เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

เฮ้อ...ไม่รู้ว่ากรรมดี กรรมเลว..ได้เวลาผลักไสให้เป็น
เมื่อปีที่แล้วปี 55 ในฤดูน้ำหลากเรื่องดวงซวยแบบหนักในเดือนนี้วิ่งเข้าชนเต็มๆ

พอมาปีนี้...มาโดนคำสั่งด่วน ให้ย้ายถิ่นฐานให้เข้าไปอยู่โซนพื้นที่น้ำท่วมซะงั้น
ห้ามหืออือ!ซะด้วย... เดี๋ยวจะโดน

แถมประโยค"ปัญหาส่วนตัวต่างๆของคุณ ก็ไปลุ้นเอาเอง." ป๊าดโถท่าน ช่างซึ้งใจจริงเลย


เอาว่าขอก้มหน้ารับผลที่จะเกิด..เพื่อขอแลกกับคุณธรรมบารมีบางอย่าง...ก็ยอมเอ๊า..คุ้มน่า

เมื่อมันได้เวลา ตามกรรมลิขิตก็ต้องวิ่งชน วิ่งเข้าใส่ให้มันรู้ดำ รู้แดง

ให้มันรู้กันไปว่า...คนอะไรมันจะซวยซ้ำ ซวยซากได้ทุกปี ฮ่าๆ


ไว้มาค่อยลุ้นกองทัพน้องน้ำ และเพทภัยหนักๆกันอีกเมื่อปลายปี60 เข้าสู่ปี 61 กันให้ดีๆนะครับพี่น้องชาวไทย
(อันนี้....ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ )

 

สู้ค่ะ ท่านเจ้าบ้าน โปรดรักษาตัวด้วย

 

...................................................................................................

 

ปฏิบัติธรรม

**********************************
อานุภาพ"จิตเกาะพระ"
มีเพื่อนคนหนึ่งทําผ่าตัดใหญ่ พอบอกลาครอบครัวเสร็จก็เข้าห้องผ่าตัดไป อีท่าไหนไม่ทราบตอนผ่าตัด จิตที่เกาะพระอยู่ ก็ขึ้นไปข้างบน ก็ได้ยินเสียงดังว่า "เอ้า ขึ้นมาได้อย่างไรนี่ กลับลงไป กลับลงไป ยังไม่ถึงเวลา!" พอออกมาจากห้องพักฟื้นก็เล่าให้เพื่อนๆและครอบครัวฟังเป็นที่สนุกสนานโดยทั่วหน้ากัน.
ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านค่ะ

 

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
แต่ล้วนสัมพันธ์กัน ..ส่วนใดพร่องก็จะฉุดดึงสิ่งหนึ่งให้อ่อนล้าไปตามด้วยเช่นกัน...ในชนที่ไม่กล้าแกร่งพอ

ขอให้แม่ต้อยจงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และดวงตาเห็นสภาวะธรรมตามเส้นทางอริยสัจ4โดยเร็วพลันเทอญ..

 

แจ้งข่าวอบรม..ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
โทร. 038-263078


แจ้งข่าว สำหรับผู้ที่สนใจ
เข้ารับการอบรม Crisis Management Survival Camp



ตามกำหนดการ จะมีจัดอบรมทั้งสี่ภาค กลาง เหนือ อิสาน ใต้
แต่กำหนดการรอบแรก
เขตภาคกลางและตะวันอก จะจัดที่ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง
ต.หนองบอนแดง อ. บ้านบึง จ.ชลบุรี
ในวันที่ 5-10 ธันวาคม 2556 นี้
พิเศษ สำหรับรอบนี้ จะเป็นรอบฝึกระดับ Advance
หากใครสนใจ จะเรียนรู้ การพึ่งตนเองแบบไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มากมาย
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก็ติดต่อเข้ารับการฝึกอบรมได้เลยค่ะ

