โลกคือจุดศูนย์กลางจักวาลของธรรมชาตินับอนันตะดาราจักรวาล

หวัดดีคับคุณโจ้ค..เพิ่งสมัครสมาชิกเพื่อเข้ามาคับ
รบกวนดูให้หน่อยคับ ว่าตัวผมนั้นพอจะมีพลัง
ช่วยเหลือคนอื่นได้หรือไม่คับ

 

เผลอหลงเข้ามากระทู้นี้ อยากจะบอกว่า 3 คนนั้นคงไม่ได้มาลองของลองเขิง เจอดีอะไรหรอกมั้งครับ หรือเป็นศัตรูกับ จขกท หรอกครับ
แต่คนพวกนี้คงอยู่ในเคสและกรณีเดียวอาการเดียวกันกับ จขกท

 

ทุกคนที่เข้ามาในนี้และศรัทธาเชื่อสิ่งเหล่านี้ ทุกคนมีพลังคับ เพราะการจะได้เข้ามานั้นถ้ากุศลไม่ถึงไม่ได้สนใจเข้ามาหรอกครับผม ยินดีนะครับไงก็อยากรู้อะไร ทักไลท์ หรือเฟสบุคได้นะครับ ไลท์ snakejoke facebook snakejoke tritod

 

คงจะใช้ที่มีแนวคิดแบบแปลกๆ แต่ก็บอกไว้เลยว่ามาลองครับสัมผัสได้ เพราะไม่ว่าอะไรที่เข้ามาหาผม ผมจะเปิดจิตไปศึกษา แต่ถ้าไม่ก็ไม่ได้ไปสนใจชีวิตชาวบ้านเค้าครับ ไอ้ที่ว่าลองอะไรนั่น มันเป็นจิตสัมผัสครับ มันรับรู้แค่ดูชื่ออาการก็แสดงออกมาแล้ว เหมือนกับ ถ้าเราไม่เปิดตุ้เย็นก้อไม่ได้กินน้ำเย็น แต่ในตู้เย็นกลับมีกลิ่นคาวเหม็นไม่พึงประสงค์ นั่นคือความต้องการน้ำเย็นาของเรานะดี แต่ดันมีใครใส่กลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น แต่ก็ได้แค่กลิ่นครับ ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นครับผม คงไม่มีใครสามารถเอางูไปไว้ในตุ้เย็นแล้วผมเปิดเจอแล้วฉกผม อิอิ พวกเขาไม่สามารถพอครับผม ไม่ได้ว่า่ตัวน่ะแต่บอกกล่าวให้รู้เพื่อเป็นการที่จะไม่ ดูถูกหรือดูว่าบ้าบอ จะได้ไม่ติดกรรมครับ ถ้ายังไม่ได้อ่านทั้งหมดก็ลองกลับไปอ่านดูครับจะรู้ว่า ที่พูดถึง ผมไม่เหมือนสามคนนี่แน่นอนครับความต่างของระดับพลัง จิตเมตตา และการต้องช่วยคนไม่หวังผลตอบแทน ผมเชื่อว่าสามคนที่ว่าไม่มีแบบผมแน่นอนครับ

 

ออ คุณโจกี ก่ไม่มีอะไรดอก เป็นนักวิทยาศาสตร์ มาจากหลายดวงดาว เพียงแต่ เทคโนฯ ที่ผลิต ยังไม่เหมาะเท่าใด ครับ ยังมีส่วนไม่เป็นมิตรกับธรรมชาติ

 

มนุษย์ ที่เกิดมาจากธรรมชาติ ก่ จะบริสุทธิ์ แบบไร้เดียงสา
แต่มนุษย์ ที่ปรารถนาจะกลับ คืนธรรมชาติ ก่ จะกลับ แบบ มหาสติ

โครตพ่อมัน อวดเก่ง อยากมีมหาสติ เพื่อจะได้กลับคืนสู่ธรรมชาติ

มาแบบไม่มีอะไรมา แต่เวลาจะกลับ เสือกจะกลับแบบมหาสติ

คุณโจกี ก่ แบบว่าไร้เดียงสา พยายามจะกลับแบบไร้เดียงสา
พยายามจะกลมกลืนกับ ....

