จัดงานมหากุศลบูชา พระบรมสารีริกธาตุ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 4 ธันวาคม 2007.

  1. marcbangkok

    marcbangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,098
    พระบรมสารีริกธาตุและสถานที่ที่ประดิษฐาน

    สถานที่ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่าง ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pradhat-big.jpg
      pradhat-big.jpg
      ขนาดไฟล์:
      883.4 KB
      เปิดดู:
      295
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  2. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    อนุโมทนาบุญด้วยคนขอรับ จากศิษเก่าแม่โจ้ รุ่น 62 ขอรับกระผม ขอน้อบน้อมด้วยใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  3. dharma

    dharma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +984
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ

    คำกล่าวบูชาพระบรมสารีริกธาตุ

    อะหัง วันทามิ ทูระโต
    อะหัง วันทามิ ธาตุโย
    อะหัง วันทามิ สัพพะโส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2007
  4. จาริกบุญ

    จาริกบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +228
    ขออนุโมทนาบุญด้วยใจอย่างยิ่ง

    ดีใจที่ได้เกิดเป็นมนุษย์
    ดีใจที่ได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนา
    ดีใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย
    และดีใจที่ได้สักการะพระบรมสาริกธาตุ
     
  5. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,036
    อะหัง วันทามิ ทูระโต
    อะหัง วันทามิ ธาตุโย
    อะหัง วันทามิ สัพพะโส

    ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  6. suntirut

    suntirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +909
    อานิสงค์ของการกราบไหว้ และชักชวนผู้อื่นกราบไหว้พระบรมธาตุสูงนัก อนุโมทนาสาธุ
     
  7. เงาใจ

    เงาใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,214
    การบูชาสักการะพระธาตุ ของ พระพุทธเจ้า เป็น สิริมงคลแก่ ตน อันยอดเยี่ยมครับ และขอฝาก การสักการะ อีก แห่งหนึ่ง ที่ คนไทยไม่ควรลืม ที่ ธาตุพนม จ.นครพนม พระมหากัสสะปะ เถระ ได้นำ อุรังคะธาตุมาประดิษย์สถาน บันทึกในศิราจารึก พ.ศ. ๘ หลังจากพระพุทธองค์ ปรินิพพาน ก่อน เนรมิตร ไฟ ขึ้นเองเป็น สิ่งน่าอัศจรรย์ มาก ขออัญเชิญ ภาพอุรังคะธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก)
    เป็นที่สักการะของคนไทย นับ พันๆปี ครับ หลัฐาน มีไว้ชัดเจน และตำนานมีใหศึกษา ครับ

    ขอฝากเว็บเผยแผ่ พระพุทธศาสนา พึ่งเสร็จ ครับยังไมสมบูรณ์ ขอการแนะนำด้วยครับ และรับปรึกษาปัญหาชีวิต ครับ

    http://udompon.siam108site.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • rtu (17).jpg
      rtu (17).jpg
      ขนาดไฟล์:
      17 KB
      เปิดดู:
      234
    • rtu (15).jpg
      rtu (15).jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.6 KB
      เปิดดู:
      162
    • rtu (6).jpg
      rtu (6).jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.9 KB
      เปิดดู:
      2,457
    • rtu (14).jpg
      rtu (14).jpg
      ขนาดไฟล์:
      5 KB
      เปิดดู:
      128
  8. K_Jit

    K_Jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +1,755
    ถ้าพลาดงานนี้แล้ว จะสักการะบูชาได้ที่ไหนบ้าง ในกทม.
     