ส่วนตัวเองเคยไปอบรม ตอนนั้นเสียค่าใช้จ่ายเอง 3000บาท
แต่รอบนี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย อิจฉาซะจริงเลย^^

กำหนดการ ภูมิภาคอื่นๆยังไม่มีรายการออกมา
แต่คาดว่า จะเป็นภาคใต้ แถวๆทุ่งสง นครศรีธรรมราช ปลายเดือนมกราคม2557

 

ขอบคุณมากค่ะน้องแตน ที่ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ

เป็นโครงการที่น่าสนใจมากค่ะ

ลุยๆดี คงทั้งเหนื่อย ทั้งหนุก ทั้งหนัก

กว่าจะได้พักหลับนอนในแต่ละวันคงมอมแมมน่าดู ^^

 

ไม่หนักทุกวันหรอกค่า
ก็ต้องมีเรียนภาคทฤษฎีให้แอบอู้กันได้ก่อนวันสองวันแรก ^^
แต่รอบนี้ จะมีขีอดีตรงที่..
เมื่อไม่มีอุปกรณ์ช่วยใดๆขณะประสบเหตุ
เราจะเอาตัวรอดปลอดภัยกันยังไง ^_^

 

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

****************************************
ขอบพระคุณในคําอวยพรค่ะ กําลังปฎิบัติตามที่ท่านกรุณาสอนมา อาจจะยังได้ไม่ถึงครึ่งค่ะแต่ก็จะพยายามต่อไปค่ะ

 

จริงรึนี่!!!

เขื่อนป่าสักชล ....... เริ่มถูกทำลายจากนายทุนมาระเบิดภูเขาทำเหมืองหินอ่อน
(ภาพโดยมาเฟีย ลพบุรี )

 

อันที่จริงก็ยังมีโรงโม่หิน ที่กระจายซุกซ่อนอยู่ไม่น้อยในป่าเขาเขตนั้น แต่ไม่คิดว่าจะมีภูเขาในเขตลุ่มน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดนสัมปทานขุดเจาะพังทลายไป

เป็นหินภูเขาอันตะหง่านอยู่แบบหินๆ แบบแข็งๆก็ดีแล้ว
..นี่จะเอามาทำหินอ่อน..ป๊ะติโถ โถ ปะติเถเถ คนหนอคน

สงสัยยังไม่เคยอ่านอาถรรพ์ ดงพญาไฟซะแหล่ว

 

เผลอหลับไปหน่อยเมื่อคืน....เข้ามากันตรึม อดแจมเรื่องคาถาเลย
งั้นโม้มั่งดีกว่าจะพลาดได้ไง

...เรื่องการท่องบ่นคาถานี่ สำหรับ toplus99
ในวัยเด็กนี่ไม่ใส่ใจท่องบ่นอะไร แต่เห็นคุณตาเขียนชอล์คข้างกระดานฝาบ้านไว้หลายบทเหมือนกัน

...คุณตานี่ท่านเป็นหมอคาถาดังในอำเภอเลยนะ
เป็นหมอทำขวัญนาค ขี่ม้าสวมหมวกกะโล่ควบก๊อบๆ..โก้มาก
หลวงปู่,หลวงพ่อดังๆยุคนั้นต่างก็ยอมรับในเรื่องความรู้ ความสามารถของคุณตา ทั้งเรื่องว่านยาสมุนไพรไล่ผี ,ลูกก็ดก หลานเหลนก็มาก นับรวมๆกันเกือบร้อย
ทำกรงเลี้ยง,ต่อนกเขาในป่า ยอมรับว่าท่านเก่งชำนาญหลายทาง จริงๆ
ขนาดว่านายอำเภอสมัยนั้นบางคนยังมาเล่น มาคุยขอความรู้ที่บ้านคุณตาอยู่เรื่อยๆ

