจากปอปได้ไหม


    .... มีคะแต่กันไม่ได้ทั้งหมด ... เพราะปอบเขาจะเลือกคนที่จะทำคะ .. พวกไหนที่ทำยาก ๆ เขาก็ไม่ยุ่งหรอกคะ ยกเว้นเป็นคู่กรณีกันถ้าแบบนั้นนี้มันจะจ้องเวลาเราเผลอ หรือ พลาดคะ .. แล้วก็ยกเว้นพวก ปอบแก่ที่ตัวใสแล้ว หรือ พวก ห่า เพราะพวกนี้คือเขาเทรินโปรกันแล้วอยู่ที่เขาจะทำไหม๊ .. เพราะมันเจ้าเล่ห์อย่างที่พี่ระมิงบอกนั้นแหละคะ .. ส่วนมากมาในรูปแบบของผู้หญิงคะ " เรียกว่า มารยาสาไถมีครบ " แต่พวก " ห่าก้อม " นี้จะออกแนวเถื่อนกว่าหน่อยเพราะมันจะไม่ค่อยเลือก.


    2. คนที่มีศีลเป็นปกติ แต่ไม่มีกำลังสมาธิคุ้มครอง ปอปจะสามารถเล่นงานได้หรือไม่

    .... ได้คะ .. ทำได้ง่ายกว่าข้อ 1 อีกคะ .. พวกนี้เน้นพวก " จิตอ่อน จิตตก ดวงตก ร่างกายอ่อนแก " เพราะกำลังสติ สมาธินี้คือ อาวุธสำคัญของคนที่ไม่มีฤทธิ์เป็นคนปกติธรรมดา .. แต่พวกมันจะชอบหลอกให้กลัว หรือ ตกใจ หรือ เกิดอุบัติเหตุ พอเราขาดสติก็เป็นทีของมันคะ

    3. คนที่ไม่มีศีลเป็นปกติ เขาจะมีวิธีไหนป้องกันภัยจากสิ่งนี้

    ... ก็ต้องอาศัยเครื่องรางของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิที่มีคุณด้านนี้สิคะ .. อย่าเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะที่ของพวกมัน อันหลังนี้น่ากลัวเพราะมันจะถือว่าบุกรุกที่ของมันอันตรายมาก

    4. เครื่องราง ของขลัง บางชนิดมีผลกับปอปไหม สามารถใช้คุ้มครองตัวเองได้หรือไม่ครับ

    .... มีคะ .. อย่างที่หมู่บ้านเราตอนที่มีพิธีไล่ปอบนั้นพระท่านก็จะให้ตะกรุดไว้ติดตัวคนละอัน แล้วก็แผ่นยันต์ทองเหลืองบ้านละแผ่น .. แต่ตอนเด้กนี้หลวงตามหาบัวท่านมาท่านจะเสก " ดินแดง " หรือ ที่เรียกแบบอีสานว่า " ขี้หินแห๊ " ไว้ให้ไปโปรยใส่หลังคาบ้าน และ รอบบ้านประมาณว่ามีนเข้ามาจะถูกไฟเผา .. ไม่แน่ใจว่า ไฟจาก กสิณ หรือ ตบะ นะคะที่ใช้ได้

    5. ถ้าทั้ง 4 ข้อนี้ไม่มีปัจจัยไหนป้องกันได้เลย จะมีวิธีไหนในการป้องกันครับ ?

    .... คุณก็ต้องเก่งกว่าพวกมันสิคะ ... ไม่ได้ล้อเล่นนะคะอันนี้จริงจังเลยตามคำถาม .. ในเมื่อ ศีล + สมาธิ + เครื่องรางของขลังยังสู้มันไม่ได้ ... คุณก็คงต้องมาพัฒนาตนเองให้เก่งกว่ามันคะ เพราะมันก็จะไม่มาอยากยุ่งกับคุณเท่าไหร่นัก .. แต่ถ้าคุณไปเรียนวิชาที่มีครูแรง ๆ คุณก็อาจพลาดกลายเป็นพวกมันได้ก็แค่นั้นแหละคะ

    .. แต่ส่วนมากพวกปอบเก่ง ๆ เขาก้ไม่ค่อยมาข้องแวะกับพวกที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาหรอกนะคะ ถือว่าเดินคนละสายต่างคนต่างเดินไม่มายุ่งเรื่องของกันก็พอ เหมือนที่พี่ระมิงเอาเรื่องลูกน้องมายกตัวอย่างให้เราดูนั้นแหละคะ .... ขนาดแกยังเซย์กู๊ดบายเลยยยยยย.... เห้อ ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2014
  19. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... ที่เราบอกว่าคุณพายุเหมือน อินุยาฉะ ก็เพราะเรามองภาพคุณเป็นแบบนั้นคะ มันขึ้นมาเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตัวเราเองก็ชอบใช้กำลังมากกว่าสมองนะสมัยก่อน .. ไม่ชอบอะไรที่ใช้ความคิดมาก ๆ ออกแนวไม่อยากฉลาดเพราะคิดว่าถ้าเราฉลาดมาก ๆ เราอาจจะกลายเป็นคนที่น่ากลัวมาก ๆ ก็ได้ที่เรียกว่า " ฉลาดแกมโกง " 55555 เอาจริง ๆ ก็คือขี้เกรียจคิดคะคิดเยอะแล้วจะเป็นไมเกรนตอนเด็ก ๆ ทรมานมาก ๆ พอคิดได้แบบนี้เราก็ไม่ค่อยปวดหัวอีกเลยยกเว้นไม่สบาย ..

