ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

เพลิงไหม้'โรบินสัน บางรัก'ขณะปิดปรับปรุง จนท.คุมไว 1ชม.ดับ



เพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า "โรบินสัน บางรัก" โชคดีอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง พนักงานรักษาความสะอาดสำลักควันเจ็บ 1 ราย เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 1 ชม.ในการดับไฟ เพลิงจึงสงบ...
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาบางรัก กทม. ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร โดยหลังเกิดเหตุไม่นาน เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ระดมเครื่องฉีดน้ำสกัดไฟ พร้อมเร่งระบายควันออกจากตัวอาคาร สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาในบริเวณใกล้เคียง กระทั่งเมื่อเวลา 11.20 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้



ทั้งนี้ ภายหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพนักงานทำความสะอาดของห้างดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันไฟ 1 ราย

ขณะที่จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าต้นเพลิงเกิดจากกองวัสดุที่ติดไฟขึ้นมา คาดว่าอาจได้รับประกายไฟจากการซ่อมแซมงานท่อสายไฟเก่า ที่บริเวณชั้น 1 ก่อนที่กลุ่มควันจะลอยเข้าปล่องระบายอากาศและออกสู่นอกอาคาร บริเวณชั้นที่ 3 และ 4 ส่วนกองวัสดุดังกล่าว เป็นวัตถุดิบและวัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซม ปรับปรุงห้างฯ เนื่องจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ห้างฯ ดังกล่าวอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นมา.




ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

โรบินสันบางรักชี้ควันดำในห้างแค่สะเก็ดไฟ ย้ำไม่มีเหตุร้ายแรง

รายงานข่าวจากบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า จากสถานการณ์กลุ่มควันสีดำเกิดขึ้นบริเวณร้านแมคโดนัลด์ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันนี้ (15 ส.ค.) นั้น (ซึ่งห้างฯ กำลังอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุงพื้นที่เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา) เหตุของกลุ่มควันดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้พบเห็น และผู้ที่อยู่อาศัยใกล้เคียง

ในการนี้ ทางห้างฯ ใคร่ขอชี้แจงให้ทราบว่ากลุ่มควันดังกล่าวเป็นเพียงกลุ่มควันที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดในการทำงานของผู้รับเหมาของร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร โดยผู้รับเหมาของร้านแมคโดนัลด์ได้ใช้เครื่องตัดเหล็กตัดท่อระบายควัน (ซึ่งเป็นท่อเก่า และมีคราบน้ำมันติดอยู่จำนวนมาก) ในขณะทำการตัดได้มีสะเก็ดไฟไปถูกคราบน้ำมัน จึงทำให้เกิดเปลวไฟลุกลามขึ้นภายในท่อระบายควันดังกล่าว ประกอบกับท่อระบายควันดังกล่าวเป็นท่อที่มีความยาวขึ้นไปถึงบริเวณชั้น 4 ของตัวอาคาร จึงทำให้สามารถมองเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ของทางห้างฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และหน่วยอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว และจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าไม่มีเพลิงลุกไหม้ทำให้เกิดความเสียหาย และไม่พบผู้บาดเจ็บในพื้นที่แต่อย่างใด และได้มีการใช้เครื่องระบาย กลุ่มควันออกจากพื้นที่หมดแล้ว และหลังจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวอาคาร และเพื่อความสบายใจของชุมชนโดยรอบ

ทางห้างฯ ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และสำหรับ “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก” พร้อมเปิดบริการในภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใส ทันสมัยกว่าเดิม ภายในต้นเดือนธันวาคม 2556 นี้ ตามกำหนดการเดิมอย่างแน่นอน

 

In Pics & Clips:อียิปต์ลุกเป็นไฟ กองทัพ-ผู้ชุมนุมลุยเข่นฆ่าบนท้องถนน ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2556 06:27 น.


<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/AK1fP-n9qtc?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/EECG_4EMVBU?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/s6JTu0Um4hY?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เอพี/เอเอฟพี/เอเจนซี - บ้านเมืองของอียิปต์ลุกเป็นไฟอีกครั้งในวันศุกร์(16) หลังการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศอียิปต์ในวันศุกร์(16) เพื่อเป็นการประกาศ "วันแห่งความโกรธแค้น"ของพวกผู้สนับสนุนประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มอร์ซี เลี้ยวเข้าสู่เหตุรุนแรง ด้วยมีผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับกองกำลังด้านความมั่นคงทั่วประเทศ มากกว่า 60 ศพ ความแตกแยกนองเลือดที่มีต้นตอจากการแย่งชิงอำนาจ ที่สามารถเปลี่ยนประเทศๆหนึ่งที่เคยได้ชื่อว่าเป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว เป็นสนามรบ ดังที่ปรากฏในภาพและคลิปวิดีโอต่อไปนี้








































.

 

พรุ่งนี้ทอ.ส่งC-130ไปดูไบรับคนไทยจากอียิปต์
By สำนักข่าวไทย TNA News | 17 ส.ค. 2556 22:38

พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เผยวันพรุ่งนี้ (18 สิงหาคม 2556) เวลา 12.00 น. กองทัพอากาศจะส่ง C-130 ไปดูไบเพื่อรับคนไทยจากอียิปต์

พรุ่งนี้ทอ.ส่งC-130ไปดูไบรับคนไทยจากอียิปต์ | MCOT.net | MCOT.net

 

ไม่เห็นด้วยกับแกนนำทั้ง 2 ฝ่ายที่ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชน
ชาวอียิปต์เข่นฆ่ากันเอง ด้วยอาวุธสงครามที่ซื้อด้วยภาษีของ
ประชาชนเอง

เป็นความวิบัติทางสติปัญญาของผู้นำทั้ง 2 ฝ่าย ที่พาประชาชน
เข่นฆ่ากันอย่างป่าเถื่อน โดยไม่ได้มีสติยั้งคิดว่า"ฆ่ากันเพื่ออะไร!!!"
หรือ"เพื่อใคร!!!!"

