ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ยูเอ็นเผยฝนตกหนักในลาวคร่าชีวิตไป 16 คน

By สำนักข่าวไทย TNA News | 27 ส.ค. 2556 18:47

กรุงเทพฯ 27 ส.ค.- สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน เดือดร้อนหลายแสนคน หลังจากเกิดฝนตกหนักในลาวและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

สำนักงานผู้ประสานงานยูเอ็นในลาวแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นผลจากน้ำท่วมฉับพลันหลังจากฝนตกหนักในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม และมีผู้เดือดร้อนมากกว่า 115,000 คน ฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนและยังไม่ลดระดับลง ทำให้ไร่นาจมน้ำหลายพันไร่ ปศุสัตว์ล้มตายจำนวนมาก เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลางของลาว ขณะนี้กำลังต้องการอาหารและความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนอย่างเร่งด่วน ประเมินความเสียหายไว้ไม่ต่ำกว่า 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 527 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเผยฝนตกหนักในลาวคร่าชีวิตไป 16 คน | MCOT.net | MCOT.net

 

ลาวยังอ่วม น้ำท่วมหนัก เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ศพแล้ว

วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2556 เวลา 16:33 น.

น้ำท่วมฉับพลันในลาว สร้างความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 คน ได้รับความเดือดร้อนอีกกว่า 1 แสนคน พืชผลด้านการเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น เปิดเผยวันนี้ว่า เกิดน้ำท่วมฉับพลันและฝนตกหนักต่อเนื่องในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 20 ศพแล้ว ถนนหลายสายจมอยู่ใต้บาดาล และพืชผลทางการเกษตร ก็ได้รับความเสียหาย โดยฝนที่ตกหนักเกิดจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นที่พัดถล่มลาวในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนประมาณ 116,000 คนใน 7 จังหวัดจากทั้งหมด 17 จังหวัด และมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาด และนาข้าวหลายหมื่นไร่ได้รับความเสียหาย

สหประชาชาติเตือนเมื่อปีที่แล้วว่า ลาว ซึ่งมีประชากร 6.4 ล้านคน อาจเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน และจำเป็นต้องเตรียมการรับมือให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

ลาว ซึ่งอยู่โดดเดี่ยวมานานหลายสิบปี เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขยายตัวเร็วที่สุดของเอเชีย โดยได้รับอนาสงส์จากอุตสาหกรรมเหมือง และการเติบโตของพลังงานไฟฟ้าพลังน้ำ ขณะนี้ ลาว ซึ่งไม่มีทางออกทะเล กำลังก่อสร้างเขื่อนผลิตกระไฟฟ้าพลังน้ำ มูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากจีน เขื่อนแรกในจำนวน 11 เขื่อนที่มีแผนการก่อสร้างในแม่น้ำโขง แม้กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะมีความวิตกกังวลมากขึ้น

ลาวยังอ่วม น้ำท่วมหนัก เสียชีวิตเพิ่มเป็น 20 ศพแล้ว | เดลินิวส์

 

29/08 จ.ตราด น้ำท่วมฉับพลัน พบบ้านเรือนนับสิบหลัง และถนนหลายสายถูกน้ำท่วม

ขณะที่ซอยบ้านกลาง หมู่ 4 น้ำได้ไหลท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน เป็นระยะทางกว่า 1กิโลเมตร มีความสูง 30-80 ซม. บ้านเรือนจำนวนนับ 10 หลังถูกน้ำท่วม และยังท่วมพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นากว่า 100 ไร่ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน

นายนวม วรสิงห์ เผย ฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืดทำให้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้าน ที่ผ่านมา เมื่อฝนตกหนักที่หมู่บ้านจะเกิดน้ำท่วมทุกครั้ง เพราะการระบายน้ำลำบาก และมีการก่อสร้างถนนด้านหลังหมู่บ้าน โดยมีบ้านเรือน จำนวน 5-6 หลัง ถูกน้ำท่วมสูงประมาณหัวเข่า แต่เมื่อฝนหยุดตกประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็จะลดลง แต่สิ่งที่ต้องให้มีการแก้ไขก็คือ การทำท่อระบายน้ำเพิ่มในหมู่บ้าน

