คุยเรื่องปัญหาการฝึกสมาธิ

กรำ โทษนะครับ เจ้าของกระทู้ไม่ใช่นะ หมายถึงคุณดอกบัว

แต่สมาธิของผม สงสัยได้ก็ได้แค่ ***ขั้นต้น***
ที่ผมแนะนำ - -ทำได้อ่ะครับ ถ้าทำไม่ได้ไม่กล้าแนะนำ

 

ภาษาที่คุณเขียน ทำให้ผมอ่านแล้วปวดหัว(b-ng)

พูดไปพูดมาสมัยก่อนผมก็เป็นมิจฉาทิฐิ ตอนเช้าด่าคนได้ ตอนเย็นแตะบอลโมโห ก็ใส่อารมณ์ (อาจมีกระทบกระทั่งกันบ้าง) บ้างก็อยากต่อยรุ่นพี่ที่กวน(บาทาบ้าง)

พอตกสี่ทุ่มก็ลองนั่งมันก็ได้มาเอง เพราะตอนนั้นไม่เคยคิดอะไร ว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง
มันก็เกิดความรู้ที่ว่า ทำไมพวกเส้าหลิน พวกญี่ปุ่น มันถึงเก่งกันจังทั้งๆที่มันนำวิธีการทางสมาธิไปใช้ในทางที่ผิดๆ(เช่น ต่อยตี ตีรันฟันแทงกัน)

แต่ที่รู้แน่ๆ คุณนี่น่าเตะจริงๆ(b-ng)


จะบอกอะไรให้ไว้อย่าง ญาณสี่มันของเด็กๆ ไม่ว่าคนดีหรือคนเลวทำได้ทั้งนั้น บางคนมันยังใช้ไปในทางไม่ดีเลย แล้วไอ้เดินลมปราณอะไรของคุณผมไม่เคยทำ ผมไม่ได้บ้าหนังจีน แต่ให้มาสู้กันตัวต่อตัวผมก็ทำได้

สมัยก่อน นักมวยไทยโบราณ เวลาไหว้ครูเค้าเข้าอุปจารสมาธิได้แล้ว ไอ้ที่เค้าว่า ท่าเสือย่าง นะ (นี่ก็เอาไว้จะต่อยคน)

แล้วพวกญี่ปุ่น อาจารย์ อุเอชิบา(ไอคิโด) เวลาทางแสดงไอคิโดจิตท่านอยู่ในอุปจารสมาธิแล้ว
ซามูไรโบราณ มันยังรักษาระดับจิตอยู่ในอุปจารสมาธิ ในการเคลื่อนไหว ดาบมันเลยมีพลัง สามารถฟันเกราะที่สมารถกันกระสุนปืนสมัยโบราณขาดได้(นี่เค้าใช้ในการฆ่าคนนะ)

สมัยก่อนผมลองเอามือฟันอิฐดูโดยลองเข้าสมาธิดู แล้วลองกำหนดจิตไป ฟันไปอิฐก็แตก มือเด็กอายุสิบสองอะ ความจริงกระดูกมันต้องหักไปนานแล้ว แต่มันไม่เป็นไร........แล้วผมก็หลง แล้วผมก็เหลิง คิดว่าตนเก่ง แล้วก็เลยไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า เว้นว่างจากการประพฤติดีประพฤติชอบไปเป็นสิบปี เพิ่งมาเริ่มใหม่ก็เมื่อปีที่แล้ว ไม่ต้องแปลกใจอะไรนะความจริง

ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก บอกตรงๆ บางอครั้งผมก็โพสยั่วบางคน บางครั้งขนาดพิมพ์ด่า แต่พิมพ์ไปยิ้มไป นี่ถ้าเป็นสมัยก่อนผมลากอาก้าไปทุบกะบาลคุณไปแล้ว
ครูกรรมฐานเก่งๆ จะรู้เรื่องพวกนี้ดีว่า มันเรื่องเด็กๆ (b-smile)

(เค้าบอกให้ดูใจตัวเองก่อน คนอื่นเป็นไงก็ช่าง ตอนนี้ผมดูใจตัวเองรู้ล่ะ ว่าใจผมเป็นยังไง .................. ผมยากยิงกะบาลคุณจริงๆ...........เป็นคำตอบของจิตผมตอนนี้)(glass) (glass) (glass)

 

ขอเพิ่มเติมสำหรับเพื่อนๆที่นั่งสมาธิไม่สงบ

จุดประสงค์ของ สมาธิ คือ เพื่อให้จิตจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

