ชวนถอดรหัส "เราได้เรียนรู้อะไร จากหนัง ขงจื้อ - Confucius

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย jaya, 18 สิงหาคม 2013.

  1. jaya

    jaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +2,183
    ดร.วรภัทร์ ชวนถอดรหัส "เราได้เรียนรู้อะไร จากหนัง ขงจื่อ - Confucius"<img src="http://display.asiasoft.co.th/maple/maple_quide/mp_quide_img/monster/Mon_pic_510508-120523125.JPG">​

    ในยุคหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน จีนตอนนั้น แบ่งออกเป็นแคว้น ๆ หลายแคว้น รบราฆ่าฟันกันตลอด ... คนตาย ขาดอาหาร แร้นแค้น ขุนนางโฉด ศีลธรรมเสื่อม บูชายัญ ฝังคนทั้งเป็น ฯลฯ
    ..แต่ก็ได้ก่อเกิด คนที่ "ใช่" ลงมาได้พอดี ไม่ฟลุ๊ค (Synchronicity) จริง ๆ ไม่บังเอิญ ราวกับ ฟ้าส่งลงมา​

    ::::::::::::::::::

    1 ...เห็นการพัฒนาของ ขงจื่อ ตั้งแต่ นิสัยแบบ กระทิง (มุ่งมั่น) จนผ่าน ประสบการณ์ต่าง ๆ สร้างความรัก และ ความเกลียดชังไปด้วย .....แต่ ด้วยความเป็นนักเรียนรู้ของท่านนี่แหละ ที่เราจะเห็น นิสัย และ วิธีคิด ของท่าน ที่พัฒนา ไปเรื่อย ๆ

    จนวาระสุดท้าย ท่านก็กล่าว ว่า "ขุนเขาต้องพังทลาย ขื่อคานแข็งแรงปานใด สุดท้ายต้องพังลงมา เหมือนเช่น บัญฑิตที่ สุดท้ายก็ต้องร่วงโรย" (เอามาจาก วิกิพีเดีย ไม่ใช่ในหนัง)

    ท่านเป็นนักปฏิรูป ด้วยการยึดหลักเมตตาธรรม ... ด้วยการยกเลิกเรื่อง การฝังคนใช้ ... ให้ไปรับใช้คนตายที่เป็นเจ้านาย ในปรโลก ... ทำให้ขัดใจ ขุนนางปี้ จอมโหด มากๆ ..... แต่ท่านเอง ก็แทบจะร้องไห้ ตอนที่ต้องสั่งทหารให้ฆ่ากบฎ ด้วยการใช้ไฟคลอกเผากองทัพกบฎ ตายในเพลิงน้ำมัน

    ผมว่านี่แหละ ที่นักเรียนรู้ ควรประเมินตนเอง จากจิตใจที่เห็นสัจธรรมมากขึ้น ยิ่งอายุมาก เรียนรู้มากไปด้วย ไม่ใช่ยิ่งแก่ ยิ่งบ้าตำแหน่ง หลงตนเอง เมาเงินทอง ฯลฯ .... ท่าน ยิ่งแก่ ก็ยิ่งนิ่งขึ้น สงบขึ้น รับความเปลี่ยนแปลง ท้าทาย เยาะเย้ย ตกระกำลำบาก หิวโหย หนาวสั่น ฯลฯ ได้


    2. ....เห็นความเป็น "กระบวนกร" ของท่าน ในการเปิดพื้นที่ให้ ศิษย์ ได้เรียนรู้ ... แม้ว่าบางคนจะลืมคำสอน บางคนจะจำได้ บางคนรู้ทั้งรู้แต่ทำไม่ได้ บ้างก็จงรักในตำรา กอดตำราจนจมน้ำตาย ฯลฯ .. รวมไปถึงศิษย์ที่หักหลังท่าน นำความไปบอก ๓ ตระกูลที่เกลียดท่านด้วย .... และ ที่น่ารักมาก ๆ คือ "ยอมฟังความเห็นของศิษย์" นี่แหละ ครูบาอาจารย์ ระดับ คุรุ ... (ตอนที่หนีออกจากเมืองมา แล้วศิษย์หนุ่มรออยู่ และศิษย์ผู้นี้ใช้ คำสอน ของท่าน ย้อนกลับไปเตือนสติท่าน)

