เรื่องเด่น ด้วยเมตตา!!...หลวงปู่สละร่างให้งูกิน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย yo09(), 30 พฤษภาคม 2013.

  1. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตโต


    วัดอุดมคงคาคีรีเขต ( ดูน ) จ. ขอนแก่น




    [​IMG]


    ...หลังจากพักอยู่ข้างนำ้ดูนได้ 7 วันแล้ว ท่านจึงได้ย้ายไปพักที่แห่งใหม่ ได้ที่
    เหมาะใต้พุ่มไม้หนามีพลาญหินอยู่ใต้ต้นไม้นั้น ( ปัจจุบันอยู่หน้าอุโบสถวัดดูน )
    ปักกลดปฏิบัติภาวนาที่นี่ คืนแรกก็ปกติ เงียบไม่มีอะไร ตกคืนที่สองตอนเย็น
    ขณะเดินจงกรมอยู่ สังเกตเห็นว่ามันช่างเงียบผิดปกติเสียจริงๆ


    ท่านตั้งท่าระวัง ขณะต่อมาท่านก็ต้องขนลุกไปทั้งตัว เมื่อได้ยินเสียงดังฮอกๆ
    ท่านว่าเห็นงูใหญ่ตัวเท่าต้นขา กำลุงเลื้อยเข้าไปในรูหิน ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับที่ท่าน
    พักนั่นเอง เจอเจ้าถิ่นเข้าให้แล้วไหมล่ะ หรือว่าเราปักกลดขวางทางนี่น่ะ
    ถูกที่ดีแล้ว ตัดสินใจดั้นด้นมาถึงนี่แล้ว ต้องลองกันสักตั้งให้รู้ดำรู้แดงไปเลย
    ท่านก็ยิ่งเร่งตั้งใจภาวนา

    [​IMG]


    พอตกคืนที่สาม กำลังเดินจงกรมอยู่ ก็ได้ยินเสียงผิดปกติอีก ต้องเป็นเสียงงู
    ตัวเมื่อวานนี้แน่ๆ เสียงใบไม้กับพลาญหินเสียดสีกันดังวี๊ดๆ วื๊ดๆๆ ฮอกๆๆๆ
    ใกล้เข้ามาๆ เหมือนกับรู้ตัวว่าอะไรจะเกิดขึ้น จึงได้นั่งลงข้างกลด นั่งนิ่งระงับ
    ความตื่นเต้นไว้ได้ กำหนดถามใจตัวเองดูว่า " กลัวงูใหญ่ตัวนี้หรือไม่ ? "
    ใจตอบตัวเองว่า " ไม่กลัว " จึงได้กำหนดจิตแผ่เมตตาให้มัน จงเป็นสุขเป็นสุข
    เถิด


    ขณะงูใหญ่เลื้อยมาอยู่ตรงหน้าท่าน อัาปากกว้าง แลบลิ้นแผล็บๆๆ ทำท่า
    เหมือนจะกินท่านเป็นอาหารอยู่นั้น ท่านจึงพูดกับมันว่า " ถ้าจะกินเราต้องกิน
    ให้หมดทั้งบริขาร กลด บาตร จีวร ต้องกินเข้าไปให้หมด อย่าให้เหลือ เรา
    ยอมตายแล้ว สละหมดแล้วทุกอย่างแม้ชีวิต " ขณะนั้นจิตของท่านตั้งมั่นแน่น
    เหมือนหิน มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา แนบมือเข้ากับลำตัว ชิดเท้าเข้ากัน นอน
    เหยียดยาวเพื่อให้งูกิน