หรือว่าฆ่ากันเพื่อโชว์ชาวโลกว่าพวกตัวเอง"มีกำลังที่เหนือกว่า"

 

นศ.ไทยชุดแรกบินหนีอียิปต์ บ่ายวันนี้ “ปึ้ง” รับจองเครื่องยาก มี 900 ชีวิตขอกลับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2556 10:53 น.

นศ.ไทยชุดแรกเตรียมบินออกจากอียิปต์วันนี้ สอท.คอยอำนวยความสะดวก รมว.กต.เผยคนไทยขอกลับแล้ว 900 กว่าชีวิต ใช้เครื่องเช่าเหมาลำเที่ยวแรกได้ 340 ที่นั่ง เริ่มบิน 13.30 น. ถึงดูไบ 6 โมงเย็น พร้อมประสานกลับไทยต่อ รับจองเครื่องไปรับที่อียิปต์ยาก นายกฯ สั่งดูแลค่าใช้จ่าย ทอ.ส่ง C-130 รับคนไทยจากอียิปต์ เผยล็อตแรก 220 คนถึงดอนเมืองพรุ่งนี้ 14.30 น.

วันนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าว รายงานความเคลื่อนไหวบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก “สมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์” เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้ หลังจากที่รัฐบาลไทยได้มีการปรับระดับเตือนภัยในประเทศอียิปต์ขึ้นเป็นระดับ 4 แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างฝั่งรัฐบาลอียิปต์กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ไม่ดีขึ้นและมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มกว่า 700 คน โดยมีการออกประกาศสำคัญ ฉบับที่ 3 ระบุถึงรายชื่อนักศึกษาชุดแรกที่ยืนยันเดินทางกลับเมืองไทย โดยเที่ยวบินลำแรกวันนี้ 18 สิงหาคม 2556 จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 344 คน โดยขอให้นักศึกษาที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ ไปถึงสนามบินเวลา 12.00 น. ณ อาคารผู้โดยสารที่ 3 (ยาดีด) ให้น้ำหนักกระเป๋าสัมภาระที่จะโหลดลงใต้เครื่องได้คนละไม่เกิน 20 กิโลกรัม คนละ 1 ชิ้นเท่านั้น เตรียมเอกสารสำหรับการเดินทางให้พร้อม สำหรับเด็กเล็ก และผู้ที่ไม่มีพาสปอร์ต ให้รีปไปถึงสนามบินแต่เนิ่นๆ เพื่อทางสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) จะได้ออกหนังสือเดินทางฉุกเฉินให้

“ใครที่มีปัญหาเรื่องวีซ่าไม่ต้องกังวลนะครับ ให้เดินทางได้เลย มีอะไรสอบถามได้ที่ 012-2394-8338 สมศักดิ์ พระยีเกะ 010-1940-1243 เจ้าหน้าที่ สอท.” ข้อความในเว็บไซต์ เฟซบุ๊กสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุ

ทั้งนี้ ตามที่ประกาศสำคัญ ฉบับที่ 2 ของ “สมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์” เมื่อวานนี้ ระบุว่ารายชื่อของผู้ที่จะต้องเดินทางในวันนี้ ได้แก่ 1. กลุ่มที่มีครอบครัว 2. ผู้หญิงทั้งหมด และขออให้สมาชิกชายเตรียมการตรวจสอบรายชื่อต่อไปเพื่อเป็นรายชื่อสำรอง

ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ล่าสุด มีคนไทยในอียิปต์ มาลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศแล้ว 900 กว่าคน ทั้งหมดได้จัดลำดับการเดินทางก่อน-หลังกันเอง ซึ่งเที่ยวบินเช่าเหมาลำเที่ยวแรกของอียิปต์แอร์ บรรจุคนได้ 340 ที่นั่งจะนำคนไทยออกจากกรุงไคโรไปยังนครดูไบในเวลา 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น วันที่ 18 สิงหาคม และคาดว่าน่าจะถึงนครดูไบประมาณ 18.00 น.

เมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตคอยอำนวยความสะดวก โดยในระหว่างนี้กำลังประสานกับการบินไทย ซึ่งมีเที่ยวบินประจำให้นำเครื่องขนาดใหญ่ไปรับคนไทยกลับประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับกองทัพอากาศอีกทางหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม การจองเครื่องบิน เพื่อนำคนออกอียิปต์เที่ยวต่อไป ยังอยู่ระหว่างการประสานงาน เพราะการจองเครื่องบินทำได้ไม่ง่ายนัก

รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้กระทรวงการต่างประเทศ ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการอพยพคนไทยกลับประเทศ เพราะคำนึงถึงการให้การดูแลความปลอดภัยของคนไทยทุกคน

ขณะที่ พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า หลังได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมา (17ส.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเครื่องบินลำเลียง C-130 เดินทางไปรับคนไทยจากประเทศอียิปต์ โดยเที่ยวแรกจะเดินทางในเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้

“วันนี้จะบินรวดเดียว 10 ชั่วโมง เพื่อไปรับคนไทยที่ดูไบให้เร็วที่สุด ขากลับจะแวะเติมน้ำมันที่ประเทศอินเดีย คาดว่าจะมาถึงดอนเมืองในเวลาประมาณ 14.30 น.” โฆษก ทอ. กล่าวต่อว่า

ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) กองทัพอากาศจะจัดเครื่องบิน C-130 อีก 2 ลำ ไปรับคนไทยซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาการจัดเที่ยวบิน เนื่องจากอาจมีสายการบินพาณิชย์ร่วมด้วย และขณะนี้ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่ามีคนไทยยืนยันขอกลับประเทศแล้ว จำนวน 900 คน ซึ่งจะรับกลับมาในพรุ่งนี้ได้ราว 220 คน

ด้าน ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศอียิปต์ ซึ่งขณะนี้ลุกลามและเพิ่มความรุนแรงขึ้น รัฐบาลไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศมีความห่วงใยคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศอียิปต์ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ประสานการจัดเที่ยวบินพิเศษนำคนไทยอพยพออกจากอียิปต์มาส่งที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมอบหมายให้กองทัพอากาศและการบินไทยเตรียมความพร้อมร่วมจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับคนไทยที่ต้องอพยพออกจากประเทศอียิปต์ ณ จุดรับ-ส่ง ที่เมืองดูไบ เดินทางกลับสู่ประเทศไทย

สำหรับเที่ยวบินพิเศษของการบินไทยจะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ทำการบิน ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวน 365 คน เที่ยวบินพิเศษ ทีจี 8476 จะออก
เดินทางจากกรุงเทพฯ ในวันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2556 ) เวลาประมาณ 20.00 น. และกลับถึงกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินพิเศษ ทีจี 8477 ในวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556 เวลาประมาณ 11.45 น.

ทั้งนี้ การบินไทยจะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแผนการบิน เพื่อที่จะสามารถปรับแผนการบินให้ทันต่อสถานการณ์และรองรับการอพยพคนไทยออกจากประเทศอียิปต์กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด



.

 

รู้จัก “มุสลิมภราดรภาพ” กลุ่มการเมืองเก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดของอียิปต์

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2556 เวลา 21:14 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ทำความรู้จักกับกลุ่ม “มุสลิมภราดรภาพ” องค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดในอียิปต์และโลกอาหรับ ผู้มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการโค่นล้มอำนาจของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค การสนับสนุนให้นายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอียิปต์คนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง จนกระทั่งถึงการปลุกระดมให้เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อขับไล่กองทัพที่เป็นผู้ยึดอำนาจมอร์ซี

กลุ่มมุสลิมภราดรภาพก่อตั้งเมื่อปี 2471 โดยนายฮัสซัน อัล-บันนา นักการศาสนาชื่อดังของอียิปต์ในเวลานั้น ด้วยแนวคิดที่ว่า ศาสนาไม่ได้เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของบุคคล แต่คือส่วนหนึ่งของชีวิต ซึ่งได้รับความสนับสนุนอย่างรวดเร็วในกลุ่มประเทศอาหรับหลายแห่งไปจนถึงแอฟริกาเหนือ ที่ถือให้เป็นต้นแบบของ “องค์กรการเมืองที่เคลื่อนไหวด้วยแรงผลักดันของศาสนา” ว่ากันว่าแม้จะยังไม่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กลุ่มมุสลิมภราดรภาพก็รวบรวมสมาชิกได้แล้วกว่า 2 ล้านคน

กลุ่มมุสลิมภราดรภาพมุ่งเน้นเรื่องการสอนศาสนาและจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเรื่อยมา จนกระทั่งถึงปี 2548 ซึ่งเป็นสมัยที่อียิปต์ยังอยู่ภายใต้การปกครองของมูบารัค กลุ่มมุสลิมภราดรภาพตัดสินใจส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ในสภาล่างเป็นครั้งแรก และได้รับเลือกตั้งมากถึง 88 ที่นั่ง ทั้งที่เป็นการลงสมัครในนามอิสระ ไม่ขึ้นกับขั้วการเมืองทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับมูบารัค ทำให้สื่อและนักวิเคราะห์พากันยกย่องให้เป็น “ฝ่ายค้านกลุ่มแรกแห่งวงการเมืองอียิปต์ยุคใหม่” แต่หลังจากนั้นไม่นาน มูบารัคสั่งให้มีการกวาดล้างกลุ่มมุสลิมภราดรภาพ และจับสมาชิกระดับสูงหลายคนไปคุมขัง

อย่างไรก็ตาม สมาชิกของกลุ่มที่เหลืออยู่เดินหน้าโจมตีมูบารัคเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำสื่อเผยแพร่ รวมถึงการจัดชุมนุมย่อยและการจัดเสวนาโจมตีรัฐบาล จนกระทั่งสิ้นสุดยุคของมูบารัคเมื่อปี 2554 กลุ่มมุสลิมภราดรภาพ “ฟื้นคืนชีพ” ครั้งใหญ่ เนื่องจากกฎหมายของอียิปต์ระบุห้ามมิให้คว่ำบาตรกลุ่มการเมืองใดก็ตาม ด้วยเหตุผลเพียงเรื่องศาสนา ทางกลุ่มจึงส่งผู้สมัครลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. ) ในช่วงเดือนธ.ค. ปีเดียวกัน ในนามพรรค “เสรีภาพและความยุติธรรม” ( เอฟเจพี )

ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคเอฟเจพีได้ที่นั่งถึงครึ่งหนึ่ง แต่กลับประกาศจะไม่ส่งผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมิ.ย. 2555 แต่กระนั้นนายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี บัณฑิตปริญญาเอกวิศวกรรมศาสตร์จากสหรัฐลงชิงชัยในนามของกลุ่มมุสลิมภราดรภาพ และได้รับชัยชนะ กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง

