บริษัทรับอาสาสมัครปีละ2หมื่นคนไปอยู่ดาวอังคาร ไปแล้วไปเลยไม่มีขากลับ

แก้ข่าวมีหลายประเทศให้สมัครไป คือ พี่ดิฉันเขาไปอยู่ที่ญี่ปุ่นและบริษัทที่เขาทำงานนี้รับสมัครคนไปสร้างอาณาจักรอยู่ที่ดาวอังคาร แต่ทริปนี้ไปแล้วไปเลย ไม่มีขากลับ


ภาวะโลกร้อนแผ่อานุภาพไปทั่วโลก ดูเหมือนว่า จะเป็นปัญหาที่ยากจะเยียวยา อาจตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุสว่าโลกจะแตก แต่ทางวิทยาศาสตร์บอกว่า ไม่ได้หมายความว่าแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ จะพัง เพราะน้ำท่วม แผ่นดินไหว อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้มนุษย์อยู่อย่างลำบาก ประกอบกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน จำนวนผู้บริโภคมากขึ้นทำให้โลกยิ่งร้อน ซึ่งมีคนคิดถึงทางออกของปัญหานี้ไว้แล้ว

ขณะนี้ องค์การการนาซา มีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ โดยเลือกพื้นที่ดาวอังคาร เพราะมีสภาพเหมือนกับโลก ขณะที่ดาวดวงอื่นเต็มไปด้วยอากาศพิษ ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไป ดาวพฤหัสฯ มีสภาพเป็นกรด ดาวอังคารแม้อากาศหนาวและมีสภาพไร้น้ำหนัก แต่มนุษย์อยู่ได้ด้วยการไปสร้างเมืองกระจกทำให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนกับอยู่บนโลกได้ เพราะสภาพไร้น้ำหนักทำให้กระดูกเราอ่อนไม่แข็ง กล้ามเนื้อจะหายไป ในเบื้องต้นจะส่งคนออกไปสร้างอุตสาหกรรมในอวกาศก่อน ใช้วัตถุดิบจากดวงจันทร์ของดาวอังคาร ซึ่งมีอยู่ 2 ดวง จะมีสะสารทุกอย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ยิปซัม แร่ธาตุต่างๆ และการขนย้ายแร่ธาตุเหล่านี้จะเป็นไปโดยง่ายบนสภาพไร้น้ำหนัก ขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์เจอน้ำบนดวงจันทร์เยอะมาก นาซ่าจะสร้างฐานบนดวงจันทร์เป็นจุดเติมพลังงาน เอาน้ำที่อยู่บนดวงจันทร์มาใช้ พลังงานแสงอาทิตย์แยกออกซิเจน เป็นพลังงานไฮโดรเจน ใช้พลังงานนี้ในการขับเคลื่อนกับยานต่างๆ ทำให้การเดินทางบนอวกาศเป็นเรื่องธรรมดาโดยไม่ต้องใช้น้ำมันอีกต่อไป องค์การนาซ่าวางแผนไว้ว่ามนุษย์ครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องอพยพไปอยู่บนดาวอังคารในอนาคต อาจไปไม่หมด เพราะโลกวิกฤติมนุษย์อยู่ลำบากขึ้น. การออกแบบสร้างเมืองจะแบ่งเป็นเมืองขนาดเล็กหลายเมือง ในเมืองจะมีคนอยู่ 2 แสนคน เป็นเมืองในอวกาศโดยสร้างระบบให้มีน้ำหนัก สามารถเดินไปมา ไม่ใช่ลอยไปมา ส่วนการเดินทางในอวกาศจะสร้างเรือใบรับรังสีพลาสม่า เพื่อให้พาหนะนี้เคลื่อนไปในอวกาศได้ การดำรงชีวิตในอวกาศไม่ต้องใช้น้ำมันจะใช้แสงแดดแทน เพราะมีอยู่เหลือเฟือ โดยจะสร้างแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่มาก รับรองไม่หล่นลงมาบนพื้นโลก เพราะในอากาศมีสภาพไร้น้ำหนัก สามารถรับแสงแดดได้ตลอดเวลาอีกทั้งไม่มีเมฆมาบดบัง
องค์การนาซาได้วางแผนไว้ว่าในปี ค.ศ. 2020 มนุษย์จะลงไปบนดาวอังคารเป็นครั้งแรก เพื่อจะเริ่มไปเยี่ยมไปศึกษา เก็บข้อมูลเเละอยู่ที่นั่นสักพักว่าจะอยู่กันได้สะดวกสบายแค่ไหน หลังจากนั้นจะเริ่มเอาคนไปอยู่ทุก2 ปี 80000 คน สร้างตึกสร้างเมือง ตอนแรกจะมีเรือนกระจกแบบกลมๆ คนสามารถเข้าไปอยู่ในนั้นปลูกผักปลูกข้าว