ในส่วนคลื่นลมในท่าเรือบ้านแหลมศอกที่เป็นที่จอดเรือโดยสารไป อ.เกาะกูด มีลมแรง และมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อย่างไรก็ตาม เรือโดยสารสามารถเดินทางไปได้สะดวก ยกเว้นเรือสปีดโบต

http://www.paipibut.org/view.php?dataid=27618

 

ข่าวสถานการณ์น้ำชลประทาน
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โทร.สายด่วน 1460 / E- mail : wmsc.1460@gmail.com / http://water.rid.go.th/wmsc
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่ : เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ น้ำยังไม่ถึงครึ่งอ่างฯ รับน้ำได้อีกมาก

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(29 ส.ค. 56) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 40,157 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด สามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 29,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเน้นการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมา ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าที่จะถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ ยังสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตร อาทิ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำ 91 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 34 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 170 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง มีปริมาณน้ำ 66 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีก 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 4,787 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 8,600ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,577 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 4,900 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 423 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 500 ล้านลูกบาศก์เมตร
ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่างๆ ยังสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้อีกกว่า 4,600 ล้านลูกบาศก์เมตร อาทิ เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี มีปริมาณน้ำ 58 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 387 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 130 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีปริมาณน้ำ 669 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 34 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 18 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 90 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนอื่นๆ ยังรับได้รวมกันอีกกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับในพื้นที่ภาคกลาง ที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 146 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 600 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี มีปริมาณน้ำ 113 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 120 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำ 138 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 80 ล้านลูกบาศก์เมตร
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา(29 ส.ค.) ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 555 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 6.35 เมตร และที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 220 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังอยู่ในภาวะปกติ

29 สิงหาคม 2556

 

สถานการณ์น้ำประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2556

สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ํา
สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปริมาตรน้ําในอ่างฯ 42,726 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 57
(ปริมาตรน้ําใช้การได้ 18,927 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 25) ปริมาตรน้ําในอ่างฯเทียบกับปี 2555 (44,268 ล้าน ลบ.ม.
คิดเป็นร้อยละ 59) น้อยกว่าปี 2555 จํานวน 1,542 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯจํานวน 237.25 ล้าน ลบ.ม.
ปริมาณน้ําระบาย จํานวน 110.91 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ําได้อีก 31,798 ล้าน ลบ.ม.

สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ ปริมาตรน้ําในอ่างฯ 40,265 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 57 (ปริมาตร
น้ําใช้การได้ 16,766 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 24) ปริมาตรน้ําในอ่างฯ เทียบกับปี 2555 (42,191 ล้าน ลบ.ม.
คิดเป็นร้อยละ 60) น้อยกว่าปี 2555 จํานวน 1,926 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ จํานวน 201.24 ล้าน ลบ.ม.
ปริมาณน้ําระบายจํานวน 82.55 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ําได้อีก 29,886 ล้าน ลบ.ม.

แม่น้ำเจ้าพระยา
สถานี C.2 ปริมาณน้ำไหลผ่าน 503 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 555 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำ
+19.65 ม.รทก. ต่ำกว่าตลิ่ง 6.55 เมตร

เขื่อนเจ้าพระยา
สถานี C.13 ปริมาณน้ำไหลผ่าน 188 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 220 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ำ
เหนือเขื่อน +16.55 ม.รทก. (เมื่อวาน +16.55 ม.รทก.) ระดับน้ำท้ายเขื่อน +7.30 ม.รทก. (เมื่อวาน +7.57 ม.รทก.)
รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 213 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 215 ลบ.ม./วินาที)
คลองชัยนาท-ป่าสัก (ปตร.มโนรมย์) 163 ลบ.ม./วินาที คลองชัยนาท-อยุธยา (ปตร.มหาราช ) 45 ลบ.ม./วินาที
คลองเล็กอื่นๆ 5 ลบ.ม./วินาที โดยรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ (ปตร.พระนารายณ์) 50 ลบ.ม./วินาที
รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 222 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 217 ลบ.ม./วินาที)
คลองมะขามเฒ่าอู่ทอง (ปตร.มะขามเฒ่า-อู่ทอง) 35 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำสุพรรณ (ปตร.พลเทพ) 51 ลบ.ม./วินาที
แม่น้ำน้อย (ปตร.บรมธาตุ) 80 ลบ.ม./วินาที คลองเล็กอื่นๆ 56 ลบ.ม./วินาที
อ.บางไทร สถานี C.29 ปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 204 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 232 ลบ.ม./วินาที)
เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 8 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 7 ลบ.ม./วินาที)