แม้จะเป็นผู้นำอียิปต์คนแรกที่มาจากการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย แต่คะแนนนิยมในตัวมอร์ซีและกลุ่มมุสลิมภราดรภาพกลับดิ่งเหวลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากการไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้เมื่อตอนหาเสียงหลายข้อ เช่นการแต่งตั้งรองประธานาธิบดีหญิง หรือการเปิดโอกาสให้นักการเมืองชาวคริสต์เข้ามามีส่วนร่วมในรัฐบาล ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีขึ้นด้วย ทำให้เริ่มมีการชุมนุมขับไล่มอร์ซีเป็นระยะ และหนักหน่วงขึ้นจนกลายเป็นการที่กองทัพตัดสินใจบุกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ครบ 1 ปีที่มอร์ซีเข้ามาบริหารอำนาจ

แน่นอนว่า กลุ่มมุสลิมภราดรภาพไม่มีทางยอมแพ้โดยง่าย กลับประกาศปลุกระดมมวลชนให้ออกมาเดินหน้าชุมนุมต่อต้านกองทัพและรัฐบาลรักษาการ ที่แน่นอนว่ามีทหารหนุนหลัง การประท้วงทวีความรุนแรงถึงขีดสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. จากการที่ฝ่ายความมั่นคงส่งเจ้าหน้าที่บุกทลายค่ายของผู้ชุมนุม 2 แห่งในกรุงไคโร มีผู้เสียชีวิตในวันนั้นเพียงวันเดียว 638 ศพ ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ 43 ศพ และผู้สื่อข่าวต่างชาติอีก 3 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีกร่วม 4,000 คน รัฐบาลรักษาการต้องประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน 1 เดือน

จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในอียิปต์ที่รุนแรงที่สุดครั้งนี้จะดำเนินต่อไปในทิศทางใด ท่ามกลางการสูญเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกนาที แต่การที่บุตรชายของนายโมฮัมเหม็ด บาร์ดี ผู้นำกลุ่มมุสลิมภราดรภาพคนปัจจุบัน ถูกยิงเสียชีวิตขณะร่วมชุมนุมเมื่อวันที่ 17 ส.ค. และการที่รัฐบาลรักษาการประกาศจะใช้วิธีทางกฎหมายยุบกลุ่มมุสลิมภราดรภาพ อนาคตของอียิปต์กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่ใกล้จะขาดมากขึ้นทุกขณะ

รู้จัก “มุสลิมภราดรภาพ” กลุ่มการเมืองเก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดของอียิปต์ | เดลินิวส์

 

ทัพฟ้าพร้อมส่งเครื่องบินรับคนไทยกลับประเทศ

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2556 เวลา 13:55 น.

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ฝูงบินที่ 601 กองบินที่6 ฐานทัพอากาศดอนเมือง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ส่งทีมงานเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับคนไทย ที่เดินทางกลับจากประเทศอียิปต์ โดยใช้เครื่องบิน ทหารแบบ C130 จำนวน 2ลำ โดยพล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่าได้มีการส่งเจ้าหน้าที่กับตันพร้อมลูกเรือ แพทย์และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศลำละ 20 เดินทางไปรับคนไทยที่แจ้งความประสงค์จะขอเดินทางกลับประเทศไทย ล่าสุดมีจำนวนที่แจ้งเข้ามาอย่างแน่นอนแล้วว่าพร้อมที่จะขึ้นเครื่องเดินทางกลับจำนวนกว่า 600 คน จากเดิมที่คาดว่าจะมีคนไทยอยู่ในประเทศอียิปต์จำนวนกว่า 900 คน โดยจะใช้เครื่องบินชนิด C130 ที่รองรับผู้โดยสารได้ลำละ 110ที่นั่ง จำนวน 2 เครื่อง รวมผู้โดยสารที่จะรับกลับมาในเที่ยวนี้ 220 คน

อย่างไรก็ตามยังมีเครื่องบิน โบอิ้ง 747 ของสายการบินไทย ที่มาช่วยขนส่งผู้โดยสารเที่ยวนี้ด้วย คาดว่าน่าจะรองรับได้เกือบ 400 คน เมื่อรวมกันแล้วก็คาดว่าน่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด แต่หากมีผู้โดยสารเหลือตกค้างอีก ทางกองทัพก็ยังเตรียมเครื่องบิน C130 เอาไว้อีก 2 ลำเพื่อบินไปรับคนที่ตกค้างได้อีกทันที ส่วนครั้งนี้ขาจะบินตรงไปยังนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งเป็นจุดนัดพบและรับคนไทยกลับมา ใช้เวลาประมาณ 10.30ช.ม.โดยขากลับจะแวะจอดเติมน้ำมันที่ประเทศอินเดียและกลับมาถึงประเทศไทยที่กองบินแห่งนี้ ในเวลาประมาณ 14.00น. ของวันพรุ่งนี้(19ส.ค.)

ด้านพ.ญ.สุมิตษิ์ตรา ปิยะณัตดิ์พูล แพทย์เชี่ยวชาญระดับ 9 รพ.ราชวิถี ทีมงานที่จะร่วมเดินทางไปรับคนไทยในครั้งนี้ กล่าวว่า เบื้องต้นได้เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือและรักษาพยาบาล และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งคาดว่าจะรองรับผู้โดยสายที่เจ็บป่วยทั่วไปได้ แต่หากมีการบาดเจ็บฉุกเฉินถึงขั้นไอซียูหรือผ่าตัด ทางทีมแพทย์ก็ได้เตรียมยาและอุปกรณ์เอาไว้แล้ว ยืนยันได้เลยว่าหากมีใครบาดเจ็บหรือล้มป่วย ก็สามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีแน่นอน