ต้นไม้บนดาวอังคารจะโตเร็วกว่าบนโลกของเรามาก ที่โตเร็วเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะ ต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะเดียวกันเราไม่ต้องขนออกซิเจนไป ปลูกต้นไม้ก็คายออกซิเจนให้กับมนุษย์ได้

เมื่อผู้คนอพยพมามากขึ้น อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น ปกติบนดาวอังคารอุณหภูมิตอนนี้ติดลบ เมื่อมนุษย์อยู่มีเครื่องไม้เครื่องมือก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้น แต่ตรงนั้นไม่ต้องห่วง เพราะอุณหภูมิต่ำอยู่แล้ว อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส มนุษย์เข้าไปอยู่ได้อีกเยอะ และยิ่งอยู่เยอะยิ่งดีทำให้อากาศร้อนขึ้นร้อนขึ้น

ที่สุดแล้วเด็กในวันนี้จะเดินทางไปทำงานที่อวกาศแทนที่จะเดินทางไปตะวันออกกลาง เกาหลี ญี่ปุ่น การเดินทางไปดาวอังคารจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ

ระยะทางจากโลกไปดาวอังคารไม่แน่นอน บางครั้งอยู่ใกล้กัน บางครั้งไกลออกไป ตอนที่ดร อาจองชุมสายไปช่วยเขาส่งยานอวกาศลงบนดาวอังคารใช้เวลา 11 เดือน แต่ระยะเวลาที่ใกล้สุดระหว่างดาวอังคารกับโลกคือ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับจังหวะว่าโลกจะหมุนเข้าใกล้ดาวอังคารช่วงไหนของปี


"เราต้องมองการณ์ไกลเริ่มคิดได้แล้วว่า ประเทศอื่นส่งคนขึ้นไปบนอวกาศแล้ว ของเรายังไม่มีคนไทยขึ้นไปสักคน ไม่ใช่ว่าเราต้องสร้างเอง แต่เราไปร่วมมือกับเขาให้ส่งคนของเราขึ้นไปบ้าง เพื่อที่เราจะได้มีประสบการณ์ได้เรียนรู้ ตอนนี้ญี่ปุ่น เริ่มส่งคนเป็นอาสาสมัครขึ้นไป. มีทั้งจีน. เกาหลี มาเลเซีย อินเดีย คนตะวันออกกลาง คนไทยยังไม่มีใครสมัครไป ดร.อาจองกล่าวทิ้งท้าย



ความหวังที่มนุษย์จะไปอยู่บนโลกใบใหม่ใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว



edit - ไม่รู้ว่ามีคนไทยสนใจจะไปอยู่ดาวอังคารกันบ้างไหมหนอ แต่เขายังต้องออกสำรวจเรื่อยๆ พอไปถึง และหน่วยปฏิบัติการทางภาคพื้นโลกจะคอยส่ง เสบียง และวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นไปให้เรื่อยๆ


ใครสนใจคริป ยูเอฟโอ พี่เราถ่ายได้ เชิญลิงค์นี้คะ


http://palungjit.org/threads/ยูเอฟโอ.520467/

 

