สมาชิกใหม่ค่ะ รับขันธ์5 พญานาค

ก่อนอื่น แนะนำตัวก่อนนะคะ เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ

นามมาแล้วเคยไปดูดวงค่ะ เค้าทักว่าเรามีเด็กตาม แต่เราไม่เคยทำแท้ง หรืออะไรทั้งสิ้น หลายๆที่ทักเหมือนกันเลยค่ะ เราเริ่มไม่สบายใจ จึงไปปรึกษากับแม่
แม่ก็พาไปหาพระรูปหนึ่ง ท่านอยู่ในถ้ำติดๆชายแดนค่ะ ท่านก็บอกว่า เค้าไม่ใช่เด็กนะ เค้าเป็นพญานาคผู้หญิง เค้ามาเพราะชาติก่อนเราเคยเป็นลูกเป็นหลานเค้า ท่านบอกให้รับขันธ์ เค้าตามเรามานานแล้ว แต่ใจเราไม่รับเค้า

ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร ท่านจึงทักว่า เคยฝันเห็นงูนี่เรา ใช่มั้ย ทั้งๆที่เราไม่ได้เล่าความฝันเราให้ท่านฟังเลยนะคะ เราเลยนึกขึ้นได้ ในฝันเรากลัวงูตัวนี้มาก มารัดตัวเรา เราพยายามวิ่งหนี ฝันแบบนี้หลายครั้งมาก

จากนั้นเราก็รับขันธ์ ท่านบอกว่าให้ตั้งขันธ์ ทุกวันพระขึ้น15ค่ำ ในทุกๆเดือน แล้วถือศีล สวดมนต์ หมั่นทำบุญ ให้เยอะๆ แต่ปกติเราก็สวดมนต์ก่อนนอนอยู่แล้ว แต่จะทำบ้างไม่ทำบ้าง ชอบทำบุญ ใส่บาตร ไม่ทานเนื้อวัว ไม่กินเหล้า ไม่สุบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ลักขโมย

เราจึงหาความรู้เรื่องขันธ์ ก็ได้ความรู้จากที่นี่ จึงตั้งใจรับขันธ์ เพราะคิดว่าเราสามารถทำตามได้อย่างสบายแน่นอน พระท่านก็บอกว่า รับขันธ์แล้วเราต้องปฏิบัติเอง ปกติเราจะสวดชินบัญชร กับยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก อยู่แล้ว ตอนนี้เราเริ่มสวดมากขึ้น

เราจึงได้มาเป็นสมาชิกใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกๆท่านที่ได้เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากๆค่ะ

 

พระพุทธเจ้าตรัสว่ากรรมและสุขทุกข์ ไม่ได้เกิดจากผู้อื่นบันดาล
ฉนั้นความทุกข์ของคุณไม่ได้เกิดจากหมอดูกำหนดให้เป็นโน่นเป็นนี่
ถึงคุณจะทำบาปกรรมไว้แต่ชาติปางก่อน ก็ต้องยอมรับวิบากของผลกรรมเอาเอง
ตัวอย่างเช่น พระโมคคัลลานะ เป็นพระอรหันต์ ถึงแม้มีฤทธิ์ แต่ก็ถูกโจรทุบตาย เพราะเศษกรรมจากการฆ่าพ่อแม่ในชาติก่อน เศษกรรมมันยังมีอยู่
พระพุทธเจ้าตรัส ให้เอาตัวเราเป็นสรณะ เอาธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่น(ทรงเจ้า ดูหมอ)เป็นสรณะ
ส่วนพระที่ดูหมอดู ไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระพุทธเจ้าบัญญัติศีลของพระไว้ว่าห้ามดูหมอ
ส่วนการตริตรึกในธรรมโดยคิดถึงขันธ์ทั้ง 5 เป็นสิ่งดี ขันธ์ทั้ง 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาล วิญญาณ นี่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ของเรา เราจงละมันเสีย การระลึกละขันต์ทั้ง 5 เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่เราควรทำ และการเดินมรรค สมถะภาวนา และวิปัสนาภาวณา นี้จะช่วยให้คุณหายฟุ้งซ่าน และออกจากระบบกรรมได้ครับ ( นิพพานคือการออกจากระบบกรรม แต่วิบากของกรรมเรายังคงต้องรับอยู่ แต่เราจะไม่สร้างกรรมดี(กรรมขาว และกรรมชั่ว(กรรมดำ)ได้อีก การทำ มรรค8(ศีล สมาธิ ปัญญา )คือกรรมไม่ดำไม่ขาวเป็นการออกจากระะบบของกรรมนั่นเอง )

