////// ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น ///////

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย xeforce, 1 มกราคม 2014.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การภาวนานั้น หาก เรา พอใจในธรรมมาก เกิด นิกันติ พอใจใน เนื้อหาสาระ
    แห่งธรรมมาก

    ส่วนใหญ่ จะเกิด อาการบางประการ คล้ายๆ กัน

    เรียกตามภาษาบ้านๆ คือ การอยากรู้ทั่วถึงธรรมให้ได้เร็วๆ เพราะ รสชาติมันดีมาก

    มันส์มาก ยิ่งภาวนายิ่งมันส์ สนุกกับการ ภาวนา

    พอเป็นแบบนั้น ส่วนใหญ่จะไม่ ทันสิ่งที่เรียกว่า " ความเข้าใจธรรม "

    ความเข้าใจธรรม เป็น สภาพธรรมอย่างหนึ่ง เกิดใน จิต ห้ามไม่ได้ แต่
    ยกขึ้นสังเกตได้ ไม่ใช่ไม่ได้

    หากยกสังเกตบ่อยๆ จะค่อยเห็น ความเป็น สังขตธรรม ธรรมฝ่าย ปรุงแต่ง
    ซึ่งเสียหายไหม ไม่ เพราะ สัมมาทิฏฐิมันมีสองส่วน ส่วนที่เป็น สังขต ก็มี
    และ ส่วนที่เป็น อสังขต ก็มี ตัวหลังนี้ เห็นแล้ว แต่ ไม่ชัด เลยทำให้
    ธรรมฝ่าย สังขตะ มันก้ำเกิน

    "ความเข้าใจธรรม " มันก้ำเกิน ปัญญาอินทรีย์ มันเด่น มันล้ำหน้า

    พอมันล้ำหน้ามากๆ ทิฏฐิมันก็เกิดยุบยับ ดำริเกิด เราก็เสียท่าให้กับ พวงดอกไม้ คือ ขันธ์5

    แต่ถ้าเราเอามา พินา ความเป็น สังขตะ ธรรมฝ่ายสังขตะ จิต จะค่อยๆ ทำให้
    ปัญญามันทุรพล อ่อนตัวลง ซึ่ง จะเห็นเลย นิวรณ์มันเล่นงาน อยู่ เหมือนกัน

    สมาธิไม่ถึงฐาน จิตไม่ถึงฐาน ก็จะทราบ

    จะเห็นว่า การเข้ามาที่ ฐานจิต จิตรู้ลงที่ฐาน หรือ แยกธาตุแยกขันธ์ มันมี
    หลายวิธีมาก แล้วแต่ว่า จะทันปัจจุบันธรรมอย่างไร ทันสันตติอย่างไร

    ดังนั้น

    อะไรเกิดขึ้น ก็รู้ไปอย่างนั้น

    ไม่ต้องตำหนิจิต ตำหนิสิ่งที่แสดงออกมาจากจิต ไม่ต้องถือ(...)ขึ้นมา

    การถกธรรม เสวนาธรรม ซัดกันให้มันไปเลย อย่า ถือ(...)ถือ(...) ขึ้นมา รับรองว่า
    จะไม่เป็น โสดาบันที่แค้น ข้ามปี เจอไอเฮียตัวนี้เมื่อไหร่ ก็ขอโพส กระทืบ เด็ดขาด
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พูดถึง ธรรมคับแค้น

    อันนี้ มี เคสของ หลวงตามหาบัว กับ หลวงปู่มั่น

    ท่านก็คับแค้นมาก เวลา สนทนาธรรมกัน โดนโขกสับว่า " สมาธินอนตาย"
    หรือ วิปัสสนารู้จ้าไปหมดไม่ปล่อยไม่ดับ หลวงปู่มั่นก็เอ็ดเอาว่า " บ้าสังขาร "

