ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,334
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,277
    กระผมก็ขออาราธนาท่าน half wave ด้วยอีกคนครับ
    หากท่านสำเร็จเป็นพระปัจเจกโพธิ์ญาณแล้ว
    อย่าลืมพาหมู่คณะพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย

    มาโปรดข้าพเจ้าและหมู่คณะตลอดทั้งชาวเมืองด้วยนะครับ
     
  2. ta2498

    ta2498 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,417
    ..คำสอนของพระ ณ. ๑๙ กพ.๕๖..

    พี่ครับ ระบุปี พ.ศ.ด้านบนสุดไม่ถูกครับ
     
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรแก้วชุดวสไวยยนะ และดวงแก้วชุสหัสสนัยไตรภพ ตอน ๕ พบพระอาจารย์

    กล่าวถึงพระดาบสทั้ง ๗ หลังจากออกบวชต่างแยกย้ายกันไปบำเพ็ญเพียรตามสัปปายะที่เหมาะสม เวลาผ่านไป ๓ เดือนต่างสำเร็จสมาบัติ ๘ ได้นัดกันว่า

    ทุกวันขึ้น ๑๔ ค่ำจะมาพบกันยังสถานปฏิบัติธรรมของพระสุทธิชาตดาบส เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และผลการปฏิบัติของแต่ละตน บริเวณที่พระสุทธิชาตะดาบสอาศัยนี้ เป็นสถานที่ของนักสิทธิ์คนธรรพ์อาศัยอยู่ ทุกเช้าเหล่านักสิทธิ์คนธรรพ์จะนำอาหารมาวางไว้ และกลับมาช่วงเย็นเพื่อสนทนาธรรม


    พระชีวญาณฯดาบส และพระอัครญาณฯดาบสได้ปฏิบัติยังสุรบรรณพต โดยแยกกันอยู่คนละถ้ำ พอได้ยินเสียง ในสุรบรรณพตนี้เป็นทางเชื่อมผ่านไปยังนาคพิภพ ท่านทั้งสองได้รับการอุปัฏฐากจากเหล่าพญานาคราชเป็นอย่างดี

    พระญาณชาตะดาบส และพระมังคลฯดาบส อาศัยอยู่ในถ้ำใต้น้ำตกวารปิณฑิกะ โดยแยกกันอยู่คนละถ้ำ บริเวณน้ำตกแห่งนี้ ทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำจะมีพวกกินนร กินรีมาเล่นน้ำ พอทราบว่ามีพระดาบสอาศัยอยู่จึงได้พากันไปเล่นยังปลายน้ำ ทุกเช้าเหล่ากินนรกินรี จะนำผลไม้ น้ำผึ้ง หรือน้ำหวาน มาวางหน้าถ้ำ เพื่อให้พระดาบสทั้งสองได้ขบฉัน โดยไม่ลำบาก


    ส่วนพระสุทธิธรรมดาบส และพระวรมังคลชาตดาบสนั้นได้ปฏิบัติยังเมตตนัยยบรรพต ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกประมาณ ๑ โยชน์ สถานที่นี้เป็นที่อาศัยของเหล่ายักษ์ทั้งหลาย โดยมีพญายักษ์โพธิสัตว์ตนหนึ่ง นามว่า “พญาสุจิตตยักษ์”

    ธรรมดาแล้วยักษ์เหล่านั้นจะอาศัยการกินเนื้อมนุษย์และเนื้อสัตว์เป็นอาหาร เมื่อพระดาบสทั้งสองได้มาปฏิบัติธรรมยังสถานนี้ ได้เห็นกรรมของเหล่ายักษ์ทั้งหลาย จึงเกิดความเมตตาปรารถนาให้ยักษ์เหล่านั้นพ้นวิบากกรรมจากการเป็นยักษ์ จึงปรากฏกายแก่พญาสุจิตตยักษ์ และได้เทศนาสั่งสอนพญาสุจิตตยักษ์เกิดความเลื่อมใส จึงตั้งใจรักษาศีล ๕ งดเว้นการกินเนื้อสัตว์นับแต่นั้นมา
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรแก้วชุดวสไวยยนะ และดวงแก้วชุสหัสสนัยไตรภพ ตอน ๖ พระนางศิรวรตยักษิณี

    หลังจากนั้นพญาสุจิตตยักษ์หันมาทานผลไม้ และรากไม้แทน พญาสุจิตตยักษ์นั้น เป็นผู้ปกครองเมืองนามว่า “มหาปุริสนคร” โดยมีเสนายักษ์และบริวารนับแสนตน เหล่าเสนายักษ์และยักษายักษีทั้งหลายต่างก็ประหลาดใจในพฤติกรรมของพญายักษ์นี้ แต่ไม่มีใครกล้าถาม จึงได้ไปกราบทูลมเหสีของพญายักษ์นามว่า พระนางศิรวรตยักษิณี นางเป็นอัครมเหสีของพญาสุจิตตยักษ์ พญาสุจิตตยักษ์นั้นมีมเหสี ๕ ตน ได้แก่..