 

พระพุทธเจ้าบัญญัติศีลของภิกษุไว้ เช่น
๖. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่าร้าง
ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ให้ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง
ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจก
เป็นหมอทรงหญิงสาว เป็นหมอทรงเจ้า บวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม
ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
๗. ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่สมณพราหมณ์
ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธา แล้วยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา
เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน
ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธีบวงสรวงพื้นที่
พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องบน
ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์
ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล แม้ข้อนี้
ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๙
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค หน้าที่ ๓๗๘/๓๘๓ หัวข้อที่ ๓๘๓

 

ดิฉันเห็นด้วยกับท่าน Neschu 01 นะคะ ภิกษุไม่ควรแนะนำให้คนไปรับขันธ์ แค่ดูดวงนี้ก็อาบัตินะคะ


ป.ล ลำพังถ้ามีแต่คนอื่น อย่างหมอดูทัก แต่ตัวท่านจขคไม่เคยเจออะไรผิดปกติเองเลย จะไปสนใจอยากรู้อยากดูทำไมกันคะ ถ้าแบบท่านเห็นเองกับตา มีผีมีเทวดาตามปรากฏตัว หรือรังควานไปเรื่อย อือ อย่างนี้ค่อยไปหาพระท่านให้ชีแจงแต่ถ้าไม่มี ไม่เคยเห็น รู้สึกเฉยๆแต่ชอบไปหาที่นู้นที่นี้ให้เขาทัก อย่างนี้อย่าไปเชื่อเลยคะ มันเหมือนเราวิ่งเข้าหาเอง คคสต ดิฉันคิดว่าคนเราถ้าไม่ เพราะมีปัญหา แฟนเสีย แม่ป่วย โดนโกง ฯ ค่อยไปหาหมอดูหาร่างทรงคะ ถ้าชีวิตปกตืดีอย่าไปสนใจหาของพวกนี้ใส่ตัวเลย

 

ตั้งขันธ์ เขาทำกันยังไง

 

เคยมีหมอดูหลายๆท่านทักเหมือนกันค่ะว่ามีเด็กตามและขอมาอยุ่ด้วยทั้งๆที่ไม่เคยทำแท้ง บ้างก็บอกว่าเบื้องบนส่งคนมาดูแลปกป้องเรา เวลาไปเที่ยวบ้านญาติที่มีเด็กผู้หญิงเล็กๆเค้าก็ชอบมาเล่นกะเราตลอด และหมอดูก็ชอบแนะนำให้รับขันธ์ แต่ดิฉันไม่รับขันธ์นะคะ เพราะกฏและการปฏิบัติตัวเยอะมาก เลยอาศัยหมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ และแผ่เมตตาทุกวันค่ะ ถ้ามีเวลาว่างนานๆก็จะไปวิปัสสนาที่วัด ไม่ใช่ไม่เชื่อเรื่องพวกไสยศาตร์ เรืองอัศจรรย์นี้นะคะ แต่ดิฉันเปนคนเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมมากๆ อิอิ

 

สวัสดีค่ะ

เพราะเราก็มีคนทักแบบนี้เหมือนกัน ว่ามีวิญญาณเด็ก เป็นกุมารเทพสองคน
เป็นลูกเราเมื่อชาติก่อน เขาบอกให้เราเลี้ยงดู แต่เรายึดพระธรรมคำสอน
ไม่ยึดติดเรืองพวกนี้ กังวลใจอยู่เหมือนกันว่า ถ้าหากมีจริงงั้นเพื่อความสบายใจเวลาสวดมนต์ เลยแผ่กุศลให้เขาด้วย แต่ไม่รับเลี้ยงแบบกุมาร หรือ รับขันธ์ค่ะ

อืม... ถามเจ้าของกระทู้
การรับขันธ์ ทำยังไงค่ะ อยากรุ้เหมือนกัน

 