    <img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/dragon_tail.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/dragon_tail.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/dragon_tail.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/dragon_tail.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/dragon_tail.gif">:::​


    3. ....เราจะได้เห็นว่า บัณฑิต หรือ ปราชญ์ ก็มีจุดอ่อน .... ซึ่งเรามักจะมองว่า ครูของเราต้องสมบูรณ์แบบมากไป มองปราชญ์และบัณฑิต เป็น " เทพ" หรือ "อมนุษย์" มากไป ...โดยจริง ๆ แล้ว ควรจะเห็นสัจธรรม และยอมรับว่า ท่านก็คือ มนุษย์ ... และที่สำคัญ คือ ท่านพัฒนาไม่หยุดยั้ง ท่านไม่หยุดที่จะเรียนรู้

    สุดท้าย ตอนท่านแก่ .. ท่านได้โอกาสกลับบ้านที่แคว้นหลู่ .. ท่านบอกกับ เจ้าแคว้นหลู่ ว่า "ขอสอนเท่านั้น ไม่ขอยุ่งการเมือง" ท่านคงเห็นสัจธรรมชัดแล้ว .... แล้วครูอาจารย์ ในสถานศึกษาต่าง ๆ ..ยังเรียนรู้อยู่หรือเปล่า .. หรือ กอดตำราจนจมน้ำตายไป .. ยังหลงในศาสตร์เดิม ๆ ..ที่เอามาสร้าง "อัตตา" จนเป็นเกราะติดตัว ไม่ยอมถอด น้ำเต็มถ้วยเดิมเดิม ฯลฯ ไม่เปิดโอกาสให้ตนเอง ได้ค้นพบ "สัจธรรม" ในตัวเองซะที

    พวกเรามักมองคนว่าไม่เอาไหน .. ในตอนที่เขาหนุ่ม ๆ ..โดยไม่ได้มองว่า ... เขากำลังเติบโต และ พัฒนา ... เราเฝ้าจะจำ "ความพลาด" ของท่าน ...โดยไม่มองปัจจุบันของท่าน ...หนังสอน เรื่อง Humanize ได้ดีนะ (ความเป็นมนุษย์ ผู้มีใจเป็นใหญ่)


    4. ....โจว เหวิน ฟะ เล่นได้ยอดมาก หน้าตา ท่าทาง ... ลักษณะภายนอกตรงกับลักษณะ ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ คือ สูงใหญ่


    5. .... ผมชอบ มเหสีแคว้นเว่ย .. แม้นนางจะสาวสวย ได้สามีแก่ .. แต่ก็แสดงภูมิปัญญา .. ออกมาให้เห็น ในบท dialogue ที่สำคัญ .. นางทดสอบ "จริยธรรม" ของท่าน ..และ ท่านก็สอบผ่านเสียด้วยนะ ....แต่ สุดท้าย ท่านก็ไม่อยู่ในเว่ย


    6. ....เห็นโหมดเอาตัวรอด (Survival mode) ของ เจ้าแคว้นลู่ .. ที ท่านรับใช้อยู่ เจ้าแคว้นหลู่เชื่อท่านในตอนแรก .. แต่ก็ "ไม่เชื่อ" ท่านในตอน ที่จะชนะอยู่แล้ว !!! .... ผล คือ แพ้ ต่อแผนชั่วของตระกูลปี้ ...อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ดีหรือร้ายก็แล้วแต่ ที่ท่านได้รับ น่าจะเป็นโอกาสในการเรียนรู้ของท่านมากกว่า ... ผมว่ามันทำให้ท่านได้เห็น "สัจธรรม" ของ คน, ของสรรพสิ่ง ฯลฯ

