วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย anuchang, 10 มิถุนายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. upavana

    upavana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +1,075
    รายการ262ยังมีไหมครับ
     
  2. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จองครับ
     
  3. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จองครับ
     
  4. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 266 พระสมเด็จเขี้ยวแก้ว เนื้อแร่เหล็กไหล พิมพ์เล็ก (ขนาดเท่าพระวัดปากน้ำ) ปี 2540 (องค์ที่ 1)
    พระครูสุกิจจานุรักษ์ (ก๋วน อคฺควโย) วัดตะเคียนทอง ต.แกลง อ.เมือง ระยอง

    คุณ แปดเหลี่ยม บูชาแล้ว EK 169042657 TH

    [​IMG]

    หลวงปู่ก๋วนท่านสร้างเอาไว้จำหน่ายเพื่อเอาไว้ปรับปรุงเสนาสนะของวัด
    และเพื่อเอาไว้สร้างโบสถ์ในอนาคต โดยเก็บเอาไว้ใต้หลังคาโบสถ์
    สร้างพร้อมกันด้วยมวลสารเดียวกันกับพิมพ์สมเด็จเกศทะลุซุ้มที่ราคาเป็นหมื่น
    พระรุ่นนี้เป็นพระเนื้อผงที่อุดมไปด้วยผงแร่ง่วนดิน กะปิดิน เครือดิน มากเป็นพิเศษ
    ทว่าเนื้อพระยังไม่แกร่งเหมือนพระพิมพ์ปรกโพธิ์ที่ท่านสร้างราวๆ ปี 2545-46


    พระรุ่นนี้หลวงปู่ก๋วนท่านได้บอกกับตาปื๊ดว่า “ เอาปืนลองเลย ยิงไม่ออก ”
    ก็เลยมีลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรนำไปทดลองยิงปรากฏว่าปืนยิงไม่ออกจริงๆ
    ทำให้เป็นที่เสาะหากันมากในหมู่ตำรวจปากน้ำประแสร์

    [​IMG]

    ง่วนดิน กะปิดิน เครือดิน ธาตุสามชนิดนี้เมื่อนำมาคลุกเคล้ารวมกันแล้วอธิษฐานจิตหลอมธาตุเป็นหนึ่งเดียวจะกลายเป็น เหล็กไหล
    หลวงปู่ก๋วนท่านเป็นผู้ค้นพบ และท่านได้สร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์เนื้อเหล็กไหลที่มีอานุภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์
    จากการหลอมธาตุทั้งสามเป็นหนึ่งเดียวด้วยวิปัสสนาญาณของท่าน


    หลวงพ่อมหาบุญมีท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า...
    ในระหว่างที่หลวงปู่ก๋วนท่านได้ทรงญาณอยู่ในถ้ำเขตเขาชะเมา-ชะอางค์โอน
    ได้บังเกิดนิมิตรเห็นเทวดาในถ้ำ (เทพที่รักษาเหล็กไหล) ได้นำเหล็กไหลมาใส่ลงในมือท่าน
    รูปพรรณสัณฐานขนาดเท่าเม็ดข้าวสารสีดำ
    ท่านเห็นแล้วท่านก็ตอบกลับไปว่า

    “ ลูกศิษย์ของอาตมามีมาก หากได้ไปก็แบ่งให้กันไม่ครบ
    เอาอย่างนี้อาตมาขอหินขอแร่ที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ไปแล้วกัน "

    เมื่อเทวดาหรือเทพที่รักษาเหล็กไหลได้ยินอย่างนั้นก็บอกกับหลวงปู่ก๋วนท่านว่า " ถ้าอย่างนั้นก็ได้ "
    หลวงปู่ท่านก็จึงเก็บเอาหินและแร่ที่เคยเป็นที่อยู่ที่อาศัยของเหล็กไหลไป
    ก่อนหยิบท่านได้ถามเทพยดาที่รักษาเหล็กไหล
    ว่า " หินก้อนนี้หยิบได้ไหม "
    เทพยดาที่รักษาเหล็กไหลก็ตอบว่า " ได้ "
    พอท่านหยิบอีกก้อนหนึ่งก็ถามเทพยดาที่รักษาเหล็กไหลว่า " หยิบได้ไหม "
    เทพยดาที่รักษาเหล็กไหลก็ตอบว่า " ไม่ได้ "

    [​IMG]

    ทุกครั้งที่หลวงปู่ท่านหยิบท่านจะถามอย่างนี้ทุกครั้ง และท่านก็ได้นำหินก้อนแร่ต่างๆ ที่เทพยดาที่รักษาเหล็กไหลให้มา
    นำมาสร้างเป็นพระสมเด็จอันลือเลื่องทรงพุทธานุภาพสูงยิ่งนัก
    พระผงเหล็กไหลของท่านแปลกมาก ที่เป็นเนื้อผงก็จริง แต่สามารถเอาแปรงทองเหลืองขัดได้
    ยิ่งขัดก็ยิ่งขึ้นเงาและเปลี่ยนเป็นสีดำมันเงามากขึ้นเท่านั้น

    [​IMG]

    หลวงปู่ก๋วน วัดตะเคียนทอง พระอริยเจ้าที่ทรงภูมิธรรมชั้นสูง รู้วาระจิต ตรวจกรรม เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับพระอุปคุต
    สรีระไม่เน่าเปื่อย เหรียญรุ่น 80 ปีของท่านเทวดามาขอ พระแม่คงคาก็มาขอ
    ท่านเป็นพระที่มีศีลจารวัตรดีเลิศ เอาใจใส่ลูกศิษย์ทุกคน
    หลวงปู่เป็นพระปฏิบัติดี และสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติตามท่าน ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานสายยุบหนอ-พองหนอ
    โดยท่านได้ธรรมกายมาก่อน แล้วท่านก็ได้บรรลุธรรมสูงสุดด้วยบริกรรม ยุบหนอ-พองหนอ
    ตามแนวทางที่ เจ้าคุณโชดก พระธรรมธีรราชมหามุนี (ปธ.9) วัดมหาธาตุๆ ได้ให้แนวทางไว้


    พระเทพวงศาจารย์ วัดหนองแวงพระอารามหลวง ขอนแก่น (ผู้สร้างองค์พระธาตุขามแก่น)
    ได้เคยถามหลวงปู่ก๋วนว่าภูมิธรรมของหลวงปู่อยู่ถึงไหน แต่ท่านไม่บอก
    ท่านเจ้าพระคุณฯ จึงได้ถามหลวงปู่ก๋วนโดยสมมุติภูมิธรรมให้หลวงปู่
    แล้วท่านก็ลองถามว่าหลวงปู่สำเร็จชั้นนี้แล้วใช่ไหมครับ...
    แต่หลวงปู่ท่านก็ตอบกลับมาว่าอยู่สูงกว่านั้น
    ท่านก็ถามอีก แต่หลวงปู่ก็ตอบกลับเหมือนเดิม “ อยู่สูงกว่านั้น ”
    จนสุดท้ายท่านก็ไม่มีไรจะถามหลวงปู่ต่อไปได้อีก

    เหล่าญาติโยมที่มีเรื่องทุกข์ใจจะเดินทางมาหาหลวงปู่ขอให้หลวงปู่ดูให้หน่อย (ดูด้วยตาในคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็น)
    ว่าทำไมชีวิตถึงได้ประสบเคราะห์กรรมแบบนี้
    และหลวงปู่ท่านก็จะดูให้โดยท่านจะพูดโต้ตอบกับสิ่งที่มองไม่เห็นในอีกมิติหนึ่ง แล้วก็บอกให้ญาติโยมนำไปแก้ไข
    แม้แต่ฝรั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวสวนสน ระยอง ยังเอ่ยปากเรียก หลวงปู่ก๋วนว่า
    “ The Magic of Monk ” (หลวงปู่ตาทิพย์หูทิพย์)

    เวลามีใครไปหาท่านที่วัดตะเคียนทองเพื่อช่วยให้ท่านดูให้ว่าทำไมถึงมีเรื่องทุกข์เข็ญใจเช่นนี้
    ท่านก็จะให้เขียนชื่อและชื่อสกุลลงในแผ่นกระดาษจากนั้นท่านก็จะตรวจกรรมให้
    บางรายแค่ส่งให้ท่านดูท่านก็ตอบให้ทันที บางรายท่านจะใช้เวลาอยู่ 5-10 วินาที ท่านก็จะตอบไขข้อข้องใจให้ทราบ
    โดยท่านจะบอกไปแก้ในสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรตามติดตัวและเขาต้องการอะไร หลวงปู่ก็จะคุยกับเจ้ากรรมนายเวรให้
    ที่ต้องใช้คำว่า “ คุย ” เพราะระหว่างที่หลวงปู่กำลังช่วยเหลือคนผู้นั้นอยู่ท่านจะเอียงศีรษะนิดๆ และคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็น
    บางครั้งจะเห็นท่านเจราจาต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรเพื่อให้เขาอโหสิกรรมหรือผ่อนหนักเป็นเบา จากนั้นก็ไปแก้ตามที่เขาขอมา

    [​IMG]

    หลวงปู่ก๋วนเคยเล่าว่า...ตัวท่านเคยเกิดเป็นฤาษีมาหลายชาติ และท่านเคยได้สาบานเป็นพี่น้องกับพระอุปคุตเอาไว้
    หลังจากท่านไม่อยู่ พระอุปคุตจะเป็นผู้รักษาสังขารของท่านไว้ 100 ปี
    ซึ่งหลังจากที่ท่านมรณภาพแล้ว สรีระสังขารของท่านก้ไม่เน่าเปื่อยดังที่ท่านกล่าวไว้จริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2013
  5. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 267 พระสมเด็จเขี้ยวแก้ว เนื้อแร่เหล็กไหล พิมพ์เล็ก (ขนาดเท่าพระวัดปากน้ำ) ปี 2540 (องค์ที่ 2)
    พระครูสุกิจจานุรักษ์ (ก๋วน อคฺควโย) วัดตะเคียนทอง ต.แกลง อ.เมือง ระยอง

    คุณ j999 บูชาแล้ว EK 169072676 TH

    [​IMG]

    พระครูสุกิจจานุรักษ์ (ก๋วน อคฺควโย) นามเดิม ก๋วน สกุล ริมราง บิดา นายเปรม ริมราง (มารดาไม่ทราบ) เกิดปีมะเมีย วันที่ 16 มิถุนายน 2461 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง
    เมื่ออายุครบบวชแล้วท่านได้อุปสมบท ณ วัดตะเคียนทอง ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2491 โดยมี

    • พระครูประทุมธรรมมาภิบาล (เย็น อุปลวณฺโณ) วัดจันทร์สุวรรณโพธิธาราม (วัดบ้านแลง) เป็นพระอุปัชฌาย์
    • พระอธิการสนธิ์ (พระครูโกศลสังฆกิจ) วัดตะเคียนทอง ระยอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    • พระอธิการรวย (พระครูสุนทรธรรมมานุศาสตร์) วัดท่าเรือ ระยอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    สำเร็จญัตติจตุตถกรรมวาจาเวลา 14.29 น. ได้รับฉายาว่า อคฺควโย
    หลวงปู่ก๋วน ท่านเป็นพระที่มีศีลจารวัตรดีเลิศ เอาใจใส่ลูกศิษย์ทุกคน หลวงปู่เป็นพระปฏิบัติดี และสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติตามท่าน ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานสายยุบหนอ-พองหนอ
    หลวงปู่ก๋วน ท่านได้ละสังขารเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2548 สิริอายุ 87 ปี 57 พรรษา สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อยดังที่ท่านกล่าวไว้ก่อนล่วงหน้า
    เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2548 ก่อนที่หลวงปู่จะละสังขาร หลวงปู่อยู่ที่ศาลาหลังใหญ่สวมอังสะมีพระอุปัฏฐาก 2 รูปจับจีวรคลุมทับอังสะให้หลวงปู่ วันนั้น ท่านเจ้าคุณพระเทพวงศาจารย์ วัดหนองแวง ได้ถามหลวงปู่ว่า " ปีนี้หลวงปู่อายุเท่าไหร่ครับ " หลวงปู่ตอบกลับมาว่า " 103 ปี " ท่านพูดด้วยน้ำเสียงอันดังได้ยินกันไปหมด ท่านเจ้าคุณฯ จึงเอ่ยนิมนต์ขอให้ท่านอยู่ต่อแต่ท่านทำมือปัดไปมาแบบไม่เอา แสดงว่าท่านไม่รับ
    เมื่อท่านมรณภาพทิ้งสังขารไว้แล้ว พระอาจารย์น้ำเพชรได้เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ท่านได้เก็บรักษาวัตถุธาตุที่หลวงปู่ก๋วนท่านได้มามีทั้งรูปทรงกลมขนาดใหญ่ รูปเหลี่ยม และพระเครื่องสมัยปี 2540 รวมถึงที่สร้างก่อนหน้า