    พระนางศิรวรตยักษิณี-พระนางสุจิวรณยักษิณี –พระนางเบญจยักษิณี-พระมหามัยยักษิณี และพระนางวาตวัธนยักษิณี

    โดยแบ่งเวลาให้มเหสีองค์อื่น ๆ สัปดาห์ละ ๑ วัน ยกเว้นพระนางศิรวรตยักษิณี พญาสุจิตตยักษ์จะอยู่วิมานของนาง ๓ วัน มเหสีทั้ง ๔ นั้น ล้วนแต่เกรงใจพระนางศิรวรตยักษิณีทั้งสิ้น เนื่องจากพระนางมีความเมตตา แก่บรรดามเหสีองค์อื่น ๆ มาก และไม่มีความอิจฉาริษยากัน

    เหล่าเสนายักษ์ทั้งหลายเกิดความสงสัย เวสภูเสนายักษ์จึงได้กราบทูลถามพระนางศิรวรตฯ ซึ่งพระนางเองก็ไม่ทราบที่มาที่ไป เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา พญาสุจิตตยักษ์ได้อยู่วิมานพระมเหสีองค์อื่น ๆ จึงได้แต่เพียงรับปากจะถามให้เท่านั้น ครั้นถึงเวลาที่พญาสุจิตตยักษ์เสด็จมายังวิมานของนาง นางจึงได้ถามเรื่องราวต่าง ๆ พญาสุจิตตยักษ์ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมด และถามความเห็นของนางว่า..


    “น้องหญิง พี่ได้ฟังธรรมะของพระดาบสพี่มีความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง จึงตั้งใจว่า จะรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ พี่จึงเริ่มงดเนื้อสัตว์ก่อน”

    พระนางศิรวรตฯ ได้ฟังแล้ว เกิดความเลื่อมใสในพระดาบสทั้งสอง ปรารถนาจะที่ฟังธรรมจากพระดาบส จึงได้ขอพญาสุจิตตยักษ์ เพื่อฟังธรรมและปรารถนาจะรักษาศีลเช่นเดียวกับพญาสุจิตตยักษ์
    พญาสุจิตตยักษ์นั้น รู้สึกปิติใจที่อัครมเหสีของตนเกิดความเลื่อมใสพระดาบส ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าที่พญาสุจิตตยักษ์ได้เล่าเรื่องราวของพระดาบสทั้งสองแก่มเหสีองค์อื่น ๆ แต่ไม่มีใครสนใจที่จะฟังธรรม มีเพียงพระนางศิรวรตฯเท่านั้น จึงรับปากจะพานางไปกราบพระดาบสทั้งสองในวันรุ่งขึ้น

    พระนางศิรวรตฯได้นำความนี้ไปเล่าแก่เวสภูเสนายักษ์ ถึงเหตุที่พญาสุจิตตยักษ์เลิกกินเนื้อสัตว์ เวสภูเสนายักษ์เกิดความเลื่อมใสพระดาบส จึงขอไปฟังธรรมบ้าง และบอกต่อยักษ์ทั้งหลายประมาณกว่า ๔๐๐๐ ตนที่ปรารถนาจะฟังธรรม พระนางฯ จึงนำความไปกราบทูลพญาสุจิตตยักษ์ พร้อมบอกว่า..

    “ในเมืองของเรานี้มีผลไม้ที่มนุษย์ทานได้ พรุ่งนี้น้องจะออกไปเก็บผลไม้นั้น แต่เช้า เพื่อนำไปถวายพระดาบสทั้งสองนะเพคะ”


    พญาสุจิตตยักษ์นั้น เกิดความปิติใจ จึงกล่าวว่า “น้องรักของพี่ เจ้าสมแล้วที่เป็นอัครมเหสีคู่บุญของพี่ พี่เกิดเป็นยักษ์ในชาตินี้ ไม่เสียชาติเกิด พี่ขออธิษฐานให้ได้เกิดมาพบน้องทุกชาติไป ขอให้เราได้ร่วมบุญกันเช่นนี้ตลอดไป”
    สัญญารักอันหนักแน่นของพญายักษ์ ทำให้พระนางศิรวรตฯนั้น มีความปิติใจ นางจึงก้มกราบพระบาทพญาสุจิตตยักษ์ และใช้ยกพระบาทของพญายักษ์ขึ้นเหนือศีรษะของตน และกล่าวว่า..

    “ข้าฯ แต่พระสวามี อย่าว่าสิ่งเพียงเท่านี้ที่หม่อมฉันจะทูลถวายแก่พระองค์ แม้ชีวิตของหม่อมฉันก็จะน้อมถวายแก่พระองค์ หากพระองค์ประสงค์ หม่อมฉันไม่มีความใยดีในการสละชีวิตแก่พระองค์เพคะ”

    พญาสุจิตตยักษ์กล่าวว่า “น้องรัก ใครกันจะเอาชีวิตของน้องไป พี่เองคงอยู่ไม่ได้ หากขาดน้อง ขอน้องจงอยู่เป็นสุขเถิด”

    ครั้นรุ่งเช้า ทั้งหมดได้ไปยังอาศรมของพระดาบส โดยพระนางศิรวรตฯได้ถวายผลไม้ น้ำผึ้ง และน้ำดื่มแก่พระดาบสทั้งสอง จากนั้นพระสุทธิธรรมดาบสได้ให้ข้อธรรม จนยักษ์ทั้ง ๔๐๐๐ กว่าตน ต่างตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์