รอให้ผู้คนบนโลกย้ายไปดาวอังคารกันให้หมด วันนั้นแหลอะจะเป็นวันที่ผมจะครองโลกเอาไว้เป็นของผมคนเดียว หึๆๆ ฮ่าๆๆ[ความคิดชั่วร้ายแผ่รัศมี] ความจริงแล้วผมขออยู่ในโลกและตายในโลกนี้เท่าที่มีชีวิตอยู่ เอาไว้ตายก่อนแล้วไปอยู่โลกอื่นในชาติหน้าดีกว่า

 

I do not want to go to dao-ung-karn, I AM GOING TO NIRVANA .(when?) SATHU.

 

ทำราวกับว่ามนุษย์จะมีชีวิตยืนยาวเป็นพัน เป็นหมื่นปียาวแค่ไหนเฉลี่ยแล้วก็ไม่เกินร้อยปีทำไมต้องขวนขวายไปอยู่ดาวดวงอื่น สู่อยู่บนโลก แล้ว ปฏิบัติธรรมะ ของพระพุทธเจ้า( ปฏิบัติจริงๆตามคำสอนของพระพุทธองค์) ก็ไม่ต้องกับมาสู่โลกนี้หรือโลกไหนๆอีก

 

ขอดูเอกสารรับสมัครที่ญี่ปุ่นด้วยได้ไหมครับ

 

ญี่ปุ่นส่งไปแล้ว เนเธอร์แลนด์จะส่งไปชุดแรกปี 2020 คะ แก้ข่าวส่งไป ปีละ 2 หมื่นคน สมัครได้ในประเทศที่มีเครือบริษัท เช่นโซน ยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และญี่ปุ่น มาเลย์ ฯลฯ เดี๋ยวไปถามพี่มาให้คะ ปีนี้ครบแล้วต้องรอปีหน้า

 

ถ้าจริงนี่เรื่องใหญ่นะครับเนี่ย
mission to mar ชัดๆเลย ชอบจัง

 

Mars One โครงการอันนี้อยู่ที่ เนเธอร์แลนด์ คะ

ดิฉันเอาข้อมูลมาให้เพิ่มสำหรับคนที่สนใจ โครงการชื่อ มาร์ส วัน Mars One
ต้องอึดจริงๆ นะคะถึงไปได้ จะมีการตรวจสุขภาพจิตและสุขภาพ
ก่อนออกเดินทางโครงการออกค่าใช้จ่ายฟรีหมด ใช้เวลาอยู่ในยานอย่างเดียวสาม
เดือนจึงจะถึงดาวอังคาร พอไปถึงจะมี ที่อยู่ให้อยู่ในร่ม แบบหนังเรื่อง
Oblivion จะมีหน้าที่งานให้ทำทุกคน และสามารถจับจองที่ดิน
ของตัวเองได้ เหมือนอเมลิกายุคบุกเบิก

ดาวอังคารจะมีพระจันทร์โคจรรอบตัวเอง ใกล้สามารถไปขุดเจาะ
เอาทรัพยากรมาได้ง่ายและเยอะกว่าโลก ที่ไปขาเดียว
ไม่มีขากลับเพราะเชื้อเพลงไม่เพียงพอ และไม่มีฐานจอดยานที่
นั้นต้องไปสร้างเอาเองกันใหม่หมดในยุคแรก


Home - Mars One

 

สนใจรายละเอียดสมัครเป็น แอสโตรเน้าท์ ไปดาวอังคารกดอ่านลิงค์นี้


What are the qualifications to apply? - Mars One

 

เมื่อ 31 สิงหา 2013 ปิดรับสมัครของปีนี้ไปแล้วเมื่อชุดต่อไปสมัคร ออนไลน์ได้ จะเปิดรับอีกทีปีหน้า
ให้คอยตามข่าวจากเวปไซต์หน้านี้

Can I apply to become an astronaut? - Mars One

 

