คุยเรื่องปัญหาการฝึกสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย พิศวัสต์, 5 กันยายน 2007.

  1. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    อารมณ์ฌาณสี่มีแค่อุเบกขากับเอกกัคคตาเท่านั้น คือพอเรามีสุขเกิดขึ้นมาอันเปนสมบัติอยู่แล้ว เราก้อน้อมใจมาคิดว่าสุขอย่างนี้มันไม่ยั่งยืน ประเดี๋ยวก็กลับมาทุกข์อีก เราจึงพิจารณาลงเปนไตรลักษณญาณว่านี่ทุกข์ เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก้อดับไป พอพิจารณาเสด มันทำให้เราละปล่อยวางได้เรียกว่าอุเบกขา แต่ยังคงมีอารมเปนหนึ่งอยู่ที่ใจ เอกัคคตาจึงไม่หายไป จึงเหลือแต่เพียงเอกัคคตาจิตกับอุเบกขา เท่านั้น นี่เรามาถึงตรงนี้มันเปนวิสสนาไปแล้วนะ ไม่ใช่สมถะแล้ว ลองเอาไปทำดูนะครับ
     
  2. Saturdayseiko

    Saturdayseiko Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +31
    ของผมนะครับ เวลานั่งมันจะมีความรู้สึกว่าตัวมันเอียงซ้าย เอียงขวา
    ยังไงไม่รู้ จิตมันก็จะไปอยู่ตรงนี้อะครับ
     
  3. เด็กใหม่คับ

    เด็กใหม่คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +152
    มีอยู่ครั้งนึงผมนั่งไปเรื่อยๆ อยู่ๆอารมนิ่งเหมือนน้ำนิ่งๆ มีลมหายใจเบาๆพัดให้น้ำกระเพื่อมเบาๆ รู้สึกหายใจเข้าแต่ไม่หายใจออก เหมือนตัวจะพองเพราะลมหายใจ รู้สึกนิ่ง สงบกว่าที่เคยเป็น ไม่ทราบว่าเป็นอาการของอะไร แต่บางครั้งก็ถึงจุดนั้นไม่ถึงบาง ตอนนี้ทำแล้วรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วจะทำอย่างไรให้เป็นอารมน้ำนิ่งเหมือนเดิมคับ รู้สึกว่ามันฟลุก
     
  4. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    นั่นก็เป็นอารมณ์ของปิติครับ จะทำให้กายสงบจิตก็สงบ กายก็เบา จิตก็เบา ครับ ลมหายใจเหมือนจะละเอียดขึ้นๆจนที่สุดคือไม่หายใจเลย หมายความว่ายังหายใจอยู่แต่เบามากครับ ไม่ใช่ไม่หายใจ ยังหายใจอยู่ พอมาถึงตอนนี้มีความสุขกายสุขใจ ลมหายใจละเอียด เราก็ควรที่จะเอาใจของเราไปจดจ้องต่อลมหายใจอย่างไม่ลดละ ทำให้ไม่รู้สึกถึงอายตนะภายนอกครับ เช่น หูจะไม่ไปได้ยินเสียงภายนอกอีกต่อไป นี่คือความเปนสมาธิครับ ที่เรียกว่าเอกกัคตาจิตครับ ครบองค์ประกอบ 5 เรียกว่าได้ปฐมฌาณครับ อันเป็นมรรควิถีนำพาเราไปสู่ธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ได้ครับ พอเราได้ปฐมฌาณแล้ว เราก็ทำวสีให้แจ้ง คือ วสีคือ ทำให้ชำนาญ มีองค์ประกอบ 5 ไปหาเอาเองนะครับ แล้วก็ขอชื่นชมนะครับสำหรับคนที่ตั้งใจละจริง ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  5. นารถะสุญญตา

    นารถะสุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +676
    ถ้าตอนนั่งสมาธิเรารู้สึกเหน็บ ชา แต่นั่งไปสักพักอาการเหล่านั้นกลับหายไป พอเราถอนสมาธิอาการเหน็บชานั่นจะกลับมาทันทีที่เราลุกหรือนั่งยึดขา เราจะมีวิธีแก้ไขอะไรได้บ้างมั๊ยเมื่อเราถอนออกสมาธิแล้วจะไม่มีอาการเหน็บชาเกิดขึ้นครับ....ตอนนี้มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่ออกจากสมาธิแต่ไม่ได้สนใจอะไรหรือเป็นทุกข์กับอาการทางร่างกาย เพราะมันเป็นอยู่เพียงไม่กี่นาทีแล้วก็หายไป
     