    งูตัวนั้นมันคงหิวจัดกระมัง อดอาหารมานานหลายวัน คงหาสัตว์อื่นกินเป็น
    อาหารไม่ได้แล้ว มันจึงมาหากินคน ท่านว่ามันเริ่มขยอกกลืนกินท่านเข้าไปใน
    ปากของมันเรื่อยๆๆ มันกลืนกินตัวเราเข้าไปถึงไหน เย้นเย็น เย็นยะเยือกไป
    ถึงนั่น ขณะที่หลวงปู่อยู่ในปากของงูใหญ่นั้น ท่านก็กำหนดภาวนาวางความ
    ตาย ตายๆๆๆๆ จนหมดความกลัวตาย เมื่อจิตใจทอดอาลัยเสียดายในชีวิต
    ได้แล้ว จิตก็รวมวูบเข้าเป็นสมาธิ ผู้รู้ก็เป็นอันหนึ่งต่างหาก กายเวทนาก็เป็น
    อันหนึ่งต่างหาก สติตามดูรู้หมด เป็นอย่างนั้นอยู่นาน เมื่อจิตถอนออกมาแล้ว
    ไม่มีความโกรธหรือผูกอาฆาตพยาบาทมันเลย มีแต่ความองอาจ กล้าหาญ
    ไม่สะทกสะท้าน กำหนดจิตแผ่เมตตาให้ และภาวนากำหนดดูมันอยู่อย่างนั้น
    มันขยอกตัวท่านเข้าไปในท้อง เข้าไปช้าๆๆ จนกระทั่งถึงลำคอหลวงปู่ แล้ว
    มันก็หยุดอยู่แค่นั้น ไม่กินต่อ


    ท่านก็เลยพูดกับมันว่า " หยังจังบ่กินให้หมดทั้งโตล่ะ ถ้ากินบ่หมด เฮาสิเอา
    ศอกถองพุงเอาเด๊ะ " ( ทำไมไม่กินให้หมดทั้งตัวล่ะ ถ้ากินไม่หมด เราจะเอา
    ศอกกระทุ้งเอาน่ะ ) ว่าแล้วท่านก็เอาศอกกระทุ้งมันเบาๆ จากนั้นมันก็เริ่มคาย
    ขยอกลำตัวท่านออกมาจากปากของมัน แล้วมันก็เลื้อยถอยออกห่างไปนิดหนึ่ง
    แล้วก็ชูคอยกหัวขึ้นลงๆ อยู่สามครั้ง เหมือนว่ากราบขอขมาลาโทษ ขออโหสิ
    กรรมที่ได้ล่วงเกินท่าน แล้วมันก็เลื้อยเข้ารูไป นับจากนั้นมา ท่านว่าไม่เคย
    เห็นงูตัวนั้นปรากฎตัวให้เห็นอีกเลย ท่านว่ามันเริ่มกินท่านตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนกระ
    ทั่งถึงตี 5 จึงได้คายท่านออกจากปาก สบงจีวรที่ท่านนุ่งห่มอยู่นั้นเปียกปอน
    หมดเลย ( ปัจจุบันที่ตรงนี้ ลูกศิษย์ ได้ปั้นรูปงูใหญ่ไว้เป็นอนุสรณ์ )..


    ( จากหนังสือ " ชีวประวัติ ปฏิปทาและคติธรรม ของหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตโต )

    _____________________________________

    ขอขอบคุณภาพประกอบจากเว็บ web-pra.com
    และเว็บ toptenthailand.com

    นิพพานชาตินี้กันเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2013
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อนุโมทนาสาธุครับ..เป็นการทดสอบด่านที่สำคัญมากที่สุดคับ.มาถึงจุดนี้
    ส่วนมากจะสอบตกกันหมด.หลายๆท่านที่กำลังขึ้นอภิญญาในแบบที่ใช้งานเป็นรูปธรรม
    ก็มาชงัก ณ จุดนี้เหมือนกัน..นั้กปฏิบัติที่บอกว่าตัวเองไม่กลัวตายไม่กลัวอะไร
    ต้องเจอด่านทดสอบแบบนี้และผ่านได้เหมือนหลวงปู่ท่านนี้นี่หละครับ ถึงจะบอกได้ว่าตัวเองไม่กล้วอะไรจริงๆกับใครได้..

    พระที่ท่านสอบผ่านแบบนี้ก็จะขึ้นเป็นพระอริยะเจ้าและมี
    ความสามารถพิเศษทางจิตไม่ว่าจะใช้ในด้านรูปธรรมและนามธรรมได้ในระดับคล่องตัว.
    ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเมตตาเพราะขนาดร่างกายตัวเองยังยอมเสียสละได้

