หลวงพ่อพระราชพรหมยานสอนกรรมฐานเรื่องเทวตานุสสติกรรมฐาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 27 พฤศจิกายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    <TABLE width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>เทวตานุสสติกรรมฐาน <HR SIZE=1></TD></TR><TR><TD vAlign=top>เทวตานุสสติ แปลว่า ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์ เทวดา แปลว่า ผู้ประเสริฐ ความประเสริฐของเทวดามีอย่างนี้ ถ้าพูดกันตามความนิยมแล้ว ท่านที่จะเป็นเทวดาก็ต้องเกิดเป็นคนก่อน เมื่อเป็นคนก็ต้องศึกษาหลักสูตรของเทวดาว่า จะเป็นเทวดานั้นต้องเรียนรู้แล้วปฏิบัติอะไรบ้าง หลักสูตรที่ทำคนให้เป็นเทวดานั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่ามี ๒ แบบ คือ

    เทวดาแบบที่ ๑เป็น เทวดาชั้นกามาวจร คือ ชั้นจาตุมหาราช ชั้นดาวดึงส์ ชั้นยามา ชั้นดุสิต ชั้นนิมมานรดี ชั้นปรนิมมิตวสวัสดี รวม ๖ ชั้นด้วยกัน ทั้ง ๖ ชั้นนี้ บวกภูมิเทวดาที่เรียกว่าพระภูมิเจ้าที่ และรุขเทวดา พวกเทวดาที่มีวิมานอยู่ตามสาขาของต้นไม้ ที่เรียกว่า นางไม้ เข้ากับเทวดาชั้นจาตุมหาราช เทวดา ๖ ชั้นนี้ ท่านว่าใครจะไปเกิดในที่นั้น ๆ เพื่อเป็นเทวดา ต้องศึกษาและปฏิบัติตามเทวตาหลักสูตรเสียก่อน คือท่านให้เรียนรู้เทวธรรมที่ทำตนให้เป็นเทวดา ได้แก่

    ๑. หิริ ความละอายต่อความชั่วทั้งหมด ไม่ทำความชั่วทั้งในที่ลับและที่แจ้ง
    ๒. โอตตัปปะ ความเกรงกลัวผลของความชั่วจะลงโทษ ไม่ยอมประพฤติชั่วทั้งกายวาจาใจ ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง

    ทั้งนี้ก็หมายความว่า ต้องเป็นคนมีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และมีจิตเมตตาปรานี ตลอดกาลตลอดสมัย ถึงแม้ยังไม่ได้ฌานสมาบัติก็ไม่เป็นไร เอากันแค่ศีลบริสุทธิ์ มีจิตเมตตาปรานีใช้ได้ ท่านว่าใครศึกษาและปฏิบัติหลักสูตรนี้ได้ครบถ้วน เกิดเป็นเทวดาได้ หากปฏิบัติได้อย่างเลิศก็เป็นเทวดาอย่างเลิศ ถ้าปฏิบัติได้อย่างกลางก็เป็นเทวดาปานกลาง ถ้าปฏิบัติอย่างหยาบ ก็เป็นเทวดาเล็กๆ เช่น ภูมิเทวดา หรือรุขเทวดา พระพุทธเจ้าท่านตรัสหลักสูตรของเทวดาประเภทที่ ๑ ไว้อย่างนี้ ท่านผู้อ่านจงจำไว้ให้ขึ้นใจ จะได้ไม่สงสัยเรื่องเทวดา
    <TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=290>[​IMG]
    * สรุปจากหนังสือไตรภูมิ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    </TD><TD vAlign=top>เทวดาประเภทที่ ๒นี้ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า พรหม ท่านจัดพรหมรวมทั้งหมด ๒๐ ชั้นด้วยกัน ท่านแยกประเภทไว้ดังนี้

    รูปพรหม มี ๑๖ ชั้น แยกเป็น ๒ ประเภทคือ พรหมที่ได้ฌานโลกีย์ ท่านจัดไว้ ๑๑ ชั้น กับพรหมที่เป็นพระอนาคามี และได้ฌาน ๔ ด้วย ๕ ชั้น รวมพรหมที่มีรูป ๑๖ ชั้น

    อรูปพรหม มี ๔ ชั้น พรหมที่ไม่มีรูปนี้ เป็นโลกียพรหม ในหนังสือไตรภูมิท่านกล่าวว่า อรูปพรหมนี้ไม่ได้ตั้งปนอยู่กับพรหม แล้วก็ไม่ได้อยู่สูงกว่าพรหมที่มีรูป อยู่ในช่องกึ่งกลางระหว่างพรหมชั้นที่ ๘ กับพรหมชั้นที่ ๙