    บรรดายักษ์ตนอื่น ๆ ที่เป็นบริวาร ต่างมีความศรัทธาในพญายักษ์ที่สามารถงดเนื้อสัตว์ได้ จึงตั้งใจงดเนื้อสัตว์ตาม แต่ธาตุขันธ์ยักษ์บริวารเหล่านั้น ไม่เหมือนสามารถทำได้ ต่างรับทุกขเวทนาด้วยกรรมบันดาล

    พระวรมังคลชาตดาบสเกิดความเวทนาจึงต้องเข้าสมาบัติ และอธิษฐานปรุงยาวิเศษแก่ยักษ์บริวารทั้งหลาย เพื่อให้พ้นจากเวทนานั้น จากนั้นจึงนำยาที่ปรุงแล้วไปให้ยักษ์ทั้งหลายกิน ทำให้ทุกขเวทนาหมดไป ยานี้จะอยู่ได้ ๑๕ วัน ยักษ์บริวารเมื่อหายจากทุกขเวทนาแล้ว ต่างมีความศรัทธเลื่อมใส พระดาบสทั้งสองยิ่งขึ้น จึงได้เรียกพระวรมังคลชาตดาบสว่า “พระมโหสถนยกดาบส” นับแต่นั้นมา
     
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรแก้วชุดวสไวยยนะ และดวงแก้วชุสหัสสนัยไตรภพ ตอน ๗ พระนางศิรวรตฯ จุติ

    หลังจากพระนางศิรวรตยักษิณีได้รับยาวิเศษจากพระมโหสถนยกะดาบสแล้ว ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจ จึงได้ขออนุญาตพญาสุจิตตยักษ์รักษาอุโบสถศีลเป็นเวลา ๑๕ ราตรี เพื่อบำเพ็ญเพียร และอุปัฏฐากพระดาบสทั้งสอง โดยได้พานางตรวรายักษิณี และนางปริวานารถยักษิณี และบริวารยักษาอีก ๓ ตนไปอยู่อุปัฏฐากพระดาบสด้วย

    ระหว่างการอุปัฏฐากพระดาบสทั้งสอง พระนางศิรวรตฯ และบริวารได้แปลงกายเป็นมนุษย์ พระนางศิรวรตยักษิณีลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง หวังเป็นการตอบแทนพระอาจารย์ทั้งสองที่ช่วยเหลือตน และบริวารยักษ์ทั้งหลาย พระดาบสทั้งสองได้เมตตาต่อนาง โดยสอนมนต์บทหนึ่งที่สามารถเคลื่อน หายตัวจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้หากมีภัย

    หลังจากนางได้ตั้งใจรักษาอุโบสถศีลผ่านไป ๕ ราตรี จึงคิดว่า ถึงเวลาที่พระนางต้องอยู่ปรนนิบัติพญาสุจิตตยักษ์ แต่นางกลับมารักษาศีล จึงตัดสินใจโอนวันที่พญาสุจิตตยักษ์อยู่กับนางให้แก่มเหสีองค์ ๒ และ ๓ สร้างความพึงพอใจแก่นางเหล่านั้น โดยเฉพาะพระนางสุจิวรณยักษิณี ตำแหน่งพระมเหสีรอง

    ทำให้นางจึงคิดหาทางกำจัดพระนางศิรวรตยักษิณี โดยให้ปริทัสสนยักษ์ ซึ่งเป็นญาติของนาง เป็นผู้ลงมือ ปริทัสสนยักษ์ได้ติดตามพระนางศิรวรตยักษิณี เพื่อหาช่องทางทำร้าย โดยที่นางไม่รู้ตัว และไม่คาดคิดว่าใครจะกล้าทำร้ายนาง จนกระทั่งถึงวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง พระนางศิรวรตยักษิณีได้ไปตักน้ำที่ลำธารโดยลำพัง

    ปริทัสสนยักษ์เป็นยักษ์ได้แปลงกายเป็นคนชรา เข้ามาขอน้ำนางดื่ม จากนั้นแอบเอายาพิษเคลือบในภาชนะนั้นหวังให้นางดื่มน้ำจากตน ยาพิษนี้มีพิษร้ายแรง ด้วยวิบากกรรมเก่าของนาง ทำให้นางไม่ทราบว่า ปริทัสสนยักษ์วางยาตน เมื่อให้น้ำชายชราดื่มแล้ว นางจึงได้เดินทางกลับบังที่พัก

    ระหว่างทางนั้นเอง นางได้เดินผ่านสระน้ำแห่งหนึ่ง นางพบนางนาคมาณวิกาตนหนึ่งกำลังถูกพญาครุฑ นามว่า “สีหวิมานครุฑา” ไล่จิก เพื่อจะกินเป็นอาหาร เนื่องจากพญาครุฑนี้ เพิ่งออกจากการจำศีล

    ส่วนพระนางศิรวรตยักษิณีเห็นเช่นนั้น จึงได้ใช้มนตราย้ายที่เป่าบังร่างของนาคมาณวิกาตนนั้นให้พ้นภัย ทำให้พญาครุฑตนนี้ ถึงกับอาฆาตนางยักษิณี ขอจองเวรว่า..