สวัสดีค่ะเจ้าของกระทุ้ ไม่กลัวเรื่องยุ่งยากจะตามมาหรอคะรับขันธ์นี่อะค่ะ เห็นหลายรายรับมาแล้วทุกอย่างไม่ได้ดีขึ้นเลย แต่พระที่ดูดวงผิดวินัยนะคะ

สมัยจบใหม่ๆไปทำงานที่ภูพานดิฉันต้องเฝ้า สนง คนอื่นเขาไปอบรมหมด ทีนี้มีคนมาติดต่องาน มาบอกบุญและเสนอตัวดูดวงให้และเขาก็ขอดูมือและสัมผัสมือ จากนั้นเริ่มทักเลยว่า เคยไปทำแท้งมาใช่ไหมมีวิญญาณเด็กตาม กับวิญญาณผู้ชายตาม ที่ตลกคือไม่เคยแม้แต่จะงาบชายซักครั้งเลยท้องได้ไงหว่า ส่วนวิญญาณ ผช ก็คงเป็นเพื่อนที่พึ่งตายไปเขาก็ตามเพื่อนทุกคนละค่ะก็เลยเฉยๆเพราะสมัยก่อนเขาตายก็เคยช่วยเหลือกันมา ต่อหมอดูก็ท้วงว่าดวงจะเจออุบัติเหตุ ก็ไม่แปลกหรอกค่ะแถวนั้นมันติดถนนใหญ่เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดสิบล้อวิ่งประจำ สักพักดูไปๆก็บอกให้ซื้อพระพุทธรูป ราค่ 2999 บาท ตอนนั้นมีเงินอยู่ยี่สิบบาท ในใจตอนนั้นอยากควักเงินให้เขามากๆ แต่พอจะควักก็เหมือนมีเสียงพูดว่าให้เขาไปแล้วจะกินข้าวกับอะไร ส่วนหมอดูก็พูดโน้มน้าวเรา เราก็อยากเอาเงินให้เขาแต่ก็ไม่ได้ให้ หลังจากนั้นกังวลมากๆ เลยเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง แล้วพี่อ้อยเป็นคนธรรมมะธรรมโมจริงๆ บอกว่าเค้าได้จับมือหรือสัมผัสตัวเราไหม เลยตอบว่าค่ะ พี่อ้อยเลยบอกว่าโดนแล้วละอาจจะเป็นยาสั่ง แล้วก็เตือนว่าคราวหน้าอย่าให้คนไม่รู้จักมาสัมผัสตัวนะ

จากนั้นก็สวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญตามที่พี่อ้อยแนะนำ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะผ่านมาสองปีแล้วดิฉันก็อยู่รอดปลอดภัย นาคก็ฝันเห็นบ่อยค่ะ เมื่อเจ็ดวันกก่อนไปสำรวจเส้นทางไปวัดที่อยู่ริมหนองหาร พระและคนแถวนั้นถามว่ามาได้ไงก็ตอบไปตามตรงว่าเดาสุ่มมาค่ะ เปิดกูเกิลแมปก็ไม่มีเส้นทาง จากนั้นก็ถามกำหนดการเรื่องทำบุญว่ามีอะไรบ้าง แล้วพี่คนนั่งทำบายศรีก็ทักว่าเป็นนาคมาเกิดไม่ใช่ว่าจะหาที่นี่ได้ง่ายๆ สิ่งที่เคยทำไว้ในอดีตมันหนักหนาสาหัสมากนะตอนนี้ถึงได้ลำบาก เค้าพูดต่อว่ามีองค์นะได้เป็นร่างทรงรึเปล่า เคยรับขันธ์ไหม เลยตอบไปว่าไม่เคยเพราะตอนปีที่แล้วไปงานสัตนาคา(ที่ไปอยากดูวัฒนธรรมและประเพณีไม่ได้สนใจจะบูชานาคค่ะ) เห็นร่างทรงมากมายหลายสำนักตอนเดินผ่านมีความรู้สึกอึดอัด รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เทพเป็นสัมภเวสีแฝงมามากกว่า พี่คนนั้นก็บอกว่าดีแล้ว คือในชีวิตนี้ดิฉันจะยึดมั่นในพระรัตนตรัยเท่านั้นค่ะ เลยไม่สนใจที่จะรับขันธ์ ถ้าข้อความของฉันทำให้คุณไม่สบายใจขออภัยด้วยค่ะ ไม่ได้เจตนานะคะเล่าสู่ฟังเฉยๆค่ะ