  9. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    ต้องไปให้ได้
     
  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มหาพุทธบูชา พระบรมสารีริกธาตุ ครบองค์สรีระ ครั้งแรกของโลก

    คำทำนายจากโหราจารย์ก็ดี โหรหลวงก็ดี ที่ออกมาค่อนข้างเป็นในทางเดียวกันว่า สถานการณ์บ้านเมืองไทยในปีหน้า 2551 จะเกิดวิกฤตในด้านต่างๆ มากกว่าที่เป็นอยู่

    คำทำนายนี้ทำให้หลายองค์กร หลายหน่วยงาน คิดแก้ไขผ่อนหนักให้เป็นเบา สร้างความสมานฉันท์สามัคคีเพื่อหาทางดับเหตุร้ายตามคำทำนายที่มี

    กรมพัฒนาชุมชน, การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ไทยเบฟเวอเรจ, การบินไทย, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธ.ก.ส. ฯลฯ ก็เช่นกัน ได้ร่วมจัดงาน "มหาพุทธบูชาพระบรมสารีริกธาตุโลก" หรือ World Buddha Relics Expo ขึ้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่ครบองค์สรีระที่สุดขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอัครสาวก

    โดยมี "อาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท" อาจารย์ชื่อดังด้านฮวงจุ้ย ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพุทธประวัติ เคยเดินทางไปศึกษาหาความรู้จากประเทศทิเบต จีน อินเดีย พม่า มอญ เขมร รวมถึงเรื่องราวของพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุมาเกือบ 50 ปี ในฐานะที่ปรึกษาการจัดงาน เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุครั้งนี้มาจากประเทศทิเบตและอินเดีย รวม 100,000 องค์

    อาจารย์วรธนัท บอกเล่าถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งนี้ ว่า ประการที่หนึ่ง-เพราะเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงจัดงานนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ประการที่สอง-เนื่องจากปีหน้าสถานการณ์บ้านเมืองไม่ดีขึ้น จึงจัดงานเพื่อช่วยเหลือให้คนพ้นทุกข์พ้นร้อน

    "ในปีหน้า 2551 ที่จะมาถึงนี้ เป็นปีที่มีปัญหาและมีความยุ่งยากเกิดขึ้นอย่างรุนแรงกับคนทุกหมู่เหล่าไปตลอดทั้งปี เป็นการยากลำบากและทุกข์อย่างมากที่จะผ่านพ้นห้วงเวลานี้ไปได้ จึงหารือกับบรรดาครูบาอาจารย์ แก้ไขความทุกข์ยากที่จะเกิดขึ้นนี้ คือการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกออกมาให้ประชาชนกราบนมัสการ.." อาจารย์วรธนัทกล่าว

    พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติม ว่า "ปกติแล้วสิ่งที่ไม่ดีมันจะกระจายกันอยู่ตามทิศต่างๆ ในแต่ละปี จะกระจายใน 3-4 ทิศ แต่ปีหน้ามันจะรวมอยู่ 2 ทิศ คือ ทิศเหนือ กับ ทิศใต้ แล้วดาวที่ไม่ดีรองลงไปก็ยังไปอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไปครอบครองพื้นที่ของคนที่จะมาเป็นผู้ปกครอง เป็นดาวอิทธิพล หมายความว่าจะทะเลาะตีกัน และดาวที่ไม่ดีอีกตัวจะไปครอบครองพื้นที่ทิศตะวันตก ซึ่งหมายถึงบริวาร ลูกน้อง จะยุแหย่ ยุยง ให้เกิดการตีกัน..

    ..ฉะนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ประเทศก็เดือดร้อน และยังในด้านอื่นๆ อีก เช่นภัยธรรมชาติ ที่สำคัญที่สุดคือด้านการเงิน ปีหน้าจะแย่มาก..แล้วจะเป็นกันหมดทั่วโลก.."

    "การนำพระบรมสารีริกธาตุ-พระธาตุ ออกมาให้คนกราบไหว้บูชาจะเป็นการช่วยให้คนดีขึ้น ให้สถานการณ์ดีขึ้น เช่นเดียวกับที่เวลาเกิดทุกขภัยในครั้งพุทธกาล จะมีการอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสวดมนต์ นี่เป็นลักษณะเดียวกัน แต่ในทางฮวงจุ้ยถือว่านี่คือพลังยิ่งใหญ่.."