    “ชาติต่อ ๆ ไป ขอให้นางยักษิณีตนนี้ไปเกิดเป็นนาค และขอให้เราได้เกิดเป็นครุฑ ทำร้ายนางจนสิ้นอายุขัย”


    จากนั้นจึงได้บินจากไป ส่วนพระนางศิรวรตยักษิณีได้ช่วยเหลือนางนาคมาณวิกา จึงได้ถามไถ่เรื่องราว นางนาคมาณวิกากล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระกนิษฐา อันข้าฯนี้มีนามว่า “สัตตรินทรมาณวิกา” เป็นธิดาของท้าวมหาปทุมมัตรนาคราช ผู้เป็นใหญ่แห่งนาคพิภพ ข้าฯเองชอบเที่ยวซุกซน โดยไม่ฟังคำเตือนของนาคผู้เฒ่าว่า เขตแดนนี้ เป็นแดนของเหล่าครุฑา และยักษา หาใช่เขตของนาคไม่

    ข้าฯยังด้อยประสบการณ์คิดว่า ตนเองมีวิชาแปลงกาย สามารถหลบครุฑเหล่านั้นได้ มิคิดว่า หากเป็นพญาครุฑา สามารถจะทราบได้ทันที พญาครุฑานั้นไล่จิกข้าฯ เกือบจะจับข้าฯได้แล้ว โชคดีที่ท่านมาช่วยไว้ทัน ข้าฯ
    ไม่รู้จะตอบแทนท่านได้อย่างไร”

    พระนางศิรวรตยักษิณีรู้สึกเอ็นดูนาคมาณวิกาตนนี้ จึงกล่าวว่า “เราเองจุติในตระกูลพญายักษา ร่างนี้ก็หาใช่ร่างที่แท้จริงของเราไม่ เราจำแลงเพื่อตบตามนุษย์ เราเองได้อุปัฏฐากพระดาบส ๒ ด้วยความศรัทธา ล่วงมา ๑๑ ราตรีแล้ว อาศรมของพระอาจารย์ของเราอยู่ไม่ไกลจากนี้ ไปทางทิศตะวันออกก็จะพบอาศรมฯแล้ว”


    ระหว่างที่นั่งคุยกันด้วยจิตที่เบิกบาน พระนางศิรวรตยักษิณีเกิดกระหายน้ำ จึงได้หยิบน้ำมาดื่ม ทันทีที่สัมผัสยาพิษนางก็ถึงกับจุติทันที แท้จริงยาพิษนี้ เคลือบด้วยพิษนาคอันร้ายแรง หากใครต้องสัมผัสจะทำให้สิ้นใจทันที

    เมื่อจิตดับก็เผยร่างที่แท้จริงออกมา คือเป็นนางยักขิณี “สัตตรินทรมาณวิกา” รู้สึกเสียใจที่ไม่ทันได้ตอบแทนบุญคุณ นางกลับจุติไปเสียก่อน

    การจุติของพระนางศิรวรตยักษิณีนั้น รู้ไปถึงพระดาบสทั้งสอง จึงเหาะจากอาศรมมายังร่างพระนางศิรวรตฯ นอนอยู่ พบว่า สัตตรินทรมาณวิกาได้ร่ำไห้ จึงกล่าวว่า..

    “นาคมาณวิกาเอ๋ย เจ้าจงระงับความโศกเศร้าเสีย ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ศิรวรตะฯ นั้นได้ใช้กรรม”

    สัตตรินทรมาณวิกาจึงได้ก้มกราบพระดาบสทั้งสอง จากนั้นพระดาบสทั้งสองได้ใช้เตโชกสินเผาร่างพระนางศิรวรตยักษิณี และทราบว่า นางได้จุติเป็นเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดี(ชั้น ๕) เป็นการผุดขึ้นกลางวิมานแต่ยังไม่รู้สึกตัว
    และกล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระดาบส หม่อมฉันมีนามว่า “สัตตรินทรมาณวิกา เป็นธิดาองค์ที่ ๗ ของท้าวมหาปทุมมัตรนาคราช เองตั้งใจว่า จะตอบแทนบุญคุณของนาง ที่ช่วยให้พ้นจากพญาครุฑจับกิน นางได้ใช้มนต์ป้องกันไว้ แต่ไม่นึกว่า ยังมิทันจะตอบแทนนางก็สิ้นใจเสียแล้ว
    หากไม่สามารถตอบแทนนาง หม่อมฉันขอตอบแทนพระอาจารย์ทั้งสอง โดยขอเชิญไปยังเมืองนาคพิภพ พร้อมกับคณะของท่าน

    ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง ชาวนาคของเราจะมีบุญใหญ่ จะมีพระดาบส-พระดาบสินีในอดีตออกจากสมาบัติถึง ๖ ตน
    ตระกูลพญานาคของหม่อมฉัน รับหน้าที่คอยคุ้มกันภัยมานับ ๓๑ กว่ากัป จากรุ่นต่อรุ่น เพื่อคอยคุ้มกันภัยอันตรายแก่พระดาบส-พระดาบสินีทั้ง ๖ นับเป็นหน้าที่อันทรงเกียรติ

    วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีนี้ เป็นปีที่พระดาบสจะออกจากสมาบัติ เพื่ออธิษฐานจักรแก้ว ขอท่านได้โปรดไปเป็นแขกรับเชิญของหม่อมฉันด้วยเถิด ”


    พระสุทธิธรรมดาบส และพระมโหสถนยกดาบส ได้พิจารณาแล้ว จึงอยู่ในอากัปกิริยาสงบนิ่งเป็นการรับอาราธนา พระสุทธิธรรมดาบสได้กล่าวว่า..