    พบหลวงปู่ครั้งแรก
    ครั้งแรกที่ผม (หนุ่ย รัตฐณู) ได้พบหลวงปู่นั้น ผมได้ไปกับหลวงตาท่านเจ้าคุณพระเทพวงศาจารย์ ไปตอนออกพรรษาปี 2540 หลวงปู่อาศัยอยู่ภายในกุฏิกระต๊อบหลังเล็กๆ สีออกไข่ไก่ซีดๆ เมื่อพระอาจาริยะสองรูปพบเห็นหน้ากัน หลวงตาของผมได้ก้มลงกราบหลวงปู่ก๋วน และหลวงปู่ก๋วนเองท่านก็พนมมือรับไหว้ท่านกล่าวกับหลวงตาของผมว่า “ ท่านมหาบุญมีสำเร็จแล้ว ”
    ภายในห้องกุฏิของหลวงปู่เมื่อมองผ่านตรงประตูเข้าไปผมเห็นรูปใบใหญ่รูปหนึ่งเป็นภาพถ่ายรูปใหญ่สมัยที่หลวงปู่ก๋วนท่านยังเป็นหนุ่มๆ (ยังไม่ได้บวช) แขวนเอาไว้บนคานกุฏิ
    หลวงตาได้ถามหลวงปู่ว่า “ หลวงปู่แข็งแรงดีนะ ”
    “ ข้างบนเขาขอแล้ว ” พร้อมๆ กับที่ท่านชี้มือขึ้นไปบนฟ้า
    หลวงตาจึงได้บอกหลวงปู่ว่า “ ขอกราบนิมนต์หลวงปู่อยู่ครบ 100 ปีครับ ”
    หลวงปู่ก๋วนท่านนั่งนิ่ง บรรยากาศในขณะนี้ช่างเงียบกริบเสมือนหนึ่งท่านกำลังเจริญกรรมฐานไปพร้อมๆ กับการพิจารณา
    หลวงตาจึงได้กล่าวกับหลวงปู่ “ พระสี่องค์นี้ผมขอนะครับ.. (เป็นพระพิมพ์สมเด็จซุ้มระฆังพิมพ์ใหญ่มีสองพิมพ์)....พอดีผมเห็นตกอยู่บนพื้นหญ้า ” (พระที่ปั๊มเสร็จถูกตากแดดอยู่บนสังกะสีบ้าง อยู่บนแคร่ไม้ไผ่ระแนงบ้าง)
    หลวงปู่ตอบว่า “ พระทำไว้ขาย องค์ละร้อย ”
    ก่อนกลับหลวงตาท่านได้ถวายปัจจัยให้กับหลวงปู่โดยใส่ในซองสีขาวแล้วกล่าวว่า “ ถวายหลวงปู่ไว้กินขนมครับ ”
    พระองค์ละร้อย ที่หลวงปู่ก๋วนท่านกล่าวถึงคือ พระสมเด็จปี 2540 หลวงปู่ท่านสร้างเอาไว้จำหน่ายเพื่อเอาไว้ปรับปรุงเสนาสนะของวัดและเพื่อเอาไว้สร้างโบสถ์ในอนาคต ใครมาเห็นก็ทำบุญบูชาไปและก็มีบ้างที่มอบให้กับพระวัดอื่นที่ขอให้หลวงปู่สร้างพระเนื้อผงให้ จากคำบอกเล่าของพระอาจารย์น้ำเพชรเท่าที่จำได้มีอยู่วัดหนึ่งที่เคยให้หลวงปู่ช่วยสร้างให้คือ วัดเขาบ่อทอง
    พระรุ่นนี้เป็นพระที่หลวงปู่ก๋วนท่านได้บอกกับตาปื๊ดว่า “ เอาปืนลองเลย ยิงไม่ออก ” แสดงว่าตาปื๊ด ลองยิงได้คนเดียวคนอื่นลองไม่ได้เดี๋ยวจะติดกรรม ต้องกล่าวแบบนี้เพราะอาจจะมีผู้เหมารวมว่าหลวงปู่อนุญาต แต่จริงๆ แล้วหลวงปู่พูดกับใครคนนั้นลองยิงได้ คนอื่นจะยิงจะลองทำไม่ได้เดี๋ยวจะติดกรรม ท่านอนุญาตตาปื๊ดคนเดียว
    พระรุ่นนี้แต่ก่อนหลวงพ่อมหาบุญมีได้มอบให้กับครอบครัวผมไว้ 3 องค์ เป็นพิมพ์ซุ้มระฆังเรียบมีตัวซุ้มกับส่วนที่เป็นลำตัวพระนูนออกมา กับพิมพ์ซุ้มระฆังที่พื้นที่ภายในซุ้มระฆังต่ำกว่าพื้นที่รอบนอกซุ้มระฆังองค์พระจะนูน พระของหลวงปู่ผมได้ให้ตาปื๊ดไป 1 องค์ และให้น้องชายคนเล็กไป 1 องค์ เป็นแบบเรียบ คงเหลือที่ผมอีก 1 องค์เป็นนูนต่ำ แต่น่าเสียดายที่น้องชายคนเล็กทำพระองค์นี้หาย
    พระรุ่นปี 2540 เคยมีประสบการณ์กับตัวเองจากเหตุถูกสันขื่อของบ้านกระแทกตรงกลางกระหม่อมอย่างแรงจนทุกคนในบ้านบอกว่าเสียงอะไรชนกับขื่อบ้านทำไมเสียงดังขนาดนี้ ผลปรากฏว่าที่ศีรษะมีเลือด ออกซิบๆ แค่ยางบอนเท่านั้น ทั้งๆ ที่โดนกระแทกเต็มแรงขนาดนั้น แต่ทำไมหัวไม่แตก
    อีกเรื่องหนึ่งที่กล่าวถึงคือ ลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรนำไปทดลองยิงปรากฏว่าปืนยิงไม่ออก

    ภูมิธรรมของหลวงปู่
    หลวงปู่ก๋วนท่านมีลูกศิษย์อยู่มากทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ยิ่งพระลูกศิษย์สายอีสานยิ่งมีมาก และพระเครื่องที่หลวงปู่สร้างไว้ก็ตกอยู่กับพระลูกศิษย์สายอีสานเป็นส่วนใหญ่
    หลวงพ่อมหาบุญมีท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่าท่านธุดงค์จากอิสานมาพบพระอาจารย์สันต์ที่ทางแถบเขาชะเมาเมื่อปี 2528 และพระอาจารย์สันต์ได้ชวนหลวงพ่อมหาบุญมีไปเป็นศิษย์หลวงปู่ก๋วน หลวงพ่อมหาบุญมีจึงไปกราบถวายตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อมหาบุญมีท่านว่าหลวงปู่ก๋วนท่านได้ธรรมกายมาก่อน แล้วท่านก็ได้บรรลุธรรมสูงสุดด้วยบริกรรม ยุบหนอ-พองหนอ ที่ เจ้าคุณโชดก พระธรรมธีรราชมหามุนี (ปธ.9) วัดมหาธาตุๆ ได้ให้แนวทางไว้ (เจ้าคุณโชดก เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จย่าและหลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน)
    พระเทพวงศาจารย์ วัดหนองแวงพระอารามหลวง ขอนแก่น ได้เคยถามหลวงปู่ก๋วนว่าภูมิธรรมของหลวงปู่อยู่ถึงไหน แต่ท่านไม่บอก ท่านเจ้าพระคุณฯ จึงได้ถามหลวงปู่ก๋วนโดยสมมุติภูมิธรรมให้หลวงปู่ แล้วท่านก็ลองถามว่าหลวงปู่สำเร็จชั้นนี้แล้วใช่ไหมครับ...แต่หลวงปู่ท่านก็ตอบกลับมาว่าอยู่สูงกว่านั้น ท่านก็ถามอีก แต่หลวงปู่ก็ตอบกลับเหมือนเดิม “ อยู่สูงกว่านั้น ” จนสุดท้ายท่านก็ไม่ถามหลวงปู่ต่อไปอีก


    ครูอาจารย์ของศิษย์
    ในปี 2540 หลวงพ่อมหาบุญมีเล่าให้ฟังว่า ในปีนั้นหลวงปู่ท่านเร่งความเพียรแก่เหล่าหมู่ลูกศิษย์ของท่านทุกองค์ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อมหาบุญมี หลวงพ่อสันต์ พระอาจารย์น้ำเพชร อาจารย์เมิน เป็นต้น (หลวงปู่ก๋วนออกปากรับรองว่าถ้าไม่เจอหลวงปู่ก็ให้ไปหาพระอาจารย์ที่กล่าวถึงได้) ปีนั้นมีพระจากภาคอีสานมาให้หลวงปู่สอบอารมณ์จำนวนมากนับเกือบร้อยรูปจนแน่นพระอุโบสถ
    ลูกศิษย์ที่จัดได้ว่าเป็นสายตรงของหลวงปู่ก๋วน มีดังนี้
    1. พระอาจารย์น้ำเพชร มหาลาโภ เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง มีอาจารย์ต้อย อาจารย์เมิน
    2. พระอาจารย์สันต์ เจ้าอาวาสวัดเขาตะแบก บ้านค่าย ระยอง
    3. พระอาจารย์สันติ วัดดอยแม่สลอง เชียงราย
    4. พระอาจารย์บุญมี วัดป่าสันติวัน มหาสารคาม
    5. พระอาจารย์บุญมี วัดพุทธธรรมวนาราม สุรินทร์
    6. พระอาจารย์นพ วัดถ้ำเขาชะอางค์ กิ่งอำเภอเขาชะเมา ระยอง
    7. พระอาจารย์สมคิด วัดศรีพุ่มโพธิ์ ชลบุรี
    8. พระอาจารย์ไพรสณฑ์ วัดโคกหลวง ราชบุรี