    ดังนั้น งาน "มหาพุทธบูชาพระบรมสารีริกธาตุโลก" จึงเป็นการจัดงานครั้งแรกของโลกที่ครบองค์สรีระที่สุดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและอัครสาวก

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยมีโอกาสกราบไหว้สักการะเป็นมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ต้อนรับปีหนู

    งานดังกล่าวจัดขึ้น 9 วัน ระหว่างวันที่ 15-23 ธันวาคม 2550 ที่ฮอลล์ 9 อิมแพค เมืองทองธานี ประชาชนทุกคนสามารถเข้าชมงาน และกราบไหว้ขอพรจากพระบรมสารีริกธาตุได้โดยไม่เสียค่าเข้าชม

    "พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุที่จะอัญเชิญมาครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเดินทางมาจากนานาประเทศ เพื่อนำมาประดิษฐานที่อิมแพค เมืองทองธานี นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลกที่มีการรวบรวมองค์สรีระส่วนต่างๆ ของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าใน 48 พระองค์ มาไว้ในที่เดียวกัน พระอรหันตธาตุที่นำมาเป็นของ อาทิ พระอัญญาโกณฑัญญะ พระนาคเสน พระสีวลี พระโมคัลลานะ พระอานนท์ พระสาลีบุตร พระปะคุละ เป็นต้น ซึ่งหาดูได้ยากที่สุดจริงๆ"

    ไม่เฉพาะแต่พระอรหันตธาตุ ของพระอัครสาวกและพระสาวกตามที่อาจารย์เล่าเท่านั้น ที่อัศจรรย์ยิ่งของงานนี้ยังเป็นความหลากหลายของพระบรมสารีริกธาตุองค์ต่างๆ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่อาจหาดูได้จากที่ไหนมาก่อน

    อาทิ พระบรมสารีริกธาตุส่วนสมอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น พระธาตุส่วนของแกนสมอง ซึ่งได้กลายสภาพคล้ายกับอัญมณี 8 สี (แดง ส้ม เหลือง เขียว/ชมพู ฟ้า คราม ม่วง ทอง)

    พระธาตุส่วนเนื้อสมอง ซึ่งจะกลายสภาพเป็นพระธาตุขนาดเล็กที่มีสีขาวเหลือบทอง คล้ายไข่มุก รวมถึงพระธาตุส่วนกะโหลกศีรษะ, พระธาตุหัวใจ-หลอดเลือดหัวใจ รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุพระโลหิต 6 สี (สีดำ แดง เขียว ส้ม เหลือง ขาว), พระธาตุส่วนน้ำเหลือง

    นอกจากนี้ ภายในงานยังมีองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ ที่ทำมาจากไม้กฤษณา ซึ่งเป็นไม้มงคลมีกลิ่นหอม อายุกว่า 2,000 ปี ให้กราบไหว้บูชาอีกด้วย

    ปฏิมา ตันติคมน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท กันตนา ออกาไนเซอร์ แอนด์ เมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า กิจกรรมภายในงานครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 โซน บนพื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม.

    ประกอบด้วยโซนที่ 1 เป็นลานโล่งออกแบบด้วยลวดลายวิจิตรพุทธโบราณ เป็นจุดต้อนรับ ที่เตรียมเครื่องสักการะบูชาไว้พร้อมสำหรับผู้เข้าชมงานที่ต้องการนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ

    โซนที่ 2 เป็นโซนนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้ชมสามารถเลือกค้นรายละเอียดข้อมูลของพระบรมสารีริกธาตุส่วนต่างๆ ได้ตามต้องการ

    โซนที่ 3 เป็นส่วนจัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุมากถึง 100,000 องค์ ในบรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปเมื่อสมัยพุทธกาล ณ เมืองกุสินารา ขึ้น15 ค่ำ เดือน 6 เวลาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน และทรงมีพระปณิธานจะละไว้ซึ่ง "สรีระ" เพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้บูชา และระลึกถึงพระพุทธคุณ รวมทั้งพระธรรม คำสั่งสอนของพระองค์อย่างใกล้ชิด