    ที่หลายคนสอบไม่ผ่านจุดนี้เพราะยังห่วงร่างกายตัวเอง.
    ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือกายทิพย์ของตน
    เพราะไปใช้ฤิทธิ์ไปใช้อภิญญาป้องกันตัวเองก่อน.แม้ว่าจะเป็นเพื่อการป้องกันตน.
    ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรู้ตัวว่ายังไม่ผ่าน ก็ต้องรอเวลาอีกซักพักกว่าจะเจอบททดสอบแบบนี้
    และในระดับที่มาทดสอบแบบที่หลวงปู่ท่านผ่านมาแล้ว...ท่านก็ยังว่าถือไม่ผ่านครับ..
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]
     
  4. เบเบ้

    เบเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +14,165
    พิจารณาระหว่างความเป็นความตาย ข้ามจุดที่จะต้องกลัวสิ่งใดๆ

    :'(กำหนดจิตพิจารณาระหว่างความเป็นความตาย :boo:
    ข้ามจุดที่จะต้องกลัวสิ่งใดๆ
    ตายเป็นตาย เมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก

    ส่วนใหญ่คนเราถ้าไม่ได้ฝึกจิต มักจะกลัวตาย ไม่ชำนาญ
    กลัวความเจ็บปวด ความทรมาน สูญเสียทุกสิ่ง ยังตัดไม่ขาด
    ทั้งๆทุกอย่างเป็นเพียงธาตุทั้งสี่มาเรียงชิดติดกัน
    โลกสมมุติ กิเลสนี่เก่งมากๆๆเหมือนยางเหนียว คล้ายๆลิงติดตังยิ่งดิ้นยิ่งพันกันอุตลุดวุ่นไปหมด
    ไม่พ้นจาก โลภ โกรธ หลง เบื่อๆ อยากๆ
    รูป-เสียง-กลิ่น-รส-โผฏฐัพพะ-ธรรมารมณ์

    ใจหนึ่งอยาก วนเวียนอยู่ในโลกวัฎสงสาร เสพสิ่งที่ดี ที่ชอบ ที่อยากได้ อยากมี อยากเป็น
    อยากทำ อยากสร้างกุศลกรรมตลอด มีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่ดี มีเงิน มีทอง อยากเก่งไปซะทุกอย่าง ไม่อยากเสียใจ ไม่อยากพลัดพราก ไม่อยากถูกตำหนิ ไม่อยากรับวิบากกรรมที่ไม่ดีrabbit_run_away เกิด เเก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่็ตาม กฎแห่งกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซับซ้อน หลายภพหลายชาติ ควรเร่งสร้างกรรมดี หนีกรรมชั่ว ตามที่แต่ละท่านอธิษฐานบารมี
    ปรารถนาพุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ สาวกภูมิ อรหันตมรรค อรหันตผล
    ขอให้สำเร็จทุกๆท่านครับ
    เพราะยังมีอวิชชา(cry)
    อวิชชา หมายถึงความไม่รู้ในอริยสัจ คือ

    ไม่รู้ในทุกข์ ได้แก่ไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่เป็นตัวทุกข์ เช่นไม่รู้ความเกิด ความแก่ ความตาย ความผิดหวัง เป็นตัวทุกข์
    ไม่รู้ในเหตุเกิดทุกข์ ได้แก่ไม่รู้ว่าทุกข์นั้นเกิดมาจากตัณหาในจิตของตนเอง มิใช่เกิดจากผีสาง เทวดา มิใช่เกิดจากการบันดาล
    ไม่รู้ในความดับทุกข์ ได้แก่ความไม่รู้ว่าทุกข์นั้นเมื่อเกิดแล้วสามารถดับได้ โดยการกำจัดตัณหาให้หมดไป
    ไม่รู้ในข้อปฏิบัติสำหรับดับทุกข์ ได้แก่ไม่รู้ว่าทุกข์นั้นจะดับสนิทได้ด้วยมรรค 8 มีสัมมาทิฐิเป็นต้น มิใช่ดับได้ด้วยการวิงวอนขอร้องให้คนอื่นช่วย

    ความไม่รู้สึกต้วทั่วพร้อมโดยสมบูรณ์ในความเป็นจริงของสิ่งต่างๆในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับมัน กล่าวคือไม่รู้กายในกาย ไม่รู้เวทนาในเวทนา ไม่รู้จิตในจิต และไม่รู้ธรรมในธรรม ก็คือไม่มีสติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์นั้นเองคือ อวิชชา

    ใจหนึ่งเบื่อๆอยาก สร้างบารมีมุ่งสู่พระนิพพานเพื่อพบความสุขที่แท้จริง;aa2
    อนุโมทนาสาธุการด้วยครับcatt14
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มิถุนายน 2013
  5. นภัสดล

    นภัสดล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +433
    ท่านที่คิดถึงความตายทุกวันวันละหลายๆครั้ง จนจิตมันชินแล้ว ความกลัวตายจะหายไป แถมรู้สึกเป็นสุขซะด้วยซ้ำที่จะได้ตายพร้อมทั้งความอยากในอุปกิเลสทั้งหลายก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย เจริญในธรรมครับ..
     