    ในปี 2541 ในระหว่างช่วงออกพรรษาใหม่ๆ พระคุณเจ้าพระเทพวงศาจารย์ ได้พาภริยาของอดีตท่านผู้ใหญ่ของจังหวัดแห่งหนึ่งเข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ก๋วน ที่วัดตะเคียนทอง ระยอง โดยการไปครั้งนี้ท่านเจ้าคุณพระเทพวงศาจารย์ท่านจะกระทำเป็นประจำทุกปีที่ถือออกพรรษาเสร็จแล้วจะต้องเข้าไปกราบสักการะเยี่ยมอริยะสงฆ์ครูบาอาจารย์ทุกองค์
    เมื่อไปถึงวัดตะเคียนทองครานั้นหลวงปู่ท่านนั่งอยู่หน้ากุฏิเก่าหลังเล็กๆ ท่านเจ้าคุณฯ ได้ก้มลงกราบอาจาริยะบูชาต่อหลวงปู่ก๋วน หลวงปู่ก๋วนท่านก็รับไหว้ด้วยท่านั่งพับเพียบ
    ท่านเจ้าคุณฯ เอ่ยขึ้นก่อนว่า “ หลวงปู่แข็งแรงนะครับ ”
    หลวงปู่ก๋วนท่านก็ตอบกลับมาพร้อมกับชี้มือขึ้นไปบนฟ้าว่า “ จะไปแล้วข้างบนเขาขอ ”
    หลวงตาของผมก็ตอบกลับหลวงปู่ไปว่า “ นิมนต์หลวงปู่อยู่ครบ 100 ปีครับ ”
    หลวงปู่ก๋วนท่านก็นั่งนิ่งๆ ไม่มีอาการอันใดเหมือนกับครั้งแรกที่ท่านเจ้าคุณฯ เคยพูดขอกับท่านแบบนี้ สักพักหนึ่งหลวงตาของผมก็พูดกับหลวงปู่ว่า
    “ วันนี้ผมพาภริยาของอดีตท่านผู้ใหญ่ของจังหวัดมากราบหลวงปู่ จะมาขอให้หลวงปู่ช่วยดูให้ว่า..คนๆ นี้มีความสามารถที่จะช่วยเหลือครอบครัวท่านได้ไหม เพราะหากช่วยเหลือไม่ได้จะทำให้เกิดภาระหนี้สินขึ้นกับครอบครัวเป็นจำนวนนับหลายล้านบาท....”
    หลวงปู่ท่านหันหน้ามาทางภริยาท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ แล้วบอกให้ภริยาท่านๆ...เขียนชื่อกับชื่อสกุล...แล้วท่านก็นั่งขัดสมาธิเอนกายมาข้างหน้านิดหนึ่งเหมือนคุยกับใครที่เรามองไม่เห็น ท่านคุยไปๆ ก็เอานิ้วชี้ของท่านเต๊าะที่เสื่อที่ท่านนั่งอยู่ ท่านหันไปทางซ้ายเอียงหน้าเบาๆ พูดกับสิ่งที่มองไม่เห็นว่า “ ได้ ๆ ” แล้วท่านเงยหน้ามาหาหลวงตาของผมบอกว่า “ คนที่ทำให้ท่านๆ ต้องเป็นแบบนี้ ต้องตกนรก 500 ปีนรก แล้วคนที่ติดต่ออยู่สามารถช่วยได้ ”
    แล้วท่านเจ้าคุณฯ ก็สนทนาเรื่องกรรมต่างๆ กับหลวงปู่ สักพักหลวงปู่ท่านก็เอามือล้วงไปที่อังสะของท่านหยิบ วัตถุธาตุทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวอมเทา มีลายเส้นสีเหลืองปรากฏบนก้อน ขนาดเล็กประมาณ กว้าง 18 มม. สูง 24 มม. หนา 7-8 มม. มา 2 ชิ้น ท่านหยิบมาใส่มือท่านเจ้าคุณฯ แล้วก็มองมาทางภริยาท่านผู้ใหญ่ของจังหวัด ท่านเจ้าคุณฯ ท่านก็รับและก็ส่งให้กับภริยาท่านผู้ใหญ่ของจังหวัด
    วัตถุธาตุนี้ จริงๆ แล้วเป็นหินแร่ 3 ชนิดที่รวมตัวกันเป็นเหล็กไหล เป็นที่อยู่ของเหล็กไหลแม่ พระอาจารย์น้ำเพชรบอกว่าเป็น เหล็กไหลมหาอำนาจ โดยจะมีเหล็กไหลมหาอำนาจกับเหล็กไหลมหานิยม โดยที่ท่านพระเทพวงศาจารย์ได้ไปเป็นเหล็กไหลมหาอำนาจ ส่วนที่ภริยาท่านผู้ใหญ่ของจังหวัดได้ไปเป็นเหล็กไหลมหานิยม พระอาจารย์สันต์ท่านก็บอกว่าเหล็กไหลชนิดนี้ “ ปืนยิงไม่ออกหรอก ”

    The Magic of Monk (หลวงปู่ตาทิพย์หูทิพย์)
    ไม่ว่าจะใกล้ไกลสักแค่ไหน เหล่าญาติโยมที่มีเรื่องทุกข์ใจจะเดินทางมาหาหลวงปู่ขอให้หลวงปู่ดูให้หน่อย (ดูด้วยตาในคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็น) ว่าทำไมชีวิตถึงได้ประสบเคราะห์กรรมแบบนี้ และหลวงปู่ท่านก็จะดูให้โดยท่านจะพูดโต้ตอบกับสิ่งที่มองไม่เห็นในอีกมิติหนึ่ง แล้วก็บอกให้ญาติโยมนำไปแก้ไข
    แม้แต่ฝรั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวสวนสน ระยอง ยังเอ่ยปากเรียก หลวงปู่ก๋วนว่า “ The Magic of Monk ” (หลวงปู่ตาทิพย์หูทิพย์)
    ตรวจสอบกรรม
    ปฏิปทาของหลวงปู่ที่น่าจดจำระลึกถึงที่สำคัญก็คือ หลวงปู่ก๋วนท่านช่วยเหลือญาติโยมที่มีทุกข์ด้วยการตรวจสอบกรรมเพื่อให้กรรมนั้นบรรเทาลง เวลามีใครไปหาท่านที่วัดตะเคียนทองเพื่อช่วยให้ท่านดูให้ว่าทำไมถึงมีเรื่องทุกข์เข็ญใจเช่นนี้ ท่านก็จะให้เขียนชื่อและชื่อสกุลลงในแผ่นกระดาษจากนั้นท่านก็จะตรวจกรรมให้ บางรายแค่ส่งให้ท่านดูท่านก็ตอบให้ทันที บางรายท่านจะใช้เวลาอยู่ 5-10 วินาที ท่านก็จะตอบไขข้อข้องใจให้ทราบ โดยท่านจะบอกไปแก้ในสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรตามติดตัวและเขาต้องการอะไร หลวงปู่ก็จะคุยกับเจ้ากรรมนายเวรให้ ที่ต้องใช้คำว่า “ คุย ” เพราะระหว่างที่หลวงปู่กำลังช่วยเหลือคนผู้นั้นอยู่ท่านจะเอียงศีรษะนิดๆ และคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็น บางครั้งจะเห็นท่านเจราจาต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรเพื่อให้เขาอโหสิกรรมหรือผ่อนหนักเป็นเบา จากนั้นก็ไปแก้ตามที่เขาขอมา
    ครั้งหนึ่งผมเคยถามท่านว่าที่บ้านของผมเป็นอะไร ทำไมช่วงนี้แต่ละคนถึงมีอารมณ์ร้อนนัก ท่านดูให้แล้วก็บอกว่า “ ตาของแม่ (ที่เสียไปแล้ว) เขาไม่พอใจ จึงแกล้งให้เป็นแบบนี้ ให้เอาบุหรี่ยาเส้น 9 มวน เหล้า 2 ขวด เอาธูป 15 ดอก ไปจุดนอกชานบ้าน บอกให้เขามารับซะ ” ผมก็ทำตามที่หลวงปู่บอก
    เพื่อนคนหนึ่งอยากมีลูกมากเหลือเกินเพื่อให้สืบสกุล จึงได้ไปหาหลวงปู่บอกว่าอยากมีลูกให้หลวงปู่ช่วยที หลวงปู่ก็บอกว่า “ เรื่องลูกหลวงปู่ช่วยเหลือขอให้ไม่ได้ หลวงปู่ไม่ยุ่ง ”
    พี่ที่รู้จักอีกคนหนึ่งไปหาหลวงปู่ถามหลวงปู่ว่า...ที่ดินของเขาติดจอมปลวกขนาดใหญ่จะเป็นอะไรไหม หลวงปู่ท่านตอบว่าไม่เป็นไรเพราะมันยังห่างอยู่ แต่ก็น่าแปลกหลวงปู่กับพี่ที่ผมรู้จักคุยกันเหมือนอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ ทั้งที่หลวงปู่เองก็ไม่เคยเห็นที่ดินผืนนั้นแต่หลวงปู่กลับบอกตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ
    การแก้กรรมที่หลวงปู่ท่านสงเคราะห์ช่วยเหลือนั้น ท่านช่วยบรรเทาให้เท่านั้นเหมือนผ่อนหนักเป็นเบา แต่บางคนมีกรรมมีเวรเยอะก็ไม่หายเพราะเจ้ากรรมนายเวรยังตามมาดร้ายอยู่ก็ต้องรอเขาอโหสิกรรมให้
    บางรายกรรมนี้หมดไป แต่ก็มีเจ้ากรรมนายเวรรายใหม่มาทวงแทนก็ต้องตามแก้กันไปเรื่อยๆ อันนี้ก็เพราะทุกคนที่เกิดร่วมกันมาในโลกนี้ต่างก็มีเวรกรรมที่สร้างกันมามากมายเพราะต่างเกิดมานับชาติครั้งไม่ถ้วน
    เรื่องของกรรมจึงสลับซับซ้อน เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด หลวงปู่ก๋วนท่านสามารถระลึกชาติ มองเห็นภพภูมิทุกมิติทั้งของตัวท่านเองและของผู้อื่นได้อย่างละเอียดถึงต้นเหตุปฐมภูมิ ท่านเป็นสงฆ์ที่เปิดโลกธรรมให้ญาติโยมเห็นกรรมของตัวเอง บางเรื่องท่านบอกให้ทราบแต่หากว่ามันมากเกินกว่าที่ท่านจะพูดท่านก็จะบอกแก้อันที่สำคัญก่อน แต่ผู้ที่ถามต้องฉลาดถามจึงจะได้คำตอบ แล้วก็ต้องใช้สติปัญญาของตัวเองตามแก้ไขชีวิตของตัวเองต่อไป