    ทีนี้ แค้นเนี่ยะ หลวงตาท่านก็บอกว่า แค้นใจนะ แต่ เอาความแค้นใจ
    ไปยกสังเกตว่า ทำไมมี ก็เลย ทำให้ แปลความแค้นเป็น ต้นทุน
    ในการ หมั่นภาวนา ลุยแบบ หัวหก ก้นขวิด ลงไปเลย

    สู้เพื่อธรรม ซะอย่าง จะ กลัวการถกเถียงธรรม กันไปทำไม

    ********

    อันนี้ กล่าวขึ้น ไม่ได้ ยกเทียบ มานะ อัตตา ขนมยาย ใครต่อใครนะ

    กล่าวขึ้นเพื่อให้ เจ้าของกระทู้ เห็น ร้อยเท้าในอากาศของตน

    ปล. ถ้าใครถามว่า ไหนๆ ...ก็จะตอบว่า เฮ้ย มันอยู่ใน อากาศไง จะอะไรกันอีกหละเนี่ยะ

    คนทำเขารู้ คนทำรอยเท้าเขาเห็น เขารู้ของเขาเองแหละ มีหรือไม่มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2014
  3. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    รอยเท้าในอากาศ คนทำเค้าเห็น แต่คนที่เห็นไม่ได้ทำแต่บอกว่าเห็น
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กั๊กๆ

    ถามหน่อย

    แล้ว คุณเคยทำ รอย ไว้เปล่า

    หากเคยทำ คุณเห็นของคุณไหม พอจะ พูดได้ไหม

    ที่นี้ เวลาพูดออกมาเนี่ยะ ต้อง วางจิตเฮียๆฮาๆ ว่า
    รอยเท้ากู รอยเท้ามึง ด้วยหรือเปล่า

    ตกลง เวลากล่าว หาก คุณทำมา คุณกล่าวจากไหน

    ถ้า ตอบว่า ก็ตอบ รอยเท้ากู สิว๊ะ

    เอ่อ...................ใช่เหรอ !?



    แล้ว ตกลง รอยเท้าใคร ว๊า !!! งง เรือหาย เลย
     
  5. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    เวลาคนเราทำรอยเท้านั้นคนทำเค้าไม่มองรอยเท้าที่ทำหลอกแต่ไอ้คนที่เดินตามเค้านั้นหละที่เห็น
     
  6. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    ติดงานอยู่เหรอ ตอบช้าแสดงว่าคิดนะ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เข้าใจแต่ มุม การเดินตาม อะสิ

    ไม่เคยเดินนำ แบบ กำนัน หรือไง

    ฮิววววส์

    *****************

    มุข ตอบช้า แสดงว่า คิด เนี่ยะ อมเอาไว้ กี่ปี แล้วหนะ เน่าเชียว !
     
  8. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    ก็ที่พูดบาลีเยอะๆเข้าใจยากแล้วแสดงตัวว่าเก่งกว่าคนอื่นเป็นผู้นำคนอื่นเช่นนั้นเหรอ พี่กำนัน
     
  9. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    เช่นนั้นผูนำก็แสดงข้อธรรมของตนมาให้ผู้ตามพิจรณาให้เป็นปัญญาด้วยเถอะ
     
  10. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    มุข ตอบช้า แสดงว่า คิด เนี่ยะ อมเอาไว้ กี่ปี แล้วหนะ เน่าเชียว !
    ความจริงก็คือความจริง ของเดิมๆนี้หละ แจ่มแล้ว
     
  11. xeforce

    xeforce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +413
    สาธุ สาธุ ครับ ท่านนิวรณ
     
  12. xeforce

    xeforce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +413

    ข้อที่ถามนี้ ถามไว้เป็นความรู้เฉยๆ ครับ

    ในส่วนของที่ผมโพสว่า(ความจริงเกิด-ดับอยู่ตลอด) ตรงนี้ผม
    ใส่วงเล็บเอาไว้ เผื่อป้องกันว่าท่านจะเห็นว่าผมเข้าใจผิดถึง
    สภาวะธรรม ที่จิต เกิด-ดับ อยู่ตลอด เดี๋ยวเป็นประเด็นขึ้นมาอีก
    เลยใส่วงเล็บให้ ()