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/38932596ad556aeafba248a9c9b22430" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ia/130830022427.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/f1b4c0dc1b57c116e221f10e7aa1a8d4" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iy/130830022455.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ปภ.เตือน 12 จ.ภาคเหนือ ระวังฝนตกหนัก-น้ำท่วม



กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนภัยประชาชนพื้นที่ภาคเหนือ 12 จ. ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงในช่วง 31 ส.ค.-2 ก.ย.นี้...
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. มีรายงานว่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งว่า ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสั่งการให้จังหวัดเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มกันเกิดจากฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมานั้น ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยฉบับที่ 1 เรื่องฝนตกหนัก ลงวันที่ 29 ส.ค. 56 ว่า ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-2 ก.ย. 56 ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ภาคเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย. 56

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมป้องกันและปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะฝนตกหนักและลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนใน 2-3 วันนี้ ซึ่งจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบคือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงราย แพร่ น่าน ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตฯ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ตามที่เคยได้สั่งการไว้แล้วต่อไป.

 

บินไทยรับ TG600 เจอปัญหาอากาศแปรปรวนที่ฮ่องกง ลงจอดปลอดภัยแต่มีคนเจ็บ




ภาพจากแฟนเพจเฟซบุ๊ก Nation Channel


ช่วงเที่ยงวันนี้ (30 ส.ค.) มีรายงานจากฮ่องกงระบุว่า สภาพอากาศที่สนามบินนานาชาติฮ่องกงค่อนข้างจะมีความแปรปรวนมาก ส่งผลให้เครื่องบินจำนวน 2 เที่ยวประสบอุบัติเหตุขนาดย่อมๆ แต่ก็สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยลำแรกเมื่อเวลาประมาณ 9.30น. เที่ยวบินที่ HX762 ของสายการบินฮ่องกง ซึ่งมีต้นทางจากสนามบินภูเก็ต ระหว่างลงจอดเจอลมปะทะ ส่งผลให้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 6 รายแบ่งเป็นผู้โดยสาร 3 และลูกเรือ 3 แต่เครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย

ลำที่สองเมื่อเวลา 12.24น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 11.24น. ตามเวลาในประเทศไทย เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง A380 ของบริษัทการบินไทย เที่ยวบินที่ TG600 ระหว่างที่ลดระดับจะลงจอด ณ สนามบินนานาชาติฮ่องกงก็เจอลมปะทะอย่างรุนแรง โดยแม้เครื่องจะสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย ทว่า รายงานเบื้องต้นระบุมีลูกเรือและผู้โดยสารราว 30 คนได้รับบาดเจ็บ โดยหน่วยกู้ภัยและรถดับเพลิง ประมาณ 10 คันต้องเข้าช่วยเหลือ

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00น. เฟซบุ๊ก Thai Airways ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ยืนยันว่าเที่ยวบิน TG600 ประสบปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ณ สนามบินฮ่องกงจริง

“ขอแจ้งให้ทราบว่าเที่ยวบินที่ TG 600 กรุงเทพฯ-ฮ่องกง วันที่ 30 สิงหาคม 2556 เกิดปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน (Air Turbulence) ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการภาคพื้น ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ให้การดูแลผู้โดยสารและลูกเรืออย่างดีที่สุด ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป” แฟนเพจการบินไทยระบุ


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

 

ฝนถล่มกรุงศุกร์สิ้นเดือนส่งผลน้ำท่วมฝั่งธนบุรี

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556 เวลา 18:45 น.

วันที่ 30 ส.ค. เวลา 17.30 น. เรดาร์ตรวจอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจพบกลุ่มฝนขนาดกลางถึงหนักพาดผ่านบริเวณ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี , เขตทวีวัฒนา ตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย กทม. และพื้นที่เขตใกล้เคียง ส่งผลให้ฝนตกตกหนัก จนทำให้ท่อระบายน้ำตามซอยต่าง ๆ ระบายน้ำฝนไม่ทันมีปริมาณน้ำท่วมขังระดับสูง รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ อีกทั้งยังส่งผลให้ถนนกาญจนาภิเษก ขาออกมุ่งหน้า อ.บางกรวย นนทบุรี ติดขัดเนื่องจากมีน้ำเจิ่งนองบนพื้นผิวการจราจรเป็นช่วง ๆ โดยภายในซอยสวนผักฝั่งขาออกถนนกาญจนาภิเษก มีน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. มีรถจอดเสียอยู่ภายในซอยเป็นระยะ เนื่องจากน้ำท่วมสูงเข้ามาภายในห้องโดยสาร รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดคือถนนทุ่งมังกร และถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน บริเวณหน้าศาลแขวงตลิ่งชัน มีน้ำท่วมทั้งเส้นทางรถเล็กต้องชะลอจึงจะสามารถวิ่งผ่านได้