    รู้วาระจิต
    ตอนปลายปี 2540 ผมและน้องชายลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อ ตาเก๋ ได้ขับรถไปเมืองจันทบุรี และในระหว่างขากลับตั้งใจว่าจะเข้าไปกราบหลวงปู่และจะนำเงาะที่อุตส่าห์ซื้อมาจากเมืองจันท์ไปถวายหลวงปู่ ครานั้นผมเห็นเวลาก็ 18.30 น.แล้ว ปกติเวลาอย่างนี้หลวงปู่ท่านจะต้องเข้าโบสถ์เพื่อสอนธรรมสอบอารมณ์พระลูกศิษย์ที่เข้ามาเรียนกรรมฐานกับท่านแล้ว ขณะที่น้องชายผมกำลังขับรถจากตัวเมืองจันท์เพื่อมุ่งหน้าไปวัดตะเคียนทอง ผมคิดในใจว่ายังไงคงไปไม่ทันจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานยกมือพนมมือขึ้นบอกกล่าวโดยกำวัตถุธาตุหินแร่เหล็กไหลที่หลวงปู่ก๋วนท่านให้มาว่า “ ลูกขอตั้งจิตถึงหลวงปู่ก๋วน ขอความเมตตาหลวงปู่ช่วยกรุณาอยู่รอลูกด้วย ”
    พอรถถึงหน้าวัดตะเคียนทองผมมุ่งตรงไปยังกุฏิหลังเล็กๆ ที่หลวงปู่อยู่แต่ก็ไม่พบหลวงปู่ พอดีเห็นพระบวชใหม่องค์หนึ่งเดินอยู่ผมจึงถามว่าหลวงปู่ก๋วนท่านอยู่ไหนครับ และพระบวชใหม่ก็บอกว่าท่านอยู่โรงครัวติดกุฏิแม่ชี ผมกับน้องชายด้วยความดีใจจะได้พบหลวงปู่จึงรีบเดินเข้าไปหาท่าน เห็นท่านนั่งอยู่กำลังสนทนากับญาติโยมแม่ชี หลวงปู่ท่านนั่งอยู่เก้าอี้ไม้ธรรมดา ท่านกำลังพูดกับโยมประมาณ 7-8 คนและแม่ชี 4-5 คน หลวงปู่พูดถึงแผ่นดินพระ...ราชาสมัยกรุงศรีอยุธยาราชธานี...ท่านเหลือบตามองมาทางผม 2ครั้ง จากนั้นผมก็ก้มลงกราบท่าน
    ขณะที่ผมกำลังก้มกราบท่านมีสุนัขแม่ลูกอ่อนตัวเมียอยู่ตัวหนึ่งมันนั่งเฝ้าหลวงปู่อยู่ตรงเก้าอี้โดยไม่ไปไหนและมันก็เห่าผมกับน้องชาย หลวงปู่ท่านเห็นดังนั้นจึงพูดด้วยเสียงอันดังและเร็วมากว่า “ ไปนั่งทางโน้น ” ผมยังใจลอยครองสติไม่ได้เพราะความดีใจที่ได้พบหลวงปู่ แล้วก็พบว่าท่านรอผมอยู่จริงๆ เสียงหลวงปู่พูดด้วยเสียงอันดังขึ้นมาอีก “ ไปนั่งทางโน้น ” ผมได้ยินเสียงเห่าอย่างเกี้ยวกราดของหมาแม่ลูกอ่อนแต่จิตใจผมก็ไม่ได้สนใจเสียงหมาเห่าผมเลย แล้วผมก็เดินเข้าไปหาหลวงปู่อีก มีเสียงของหลวงปู่พูดดังออกมาว่า “ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดเดี๋ยวนี้ ” ก็เป็นจังหวะที่ผมก้มลงกราบหลวงปู่ ไม่ทันแล้วหมาแม่ลูกอ่อนมันอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับเห่าและทำท่าจะกัดอย่างเกรี้ยวกราดด้วยเสียงอันดังไปทั่วโรงครัวท่ามกลางญาติโยมและแม่ชีที่นั่งกันอย่างเงียบกริบ คลับคล้ายคลับคราว่าผมเห็นด้วยปลายสายตาตอนก้มลงกราบหลวงปู่ หลวงปู่ได้กันหมาหรือใช้อะไรสักอย่างตีเข้าไปตรงตัวหมาแม่ลูกอ่อนตัวนั้น “ เมื่อกี๊หมากัดแล้วนะ เมื่อกี๊หมากัดแล้วนะ ” เสียงหลวงปู่ท่านพูดมายังผมด้วยเสียงอันดัง ด้วยความตะลึงในสภาวะจิตที่ยังคงถูกสะกดอยู่เมื่อชั่วระยะอึดใจที่ผ่านมา ทำให้ผมตั้งสติได้ว่าทำไมตัวเราถึงได้ใจลอยไม่ฟังหลวงปู่พูดเลย ผมและน้องชายจึงไปนั่งอยู่ข้างๆ โยมผู้ชายท่านหนึ่งและพร้อมๆ กับที่หลวงปู่ก๋วนท่านก็จบธุระกับแม่ชีและญาติโยมเป็นเวลาพร้อมกัน ท่านจึงลุกจากเก้าอี้ตัวที่ท่านนั่งไปยังโบสถ์ที่พระลูกศิษย์กำลังรอขอสอบอารมณ์กับท่านอยู่
    ผมถามแม่ชีที่กุฏิโรงครัวว่าทำไมหลวงปู่ถึงไม่ยอมเข้าโบสถ์ เพราะตอนที่ผมมาและหมาเห่าผมมันก็ 1 ทุ่ม 10 นาทีแล้ว แม่ชีท่านก็บอกว่าหลวงปู่ท่านพูดมาว่า “ เดี๋ยวก่อนๆ รอก่อน ” แม่ชีบอกเท่านี้ ผมจึงมั่นใจและเชื่อใจได้ว่าเป็นเพราะผมอธิษฐานจิตโดยกำวัตถุธาตุกายสิทธิ์ของท่านไว้และขอให้ท่านรอผมก่อน ด้วยแรงอธิษฐานหลวงปู่จึงรอผม ผมจึงถามแม่ชีว่าผมจะถวายเงาะให้หลวงปู่ได้ไหมตอนนี้ แม่ชีบอกผมว่าถวายตอนนี้ไม่ได้ผิดเวลาหลวงปู่ไม่รับ
    ครั้งต่อๆ มา...ผมไปหาหลวงปู่เดือนละครั้ง สองเดือนครั้งบ้าง ท่านก็เมตตากับผมตลอดจนสมาธิจิตของผมอยู่กับหลวงปู่ตลอดเวลา พอล่วงปี 2542 ท่านย้ายจากกุฏิหลังเล็กๆ ที่เคยพักอาศัยไปอยู่กุฏิหลังใหม่
    ผมไปหาท่านไม่พบ แต่ก็ได้เดินเรื่อยๆ ถามพระในวัดไปจนกระทั่งเดินมาพบท่าน
    ขณะนั้นเป็นเวลา 10.30 น. ตอนนั้นมีพระอยู่องค์หนึ่งมาขอให้หลวงปู่แก้กรรมให้ เพราะขณะทำสมาธิฐานของจิตมีภาพกรรมเก่ามาปรากฏให้พบเห็นตลอดเวลา หลวงปู่ท่านก็บอกพระองค์นั้นให้แก้วิธีนี้ (ขอไม่พูดกล่าวถึงเรื่องกรรมฐานสอบอารมณ์ระหว่างพระองค์นั้นกับหลวงปู่)
    หลังจากหลวงปู่เสร็จกิจกับพระองค์นั้นแล้วท่านก็หันมาทางผมบอกให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อน
    ผมก็ไม่กล้านั่งเพราะท่านนั่งอยู่แล้ว ท่านก็บอกให้นั่งลงอีก ผมจึงนั่งบนเก้าอี้พร้อมๆ กับกราบเรียนท่านว่าตั้งใจมากราบหลวงปู่ จะมาขอพระกับหลวงปู่ไว้แขวน คือตอนนั้นตั้งใจจะขอเหรียญกับท่าน แต่คำตอบที่ได้คือ “ ฉันสร้างแต่พระสมเด็จเท่านั้น จะเอาเหรียญไปเอากับลูกศิษย์โน่น ” ผมเชื่อมั่นว่าท่านสำเร็จ เจโตปริยญาณ (การรู้ใจผู้อื่น)
    ดังนั้นวัตถุมงคลอื่นๆ เช่น เหรียญรูปตัวท่าน ล็อกเก็ต พระกริ่ง เหรียญบาตรน้ำมนต์ ลูกศิษย์ขออนุญาตหลวงปู่เพื่อจัดสร้าง ไม่ใช่ดำริของท่าน

    นางเงือกแห่งวังบาดาล
    เรื่องราวของนางเงือกนั้นเป็นอีกมิติหนึ่งแห่งโลกบาดาล ในบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ทุกๆ ท่านจะทราบดีว่าเป็นอย่างไร สำหรับตัวผมแล้วมีเรื่องอัศจรรย์ที่หลวงปู่ท่านบอกผมว่าที่บ้านของผมที่ถนนปู่เจ้าสมิงพราย บริเวณหลังบ้านมีสระน้ำอยู่ใช่ไหม โดยครั้งนั้นผมและเพื่อนๆ ได้ไปกราบท่านประมาณต้นปี 2542 สระที่ว่าจะอยู่ถัดจากหลังบ้านของผมไปประมาณหนึ่งหลัง หลวงปู่บอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่สระนางเงือก ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จึงถามท่านว่าคืออะไร ท่านบอกผมว่า “ เคยเห็นไหลตายไหม ” พร้อมๆกับที่ท่านทำมือในท่าห่ออุ้งมือให้ดู ท่านว่านางเงือกจะอมที่ศีรษะของผู้ชายเท่านั้น (สำหรับผู้หญิง...นางเงือกจะไม่ทำอะไร) ทำให้ผู้ชายเวลาถูกนางเงือกอมที่ศีรษะจะหายใจไม่ออกและก็จะตายไปในที่สุด ท่านบอกเท่านี้
    ในปีนั้นมีข่าวเรื่องการไหลตายโดยนอนหลับไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่ผู้ชายที่นอนหลับอยู่ต่างก็มีสุขภาพที่แข็งแรง แล้วจะตายได้ยังไง? แต่ก็เป็นไปแล้ว ผมจึงคิดถึงคำพูดของหลวงปู่ก๋วนและเชื่อโดยส่วนตัวว่าผู้ชายที่ไหลตายนั้นคงจะถูกนางเงือกอมที่ศีรษะอย่างแน่นอน เพียงเพราะเขาไปอยู่ยังสถานที่ๆ เป็นที่อยู่ของนางเงือก
    ท่านที่เคยไปเที่ยวยังจังหวัดขอนแก่นหรือมีบ้านอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น หากใครเคยไปนมัสการกราบไหว้พระมหาธาตุแก่นนครอนุสรณ์สาธุชน 9 ชั้น วัดหนองแวงพระอารามหลวง ณ ดินแดนสถานที่แห่งนี้พระคุณเจ้าพระเทพวงศาจารย์ หลวงตาของผมเป็นผู้สร้างพระธาตุที่สูงใหญ่ติดริมบึงแก่นนคร เมื่อมองจากวิวบนพระธาตุชั้นที่ 9 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุดจะเห็นทัศนียภาพตัวเมืองขอนแก่นไปไกลจนสุดขอบฟ้าจนเห็นถึงภูเขาแถบชุมแพ
    ที่บึงแก่นนครแห่งนี้ก่อนการสร้างพระมหาธาตุแก่นนครจะเริ่มขึ้น หลวงปู่ก๋วนท่านอยู่ถึงระยองแต่อภิญญาจิตญาณวิถีของหลวงปู่ ทำให้ท่านมองเห็นวังบาดาลอันใหญ่โตซึ่งเป็นที่อยู่ของนางเงือก (บางคนเรียกพญานาค) ท่านเล่าให้หลวงพ่อมหาบุญมีซึ่งเป็นลูกศิษย์อาวุโสอีกรูปหนึ่งฟังว่า “ พระธาตุเป็นของใหญ่โตหากผู้สร้างบุญไม่ถึงอายุจะ…” หลวงพ่อมหาบุญมีท่านจึงได้มาเล่าให้ท่านเจ้าคุณพระเทพวงศาจารย์ ฟัง (ท่านเจ้าคุณพระเทพวงศาจารย์ท่านเป็นพระอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงพ่อมหาบุญมี)
    ท่านเจ้าคุณฯ จึงได้เดินทางจากจังหวัดขอนแก่นไปยังจังหวัดระยองเพื่อกราบนมัสการเรียนถามพระคุณเจ้าหลวงปู่ก๋วน หลวงปู่ก็ได้บอกให้ย้ายฐานองค์พระมหาธาตุแก่นนครให้ขยับออกจากจุดเดิมไปอีก 27 วา จึงจะสามารถสร้างองค์พระมหาธาตุแก่นนครได้ เพราะตำแหน่งที่อยู่เดิมไปทับเอากำแพงวังบาดาล
    ถ้าท่านย้ายไปตำแหน่งใหม่อีก 27 วาท่านก็สร้างได้