    ในเรื่องที่ตั้งคำถามนี้ ก็เพียงจะชี้ให้ท่านทั้งหลาย ย้อนไป วิจัย
    พิจารณา ว่าทำไมผมตั้งคำถามอย่างนี้... ตั้งทำไม....
    แต่ตั้งเพราะอยากรู้ ว่าท่านคิดเห็นตรงกันไหม หรือเห็นเป็นอย่างอื่น
    เผื่อจะย้อนกับเข้าดู สภาวะของตน จุดประสงค์ผมเพียงแค่นี้ครับ
    ถ้าวางใจเป็นกลาง ก็จะเป็นการคุยแลกเปลี่ยนธรรมกัน เอาไว้เป็น
    ความรู้เท่านั้นอย่างที่ผมโพสไว้ด้านบน ไม่ใช่จะเอาไปปฏิบัติหรือ
    คิดและพิจารณาในระหว่างปฏิบัติ ซึ่งข้อนี้ "เรื่องการวางสิ่งที่ตนรู้มา
    หรือ ตำราอะไรก็ตามระหว่างปฏิบัติ " สิ่งเหล่านี้ผมก็พยายามบอก
    แนะนำผู้อื่น.. ก็คงไม่ทำเอง ลองกลับไปอ่านที่ผมเคยตั้งกระทู้ได้ครับ
    ว่าเป็นตามนี้หรือไม่


    ที่เล่าว่าผมได้ลองปฏิบัติดูนั้น ต้องขออภัยที่ไม่เล่าให้ละเอียด คือช่วงนี้ไม่
    ค่อยมีเวลานัก จึงทำให้คิดไปอย่างอื่น แต่ความจริงจะชวนพิจารณา
    ตรงสภาวะตรงนี้ที่ถามครับ ส่วนการปฏิบัติของผม ก็แค่ มีสติระลึกรู้ เท่าที่
    รู้ได้ จากที่รู้ นานที จะรู้ซักที... จน บ่อย ขึ้น ถี่ขึ้น เท่านั้นครับ แล้วรู้ไป
    ตามสภาวะจริงที่ปรากฏ ไม่ได้บังคับ ไม่ได้ฝืน เป็นไปตามนี้ตลอด สัปดาห์ที่แล้ว


    ........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2014
  13. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    วิธีตรวจจับ "อัตตาจิต" เพื่อเข้าสู่กระบวนการ "รู้ตัวดู" แบบง่าย ๆ

    +++ จากคำถามของคุณ xeforce ในกระทู้ "////// ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น ///////" ในโพสท์ที่ 18 ของหน้าแรก
    +++ ผมจะโพสท์ "วิธีทำ" ลงใน 2 กระทู้คือ กระทู้ "ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น" และกระทู้ "ฝึก กรรม-ฐาน ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย" ในหมวด อภิญญา XP

    ขอถามท่าน ธรรม-ชาติ นะครับ "รู้ตัวดู" จะปฏิบัติอย่างไร เผื่อเป็นแนวทางในปฏิบัติสำหรับท่านอื่น ที่กำลังติดจุดนี้ครับ

    +++ คำถามถึง "หลักปฏิบัติ" ที่จะทำให้ "รู้ตัวดู" นี้เป็นคำถามที่สำคัญมาก เพราะ "ตัวดู คือ อัตตาจิต" และมันเป็น "ตัวกูของกู" ตัวจริง