ก่ ยังดีกว่า พวกบ้ามหาสติ.... สติแตก ก่อน

ใครที่ใจเป็นอิสระ .... กลับคืนเป็นเด็ก ที่ไร้เดียงสาได้

ก่ คือคนนั้นได้กลับจริง ใครวางตัว เป็นมหาสติ คนนั้นของปลอม

 

มหาสติ คือ มหาตัวตน

 

ประพฤติตนไม่เบียดเบียนใคร ทั้งกาย และ ใจ

แค่นี้เอง ง่ายๆ เอง วันๆ เล่นเกมส์ ไป เหมือน โจกี ก่เป็นแบบไร้เดียงสา

ไร้เดียงสา ก่ สามารถรับอะไร ๆ ดีๆ ได้ แปลกช้องทาง

ดีกว่าพวกบ้ามหาสติ ทำไปเหอะ ของปลอม ท้างน้าน

เผลอๆ จะกลายพันธ์เป็นยักษ์โดยไม่รู้ตน เพราะ ตัวตนสูง

มีโอกาส เบียดเบียน ผู้อื่นได้

 

มนุษย์ไม่มีอะไรมากเลย ดำรงตนให้ปกติ ทำตนไม่เบียดเบียนใคร

ที่ยังไม่สงบ ยังไม่ระงับ เพราะกรรมของมนุษย์ เป็นผู้ก่อขึ้นมาเอง

ชำระกรรมให้จบสิ้น ก่จะสงบและระงับเอง

ที่ไม่สงบ เพราะไม่ชำระกรรม แต่เสือกไปหา มหาสติ กัน

เรียกว่าแก้ไขไม่ตรงจุด ก่ กลายเป็นยักษ์ ขี้อิจฉา

เมื่อเป็นยักษ์ขี้อิจฉาหน่อย ก่ จะมาระรานชาวบ้าน

ก่เป็นธรรมดา ในนิสัย ของยักษ์มาร ......

เพราะว่า ไม่รู้ตนเองว่าเป็นยักษ์มารอยู่ เพราะว่ายังเป็นผู้ใผ่ในธรรม

ก่ น่าจะเป็นผู้เจริญในธรรม

แต่ขอโทษ เมื่อเห็นใครอวดเก่งในความสามารถขึ้นมา ก่ จะรู้สึก

หมั่นใส้ ในการแสดงธรรมของผู้อื่น ก่ อยากจะแสดงธรรมขึ้นมา

เพื่อสั่งสอนว่าแบบนี้ ไม่ดี แบบนี้ไม่ถูก เหล่านี้ คือ ยักษ์มาร อยู่ในใจ

ยักษ์มารก่ มี สองแบบ คือ มีกำลัง กับ ไม่มีกำลัง

ไม่มีกำลัง ก่ เป็น เทวดายักษ์

มีกำลัง เป็น มารพรหม

 

มีหลากหลายประเภท

มาแบบหัวเราะเยาะผู้อื่น

มาแบบถากถาง

มาแบบ....

ก่ดี มาให้เห็นความดี และความไม่ดี

พูดจากถากถาง พูดจาหัวเราะเยาะเย้ย

นี่ล่ะ ตัวตนที่สกปรก .... เพราะไม่รู้ตัวตน

พิม ไปตามความรู้สึกชอบ และมันในอารมณ์

ของตัวตนที่แท้

ปากก่พูดธรรมะ แต่เมื่อมาเจอคนที่มีอะไรมาอวด ก่ เริ่มจะอิจฉา

ตาร้อน กัน อาการมันจึงออก ว่า กูหมั่นใส้ .... อาการเหล่านี้ คือ

ป้ญหาของตนเอง ...ที่แก้ไขไม่ได้ ควบคุมตนเองไม่ได้

เพราะคนๆ นั้นคิดว่า ตนเองมีกำลัง มหาสติอยู่

การกระทำทุกสิ่ง เป็นการทำอย่างมี สติอยู่

คิดว่า มีสติ แล้วคือ มีปัญญา อย่างยอดเยี่ยมแล้ว

จึงได้คิดพูดทำ แบบถากถาง แบบเยาะเย้ยได้

เพื่อหวังว่าให้ โจกี ได้สำนึกตนเอง .....

