อยากรู้อดีตชาติครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย bigsuntat, 8 เมษายน 2013.

  1. bigsuntat

    bigsuntat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2009
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +36
    ผมอยากรู้ถึงอดีตชาติครับจะต้องทำอย่างไร ?
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
  3. bigsuntat

    bigsuntat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2009
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +36
  4. ไกสร

    ไกสร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +53
    ฝึกกสิณไฟ หรือ ฝึกกสิณแสง ได้ไวที่สุด
    หรือฝึกพุทธานุสติ แล้วอธิฐานจิตถามเอา

    อย่างน้อยสำเร็ฐปฐมญานได้ ก็น่าจะเริ่มพอรู้อดีตตนเองแล้ว แต่แนะนำให้รู้เพื่อเป็นการศึกษากฎแห่งกรรม ไม่ใช่ยึดติดอดีตนะครับ แล้วไปนิพพานกันครับ
     
  5. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    ขนาดพระดังๆในสมัยนี้ยังไม่มีใครทำได้เลยครับ แค่ภาพมายาที่เรากำหนดขึ้นมา คุณเลือกเอาเลยว่าชาติก่อนคุณเป็นหมาขี้เรื้อนหรือเป็นเจ้าผู้ครองนคร เลือกฝันเอาตามใจชอบเลยครับ แล้วปล่อยใจไปกับภาพที่เห็น แล้วคุณก็ตู่เอาว่าอันนี้เป็นอดีตชาติของคุณ ง่ายๆครับไม่ยุ่งยากเลย
     
  6. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    รู้ทำไมครับอดีต สู้รู้ปัจจุบันมิดีกว่าหรือครับ พระพุทธเจ้าสอนให้มีสติกำหนดระลึกรู้อยู่ทุกๆขณะทุกๆลมหายใจเข้าออก อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขสิ่งใดมิได้เลย อนาคตก็ยังมามิถึงคาดหวังอะไรแน่นอนก็มิได้

    เพียงแต่หากเราทำเหตุปัจจุบันให้ดี ผลที่จะบังเกิดต่อไปก็มิแคล้วต้องเป็นไปตามวัฏจักรแห่งกรรมอันเป็นกฏธรรมชาติของโลก

    การระลึกรู้อดีต อนาคตนั้นถ้าเรารู้แล้วไม่ปรุงแต่งจิตใจต่อไปก็ดี แต่หากรู้แล้วปรุงแต่งไปตามอารมณ์ก็รังแต่จะทำให้จิตใจเกิดความฟุ้งซ่านรำคาญใจ ทางที่ดีทำอย่างไรให้รู้เท่าทันใจของเราดีกว่าครับ
     
  7. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    เคยได้ยินเรื่องอดีตชาติของครูบาอาจารย์หลายองค์

    ท่านก็ปฎิบัติตาม ศีล..สมาธิ..ปัญญา.

    ได้เห็นก็ดีครับ...:'(...เผื่อเกิดนิพพิทาครับ.
     
  8. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    แปลกดีนะครับ
    เวลามีคนมาถามเรื่องการฝึกวิชชาว่าทำยังไง
    มักจะมีคนคอยมาเตือนว่าอย่าไปฝึก...?

    เป็นวิชชาที่พระพุทธเจ้าสอนแท้ๆด้วยนะ
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ให้ดูจริตคน ให้เห็นตื้นลึกหนาบางก่อน แล้วจึงแนะนำคนผู้นั้น

    คนที่อยากเห็นอดีตชาติเพราะกิเลส ใจยังไม่สงบ ยังติดอยู่กับความอยากทางโลกมาก มีแนวโน้มจะยึดติด และเกิดผลเสียแทน

    อุปมา เหมือนกับมีคนมาขอให้เราสอนวิธียิงปืน นั่นแหละ
    วิธียิงปืนนี่ โดยตัวของมันเอง มันไม่ได้ดี หรือ ชั่ว แต่อย่างใด แต่ก่อนเราจะสอนใคร เราก็ต้องพิจารณาก่อนใช่ไหม?

    หากเป็นทหารตำรวจ เราก็สอน เพราะเขาเอาไปทำประโยชน์ให้โลก
    แต่หากเป็นผู้ที่ดูแล้วน่าจะเอาไปใช้ในทางที่ผิด เราจะสอนวิธียิงปืนให้เขาไหม?
     