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    โซนที่ 4 เป็นโซนให้ความรู้เกี่ยวกับพุทธประวัติ และการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุไปยังที่ต่างๆ ของโลก ด้วยการแสดงแสง เสียง เลเซอร์ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยเฉพาะในวันที่ 15 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวันเปิดงานอย่างเป็นทางการ จะมีขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุอย่างยิ่งใหญ่เพื่อไปประดิษฐานในพิธี ณ อิมแพค เมืองทองธานี และพิธีฝ่ายสงฆ์ซึ่งจะนิมนต์พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ 809 รูป

    สำหรับเงินรายได้จากการร่วมทำบุญซื้อดอกไม้ ธูป เทียน ผ้าไตรจีวร ทั้งหมดจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ดังนั้น การที่ประชาชนชาวไทยมีโอกาสไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุระดับโลกในงานนี้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นมงคลข้อหนึ่งในมงคลสูตร 38 ประการ

    นับเป็นสิริมงคลในชีวิตยิ่ง



    พระบรมสารีริกธาตุ

    พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้านั้นเกิดจากการถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธองค์ ภายหลังที่ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน โดยพันผ้าและสำลีรอบพระสรีระ 500 ชั้น แล้วนำไปใส่ในรางเหล็กด้วยฝาครอบเหล็กอีกที แล้วอัญเชิญลงหีบทอง ขึ้นประดิษฐานบนพระจิตกาธานที่ทำจากไม้หอม แล้วถวายพระเพลิงพระสรีระนั้น จนพระสรีระได้กลายเป็นพระบรมสารีริกธาตุในที่สุด

    จากตำนานกล่าวว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นว่า พระองค์มีเวลาปฏิบัติพุทธกิจเพียง 45 ปี ซึ่งนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ศาสนาของพระองค์ยังไม่แพร่หลาย และหมู่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาไม่ทันสมัยพระองค์มีมากนัก

    หากได้อัฐธาตุของพระองค์ไปอุปัฏฐากบูชา จะได้บุญกุศลเป็นอันมาก จึงทรงอธิษฐานให้พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์ แตกย่อยออกเป็น 3 สัณฐาน ยกเว้นธาตุทั้ง 7 ประการ คือกระดูกหน้าผาก 1 พระเขี้ยวแก้ว 4 และพระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า) 2 นอกนั้นให้กระจายไปทั่วทุกสารทิศเพื่อยังประโยชน์แก่หมู่สัตว์โลก

    พระบรมสารีริกธาตุมีขนาดต่างๆ กัน 4 ขนาด ได้แก่ ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว, เมล็ดข้าวสาร, เมล็ดงา และเมล็ดพันธุ์ผักกาด

    พระบรมสารีริกธาตุสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1.พระบรมสารีริกธาตุที่มีลักษณะเป็นพระธาตุ มักพบในประเทศไทย ศรีลังกา พม่า ลาว จีน 2.พระบรมสารีริกธาตุที่ยังคงมีลักษณะคล้ายกับกระดูกคนทั่วไป พบเฉพาะแต่ในประเทศอินเดียเท่านั้น

    พระบรมสารีริกธาตุมีรูปร่างและสีสันต่างๆ กัน มองดูคล้ายอัญมณีขนาดเล็ก มีความมันแวววาว ถ้าเป็นขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารหัก หรือเมล็ดพันธุ์ผักกาด จะมีน้ำหนักเบามากและลอยน้ำได้ จะรวมตัวอยู่ด้วยกันแม้แต่เอาลอยน้ำก็จะเคลื่อนเข้ามารวมตัวกันในที่สุด

    ถ้าประดิษฐานเอาไว้ในที่ที่ไม่สมควร พระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จหนีหายไปที่อื่น หรือในทางกลับกันถ้าบุคคลใดมีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จมาเองได้ และเพิ่มจำนวนมากขึ้นได้ สามารถแสดงปาฏิหาริย์ต่างๆ ได้อย่างเป็นอัศจรรย์

    พระบรมสารีริกธาตุจะช่วยให้ผู้ครอบครองประสบกับความสุขความเจริญในทุกๆ ด้าน โดยทั่วไปถ้าผู้ครอบครองมีการดูแลปฏิบัติต่อพระบรมสารีริกธาตุอย่างถูกวิธี