    *** วิธีทำให้ "อัตตาจิต หรือ ตัวกูของกู ปรากฏโดยใช้ รูปกรรมฐาน" ***

    1. ให้นึกจนปรากฏวัตถุ "ของแหลม" เช่น เข็ม ฉมวก หอก "ให้ชัดเจนในจิต" (จะเรียกว่า กสิณ หรือ มโนมยิทธิ ก็ได้แล้วแต่สะดวก)
    2. เมื่อภาพปรากฏชัดเจนแล้ว "ให้ ซัดพุ่งเอาปลายแหลมนั้น วิ่งช้า ๆ เข้ามาเสียบที่ ตรงแสกหน้าของตน"
    3. ให้ตรวจจับ "อาการ เกร็งตัว ทั้งกายและจิต" ที่เกิดขึ้นในขณะที่ "ของแหลมกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา เสียบตรงแสกหน้าของตนนั้น"
    4. อาการ "เกร็งตัว" ที่เกิดขึ้นมานั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ กายหรือจิต ก็ตาม อาการนั้นคือ "ตัวกูของกู หรือ อัตตาจิตนั่นเอง"

    +++ วิธีการเรียกให้ "อัตตาจิต" แสดงตัวขึ้นมานั้น "เหมาะกับ" นักกรรมฐานที่ยังหา "ความเป็นตน" ไม่เจอ รวมทั้งผู้ที่ยังเข้าใจผิด ๆ อยู่ว่า "รู้เรื่องของ สักกายะทิฐิ" มาดีแล้ว หรือนึกเอาเองว่า "พ้นจากสักกายะทิฐิ" ไปแล้ว จะได้พึงสำเหนียกตนเองว่า "อัตตาจิต หรือ ตัวกู นี้แหละคือ กาย ที่แท้จริง" หากยังไม่พ้นจากอาการ "เกร็งตัว" แล้ว จะเรียกว่า "พ้นสักกายะทิฐิ" ไม่ได้

    *** สำหรับผู้ที่ "มั่นใจว่า ตนเองสำเร็จ โสดาบัน หรือสูงกว่า" ให้ทำดังนี้ ***

    +++ กำหนดให้ "ของแหลมนั้น" พุ่งเข้ามาอย่าง รวดเร็วและรุนแรง แล้วให้มันมาปักแบบชำแรกเข้ามาตรงแสกหน้า ให้ลึกเข้ามาในกระโหลกศีรษะประมาณ 1 ใน 3 แล้วให้มันปักคา "เด่" อยู่อย่างนั้น

    +++ หากยังมีความ "พยายามปัดป้อง หรือ เบี่ยงเบนหลบหลีก" การพุ่งเข้ามานั้น ถือว่า "ยังไม่พ้น สักกายะทิฐิ" ตามพฤติแห่งจิต ดังนั้นจึงควร ประเมินตนเสียใหม่

    *** "รู้ตัวดู" ***

    +++ เมื่อพอที่จะ "คุ้นเคยกับอาการเกร็งตัวทางจิต" นี้แล้ว ให้หา "ผู้สร้าง อาการเกร็ง" นี้ให้เจอ เจอเมื่อไร ก็เมื่อนั้นนั่นแหละคือ "เจอตัวดู หรือ ผู้รู้ ที่ยังเป็น ตัวตน เราเขา" และเป็นต้นกำเหนิดแห่ง "โลกียะ" ทั้งหลายอยู่

    +++ สำหรับพวก "โสดาบัน" ที่มีอยู่จนยั้วเยี้อในเวปนี้ หากฝ่าด่าน "โลกียะ" นี้พ้นเมื่อไร จึงค่อยมาคุยเรื่อง "โลกุตระ" กันภายหลังก็ยังไม่สาย

    +++ จากคำถามของคุณ xeforce ที่ว่า "รู้ตัวดู" จะปฏิบัติอย่างไร นั้น หวังว่า "วิธีทำ" ในโพสท์นี้ น่าจะปูแนวทางจนถึง "การรู้ตัวดู" ได้โดยไม่ยากจนเกินไป นะครับ
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เข้าฌาณบ่อยๆ จากการนั่งสมาธิ หรือ กสิณก็ได้ พอเวลาออกจากฌาณ
    มาอยู่ในโลกปกติแม้ มันอาจจะมีอะไรมากระทบแต่ก็ไม่แรงขนาดดิ้นพราดๆ
    หรอก เพราะติดความนิ่งจากอารมย์ฌาณ คือ อารมย์ต่างๆมันก็ยังมีอยู่
    แต่มันเบาบางลง ไม่ฟุ้งมาก
     