เพื่อให้จิตของเราไม่แตกเเขนงกระจายไปในหลายๆที่

ดังนั้นการฝึกสมาธินอกจาก วิปัสสนากรรมฐาน, กสินต่างๆนั้น

เราจะปฏิบัติสมาธิขณะทำงานก็ถือว่าเป็นการทำ สมถะเช่นกัน

เพราะเมื่อใดที่จิตเรามุ่งมั่นกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จะทำให้เราสงบได้ไม่แตกต่างจากคนที่เข้าวัดนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นกีฬา, ดนตรี, เกมส์ หรือ อ่านหนังสือก็เลือกให้ถูกจริต
เพื่อให้จิตใจเราสงบ จริงๆแล้ว ธรรมะและการปฏิบัติต่างเป็นสิ่งที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้

 

เอิ้กๆๆ อย่างที่คิด และแล้วก็มีคนไม่ชอบคำพูดของผม
ก็แค่อยากจะทดสอบ ว่าคุณยังยินดียินร้าย กับคำชม
นินทา ว่าร้าย ดูถูกหรือปล่าว ติดกับจนได้นะ
พอเจอคำชมก็ดีใจ มีกำลังใจ นั่ง
แต่พอเจอคำดูถูก ก็หมด กำลังใจ และไม่พอใจ
และการที่ คุณ จะเอาอาก้า มายิง ผมนั้น ผมไม่กลัวตายหรอก
ผมอยู่จังหวัด สุรินทร์ ในเมือง ซ.โพธิ์ร้าง บ้านเลขที่ 42
ชื่อ หลง ถามคนในซอยได้นะครับ
เหอะๆๆ และการที่ผมชม คุณว่าเก่ง มันก็จริงนะครับ
ผมทำได้ขนาดนั้น ในหนังสือแนวสอนสมเด็จโต
ยังว่าสมาธิขั้นต้น และฝึกนิมิต ได้ ขั้นกลาง - -
แต่คุณสุดยอดจริงครับ
แค่ไม่อย่าให้หลงกับคำว่า อนุโมทนา และคะแนนในเว็บ
หวังว่าคงเข้าใจนะครับ ยังไงเสีย ผมก็ต้องตายวันยั่งค่ำ
จะเร็วหรือช้า ก็เท่านั้นเอง

 

อันนี่รู้สึกเขาจะก็อปมาจากหนังสือแนวสมเด็จโต
http://palungjit.org/showthread.php?t=112
ลองอ่านดูนะ
และการที่ด่าคนแล้วยิ้มไป - -แปลว่าจิตใจคุณเป็นเรื่องธรรดา
การด่า หาเรื่องจะต่อย แปลว่าจิตใจคุณเคยชินกับการทำแบบนั้น
จนเป็นเรื่องธรรดา สำหรับตัวคุณ แต่ยังผมก็ผิดเองที่มา ส
แต่ยังไงเสีย ผมก็ขอโทษจากใจจริง
และหวังว่า คงจะไม่จองเวรเจรกรรมกัน

 

สมาธิหมุน หรือกรรมฐานหมุนคืออะไร

 

เฮ้อ .... สัตว์โลกหนอสัตว์โลก ผมอ่านแล้วรู้สึกหดหู่ใจ ที่เราต้องมาวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ก็ทำใจครับ เมื่อเราเดินมาขนาดนี้แล้วเราก็ต้องสู้กันต่อไป สู้กับโลกธรรม 8 ครับ สู้กับคำติคำชมเพราะยังไงเราก็ต้องเจอแบบนี้อยู่แล้ว
ไปปฏิบัติธรรมมารู้สึกสงบขึ้น รอบคอบขึ้นครับ ใจเย็นมากกว่าเก่า นี่เป็นอานิสงของการนั่งสมาธิครับ และก็คิดได้ด้วยว่าไม่อยากยึดติดกับตัวกูของกูมาก เดี๋ยวจะทุกข์ครับ เขาด่าเราแทนที่เขาจะทุกข์เรากลับทุกข์กว่าเขาเพราะคำติคำชม ที่เราไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง
นั่งสมาธิแล้วคิดได้หลายอย่างครับ ลองไปนั่งสมาธิด้วยกันดีไหมครับ เป็นประโยชน์ต่อเรามากมายเลยครับ

 

สวัสดีครับขอถามหน่อยนะครับ
คือเมื่อผมนั้งสมาธิไปได้สักพักจะมีอาการแบบ่ว่า เอนไปเอนมาอ่ะครับผมเหมือนนั้งม้าหมุ่นอ่ะครับพยายามฝืนแล้วแต่มันก็จะเอนไปเอนมา เหมือนเดิมอ่ะครับผม
ขอผู้รู้ตอบให้หน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ

 

> อยากไปอยู่เหมือนกัน ฝึกเองที่บ้านแล้วไม่ค่อยเวิร์ค มีที่ไหนแนะนำบ้างครับ อยากทราบรายละเอียด เคยไปด้อมๆมองตามวัดเวลาไปทำบุญ เห็นมีแต่ผู้หญิงใส่ชุดขาวมาปฏิบัติธรรมกัน ผู้ชายไม่ค่อยเห็นเลย

 

สาธุ อนุโมทามิ ขออนุโมทนา สาธุ ด้วยสำหรับผู้ที่ตั้งใจปฎิบัติพระกรรมฐาน ขอให้โชคดี เจริญพร ...