    พระบรมสารีริกธาตุที่นำออกแสดงครั้งนี้

    1.ส่วนที่เป็นแกนสมอง หรือศูนย์จักกระ (ศูนย์แห่งพลัง) จะกลายสภาพไปเป็นลักษณะคล้ายก้อนอัญมณี มีทั้งหมด 8 สี

    คือ สีแดง เป็นตัวแทนของจักกระที่ 1 มีชื่อว่า "มูลธารจักกระ" สีส้ม เป็นตัวแทนของจักกระที่ 2 มีชื่อว่า "สวาธิษฐานจักกระ" สีเหลือง เป็นตัวแทนของจักกระที่ 3 มีชื่อว่า "มณีปุระจักกระ" สีเขียวหรือสีชมพู เป็นตัวแทนของจักกระที่ 4 มีชื่อว่า "อนาหะตะจักกระ" สีฟ้า เป็นตัวแทนของจักกระที่ 5 มีชื่อว่า "วิสุทธะจักกระ" สีคราม เป็นตัวแทนของจักกระที่ 6 มีชื่อว่า "อะจะนาจักกระ" สีม่วง เป็นตัวแทนของจักกระที่ 7 มีชื่อว่า "สหัสสะราจักกระ" สีทอง เป็นตัวแทนของจักกระที่มีพลังและความบริสุทธิ์เหนือกว่าจักกระที่ 7 ขึ้นไป

    2.ส่วนของเนื้อสมอง กลายสภาพเป็นพระธาตุขนาดเล็กมีสีขาวเหลือบทอง และมีความวาวคล้ายไข่มุก

    3.ส่วนของเนื้อสมอง กลายสภาพไปเป็นพระธาตุขนาดเล็กที่มีสีทอง

    4.พระบรมสารีริกธาตุส่วนแขนขา

    5.พระโลหิตทั้ง 5 มีสีดำ แดง เขียว ส้ม เหลือง และขาว

    6.ส่วนประกอบต่างๆ ของร่างกาย อาทิ น้ำเหลือง ส่วนผิวและเนื้อ ส่วนอกและกระดูกอ่อน ส่วนหัวใจ (เป็นส่วนของเส้นเลือดหัวใจ) และส่วนกะโหลกศีรษะ



    พระธาตุของอัครสาวก

    ได้แก่ พระธาตุพระสาลีบุตร อัครสาวกฝ่ายขวา ผู้เป็นเลิศด้วยปัญญา, พระธาตุโมคคัลลานะ อัครสาวกฝ่ายซ้าย ผู้เป็นเลิศด้วยฤทธิ์

    พระธาตุพระอานนท์ สาวกผู้เป็นเลิศในทางเป็นพหูสูต, พระธาตุพระสีวลี สาวกผู้เป็นเลิศด้วยลาภสักการะ, พระธาตุพระมหากัจจายนะ (พระสังกัจจายน์) สาวกผู้เป็นเลิศในการอธิบายธรรมได้อย่างพิสดาร

    พระธาตุพระอนุรุทธะ สาวกผู้เป็นเลิศทางตาทิพย์, พระธาตุพระราหุล สาวกผู้เป็นโอรสของพระพุทธเจ้า โดยเป็นผู้มีความว่านอนสอนง่าย มีความกตัญญู

    พระธาตุพระนาคเสน เป็นสาวกผู้ที่มีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎก มีวาทศิลป์ดีเลิศ, พระธาตุพระปะคุละ สาวกผู้เป็นฆราวาสมา 80 ปี ถึงได้เข้าอุปสมบท และบรรลุอรหันผลในวันแรกที่เข้าอุปสมบท และมีอายุยืนนานถึง 160 ปี โดยตลอดชีวิตไม่เคยเจ็บป่วยเลยแม้เพียงครั้งเดียว

    พระธาตุองคุลีมาล หนึ่งใน 80 สาวกของพระพุทธเจ้า ที่อดทนใช้วิบากกรรม ปฏิบัติธรรมอย่างไม่ลดละตราบจนบรรลุพระนิพพาน