ขณะที่ น.ท.พร้อมรบ จันทร์โฉม นักบินฝูงบินที่ 601 กล่าวว่า คาดว่าการเดินทางไปรับคนไทยในครั้งนี้คงไม่มีปัญหาอะไร นื่องจากไม่ใช่ครั้งแรก แต่เคยมีการทำภารกิจแบบนี้มาแล้วถึง 4ครั้ง จากการข่าวไม่พบว่าจะมีปัญหาใดๆที่เป็นอุปสรรคในการเดินทาง อย่างไรก็ตามขณะทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งขอใบอนุญาตเข้าเขตน่านฟ้า เนื่องจากเครื่องบินที่ใช้เป็นเครื่องบินทหาร จึงต้องทำการขออนุญาตก่อนแต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ทัพฟ้าพร้อมส่งเครื่องบินรับคนไทยกลับประเทศ | เดลินิวส์

 

ผบ.ทอ.ส่งซี-130 ขนชาวไทยหนีภัยอียิปต์ 2 ลำ หลังนายกฯ โทร.สั่ง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2556 15:53 น.



ผู้บัญชาการทหารอากาศ ตรวจซี-130 บินรับชาวไทยติดค้างในอียิปต์ รับ “ยิ่งลักษณ์” โทร.สั่งให้ช่วยขนคนกลับ 600 คน คาดถึงดูไบ 1 ทุ่ม กลับสยามถึงบ่ายสอง พรุ่งนี้ เผยแอร์บัสบินไทยส่งไปรับด้วย 19 ส.ค.

วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ฝูงบิน 601 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมและดูแลความพร้อมในการส่งเครื่องซี-130 จำนวน 2 ลำไปรับคนไทยที่อยู่ในประเทศอียิปต์ โดยทางผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศได้มาร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการลำเลียงคนจากอียิปต์มาประเทศไทย

โดย พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้โทรศัพท์มาหาเพื่อขอให้กองทัพอากาศ สนับสนุนเครื่องบินซี-130 ไปรับคนไทยที่ประเทศอียิปต์ วันนี้ตนจึงต้องมาสั่งการเอง เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินต้องตัดสินใจเรื่องการเพิ่มเครื่องบินจะได้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ทางกระทรวงต่างประเทศได้สอบถามถึงความพร้อมของกองทัพอากาศในการนำเครื่องบินไปรับคนไทยกลับ ซึ่งเราได้ชี้แจงไปว่าเรามีความพร้อมโดยจัดเครื่องซี-130 จำนวน 4 ลำ แต่ละลำสามารถลำเลียงคนได้ลำละ 110 คน รวมเป็น 440 คน

“เดิมกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่ามีคนต้องการกลับไทย 940 คน แต่ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งยอดคนไทยที่จะเดินทางกลับเหลือ 600 คน โดยตามกำหนดการ วันนี้เครื่องบินจะถึงสนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวลา 19.00 น. และจะรอเครื่องบินที่ลำเลียงคนจากอียิปต์มาลงที่ดูไบในเวลาประมาณ 22.00 น. และเราจะสามารถนำเครื่องออกได้ประมาณเวลา 23.00 น. โดยจะมาถึงประเทศไทยที่ฝูงบิน 601 เวลา 14.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค.นี้ แต่กำหนดการดังกล่าวอาจจะล่าช้าออกไปเพราะเราต้องขออนุมัติการบินผ่านนานฟ้าใน 4 ประเทศที่เราต้องบินผ่านทั้งพม่า อินเดีย โอมาน และดูไบ คิดว่าเครื่องจะสามารถขึ้นบินได้ในช่วงบ่าย โดยใช้เวลาการบินจากประเทศไทยไปดูไบ 10 ชั่ว โมง 20 นาที โดยเครื่องบินซี-130 จำนวน 2 ลำในชุดแรกจะรับคนไทยกลับมาจำนวน 220 คน ทั้งนี้ ในส่วนของกองทัพอากาศได้จัดส่งนักบินและลูกเรือลำละ 16 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ 4 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข 4 คน เพื่อช่วยดูแลคนไทยที่ขึ้นเครื่องกลับมา และยังได้เตรียมเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อตรวจเช็กสุขภาพร่างกายประชาชนก่อนขึ้นเครื่อง หากไม่สบายจะปฐมพยาบาลก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งระหว่างอยู่บนเครื่องบินจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวก และจัดเตรียมอาหารให้ โดยทางนายกฯ ฝากให้เร่งประสานงานเพื่อให้นำคนไทยกลับมาโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย” ผบ.ทอ.กล่าว

พล.อ.อ.ประจินกล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) จะมีเครื่องบินแอร์บัสของการบินไทยไปรับคนไทยอีก 1 เครื่อง โดยสามารถรองรับคนไทยได้ 400 คน ส่วนเครื่องบินซี-130 ชุดที่ 2 จำนวน 2 ลำ ตามกำหนดการจะเดินทางจากฝูงบิน 601 09.00น.เพื่อไปรับคนที่ยังตกค้างอยู่ โดยจะเดินทางกลับมาถึงฝูงบิน 601เวลา 11.00 น.ของวันที่ 20 ส.ค. สำหรับหัวหน้าชุดที่ทำการบินคือ น.อ.จักร สุวรรทัต รองผู้บังคับการกองบิน 6 ซึ่งญาติพี่น้องของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอียิปต์สามารถมารอรับได้ที่ฝูงบิน 601 ตามวันเวลาดังกล่าว สำหรับค่าใช้จ่ายในการนำเครื่องบินขึ้นลง ทางกองทัพอากาศจะเป็นผู้รับผิดชอบ นอกเหนือจากนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และคาดว่าจะสามารถลำเลียงคนไทยกลับมาได้หมดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งการบินครั้งนี้ถือเป็นการบินระยะไกลจึงต้องจัดเจ้าหน้าที่นักบิน 3 ชุด เพื่อบินต่อเนื่องได้ทันที นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากกระทรวงต่างประเทศเพื่อตรวจรายชื่อตามพาสปอร์ตและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะมาอำนวยความสะดวกในการตรวจรายชื่อที่ฝูงบิน 601























พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.)