    <img src="https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/p526x296/564758_421660711267587_1030004341_n.jpg"width="320">​


    7. ....ถ้าใครได้ดูสารคดี เกี่ยวกับขงจื่อ ..จะพบว่า ท่านเก่งยิงธนู ..คนจะยิงธนู ต้องผ่านศาสตร์พิธีกรรม และดนตรีมาก่อน ... เก่งยิงธนูแล้ว ก็ไปเรียนขี่ม้า, ประวัติศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ เป็นขั้นสุดท้าย

    ฉากที่ท่านยิงธนู กับขุนนางปี้ ... จะเห็นว่ามีสงครามจิตวิทยา .. เพื่อแหย่ว่าใครจะจิตตกก่อนกัน .. แต่สุดท้ายท่าน "จิตนิ่ง"กว่า ... และ มีฉากที่ท่าน "สื่อสาร" แบบไร้คำพูดกับม้า ที่ลากเกวียนของท่าน .. ตอนที่เกวียนติดหล่ม ... นึกถึงเรื่อง อวตาร ที่มีการ "เชื่อมโยง" (Connect)

    คนที่จิตใจสงบ .. ในที่สุดก็เข้าใจธรรมชาติ ..และท่านก็เป็นคนรวบรวม .. ตำรา I-Jing.. ที่เป็นพื้นฐานการวางฮวงจุ้ย ซึ่งผมเชื่อว่า การวางฮวงจุ้ยในปัจจุบัน .. มีมากมายที่ไปยึดกฏเกณฑ์ (Format) มากกว่า .. การใช้ "จิตสงบ เชื่อมโยง (Connect) สรรพสิ่ง" ... ท่านบอกศิษย์ว่า "เผ่นเถอะ อย่าอยู้ในแคว้านเว่ย นานเลย อีกไม่นานจะมีเรื่องร้าย"


    8. ....ฉากเล่นดนตรีเพื่อผ่อนคลาย .. ในยามที่ต้องรอ ๆๆๆ แบบอดอาหารหลายวัน -- การมาอยู่ฐานกาย.. ก็ช่วยลดความฟุ้งซ่านในฐานคิดได้


    9. ....คงมีอะไรอีกมากมาย .... ดูในโรงออกมา ผมจำได้แค่นี่เอง ถ้าดูในแผ่น ยังพอย้อนกลับไปดูได้อีก

    <img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/deniro.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/deniro.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/deniro.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/deniro.gif">:::<img src="http://display.asiasoft.co.th/ro/_system/RoGuild/images/monster/deniro.gif">:::​


    • ฝากทิ้งท้าย

    ผมอ่านในวิถีพิเดีย พบว่า ท่านสอนคุณธรรม ๓ ได้แก่ ภูมิปัญญา.. เมตตา..กรุณา ..และ ความกล้าหาญ ถ้ามาตรงกับเรื่อง KM คือ Open Mind, Open heart , Open will ได้พอดีเลย ( ฐานคิด - ฐานใจ - ฐานกาย)
    ... ท่านผู้บริหารทั้งหลาย.. คณาจารย์ทั้งหลาย ขอจงมี "เมตตาธรรม" กันบ้างนะ ..อย่าเอาแต่หลักการ หลักกูมากนักเลย ....ตำแหน่งยิ่งสูง หัวใจยิ่งหายไป เมตตายิ่งหายไป ความกลัวตามมาเพียบเลย (ความกลัว ทำให้เกิด "สงคราม" ความกลัวทำให้ " เห็นแก่ตัว")

    ผมชอบคำพูดตอนจบ ที่ท่านบอกว่า ตำราต่าง ๆ ของท่าน "คงทำให้เราได้มองอะไร ได้หลายด้าน ทั้งดีและร้าย"