อันนี้ความคิดส่วนตัวนะ .. หากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ดาวอังคารเลย
ผมว่าอาศัยอยู่ในทะเลทรายยังง่ายกว่ามาก ก็ซื้อที่เค้ามาเลยก็ได้ถ้ารักจะ
พจญภัยแบบนั้น

ส่วนการไปดาวอังคารผมมองเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ
อีกอย่างดาวอังคารก็ใหญ่กว่าโลก
หากบนนัั้นหาพลังงานเชื้อเพลิงได้ที่มาใช้ขับเคลื่อนยาน
อวกาศได้ คงมันส์แน่ ระยะเวลาเดินทางหลักเดือนไม่นาน
เกินรอ และต่อไปคงได้เห็นเครื่องจักรทำงานส่วนใหญ่

ว่าแต่ใต้ดินคงไม่น่ามีน้ำมันนะ เพราะคงไม่มีซากฟอสซิล
โบราณให้แปลงเป็นน้ำมัน .. แต่มันควรจะเป็นอะไร?

 

หาน้ำให้ได้ก่อนเลยค่อยไปหาอย่างอื่นครับ

 

ขอบคุณครับที่บอกเรื่องราวดีๆ

 

อันนี้ดิฉันไม่ทราบจริงนะคะว่าใต้ดินมีอะไรแต่ เห็นพี่กับหลาย
คนทั้งพวกที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ อย่าง อ. เทพนม เมืองแมน
บอกว่า มี สิ่งมีชีวิตต่างดาวอาศัยอยู่ใต้ดินคะ
ส่วนพื้นที่ที่เห็นแห้งแล้งนั้น เขาจะปรับสภาพใหม่
เอาต้นไม้เข้าไปปลูก ทำโอโซน และสร้างน้ำ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=sy0c-EfRhOA]The Mars Underground City [Full Documentary] - YouTube[/ame]

 

นาซาจำลองภาพดาวอังคาร 4 พันล้านปีก่อน มีน้ำเหมือนโลกเป๊ะ




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Venice Stothard สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 เว็บไซต์เดอะมิร์เรอร์ เปิดเผยคลิปวิดีโอจำลองภาพบรรยากาศบนดาวอังคารเมื่อประมาณ 4 พันล้านปีก่อน มีแหล่งน้ำและลักษณะพื้นผิวคล้ายโลก ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนสภาพเป็นอย่างปัจจุบัน

โดยคลิปวิดีโอดังกล่าว เผยให้เห็นภาพดาวอังคารเมื่อประมาณ 4 พันล้านปีก่อน ในช่วงเวลานั้นดาวอังคารยังคงมีชั้นบรรยากาศที่หนา อุณหภูมิบนดาวอบอุ่นพอที่น้ำอยู่ในสภาพของเหลว ส่งผลให้บนดาวมีแหล่งน้ำ พื้นผิวดาวก็มีลักษณะเป็นเนินเขาและหน้าผาอย่างที่เห็น

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ต่างเผยแพร่การค้นพบร่องรอยน้ำบนดาวอังคารออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการค้นพบดังกล่าวก็มาจากการส่งยานไปสำรวจดาวอังคารนั่นเอง ทำให้เชื่อว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารมีน้ำบนดาวแน่ ๆ แต่ถึงกระนั้น นักวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจให้คำตอบได้ว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารเคยมีสิ่งมีชีวิตบนดาวหรือไม่ เพราะยานคิวริออสซิตี้ที่สำรวจดาวอังคารอย่างจริงจังตอนนี้ ก็ยังไม่พบร่องรอยสิ่งมีชีวิตแต่อย่างใด


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=_rMQYZ9MIqk]Mars: 4 billion years ago - YouTube[/ame]


source : นาซาจำลองภาพดาวอังคาร 4 พันล้านปีก่อน มีน้ำเหมือนโลกเป๊ะ

 

มี website จริงๆด้วย ตกใจหมดเลย
ในเว็บมีภาพน้อยไปนิด แต่รู้สึกว่าโครงการคิดกันมาตั้งแต่ 2012 แล้ว
ตื่นเต้นดีจัง