    ... เราว่าคุณพายุเริ่มต้นจากการ " ทำทาน " ก่อนก้ได้คะเราก็เริ่มจากตรงนั้น เพราะทานคือการสละออกเมื่อเราทำบ่อย ๆ จนเคยชินเราจะลดความมีทิฐิในตนลงได้เองคะ แล้วเราจะมีความสุขจากการให้ทาน .. แม้แต่มีคนมากวนซ้น ...น เราก็เถอะเราก็จะระงับความโมโหลงได้เร็วขึ้น พอทำทานไปได้สักระยะก็หันมาดูศีลของเราว่ามีอะไรที่เราทำได้ดี และ อันไหนห่วยแตกสุด ก้ค่อยมาแก้ไปคะเดี๋ยวมันก็จะดีเอง ... ถ้าทำสองข้อนี้ได้นะคะ เราจะเกิดสมาธิที่เรียกว่า " สติ และ ปัญญา " ขึ้นมาเองคะ .. เห็นไหม๊ง่ายกว่าที่คิดอีกนะ
     
  20. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ปอบเก่งๆ เขาไปสิงคนแล้วทำตัวเป็นร่างทรงองค์เทพก็ยังได้นะ...แม่กาลีนะเคยเจอหรือเปล่า...เล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยสิ...

    .... เคยเจอคะ .. หลายครั้ง หลายคนด้วย .. แต่ความรู้สึกจะบอกเราเองว่าอย่าเข้าไปยุ่งกับคนพวกนี้ให้ถอยห่างให้ไกล .. เหมือนพวกเขาก็ไม่ค่อยจะอยากยุ่งกับเราด้วยมั้งคะ 5555555 .... แต่ที่คิดว่าน่าจะเก่งที่สุดที่เคยเจอมานี้ก็คงเป็น ... คนที่ทำให้เพื่อน อ. ของหนูต้องเดี้ยงอยู่ทุกวันนี้แหละคะ .. กับ ยายปอบแก่ ๆ ผมขาวทั้งหัวใส่เสื้อขาวผ้าถุง ที่มายืนชี้หน้าท้ารบกับหนูที่หน้าร้านในฝันเพราะหนูไปทำร้ายลูกหลานเขา .. ตอนแรกเราก็งงไปทำตอนไหนว๋ะ ... แกก็ฉายให้ดูเลยคะว่า เพราะหนูชอบเอาน้ำมนต์ไปล้างหน้าร้านบ่อย ๆ เพราะเวลาที่ลูกหลานแกมาเดินหาของกินพวกเศษเนื้อ เลือดทิ้งอะไรพวกนี้แล้วโดนเข้าไปตัวพวกเขาจะเหมือนโดนน้ำร้อน หรือ น้ำกรดสาด ควันขึ้นเลยคะ ... คือเจอไปหลายตนมากคะที่แกทำให้เห็นเหมือนจะมีการไปฟ้องกันแกเลยมาดูหน้า .. แล้วแกก็บอกว่า " กูไม่กลัวมึงหรอก มึงไม่รู้หรอกว่ากูอยู่มานานแค่ไหน ที่มึงเห็นอยู่นี้ลูกหลานกูทั้งนั้น พรุ้งนี้ตีสามกูจะมาหามึงใหม่เตียรมตัวไว้ให้ดี " ... แกทำภาพให้เห็นว่าคนที่หนูรู้จักใครบ้างที่เป็นบริวารของแกไม่เว้นแต่ยายคนหนึ่งที่อยู่หลังบ้านเก่าเรา และ อีกหลายคนที่เรารู้จักซึ่งส่วนมากเราก็รู้ว่าคนพวกนี้ชอบเรื่องพวกเสน่ห์ วิชา อาคม .. แล้วแกบอกว่านี้บริวารแกหมด .. หนูก็ได้แต่นิ่งไม่กล้าเถียงแกคะ ... กลัวตายเหมือนกันมาซะขนาดนี้แล้ว ... เคยเล่าไปรอบหนึ่งละคะเรื่องนี้ ส่วนคนอื่น ๆ จะทะยอยลงนะคะ .. คิดก่อนว่าจะเขียนเลี่ยง ๆ ยัง ๆ ดีเพราะบางคนลูกศิษย์เขาก็เยอะถึงเยอะมากด้วย ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...