ฝนถล่มกรุงศุกร์สิ้นเดือนส่งผลน้ำท่วมฝั่งธนบุรี | เดลินิวส์

 

31/08 พบซากแมลงสีดำคล้ายมดมีปีกตายเกยหาดยาวกว่า10กม. ชาวบ้านหวั่นเป็นลางร้าย

พบแมลงสีดำ นับล้านตัวถูกคลื่นซัดเกยหาด จึงเดินทางไปที่ ชายหาด พีเอ็มวาย บริเวณ แยกนางยักษ์ ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง พบชาวบ้าน และนักทอ่งเที่ยว กำลังมุงดู ที่ชายหาด บางคนก็ใช้ไม้คุ้นเขี่ย แมลงคล้ายมดดำ แต่มีปีก ที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง เป็นทางยาว 10 กิโลเมตร

นายจัตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง กล่าวว่า จากการสำรวจดูสัตว์ที่ตายไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไร มีลักษณะคล้ายมดดำ แต่มีปีก ตายเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เกิดมา ก็ไม่เคยพบเหตุการณ์ เช่นนี้มาก่อนเกรงว่า จะมีอะไรผิดปกติกับท้องทะเล เพราะนอกจากแมลงสีดำจำนวนมากแล้ว ยังมีกระดองหมึก ที่ปะปนอยู่เป็นจำนวนมากผิดปกติ อยากให้ ผู้ที่มีความรู้ ได้เข้ามาตรวจสอบ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความแตกตื่น ให้กับ ผู้มาพบเห็น โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ที่เป็นลูกทะเล หลายๆคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เพราะก่อนจะเกิดสึนามิครั้งที่แล้ว ก็มีสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ ขึ้นมาตายเหมือนในครั้งนี้

http://www.paipibut.org/view.php?dataid=27711

 

สวัสดีครับทุกท่าน นักเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทุกคน และ ชาวพลังจิต ตอนนี้ก็ล่วงเลยเข้าสู่เดือน กันยายน ปี 2556 เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ เผลอกระพริบใจแผลบเดียวก็ผ่านเวลามาเกือบสิ้นปีแล้วนะครับ

สำหรับในเดือนนี้เป็นต้นไปผมขอยกระดับการเฝ้าระวังภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั่วโลกเป้นระดับสูงสุดนะครับ เราคงจะได้เริ่มเห็นเรื่องราวการทำลายล้างจากธรรมชาติ และ คร่าชิวิตมวลมนุษย์มากขึ้น ตามอัตราการเร่งของการปรับสมดุลทางธรรมชาติ อันหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

นอกจากนี้ผมเองยังขอยกระดับการเฝ้าระวังภัยจากมวลชนและระบบการปกครองบริหารจัดการที่ล้มเหลวและไม่สอดคล้องกันของรัฐและปชช ซึ่งผมในฐานะผู้ที่เสพข้อมูลอย่างยุติธรรม และ มากหลายด้าน ต้องขอฟันธงว่า บ้านเมืองกำลังเดินมาถึงจุดเเตกหักในเวลาอันใกล้ครับ

ทั้งนี้สองเรื่องหลักที่ผมได้กล่าวถึง ก็คงจะเพียงพอที่จะกระตุ้นให้ทุกท่านมีมีใจเตรียมพร้อมรับมือภัยต่างๆได้ตื่นตัวและเตรียมตรวจสอบกระเป็นภัยพิบัติของท่าน ให้ครบถ้วนอีกครั้งนะครับ