    การตรวจพระเครื่อง
    ประมาณปี 2546 ราวๆ เดือนพฤษภาคม เพื่อนของผมคนหนึ่งชื่อ สมคิด ได้ไปกราบสักการะหลวงปู่ก๋วนที่วัดตะเคียนทอง คุณสมคิดเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันกับผม ชอบไหว้พระทำบุญเป็นชีวิตจิตใจเวลาไปไหนก็มักจะบูชาพระจากวัดเอาไว้เป็นที่ระลึกและแจกเพื่อนๆ หรือผู้ใหญ่ในวาระวันสำคัญ
    ก่อนไปกราบหลวงปู่ผมได้บอกกับคุณสมคิดว่าให้ระวัง กาย วาจา ใจ เพราะหลวงปู่ท่านมีภูมิธรรมสูงท่านสามารถล่วงรู้วาระจิตของแต่ละคนได้ และผมเองได้ฝากให้เพื่อนช่วยบูชาพระสมเด็จปรกโพธิ์และเหรียญ 80 ปี มาฝากด้วย กะจะเอาไว้แจกเพื่อนๆ และญาติผู้ใหญ่ในวาระวันสำคัญ
    คุณสมคิดได้เล่าให้ฟังหลังจากที่ได้กราบหลวงปู่แล้วว่า แกอยากรู้ว่าพระเครื่องและวัตถุมงคลที่แขวนอยู่ดีหรือไม่ แกก็เลยส่งสร้อยพระเครื่องให้กับหลวงปู่ขอเมตตาหลวงปู่ช่วยพิจารณาให้ที หลวงปู่ก๋วนท่านก็จับพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พิมพ์เศียรเล็กผงพรายกุมาร ระหว่างที่ดูอยู่ พระลูกศิษย์องค์หนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆหลวงปู่ก๋วนได้บอกกับหลวงปู่ก๋วนว่า “ หลวงพ่อ...หลวงปู่ทิม ” มีเสียงตอบออกมาจากหลวงปู่ว่า “ อือ..ดี ” พอท่านจับเสร็จก็ส่งคืนให้ จากนั้นแกได้ส่งมีดหมอของ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ให้หลวงปู่ช่วยดูให้ ท่านจับมาไม่ถึงอึดใจเสียงท่านตอบกลับมาว่า “ ไม่ดี ” คุณสมคิดเมื่อฟังหลวงปู่บอกแล้วก็รู้สึกแปลกใจจึงบอกกับหลวงปูว่า “ หลวงปู่...มีดหมอหลวงพ่อเดิมนะ ผมซื้อมาตั้งหลายหมื่น ” ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากพระอริยะเจ้า
    เวลาผ่านไป 3 เดือนหลังจากที่ผมได้รับพระสมเด็จปรกโพธิ์ซึ่งมีทั้งพิมพ์ฐานขาโต๊ะและพิมพ์ฐานบัวรวมถึงเหรียญกลมมหาลาภ 80 ปีจำนวนหนึ่งจากคุณสมคิดเพื่อนของผมแล้ว ผมก็ได้ไปกราบสักการะหลวงปู่ก๋วนท่านที่วัด เมื่อพบท่านผมได้กราบสักการะท่านเสร็จและบอกให้ท่านทราบว่ามากราบสักการะหลวงปู่ครับ และอยากให้หลวงปู่ช่วยดูให้ครับว่าพระธาตุที่ผมมีอยู่ดีหรือเปล่าครับ ท่านมองหน้าผมแล้วพยักหน้านิดนึง ผมจึงได้นำพระบรมสารีริกธาตุที่ติดอยู่ที่องค์พระให้ท่านช่วยพิจารณาให้ ท่านหยิบมาแล้วกำ ท่านมองหน้าผมแล้วบอกว่า “ ไม่ดี ” แล้วผมก็ส่งพระธาตุพระสีวลีที่ผมมีอยู่ส่งให้หลวงปู่ หลวงปู่จับมาเพียงแค่ระยะอึดใจเพียงลมหายใจเข้าออกเท่านั้น ท่านตอบกลับผมมาว่า “ ไม่ดี ปาทิ้งไป ”
    หลังจากที่ผมกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้วผมได้นำวัตถุธาตุที่มีรูปร่างเหมือนพระสีวลีปาทิ้งเข้าพงหญ้าข้างทาง ส่วนพระบรมสารีริกธาตุผมได้นำเอาไปไว้ที่หิ้งพระโดยไม่นำมาแขวนติดตัวอีกเลย ก่อนเข้านอนผมไหว้พระเสร็จแล้วก็นั่งสมาธิพิจารณาถึงในสิ่งที่หลวงปู่ก๋วนท่านบอกมา จึงได้คำตอบในใจของตัวเองว่า “ ที่ว่าเป็นพระสีวลีคงไม่ใช่ แน่แท้แต่น่าจะเป็นกระดูกของคนเล่นของหรือกระดูกผีตายโหงมากกว่า ที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนพระธาตุพระสีวลี ” นึกและคิดได้ดังนั้นก็สาธุในพระคุณของหลวงปู่ที่ได้เมตตาบอกลูกหลาน…

    เอาอะไรมาทำของไม่ดีเอาออกไป
    คุณสมคิด ปินโน ไปกราบหลวงปู่ก๋วน แล้วมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น วันนั้นน้าคิดพาครอบครัวไปกราบหลวงปู่ได้คุยกับหลวงปู่อยู่ แล้วก็มีพระสงฆ์และญาติโยมเดินทางมาด้วยรถบัสจากจังหวัดหนึ่งมาวัดตะเคียนทองและเป็นต้นเหตุของเรื่องราว
    เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นกับผมและครอบครัวเมื่อครั้งแรกที่ได้มีโอกาสได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่ก๋วน อัคควโย แห่งวัดตะเคียนทอง อ.แกลง จ.ระยอง โดยคำแนะนำของเพื่อนผมที่ชื่อ คุณหนุ่ย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผม ซึ่งก่อนไปผมยอมรับเลยว่าไม่เคยได้ยินชื่อของหลวงปู่และวัดตะเคียนทองมาก่อน ถึงแม้ว่าครั้งหนึ่ง ผมจะเคยทำงานที่ อ.แกลง จ.ระยอง มาเป็นเวลากว่าปี แต่เพื่อนผมคนนี้บอกกับผมด้วยความจริงใจและกำชับกำชาว่า อยากให้ผมไปกราบท่านสักครั้งเพราะท่านเป็นพระที่มีเมตตาและอภิญญาสูงมาก ซึ่งผมก็ได้แต่รับฟังแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปซักที
    จนวันหนึ่งผมและครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วยตัวผมเองและภรรยาได้มีโอกาสได้ไปที่ระยอง และด้วยคำพูดของเพื่อนผมที่ว่าลองเอาของดีที่มีอยู่ไปให้หลวงปู่ท่านดูว่าดีจริงหรือไม่ แต่ใช่ว่าหลวงปู่จะเมตตาดูให้นะ แล้วแต่วาสนาที่ต้องกัน ผมจึงตกลงใจกันว่าจะไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดตะเคียนทองกัน ก่อนไปจึงนำพระเครื่องและเครื่องรางที่คิดว่าดีที่สุดจำนวนหนึ่งไปด้วยเผื่อท่านจะเมตตา ระยะทางจากบ้านผมไปที่วัดตะเคียนทองไม่ไกลมากนัก แต่ใช่ว่าจะใกล้ๆ ไป-กลับก็น่าจะร่วมๆ 200 กว่ากิโลเมตร แต่ด้วยทิวทัศน์ของระยองสมัยนั้นยังเป็นเส้นทางที่ขับรถง่าย ทำให้เรารู้สึกถึงความปลอดโปร่งและผ่อนคลายเหมือนเมืองแห่งการท่องเที่ยว จึงทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นระยะทางที่ไกลแต่อย่างใดเลย จนมาถึงทางเข้าวัดตะเคียนทอง ผมก็ได้สัมผัสเห็นถึงความเรียบง่าย สมถะ และความร่มรื่นของสถานที่ พร้อมกับได้เห็นศาลาไม้หลังใหญ่ที่พร้อมจะให้ความสุขสงบกับบุคคลที่แสวงหาสัจธรรมในชีวิต
    ผมและครอบครัวเดินขึ้นไปบนศาลาไม้และได้พบกับพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นพระผู้ที่มีเมตตาและอัธยาศัยแบบที่ทำให้เราไม่รู้สึกว่าเป็นกังวลในการมาครั้งแรกที่นี่ ซึ่งต่อมาจากนั้นอีกหลายปีถึงได้รู้ว่าท่านคือ พระอาจารย์น้ำเพชร เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ของวัดตะเคียนทอง ท่านได้พาพวกเราไปกราบหลวงปู่ ซึ่งตอนนั้นยังแข็งแรงอยู่มาก วินาทีแรกที่เห็นเรารู้สึกว่าท่าทางหลวงปู่ทำไมดูดุๆ จัง พูดจาจริงจัง เรียบเฉย ไม่ยิ้ม เราจึงเข้าไปถวายสังฆทานโดยมีพระอาจารย์น้ำเพชรนั่งอยู่ใกล้ตลอดเวลา
    พอเสร็จพิธีผมก็ถามพระอาจารย์น้ำเพชรว่า...อยากให้หลวงปู่ช่วยตรวจสอบพุทธคุณพระให้หน่อยได้ไหมว่าดีจริงหรือเปล่า ซึ่งพระที่ผมเอาไปนั้นผ่านการตรวจสอบทั้งจากผู้เชี่ยวชาญและกรรมการโดยมีรางวัลเป็นเครื่องการันตีจากหลายสนามพระ ที่ไม่ดีผมขออนุญาตไม่พูดถึงนะครับว่ามีอะไรบ้าง แต่ที่กล่าวถึงไปแล้วก็มี พระผงรูปเหมือนเนื้อผงพรายกุมาร พิมพ์เศียรเล็ก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ที่ท่านจับดูแล้วบอกว่าดี แต่มีดหมอปากกา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ท่านบอกว่าไม่ดี ซึ่งต้องขอบอกว่ามีดหมอเล่มนี้มีการรับ ประกันความแท้จากหลายสำนักที่เชื่อถือได้ในระดับประเทศ แต่หลายๆ ท่านที่เคยครอบครองมีดหมอแบบนี้จะรู้ได้เลยว่ามีข้อห้ามมากมาย และถ้ามีการละเมิดข้อห้ามโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเป็นมาก่อนที่เราจะครอบ ครอง ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีดหมอเล่มนี้อาจจะเสื่อมความขลังเรื่องพลานุภาพลงไปได้ คงเหลือไว้ซึ่งพุทธศิลป์และพุทธพาณิชย์เท่านั้น หรือมีดหมอเล่มนี้อาจะเป็นของที่สร้างขึ้นโดยไม่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อ หรือช่างตีมีดสมัยนั้นสร้างเสริมขึ้นมาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือมีการการะผิดข้อห้ามอันรุนแรงมาก่อนในอดีต ดังนั้นผมก็เลยถามหลวงปู่ว่า...แล้วผมจะบูชาพระอะไรดีละครับ ท่านก็ชี้ไปที่ตู้แล้วก็บอกว่า...ของดีอยู่โน่น และเหมือนท่านจะรู้อะไรบางอย่างว่าผมมีข้อสงสัยในใจ ท่านจึงบอกให้พระอาจารย์น้ำเพชรพาผมไปดูมวลสารต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างพระและอธิบายถึงแหล่งที่มาของมวลสาร
    ผมเดินไปดูที่ตู้พระให้เช่า และเช่าพระออกมาด้วยจำนวนพระหลายสิบองค์ เช่น สมเด็จปรกโพธิ์หลายสิบองค์ สมเด็จพิมพ์สามเหลี่ยม พร้อมเหรียญ 80 อีกนับไม่ถ้วน เรียกว่าเกือบหมดตู้ที่มีอยู่ตอนนั้นเลย ช่วงที่ผมกำลังสนทนาและเลือกพระอยู่นั้น ผมเหลือบไปเห็นคณะสงฆ์ แม่ชี และฆราวาสกลุ่มใหญ่ เดินทางมาจากจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ เท่าที่จับใจความได้ก็คือ ทางคณะเหล่านี้ท่านต้องการที่จะสร้างศาลาการเปรียญและศาสนสถานที่วัด จึงจัดสร้างพระเครื่องขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเท่าที่ดูจากสายตาผมว่าน่าจะมีหลักหมื่นองค์ และต้องการที่จะให้หลวงปู่ช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องให้เพื่อนำไปแจกญาติโยมที่มาถวายปัจจัยและนำส่วนหนึ่งออกเช่าเพื่อหาปัจจัยเพิ่มเติม
    หลวงปู่จึงไปดูพระเครื่องที่จะให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสก เมื่อไปถึงท่านก็พูดว่า “ เอาอะไรมาทำของไม่ดีเอาออกไป ” ผมตาค้างเลย ส่วนคณะเหล่านั้นไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะทุกคนตกตะลึงหน้าซีด ทำอะไรไม่เป็นเลย ก่อนที่ผมจะกลับคืนสติก็มีเสียงหนึ่งกระซิบบอกผมว่า “ หลวงปู่ท่านคงรู้ว่าขั้นตอนหรือมวลสารนั้นคงไม่ดี ” ซึ่งเสียงนั้นก็คือพระอาจารย์น้ำเพชรนั่นเอง