แต่จุดสำคัญเรื่อง คาถามันมาเข้าใจมากขึ้น..ก็ไม่กี่ปีนี้เอง

จากเรื่อง...ที่บังเอิญไปได้ไม้หวายอันเล็กๆยาวประมาณ 2 ฟุต จากพระอาจารย์มาอันหนึ่ง
ขอท่านมาเพื่อใช้ไล่โรค ไล่สิ่งที่ที่เป็นประเภทพรายที่มาเบียดเบียน ทำให้เราเจ็บๆแปล๊บๆที่โน่น ที่นี่ในเนื้อในตัวให้มันหนีออกไปจากร่างกายเรา

คาถาที่ใช้กำกับหวายของท่านก็มี(คาถาของฤาษีในถ้ำ)...แต่ลืมขอมาซะงั้นปะไร
เลยมาหากำกับใช้เองในอินเตอร์เน็ท ที่คิดน่าจะเวิร์ค

มันก็ดูได้ผลดีในระดับหนึ่ง ตีเคาะไล่ บริกรรมคาถาผสมกำลังกสินไฟจนสนุก
แต่ว่าเรื่องพรายวิญญาณ...นี้มันก็มีตัวรู้ของมันเหมือนกัน....
(อันนี้ต้องขอคำอธิบาย...และวิจารณ์จากท่านระมิงค์ประกอบเพิ่มเติม)

มันพากันมันหลบหนี ไปอยู่ที่โน่นที่นี่มั่วไปหมด...
มันหลบอยู่ไหน เราก็ใช้หวายไล่ตามไปตี.. ตี.. ตี เพื่อให้ออกไปที่ปลายมือปลายเท้าให้จงได้..เล่นกันหยั่งกับร่างกายเราเป็นสนามกีฬา

สุดท้ายต้องยอมรับว่าไอ้พวกนี้นี่มันฉลาดสุดๆ...แม็กเคฟเว่อร์เหมือนกัน
มันพากันไปหลบ ณ จุดสำคัญเป็นผื่นหนากระจุกใหญ่ (ส่วนจะเป็นที่ไหนเดาเอาเอง..)

เอามือไปแตะจับเบาๆ..มันเจ็บปวดมากกจนน้ำตาไหล โธ่ไอ้พวกชั่ว... ไอ้พวกเลว ++


เอาแล้วไง...จะลุกถ่ายหนักถ่ายเบาแทบไม่ได้ ทรมารเหลือเกิน
อีทีนี้โดนพวกฝูงพราย..เล่นงานคืนแล้ว..
แล้วเราก็ใช้หวายเคาะไล่กระหน่ำตีแบบเดิมก็ไม่ได้ซะด้วย

ขืนใช้หวายตีเราเองที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญอาจถึงตายหน้าเขียว...อายแพทย์ชันสูตรศพได้
(ฝากไว้ก่อนเถอะ..โอฬาร)
ทำอย่างไงกะมันดีเว้ย...เกมส์นี่ต้องยอมแพ้แก่พวกพรายในตัวไปก่อน!!!

แต่ใจยังถวิลหา..รสชาดแห่งชัยชนะ..ไม่ยอมเว้ย

เหมือนเดิม..."กูไม่รู้.. แต่กูเกิลรู้ เน็ทช่วยคุณได้"
ค้นไปจนเจอ ไปได้คาถามาบทหนึ่ง..สำหรับทำน้ำมนต์ ไล่ภูตวิญญาณ ถอนอาถรรพ์จากสถานที่ต่างๆได้

คราวนี้พวกเอ็งเสร็จข้าแน่!!!
พริ้นบทคาถาใส่กระดาษ A4มานอนท่องจำบนเตียง...งึมงำๆ

รอบแรก..คงเพราะบทคาถามันยาว... จำไม่ได้(สมองน้อยด้วย)
รอบสอง...ก็ยังจำไม่ได้...(สงสัยเพราะตอนเด็ก เรียนไม่เก่ง)
รอบสาม...เอ..ก็ยังจำได้ไม่หมด (นี่กู..สมองอัลไซเมอร์ กะมัง)