    .... นี่แหละ ท่านเป็น นักเรียนรู้ (Educator) ตัวจริง .. ไม่ใช่ พวกจบปริญญา ที่ยกย่องกันเองว่าสูง .. ว่าเก่ง.. ทั้ง ๆ ที่ ตามก้นคนอื่น ..จำความรู้ใต้ศอกของคนอื่น ๆ มาตัดเกรด.. มีตำแหน่งวิชาการ .. แล้วออกมา "หากิน" กับประชาชน .... หลอกขายกระดาษที่ชื่อปริญญา .. หลอกขาย "ความหวัง" ขาด "จริยธรรม" ฯลฯ จนกลายเป็น เพลง "ดาวมหาลัย" หรือ "ขายที่ ขายนา ส่งควายไปเรียนหนังสือ"

    :::::::::::::::::::
    <img src="http://display.asiasoft.co.th/maple/maple_quide/mp_quide_img/monster/Mon_pic_500208-110625109.jpg"width="40">Credit : ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ<img src="http://display.asiasoft.co.th/maple/maple_quide/mp_quide_img/monster/Mon_pic_500208-110625109.jpg"width="40">
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2013
  2. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    อ่านแล้ว ค่อนข้างงง ว่าท่านด็อกเตอร์ จะวิจารณ์ภาพยนตร์ หรือ พูดถึงประวัติศาสตร์กันแน่ เพราะดูเหมือนจะผสมปนเประหว่างโลกมายาและประวัติศาสตร์

    ปัญหาของขงจื๊ออยู่ที่คำสอนของท่านไม่เป็นที่ยอมรับของแคว้นใหญ่ต่างๆ
    เพราะด้วยหลักคุณธรรมนั้น ไม่สามารถจะช่วยให้แคว้นของตนยืนหยัดต่อสู้กับแคว้นอื่นได้เลย

    และปัญหาที่หนักที่สุด ที่แม้แต่ขงจื๊อเองก็ไม่น่าจะคาดคิดได้ คือ คำสอนของขงจื้อถูกตีความใหม่ในยุคราชวงศ์ซ่ง(ถ้าจำไม่ผิดอ่ะน่ะ) คำสอนในลัทธิขงจื้อถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของจ้าวผู้ปกครอง(เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ในการปกครอง) ประเทศจีนจึงตกอยู่ภายใต้กรอบความคิดที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาใดๆ ซึ่งเป็นมาอย่างยาวนานจนแม้กระทั่งราชวงศ์ชิงที่เป็นชาวแมนจูทางตอนเหนือเข้ารุกรานยึดครองแผ่นดินจีนก็ยังรับเอาวิธีคิดแบบดั้งเดิมไปใช้จนประเทศต้องล่มจม

    ส่วนเรื่องลัทธิการบูชายัญเทพเจ้าด้วยชีวิตคนเป็น มีมานานในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงเฉพาะจีนเท่านั้น ดูตัวอย่างได้ เช่น อารยธรรมนูเบียนในแอฟริกา ที่มีการฝังศพข้าทาสบริวารตามเจ้าผู้ปกครองที่เสียชีวิตด้วยจำนวนที่มากถึง1800คนในหลุมศพเดียว หรือแม้กระทั่งในอเมริกาใต้ อย่างอารยธรรมอินคาก็มีการบูชายัญชีวิตผู้คนมากมาย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อน2000ปีคริสตกาล
     
  3. ninjabadboy

    ninjabadboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +517
    การบ้านสัญศาสตร์ เก่าๆครับ วิเคราะห์ ภาพยนต์

    ยุติธรรม อยุติธรรม
    ผลประโยชน์ของบ้านเมือง ผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง
    เสรีนิยม ประเพณีนิยม
    กุศล อกุศล(กิเลส)
    อนุรักษ์นิยม สมัยนิยม
    คุณธรรม สงคราม(การแพ้ชนะ)

    กลุ่มอำนาจทางการเมืองและการปกครอง


    [​IMG]