สิ่งที่ผมเป็นห่วงในเดือนนี้เป็นพิเศษคือ 1 ภัยธรรมชาติ น้ำ ดิน พายุ และ อื่นๆ 2 ภัยของการเดินทาง บก น้ำ เรือ อากาศ 3 ม็อบและการนองเลือด 4 ระบบที่เริ่มพังทลาย 5 สงครามในต่างประเทศ

ผมและเจ้าหมู หมาของผมเตรียมพร้อมเสบียงและ อุปกรณ์ดำรงชีวิตพื้นฐานเรียบร้อยแล้วครับ และได้ทำการตวจสอบอย่างจรงๆจังอีกหลายครั้ง จึงอยากให้ทุกท่านเตรียมให้พร้อมเช่นกันครับ จากเดือนนี้ไป ไม่ล้อเล่นแล้วนะครับ

ปล อย่าลืมเฝ้าระวังดูการมาของ ดาว ISON นะครับ การชน ไม่ชน อีกเรื่อง เเเต่จากที่เคยเป็น เมือ่มีดาวหางเวียนโคจรกลับมา บนโลกของเรามักเกิดเหตุอะไรเสมอ เช่นโรคระบาด โรคอหิวา ห่า หรือ สงครามครับ และในปีนี้เองที่ดาวหาง ISON จะโคจรผ่านกลับมาครับ คิดแล้วขนลุกครับ


หวังดีและตื่นตัวนกอย่างมีสติ
Sunny430 และเจ้าหมู หมาของผม
นักเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ

 

ขอบคุณคุณ Sunny430 มากครับ สำหรับการเตือนสติ ฯลฯ
ผมตามอ่านโพสส์ต่างๆแบบนี้มานานแล้ว ไม่ค่อยได้แสดงความเห็นเท่าใดนัก
โฟกัสเรื่องคลื่นสึนามิ ฯลฯ จะลงไปทางใต้ซะส่วนใหญ่ ...

อยากให้มองขึ้นมาทางเหนือกันเพิ่มขึ้นครับ บริเวณเขื่อนต่างๆในประเทศจีน ฯลฯ ครับ
ดูกันแบบเตรียมความพร้อมกันไปสักสองสามปีจะได้ไหมครับ? ดูเท่าใดก็ตามแต่สะดวก
แต่ว่าอยากให้เพิ่มการจับจ้องเพิ่มไปที่เขื่อน ภูเขา ฯลฯ ทางเหนือหัวของเราขึ้นไปเช่นจีน
มากขึ้นอีกสักนิดครับ เพราะเป็นเส้นทางผ่านของน้ำตามธรรมชาติส่วนนึงก่อนจะมาหาเรา

จริงๆก็ทราบว่าตามกันอยู่แล้ว เพื่อความโล่งใจปักหมุดลงไปเรื่องนี้เพิ่มบ้างก็ดี ภูเขาถล่ม
ดินสไลด์ ฯลฯ ในช่วงที่เป็นเขื่อนอันตรายมาก ถ้าเกิดมีอะไรแตกหรือแยก น้ำจะไหลกองกันมา
ทั้งสิ่งอื่นๆด้วย เขื่อนอื่นๆที่อยู่ต่ำลงไปอาจจะไม่ได้ออกแบบให้รองรับความแรง ฯลฯ มากมายเช่นนั้น
ก็อาจจะตามๆกันมาได้ อาจมาเป็นยวง โฟกัสเพิ่มเติมโดยการปักหมุดลงไปในเรื่องนี้
คงไม่ใช้เวลานานมากและไม่เสียหลาย เพราะอยู่ในข่ายที่จะกระทบบ้านเราได้ส่วนนึงครับ
ไม่มีอะไรเกิดก็จะดีมากที่สุด เอาเป็นกรณีๆไปก็ได้ครับ แต่คอยตรวจตามสถานะแบบเฝ้าสังเกตุบ้างก็ดีครับ
(แค่เสนอความเห็น)
สมาชิกในห้องนี้ ผมรู้สึกว่าส่วนนึง ที่คอยเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองเราอยู่มาก ในหลายๆด้าน
และคอยบอกคอยช่วยคอยเตือนคอยระวัง ฯลฯ ก็เยอะครับ ... รู้สึกอุ่นใจครับ ... ต่อไปก็ด้วยครับ


^__^
_/]\_

แชร์ๆกันครับ ก็โพสส์กันตามสิทธิที่เขาให้โพสส์ได้ครับ ถ้าซ้ำซ้อนก็ขออภัยด้วยครับ
และก็"รักๆกันเข้าใว้ครับ แม้จะสุขหรือจะทุกข์อย่างไรก็ตาม เราก็ยังเป็นคนไทยเหมือนกันครับ"

.......... .......... ..........