รอบสี่ท่องไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่คล่องพอ...แต่ปรากฏว่าเหมือนเตียงหมุนปั่นวนเป็นวงกลม

โลกเริ่มหมุนเคว้ง....ต้องหลับตาสูดลมหายใจแรงเข้าปอดเพื่อเข้าสติ สมาธิโดยด่วน
(ไม่งั้นคงได้เวียนหัว จนอ๊วกแตกแน่)

และแล้ว...และแล้วก็ปรากฏชัดว่าในร่างกายมีสิ่งที่พยามวิ่งพล่านไปมาออกปลายเท้า เหมือนมดเล็กๆนับพันตัววิ่งวุ่นวนนัวเนีย
แต่มันมาติดชนที่ข้อพับตรงหัวเข่า ที่อยู่ในลักษณะงออยู่

เลยลุกขึ้นมานั่งเหยียดปลายเท้าออก..
พร้อมเอากระดาษมากางท่อง...ภาวนาคาถาต่อจนจำได้แม่น
หลับตาภานา พร้อมใช้แสงสว่างของกสินไล่
พวกพรายมันก็วิ่ง...ออกปลายเท้ากันชิ้วววๆๆ สนุกมาก

จนรู้สึกว่าโล่งโปร่งสบายร่างกาย แอบเปิดผ้าดู...ฮะฮ่า เรียบร้อย
ผื่นตุ่มหนาเป็นปื้นที่เคยมีเมื่อกี้ จางหายเรียบ..

...จนรู้สึกปวดเบา ไปถ่ายในห้องน้ำ สีของน้ำปัสสวะเป็นสีน้ำตาลเกือบเข้มดำ!!

จากนั้นไปหยิบน้ำเปล่าเทใส่แก้วใบใหญ่ๆ...ท่องคาถากำกับสามรอบ.. เดินสามคาบลม
ยกดื่ม เอือกๆๆๆ...พอปวดเบาอีกครั้ง ปัสสาวะเป็นสีจางๆเกือบใส

แหม มันสบายตัวแถมเท่สุด..ให้มันรู้ซะมั่ง ไผคือไผ!!!


......นี่เก่งอะปล่าววป๋ามิงค์

หนูทำได้...."ไอ แอม อิส เดอะวินเนอร์"

 

แล้วจะมาเล่า
#เรื่องความแตกต่างของไม้หวายลงอาคมไล่พรายโรค กับการขูดกัวซาให้ฟังอีกที

- พลังไม้หวายนี้ มันเสื่อมพลังลงชั่วคราวเพราะอะไร?
- เรื่องเล่าของ..ที่มาที่ไปว่าทำไมท่านบรรดาเกจิอาจาย์ทั้งหลายถึงต้องมีงาน
..."พิธีการไหว้ครูประจำปี"

 

บางเรื่องในนี้ยังไม่ได้เล่าเลย...

 

เอาล่ะครับ...ขอให้ทุกท่านที่สนใจอ่าน...ได้กรุณาปรับจานของท่าน ไปตามทิศทางที่ท่าน toplus99 อยู่ เพื่อให้สามารถรับสัญญาณได้อย่างชัดเจน...
.........
เรื่องแรกขอรับชม สัญญาณกระตุ้นเตือนจากหลวงปู่ใหญ่ ก่อนนะ...เพราะเหมือนจะใกล้ตัวเข้ามาซะแล้ว...

ต่อจากนั้นอยากขอคำแนะนำว่า...
ทำอย่างไร จะนิมนต์ หลวงปู่ใหญ่ มาให้เหล่าข้าฯน้อยทั้งหลายในนี้ ได้ไปนมัสการ เพื่อขอคำแนะนำในการเจริญกรรมฐานได้บ้าง...
เพื่อจะเป็นกำลังในพระพุทธศาสนา...
นิมนต์มาที่วัดถ้ำก็ได้นะครับ...
ป๋า toplus99 อาศัย connection พิเศษช่วยได้ป่าว...