 

ปกติ พระท่านไม่ได้ดูดวงหรอกค่ะ แต่เราไม่สบายใจ ท่านเลยดูให้แค่เรื่องมีใครตามเท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้ดูเรื่องอื่นเลย ใจท่านก็ไม่ได้อยากดูให้ค่ะ ท่านเลยบอกแค่เรื่องเดียวเท่านั้นนะ และท่านก็ไม่รับเงินด้วยค่ะ ท่านบอกแค่ช่วย ไม่ได้ดูเป็นอาชีพ

ขันธ์เราทำขึ้นเองค่ะ ไม่ได้ไปรับจากสำนักไหนหรือวัดใดเลยนะคะ ทำที่บ้านเราเองค่ะ
กรวยใบตอง 5 กรวย แต่ละกรวยมี ดอกไม้1 ธูป2 เทียน2แค่นั้นเองค่ะ
เหมือนเรากราบไหว้ บูชาพญานาค ที่มาดูแลเราค่ะ ท่านบอกให้สวดมนต์ทุกวัน มนต์ที่เราสวดก็ยอดพระกัณไตรปิฎกกับชินบัญชร ไม่ได้สวดคาถาบูชาพญานาคใดๆเลยค่ะ เพราะเราคิดว่าที่ท่านมาดูแลเรา ก็เพราะต้องการร่วมสร้างบุญบารมีกับเรา (ปกติเราสวดเป็นบางวัน) พระท่านบอก ตั้งใจถือศีล5ให้ครบ ทำบุญทำทานเยอะๆ สร้างบุญบารมีมากๆ
พระท่านบอกเรื่องสำคัญอีกอย่างคือ เวลาทำบุญแล้วไม่ต้องอุทิศส่วนกุศลไปให้เค้า เพราะเค้ามีบารมีพอแล้ว แต่เค้าต้องมาดูแลเราเพราะชาติก่อนเคยเกียวข้องกัน จึงตามมาในชาตินี้นะค่ะ แค่เวลาทำบุญให้นึกถึงท่านก็พอ

เราคิดว่าการรับขันธ์จะไม่ได้ทำให้เราลำบากขึ้นตรงไหน ก็เลยตั้งขันธ์ได้อย่างสบายใจค่ะ
เพราะปกติเราก็ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี ไม่เที่ยวกลางคืน อยู่แล้ว

เราไม่ทราบนะคะ แต่ละที่ รับขันธ์เป็นยังไง เราลองหาข้อมูลดู บางคนต้องไปรับที่สำนัก ต้องไปไหว้ครู ต้องจ่ายเงิน อีกสารพัด แต่ของเราๆทำขึ้นเองเพื่อเป็นการบูชาที่ท่านพญานาค มาดูแลเราเท่านั้นเองค่ะ คิดว่าเป็นเรื่องดีซะอีกนะคะ

มีครั้งนึงเราคิดในใจบอกกับท่านพญานาคว่า เราชอบทำบุญนะ แต่เราขับรถไม่เป็น เลยทำได้แค่ใส่บาตรในตอนเช้าเท่านั้น แต่ถ้ามีโอกาส เราจะตั้งใจทำบุญอย่างเต็มที่ พอสายๆพี่สาวมาหา ชวนไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัด ปกติพี่สาวเราจะงานยุ่งมาก เราก็อึ้งนะ แบบทันใจจริงๆ

และที่สำคัญ เรายึดมั่นในพุทธศาสนา หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เรื่องการกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ไม่เบียดเบียนใคร

ขอบคุณทุกๆท่านที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ

 