ตกลง เป็นการกระทำเพื่อผู้อื่นได้สำนึกตนเอง

หรือ เป็นการกระทำโดยถูกมารหลอกให้ทำ ว่านี้คือสิ่งประเสริฐ

ดีแล้ว จึง ถากถาง จึงเยาะเย้ย

ตกลงเป็นสิ่งกระทำของมหาสติ หรือ ถูกยักษ์มารหลอกเอากันแน่

(ออ ยังไม่ได้พูดถึง เปรต อสูรกาย ที่แฝงเลยน่ะ เอาแค่ยักษ์มารก่อน)

 

999 รวมอย่างไร ก่ ได้ 9

9999 ก่ ได้ 9

ไม่หนีไปจาก 9

อีกตัวที่จะใช้ คือ 0

แต่จะไม่นิยมใช้กัน เหมาะสำหรับ ยุคเริ่มต้น

ยุคนี้ ก่ ต้อง 999 สิ (อ้าวเข้าตัวเสียแล้ว)

จุดกำเนิดเป็น 9 จุดปลายก่ยังเป็น 9

และเป็นตัวเลขเต็มกำลังที่สุด

เพราะ ยืดเท่าใด ก่ กลับมาเป็น 9 เหมือนเดิม

คือ หดกลับคืน มาเป็น(รวมหมด) 9 เท่าเดิม

ไม่หนีหายไปไหน

แตกธาตุ แบ่งภาค ออกมาไม่จำกัด เป็น 99999999999999999999999999999999999999
9999999999999999999999999999999999999999999999999999

จะรวมกี่เปอร์เซนต์ ก่ เป็น 9
เมื่อกลับคืนทั้งหมด คือ 9 จะเป็น ศูนย์ ได้อย่างไร

 

คุณปู่ดิด


เคยได้ยินแบบนี้ไหม? คนที่เอาของปลอมมาล่อของจริง
แล้วพอเห็นของจริง ก็จะสามารถจับเคล็ดเอาไปใช้ได้
เรียกว่า "เคล็ดโยนอิฐล่อหยก" ไงละ


เป็นเคล็ดวิชาหนึ่งในวิชา "หยกอำไพ" แต่ยังไม่ถึงขั้น ๙
ถ้าเขาฝึกถึงขั้น ๙ ก็จะสามารถเอาไปได้ทั้งวิชา, ความรู้
พลังปราณ, รูปลักษณ์กระบวนท่า เลียนแบบได้หมดเลย

 

ถ้าไม่รู้จักเคล็ด "อาภรณ์วิวาห์"


ก็จะเสียทั้งพลังปราณ, วิชาความรู้, รูปลักษณ์ ฯลฯ
ทั้งหลาย ให้แก่คนที่ใช้วิชาหยกอำไพ ไปทั้งหมด
ที่นี้ จากคนที่เคยมีวิชาดี ของจริง ก็จะไม่เหลืออะไร
คนที่เป็นเหมือนตัวปลอม ตัวก้อปปี้ ก็จะกลายเป็นจริง


คนที่ฝึกแบบนี้ มีไม่กี่คนละ ...

 