 

คุณ ยูเซอร์เอ็กซ์ ถ้านอนสมาธิได้ดีกว่านั่งสมาธิ ก็ทำไปเถอะค่ะ หายากนะเนี่ย..

 

คุณเจ้าพายุเคยนั่งแล้วมีอาการเหมือนกับผมตอนนั่งสมาธใหม่ๆเลยครับ ผมก็เคยนั่งแล้วรู้สึกตัวแกว่งไปแกว่งมายังไงบอกไม่ถูกครับ อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่าเราพยายามมากเกินไปหรือเปล่าหรือเกิดอาการง่วงขึ้นมาก็อาจเป็นไปได้ครับ

 

ผมอยากไปปฎิบัติธรรมเหมือนกันครับ มีอยู่ที่นึงอยากให้ไปครับ คือวัดป่าโสมพนัส ครับ อยู่ที่สกลนคร เพราะที่นั่นเขามีสอบอารมณ์ด้วย เพื่อความก้าวหน้าของเราครับต้องมีผู้รู้มาคอยถามอารมณ์ของเราแล้วจะได้แนะนำเราได้ครับ แต่ที่วัดไหนก็ได้ครับขอให้เราเชื่อมั่นว่าเขาจะช่วยเราได้ครับ

 

อันนี้เป็นอาการของ อุปจารสมาธิ มันมีอยู่ ๕ อย่าง ลองไปค้นดูนะ
สิ่งสำคัญอยู่ที่ไหน อยู่ที่ปัจจุบันขณะ เราทำอะไรอยู่ ทำต่อไป อย่าสนใจ อย่ายึดติด กับสิ่งอื่นใดนอกจากที่เรากำหนดจิตไว้ เท่านั้นพอ...

 

สวัสดีครับ หายหน้าไปสองสามวัน ไม่ได้ไปไหนครับ พอดีเขาจัดอบรมที่วัดพระธรรมกายผมเลยไปกับเขาด้วย ไปอบรมมา สองคืนครับ สนุกดี และได้เจอเพื่อนใหม่ด้วยครับ เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปวัดพระธรรมกายครับ รู้สึกดีครับแต่ก็ลำบากพอดูครับ ผมได้ไปเห็นความยิ่งใหญ่ของวัดครับ กว้างมากครับ ใหญ่ด้วย เสียดายไม่มีรูปมาให้ชมกัน และสุดท้ายผมเอาบุญมาฝากทุกคนด้วยครับ อนุโมทนาสาธุ.....

 

ที่สกลนครมีวัดป่าดีๆ เยอะนะคะ ยังมีวัดดอยธรรมเจดีย์, วัดป่านามล (ไม่ทราบว่าทอดกฐินเมื่อไหร่..) พระเกจิดีๆค่ะ

 