    การสักการะนมัสการ

    หากได้เข้ากราบไหว้ 1 ครั้ง เป็นบุญและมงคล

    หากได้เข้ากราบไหว้ 2 ครั้ง ช่วยนำพาวาสนารุ่งเรือง

    หากได้เข้ากราบไหว้ 3 ครั้ง ก่อเกิดบารมีแผ่ไพศาล

    หากได้เข้ากราบไหว้ 5 ครั้ง ได้ดั่งใจปรารถนา

    หากได้เข้ากราบไหว้ 7 ครั้ง ผู้คิดร้ายเข้าไม่ถึงตัว

    หากได้เข้ากราบไหว้ 9 ครั้ง เป็นปิยะสิทธิ และสรรพสิทธิตลอดไป


    [FONT=Tahoma,]หน้า 33[/FONT]


    วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10870
    http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra01141250&day=2007-12-14&sectionid=0131
     
  11. ศุฤษ

    ศุฤษ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอสันติสุขจงมีแก่พวกท่านทั้งหลาย..
     
  12. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    ขออนุโทนากับคณะผู้ดำเนินงานและผู้ร่วมประชาสัมพันธ์ทุกท่านครับ ไว้มีโอกาสจะนำภาพสวย ๆ มาฝากกันครับ
     
  13. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ขอโมทนาบุญกับผู้จัดงานและผู้ที่ไปร่วมงานบุญในครั้งนี้ทุกๆ ท่านครับ...
    สาธุ...สาธุ...สาธุ...
     
  14. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    วันอังคารนี้แล้ว ... เหอะๆ ๆ ๆ ๆ


    จะพาคุณแม่ไป แล้ว ดีใจ สุดๆ
     
  15. porapatr

    porapatr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,282
    อนุโมทนาด้วยค่ะ ฟังข่าวเมื่อเช้ามึดนี้ค่ะ แค่ตัวอย่างในข่าวก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ คิดถึงคนที่เรารักขึ้นมาทันที อยากให้พวกเค้าได้เข้าไปกราบไหว้ด้วย
     
  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle height=10>
    "กีต้าร์"ชวนไหว้พระสารีริกธาตุ[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>[​IMG]

    </TD></TR><TR><TD align=middle height=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>
    นับเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้กราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งครบองค์ที่สุดของโลกที่ได้มีการรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวก มาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวม 8,800 องค์ ในงาน "มหาพุทธบูชาพระบรมสารีริกธาตุโลก" ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-23 ธ.ค.นี้ ณ ฮอลล์ 9 อิมแพค เมืองทองธานี โดยนักแสดงสาว "กีต้าร์-ศิริพิชญ์ กฤษณะเศรณี" กล่าวเชิญชวนว่า

    "ต้าร์รู้สึกตื่นเต้นมากเลยค่ะ เพราะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุมานานแล้ว แต่เพิ่งจะได้มีโอกาสมาเห็นกับตาอย่างใกล้ชิดจริงๆ โดยเฉพาะยิ่งทราบมาว่าพระบรมสารีริกธาตุจะสามารถเพิ่มและลดจำนวนเองได้ ขึ้นอยู่กับผู้ที่นำไปบูชาก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความอัศจรรย์จริงๆ ค่ะ ซึ่งต้าร์คิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นมงคลอย่างยิ่งของคนไทย ที่จะได้มีโอกาสกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุครั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องคนไทยเข้ามากราบไหว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคลของชีวิตต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ เพราะถ้าผู้ใดได้กราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุครบ 9 วัน ก็จะยิ่งเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตจริงๆ ค่ะ ยังไงพบกันที่งานนะคะ" กีต้าร์กล่าว
    </TD></TR><TR><TD height=10>
    </TD></TR><TR><TD align=right>
    วันที่ 17/12/2007
    http://www.naewna.com/news.asp?ID=87092

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  17. kittitpx

    kittitpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    570
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,000
    เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ได้ไปมาแล้วประทับใจมาก ถือเป็นกุศลใหญ่ในชีวิต
     
