อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

เอาล่ะ...ในเมื่อก็รู้ๆกันอยู่..ในฐานะที่ทุกคนก็ล้วนเคยเป๊นมิตรกับผมมาก่อน....ผมก็จะขอเอ่ยคำว่า.. ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนทั้งหมด ที่บันดาลโทษะกับการถูกเสียดสีจากโพสคุณเอ็มนั้น...จะด้วยสาเหตุใด หรือแค่น้ำผึ้งหยดเดียวจากการรู้สึกไม่พอใจพี่เอ๊ะในจุดเริ่มต้นนั้นก๊ตามแต่....ผมก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ต่อทุกท่านที่ผูกเวรกับผมในครั้งนี้ด้วยครับ...


ครั้งนี้ยอมรับว่าน้อยใจจริงๆจากเรื่องไม่เข้าเรื่องที่ไปยึดมั่นถือมั่นกับคำสัญญาบางคำระหว่างพี่ๆน้องๆ จนเกิดปัญหาบานปลายในหมู่มิตรเช่นนี้...และคาดหวังมากไปกับคนสนิทใจที่มีต่อกันมายาวนาน...ก็แค่นี้ล่ะคับ ไม่ได้มีปัญหาใหญ่โตอะไรกันมาก่อนเลย...ก็เลยอยากสารภาพให้เข้าใจกันเท่านี้อ่ะครับ...

กับสิ่งที่ได้ทำไม่ดีไปแล้ว,และกล้ายืดอกแสดงตนออกมากล่าวขอโทษแบบเปิดเผยกับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคนแล้ว...หากยังชังกันและมองเป็นจำเลยของสังคมกระทู้เรื่่องเล่าประสบการณ์นี้ต่อไปก็ไม่เป็นไรครับ..ผมเข้าใจ...แต่ผมจะขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ ,,,,(เพราะทราบดีว่าความเป็นมิตรและความดีที่มีต่อกันมายาวนานมันคงไม่อาจจะชดเชยกันได้),,,, ครั้งนี้ผมขอเป็นผู้แพ้ต่อทุกๆท่านครับ..

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณพี่กูลเป็นอย่างสูงที่ช่วยเตือนสติและแนะนำข้อคิดต่างๆจนทำให้ผมเกิดความละอายจนอยากออกมากล่าวคำขอโทษทุกๆท่านในครั้งนี้....



จากนี้ไปจะไม่มารบกวนความสุขของทุกๆท่านในกระทู้อัลบั้มอีกต่อไป..เพราะหากการจากไปของผมเพียงคนเดียวแล้วทำให้ทุกคนในนี้มีความสุขกันต่อไป..ผมก็ยินดีเป็นผู้จากไป..ขอบคุณครับ..

 

และกับอีกหลายๆท่านที่เคยล่วงเกินต่อกันมาแต่ในอดีต เช่น พี่สุข พี่โป้ คุณเอท คุณตั้ม น้องกานต์ และอีกหลายๆท่านที่เคยถือโทษโกรธกันมาไม่ว่าจะเรื่องใดๆก็ตามที่เคยล่วงเกินต่อกันมา...

ผมกราบขออภัยและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวลนี้ครับ....กราบขออโหสิกรรมต่อกันจากนี้เป็นต้นไปครับ...


นอร์....

 

ผมก็ขอทำตามที่ตกลงใว้ ต่อจากนี้ไปเราไม่มีอะไรต่อกัน พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ปรึกษากัน ก็ ยกโทษให้ ขอให้ต่างคนต่างอยู่ละกันครับ

 

ขอบคุณที่รักษาคำพูดครับ...

ผมเองก็ขอเลิกใช้ user name = ชนะ_มาร เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการลดความรู้สึกไม่ดีในชื่อนามของuserนี้ด้วยเพิ่มเติม...อยากให้มันจบและจมไปกับสิ่งต่างๆที่ไม่ดีต่อกันไปครับ....

นอร์..

 

ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2497 ที่บ้านโตนด
อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยเป็นบุตรคนที่ 9 ของครอบครัว
เดิมชื่อ สรุเดช ตับกลาง บิดา-มารดาของท่านเป็นแพทย์แผนโบราณ
เป็นหมอยากลางบ้าน สืบต่อกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ดังนั้นท่านจึงได้เรียนรู้วิชา
หมอยา การแพทย์แผนโบราณ พืชสมุนไพร คาถาอาคม มาแต่เยาว์วัย