    “ภคินี เรามีพี่ชาย และน้องชายที่ออกบวชเป็นพระดาบส รวม ๗ ตน ขอพาท่านเหล่านั้น ขอชมบารมีของพระดาบส พระดาบสินีทั้ง ๖ ได้หรือไม่”


    สัตตรินทรมาณวิกาจึงกล่าวว่า.. “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า หม่อมฉันต้องขออนุญาตพระบิดาก่อนเจ้าข้า ฯ หากได้คำตอบแล้ว จะมาอาราธนาพระคุณเจ้าฯทั้งสองอีกครั้ง”จากนั้นนางก็ก้มกราบ และแทรกแผ่นดินกลับยังนาคพิภพทันที
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ...ผู้ที่เกี่ยวเนื่องในตอนนี้

    สีหวิมานครุฑา – คุณ………

    พระนางศิรวรตยักษิณี-Namsai

    นางตรวรายักษิณี -คุณจันทรกาล

    นางปริวานารถยักษิณี-น้อง Paktawadee

    สัตตรินทรมาณวิกา- น้องขาล
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรแก้วชุดวสไวยยนะ และดวงแก้วชุสหัสสนัยไตรภพ ตอน ๘ พร ๘ ประการ

    หลังจากที่สัตตรินทรมาณวิกาได้จากไป จึงได้เหาะกลับยังอาศรมของตนแจ้งให้นางตรวรายักษิณี –นางปริวานารถยักษิณีทราบ ยักษิณีทั้งสองต่างโศกเศร้าเสียใจที่เสียผู้ที่ตนเคารพรักไป ทั้งสองนางได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า..

    “เกิดชาติหน้าหนใด ขอให้ได้เกิดมาพบ และได้สร้างบารมีร่วมกับพระนางศิรวรตยักษิณีทุกภพชาติไป”

    จากนั้น ยักษิณีและบริวารต่างเดินทางกลับเมือง พระดาบสทั้งสองได้เหาะไปแจ้งข่าวการจุติของพระนางศิรวรตยักษิณีแก่พญาสุจิตตยักษ์

    เมื่อพญาสุจิตตยักษ์ได้ทราบข่าวการจุติ ด้วยกรรมจะหมดจากความเป็นยักษ์ ทำให้พญาสุจิตตยักษ์เสียพระทัยมากจนตรอมใจ และจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทันที ด้วยคล้ายหลับแล้วตื่นกลางวิมานบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นามว่า “โอภสสุวัณณเทวบุตร” แปลว่า เทพบุตรที่มีรัศมีสีทองเปล่งประกายอยู่เสมอ ท่านมีรัศมีกายสว่างไสว ถึง ๒๐๐ โยชน์ มีวิมานเป็นรัตนะ ๗ ด้วยบุญรักษาศีล และอุปัฏฐากพระดาบส

    การจุติของพญาสุจิตตยักษ์สร้างความตกใจแก่พระนางสุจิวรณยักษิณีอย่างยิ่ง ไม่คิดว่า พระสวามีจะเสียใจจนจุติ นางได้แต่ร่ำไห้ พร้อมกับหลุดสารภาพเรื่องทั้งหมด จนเสนายักษ์ทั้งหลายต่างทราบว่า พระนางเป็นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด จึงได้เข้าทำร้ายพระนางจนสิ้นใจ ด้วยจิตที่เศร้าหมอง ทำให้พระนางไปใช้กรรมในยมโลก ๑๐๐ ปีทิพย์

    หลังจากที่พญาสุจิตตยักษ์นั้น ระลึกได้ว่า ตนได้จุติแล้ว จึงได้ตรวจดูว่า พระนางศิรวรตยักษิณีไปจุติที่ใด ทราบว่า นางจุติบนสวรรค์ชั้นนิมมานรดีแต่ยังไม่รู้ตัว

    จากนั้นได้ระลึกถึงบุญในอดีต ทราบว่า ต่อไปตนจะได้เกิดเป็นมนุษย์ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้เกิดเป็นมนุษย์และได้ครองคู่กับนางอีกครั้ง

    จากนั้นจึงได้ไปขอพรท้าวสักกเทวราช ก่อนจะจุติเป็นมนุษย์ ก่อนจะเข้าสมาบัติ เพื่อไปจุติ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพร ๘ ประการ ดังนี้