ตอนแรกเราก็คิดแบบนั้นค่ะ เราทำบุญ กรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญกุศล ให้ตลอด คิดว่าเค้าคงไปแล้ว ประมาณปีกว่าๆ แต่เดินผ่านหมอดูที่ไหนก็เข้ามาทักว่ามีวิญญาณเด็กผู้หญิงตาม เราเลยคิดว่าน่าจะปรึกษาพระดีกว่า ใจเราคิดว่าคงเป็นเด็กที่อยากเกิด และอยากรู้สาเหตุด้วยว่าตามเราเพราะอะไร หรือเราเคยทำให้เค้าไม่พอใจเรื่องไหน จะได้แก้ปัญหาได้ถูกต้อง เพราะเราไม่เคยทำแท้ง และก็ไม่ได้ตั้งครรภ์ อีกอย่างที่ต้องพึ่งพระ เพราะกลัวว่าหมอดูทั่วๆไปจะหลอกให้เสียเงิน เสียทอง คิดว่าพระท่านคงไม่โกหก แต่กลับกลายเป็นว่า มีพญานาคหญิงคุ้มครอง เราสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าแรงอาฆาตจากเด็กหญิงน้อยที่ไหนซะอีก

ในความคิดเรา รับขันธ์ต้องรับจากสำนัก หรือวัด แต่เราทำขึ้นเอง ที่บ้านตัวเอง ก็เลยเรียกเองว่า ตั้งขันธ์ ค่ะ[/SIZE]

 

เราไม่ได้ไปดูดวงนะคะ แบบว่าเดินผ่านแล้วเค้ามาทัก ซึ่งหลายๆที่ทักตรงกันหมดเลย เราก้เริ่มเอะใจ ขนาดปีกว่าๆก็ยังทักเหมือนกัน เลยไปปรึกษาพระดีกว่าค่ะ

 

ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน สังขารทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน.
ภาราหะเว ปัญจักขันธา : ขันธ์ทั้ง 5 เป็นของหนักเน้อ
ภาราหะโร จะ ปุคคโล : บุคคลแหละเป็นผู้แบกของหนักพาไป
ภารา ธานัง ทุกขังโลเก : การแบกถือของหนักเป็นความทุกข์ในโลก
ภารานิกเขปะนังสุขัง : การสลัดทิ้งของหนักลงเสียเป็นความสุข
นิกขิปิตะวา คะรุง ภารัง : พระอริยะเจ้า สลัดทิ้งของหนักลงเสียแล้ว
สาธุครับ ธรรมะสวัสดี
นาคบุตร

 

อ้อ แสดงว่าขันธ์ห้าที่ตั้ง คุ้นๆเหมือนในฮีตของชาวอีสานทุกวันพระก็จะทำแบบนี้กันค่ะเคยเห็นยายทำแบบนี้ทุกวันพระ

 

หากข้าพเจ้าเป็นพระสงฆ์สาวก จะไม่กล่าวว่า เธอควรกระทำความดีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้เกี่ยวข้องกับเธอด้วยการรับ ขันธ์
แต่กระผมจะกล่าวแก่เธอถึงที่มาที่ไปที่ชัดเจน และจะกล่าวเสริมว่า ด้วยบุพกรรมที่เกี่ยวพันธ์เกิดมีมาแล้วอย่างนี้ ควรทำบุญกระทำความดีอย่างไร เพื่อเป็นการแผ่อุทิศบุญบารมีบุญกุศลให้แก่ท่าน ส่วนการมีดอกไม้ ธุปเทียน จัดทำเป็นบายศรีงดงามถวายเป็นเครื่องสักการะบูชา ก็สุดแล้วแต่ความพร้อมหรือความปราถนาแห่งเธอ จะเรียกของสิ่งนีัว่า ขันธ์ครูหรือแค่เครื่องสักการะบูชาก็สุดแล้วแต่ การบูชาของเธอเธอจะกระทำอย่างดีงามสูงสุดมากน้อยประการใดก็แล้วแต่กำลังและจิตปราถนาของเธอ เรายินดีแนะนำเธอทุกประการ เพียงเพื่อให้เธอได้มีจิตใจที่ดี เป็นคนที่ดี มีกตัญญุตา มีเมตตาต่อทุกสรรพจิตวิญญาณ
สุดท้ายไม่ได้มีอะไรดีและวิเศษไปกว่าความดีที่ต้องสร้างให้เกิดทำให้มีเกิดขึ้นที่จิตใจของเธอ และไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความชั่วร้ายภายในจิตใจของเธอเอง คือกิเลสตันหาภายในจิตใจของเธอเอง สิ่งนี้ต่างหากที่น่ากลัวและต้องระวังมันให้มากที่สุดครับ สาธุ

 