มารก่แปลงกลายเหมือนของจริง ก่ มี เน้อ

ของจริงแท้ (แต๊ๆ น่ะ) ปลอมกันบ่ ได้ดอก

ของจริงไม่แท้ ปลอมกันได้

มารปลอมมาเป็นพุทธเจ้า แล้วคนหลงว่าตนเอง สามารถเขาพบพุทธะได้

เป็นเรือนหมื่นเรือนแสน สงสัยว่าบารมีตนเอง แก่กล้า สามารถ

พบองค์พุทธะ ได้เยอะแยะ

นี่ล่ะ ปลอมของจริงเหมือนกัน เน้อ

ก่ เหมือนคนเล่า ธรรม ขององค์พุทธะ นั่นล่ะ

ปากคาบคำภีร์ เหมือนองค์พุทธะ จะลอกจะเลียนอย่างไร ก่ ไม่พ้นธรรมพุทธะ

แต่ โทษที กายหยาบพูดกระทำ ให้เหมือนอย่างไร ก่ ได้

แต่กายละเอียด เน่าเละ ไม่เหลือ ก่ มี คัก

แบบนี้ปลอมได้ แต่ไม่จริง

สิ่งที่จริงที่เป็นจริง จะเหลืออะไร

ธรรมพุทธะ จะเหลืออะไร

มารยังปลอม ออกมาให้เห็น ได้

ก่ ไปดูตำราไตปิดก สิ จะเหลืออะไรให้อ่านบ้างเล่า

เห็นว่า จิตมี 121 ดวง.... (จิตบ้านพ่อมึง.... มีตั้งหลายดวง)

มนุษย์หนึ่งตน ก่ หนึ่งดวงจิต

 

สุดท้าย จะไม่ใช่ 9 แต่เป็น 0


เพราะไม่ได้เริ่มต้นจาก 0 จึงต้องลงท้ายด้วย 0
เพราะเริ่มนับก็มีอยู่แล้วคือ 1 แล้วยังนับต่อไปอีก
ดังนั้นที่สุดของการนับจึงไม่ใช่ 9 แต่เป็น 0


นับจาก 1 (ความมี) จะให้จบ 9 ไ้ด้ยังไง?
ในเมื่อ ยังไม่เคยผ่าน 0 (ความไร้ซึ่งความมี)?

 

แท้แล้วเข้าถึงพุทธะนั้นไม่ยาก
เพราะสัตว์ทั้งหลายก็มาจากพุทธะ
พุทธะทั้งหลายล้วนมีเมตตาไร้ประมาณ


ความเมตตาของพุทธะทั้งหลาย
ไยจะมีละเว้น ไม่หยั่งถึงสัตว์ตนใดเล่า?


ก็จะมีเว้นแต่ "บุคคลที่ขาดศรัทธาต่อพุทธะั"
เท่านั้น ที่จะมองไม่เห็นพลังเมตตาแห่งพุทธะ

 

พุทธะเอื้อมถึงทุกบุคคล
แต่บุคคลเอื้อมไม่ถึงพุทธะ
ก็เพียงเพราะ "อัตตาแห่งตน"
ขวางกั้นไว้เท่านั้น


หากไร้สิ่งขวางกั้น พุทธะย่อมไม่ไกล

 

แต่การมีหลายตัวตน หลายความคิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ความคิด ไม่ใช่ดวงจิต

 

มโนธาตุไร้รูป ย่อมไม่มีปรากฏเป็นดวงๆ
คำว่า "ดวงจิต" ก็มาจากตัวตน


คือ นับเอาว่าตัวตนหนึ่งสังขารจะมี
ดวงจิต ๑ ดวงบ้าง หรือกี่ดวงบ้าง
แล้วแต่จะเชื่อกันไป


สิ่งที่ยังเป็น "ดวง" เพราะเนื่องด้วยรูป
นาม (จิต) ที่ไม่ใช่รูป แท้แล้ว "ดวงก็ไม่มี"

 

ศูนย์ เป็นจุดเริ่มต้น จริง
แต่เมื่อเริ่มนับแล้ว คือ ได้มีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งถึง 9
แล้ว ก่ จะยังมีการเปลี่ยนแปลงต่อไปได้อีก

เพราะตั้งแต่ 0-9 คือต้นแบบของมนุษย์

มนุษย์ก่จะเปลี่ยนแปลงไปตามเลขที่ว่า

ก่ นับไปเรื่อยๆ 10 11 12

ก่ จะเป็นเผ่าพันธ์ใหม่ จะไม่กลับเป็นศูนย์

เพราะมนุษย์เป็นอิสระ จาก ผู้สร้าง แล้ว ก่

พัฒนาต่อไป 13 14 15

โดย ใช้ ฐานข้อมูลเลข 1 2 3 4 5 6 7 8 9

หวยยังต้องอาศัยเลขเหล่านี้เลย .... มั่ว เน้อ