  6. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ทำบ่อยๆ พอร่างกายชินแล้วจะหายเองจ๊ะ หุ หุ หุ
     
  7. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    อาการเหน็บชาเหล่านั้นไม่สามารถทำให้หายไปได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นครับ เพราะอาการเหล่านี้เกิดได้กับทุกคนครับ แต่ว่า เราสามารถนำอาการเหน็บชาเหล่านั้นมาพิจารณาลงได้ครับ ที่เรียกว่า เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ครับ เป็น 1 ในสติปัฏฐานสี่ครับ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม เวทนาคืออาการปวดของเราในขนะที่เรากำลังนั่งกำหนดครับ ถ้าพิจารณาตามแนววิปัสสนาก็สามารถเอามากำหนดได้ครับ เช่น ปวดชาที่ขา เราก็เอาอาการปวดนั้น กำหนดได้ว่า ปวดหนอ ปวดหนอ ไปเรื่อยๆครับ และมีสติอยู่กับออาการนั้นจนกว่าอาการนั้นจะหายไปครับ แต่ถ้าวดมากจนทนไม่ไหวก้อเปลี่ยนอิริยาบถไปเลยก้อได้ครับ เช่น ยืน เดิน หรือจะนอนก็ได้ครับ แต่ขอให้มีสติ อยู่กับอารมณ์ และตามทันอารมณ์ได้ก็พอครับ เมื่อกี้คุณนารถะสุญญตาบอกว่าเวลานั่งสมาธิจะไม่รู้สึกก็เพราะว่าคุณไม่ได้สนใจอายตนะภายนอกครับ แต่เมื่อคุณออกจากสมาธิเมื่อไหร่จะปวดทุกทีก็เนื่องมาจากอายตนะของคุณรับรู้อายตนะภายนอกที่มากระทบครับ นี้ไม่มีปัญหาอะไรเป็นธรรมชาติอยู่แล้วครับ เมื่อออกจากสมาธิมาเสวยอารมณ์ภายนอกก็จะรับรู้สิ่งภายนอกครับ

    ว่างๆก็ลองไปหาวัดดีดีสักวัดรับ ไปหาพระที่เก่งๆทางวิปัสสนาแล้วถามอารมณ์ในการนั่งสมาธิแก่ท่านดูครับ แล้วขอให้ท่านแนะนำแนวทางให้เราครับ

    มีอะไรก็มาคุยกันอีนะครับ ขอบคุณครับ
     
  8. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    อาการเหน็บชาเหล่านั้นไม่สามารถทำให้หายไปได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นครับ เพราะอาการเหล่านี้เกิดได้กับทุกคนครับ แต่ว่า เราสามารถนำอาการเหน็บชาเหล่านั้นมาพิจารณาลงได้ครับ ที่เรียกว่า เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ครับ เป็น 1 ในสติปัฏฐานสี่ครับ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม เวทนาคืออาการปวดของเราในขนะที่เรากำลังนั่งกำหนดครับ ถ้าพิจารณาตามแนววิปัสสนาก็สามารถเอามากำหนดได้ครับ เช่น ปวดชาที่ขา เราก็เอาอาการปวดนั้น กำหนดได้ว่า ปวดหนอ ปวดหนอ ไปเรื่อยๆครับ และมีสติอยู่กับออาการนั้นจนกว่าอาการนั้นจะหายไปครับ แต่ถ้าวดมากจนทนไม่ไหวก้อเปลี่ยนอิริยาบถไปเลยก้อได้ครับ เช่น ยืน เดิน หรือจะนอนก็ได้ครับ แต่ขอให้มีสติ อยู่กับอารมณ์ และตามทันอารมณ์ได้ก็พอครับ เมื่อกี้คุณนารถะสุญญตาบอกว่าเวลานั่งสมาธิจะไม่รู้สึกก็เพราะว่าคุณไม่ได้สนใจอายตนะภายนอกครับ แต่เมื่อคุณออกจากสมาธิเมื่อไหร่จะปวดทุกทีก็เนื่องมาจากอายตนะของคุณรับรู้อายตนะภายนอกที่มากระทบครับ นี้ไม่มีปัญหาอะไรเป็นธรรมชาติอยู่แล้วครับ เมื่อออกจากสมาธิมาเสวยอารมณ์ภายนอกก็จะรับรู้สิ่งภายนอกครับ