ครั้งเติบโตเป็นหนุ่ม ท่านได้ถือบวชเป็นโยคีผ้าขาว ออกเดินทางไปยังภูเขาควาย
ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาวซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมสรรพวิชาต่าง ๆ ทางไสยเวทย์
และคาถาอาคม ณ ภูเขาควายนี้เอง ท่านได้ศึกษา ไสยเวทย์ คาถาอาคม กับทางปู่ฤาษี
โดยที่ท่าน ถือบวชเป็นโยคีพราหมณ์ หลังจากอยู่รับใช้ครูบาอาจารย ์ และ ศึกษาวิชาคาถาอาคม
ได้รับความรู้พอประมาณแล้วท่านจึงได้เดินทางกลับ ประเทศไทย และ ใช้ชีวิตในเพศฆราวาส
ได้ระยะเวลาหนึ่งท่านเกิด ความเบื่อหน่ายทางโลก จึงดำริที่จะละจากเพศฆราวาส
เข้าอุปสมบทในพระพุทธศาสนา จึงนำความเข้าปรึกษาคุณสุรพันธ์ และคุณมาลี งามจิตรสุขศรี
เจ้าของบริษัท รุ่งสินก่อสร้าง จำกัด ซึ่งก็ได้ รับการสนับสนุนจากท่านทั้งสองเป็นอย่างดี

ครูบากฤษณะ อุปสมบทเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2522 ณ พัทธสีมา วัดโคกอู่ทอง
ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุร ี โดยมีพระครูธรรมรงโพธิเขต เจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง
เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฝั้น ชุตินทโรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์
กลมวิมโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "อินทวัณโณ"

ภายหลังที่อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ด้วยอุปนิสัยที่รักการศึกษาหาความรู้
ท่านได้สนใจศึกษาพระปริยัตธรรม ทั้งจากพระไตรปิฏก และจากครูบาอาจารย์ ผู้เป็นปราชญ์ทรงคุณธรรมหลายท่าน
จนจิตใจมั่นคงด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ท่านจึงได้จาริกธุดงค ์
ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อเจริญจิตบำเพ็ญภาวนาโดยถือุดงควัตรอย่างเคร่งครัด
ยอมมอบกายถวายชีวิตแด่ พระพุทธศาสนาตลอดมา
ครูบากฤษณะได้จาริกไปตามลำพังในป่าเขาดงดิบ เทือกเขาใหญ่ตลอดแนวภาคอีสานได้ข้ามกลับไปยัง
ภูเขาควาย สาธารณรัฐประชาธิปไตย
ประชาชนลาว เพื่อศึกษาเพิ่มเติมวิชาอาคมต่างๆ ต่อจากนั้น จึงได้ผ่านไปยังประเทศเขมร และ
กลับเข้าประเทศไทย ทางด้านจังหวัดจันทบุรี

ต่อมาในปีพ.ศ. 2532 ครูบากฤษณะได้ธุดงค์มาบำเพ็ญสมณธรรมบริเวณเทือกเขาจอมทอง
เหนือเขื่อนมูลบน อ.ครบุรี ชาวบ้านเมื่อทราบข่าวว่า มีพระภิกษุมาเจริญสมณธรรมในป่าเขา เกิดความศรัทธาพากันขึ้นไปทำบุญ
และรับการอบรมสั่งสอนจาก ท่านเป็นประจำ จนในที่สุดชาวบ้านคลองยางจึงพร้อมใจกันนิมนต์
ท่านครูบากฤษณะ
เป็นประธานในการก่อสร้างสำนักสงฆ์ ป่ามหาวัน ขึ้นเพื่อเป็นดินแดนแห่งร่มเงาของพระพุทธศาสนาเพื่อชาวบ้านเหนือเขื่อนมูลบน
จะได้มีสถานที่ประกอบศาสนกิจทางพุทธศาสนา สืบต่อไป
สำนักสงฆ์ป่ามหาวันได้รับการประกาศยกขึ้นเป็นวัดป่ามหาวันอย่างสมบูรณ์ตามกฏระเบียบ
ของคณะสงฆ์ไทยเมื่อปี
พ.ศ. 2536

ประวัติและความหมายของเทพจำแลง
ประวัติและความหมายของเทพจำแลง เทพจำแลงอุบัติขึ้นครั้งแรกของโลก
ท่านได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น สร้างจากดินก้นสระที่ขุดขึ้นเป็นบ่อเก็บน้ำของสำนัก ผสมกับว่านและมวลสารอาถรรพณ์ต่างๆ 108 ชนิด เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดฝ่ามือ ซึ่งมีผู้คนนำไปบูชา เห็นผลด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายดี เงินทองการงานดีขึ้นทันตาเห็น จึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ และท่านสร้างแจกเรื่อยๆ ในงานเข้าปริวาสกรรมบ้าง วันไหว้ครูบ้าง วันเกิดบ้าง จนมาเกิดนิมิตสร้าง “เทพจำแลงภมร” รูปผีเสื้อขึ้นอุบัติขึ้นครั้งแรกในโลก ในปี 2543ซึ่งเป็นพระพักตร์ของพระศิวะมหาเทพหันหน้าเข้าหาพระพักตร์พระแม่อุมา เทวี แสดงถึงตัวแทนของชาย-หญิง ซึ่งเป็นของคู่กันในโลกแห่งความสมดุลในจักรวาล เป็นความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคี ห่วงหาอาทร ตั้งอยู่บนปีกบัลลังก์ภมร แมลงจากสวรรค์ที่จรรโลงโลกด้วยรูปแบบสีสันสวยงาม ใช้บูชาได้ผลอย่างเอกอุโด่งดังแค่ชั่วข้ามปีอย่างเหลือเชื่อ จนกลายเป็นต้นแบบให้สำนักอื่นพยายามเลียนแบบกันอยู่