  18. dharma

    dharma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +984
    เมื่อวันที่ 16-12-2550 ผมได้มีโอกาสไปสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุมาแล้ว
    รู้สึกเป็นบุญวาสนาและปีติยินดีอย่างสูงในอานิสงส์ครั้งนี้
    จึงขอเชิญทุกท่านถ้ามีโอกาสก็ไปร่วมในงานบุญนี้นะครับ


    อานิสงส์ของการบูชาพระธาตุ

    อานิสงส์ของการได้มีพระธาตุไว้บูชา

    [​IMG]





    <O:pพระมหากัจจายนะได้ขึ้นไปบนสวรรค์ และสนทนากับสุชาตเทพบุตร ถึงเหตุที่ได้มาเสวยสุข ณ ที่แห่งนี้ว่า "...ท่านยืนอยู่บนรถทองดูองอาจ ดุจท้าวสักกเทวราชผู้เป็นใหญ่กว่าหมู่ทวยเทพ ผู้ทรงราชรถอันเทียมด้วยม้าอาชาไนยตั้งพัน ฉะนั้น อาตมภาพขอถามท่านผู้มียศ ผู้ฉลาด รถอันยิ่งใหญ่นี้ ท่านได้มาอย่างไร?สุชาตเทพบุตรตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ชาติก่อน ข้าพเจ้าเป็นราชบุตรนามว่า สุชาตกุมารพระคุณเจ้าอนุเคราะห์สั่งสอนข้าพเจ้าให้ตั้งอยู่ในความสำรวม และ พระคุณเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะสิ้นอายุได้ให้พระบรมสารีริกธาตุแก่ข้าพเจ้า โดยกล่าวว่า ดูกรสุชาตราชกุมาร ท่านจงบูชาพระบรมสารีริกธาตุนี้เถิด พระบรมสารีริกธาตุนี้ จักเป็นประโยชน์แก่ท่าน ข้าพเจ้าได้บูชาพระบรม สารีริกธาตุนั้น ด้วยของหอมและพวงมาลัย ขวนขวายในการทำบุญให้ทาน ละร่างมนุษย์นั้นแล้ว ได้ไปบังเกิดในสวนนันทวัน เดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้ามีหมู่นางเทพอัปสรฟ้อนรำ ขับร้องห้อมล้อม รื่นเริงอยู่ในสวน นันทวันอันประเสริฐ น่ารื่นรมย์ เกลื่อนกล่นไปด้วยหมู่สกุณชาตินานาชนิด.






    บูชาพระธาตุแล้วได้วิมานบนสวรรค์

    [​IMG]

    พระวังคีสะเถระเจ้าได้ขึ้นไปบนสวรรค์ และสอบถามเทพธิดาถึงเหตุอันได้มาซึ่งวิมานนี้ของนาง เทพธิดาตอบว่า..." ก็วิมานที่ดิฉันได้แล้วนี้ มีฝูงหงส์ นกกระเรียน ไก่ฟ้า นกกดและนกเขาไฟ เที่ยวร่อนร้องไปมา ทั้งเต็มไปด้วยหมู่นกนางนวล นกกะทุง และพญาหงส์ทอง ซึ่งเป็นนกทิพย์ เที่ยวบินไปมาอยู่ตามลำน้ำ และอึงคนึงไปด้วยฝูงนกประเภทอื่นๆ อีก คือ นกเป็ดน้ำ นกค้อนหอย นกดุเหว่าลาย นกดุเหว่าขาว มีทั้งต้นไม้ดอก ไม้ต้น ไม้ผล อันเกิดเองหลายอย่างต่างพรรณคือ ต้นแคฝอย ต้นหว้า ต้นอโศก พระคุณเจ้าขา ดิฉันได้วิมานเหตุนี้ด้วยเหตุผลอันใด ดิฉันจะเล่าเหตุผลอันนั้นถวายพระคุณเจ้านิมนต์ฟังเถิด คือ มีหมู่บ้านหมู่หนึ่งชื่อนาฬกคาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระนครราชคฤห์ ดิฉันเป็นบุตรสะใภ้ประจำตระกูลของบ้านนั้นอันตั้งอยู่ภายในบุรี ชุมนุมในหมู่บ้านนั้นเรียกดิฉันว่าเสสวดี ดิฉันมีใจชื่นบาน ได้ก่อสร้างกุศลกรรมไว้ในชาตินั้น คือ ได้บูชาพระธาตุพระธรรมเสนาบดี นามว่า อุปติสสะ ซึ่งเป็นที่บูชาของทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลายผู้มากไปด้วยคุณความดีมีศีลเป็นต้น หาประมาณมิได้ ซึ่งนิพพานไปแล้ว ด้วยเครื่องสักการะหลายอย่าง ล้วนแต่รัตนะและดอกคำ ก็แหละครั้นบูชาพระธาตุของพระผู้แสวงหาซึ่งคุณอย่างยอดยิ่ง ผู้ถึงอนุปทิเสสนิพพานธาตุแล้ว ซึ่งในที่สุดยังเหลืออยู่แต่พระธาตุเท่านั้น ครั้นดิฉันละกายมนุษย์นั้นแล้วจึงได้มาเกิดในดาวดึงส์สวรรค์ชั้นไตรทศ อยู่ประจำวิมานในเทวโลก