    ว่างๆก็ลองไปหาวัดดีดีสักวัดรับ ไปหาพระที่เก่งๆทางวิปัสสนาแล้วถามอารมณ์ในการนั่งสมาธิแก่ท่านดูครับ แล้วขอให้ท่านแนะนำแนวทางให้เราครับ

    มีอะไรก็มาคุยกันอีนะครับ ขอบคุณครับ
     
  9. Sinderking

    Sinderking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +673
    อุปจาระสมาธิ...(หรือป่าว??) มาไกลอีกขั้นนึงแล้วนะครับ สู้ต่อไปใบไม้ปลิว!! สู่แดนนิพพาน!!
     
  10. ทรี

    ทรี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    ตอนนั่งไปซักพักรู้สึกสงบนิ่งดี เมื่อสงบแล้วทำไมเสียงเล็กๆน้อยที่เหมือนอยู่ไกลก็ได้ยินเหมือนอยู่ใกล้ แต่ก่อนนั่งสมาธิได้ยินเสียงอะไรก็ตกใจจนแทบจะหลุดออกจากสมาธิ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วพอเริ่มสงบก็นั่นแหละหูรู้สึกดี แล้วก็รู้สึกว่าตามันกระพริบมีแสงสีดำสลับเป็นสีเหมือนเป็นอะไรที่วิ่งเข้ามาชนตาของเรา ทั้งที่ก็ไม่ได้นึกอะไร เลยสงสัยจุดนี้ว่าแสงที่พุ่งมาชนตาเราสลับไปมาอย่างรวดเร็วคืออะไร...........
     
  11. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    นั่งไปจนสงบแล้วรู้สึกได้ยินเสียงที่อยู่ไกลออกไปเหมือนอยู่ไกล้ ไม่แปลกครับเพราะว่าเวลาเรานั่งสมาธิปรสาทสัมผัสของเราที่จะรับอายตนะภายนอกได้ก็มีเพียงแต่หูเท่านั้น เวลาคุณนั่งถ้าคุนคอยฟังเสียงที่สงบจะรู้สึกเหมือนว่ามันไม่สงบจริง มันยังมีเสียงอื่นรอบข้างแทรกอยู่ เสียงนี้เป็นคลื่นความถี่(ต่ำหรือสูงไม่แน่ใจนะ)ที่เราสามารถได้ยินได้แม้เวลาสงบ เมื่อเวลาสงบจิตลงได้ชั่วขณะหนึ่งนั้นความสนใจทุกอย่างมันมารวมอยู่ที่ความรู้สึกอย่างเดียวจึงทำให้เรารับสิ่งเร้าภายนอกได้ง่าย
    ส่วนเวลานั่งไปแล้วเห็นแสงพุ่งมาชนตาเราก็อาจจะเป็นนิมิตหมายอันดีหรืออาจเรียกได้ว่าเกิดอุคหนิมิตก็ได้ ซึ่งจะเกิดได้กับผู้นั่งสมาธิทุกคน บางคนก็ไปได้ไกลถึงปฎิภาคนิมิต ถึงฌาณ เอ้อผมลืมนึกไปว่า อุคหนิมิตนี้เกิดได้กับกรรมฐานทั้ง 40 ชนิดครับ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ต่อไปครับ นักรบแห่งกองทัพธรรม
     
  12. umathawee

    umathawee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ปรึกษาเรื่องการทำสมาธิหน่อยครับ

    ขออารัมพบทก่อนนะครับ
    ผมไม่ได้ปฏิบัติมานานหลายเดือนแล้ว เพราะติดอยู่ในเรื่องกามรมณ์ แต่ตอนนี้อยากกลับมาปฏิบัติอีกครั้ง
    กระผมเป็นศิษย์ที่ยังไม่มีครูในเรื่องการสอนวิปัสนาอย่างจริงจัง แต่ก็ทดลองปฏิบัติไปด้วยใจที่ชอบเรียนรู้หลายศาสตร์ เคยบวชเรียนมาห้าปี แต่ก็ยังไม่ได้อาจารย์ดีสอน จนลาสิกขาออกมา ทำให้ติดอยู่ในเรื่องของกามรมณ์

    มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมเคยทำสมาธิแต่ไม่รู้ว่าตัวเองถึงขั้นไหน
    สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมขั้นแรง คือหากใช้อาณาปาณสติ กำหนดลมหายใจเข้าออกแล้ว หากเพ่งอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้ว จะเห็นเป็นแสงสีต่าง ๆ เข้ามารวมกัน แล้วผมกำหนดว่านิมิตนั้นไม่มีอยู่จริงมันก็จะหายไป พอหายไปแล้วสักพักก็เข้ามาอีก กำหนดว่าไม่มีอยู่จริงก็จะหายไปอีก ทำไปเรื่อย ๆ หากมีใจวอกแวกคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ กระผมก็จะระลึกว่าตอนนี้ทำสมาธิอยู่ อย่าคิดปล่อยวางมันเสีย พอไม่คิดแล้วก็กลับมาสู่สมาธิที่เป็นอาณาปาณสติ ได้อยู่พอควร...
    ทีนี้ก็ทำไปเรื่อย ๆ รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ และอิ่มในสุขนั้น ลมหายใจจะหายใจแบบระบบอัตโนมัติ หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้.... ร่างกายที่เป็นเหน็บชาก็หายไป
    ไม่ปวดไม่เมื่อย .... ทำไป ทำไป และก็ทำไปเป็นชั่วโมง แต่ร่างกายของผม
    ทั้ง ๆ ที่ไม่ปวดไม่เมื่อย แต่มันจะโยกไป... โยกมา ผมกำหนดรู้ว่ามันโยก
    และกำหนดจิตว่าขอลืมตาเพื่อดูว่ามันโยกจริงอย่างที่เรารู้สึกไหม
    พอลืมตาตู ก็เห็นว่าร่างกายเราโยกมาจริง แต่ระบบลมหายใจ และสมาธิก็ยังมีอยู่เช่นเดิม
    ............................
    ซึ่งในกระทู้หลายคนตอบว่าทำสมาธิแล้วรู้สึกตัวเบา ผมเองก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว
    หลายคนบอกว่า...คิดว่าตัวเองสามารถถอดจิตได้แล้ว แต่กลัวไม่กล้าทำ แต่ผมกล้าทำครับ แต่ก็ทำไม่ได้ครับ ที่เขาว่าคนถอดจิตได้สามารถมองเห็นตัวเองนั่งอยู่และเที่ยวไปไหนต่อไหนนะ ผมเองพยายามทำแล้วแต่ทำไม่ได้ ... ถึงแม้ผมจะใช้หลักการมรณณุสติณญาณ เข้าช่วย โดยกำหนดว่าหากจิตหลุดออกไปเข้าร่างไม่ได้ก็พร้อมที่จะตาย ณ เวลานี้แระ แต่ก็ทำไม่ได้
    ............................
    ได้แต่เพียงนั่งไป เบาสบายไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาอันสมควร จึงคลายทำการคลายสมาธิ ค่อย ๆ กำหนดว่าจะขอออกจากการทำสมาธิ
    แล้วก็นอนไป
    ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
    ครับ.. ผมทำได้เพียงเท่านี้นะครับ ไม่ทราบว่า โดยหลักการทำสมาธิตรงนี้
    ผมถึงอะไรแล้วครับ แต่ผมเองก็พยายามจะทำให้ได้มากกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้
    เพราะไม่มีผู้ชีแนะ
    .........................
    อนึ่งผมเคยกำหนดสมาธิเพื่อลองสะกดจิต ตัวเองในท่านอน
    เราสามารถสะกดให้แขนขายกเองได้โดยไม่ต้องออกแรงใด ๆ เลย กระผมก็ทำได้ ..... แต่พอปฏิบัติอีกแขนงหนึ่งถึงขั้นที่บรรยายเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
    จะไม่สามารถกลับมาสะกดจิตตัวเองได้ครับ
    .........................
    อยากขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ
    และหากจะเป็นการอนุเคราะห์ส่งคำแนะนำมาที่เมล์ผมก็ได้นะครับ lovebodys@live.com
    """"""""""""""""""""""""
    อนึ่งหลายครั้งก่อนทำสมาธิผมเคยภาวนามาตลอดว่า ขอให้ได้พบอาจารย์มาชี้แนะในเวลาปฏิบัติ ภาวนาแบบนี้มาเป็นสิบ ๆ ปี ยังไม่เคยมีใครมาชี้แนะเลย
    จึงเชื่อว่า กระผมคงอยู่ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น จึงวอนขอท่านผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ

    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...