  10. ผ่อนกรรม

    ผ่อนกรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +400
    อยากรู้อดีตก็ดูที่ปัจจุบันนั่นล่ะ

    วันนี้คุณทุกข์อยู่หรือสุขอยู่

    อยากรู้อนาคตก็ดูที่ปัจจุบันอีกนั่นล่ะ

    วันนี้คุณทำอะไรอยู่สร้างกรรม(การกระทำ)ดีอยู่

    หรือสร้างกรรม(การกระทำ)ชั่วอยู่

    การที่เราจะรู้เรื่องของตัวเราเองนี้

    คุณว่าใครจะรู้ดีที่สุดถ้าคำตอบคือพระพุทธเจ้า

    วันนี้คุณเห็นพระองค์แล้วหรือยัง

    พระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต”

    หรือ“เห็นทุกข์จึงเห็นธรรม” วันนี้คุณเห็นทุกข์มั้ย

    ถ้ายังแนะนำให้คุณลองศึกษาดู โดยเริ่มจาก รู้จักตัวเองก่อน

    (โดยการค้นหาข้อมูลหรือถามผู้รู้)

    เมื่อรู้จักตัวเองแล้วต่อไปก็พระธรรมล้วนๆ ซึ่งละเอียดมาก

    หลักๆก็ รูปนาม สติปัฏฐาน ๔ ฯลฯ

    ไม่สามารถอธิบายได้ทั้งหมดในเวลาอันสั้น แต่ถ้าคุณขยัน

    ศึกษาด้วย ปฏิบัติตามด้วย ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนด้วย

    คุณจะเห็นทั้งอดีตชาติ อนาคตชาติ ของคุณเองตามความเป็นจริง

    ถ้าคุณอยากรู้ อยากเห็นเพื่อพ้นทุกข์ จับมือกันแล้ว ลุยยยยยยยย

    แต่ถ้าอยากรู้ อยากเห็นโน่นนี่นั่น เพื่อพอกกิเลส ไม่ใช่ทางแระ

    (เราเลิกกัน อันนี้เอาฮานะ ถ้าไม่ฮา ก็เฉยไว้

    ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราคบกัน นะ อาจจะ ๑๐๐ ชาติที่แล้ว

    ก็ได้ อันนี้ก็ไม่รู้ เพราะแค่จะไปซื้อข้าว ยังลืมกระเป๋าตังค์ ฮี่ๆๆ)


    ^^แค่แนะนำเผื่อเป็นประโยชน์บ้าง

    หากขัดเคือง _/l\_ ต้องขออภัย

    เห็นส่วนใดยังไม่ถูกต้องโปรดเมตตาชี้แนะด้วย สาธุ^^



     
  11. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    อยากรู้กี่ชาติล่ะ เกิดมาตั้งเยอะ ถ้าอยากหนีกรรม ก็ฝึกกรรมฐาน เบื้องต้นก็ศีล5ให้ได้อย่าหลุด ป้องกันไว้ก่อน ปัจจุบันดีที่สุด ถ้าอยากรู้สนุกๆก็คิดเอาเลยเป็นมาหมดแล้วแหละ ยกเว้นอย่างเดียวคือเข้าถึงนิพพาน เลยต้องมาเกิดกันนี่แหละ
     
  12. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ความไม่รุ้ นำพาให้เราถือกำเนิด เมื่อมีความหลงยึดถือการมีตัวตน ยึดติดในภพชาติ พลังงานที่เรียกว่า "จิต" จึงวนเวียนข้าพภพชาติ ขึ้นบน ลงล่าง ตามแต่ผลแห่งกรรมจะบันดาลไป.. ไม่แปลกที่อยากรู้ เพราะเรายังเป็นปุถุชน ที่ยังละไม่ได้ซึ่งกิเลสทั้งหลายทั้งปวง แต่จะเลือกอย่างไหน เพื่อดับทุกข์คือความอยากให้ตนเองก็แล้วแต่..จริต..ของตน^^
     
  13. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    พระพุทธเจ้าก่อนที่ีจะตรัสรู้ก็ทรงระลึกชาติของตนได้ก่อน เมื่อระลึกได้ก็ทรงทราบว่าเกิดมาเป็นทุกอย่างแล้วจึงเห็นโทษของการเกิด ต่อมาก็ทรงระลึกชาติของสรรพสัตว์ เมื่อระลึกได้ก็ทรงทราบว่าทุกชิวิตก็เหมือนพระองค์ ภพทั้งหลายเป็นที่กักขังสรรพสัตว์ จึงทรงน้อมไปเพื่อหลึดพ้นจากภพจึงได้อาสวขยญาฯ ดับกิเลสได้ อันนี้คือหลักสูตรมาตราฐาน ทรงสั่งสอนพระสาวกก็แบบนี้