ปล. เดี๋ยวนี้เริ่มมีการประหยัดการพิมพ์ พิมพ์ทีเดียว ลงซะ 2 กระทู้เลยนิ...หุหุหุ...

 

ไอ้เรื่องพิมพ์ทีเดียว 2 กระทู้นี้ไม่แปลก.. เพียงท่านคลิกเม้าท์ด้านขวาเลือก Copy แล้วกดเลือกPaste ไปยังหน้าที่เราต้องการ..ก็แค่นั้น

กันไว้ก่อนในสำหรับเรื่องยาวๆ กันป๋ามิงค์ลบออก..กว่าจะผุดไอเดียเขียนขึ้นได้แทบแย่... ว่าจะดำน้ำแบบไหนไม่ให้โดนฉมวกแทง


เรื่อง Conection หลวงปู่ใหญ่อะไรเนี่ยไม่มีหรอกครับ
..ตัวเองยังแอบชะแง้ แอบดักคอยฟังชาวบ้านเขาคุยกันอยู่เลย

...กระจอกๆแบบtoplus99 นี่อย่าได้หวังพึ่งพาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเชียว...เสียใจกันมาเยอะแล้ว ขอบอกก่อน...ฟอร์มอาจดูดีแต่..ย้วยไม่เป็นท่า ไม่เหมือนถุงเท้าคาร์สัน

เคยได้ยินแต่เรื่อง ลูกศิษย์ท่านยุคเก่า รุ่นหลวงปู่วัย ,ปู่โทน หลำแพร(เคยพบพูดคุยกับท่านมาครั้งหนึ่งที่บ้าน จ.นครสวรรค์) และลูกศิษย์ในดงใกล้ชิดบางท่าน จะมีการฝังตระกรุด
ไว้ให้ที่ท้องแขน ของลูกศิษย์แต่ละคน ตำแหน่งฝังจะไม่ซ้ำกัน...
เป็นตระกรุดวิเศษ แทนโทรศัพย์โดยไม่ต้องอนุญาตขอใช้คลื่นจาก กสทช.

สำหรับพูดคุยเป็นโทรศัพท์สื่อสารกับหลวงปู่ใหญ่ ยกท้องแขนขึ้นมาพูด
..ฮัลโหลๆ ได้ยินตอบโต้กันไปมาได้..

นี่เคยได้ยินมาว่างี้...ส่วนใครที่คิดว่าอยากมีวาสนาพบเจอกับหลวงปู่ใหญ่คงต้องไปค้นหาวิธีการเอาเอง...เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

พระอาจารย์ท่านก็ไม่ได้มีสิทธิ์เลือกขอสื่อสารกับหลวงปู่ใหญ่ใหญ่ได้ทุกครั้งตามความต้องการ เพราะทุกครั้งหลวงปู่ท่านจะเป็นฝ่ายเลือกที่จะสื่อสารมาเอง.. ตามเหตุการณ์ที่ท่านเห็นสมควร ..

แต่เชื่อว่าในศิษย์สายหลวงปู่ใหญ่ จะรู้กันเองว่าใครมีญาณสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ใหญ่ โดยมากก็จะเคารพในธรรมของอีกแต่ละฝ่าย เป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

เรื่องสัญาณกระตุ้นเตือนจากหลวงปู่ใหญ่

ไว้ให้การบ้านบางอย่าง ที่รับมาเข้าท่า เข้าทางกว่านี้ก่อนค่อยว่ากัน
ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโม้เล่ากันเล่นๆ ...เรื่องอื่นพอได้ แต่นี่ถือเรื่องนี้สำคัญยิ่ง ห้ามทำเล่น!!!


..ปะเดี๋ยวจะโดนหนักกว่าเดิม

 

ปูเสื่อรอเรื่องใหม่

***************************
น้องลมสบายใจได้แล้ว จะมาซุบซิบบอกให้ ว่า "จิตเมตตาของท่าน อ.toplus99น่ะไม่มีประมาณ"ค่ะ พวกเรา ตาดําๆกันทั้งน้านน จะทิ้งกันได้เชียวหรือ

 

-# พลังไม้หวายนี้ มันเสื่อมพลังลงชั่วคราวเพราะอะไร?