    ๏ หลักสูตร รูปพรหม

    ๑. ได้ฌานที่ ๑ เกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๑, ๒, ๓
    ๒. ได้ฌานที่ ๒ เกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๔, ๕, ๖
    ๓. ได้ฌานที่ ๓ เกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๗, ๘, ๙
    ๔. ได้ฌานที่ ๔ เกิดเป็นพรหมชั้นที่ ๑๐ และ ๑๑

    ทั้งหมดนี้เป็นพรหมชั้นโลกีย์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>๏ หลักสูตร รูปพรหม อนาคามี

    พรหมอีก ๕ ชั้น คือชั้นที่ ๑๒, ๑๓, ๑๔, ๑๕ และ ๑๖ รวม ๕ ชั้นนี้ ต้องได้บรรลุมรรผลเป็น พระอนาคามี ได้ฌาน ๔ มาก่อน

    ๏ หลักสูตร อรูปพรหม ๔ ชั้น

    ท่านทั้ง ๔ ชั้นนี้ ท่านต้องเจริญฌานในกสิณแล้วเจริญอรูปฌาน ๔ ได้อีกจึงจะมาเกิดเป็นอรูปพรหมได้ แต่ท่านก็ได้เพียงฌานโลกีย์ ไม่ใช่พระอริยเจ้า

    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=200>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>หลักสูตรเทวดาและพรหมมีอย่างนี้ ท่านสอนให้ระลึกนึกถึงความดี คือคุณธรรมที่เทวดาและพรหมปฏิบัติมาแล้ว จนเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมได้ ก็ชื่อว่าท่านได้รับผลความดีที่ท่านปฏิบัติมาแล้ว ถ้าเราปฏิบัติอย่างท่าน เราก็อาจจะมีผลความสุขเช่นท่าน เพราะเทวดาขนาดเลวนั้น ดีกว่ามนุษย์ชั้นดีอย่างเปรียบกันไม่ได้เลย เพราะเทวดามีกายเป็นทิพย์ มีที่อยู่เป็นทิพย์ ไปไหนก็เหาะไปได้ ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเหมือนเรา

    ฉะนั้นความดีของเทวดานี้ ถึงจะยังไม่ถึงความดีในนิพพาน แต่ก็เป็นสะพานสำหรับปฏิบัติเพื่อผลในพระนิพพานได้เป็นอย่างดี ดีกว่ามาคิดว่าเทวดาไม่เป็นเรื่อง เทวดาไม่มี เราเป็นพุทธสาวก เมื่อพระพุทธเจ้าท่านว่ามีเราก็ควรเชื่อไว้ก่อน แล้วสร้างสมาธิทำทิพยจักษุญาณให้เกิด ตรวจสอบคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอีกครั้งหนึ่ง จะพบว่าที่ท่านสอนว่า เทวดา พรหม นรก สวรรค์ มีจริงนั้น ท่านสอนตรง ไม่ใช่สอนแบบยกเมฆ ท่านบูชาเทวดา ท่านอาจดีตามเทวดา แต่ถ้าท่านด่าเทวดา ท่านอาจไม่ได้พบเทวดาเลย

    เทวตานุสสตินี้ ถ้าฝึกจนเกิดอุปจารฌานแล้วท่านเจริญวิปัสสนาญาณต่อ ท่านจะเข้าถึงมรรคผลได้ไม่ยาก เพราะเป็นภูมิธรรมที่ละเอียด และมีแนวโน้มเข้าไปใกล้พระนิพพานมาก
    จากหนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.geocities.com/4465/samadhi/4036.htm
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,431
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,467
    อนุโมทนาครับ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และในอนาคตไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ พร้อมเหล่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกท่านทุกองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ สาธุ มหาสาธุ
     
  3. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    [​IMG]



    ธมฺมกาโม ภวํ โหติ</SPAN>
    ผู้ฝักใฝ่ในธรรมเป็นผู้เจริญ
    ธมฺมเทสฺสิ ปราภโว

    ผู้ชังธรรม เป็นผู้เสื่อม
    นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ

    สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี.

    ...............................................................

    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตยที่เคารพบูชาเป็นสรณะสูงสุด
    จงอำนวยอวยชัยให้พรแก่ทุกๆ ท่านที่คิดดี พูดดี ทำดี
    อยู่ในศีล อยู่ในธรรม และหมั่นเจริญพระกรรมฐาน
    ขอให้ท่านเจริญ ซึ่งอายุ วรรณะ สุขะ พละ


    " ท่านที่หวังพระนิพพานก็ดี
    ขอให้ท่านได้สมดั่งความตั้งใจ
    ท่านที่หวังพระสัมมาสัมโพธิญาณก็ดี
    ขอให้ท่านได้สมดั่งความปรารถนา "


    อนุโมทนาบุญนะครับ สาธุ ๆ ๆ :d
     

แชร์หน้านี้

Loading...