    ๑. ขอให้ข้าพเจ้าได้รักษาศีลได้บริสุทธ์อยู่เสมอ

    ๒. ขอให้เกิดในตระกูลที่เอื้อต่อการสร้างบารมี

    ๓. ขอให้ครองคู่กับพระนางศิรวรตในทุกภพชาติที่ไม่ได้ประพฤติพรหมจรรย์

    ๔. ขอให้เป็นผู้ที่มีพละกำลังมหาศาล ดุจพญายักษา

    ๕. ขอให้เป็นผู้ที่ศัตรูทำร้ายมิได้

    ๖. ขอให้เป็นผู้ที่สามารถสอนตนเอง และระลึกชาติได้ไม่จำกัด

    ๗. ขอให้เป็นผู้ที่มีอาจารย์ ผู้สอนวิชาดี

    ๘. ขอให้เป็นผู้ที่หากสิ้นอายุขัยจะไม่เหลือธาตุขันธ์ให้เป็นภาระแก่ใคร ดุจพระเจ้าจักรพรรดิ


    ท้าวสักกเทวราชนั้น ได้ตรวจดูด้วยกำลังบุญบารมีของโอภสสุวัณณเทวบุตร ทราบว่าสำเร็จได้ตามพรทั้ง ๘ ประการ จึงยกหัตถ์ขวาขึ้นประทานพร พร้อมกับบอกว่า "ขอเจ้าจงเข้าสมาบัติ เพื่อจุติบนโลกมนุษย์ ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง จะมีพระบิดา-พระมารดาจะเป็นกษัตริย์เมืองโกลิยนคร เมืองนี้ มีเขตรอยต่อกับนาคพิภพ เมื่อเติบใหญ่จะได้อาจารย์ดีดังคำอธิษฐานทุกประการ"
     
  8. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรแก้วชุดวสไวยยนะ และดวงแก้วชุสหัสสนัยไตรภพ ตอน ๙ แก้วมณีทั้ง ๘


    กล่าวถึงพระสุทธิธรรมดาบส และพระมโหสถนยกดาบสนั้น หลังจากแจ้งข่าวการจุติของพระนางศิรวรตยักษิณีแล้ว ก็ได้เหาะไปยังสถานที่นัดพบกับพระดาบสอีก ๕ ตน

    เมื่อไปถึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดแก่พระดาบสทั้ง ๕ ฟัง รวมทั้งเรื่องที่พระดาบส-พระดาบสินีในอดีต ๖ ตนจะออกสมาบัติ พระสุทธิชาตดาบสเป็นผู้ที่มีปัญญาเป็นเลิศกว่าผู้อื่น ได้เล่าว่า

    “ในเวลาที่ผ่านมาเราได้เข้าสมาบัติจนระลึกชาติได้ว่า ในอดีตเราเคยบวชเช่นนี้ และระลึกได้ว่า เคยมีวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่สามารถอธิษฐานดวงแก้วได้ หากท่านทั้งหลายสนใจ เราจะถ่ายทอดวิชานี้ให้”

    พระดาบสทั้ง ๖ มีความยินดีที่จะเรียนวิชาจากพระสุทธิชาตดาบส ผู้เป็นพี่ชาย พระสุทธิชาตดาบสได้สอนวิธีการอย่างละเอียดและกล่าวว่า

    "เราจะเริ่มเข้าสมาบัติจากวันพรุ่งนี้ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ และออกสมาบัติในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ต่างอธิษฐานดวงแก้วมณี เพื่อเป็นการบูชาธรรมของพระดาบส-พระดาบสินี ทั้ง ๖ กัน”

    เมื่อตกลงกันได้แล้ว พระดาบสต่างคนต่าง หาที่เหมาะแก่การเข้าสมาบัติในบริเวณนั้น รวมระยะเวลา ๑ เดือนโดยประมาณ เพื่ออธิษฐานดวงแก้วมณี
    ฝ่ายสัตตรินทรมาณวิกา เมื่อกลับถึงเมืองได้กราบขอขมาท้าวมหาปทุมมัตรนาคราช ผู้เป็นพระบิดา และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง

    ท้าวมหาปทุมมัตรนาคราชทราบด้วยญาณทัสสนะว่า พระดาบสทั้ง ๗ อยู่ระหว่างการเข้าสมาบัติ จะออกจากสมาบัติในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเส็ง จึงสั่งให้นาคราชทั้งหลายไปอารักขพระดาบส และเมื่อท่านได้ออกสมาบัติแล้วให้นำยาน(ราชรถ) รับพระดาบสทั้ง ๗ มายังนาคพิภพทันที

    กล่าวถึงเมืองมหาปุริสนครนั้น เมื่อพญาสุจิตตยักษ์จุติแล้ว เหล่าเสนายักษ์ทั้งหลายต่างเชิญให้พญาเวสภูเสนายักษ์ขึ้นครองราชย์ นามว่า “พญาเวสภูปริสสยักษ์”

    เมื่อพญาเวสภูฯ ทราบข่าวว่าพระดาบสผู้เป็นอาจารย์ทั้งสองเข้าสมาบัติ เพื่ออธิษฐานดวงแก้วมณีต่างก็นำกำลังยักษ์ที่มีกำลังมาคุ้มครองดูแลพระอาจารย์ของตน จนกว่าจะออกจากสมาบัติ