ใคร่ขอเกริ่นนำว่าไม้หวายนี้..มันอันเล็กๆขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงแค่ประมาณดินสอนักเรียน
ความยาวประมาณ 2 ฟุต ไม่ได้มีลักษณะใหญ่น่ากลัวแบบของหมอผีในหนังผีแต่อย่างใด

ถ้าย้อนเรื่องไปบางท่าน ที่เคยอ่านเรื่องในกระทู้นี้คงจะพอจำกันได้

มีไว้ไล่เคาะตีตามส่วนต่างในร่างกายของตัวเอง มีลักษณะและคุณสมบัติพิเศษดังนี้

- มีการลงอักขระด้วยปากกาเมจิก ยุกยิกๆที่ไม้หวายโดยพระอาจารย์ท่านเมตตาลงให้

- มีการพันด้ายสายสิญจน์เส้นใหญ่ ที่ได้จากงานพุทธภิเษกที่ด้ามจับ เพื่อป้องกันเชื้อวิญญาณโรคนั้น วิ่งตามไม้ย้อนกลับเข้าที่มือคนตีได้

- ตีแปะๆเบาๆเท่านั้น ถ้าเราบริเวณที่ไม่มีสิ่งผิดปกติในร่างกาย จะไม่เจ็บเลย แต่ถ้ามีเลือดพิษหรือเชื้อภูตพรายที่เป็นสาเหตุของเจ็บปวด เมื่อยหรืออาการเจ็บแปล๊บแบบแปลกๆ แบบหาสาเหตุไม่เจอ ถ้าโดนไม้หวายตีโดนเข้าไปจะเจ็บมากๆ จนน้ำตาคลอเลยเชียว

- ให้ผลแบบการขูดกัวซารักษาโรคแต่เด็ดขาดกว่า แต่รอยช้ำจะดูน่ากลัวหน่อยเพราะจะปูดขึ้นออกดำๆ ม่วงๆเขียวๆ แต่หายเร็วกว่าการขูดกัวซา

- ต้นวิชาและคาถามาจากพระหลวงปู่ธุดงค์รูปหนึ่งที่ได้การถ่ายทอดศาสตร์นี้มาจากญาณปู่ฤาษีในถ้ำ ลึกลับมาสอนวิชาให้...ถ้าพลังกระแสจิตกล้ามากพอ อาจใช้ไม้หวายนี้ดึงถอนตะปูออกจากร่างกายคนป่วยได้เลยทีเดียว

- มีพลังดึงเชื้อโรคพรายวิญญาณขึ้นด้วย เวลาตีไปบนผิวหนังจะเหมือนตีลงไปบนครีมที่ข้นๆ เหนียวเหนอะๆคอยดูดไม้เอาไว้เวลาดึงยกไม้ออก

++++++
ก็เหตุการณ์ประมาณว่าจะมีงานพุทธภิเษกที่วัดแห่งหนึ่ง ได้นิมนต์บรรดาพระเกจิอาจารย์หลวงปู่ หลวงพ่อดังมาหลายสิบรูป

ก็เลยนำไม้หวายนี้ไปร่วมเข้าในวงประรำมณฑลพิธีด้วย..กะว่าเอาปลุกเสกให้แรงๆไว้ก่อน
จะได้ขลังๆสุดๆไปเลย...