การที่มีอาการที่ว่าเป็นปัญหาขนาดที่ไม่สามารถนั่งต่อหรือเปล่าครับ
ถ้า ไม่ก็อย่าไปสนใจกับอาการต่างๆ ไม่ว่าจะ เอนก็ดี ฯลฯ ก็ในความเป็นจริงคุณนั่งอยู่ที่เดิมในท่าเดิม อย่าไปสนใจครับ ฝืนทำต่อไปเรื่อยๆ ทุกวัน ปกตินั่งกี่โมงก็พยายามนั่งเวลานั้น ทำไปเรื่อยๆ อาการต่างๆก็จะหายไป เมื่อเข้าถึงภาวะสมาธิแล้วครับ
แต่ถ้าอาการที่ว่า หมุนร็ว เอนเร็ว โดนที่คุณยังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจ ลมหายใจละเอียด คำภวนาหายไป รู้อยู่แค่ลมเข้าลมออก นั่นก็เป็นอาการของอุปจารสมาธิครับ ซึ่งก็อย่าไปสนใจ อย่าสงสัย อย่าเพิ่งไปต่อยอด อย่าเพิ่งดีใจที่เห็นผลความก้าวหน้าในขณะนั่งอยู่ รู้ไว้เฉยๆก็พอ ไม่อย่างนั้นจะเข้าสู่สภาวะที่ละเอียดกว่านี้ไม่ได้ครับ
ทำไปเรื่อยอีกหน่อยก็ไม่ต้องเสียเวลาปล้ำกับลมหายใจแล้วครับ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เจ้าพายุ
สวัสดีครับขอถามหน่อยนะครับ
คือเมื่อผมนั้งสมาธิไปได้สักพักจะมีอาการแบบ่ว่า เอนไปเอนมาอ่ะครับผมเหมือนนั้งม้าหมุ่นอ่ะครับพยายามฝืนแล้วแต่มันก็จะเอนไปเอนมา เหมือนเดิมอ่ะครับผม
ขอผู้รู้ตอบให้หน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ
เปนปิติที่เกิดจากการทำสมาธิครับ เขาเรียกว่าปีติ เปนองค์ประกอบของฌาณสมาบัติ อย่าสงเราภาวนาพุทโธๆๆๆ เนี่ย มีวิตกเกดขึ้นวิจารณ์ก้อเกิดขึ้น พอนั่งไปนานๆ ความรู้สึกมันไม่มีแม้แต่ลมหายใจก้อละเอียดจนคิดไปว่าไม่หายใจเพราะมันละเอียดมาก ความรู้สึกภายนอกหมด เหลือแต่ความรู้สึกภายในกายเท่านั้น การที่เอาจิตไปดูลมหายใจเรียกว่าวิจารณืครับ แล้วนานๆไปจะเกิดอาการต่างๆ เช่นตัวสั่น นำตาไหล ก็ตามนั่นคืออาการของปีติครับ เมื่อปีติเกิดแล้วความสุขจะตามมาครับเพราะพอใจในอาการของปิติครับ เมื่อสุขเกิดขึ้นแล้ว ใจเราจะเปนไปอัตโนมัติครับ คือวางใจเราเปนกลางได้จึงเกิดเอกกัคคตา นี่ บรรลุปฐมฌาณแล้วครับ

 

ตอนเข้าฌาน 4 หยาบ มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ คุณพี่เจ้าของกระทู้ พอที่จะอธิบายให้ผมหน่อยนะค๊าบ

 

ผู้ที่สามารถถอดจิตหรือกายทิพย์ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่เจริญกายคตาสติกรรมฐาน หรืออาการ 32 ได้อย่างช่ำชอง แล้วอาศัยกายคตสติกรรมฐานเป็นบาทฐาน ร่วมกับกสิณทั้ง 10 นี้เจริญฌาน 4 ให้เป็นวสีคือให้มีความชำนาญ จึงจะสามารถถอดกายทิพย์ได้

ส่วนมโมยิทธิ เป็นญาณอย่างหนึ่ง ในอภิญญาทั้ง 6 แปลง่ายๆว่า ฤทธิ์ที่สำเร็จได้ด้วยใจ ใจคิดนึกอย่างไร ก็สามารถรู้เห็นสิ่งนั้นๆได้เหมือนดูโทรทัศน์ หรือปรากฏเห็นว่าตนเอง อยู่ในสถานที่นั้นๆ ผู้ที่จะสามารถสำเร็จมโนมยิทธิจริงๆในยุคนี้นั้น น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นอุปาทานของจิตที่เกิดจากการปรุงแต่งของจิต จากสิ่งที่ได้อ่านได้ฟัง ได้ยินมา แล้วนำมาปรุงแต่งเป็นมโนภาพว่าตนเอง ได้ไปที่นั้น ที่นี่ มา เช่นไปนรก สวรรค์เป็นต้น หนักเข้าสมารถไปที่แดนนิพพานได้ อันเป็นแดนที่ไม่เกิด ไม่ตาย ไม่มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณและแม้กระทั่ง จิตก็ไม่ใช่จิต

ไปที่นั่น ที่นี่มาก็ปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราวว่าตนเองรู้ ตนเองถอดจิตได้จริงๆ จิตมนุษย์เรานั้นถ้ายังมีกิเลสเป็นนายอยู่ก็ต้องโดน กิเลสล่อ กิเลสหลอก กิเลสหลอน อยู่วันยังค่ำ แล้วเหมาเอาว่าตนเองถอดจิตได้ แต่ที่ไหนได้ตนเอง หลอกตนเอง เพราะไม่รู้เท่าทันการปรุงแต่งของจิตที่เต็มไปด้วยกิเลส

การปฏิบัติธรรม กรรมฐานนั้นต้องมีครูอาจารย์ที่รู้จริงสอนแนะนำ เป็นขั้น เป็นตอน ตามลำดับกรรมฐาน