    ครั้นเมื่อถึงวันขึ้น ๑๔ ค่ำเดือน ๔ ปีมะเส็ง พระดาบสทั้ง ๗ ได้ออกสมาบัติอธิษฐานดวงแก้ว ๗ ดวงดังนี้

    ๑.ดวงแก้วนพฤทธิ์วรธรรพ์ โดยพระสุทธิชาตะ(ยังไม่ออกประมูล -เพิ่งขึ้นก่อนมาฆบูชา) ,

    ๒.ดวงแก้วอภิธรรมสิริโชติ -พระชีวญาณชาตะ (ท่าน widya เจ้าของ)

    ๓. ดวงแก้วโชติกมัยยรัตนะ โดยพระอัครญาณชาตะ( คุณ pizza4G เจ้าของ เพิ่งขึ้นมาพร้อมกับแก้วนพฤทธิ์วรธรรพ์)

    ๔. ดวงแก้วอัครมงคลธรรม โดยพระญาณชาตะ(คุณวาสุเทพ เจ้าของ)

    ๕. ดวงแก้วสุทธิธรรมฤทธิ์ โดยพระสุทธิธรรม (คุณเพชร2545 เจ้าของ )

    ๖. ดวงแก้ววสิทธิ์ธรรมโชติ โดย พระมโหสถนะยะกะ (คุณ mooom เจ้าของ)

    ๗. ดวงแก้วโรจนมณีฤทธิ์ โดยพระมังคลชาตะ (คุณ Phuya เจ้าของ )


    ในขณะนั้น เกิดแผ่นดินไหว พร้อมมีดวงแก้วมณีอีกดวงปรากฏขึ้น มีนามว่า “สหัสสนัยไตรภพ”(คุณ sun2555 เจ้าของ) เป็นดวงแก้วที่พระไวยวจนะดาบสเคยอธิษฐานไว้แต่อดีต ก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน สร้างความอัศจรรย์แก่เหล่ายักษ์ คนธรรพ์ นาค และกินนรกินรีทั้งหลาย ต่างก็ปิติยินดี
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุญาตต่อวันพรุ่งนี้นะคะ แค่ชื่อดวงแก้ว ผู้อธิษฐาน และเจ้าของก็รู้สึกมึนแล้ว อิอิ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านอีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
  10. Giant 1

    Giant 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,014
    ค่าพลัง:
    +9,211
    ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานของคุณน้ำใสในวันนี้ด้วยครับ
     
  11. Callme Zupta

    Callme Zupta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +2,292
    "อดีตคือบทเรียนของปัจจุบัน ปัจจุบันคือสอบให้ผ่านเพื่อไปสู่อนาคต"...

    ข้าพเจ้าขอกราบอโหสิกรรมสำหรับกุศลกรรมในอดีต และขอสร้างแต่กุศลกรรมในปัจจุบัน เพื่อการบรรลุพุทธธรรมในอนาคต...
    ขอกราบอนุโมทนาบุญในธรรมทานของพี่น้ำใสด้วยครับ /\ /\ /\
     
  12. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    สาธุกับธรรมทานเจ้าค่ะ และขอน้อมกราบสมเด็จองค์ปฐมบรมครูด้วยความเคารพอย่างสูง

    หนูจะพยายามปล่อยปลาด้วยตนเองให้ได้ทุก ๆ สัปดาห์ค่ะ
    ว่าแต่พี่มีบัญชีให้ร่วมบุญไหมคะ อยากจะร่วมบุญปล่อยปลาด้วยค่ะ
    กราบขอบพระคุณอย่างสูง และขอโมทนาในธรรมทานที่นำมาบอกกล่าวกันค่ะ
     
  13. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    ขอเลื่อนกำหนดการถวายศาลาพระพุทธอัมรินทร์รัตนบพิตร
    ณ วัดพระพุทธบาทหริภุญชัย (ห้วยทรายขาว) จ. ลำพูน


    กราบเรียนชี้แจงกัลยานมิตรทุกท่านทราบค่ะ...เนื่องจากการก่อสร้างศาลาพระพุทธอัมรินทร์รัตนบพิตร เสร็จไม่ทันตามกำหนด
    คือวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2557 ...จึงเลื่อนกำหนดการที่จะถวายศาลา พร้อมองค์พระไปเป็นวันที่ 15-16 มีนาคม 2557


    สาเหตุที่เสร็จไม่ทันตามกำหนด เนื่องจาก เปลี่ยนช่างก่อสร้างบ่อย ไม่ค่อยมีช่างเข้าไปทำให้ เพราะระยะทางไกล และไม่มีไฟฟ้า
    ตอนนี้เหลือขึ้นโครงหลังคา แล้วจึงลงรายละเอียด อุปกรณ์ทุกอย่างจัดซื้อ จัดหา ไว้เรียบร้อยหมดแล้วค่ะ...