งานปลุกเศกจบลงไป ก็นำไม้หวายนี้กลับบ้าน...มาลองทดลองพิสูจน์ความขลังด้วยการมาตีเคาะส่วนที่ปวดๆเมื่อยดูทีซิ คราวนี้ล่ะเด็ดแน่.. อิอิ


ผลปรากฏ...การนำมาเคาะไล่ตีกลับโบ๋เบ๋ พลังที่เคยมีกับเงียบกริบ..
อ้าวไหงเป็นงั้น...ลองดูหลายครั้งก็เหมือนเดิมพลังแห่งการรักษาไล่ตีเจ็บๆหายไปเลย..
โปรแกรมการตีไล่โรคภัยถูกดูดกลืนหายเรียบวุด..เซ็งแล้ว

######

เลยนำกลับไปให้พระจารย์ ขอให้ท่านลงโปรแกมเข้าไปในไม้หวายให้ใหม่...
พอท่านปลุกเสกเสร็จ..พลังเดิมจึงกลับมาเหมือนเดิม
..ตีปุ๊บเจ็บสะดุ้งเฮือก..ของเดิมกลับมาแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย

==========

สุดท้ายเลยมาถึงบางอ้อว่า...พระเกจิในงานท่านนัดแนะการอัดโปรแกรมปลุกเสกแบบ สายเมตตา มหาลาภ ลงในวัตถุมงคลในงานนำหน้ามากกว่าคุณสมบัติข้ออื่น ..ไม้หวายปราบโรคพรายของเราเลยกลายเป็นแบบเมตตาไปด้วย..มาผิดงานซะแล้วเรา

ภูติพรายเชื้อโรคที่ไหน มันจะไปกลัวล่ะทีนี้...ตีเคาะไล่ไปมันก็ยิ้มกริ่ม ผิวปากสบายเฉิบ
ออกอาการดี๊ด๊า "ตีซิ..บ๋อแบ๋ๆ...ไม่เห็นกลัว ไม่เจ็บ ล่อแล่ๆ กิ๊วๆๆ" ประมาณนี้

จึงฝากบอกไว้ด้วยสำหรับผู้ที่มีเครื่องราง ของขลังประเภทปราบปราม ป้องกันภัยคุณไสย
ที่ยังปลุกเสกไม่แน่นแข็งปั๋งพอ อย่าได้คิดว่า..การนำเครื่องรางประเภทนี้..เข้าร่วมงานปลุกเสกบ่อยๆจะให้ผลดีเสมอไป..โดยเฉพาะประเภทมีดหมอ,เบี้ยแก้รุ่นใหม่ๆ

เพราะหากบรรดาหลวงปู่ หลวงพ่อทั้งหลาย เกิดรุมสะกรำปลุกเสกแบบสายเมตตาเข้าไป
ของที่ถูกสร้างไว้ด้วยการปลุกเสกด้วยธาตุพลังกสินไฟเป็นหลัก จะถูกดับไปด้วยกสินน้ำ
ของป้องกันคุณไสยอาจกลายของแบบเมตตาอ่อนโยน น่ารักคิกขุ อาโนเน๊ะขึ้นมาแทน
คราวนี้อาจยุ่งไปกันใหญ่ก็ได้นาจะบอกให้..เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน..จากประสบการณ์ทีพบเจอมา

เพราะฉนั้นควรนำเครื่องราง วัตถุมงคลที่เราต้องการให้ได้คุณสมบัติอย่างไร ก็นำไปให้พระสงฆ์ครูบาอาจารย์ที่โดดเด่นในเรื่องนั้นๆปลุกเสกเฉพาะทางไปเลย และบอกท่านด้วยว่าต้องการให้ของของเราเด่นเรื่องใด.จะดีกว่าครับ..

..

 

เหตุการณ์บ้านเมืองหนอ...

ดีก็คือดี...เลวก็คือเลว

แล้วเราก็ไม่รู้จริงๆ ว่าใครดี... ใครเลวกว่ากัน หวังผลสุดท้ายคืออะไร?

