ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า

อ.อารย์ ปาลเดชพงศ์กับปาฏิหาริย์แห่ง'พระคาถาชินบัญชร' : สรณะคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"การสวดพระคาถาชินบัญชร" มีคติความเชื่อว่า ผู้ใดได้สวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรนี้เป็นประจำอยู่สม่ำเสมอ จะทำให้เกิดความสิริมงคลสมบูรณ์พูนผล ศัตรูหมู่พาลไม่กล้ำกราย ไปทางใดย่อมเกิดเมตตามหานิยม เกิดลาภผลพูนทวี ขจัดภัยจากภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยต่างๆ ทำน้ำมนต์รดแก้วิกลจริตแก้สรรพโรคภัยหายสิ้น เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีคุณานุภาพตามแต่จะปรารถนา ดังคำโบราณว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" จะเดินทางไปที่ใดๆ สวด ๑๐ จบ แล้วอธิษฐานจะสำเร็จสมดังใจ

พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น

อ.อารย์ ปาลเดชพงศ์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน ผู้บริหาร ผู้ดูแล และผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ก็เป็นผู้หนึ่งที่สวดพระคาถาชินบัญชร โดยสวดติดต่อกันมากว่า ๒๐ ปีแล้ว ขณะเดียวกันยังนั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ ๑ ชั่วโมง รวมทั้งเดินทางไปทำบุญ ทั้งนี้เขาได้พูดถึงการสวดคาถาชินบัญชรไว้อย่างน่าคิดว่า

"ผมไม่เคยหวังผลเรื่องปาฏิหาริย์ เพราะเป็นเรื่องที่อธิบายให้คนฟังอยาก และหาหลักฐานพิสูจน์ไม่ได้ อย่างที่ว่า คือ เชื่อแต่ไม่ได้หลงใหล ไม่ทุ่มเท และก็ไม่ลบหลู่ แต่สิ่งที่ได้จากการสวดพระคาถาชินบัญชรโดยไม่ต้องพิสูจน์ คือ สมาธิ ใจนิ่ง สงบ และปลอดโปร่ง นอกจากนี้แล้วความเป็นตัวตนที่เป็นอยู่เกิดจากการปฏิบัติตัวให้อยู่ในศีลธรรมมาอย่างต่อเนื่อง"
อ.อารย์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้าให้ฟังว่า ในอดีตย่านเพชรเกษมไม่มีโรงเรียนดีๆ ต้องเข้ามาเรียนในเมืองเท่านั้น ผมเริ่มสร้างโรงเรียนเพียงให้ลูกสาวมีที่เรียนดีๆ โดยมีหลักง่ายๆ คือ ทุกอย่างที่ผมทำต้องดีที่สุด ทำด้วยใจรักลูก เรื่องกำไรไม่ต้องพูดถึง ๖ ปีแรกขาดทุนตลอด ปีแรกมี ๓ ห้องเรียน มีเด็ก ๑๗ คน การทำในสิ่งที่ดีผู้ปกครองก็พูดกันต่อปาก ปีที่ ๒ มีเด็กเพิ่มขึ้นเป็น ๕๐ คน ปีที่ ๓ เพิ่มเป็น ๗๐ คน จากนั้นตัวเลขก็เพิ่มขึ้นในลักษณะของแนวดิ่ง ผ่านไปกว่า ๒๐ ปี กลายเป็นมีโรงเรียน ๒ สาขา มีเด็กกว่า ๔,๐๐๐ คน

อ.อารย์นอกจากความโด่ดเด่นด้านวิชาการที่มีสถิติของเด็กที่จบไปสอบเข้าเรียนต่อได้ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ เป็นเครื่องรับรองแล้ว ความโด่ดเด่นที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คือ เด็กนักเรียนอนุบาลเด่นหล้า ไม่เกิน ๖ ขวบท่องคาถาชินบัญชรได้ทุกคน สร้างความประหลาดใจให้ผู้ปกครองเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้ปกครองยังท่องไม่ได้เลย โดยให้เด็กสวดมนต์ทุกวันพฤหัสบดี"

อ.อารย์เมื่อถามถึงหลักการสร้างโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จ อ.อารย์ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "ผมใช้ความเมตตาในการสร้างโรงเรียน เพราะความเมตตาทำให้คนเราอยู่ได้ทุกสถานะ เมตตาเพียงเล็กน้อยก็ให้ความค้ำจุนอบอุ่นปลอดภัยแก่โลก คือตัวเราทุกคนนี่แหละเพียงเล็กน้อย เมตตาอย่างยิ่งก็ให้ความค้ำจุนอบอุ่นปลอดภัยแก่โลก สำหรับคติในการทำงานที่ยึดมาโดยตลอดนั่นก็คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และคติข้อนี้เช่นกันที่ผมได้ถ่ายทอดสู่ลูกหลานและครูในโรงเรียนนี้มาโดยตลอดจนกลายเป็นวิธีการทำงานของคนที่นี่ครับ"

 

"เรื่องกำไรไม่ต้องพูดถึง ๖ ปีแรกขาดทุนตลอด"

สุดยอดความอดทนครับ บางคนทำธุรกิจขาดทุน2ปี ถึงกับถอดใจเลยก็มีครับ

 

ธรรมดาคะ สี่ขวบดิฉันก็ท่องได้แลวคะ แม่บอก ฟังคุณยายท่านสวดทุกคืน ลูกของพี่สาวก็สวดได้หลายบทด้วย