  15. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    การทดสอบอันนั้น มันยังไง ๆ ชอบกลอยู่นะครับ
    ถ้าประสงค์ให้เป็นอุบายธรรมทดสอบบางอย่างก็ดีไป
    แต่ถ้าเป็นความเข้าใจว่าต้องเป็นอย่างนั้นจริง ๆ อันนี้ผมว่า..ยังไม่ตรงทางครับ
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    การทดสอบอันนั้น มันยังไง ๆ ชอบกลอยู่นะครับ

    +++ นั่นนะซีครับ การทดสอบนี้เป็นการทดสอบที่ "พุ่งตรงไปที่ อัตตาจิต แบบตรง ๆ" และเป็น "เรื่องเฉพาะ" ของผู้ที่ค้นหา "อัตตาจิต" ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น
    +++ ตรงนี้เป็นการทดสอบ "เฉพาะกิจ" เท่านั้น และไม่ว่าใครก็ตามที่ "ลงมือทำ" ก็จะปรากฏผลเหมือนกันหมด

    ถ้าประสงค์ให้เป็นอุบายธรรมทดสอบบางอย่างก็ดีไป

    +++ ตรงนี้ "ไม่ใช่อุบายธรรม" แต่อย่างไรทั้งสิ้น มันเป็นการ "ปฏิบัติ ที่ต้องลงมือทำ" โดยการ "จิ้มตรง ๆ" เข้ามาที่ "ตน" แล้วสภาวะที่เรียกว่า "ตน" จะแสดงตัวออกมาเองเพราะ "โดนจิ้ม" แล้วจะได้รู้จักว่า "อาการที่เรียกว่า ตน นั้นเป็นอย่างไรกันแน่"

    แต่ถ้าเป็นความเข้าใจว่าต้องเป็นอย่างนั้นจริง ๆ อันนี้ผมว่า..ยังไม่ตรงทางครับ

    +++ อะไรคือ "ไม่ตรงทาง" ของคุณ และถ้าคุณแน่ใจว่ามีวิธีทดสอบ "อาการที่เรียกว่า ตน" แบบง่าย ๆ และรวดเร็วกว่านี้ ก็ช่วยโพสท์ "วิธีการของคุณ" มาให้เป็นประโยชน์ด้วย เพราะคำว่า "ไม่ตรงทาง" โดยที่ไม่ได้ "บอกทาง" อะไรมาเลยนั้น ถือว่า "ไม่มีประโยขน์อะไรเลย" นะครับ

    +++ ผมบอกได้เลยว่า วิธีนี้ "ตรงทาง" อย่างยิ่งในการ "จิ้ม" ความเป็น "ตน" ให้ปรากฏออกมา โดยไม่ต้องไป "เสียเวลาคิด" ว่าอะไรคือ "ตน" อีกต่อไป

    +++ วิธีทดสอบนี้ "ไม่เหมาะกับบุคคลทั่วไป" วิธีทดสอบนี้ เหมาะสำหรับบุคคลที่ "พร้อมแล้ว" ในการแสวงหา "ตน หรือ อัตตาจิต" รวมทั้งบุคคลที่คิดว่าตัวเอง "พ้นจาก สักกายะทิฐิ" แล้ว เพราะ "ทิฐิแห่งกาย" โดน "จิ้มจนปรากฏออกมา" นั่นเอง

    +++ คุณ Tboon ควรอ่านให้รอบคอบเสียก่อน ก่อนที่จะใช้คำว่า "ไม่ตรงทาง" เพราะโพสท์นี้เป็น โพสท์เฉพาะกรณี และไม่ใช่แนวทางโดยทั่วไป นะครับ
     