ทำดีย่อมดี..ใจตัวเองก็รู้ เทวดาฟ้าดินก็รับรู้
ทำเลวคิดเลว...ย่อมเลว จิตตัวจะไม่รับรู้หรือไม่สำนึกรู้เวลานี้..
... แต่ก็มีท่านพระยายมราชแห่งนรกโลกันต์ที่รับรู้.. แห่งผลกรรมนั้นแล

 

ยัง...ยังฉันยังไม่ตาย ยังยิ้มได้สบายและยังหายใจอยู่!!!

****************************
เหนื่อยหน่ายกับความวุ่นวายทั้งปวง..

ขอปลีกวิเวกประจำท้ายปี ให้รางวัลตัวเองเช่นเดิมสัก4-5 วัน เพื่อฟื้นพลังใจดีๆ
โดยลี้หลบ..ขอสงบในแดนหลืบถ้ำ ขอแอบลมหนาวโชยต้องสัมผัส

" สัมผัสให้รู้วิถีธรรมชาติ อดอาหารตามวาระ
ที่พึงมีพึงเป็น ไปตามประสา..ดีกว่า"

+++++
มิใช่ไทยเฉย....แต่สิ่งนี้เป็นวาระที่ต้องเผชิญ
กี่ภพ กี่ภูมิสัตว์โลกที่ค้นหาเส้นทาง...เพื่อความเจริญทางจิต
กี่ภพ กี่ชาติชีวิต ที่มนุษย์ชาติต้องรบรา
กี่ยุค กี่สมัยแล้ว นับแต่โบราณกาล ที่ต้องแย่งอาหาร...

แย่งชิงที่อยู่ถิ่นฐาน แย่งชิงเพื่อการสมสู่สืบพันธุ์
...แย่งชิงอำนาจ...โดยอ้างเพื่อสันติสุขส่วนรวม

เคยตั้งคำถามมั๊ยว่า...มนุษย์ชาติจะสิ้นสุดสิ่งเหล่านี้เมื่อไร?...เมื่อไร
สงบคราวนี้...ปีหน้า ปีโน้น หรือในอีกหลายๆปีข้างหน้า...หรืออีกในหลายๆชาติหน้า
ชาติใหม่ ...คนใหม่.. อำนาจใหม่
สุดท้ายก็เกิดการแย่งชิงกันเป็นเช่นนี้ร่ำไปไม่จบสิ้น.. บนโลกใบนี้

ต่อให้ร่วมรบ ร่วมสร้างเส้นทางการแย่งชิงกับผู้มีอำนาจใดๆ... เท่าไร
ชีวิตก็ไม่มีทางพบความสงบจบสิ้นลงได้...อย่างแท้จริง

ทุกอย่างจะไม่สงบ..และหาที่สุดของเส้นทางนั้นไม่เจอเลย
ตราบใดที่จิตมนุษย์โดยรวมยังหยาบ..ยังไม่รักที่จะสงบหรือรักกันด้วยหัวใจเมตตาที่แท้จริง


ตามกมลสันดานของสัตว์โลกพันธุ์มนุษย์ ที่ดูจะเอาเปรียบสัตว์โลกอื่นๆแม้แต่มนุษย์ด้วยกันได้แทบทุกเรื่อง ได้อย่างไม่นึกละอายบาปกรรม!!!

สุดท้ายตัวเราเอง ทั้งชีวิตเรียนรู้อะไรกับมันได้บ้าง???

แต่เอาเถอะ...หลากหลายวิถีเลือกเส้นทางสายจิตวิญญาณ
ใครถนัดทางไหน..ไปทางนั้น ไม่ว่ากัน


ถ้ายังสนุกกับวงจรเช่นนี้..ก็คงเป็นตามธรรมชาติละเลงกันต่อไปตามประสา

เฮ้อหลงกล...ก็วนเวียนไม่จบสิ้น..
======

เราอ่อนล้าเกิน...เหลือไว้แต่ความหวังดี ที่พึงมีให้กันมิเคยเสื่อมคลาย

สวัสดีครับ
... พี่น้องร่วม ชาตา ชรา ทุกขัง มรณัง
... ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ร่วมโลกใบเดียวกันนี้เอย..