    -----------------------------------------------------
    การละนิวรณ์
    [๑๓] ภิกษุนั้นประกอบด้วยศีลขันธ์ อินทรียสังวร สติและสัมปชัญญะอันเป็นอริยะเช่นนี้แล้ว ย่อมเสพเสนาสนะอันสงัด คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้งลอมฟาง ในกาลภายหลังภัต เธอกลับจากบิณฑบาตแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เธอละความเพ่งเล็งในโลก มีใจปราศจากความเพ่งเล็งอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์
    จากความเพ่งเล็ง ละความประทุษร้ายคือพยาบาท ไม่คิดพยาบาท มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากความประทุษร้ายคือพยาบาทได้ ละถีนมิทธะแล้วมีความกำหนดหมายอยู่ที่แสงสว่าง มีสติ มีสัมปชัญญะอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากถีนมิทธะละอุทธัจจกุกกุจจะแล้ว เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบ ณ ภายในอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จาก
    อุทธัจจกุกกุจจะได้ ละวิจิกิจฉาแล้ว เป็นผู้ข้ามวิจิกิจฉา ไม่มีความเคลือบแคลงในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ ย่อมชำระจิตให้บริสุทธิ์จากวิจิกิจฉาได้.
    ฌาน ๔
    [๑๔] ภิกษุนั้นละนิวรณ์ ๕ เหล่านี้ อันเป็นเครื่องเศร้าหมองแห่งใจ ทำปัญญาให้ทุรพลได้แล้ว สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะและเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่าผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่.
    บุพเพนิวาสานุสสติญาณ
    [๑๕] ภิกษุนั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
    อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อปุพเพนิวาสานุสสติญาณเธอย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกได้ ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้างสี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติบ้าง ยี่สิบชาติบ้าง สามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้างห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง ตลอดสังวัฏกัปเป็นอันมาก ตลอดวิวัฏกัปเป็นอันมาก ตลอดสังวัฏวิวัฏกัปเป็นอันมากบ้าง ในภพโน้นเรามีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียง
    เท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้ไปเกิดในภพโน้น แม้ในภพนั้นเราก็มีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้มาเกิดในภพนี้ เธอย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมากพร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้.
    จุตูปปาตญาณ
    [๑๖] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
    อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อรู้จุติและอุปบัติของสัตว์ทั้งหลาย เธอเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรมว่า สัตว์เหล่านี้ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียนพระอริยเจ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เขาเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ส่วนสัตว์เหล่านี้ ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต
    ไม่ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นสัมมาทิฏฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจสัมมาทิฏฐิ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เขาเข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์ ดังนี้ เธอย่อมเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติเลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม ด้วยประการฉะนี้.
    อาสวักขยญาณ
    [๑๗] ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ เธอย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาเหล่านี้อาสวะ นี้อาสวสมุทัย นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา เมื่อเธอรู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้น แม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้วก็มีญาณรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว
    กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลนี้เรากล่าวว่า ไม่ทำตนให้เดือดร้อน ไม่ประกอบความขวนขวายในการทำตนให้เดือดร้อน ไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน ไม่ประกอบความขวนขวายในการทำผู้อื่นให้เดือดร้อน เขาไม่ทำตนให้เดือดร้อน ไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน ไม่มีความหิว ดับสนิทเป็นผู้เย็น เสวยแต่ความสุข มีตนเป็นดังพรหมอยู่ในปัจจุบัน.
     
  14. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ผมขอถามสั้นๆว่า
    แล้วคุณเอาอะไรของคุณไปพิจารณาละครับ
    คุณอ่านที่เขาโพสต์มาแค่นี้ คุณดูจริตเขาได้แล้วหรือ...
    คุณรู้หรือว่าอะไรควรหรือไม่ควรแก่เขา

    การฝึกระลึกชาติ ไม่ใช่จะทำกันง่ายๆนะครับ
    การที่เขามีจริตจะมาถามจะมาฝึก... คุณมองไม่เห็นวิสัยของเขาหรือ...?
     
  15. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    กดที่ชื่อคนนะครับ แล้วเลือก "ค้นหาโพสเพิ่มเติม" นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...