    เป็นพี่น้องกับพระอุปคุต เป็นลูกพระนารายณ์
    ตอนที่ตาปื๊ดและเพื่อนๆ ไปกราบสักการะหลวงปู่ที่วัดตะเคียนทองในปี 2545 ท่านบอกกับตาปื๊ดว่าในหลายชาติที่ผ่านมาท่านเคยเกิดเป็นฤาษี..และบอกกับตาปื๊ดว่า “ เราลูกพระนารายณ์ ”
    หลังจากที่หลวงปู่ได้มรณภาพไป 2 วัน ผมได้ไปวัดตะเคียนทองเพื่อไปกราบสังขารของหลวงปู่ เมื่อไปถึงวัดได้เห็นโลงแก้วประดับไปด้วยช่อดอกไม้ละลานตาอยู่รอบโลง และมีไอน้ำจากเครื่องทำความเย็นเกาะที่โลงแก้วของหลวงปู่
    ภายในโลงแก้วหลวงปู่ท่านนอนสงบนิ่ง ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ โลงอย่างแนบชิดแล้วมองผ่านเข้าไปในตัวโลงแก้วพนมมือขึ้นเหนือศีรษะกราบแนบโลงแก้วคาราวะมุทิตาจิตต่อหลวงปู่ผู้มีพระคุณ ผมหวนคิดไปถึงความฝันที่ผมได้เห็นหลวงปู่ก๋วนท่านเข้ามาหาผมผ่านทางความฝันอยู่ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 ท่านเข้ามาหาเปิดนิมิตให้ผมเห็นท่าน ผมได้เล่าความฝันนี้ให้หลวงพ่อมหาบุญมีฟัง ความฝันครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ท่านมาเตือนภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับผม
    พอดีได้มีโอกาสคุยกับพระอุปัฏฐากรูปหนึ่งที่ท่านได้ถวายการรับใช้หลวงปู่ก๋วนในพรรษาสุดท้ายของหลวงปู่
    ผมถามพระอุปัฏฐากท่านว่า “ ทำไมหลวงปู่ก๋วนท่านถึงมรณภาพ ”
    พระอุปัฏฐากก็ตอบว่า “ หลวงปู่ท่านหายใจไม่ออกเพราะมีเสมหะติดที่หลอดลม ”
    ผมก็พูดกับท่านต่อว่า “ ผมอยากให้วัดตะเคียนทองเก็บสังขารของหลวงปู่ก๋วนท่านไว้ ”
    พระอุปัฏฐากท่านตอบกลับมาว่า “ หลวงปู่ก๋วนบอกกับผมว่า ฉัน (หลวงปู่ก๋วน) กับพระอุปคุตได้สาบานเป็นพี่น้องกันเอาไว้ หลังจากฉันไม่อยู่ พระอุปคุตจะเป็นผู้รักษาสังขารของฉันไว้ 100 ปี ”
    พระอาจารย์น้ำเพชรได้เคยเล่าให้ฟังว่า...หลวงปู่ก๋วนเคยพูดกับท่านว่า “ มึงเผากูไม่ไหม้หรอก ”
    พระอาจารย์สันต์ แห่งวัดเขาตะแบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เคยบอกผมว่า...บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาชะเมาเป็นที่อยู่ของเหล็กไหล และท้องทะเลระยองเป็นสถานที่ๆ พระอุปคุตท่านอยู่ที่นี่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2013
  6. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 269 เหรียญรุ่น 3 ฉลองอายุ 80 ปี ปี 2546
    พระครูสุกิจจานุรักษ์ (ก๋วน อคฺควโย) วัดตะเคียนทอง ต.แกลง อ.เมือง ระยอง

    บูชา 800-

    [​IMG]

    มหัศจรรย์เหรียญรุ่น 3 ฉลองอายุ 80 ปี
    เหรียญดีที่แม้แต่เทวดายังมาขอ พระแม่คงคาก็อยากได้จนหลวงปู่ต้องนำไปทิ้งน้ำให้ 1 เหรียญ

    เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์จากวาจาที่หลวงปู่ก๋วนท่านเล่าเองว่า
    ในช่วงประมาณปี 2546 หลวงปู่ท่านได้มาพำนักยังศาลาหลังใหญ่ของวัด
    ใครเคยไปวัดตะเคียนทองจะเห็นว่าเมื่อเดินขึ้นไปบนศาลาหลังใหญ่นั้นต้องเดินขึ้นบันไดไม้
    พอพ้นบันไดไปแล้วก็จะเห็นโต๊ะนั่งรับแขกญาติโยมชั้นที่หนึ่ง พอเดินก้าวขึ้นบันไดไปอีก 1 ขั้นก็จะเป็นพื้นศาลา
    เมื่อมองตรงไปข้างหน้าจะเห็นโลงแก้วสังขารของหลวงปู่ก๋วนที่ท่านนอนสงบนิ่ง
    (หลวงพ่อสันต์บอกว่า หลวงปู่อยู่ที่นี่ล่ะแต่ไม่มีใครมองเห็นหลวงปู่)
    ตำแหน่งที่เดินขึ้นบันไดหากมองเฉียงไปทางขวามือ ตรงนี้ล่ะที่หลวงปู่ท่านใช้พำนักจำวัด ต้อนรับญาติโยมอยู่อย่างสม่ำเสมอ
    แล้วพื้นที่ตรงนี้อีกเช่นกันจะมีโต๊ะพระสมเด็จของหลวงปู่ และก็มีเหรียญกลมโลหะมีไข่ปลาเป็นจุดๆ ล้อมรอบอยู่ด้านหน้า
    เป็นเหรียญรุ่นที่ 3 ที่ลูกศิษย์ขออนุญาตหลวงปู่จัดสร้าง ข้างหลังของเหรียญเป็นเลข 80

    หลวงพี่แมว (หลวงพี่แมวเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงพ่อสนธ์ ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงปู่ก๋วน)
    ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งขณะที่หลวงพี่แมวยืนอยู่หน้าตู้กระจก
    หลวงปู่ก๋วนท่านได้บอกหลวงพี่แมวให้เก็บเหรียญ 80 ปี บนโต๊ะกระจกให้หน่อย
    เพราะเหรียญมันตกอยู่เหรียญนึง ข้างบนเขาขอ 10 เหรียญแต่เขาเอาไปไม่หมด
    มันตกอยู่เหรียญนึงเอาไปได้แค่ 9 เหรียญ หลวงพี่แมวก็จึงเก็บเหรียญเข้าไปไว้ในตู้เหมือนเดิม


    หลวงปู่ได้พูดไว้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า...พระหลวงปู่ไม่ดังหรอกแต่ต่อไปจะโด่งดัง มีตังก็หาเช่าเก็บไว้แล้วกัน

    ประสบการณ์ของเหรียญรุ่นนี้
    ตาเก๋ เล่าให้ฟังเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ว่า “ พี่หนุ่ยรู้ไหม ผมกับแฟนเกือบตาย ”
    “ ทำไมล่ะเก๋ ”
    “ ก็ตอนที่ผมขับรถจากมหาสารคามจะเข้ากรุงเทพฯ ตอนนั้นเวลาประมาณตี 2 ผมขับรถหลับในน่ะพี่
    แฟนผมไม่ได้หลับเขานั่งเป็นเพื่อนผม ส่วนผมหลับในขับรถตกข้างทางไม่รู้รอดมาได้ยังไง
    ผมขับเร็วตั้งร้อยยี่ ญาแฟนผมนั่งข้างๆ หน้าเสียร้องเหวอเลย
    ผมมาตกถนนตรงโคราชตรงช่องตรงกลางหญ้าคา ดีที่รถผมไม่ปีนไปข้างบนอีกเลน ไม่งั้นคงได้ประสานงากับรถสวนทางมาแน่ๆ
    ผมใจหายหมดเลยพี่หนุ่ย ตาสว่างเลย ผมไม่รู้ว่ารถผมหยุดได้ยังไงเพราะมันเร็วมากไถลงข้างล่างเลยพี่
    ผมว่าที่ผมรอดได้เพราะวันนั้นพ่อให้พระเหรียญกลม 80 ปีของหลวงปู่ก๋วนมา 2 เหรียญ
    ผมก็เอาเหรียญหลวงปู่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเหรียญหนึ่ง อีกเหรียญหนึ่งผมเอาไว้หน้ารถ ยังใจหายอยู่เลยพี่ ”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2013
  7. Livelight

    Livelight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +258

    จองรายการนี้ค่ะ
     
  8. แปดเหลี่ยม

    แปดเหลี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    831
    ค่าพลัง:
    +559
    จองรายการที่ 266 ครับ
     
  9. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,970
    ค่าพลัง:
    +5,385
    ขอจองครับ------------
     
  10. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 270 เหรียญลป.อวน วัดหนองพลับ สระบุรี 2 เหรียญ
    หลวงปู่อวน อัจจาทโร วัดหนองพลับ ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง สระบุรี

    คุณ อนันตภพ บูชาแล้ว EK 169148675 TH

    [​IMG]

    หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ จ.สระบุรี ท่านเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูง
    โดยท่านได้ไปศึกษาอยู่กับพระอภิญญารูปหนึ่งที่ภูเขาควาย
    ได้รับการถ่ายทอดวิชากสิณไฟและวิทยาคมต่างๆ ตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร
    พอบวชแล้วได้มาเรียนวิชากับ หลวงปู่คำ วัดบ้านโนนสวาย สุรินทร์
    และได้รับการถ่ายทอดวิชาปรอทสาย หลวงพ่อรอด (เสือ) ปฐมเจ้าอาวาสแห่งสำนักวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา จากฆราวาส ชื่อ ปู่ทรัพย์
    จนท่านมีความรู้แตกฉานในการเล่นแร่แปรธาตุ ใช้วิชาปรอทรักษาคน


    ความเชี่ยวชาญในวิชาปรอทของ ลป.อวน วัดหนองพลับ นั้นโด่งดังมาก
    ท่านสามารถเรียกปรอทเข้าตัว และสามารถเพ่งปรอทด้วยอำนาจจิตจนกลายเป็นผงได้
    เกจิดังๆ ในยุคปัจจุบันที่มาเป็นศิษย์เรียนปรอทจาก ลป.อวน ก็มีหลายท่าน เช่น
    ลป.โสฬส วัดโคกอู่ทอง อาจารย์ประสิทธิ์ วิวัฒน์ชาติสุคนธ์ (ลูกศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐานห้องธาตุกับ ลพ.สละ วัดประดู่ทรงธรรม)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2013
  11. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 271 พระปิดตาเนื้อปรอท หลังจาร ปี 2538 (หายาก)
    หลวงปู่อวน อัจจาทโร วัดหนองพลับ ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง สระบุรี

    คุณ Livelight บูชาแล้ว EK 169041121 TH

    [​IMG]

    หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ จ.สระบุรี ท่านเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูง
    โดยท่านได้ไปศึกษาอยู่กับพระอภิญญารูปหนึ่งที่ภูเขาควาย
    ได้รับการถ่ายทอดวิชากสิณไฟและวิทยาคมต่างๆ ตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร
    พอบวชแล้วได้มาเรียนวิชากับ หลวงปู่คำ วัดบ้านโนนสวาย สุรินทร์
    และได้รับการถ่ายทอดวิชาปรอทสาย หลวงพ่อรอด (เสือ) ปฐมเจ้าอาวาสแห่งสำนักวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา จากฆราวาส ชื่อ ปู่ทรัพย์
    จนท่านมีความรู้แตกฉานในการเล่นแร่แปรธาตุ ใช้วิชาปรอทรักษาคน


    ความเชี่ยวชาญในวิชาปรอทของ ลป.อวน วัดหนองพลับ นั้นโด่งดังมาก
    ท่านสามารถเรียกปรอทเข้าตัว และสามารถเพ่งปรอทด้วยอำนาจจิตจนกลายเป็นผงได้
    เกจิดังๆ ในยุคปัจจุบันที่มาเป็นศิษย์เรียนปรอทจาก ลป.อวน ก็มีหลายท่าน เช่น
    ลป.โสฬส วัดโคกอู่ทอง อาจารย์ประสิทธิ์ วิวัฒน์ชาติสุคนธ์ (ลูกศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐานห้องธาตุกับ ลพ.สละ วัดประดู่ทรงธรรม)

    ในปี 2538 ลป.อวน ได้สร้างพระปรอทขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อหาทุนสร้างถาวรวัตถุในวัด
    โดยพระปรอทชุดนี้ท่านสร้างด้วยตัวท่านเอง ไม่ได้ไปจ้างโรงงานที่ไหนทำ
    เพราะจะต้องมีกรรมวิธีการฆ่าปรอทด้วยว่านยาและอาคมเสียก่อน
    แล้วจึงนำปรอทที่ได้มาหุงผสมกับตะกั่วเทออกมาเป็นพิมพ์ต่างๆ เช่น


    1. พิมพ์สมเด็จ
    2. พิมพ์รูปเหมือนเต็มองค์หลังเตารีด
    3. พิมพ์รูปเหมือนรูปไข่ครึ่งองค์
    4. พิมพ์รูปเหมือนหยดน้ำครึ่งองค์
    5. พิมพ์พระปิดตา
    6. พิมพ์นางกวัก


    การปลุกเสก ลป.อวน วัดหนองพลับ ประกอบพิธีปลุกเสกเดี่ยวตามสายวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา

    [​IMG]

    พระปรอทของลป.อวน จะค่อนข้างเปราะและแตกหักง่าย
    ต้องระวังอย่าทำตก เคยพบองค์ที่หักพอเอามีอบี้ตรงรอยหัก เนื้อเขาจะแตกร่วนเป็นผงออกมาเลย
    ซึ่งไม่เหมือนกับพระปรอทตามโรงงานที่ผสมตะกั่วอาบปรอทอย่างเดียว


    เมื่อหลายปีก่อนเคยพาเพื่อนไปทานปรอทกับท่านเจ้าอาวาสวัดหนองพลับองค์ปัจจุบัน
    ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิชาปรอทและวิชาครูเฒ่าจากลป.อวนมา
    พอดีตอนนั้นเพื่อนกำลังโดนไข้หวัดใหญ่เล่นงานจนงอมพระราม
    ท่านเห็นก็เลยบอกว่าเป็นอย่างนี้กินปรอทเดี่ยวก็หาย ก็เลยเอ้าลองก็ลอง
    แล้วท่านก็เทปรอทออกมาขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว แล้วท่านก็บริกรรมเพ่งไปที่ปรอทบนฝ่ามือแล้วก็เอามือคลึงบี้ปรอทจนแตกเป็นผงสีดำๆ
    ก็เลยขอท่านลองทำดูบ้างปรากฏว่า บี้ปรอทไม่โดนเลย ปรอทกลิ้งหลบไปหลบมา
    พอท่านบี้ปรอทเป็นผงเสร็จแล้ว ท่านจะใช้ช้อนเงินกวาดผงนั่นมารวมกัน พอมารวมกันก็กลายเป็นน้ำปรอทสีเงินใหม่
    แล้วท่านก็ป้อนให้ทาน ไม่น่าเชื่อว่าวันรุ่งขึ้นอาการป่วยของเพื่อนแบบที่คิดว่ามันคงจะต้องนอนซมสัก 3 วันเป็นอย่างน้อย
    กลับดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติเลย ซึ่งถ้าให้ผมรักษาเขาเองผมยังคิดว่ามันจะต้องให้ผมฉีดยาสัก 3 วันติดกันถึงจะดีขึ้นได้ขนาดนี้

    อีกคราวหนึ่งเป็นประสบการณ์ของตัวเอง พอดีเป็นไข้และปวดหัวมากตอนกลางคืน
    ว่าจะทานยาพาราแต่ยาดันหมด ไม่รู้จะทำไงนึกถึงเรื่องที่เพื่อนทานปรอทลดไข้ได้
    เลยเอาพระปรอทของลป.อวนมาแปะตรงหน้าผาก ก็ไม่ได้หวังผลอะไรมาก แค่อยากลองดู
    ปรากกว่าสักพักอาการปวดหัวและไข้ก็ลดลง ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่พระปรอทหรือเปล่า
    เลยเอาพระปรอทออกสักพักไข้ก้ขึ้นและเริ่มปวดหัวอีก พอเอาพระปรอทท่านวางแปะไว้สักพักก็หาย
    เลยเชื่อว่าเป็นเพราะพระปรอทท่านจริงๆ


    พระปรอทนี้ท่านสร้างแค่ครั้งเดียว เป็นพระที่ท่านทำเองเทเองที่วัด ไม่ใช่พระโรงงาน
    สร้างพร้อมกับพิมพ์สมเด็จ พิมพ์ปิดตา นางกวัก ฯลฯ
    สำหรับพิมพ์ที่เป็นรูปเหมือนท่านจะมีอยู่ 3 พิมพ์ คือ พิมพ์เตารีด หยดน้ำ และรูปไข่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2013
  12. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 272 รูปเหมือนเตารีดเนื้อปรอท หลังจาร ปี 2538
    หลวงปู่อวน อัจจาทโร วัดหนองพลับ ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง สระบุรี

    คุณ ลุงจิ๋ว บูชาแล้ว EK 169086009 TH

    [​IMG]

    หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ จ.สระบุรี ท่านเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูง
    โดยท่านได้ไปศึกษาอยู่กับพระอภิญญารูปหนึ่งที่ภูเขาควาย
    ได้รับการถ่ายทอดวิชากสิณไฟและวิทยาคมต่างๆ ตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร
    พอบวชแล้วได้มาเรียนวิชากับ หลวงปู่คำ วัดบ้านโนนสวาย สุรินทร์
    และได้รับการถ่ายทอดวิชาปรอทสาย หลวงพ่อรอด (เสือ) ปฐมเจ้าอาวาสแห่งสำนักวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา จากฆราวาส ชื่อ ปู่ทรัพย์
    จนท่านมีความรู้แตกฉานในการเล่นแร่แปรธาตุ ใช้วิชาปรอทรักษาคน


    ความเชี่ยวชาญในวิชาปรอทของ ลป.อวน วัดหนองพลับ นั้นโด่งดังมาก
    ท่านสามารถเรียกปรอทเข้าตัว และสามารถเพ่งปรอทด้วยอำนาจจิตจนกลายเป็นผงได้
    เกจิดังๆ ในยุคปัจจุบันที่มาเป็นศิษย์เรียนปรอทจาก ลป.อวน ก็มีหลายท่าน เช่น
    ลป.โสฬส วัดโคกอู่ทอง อาจารย์ประสิทธิ์ วิวัฒน์ชาติสุคนธ์ (ลูกศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐานห้องธาตุกับ ลพ.สละ วัดประดู่ทรงธรรม)

    ในปี 2538 ลป.อวน ได้สร้างพระปรอทขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อหาทุนสร้างถาวรวัตถุในวัด
    โดยพระปรอทชุดนี้ท่านสร้างด้วยตัวท่านเอง ไม่ได้ไปจ้างโรงงานที่ไหนทำ
    เพราะจะต้องมีกรรมวิธีการฆ่าปรอทด้วยว่านยาและอาคมเสียก่อน
    แล้วจึงนำปรอทที่ได้มาหุงผสมกับตะกั่วเทออกมาเป็นพิมพ์ต่างๆ เช่น


    1. พิมพ์สมเด็จ
    2. พิมพ์รูปเหมือนเต็มองค์หลังเตารีด
    3. พิมพ์รูปเหมือนรูปไข่ครึ่งองค์
    4. พิมพ์รูปเหมือนหยดน้ำครึ่งองค์
    5. พิมพ์พระปิดตา
    6. พิมพ์นางกวัก


    การปลุกเสก ลป.อวน วัดหนองพลับ ประกอบพิธีปลุกเสกเดี่ยวตามสายวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา

    [​IMG]

    พระปรอทของลป.อวน จะค่อนข้างเปราะและแตกหักง่าย
    ต้องระวังอย่าทำตก เคยพบองค์ที่หักพอเอามีอบี้ตรงรอยหัก เนื้อเขาจะแตกร่วนเป็นผงออกมาเลย
    ซึ่งไม่เหมือนกับพระปรอทตามโรงงานที่ผสมตะกั่วอาบปรอทอย่างเดียว


    เมื่อหลายปีก่อนเคยพาเพื่อนไปทานปรอทกับท่านเจ้าอาวาสวัดหนองพลับองค์ปัจจุบัน
    ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิชาปรอทและวิชาครูเฒ่าจากลป.อวนมา
    พอดีตอนนั้นเพื่อนกำลังโดนไข้หวัดใหญ่เล่นงานจนงอมพระราม
    ท่านเห็นก็เลยบอกว่าเป็นอย่างนี้กินปรอทเดี่ยวก็หาย ก็เลยเอ้าลองก็ลอง
    แล้วท่านก็เทปรอทออกมาขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว แล้วท่านก็บริกรรมเพ่งไปที่ปรอทบนฝ่ามือแล้วก็เอามือคลึงบี้ปรอทจนแตกเป็นผงสีดำๆ
    ก็เลยขอท่านลองทำดูบ้างปรากฏว่า บี้ปรอทไม่โดนเลย ปรอทกลิ้งหลบไปหลบมา
    พอท่านบี้ปรอทเป็นผงเสร็จแล้ว ท่านจะใช้ช้อนเงินกวาดผงนั่นมารวมกัน พอมารวมกันก็กลายเป็นน้ำปรอทสีเงินใหม่
    แล้วท่านก็ป้อนให้ทาน ไม่น่าเชื่อว่าวันรุ่งขึ้นอาการป่วยของเพื่อนแบบที่คิดว่ามันคงจะต้องนอนซมสัก 3 วันเป็นอย่างน้อย
    กลับดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติเลย ซึ่งถ้าให้ผมรักษาเขาเองผมยังคิดว่ามันจะต้องให้ผมฉีดยาสัก 3 วันติดกันถึงจะดีขึ้นได้ขนาดนี้

    อีกคราวหนึ่งเป็นประสบการณ์ของตัวเอง พอดีเป็นไข้และปวดหัวมากตอนกลางคืน
    ว่าจะทานยาพาราแต่ยาดันหมด ไม่รู้จะทำไงนึกถึงเรื่องที่เพื่อนทานปรอทลดไข้ได้
    เลยเอาพระปรอทของลป.อวนมาแปะตรงหน้าผาก ก็ไม่ได้หวังผลอะไรมาก แค่อยากลองดู
    ปรากกว่าสักพักอาการปวดหัวและไข้ก็ลดลง ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นที่พระปรอทหรือเปล่า
    เลยเอาพระปรอทออกสักพักไข้ก้ขึ้นและเริ่มปวดหัวอีก พอเอาพระปรอทท่านวางแปะไว้สักพักก็หาย
    เลยเชื่อว่าเป็นเพราะพระปรอทท่านจริงๆ