    อานิสงส์ของการชักชวนผู้คนให้บูชาพระบรมธาตุ

    [​IMG]

    พระโมคคัลลานะได้ขึ้นไปบนสวรรค์ และถามเทวบุตรองค์หนึ่งว่าเหตุใดจึงได้มาอยู่ที่ อเนกวัณณวิมาน "...ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นสาวกของพระชินเจ้าทรงพระนามว่าสุเมธ เป็นปุถุชนยังไม่ได้ตรัสรู้มรรคผล บวชอยู่ ๗ พรรษา เมื่อพระศาสดาทรงพระนามว่าสุเมธผู้ชนะมาร มีโอฆะอันข้ามได้แล้ว ผู้คงที่ ปรินิพพานแล้ว ข้าพเจ้านั้นได้ ไหว้รัตนเจดีย์อันหุ้มด้วยข่ายทองคำ ยังใจให้เลื่อมใสในพระสถูปนั้นข้าพเจ้าไม่มีการให้ทาน เพราะข้าพเจ้าไม่มีไทยวัตถุให้ แต่ได้ชักชวนชน เหล่าอื่นในการให้ทานนั้นว่า ท่านทั้งหลายจงบูชาพระธาตุของพระพุทธเจ้าผู้ควรบูชาเถิด ได้ยินว่าพวกท่านจักไปสู่สวรรค์ เพราะการบูชาพระบรมธาตุอย่างนี้ กุศลกรรมเท่านั้นอันข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ข้าพเจ้า จึงได้เสวยสุขอันเป็นทิพย์ด้วยตนเอง บันเทิงใจอยู่ในท่ามกลางหมู่เทพเจ้าชาวไตรทศ ข้าพเจ้ายังไม่ถึงความสิ้นไปแห่งบุญนั้น..."


    </O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pratat1.jpg
      pratat1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.8 KB
      เปิดดู:
      9,016
    • pratat2.jpg
      pratat2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.1 KB
      เปิดดู:
      3,048
    • pratat3.jpg
      pratat3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      2,624
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2007
  19. pran_88

    pran_88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +274
    สาธุ

    สิ่งดีๆอย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นเพราะบารมีของพระมหากษัตริย์อันยิ่งใหญ่ของชาวไทยโดยแท้
    เป็นบุญนักที่เกิดมาได้พบพระพุทธศาสนา และได้เกิดมาอาศัยในประเทศที่มีพระมหากษัตริย์อันยิ่งใหญ่อย่างในหลวงของเรา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. thirapha

    thirapha สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +17
    ขออนุโมทนาบุญกับผู้จัดงานและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่คอยดูแลให้ความสะดวกในการเข้าสักการะฯ และขออุทิศส่วนกุศลในการบูชาพระบรมสารีริกธาตุและอัครสาวกในครั้งนี้ให้แก่บิดา-มารดา รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย...สาธุ สาธุ..สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...