    อุดมการณ์ทางความคิด

    เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคสมัยของหลู่ติ้งกง ซึ่งมีสามตระกูลชั้นนำมากด้วยอิทธิพล คือ ตระกูลจี้ ตระกูลชูว์ และตระกูลเมิ่ง เปิดด้วยฉากที่แสดงถึง การอนุรักษ์นิยมของขงจื้อในการแสดงความเคารพในสถานที่ก่อนเข้าวัง ก่อนจะถึงตัวบุคคล (เคารพทั้งต่อหน้าและลับหลัง) แต่มีลูกน้องของเจ้าของบ้านแนะนำให้ไปทำความเคารพด้านในตำหนักจะดีกว่า(บางคนแอบหัวเราะเยาะในความล้าสมัย)เหมือนเป็นตัวแทนความคิดสมัยใหม่ที่มองการกระทำนั้นล้าสมัย(ทำความเคารพต่อหน้าก็เพียงพอ) และเมื่อพบท่านอ๋องแห่งแคว้นหลู่ ก็มีการพูดถึงความสามารถในการบริหารของท่านขงจื้อ ในการเป็นนายอำเภอของข้งจื้อ ภายใน1ปี และมีการสาธยายถึงปณิธาน ก่อนจะลงมือทำของขงจื้อ และมีการจะแต่งตั้งขงจื้อให้เป็นเสนาบดี ยุติธรรม(ผลประโยชน์ของบ้านเมือง) และมีการแข่งขันกับ สามตระกูลที่เสนอแนะพวกของตัวเองเข้ามารับตำแหน่งนี้ (ผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง) มีการพูดถึงการ ปกครองโดยใช้กำลังอำนาจและบทลงโทษที่รุณแรง (ใช้กำลัง) กับ การปลูกฝังให้คนยึดถือคุณธรรม ตามแบบผู้เจริญ (ใช้ปัญญา) และ ต้องมีผู้นำที่มีคุณธรรมอย่างจริงใจทำเพื่อส่วนรวมโดยไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ให้พวกพ้องเพียงอย่างเดียว (กลุ่มอำนาจเก่า-กลุ่มอำนาจใหม่)