    พระปรอทนี้ท่านสร้างแค่ครั้งเดียว เป็นพระที่ท่านทำเองเทเองที่วัด ไม่ใช่พระโรงงาน
    สร้างพร้อมกับพิมพ์สมเด็จ พิมพ์ปิดตา นางกวัก ฯลฯ
    สำหรับพิมพ์ที่เป็นรูปเหมือนท่านจะมีอยู่ 3 พิมพ์ คือ พิมพ์เตารีด หยดน้ำ และรูปไข่
    พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าทุกพิมพ์และเปลืองปรอทมากที่สุด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2013
  13. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 273 รูปถ่ายหุ้มตะกั่วหลังจาร
    หลวงปู่เร่ง ฐานธัมโม วัดดงแขวน อ.สว่างอารมณ์ อุทัยธานี

    บูชาใบละ 300- (มี 8 ใบ)

    [​IMG]

    รูปถ่ายหุ้มแผ่นตะกั่ว หลังจารยันต์โภคทรัพย์มหาลาภ (หลวงปู่จารเอง)
    แต่มีคนเอาไปลองยิงปืนแตกคามือ เรียกได้ว่าครบเครื่องขนาดเป็นโภคทรัพย์ยังเหนียวอีกต่างหาก


    การปลุกเสก ลป.เร่ง วัดดงแขวน ปลุกเสกเดี่ยวโดยอัญเชิญดวงวิญญาณ ลป.เคลือบ วัดหนองกระดี่ มาช่วยปลุกเสกด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 274 นามบัตรติดจีวร-เกศา พร้อมจาร
    ลป.ฮก รตินธโร วัดราษฏร์เรืองสุข (วัดมาบลำบิด) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

    บูชา 300-

    [​IMG]

    ลป.ฮก ท่านเป็นพระที่สมถะเรียบง่าย อินทรีย์ผ่องใส ทั้งๆ ที่อายุ ท่าน 88 ปีแล้ว
    ท่านเป็นสหธรรมมิกกับ ลป.โทน วัดเขาน้อยคีรีวัน ตั้งแต่ยังเป็นฆราวาสด้วยกัน
    แต่ท่านไม่เคยร่ำเรียนหรือแลกเปลี่ยนวิทยาคมจากลป.โทนเลย ด้วยท่านมุ่งมั่นเพียงความสงบเท่านั้น
    แต่ก็ออกเดินธุดงค์กับลป.โทนอยู่เป็นประจำ และไปมาหาสู่กันอยู่เสมอจนลป.โทนมรณภาพ


    เคยมีลูกศิษย์สอบถามลป.ฮก ถึงคาถาที่ใช้บริกรรมปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคล ได้ คำตอบว่า "ไม่มี "
    ลป.ฮก บอกว่า " อาตมาทำง่ายๆ ไม่ต้องมีคาถาหรือบทอาราธนา ไม่ว่าเราจะมีพระดีขนาดไหนเมื่อถึงคราวตายเราก็ต้องตาย
    แต่การแขวนพระนั้นเพื่อเอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจและเตือนสติให้เราปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม ละเว้นความชั่ว
    ฃแต่เหนือสิ่งอื่นใดจิตต้องนิ่งเป็นสมาธิ คาถาจึงมีความเข้มขลัง
    ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ถ้าจิตนิ่งเป็นสมาธิบริกรรมคาถาบทใดก็เข้มขลัง
    ที่ขาดไม่ได้ คือต้องตั้งอยู่ในศีลมั่นอยู่ในธรรม"


    ปัจจุบันที่วัดท่านกำลังสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมจนหลังคารั่วมีน้ำฝนสาดเข้ามาได้
    ในการนี้ทางวัดได้จัดสร้างพระประธานหยกขนาด 4 ศอก ทำด้วยหยกขาวบริสุทธิ์ทั้งก้อน เป็นพระประธานในอุโบสถ
    และในขณะนี้ทางวัดได้เปิดโอกาสให้สาธุชนนำพระไปบรรจุใต้ฐานชุกชีพระประธานเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาได้

    รูปนี้ท่านจารคำว่า "ฮก ซิ่ว" ให้ด้วยหมึกสีทอง
    เลยถามท่านว่า แล้ว "ลก" ไปไหน
    ท่านบอกว่า "ลก" ให้ไปทำเอาเองแล้วก็หัวเราะแบบอารมณ์ดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 275 ตะกรุดมหาอุด เนื้อตะกั่ว 1.5 นิ้ว
    ลพ.ตัด วัดชายนา เพชรบุรี

    คุณ อภิญญา8 บูชาแล้ว EK 169148658 TH

    [​IMG]

    ตะกรุดชุดนี้เป็นดำริของหลวงพ่อให้จัดทำขึ้น สำหรับแจกเด็กๆ และผู้หญิง
    โดยใส่ไว้ในบาตร บางคนจึงเรียก ตะกรุดในบาตร
    สมัยก่อนถ้าใครได้ไปวัดชายนา ไปกราบหลวงพ่อตัดก็จะได้เห็นภาพหลวงพ่อท่านเมตตานั่งแจกตะกรุดญาติโยมที่ศรัทธา
    คนละดอกบ้าง สองดอกบ้างบางคนโชคดีได้ทีละเป็นกำมือก็มี หรือบางที่นั่งรอกันเป็นครึ่งค่อนวัน ไม่ได้ซักดอกก็มีมาแล้ว
    บางคนใจกล้า เอ่ยปากขอกันเลยถึงจะได้ เพราะหลวงพ่อตัดท่านจะถือคติว่า ....

    "คนขอ..คนอยากได้ คนไม่ให้..คนหน้าด้าน"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2013
  16. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 276 ตะกรุดไตรรัตน์ เนื้อตะกั่ว ปี 2554 (จารมือ)ขนาด 2.5 นิ้ว
    พระครูวิชัยกิจจารักษ์ (อุดม อุตตมปัญโญ) วัดพิชัยสงคราม อยุธยา

    บูชา 500-

    [​IMG]

    ลพ.อุดม วัดพิชัยสงคราม ท่านเป็นหลานของ ก๋งจาบ สุวรรณ อาจารย์สอนกัมมัฏฐานแห่งสำนักวัดประดู่ทรงธรรม
    ก๋งจาบ ท่านเป็นผู้เรืองวิทยาคมยิ่ง และเป็นผู้ที่รักษาอาการบังฟันให้กับ ลพ.ปาน วัดบางนมโค
    ลพ.อุดม ได้ศึกษาวิชาสายวัดประดู่ทรงธรรมจากตำรับตำราโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่
    จนมีความเจนจบในวิชาการต่างๆ สามารถทำให้เห็นผลประจักษ์ในวิชานั้นๆ ได้จริง


    ตะกรุดของท่าน ท่านจะเป็นผู้จารเองทั้งหมด มีเวลาว่างท่านก็ค่อยๆ ทำไป
    แต่เนื่องจากช่วงหลังๆ มานี้สุขภาพท่านไม่ค่อยดีนัก การทำตะกรุดต่างๆ จึงได้เพลาๆ ลง

    ตะกรุดไตรรัตน์ เป็นตะกรุด 3 ดอก ลงด้วยพระไตรสรณาคมณ์ “ พุทธัง สะระณัง คัจเฉ ธัมมัง สะระณัง คัจเฉ และ สังฆัง สะระณัง คัจเฉ ”
    อานุภาพเด่นไปในทางด้านแคล้วคลาด ป้องกันภัย ป้องกันคุณไสยต่างๆ ห้อยหน้ารถ ปลอดภัย เรียกว่า คัดให้เฉ ไปหมด

    การปลุกเสก ท่านจะทำบ่อยมาก โดยในตอนเช้าหลวงพ่อจะทำกรรมฐานประมาณชั่วโมงครึ่งพร้อมเสกพระและวัตถุมงคลต่างๆ
    ซึ่งจะบริกรรมพระคาถาในแต่ละหมวด เช่น คงกระพัน มหาอุด เป็นต้น เป็นการเสกรวมทั้งหมด
    ปิดท้ายด้วยพระคาถากันกันถอนและกันคัด คือ ไม่ให้เสื่อม ไม่ให้ใครมาถอน หรือคัดพุทธคุณออกเพื่อนำไสยศาสตร์เข้า

    ส่วนวัตถุมงคลของเดิมที่ยังมีอยู่ก็เสกไปเรื่อย เช่น เหรียญ และพระสมเด็จ
    บางวันมีเวลาว่างมากก็ทำหลายครั้ง แล้วค่อยทยอยนำมามาให้บูชาที่โบสถ์เป็นคราวๆ ไป


    ท่านบอกว่า เคยคิดที่จะขอให้พุทธคุณคงอยู่ถึง 5,000 ปี ตามอายุพระศาสนา
    เคยทำบ้างที่เสกวัตถุมงคลรุ่นเก่าที่คนบูชาไปแล้ว (เสกทางอากาศ) เพราะเกรงว่าเขาเอาไปแล้วทำตัวไม่ดีจะเสื่อม

    ข้อห้าม วัตถุมงคลของหลวงพ่อมีข้อห้ามที่สำคัญ คือ ห้ามด่าพ่อ ด่าแม่
    ท่านให้เหตุผลว่า พ่อแม่ถือว่าเป็นพระอรหันต์ของลูก และเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 เป็นผู้มีพระคุณมาก
    ส่วนการพูดคำหยาบ เช่น มึงกู หรือกินเหล้ายังไม่เป็นไร การว่าพ่อแม่คนอื่นไม่เป็นไรก็จริง แต่ก็ไม่บังควร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 277 ตะกรุดสายข้อมือ
    พระครูวิชัยกิจจารักษ์ (อุดม อุตตมปัญโญ) วัดพิชัยสงคราม อยุธยา

    บูชา 300-

    [​IMG]

    เป็นเชือกข้อมือถัก และมีตะกรุดดอกเล็กๆ อยู่ 1 ดอก ดีทางเมตตา กันภัย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อภิญญา8

    อภิญญา8 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,864
    ค่าพลัง:
    +6,799
    ขอจองรายการที่ 275 นะครับ และ ถ้ามีพระสมเด็จ ของหลวงปู่ก๋วนอีก ช่วยแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ
     
  19. anuchang

    anuchang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +12,748
    รายการที่ 278 ตะกรุดเทวดาเชิญธง 4 นิ้ว เนื้อฝาบาตร ปี 2556
    ลพ.นะดี (สมคิด) อินทปัญโญ วัดเนินสาธารณ์ อุทัยธานี

    บูชา 3,600-

    [​IMG]

    ลพ.นะดี (สมคิด) วัดเนินสาธารณ์ ท่านสืบสานวิทยาคมสาย ลพ.เดิม วัดหนองโพ
    ลพ.เงิน วัดบางคลาน ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านบวชอยู่กับ ลป.คำ วัดสุวรรณรัตนาราม
    ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านมีอายุมากแล้วได้ให้พระอาจารย์สมคิดจารตะกรุดของท่าน
    และได้ไปเรียนกรรมฐานจากลป.แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง และได้เรียนวิชาสายเขาอ้อ


    วัตถุมงคลที่มีชื่อของท่านก็คือ ตะกรุด ท่านจารตะกรุดเองทุกดอก เป็นรูปวาดแบบจิตรกรรมฝาผนัง
    นอกจากจะเข้มขลังแล้วยังมีความสวยงามในเชิงศิลปะอย่างหาที่เปรียบได้ยาก
    เป็นทั้งพุทธศิลป์และพุทธาคมไปด้วยในตัว

    [​IMG]

    ดอกนี้เป็นตะกรุดเทวดาเชิญธง เนื้อฝาบาตร ขนาด 3 นิ้วกว่าเกือบ 4 นิ้ว
    ท่านบอกว่าดีทางคุ้มครองป้องกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. อนันตภพ

    อนันตภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +2,969
    ขอจองค่ะ..............
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...