  17. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อาการมันปรากฏครับคุณธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับกำลังภาพที่สร้างด้วย
    หากภาพชัดความรู้สึกขณะนั้นมันก็ปัดออกแน่นอน หากบางๆจะแค่เสียวๆ มันจะมีอาการฝืนอยู่ด้วย
    ผมมองที่กำลังจิตมากกว่าเรื่องอัตตาครับ
     
  18. GipBall

    GipBall เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +182
    ใช่หรืองงนะ มั่วหรือเปล่า

    อัตตาจิต ก็ไปโดนเขาด่าซะสิ ไอ้สัตว์ หรือดูหนังโป้ก็ได้จะเห็นชัด ชักว่าวก็ได้ โครตชัดเลย

    ส่วนรู้ตัวดูก็งงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเนอะ ตัวรู้ไม่ใมช่จิตว่างหรือ จิตที่ไร้ความคิด แต่ยังทำงานได้อะไรได้ แต่ไม่มีความคิดเท่านั้น

    หรือก็เข้าฌาน4ซะ ก็จะเห็นตัวรู้แล้ว

    ก็จิตว่างนั่นเองคือตัวรู้ แต่คนพูดเนี่ยทำฌาน4ไม่ได้หรอกนะ
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ไม่ตรงทาง เำพราะเห็นว่า การวัดด้วยวิธีนี้
    ยังกรองความเก่งกล้าสามารถไม่ออก
    ยังปล่อยให้ตัวนี้หลุดรอดออกไปได้ โดยไม่ได้ให้ความสำคัญเลย
    หรืออาจเป็นเพราะ
    ยังอ่านอาการของการมีสักกายทิฏฐิไม่ขาดนั่นเอง

    ทีนี้ถ้าอยากจะทดสอบกันจริง ๆ แล้ว ก็ไม่มีอะไรยากนัก

    "ดูที่ความหวั่นไหว" ก็ได้

    คือยังหวั่นไหวเรื่องใดก็อันนั้นแหละครับ ยังมีความไม่รู้ซ่อนอยู่
    เช่น หวั่นไหวไปว่า เราได้จริงถึงแท้แล้วหรือไม่ ใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริงหนอ
    อันนี้ก็เป็นสัญญาณบอกให้รู้ได้เลยว่า ยัง เพราะยังมีวิจิกิจฉาอยู่นั่นเอง
    ซึ่งสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเองอยู่ตลอดเวลา หรือ
    ครูบาอาจารย์เองก็สามารถใช้ตรวจสอบความเข้าใจของศิษย์ได้
    ทีนี้มันอยู่ที่ผู้ถูกตรวจสอบเอง จะว่าอย่างไร จะยอมรับความจริงได้หรือไม่ เท่านั้นเอง
    ยังไม่ต้องถึงกับข้ามไปสร้างมายาทางจิตอะไรขึ้นมาทดสอบก็ได้ครับ
     
  20. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ถูกต้องแล้วครับ การปัดออก ก็คือการ "รักษาอัตตา" หรือ "ตัวกูของกู" เอาไว้นั่นเอง และความพยายามปัดออกก็คือ "ความพยายามของ อัตตาจิต" เมื่อสังเกตุตรงนี้ออก ไม่นานก็ย่อมหา "อัตตาจิต" หรือสิ่งที่เรียกกันว่า "ความเป็นตัวตน" ได้เจอ และเมื่อเจอแล้ว ไม่นานย่อมเข้าใจในเรื่องของ "กาย" ได้ละเอียดยิ่งขึ้น

    +++ ส่วนเรื่องของ กำลังจิต นี้ก็เช่นกัน มันถูกสร้างมาจากตัว อัตตาจิต นั่นเอง ดังนั้นหากเข้าใจ สภาวะนี้ได้ละเอียดแล้ว ก็จะเข้าใจในกระบวนการสร้างกำลังจิตไปในตัวด้วยพร้อม ๆ กัน นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...