 

ดิฉันก็อยากไปเหมือนกัน อีกอย่างดิฉันอยู่ที่ฮอลแลนด์ เค้ามีบูทรับสมัครโดยตรง แต่เพราะยังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ ถ้าวันไหนหมดพวกท่าน ดิฉันก็จะไปดาวอังคารเหมือนกันคะ ประสบการณ์ผจญภัยของชีวิต อีกอย่างมันเหมือนการสตาร์ทสังคมใหม่ๆที่ไม่ยึดตามแบบแผนแบบเดิมๆที่มีแต่ผู้คนที่อยุติธรรมเห็นแก่ตัว และสร้างแต่สงคราม อีกอย่างการไปแบบนั้นจะมีงานทางวิทยาศาสตร์ให้ทำประจำวัน และออกสำรวจด้วย น่าสนุก

เดี๋ยวจะทยอยหาข้อมูลมาเรื่อยๆ

 

ผมเข้าใจว่าคนที่อยากผจญภัยคงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
เพราะการเดินทางนี้ไม่มีขากลับ ต้องละทิ้งทุกอย่างในโลก
ทั้งที่ดิน ครอบครัว เพื่อนสนิท แผ่นดินเกิด

สังคมในอุดมคติ

คิดว่าบางส่วนคงอยากไปมีประสบการณ์ในการริเริ่มก่อตั้ง
วัฒนธรรมใหม่ขึ้นมา ย้อนกลับไปสู่วันที่คนในสังคมทกคนเป็นคนดี
มีวินัย ทำเพื่อส่วนรวม เพราะเป็นกลุ่มคนที่ผ่านการตรวจสอบด้านจิตใจ
ในระดับหนึ่ง ลูกหลานที่เกิดมาก็จะเป็นคนดีเพราะอยู่ในสังคมที่มีแต่คนดี

เหตุแห่งความล่มสลาย

แต่เนื่องจากเป็นกลุ่มปิดที่มีจำนวนประชากรไม่มาก ก็เป็นเรื่องง่าย
ที่คนไม่ดีอาจตั้งกลุ่ม ทำตัวเป็นศาสเตี้ย เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
เกณฑ์คนที่มาใหม่ไปเป็นแรงงาน คอยรับใช้ บำเรอความสุขของตน

สังคมอาจจะพัฒนาไปด้านดีหรือไม่ดีก็ได้

 

ตามที่คุณ จันทร์เจ้าบอก มันน่ากลัวก็ตรงข้อความที่ อยู่ใน Quote เนี้ยะแหละ

ผมเห็นทีแรก ชอบเลย ใช่เลย!!! ไม่ยั้งคิด จิตมันก็นึกอยากจะไปทันที แต่ไม่มีขากลับนี่สิ คิดอีกที ก็โอ้ว...เสี่ยงสูงมากๆ เหมือนกับไปเป็นหนูทดลองรุ่นแรกๆ

 

ถ้าดูรายละเอียดผู้ที่สามารถสมัครไปได้ต้อง ไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ คะ และระยะแรกก็คงแบบตอนมะกันบุกเบิกประเทศนะคะ ยังไม่มีอะไรเลย แล้วฐานจอดยานรวมทั้งยานก็ใช้เวลาสร้างกันเอาใหม่ที่นั้นจึงจะเดินทางไปมาหาสู่กับโลกได้คะ และ ทางโลกเองก็จะส่งอุปกรณ์ก่อสร้าง วิทยาศาสตร์ ซับพลายต่างๆไปให้ทุกปีด้วย

ซึ่งเขาแปลนกันว่าจะเอาน้ำ เอาอากาศ กะพืชไปลง และปรับเปลี่ยนภูมิประเทศใหม่หมดคะ ที่นักวิทย์เขาเลือกดาวนี้เพราะเห็นว่ามันสามารถปรับได้เพราะหลายล้านๆๆปีก่อนมันเคยเหมือนโลกนะคะ