ความจริงเรื่องขันธ์ สำหรับสายของกระผมแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรมาก กระผมเคยถามท่านครูอาจารย์ ซึ่งทุกปีจะทำพิธีบูชาคุณครูอาจารย์ อันมีตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ ท้าวมหาพรหม ปู่ฤาษี พระอินทร์ ท้าวจาตุมหาราชและอื่นๆ ซึ่งเคยถามท่านว่า ควรบูชาอย่างไร ท่านตอบว่า
1ควรให้ความสำคัญด้วยการปฏิบัติบูชาเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด คือปฏิบัติดีเป็นเครื่องบูชาท่าน
2 ควรสักการะบูชาคือการสวดมนต์และกราบไหว้ ระลึกถึงเป็นนิจเพื่อสื่อจิตถึงกัน จะได้ไม่ห่างเหินกัน มีความใกล้ชิดกัน
3 ควรสักการะบูชาถวายสิ่งของเป็นอามิสบูชา

ทีนี้ด้วยความกตัญญุตาจึงคิดว่า เราจะทำทั้งสามข้อให้ดีงามที่สุดมิได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ภายใต้เงื่อนไขคือเราจะไม่เบียดเบียนตนเอง แต่จะทำด้วยกำลังความพอดีของตน
เวลาไหว้ครูก็อยากจะถวายบายศรีสวยๆ อาหารคาวหวานให้บริบูรณ์เพราะเทพทั้งหลายก็มาประชุมร่วมกันอยู่ในปรัมพิธี ก็อยากทำให้ดีที่สุด
ส่วนข้อ 1และ2 นั้นเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องทำให้ดีอยู่แล้ว ครับ อันเจตนาของเราก็มีเพียงเท่านี้
ความเป็นครูอาจารย์ที่ดี เทพเทวดาที่ดี นะ ท่านไม่ต้องการอะไรหรอก แค่เราทำความดี ระลึกถึงท่าน มีใจนอบน้อมระลึกถึงท่าน ท่านก็ดีใจปลื้มใจเป็นที่สุดแล้วครับ ทำอะไรนั้นต้องทำด้วยใจ ด้วยจิตที่ดีงามระลึกดี ย่อมเป็นที่รักของครูอาจารย์และเทพเทวดาแล้วครับ เรื่องอื่นมันเรื่องเล็กน้อยครับ มันก็อยู่ที่เจตนาของเราครับ เราทำเราได้ของเราเราทำมากก็ย่อมได้มาก มันเป็นเรื่องของเราไม่ต้องให้ใครมาบอกหรือชักจูงอะไรมาก สำคัญที่จิตใจของเราเองนะครับ คงเข้าใจในสิ่งที่กระผมแนะนำมานะครับ ขออนุโมทนาในทุกความดีงามอันเป็นบุญกุศลด้วยครับ สาธุ

 

ถ้าพระท่านสอนให้ตั้งหน้าตั้งตาทําความดี ละเว้นความชั่ว แล้วทําจิตใจผ่องใส แบบนี้ก็ดีแล้ว อย่างพระที่ท่านทํา วัตถุมงคล ผู้ใช้ต้องอารธานา พระเครื่องทุกวันด้วยการขึ้นต้นด้วย นะโมตัสสะ ก็นึกถึงพระพุทธเจ้า เป็นพุทธนานุสติ ตายตอนนั้นไปสวรรค์เลย พระดูดวงนี่ผมเคยได้ยินเหมือนกัน(คือพระท่านไม่เรี่ยไล่เรื่ยเรื่องเงินนะ แค่ดูดวงให้และแนะนําทําความดี ส่วนญาติโยมคนนั้นก็ถวายสังฆทาน ตอนจะมาดูดวงทุกครั้งพอตายแล้วไปสวรรค์) ส่วนสมัยนี้ไม่รู้เป็นยังไง พระให้หวยก็มีแล้วพระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ด้วย (ญาติโยม ไปขอหวยท่านอย่างเดียวธรรมไม่เอาเลย น่าเสียใจ เหมือนเจอเพชรอยู่ต่อหน้าแต่ไปหยิบเอาดินมาแทน) แต่อย่างน้อยเพื่อญาติโยมตอนใกล้ตาย นึกถึงพระ จะได้ไปสวรรค์ แต่ถ้าจะดี ควรนึกถึงความดีท่าน ที่ท่านปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ แล้วเราก็ทําตามที่ท่านสั่งสอน แบบนี้ถึงจะดีที่สุด