    IMG_3025.JPG IMG_3026.JPG IMG_3027.JPG IMG_3028.JPG

    กราบขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับคุณ halfwave ที่ขึ้นไปทำธุระที่ลำปาง แล้วแวะดูงานพร้อมส่งรูปความคืบหน้ามาให้ด้วยค่ะ
    อดใจรออีกนิดนะคะ ทุกอย่างจะเรียบร้อยและสวยงามค่ะ​


    ---​
     
  14. sylvenus

    sylvenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +3,283
    สาธุในธรรมทาน กับพี่น้ำใส และอนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะครับ..
    ^_^
     
  15. Giant 1

    Giant 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,014
    ค่าพลัง:
    +9,211
    รบกวนสอบถามท่านเจ้าเมืองและญาติธรรมทุกๆท่านครับว่าการกล่าวคำอธิษฐานเวลาปล่อยปลาควรกล่าวอย่างไร ผมหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็พอทราบบ้างแล้ว แต่ก็อยากทราบจากท่านเจ้าเมืองและญาติธรรมทุกๆท่านจากกระทู้นี้ครับ ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    @^_^@ จากประสบการณ์ไปซื้อปลาดุก ปลาช่อน ฯ ที่เขากำลังจะสับ จากตลาดไปปล่อย ก่อนออกจากบ้าน ตั้งใจ กราบพระ อาราธนา ศีล 5 อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป "วันนี้ข้าพตั้งใจปล่อยสัตว์ที่เขาจะนำไปฆ่า หากสัตว์ตัวใดที่ข้าพเจ้ามิได้ช่วยนั้น ข้าพเจ้าปราศจากเจตนาให้เขาถึงแก่ชีวิต เป็นกรรมของเขาเอง ขอให้ความประสงค์ร้ายใดๆ อย่าได้มีผลต่อตัวข้าพเจ้าผู้ไม่มีจิตคิดเบียดเบียนผู้ใดเลย" จากนั้นทำจิตให้เบิกบานเป็นสุข ตลอดเวลา บริเวณท่าน้ำก่อนปล่อย ขาลเคยใช้ทั้งแบบสั้น 2 บรรทัด และแบบยาวม๊ากกก หาได้จากใน web สรุปเอาแบบที่ชอบ ส่วนตัวเน้นการทรงอารมณ์ใจ คิดซะว่าปลาในถุงนี้เป็นลูกเรา เรากำลังทำให้ลูกพ้นทุกข์ แม้ แดดจะร้อน ถุงจะหนัก เดินไกล เมื่อย คนเบียดเสียด เดินผ่านคนด่ากัน รองเท้า กางเกงจะเปื้อน หางปลาตีน้ำกระเด็นเข้าหน้าตา ช่างมัน เราก็มีแต่ความดีใจที่ลูกจะพ้นทุกข์ ก่อนปล่อยปลา ก็จ้องหน้ากันผ่านถุง พูดออกเสียง "ความไม่ดีที่เราเคยทำไว้กับท่าน เราขอขมา สิ่งใดท่านล่วงเกินเรา เราอโหสิกรรมให้นะ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนเข้าพระนิพพาน ขอให้ท่านจงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากความทุกข์ ภัยทั้งสิ้นเถิด" ตอนปล่อยลงน้ำ นึกถึงท่านพระยายมราช พระแม่ธรณี พระแม่คงคา ให้เป็นพยาน อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร แล้วขอให้ตนเองแข็งแรง สิ้นชีพตามอายุขัยค่ะ
     
  17. Giant 1

    Giant 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,014
    ค่าพลัง:
    +9,211

    ขอขอบคุณคุณขาลที่ได้แบ่งปันธรรมทานในครั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วเวลาปล่อยปลาก็ไม่เคยกล่าวคำอธิษฐานยาวๆ ก็เลยเกิดความสงสัยว่าจะเกิดอานิสงส์ทั้งผู้ให้และผู้รับหรือไม่ ขออนุโมทนาสาธุ

    [​IMG]
     
  18. วาสุเทพ

    วาสุเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +5,174
    อธิษฐานหรือไม่อธิษฐานก็ได้รับอานิสงส์ครับ แต่การอธิฐานจะทำให้อธิฐานบารมีเต็มเร็ว และเป็นการตั้งจิตอันเป็นกุศล หากยังต้องเวียนว่ายตายเกิดการอธิฐานดีเช่นที่คุณขาลกล่าว จะทำให้การสั่งสมบารมีทำได้สะดวก

     
  19. Giant 1

    Giant 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,014
    ค่าพลัง:
    +9,211
    ขอขอบคุณคุณวาสุเทพที่แบ่งปันธรรมทานในครั้งนี้ด้วยครับ

    [​IMG]
     
  20. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,334
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,277
    ไม่ว่ายังไงก็ตามทุกอย่างเป็นไปตามกรรมนะครับ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ปล่อยปลาแล้วจะพ้นจากกรรมไปเลยนะครับ
    ผมอยากให้ทุกคนทำด้วยจิตที่มีเมตตาต่อน้องปลานะครับ

    อยากจะช่วยให้น้องปลาเขาพ้นทุกข์ แล้วเราจะได้รับผลดีๆกลับมานะครับ
    จิตใจเมตตาเป็นสิ่งสำคัญมากๆนะครับ ทุกชีวิตก็รักชีวิตตนเอง

    ก็อย่างที่พระท่านบอกนะครับ นอกจากปล่อยปลาแล้ว จะต้องตั้งมั่นในทาน ศีล ภาวนาอีกด้วยครับ

    ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ

    ธรรมวิวัฒน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2014
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...