 

พายุดีเปรสชันลูกที่ 15 หรือ TD15W นี้ เมื่อมีความเร็วถึง 35 น็อต จะได้รับชื่อว่า Yutu ยู่ทู่ 玉兔 หรือกระต่ายหยก

01:00 ทางอุตุฯฮ่องกงหรือ HKO ยังไม่ประกาศให้หย่อมความกดอากาศต่ำ 96W เป็นพายุดีเปรสชันตาม JMA/TSR/JTWC แต่ประกาศการก่อตัวของพายุยู่ทู่กลางแปซิฟิคแล้ว



04:00 ทาง JMA ประกาศการก่อตัวของพายุต่างจากทาง JTWC/TSR โดยให้พายุลูกขวามือในภาพหรือ 1316 (รหัสของ JMA) เกิดก่อน จึงจะได้ชื่อเรียก ยู่ทู่ ไปก่อน และลูกด้านซ้ายมือในภาพหรือ 1317 (รหัสของ JMA) เกิดหลัง จึงจะได้ชื่อเรียก โทราจิ ซึ่งทาง JTWC/TSR กลับให้ลูกซ้ายมือเกิดก่อน โดยยังไม่ระบุการเป็นพายุของลูกขวามือหรือ 1316 เลย


08:30 ทาง TSR ยังคงสภาพการประกาศการก่อตัวของพายุในแบบเดิม คือให้ 96W เป็น TD15W ซึ่งอาจมีปัญหาในการใช้ชื่อพายุอันดับถัดไป

 

สตูลเจอภาวะหมอกปกคลุมอย่างหนัก
วันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2556 เวลา 08:27 น.















วันนี้ 2 ก.ย.2556 ผู้สื่อข่าวเดิลินวิส์ประจำจังหวัดสตูลรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้สภาพอากาศในพื้นที่ จ.สตูลเกลื่อนกลาดไปด้วยหมอก หรือ กลุ่มละอองน้ำที่ปรากฏขึ้นมาลอยตัวอยู่เหนือผิวดินไปทั่วในพื้นที่จังหวัดสตูลส่งผลจนทำให้สภาพอากาศทั่วไปหนาวเย็นเป็นพิเศษ นอกจากนั้นยังทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานต้องประสบกับปัญหาทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำมาก ทั้งนี้หมอกละอองเช่นนี้นับว่าผู้ขับขี่ยวดยานต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและขับขี่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งอันเนื่องมาจากมีหมอกหนาทึบปกคลุมจนมองไม่เห็นเส้นทางโดยเฉพาะการขับขี่รถประเภทหวาดเสียวขับขี่จ่อท้ายรถคันวิ่งข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หมอกละอองน้ำดังกล่าวนี้ยังพบว่ายังปกคลุมปิดบังดวงอาทิตย์อย่างน่าอัจศจรรย์ยิ่งโดยหมอกละอองน้ำที่ปกคลุมในพื้นที่จังหวัดสตูลดังกล่าวนี้คาดว่าในช่วงสายๆสภาวะสภาพกลุ่มหมอกกลุ่มละอองน้ำนี้คงจะจางหายหมดไปส่งให้สภาพอากาศในพื้นที่เมืองสตูลคงจะเข้าสู่สภาวะปกติต่อไปอย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีหมอก หรือกลุ่มละอองน้ำดังกล่าวนรี้ได้ลอยตัวเหนือพื้นดินไปทั่วในพื้นที่มาครั้งหนึ่งแล้ว


ที่มา สตูลเจอภาวะหมอกปกคลุมอย่างหนัก | เดลินิวส์

 

ไทยตอนบนฝนลดลง ใต้ฝนเพิ่มมากขึ้นระยะ1-2 วันนี้



ไทยตอนบนฝนลดลง ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะ1-2 วันนี้ โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากจ.ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล กรุงเทพฯและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตกร้อยละ 40...

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะ1-2 วันนี้

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 06.00น.วันนี้ ถึง 06.00น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด นครสวรรค์ อุทัยธานี สระบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพฯและปริมณฑลมีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 40 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.