.

 

]น้ำเอ่อท่วมจากแม่น้ำ Marikina ขึ้นท่วมสองฝั่งของกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์จากลมมรสุมที่พัดแรงด้วยพลังของพายุจ่ามี (เครดิตภาพ @ykkamkkam)

 

“ภูเขาไฟซากุระจิมา” ระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดในญี่ปุ่น!! เถ้าถ่านปกคลุมทั่วเมือง “คาโกชิมา”



เอเจนซีส์ - ภูเขาไฟซากุระจิมา ถือเป็นหนึ่งในบรรดาภูเขาไฟในญี่ปุ่นที่ยังคุกรุ่นมากที่สุด เห็นได้จากการระเบิดล่าสุดในวันอาทิตย์(18)ที่ผ่านมา ที่เกิดระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ส่งผลให้เถ้าถ่านปกคลุมเมืองคาโกชิมา ไม่มีรายงานของผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

“ภูเขาไฟซากุระจิมา” อยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะคิวชู ญี่ปุ่น ซากุระจิมาได้เริ่มปะทุเมื่อ 16.31 น. ตามเวลาท้องถิ่นในญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์(18) ควันไฟที่พวยพุ่งจากซากุระจิมาสูงราว 3 ไมล์ และลาวาไหลยาวประมาณครึ่งไมล์จากปล่องภูขาไฟ นับเป็นควันภูเขาไฟที่สูงสุดในญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 1995

ประชาชนชาวเมืองคาโกชิมาที่มีพลเมืองอยู่ราว600,000 คน ต่างสวมหน้ากากและเสื้อกันฝนและใช้ร่มเพื่อป้องกันเถ้าถ่านจากภูเขาไฟซากุระจิมาที่เกิดระเบิดในช่วงบ่ายวันอาทิตย์(18) บรรดาผู้ขับรถต่างเปิดไฟหน้า และสื่อท้องถิ่นได้อธิบายถึงการที่เถ้าถ่านภูเขาไฟว่า เหมือนขับรถผ่านหิมะตกในตอนกลางคืน ในขณะที่รถไฟหยุดบริการเพื่อกวาดเถ้าถ่านออกจากราง

สถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่นรายงานในเช้าวันจันทร์(19)ถึงการที่ชาวบ้านในบริเวณใกล้กับซากุระจิมาต่างใช้น้ำราดและกวาดทำความสะอาดเถ้าถ่าน เจ้าหน้าที่ของเมืองคาโกชิมาใช้รถขยะและรถน้ำทำความสะอาดเมือง







โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

โซนร้อน “จ่ามี” แผลงฤทธิ์ถล่มมะนิลา สัญจรเกือบอัมพาต-น้ำท่วมถึงเอว


ชาวฟิลิปปินส์ขับขี่ยวดยานฝ่าระดับน้ำทีท่วมสูงบนถนนในกรุงมะนิลา วันนี้(19)

เอเอฟพี - เมืองหลวงฟิลิปปินส์ตกอยู่ในสภาวะกึ่งอัมพาตวันนี้(19) หลังอิทธิพลของพายุโซนร้อน “จ่ามี” (Trami) ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนบางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึงระดับเอว

โรงเรียน สถานที่ราชการ และตลาดหลักทรัพย์ในกรุงมะนิลา ประกาศปิดทำการชั่วคราวในวันนี้(19) ขณะที่รัฐบาลออกประกาศเตือนภัยระดับแดง เนื่องจากคาดว่าพื้นที่น้ำท่วมจะยังขยายวงกว้างออกไปอีก

น้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมทางตอนเหนือของเกาะลูซอนคร่าชีวิตชาวบ้านไปแล้วอย่างน้อย 1 ราย

“เราพยายามป้องกันทรัพย์สินเท่าที่จะทำได้ แต่น้ำเอ่อขึ้นมาเร็วมาก... คนข้างบ้านผมยังเอาออกรถไปไม่ทันด้วยซ้ำ” เจ.อาร์. ปาสกวล คุณพ่อลูกสี่ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดคาวิเต (Cavite) ห่างจากใจกลางกรุงมะนิลาราวๆ 15 กิโลเมตร ระบุ

ถนนจากคาวิเตเข้าไปในตัวเมืองไม่สามารถใช้สัญจรได้แล้ว ชาวบ้านบางคนที่ยังดึงดันจะเข้าไปในเมืองให้ได้ก็ต้องยอมทิ้งรถเอาไว้ข้างทาง

ถนนบางสายในกรุงมะนิลามีน้ำท่วมขังจนไม่สามารถใช้การได้ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องทนเดินฝ่าน้ำครำสกปรกที่ท่วมสูงถึงระดับเอว

สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์แถลงว่า พื้นที่เพาะปลูกในเขตภูเขาทางตอนเหนือของเกาะลูซอนถูกกระแสน้ำไหลเข้าท่วมจนเสียหายยับเยิน บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงถึง 1.2 เมตร หลังเผชิญฝนตกต่อเนื่องตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว 1 ราย สูญหายอีก 2 คน

นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ตลอดทั้งวันนี้(19) จะยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องบนเกาะลูซอน เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนจ่ามีซึ่งทำให้ฤดูมรสุมปีนี้รุนแรงกว่าปกติ แม้ตัวพายุจะยังอยู่ห่างจากหมู่เกาะฟิลิปปินส์ไปกว่า 500 กิโลเมตรก็ตาม









โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

มันแปลกๆพายุแย่งกันเกิด ยังไงพิกล



<a href="http://pic.free.in.th/id/3076dd854e43c226dad37df4ed502a14" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/id/130819013601.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

<a href="http://pic.free.in.th/id/5cb91f3629deef02900b9e3b720b1d0e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iv/130819013631.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

<a href="http://pic.free.in.th/id/4f3f9ae77ec29cda1c06673523d785c7" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ie/130819013658.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ปภ.เตือน13จว.ภาคเหนือรับมือร่องมรสุมน้ำท่วมฉับพลัน



นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ.เตือน 13 จังหวัดภาคเหนือ เตรียมพร้อมรับมือ เฝ้าระวัง ร่องมรสุม เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม 20-22 ส.ค.
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้ภาคเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 20-22 ส.ค.นี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย 13 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงราย แพร่ พะเยา และน่าน ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสาน 13 จังหวัดภาคเหนือ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย.

 

ปินส์ช้ำ! "จ่ามี" ถล่ม “มะนิลา” จมบาดาล-ยอดตายบนเกาะลูซอนพุ่ง 7 ราย

เอเอฟพี - ชาวฟิลิปปินส์ทั้งในกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงวิงวอนให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือ หลังพายุฝนที่เทกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตาในฤดูมรสุมปีนี้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 7 ราย ขณะที่กรุงมะนิลาบางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงแทบไม่ต่างจากเมืองบาดาล

ปริมาณน้ำมหาศาลที่ตกลงมาจากฟ้าได้เอ่อท่วมบ้านเรือนและยานพาหนะในเมืองหลวงฟิลิปปินส์ซึ่งมีประชากรราว 12 ล้านคน ชาวเมืองต้องขนข้าวของไปอาศัยอยู่ตามศูนย์ผู้อพยพ ขณะที่บางคนยังคงติดอยู่ภายในบ้าน

รายงานล่าสุดจากสำนักงานพัฒนาเขตเมโทรมะนิลาเช้าวันนี้(20) ระบุว่า กรุงมะนิลาถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 60% บางแห่งระดับน้ำสูงถึง 2.1 เมตร

เอสเปรันซา กายานัน ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์ แถลงว่า บางพื้นที่ในกรุงมะนิลามีฝนตกลงมามากถึง 47.5 เซนติเมตรภายในเวลา 24 ชั่วโมงจนถึงเช้าวันจันทร์(19) ซึ่งมากพอๆกับปริมาณฝนปกติในเดือนสิงหาคมทั้งเดือน

แม้จะยังไม่มีผู้เสียชีวิตในกรุงมะนิลา แต่จังหวัดทางตอนเหนือซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมพบผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยแล้วอย่างน้อย 4 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตบนเกาะลูซอนทั้งหมดเพิ่มเป็น 7 ราย ตามข้อมูลจาก เรย์นัลโด บาลิโด โฆษกสภาจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์

ปัญหาน้ำท่วมเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของเมืองตากาล็อก เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์, โรงเรียน และสถานที่ราชการต่างๆ ยังต้องปิดทำการต่อเนื่องในวันนี้(20) เป็นวันที่สอง

ถนนที่มุ่งสู่สนามบินกรุงมะนิลามีน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถใช้การได้ และมีเที่ยวบินในประเทศถูกยกเลิกไปแล้วหลายเที่ยว ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศก็ต้องเลื่อนเวลาเดินทางออกไปในช่วงเช้าที่ผ่านมา(20)

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ยกระดับเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุด และคาดว่าจะยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียง ตลอดทั้งวันนี้

พายุโซนร้อน “จ่ามี” (Trami) ซึ่งยังอยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ฤดูมรสุมปีนี้มีความรุนแรงกว่าปกติ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ตัวพายุแทบจะไม่มีการเคลื่อนที่ไปไหนตั้งแต่วานนี้(20)

หมู่เกาะฟิลิปปินส์เผชิญกับไต้ฝุ่นและพายุโซนร้อนปีละราวๆ 20 ลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในช่วงครึ่งหลังของปี และมักเป็นพายุที่มีความรุนแรง






โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

สถานการณ์ในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก
โดยรวม ณ ขณะนี้มันเด่นชัดในเรื่องต่อไปนี้ใช่หรือไม่!?!???

 

20 อันดับภัยธรรมชาติที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์


อันดับที่ 1
ปีที่เกิด : 1931
สถานที่ : แม่น้ำแยงซี, แม่น้ำฮวงโห
ประเภทภัยธรรมชาติ : น้ำท่วม
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 2,000,000-4,000,000

อันดับที่ 2
ปีที่เกิด : 1887
สถานที่ : แม่น้ำฮวงโห
ประเภทภัยธรรมชาติ : น้ำท่วม
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 900,000-2,000,000


อันดับที่ 3
ปีที่เกิด : 1201
สถานที่ : ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 1,100,000


อันดับที่ 4
ปีที่เกิด : 1970
สถานที่ : ปากแม่น้ำคงคา
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไซโคลน
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 500,000-1,000,000


อันดับที่ 5
ปีที่เกิด : 1556
สถานที่ : มณฑลซานซี สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 830,000


อันดับที่ 6
ปีที่เกิด : 1976
สถานที่ : เมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 242,000-655,000


อันดับที่ 7
ปีที่เกิด : 1839
สถานที่ : เขตโคธาวารีตะวันออก รัฐอันตรประเทศ อินเดีย
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไซโคลน
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 300,000