โดยท่านได้ให้แง่คิดในการสร้างเทพภมรจำแลงขึ้นมาว่า “ฉันเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาก็จริงอยู่ แต่ฉันไม่ลอกเลียนแบบพระพุทธเจ้าหรอก พระพุทธองค์ท่านเป็นของสูง ปัจจุบันนี้ยุคสังคมเปลี่ยนไป วัฒนธรรม จริยธรรมก็เปลี่ยนไปบางครั้งเราแขวนพระเข้าไปในสังคมที่ไม่เหมาะสม เป็นแหล่งอโคจร สถานเริงรมย์ต่างๆ หรือทำอาชีพฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นต้น มันไม่ดีพระพุทธเจ้าท่านสอนเน้นหนักในพระธรรมคัมภีร์และปฏิบัติมากกว่าฉัน จึงมีความคิดสร้างเป็นรูปเคารพเป็นแบบเทพ เอาให้บุคคลในสังคมแบบเราถือไปจะเหมาะสมกว่า”

 

ขอบคุณคับพี่วรรณ...ไว้พบกันในกระทู้พิมพ์นิยมและนานาเรื่องเล่าฯนะครับพี่ชาย..

นอร์.....

 

พี่รุ่งมาช้าไปนิดเดียวครับ ว่าจะให้คุณเคี้ยวไปลองพุทธคุณดูซะหน่อย หลวงปู่องค์นี้ คนที่จับพลังงานทางพระ เคยเล่าให้ฟังว่า พระเครื่องของท่านเหมือนจะมีเทพ หรือกุมารเทพ สถิตย์อยู่ แรงสุดๆ โดยเฉพาะครุฑ อย่างไรก็ต้องรอฟังคำตอบจากคุณเคี้ยวละกันครับ คริๆ

 

เป็น พระนอกวัดที่หลวงพ่อกวยร่วมเสก พระสิวลีหลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ หลวงพ่อพร้าท่านนิมนต์ หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค พระอาจารย์ของท่านมาร่วมปลุกเสกให้ด้วยครับ พิธีเดียวกับสมเด็จมหาลาภ ปี ๑๒

 

องค์นี้เค้าว่าพิมพ์และเนื้อมันไม่ผ่านนะครับพี่รุ่ง :''(

 

เนื้อแบบนี้ สวยจนไม่กล้าออกความเห็นเลยครับ

 

หมากแดง




หมากเหลือง





ชานหมาก



​

 

​

 

ชุดเสริมดวงเนื้อดิน

สร้อยเส้นยาว-พระลีลาเนื้อดิน หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

สร้อยเส้นสั้น-พระแหวกม่านเนื้อดิน ลงรักน้ำเกลี้ยง หลังจาร หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

 

พระผงหลวงพ่อเขียน ออกที่วัดสุขุมาราม ปีพ.ศ. 2516 เป็นรุ่นนึงในวัตถุมงคลที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้น นอกจากหลวงพ่อแล้วยังมีพระสุปฏิปันโนอีกมากมายหลายองค์ที่ได้เข้าร่วมในพิธีด้วยเช่น ครูบาอินถา วัดพระธาตุดอยเต่าคำ จ.ลำปาง หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม

หลวงพ่อสุรินทร์ได้เขียนเล่าไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่ม 2 หน้า 6 ไว้ว่า

" ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ หลวงพ่อมางานพุทธาภิเษกเป็นครั้งสุดท้ายที่วัดสุขุมาราม แล้วท่านก็บอกว่า วัตถุมงคลทั้งหมดในพระอุโบสถนี้ เป็นประกายเพชร มีความสว่างรุ่งเรืองมากกว่าวัดโพธิ์สุทธาวาสที่ทำเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ "

 

(จากหนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หน้า 20)

 

(จากหนังสือประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หน้า 23)

 

สวัสดียามดึกครับคุณปู คุณโญ พี่ตี๋ใหญ่ พี่รุ่ง คุณเอ๊ะ คุณชาญ คุณบอย คุณภัทร์ คุณตุ้ม คุณเอ็ม คุณนาย คุณเคี้ยว คุณโอ๊ต น้องนิก และทุกๆท่านครับ

 

ที่มา: อมตธรรมหลวงพ่อวัดดอนยายหอม