ทำไมเรื่องราวในประวัติศาสตร์แลดูแปลกๆ ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 18 กรกฎาคม 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    ถาม : ทำไมเรื่องราวในประวัติศาสตร์แลดูแปลกๆ ไม่รู้ว่าตัดออกหรือเปล่า ?

    ตอบ : คนเราพออยู่ในอำนาจไประยะหนึ่งก็จะเกิดอาการเมา พอเมาอำนาจก็พยายามรักษาอำนาจเอาไว้ ถ้าใครมีวี่แววว่าจะทำให้ตนเองต้องสูญเสียอำนาจไป เพื่อรักษาอำนาจของตนก็จะไม่คำนึงถึงวิธีการที่ใช้ ดังนั้น..ส่วนใหญ่แล้วบุคคลที่อยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ เมื่อได้รับอำนาจอยู่ในมือ ถ้าไม่ใช่บุคคลที่เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนแล้ว ส่วนใหญ่จะเสียคนหมด

    บาลีเขาบอกว่า ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺย บุคคลได้ยศแล้วไม่พึงเมา พระพุทธเจ้า ท่านก็ตรัสไว้แล้วว่า การกิน การนอน การเสพกาม การเสวยอำนาจ ถ้าไม่ใช่บุคคลที่เห็นภัยในวัฏฏสงสารจริงๆ จะไม่เบื่อหน่ายเด็ดขาด ใครลองกินจนบอกว่าเบื่อดูสิ..รุ่งขึ้นจะกินอีกไหม ? ก็กินจนได้ การนอนก็เหมือนกัน บอกว่านอนจนเบื่อ แต่เดี๋ยวก็นอนอีกแล้ว

    อีกอย่างหนึ่งก็คือ การบันทึกประวัติศาสตร์ต่างๆ บันทึกตามมุมมองของตนเองอย่างหนึ่ง มุมมองของตนเองไม่แน่ว่าจะถูกต้อง ขณะเดียวกันอีกอย่างหนึ่งก็คือ บันทึกตามที่ผู้มีอำนาจสั่งการ ถ้าเป็นฝ่ายเราก็เขียนจนดีเลิศลอยไปเลย อีกฝ่ายหนึ่งก็เละเป็นโจ๊กไปเลย ประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใส่สีใส่ไข่หาไม่ได้หรอก มีทั้งนั้น เพียงแต่ว่าจะซื่อตรงต่อข้อมูลเท่าไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    พูดง่ายๆ ว่านักบันทึกประวัติศาสตร์ที่ได้รับคำชมเชยนั้น ถึงจะประเภทใส่สีตีไข่อย่างไรก็ตาม แต่แก่นแท้เนื้อเรื่องที่เป็นจริงจะไม่ทิ้ง ในเมื่อว่ากันตามเนื้อเรื่อง จะชมใครอาจจะชมเลิศลอยเกินไป จะด่าใครอาจจะด่ารุนแรงเกินไป แต่ความชัดเจนก็คือฝ่ายนั้นผิด ฝ่ายนี้ถูก ตรงนี้จะไม่ทิ้ง

    แต่ถ้านักประวัติศาสตร์ที่ดีจริงๆ ก็ต้องดึงตัวเองออกจากเหตุการณ์ไปเลย ทำเหมือนผู้ดู แล้วก็เขียนตามที่ตนเห็นทั้งสองฝ่าย ก็จะได้ภาพที่เป็นจริงโดยปรุงแต่งน้อยที่สุด แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่ทำ บางทีก็ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง

    ดูอย่าง พระนางบูเช็กเทียน ที่จีนกลางเขาเรียก อู่เจ๋อเทียน คนนั้นก็ว่าท่านไม่ดี คนนี้ก็ว่ามักมากกามคุณ คนนั้นก็ว่าโหดเหี้ยมชั่วร้าย แต่ราชวงศ์ถังสมัยของท่านเจริญรุ่งเรืองที่สุด ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? ก็เพราะว่าตัวเองเอามุมมองของตัวเองไปมองแทน บูเช็กเทียนจากนางสนมเล็กๆ ก้าวขึ้นมาถึงระดับนั้น ถ้าไม่จัดการคู่แข่งอย่างเฉียบขาดใครจะไปเกรงใจ

    พอก้าวขึ้นไปเป็นผู้ปกครองแผ่นดิน ท่านมีแนวคิดว่า ในเมื่อฮ่องเต้ผู้ชายหาสนมมาสามพันนางเพื่อเสริมบารมี ท่านเป็นฮ่องเต้ผู้หญิงก็จะต้องมีผู้ชายสามพันนายเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติในความรู้สึกของท่าน ส่วนคนทั่วไปไปว่าท่านมักมาก แล้วทำไมผู้ชายที่ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย จำหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำว่านอนกับผู้หญิงคนไหน เพราะว่าตั้งสามพันกว่าคนกลับไม่โดนด่า ?

    ฉะนั้น..อยู่ที่มุมมองของตัวเอง โดยที่ไม่ได้คิดถึงความเป็นจริงในตอนนั้นว่าต้องทำอย่างไร เรื่องบางอย่างต้องคิด ถ้าไม่คิดความเป็นจริงบางส่วนก็โดนปกปิดไป

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๖


    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3713&page=8


    .
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...