อันดับที่ 8
ปีที่เกิด : 1881
สถานที่ : เมืองไฮฟอง เวียดนาม
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไต้ฝุ่น
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 300,000


อันดับที่ 9
ปีที่เกิด : 1642
สถานที่ : เมืองไคเฟิง มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประเภทภัยธรรมชาติ : น้ำท่วม
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 300,000


อันดับที่ 10
ปีที่เกิด : 2004
สถานที่ : มหาสมุทรอินเดีย
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว, คลื่นสึนามิ
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 225,000-275,000


อันดับที่ 11
ปีที่เกิด : 526
สถานที่ : เมืองโบราณแอนติโอก ตุรกี
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 250,000


อันดับที่ 12
ปีที่เกิด : 1975
สถานที่ : เขื่อนปันเฉียว เมืองจูหม่าเตี้ยน มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไต้ฝุ่น (นีน่า), น้ำท่วม
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 242,000


อันดับที่ 13
ปีที่เกิด : 1920
สถานที่ : เขตการปกครองตนเองหนิงเซียหุย สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 200,000-240,000


อันดับที่ 14
ปีที่เกิด : 1138
สถานที่ : เมืองอเลปโป ซีเรีย
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 230,000


อันดับที่ 15
ปีที่เกิด : 1927
สถานที่ : เมืองซีหนิง มณฑลชิงไห่ สาธารณรัฐประชาชนจีน
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 200,000


อันดับที่ 16
ปีที่เกิด : 1856
สถานที่ : เมืองดามกาน อิหร่าน
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 200,000


อันดับที่ 17
ปีที่เกิด : 1876
สถานที่ : อ่าวเบงกอล
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไซโคลน
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 200,000


อันดับที่ 18
ปีที่เกิด : 1893
สถานที่ : เมืองอาร์ดาบิล อิหร่าน
ประเภทภัยธรรมชาติ : แผ่นดินไหว
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 150,000


อันดับที่ 19
ปีที่เกิด : 2008
สถานที่ : พม่า
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไซโคลน (นาร์กีส)
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 146,000


อันดับที่ 20
ปีที่เกิด : 1991
สถานที่ : บังกลาเทศ
ประเภทภัยธรรมชาติ : พายุไซโคลน
จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณ : 138,000


ที่มา :
List of natural disasters by death toll - Wikipedia, the free encyclopedia
http://www.armageddononline.org/Casualty-by-Natural/the-worst-disasters.html
BBC NEWS | Asia-Pacific | Tsunami among world's worst disasters

 

๑.บนบก มีแมกม่าจ่อประทุออกจากปล่องภูเขาไฟ แผ่นดินกำลังจะแยกจากกัน
๒.ในน้ำ กำลังมีการเเพร่กระจายของสารกัมมันต์จากโรงไฟฟ้าคูฟูชิม่า ไปทั่วแปซิฟิค
๓.ในอากาศ มีไวรัสนก คอสมิคเรย์มากับลมสุริยะ และคลื่นแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์+
คลื่นแม่เหล็กโลก เสี่ยงต่อระบบการสื่อสารทั่วโลกล่มพร้อมกัน
๔.ในชนบททั่วโลก กำลังมีความเสี่ยงกับการน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม จากสาเหตุ
พายุฝนเกิดขึ้นรวดเร็วอย่างผิดปกติ จนพยากรณ์ออกคำเตือนประชาชนไม่ทัน

๕.ในเมืองหลวง มีสงครามกลางเมืองหรือจ่อประทุ มีน้ำกำลังท่วมหนัก และจ่อจะท่วม

ประมวลคร่าว ๆด้วยความระมัดระวัง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั่วโลก ณ ขณะนี้

 

มาทำความรู้จัก ปรากฏการณ์ ฟูจิวารา เพิ่มเติมกันอีกหน่อยดีกว่าครับ

ปรากฏการณ์ ฟูจิวารา Fujiwhara effect

คือปรากฏการณ์ที่พายุหมุนเขตร้อน หรือ นอกเขตร้อน 2 ลูก ดึงดูดให้โคจรรอบกันและกัน ลดระยะห่างระหว่างกัน สุดท้ายอาจรวมกัน (Merge) เป็นพายุใหญ่ลูกเดียว บัญัญติโดยนักอุตุนิยมวิทยาชาวญี่ปุ่น Sakuhei Fujiwhara โดยระยะห่างที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้ จะแบ่งตามชนิดพายุ กล่าวคือ

พายุหมุนเขตร้อน จะเกิด effect เมื่อเข้าใกล้กันเกินระยะ 1,400 กิโลเมตร
พายุหมุนนอกเขตร้อน จะเกิด effect เมื่อเข้าใกล้กันเกินระยะ 2,000 กิโลเมตร



ตัวอย่างของคู่พายุ ที่เกิดปรากฏการณ์ ฟูจิวารา เช่น

พายุโซนร้อน Yule และ พายุดีเปรสชัน 16W ในปี 1997 (ไดอะแกรมด้านบน)
พายุเฮอริเคน Kirsten และ Ione ในปี 1974
ไต้ฝุ่น Pat และ พายุโซนร้อน Ruth ในปี 1994
ไต้ฝุ่น Nida และ พายุดีเปรสชัน 27W ในปี 1994
ไต้ฝุ่น เทมบิน และ บ่อละเวน ในปี 2012

สำหรับตอนนี้และอีกระยะเวลาอันใกล้ข้างหน้านี้ผมคิดว่าเราอาจมีโอกาศเห็นก็เป็นได้

<a href="http://pic.free.in.th/id/950f198396fd2b9a7478898f632d1865" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/id/130820110644.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>