 

เฮ้ย... เอาจริงๆนะ
ถ้ามีผี... ขอใช้คำนี้เลยแล้วกัน มาวนเวียนรอบตัวนี่ ผมว่าไม่เห็นต้องไปทุกข์ร้อนอะไร
ก็อยากวนก็วนไป เวียนก็เวียนไป
โอเค ถ้าเป็นผีเทวดา ถ้าติดต่อได้ ก็ขอหวยกันหน่อยละ หรือชี้ช่องทางทำมาหากิน
แต่เราก็ต้องเคารพกันนะ ผมว่าไม่เห็นมีอะไร ทำบุญก็บอกเขา
เหมือนบวงสรวงเทวดาธรรมดาๆ

 

คาดว่า จขกท. น่าจะเป็นคนอีสาน
จากฮีต หรือประเพณีของคนอีสานมักจะมีการจัดดอกไม้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเครื่องบูชา ที่เรียกว่า "ขันธ์ ๕" หรือ เบญจขันธ์ ซึ่งประกอบด้วยดอกไม้ ธูป เทียน จำนวน ๕ คู่...


การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยขันธ์๕ ถือเป็นประเพณีท้องถิ่นสำหรับชาวอีสานที่ถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน แม้แต่ยายของหมูเอง ทุกวันพระ ยายจะนำดอกพุดซ้อน ๕ คู่ กับเทียน ๒ คู่ (เป็นอย่างต่ำ), ธูป ๓ ดอก มาบูชาพระทุกวันพระ

​

คนอีสานมักจะจัดเครื่องบูชาที่ง่าย ใกล้ตัว.. ส่วนจำนวน ๕ คู่ที่ต้องการนั้น อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ขันธ์ ๕" ในพุทธศาสนาหรือไม่ อันนี้ยังไม่ได้ศึกษาข้อมูล แต่ดูแล้ว จขกท. น่าจะหมายถึงการจัดเครื่องบูชาตามฮีตคนอีสานมากกว่าเป็นการ "รับขันธ์ ๕" ขันธ์ผีที่ไหนมา... (ไหม?)


อย่างไรก็ตาม ขอให้ระมัดระวังในการปฏิบัติตามความเชื่อเรื่องเทพทั้งหลายด้วยนะคะ เทพท่านก็เมตตา และก็อยากสร้างบุญบารมีร่วมกับเราจริงๆ แต่ตัวเราเองก็ควรยึดและปฏิบัติตามทางที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ดีกว่า ขอให้อยู่ในศีล ในธรรม เคารพพระพุทธเจ้า ระลึกถึงพระพุทธเจ้าไว้จะดีกว่าค่ะ


ส่วนการสร้างบุญบารมีกับเทพที่เราศรัทธานั้น ก็สามารถระลึกถึงบุญบารมีที่เราได้ทำทุกภพทุกชาติส่งให้ท่านได้ตลอดเวลาค่ะ... แม้แต่เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายท่านก็นับถือ และเคารพพระพุทธเจ้า ผู้อยู่สูงสุดนะคะ การระลึกถึงครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและตอบแทนท่าน ก็คือการแผ่เมตตา อุทิศบุญบารมีเราให้ท่านเป็นการตอบแทนนี่ล่ะค่ะ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะได้บุญ ได้บารมีมา เราก็ต้องอยู่ในศีล๕ เป็นเบื้องต้น และอยู่ในทางสายกลางที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วค่ะ อย่างที่หลายท่านได้โพสท์ตอบมาแล้วนะคะ อันตรายมาก ถ้าเราไปรับขันธ์บูชาครูจากสำนักทรงนะคะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นขันธ์ผีซะมากกว่า (เท่าที่เห็นมาจากแถวบ้าน เป็นบ้าเป็นบอไปหมด) สิ่งเหล่านี้เป็นของเสื่อม เป็นทางเสื่อมนะคะ สิ่งที่มั่นคงและยืนยาว บริสุทธิ์กว่าคือ พุทธคุณ หรือคุณความดีในทางพุทธเรานี่ล่ะค่ะ เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติและควรนำมาใส่ตัว ใส่จิต



ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ



ลูกหมู