    ช่วงต่อมามีการพูดถึงการฝังผู้รับใช้ไปกับสุสานของเจ้านายเพื่อแสดงความกตัญญู ตามธรรมเนียมประเพณีของจีน (อยุติธรรม)และภายหลังมีการช่วยเหลือคนรับใช้ที่หนีมา และยกเลิกประเพณีนี้ โดยขงจื้อ(ยุติธรรม) ต่อมาในสภามีการพูดถึงประเพณีบวงสรวงฤดูหนาว โดยใช้ไก่ฟ้า(ประเพณีนิยม) ระหว่างเตรียมงานมีไก่ฟ้า1ตัว จิกขนหางออกมา ถือว่ามีเหตุประหลาด มีการเปิดโหวตว่าจะปล่อยไก่ฟ้าตัวนี้ไป(เหตุผลนิยม)หรือไม่
    อ๋องแห่งแคว้นชีได้มีการวางแผนเชิญท่านอ๋องแคว้นหลู่ และขงจื้อ (อยุติธรรม+กำลังเพื่อจับตัวมาต่อรองผลประโยชน์) โดยออกกลอุบายเพื่อเจรจาเป็นพันธมิตร (หลอกลวง) และบทสรุปข้งจื้อก็ใช้สติปัญญา(ยุติธรรม+ปัญญา) เพื่อแก้ทางกลอุบายด้วยกลอุบาย (หลอกลวง) และได้รับ3เมืองสู่แคว้นหลู่
    แคว้นเหว่ย ได้ยกเลิกการลี้ภัย จากเมืองปี้อี้ โดย องซานหนิว (เมืองที่ขงจื้อไปขอรถม้าศึก500คันและไม่ได้รับถึงแม้จะชนะการประลงธนูจากเจ้าเมืองปี้อี้แล้วก็ตาม) ซึ่งระหองระแหงกับแคว้นหลู่ หากรับการลี้ภัยมา คงได้เป็นปรปักษ์กับแคว้นหลู่ เมื่อไม่มีความยุติธรรมให้คนอื่น คนนั้นก็จะไม่ได้รับความยุติธรรม และภายหลังแคว้นเหว่ย ได้เชิญขงจื้อมาสอนรัชทายาท
    ภายในเรื่องมีปรัชญาชีวิตและอุปมาอุปมันอยุ่มากมายตามแนวของขงจื้อ ภายหลังจากขงจื้อได้รับตำแหน่งเสนาบดีกลาโหม ได้มีแผนการทุบกำแพงเมือง 3ตระกูลใหญ่ที่รวบอำนาจในเขตปกครองไว้ เพื่อลดอำนาจของขุนนาง (ราชานิยม-ประชาธิปไตย/ผลประโยชน์บ้านเมือง-ผลประโยชน์ส่วนตน)
    และหลังทุบกำแพงเมืองปี้อี้ ก็มีกบฎ กงซานหนิว แต่ก็ถูกปราบจนราบคาบ (ผลประโยชน์ส่วนตน-ผลประโยชนาส่วนรวม/เหตุผลนิยม-ปัจเจกนิยม) ถายหลังขงจื้อถูกถอดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากความกดดันของผลการทุบกำแพงเมืองลงไปแล้วทั้ง2เมืองเหลือเพียงแค่1เมือง แต่แคว้นหลู่ถูกกองทัพประชิดพร้อมโจมตีจึงกดดันให้ยกเลิกการทุบกำแพง และใช้นัยยะของหยกหักในการจากลา หลังจากขงจื้อลงจากตำแหน่ง
    หลังจากนั้นขงจื้อก็เดินทางออกจาแคว้นหลุ่สู่แคว้นเหว่ยและได้เปิดโรงเรียน ส่วนพระชายา(หนานจือ)เหมือนมีการทดสอบกิเลสของขงจื้อเมื่อตอนทั้งสองมาพบกันเป็นการส่วนตัว มีการแฝงคติธรรมในช่วงนี้ ทั้งเรื่องการเมืองการปกครอง และตัณหาความรัก ขงจื้อได้เห็นว่าแคว้นเหว่ยจะมีความวุ่นวายในภายภาคหน้า ก็ได้เดินทางออกจาแคว้นนั้น(จริยธรรม-ตัณหา) ไปยังแคว้นซ่ง และแคว้นนั้นก็ไม่ต้อนรับคณะของขงจื้อ
    ภายหลังแคว้นหลู่ได้ถูกแคว้นชี บุก และได้มีการตามตัวลูกศิษย์ขงจื้อ(หยานชิว) กลับแคว้นหลู่ เพื่อไปช่วยทำสงครามให้กับแคว้นหลู่ และหยานชิว ได้ข้อร้องให้ท่านอ๋องหลู่ เชิญขงจื้อกลับแคว้นหลู่ ซึ่งขณะเดียวกัน คณะของขงจื้อได้อดยากเจียนตาย ในชายแดนแคว้นเฉิน กับแคว้นไฉ่ ระหว่างการเดินทางคณะเกวียนของคณะขงจื้อได้ตกลงไปในช่องน้ำแข็งและคำภีร์ไม้ไผ่ตกลงไปในน้ำแข็งเหยียนฮุ๋ย ได้ดำน้ำแข้งเพื่อลงไปเก็บคำภีร์ที่จดบันทึกคำสอนของขงจื้อไว้จน ตัวต้องตายในเวลาต่อมา และภายหลังหยานชิวก็ได้เชิญขงจื้อ กลับแคว้นหลู่ ด้วยเหตุผลที่ท่านจี้ป่วยหนักและอยากข้อโทษขงจื้อในตอนที่ขับไล่ขงจื้อมา ในกาลก่อน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2013
  4. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    มาช่วยดันสาระดีๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...