  6. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ผมคิดเอาเองว่า คงจะเปนนาค ฯลฯ มาทดสอบท่านครับ

    ถูกผิดอย่างไร กราบขอขมาด้วยครับ
     
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +18,998
    การเพียรพิจารณาถึงความตายอยู่เนืองๆ กับเมื่อความตายปรากฎขึ้นเบื้องหน้า ณ ตรงนั้น..
    แม้ว่าจะเป็นการพิจารณาถึงความตายเหมือนกัน..
    แต่กริยาของจิตก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...
     
  8. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านหลวงปู่สำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  9. tleelapo

    tleelapo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +2,444
    อนุโมทนาสาธุ ครับ จิตผ่านการทดสอบสู่ความเป็นพระอริยเจ้าแท้ต้องแบบนี้ ละแล้วทางกายมีมรณานุสติเป็นอารมณ์เข้าถึงการตัดสังโยชน์ในเรื่องกายได้ดีสุด
     
  10. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงถึงบททดสอบสุดท้าย... ก่อนการข้ามโคตร

    ธรรมะวิเศษ อยู่เลยจุดตายไปนิดเดียว !


    นิพพานชาตินี้กันเถอะ
     
  11. rnuir

    rnuir เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +218
    เป็นผมนี่ ถ้าหัวใจไม่วายตายก่อนคงมีวิ่งตีนแตกกันบ้าง!!!
     
  12. Bonejankel

    Bonejankel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +147
    อนุโมทนา สาธุ

    คงจะจัดได้ว่าเป็นการบำเพ็ญ ทาน- -เมตตา ขั้นอุกกฤต

    chearr
     
  13. artbuddhabless

    artbuddhabless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +161
    ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆครับ กราบอนุโมทนา สาธุกับหลวงปู่ด้วยครับ ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แล้วเห็นแล้ว ขอให้ผมได้ถึงซึ่งธรรมอันนั้นด้วยครับผม
     
  14. whitetiger

    whitetiger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +292
    อนุโมทนาครับ หลวงปู่ท่านเป็นลูกศิย์หลวงปู่มั่นด้วยครับ เผื่อมีบางท่านที่ยังไม่ทราบ
     
  15. จริยากุ

    จริยากุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,314
    ค่าพลัง:
    +1,446
    อนุโมทนาค่ะ ด่านที่ยากที่สุดก็นี่แหละ พอถึงเวลาจริง จะทำได้ไหมหนอ
     
  16. sms80

    sms80 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +244
    อนุโมทนาบุญกับหลวงปู่ด้วยครับสาธุ
     
  17. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    ว่างๆ เล่าประสพการณ์ให้ฟังมั่งนะครับ

    เห็นด้วยนะครับที่คุณบอกว่า "นั้กปฏิบัติที่บอกว่าตัวเองไม่กลัวตายไม่กลัวอะไร ต้องเจอด่านทดสอบแบบนี้และผ่านได้เหมือนหลวงปู่ท่านนี้นี่หละครับ ถึงจะบอกได้ว่าตัวเองไม่กล้วอะไรจริงๆกับใครได้" ...ผมอ่านแล้วก็ให้ต้องอมยิ้มเยาะตัวเองไม่ได้...นี้แสดงว่าคุณเองก็คงโดนทดสอบมาแล้วเป็นแน่

    ส่วนตัวผมเองตอนสมัยยังฝึกอยู่เมื่อ 3ปีที่แล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งผมก็เคยคิดว่าตัวเองไม่กลัวตายเหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงผมก็ข้ามด่านเวทนาไม่พ้น ... คงจะตราบจนกว่าผมจะสามารถแยกรูป แยกนาม ได้อย่างชัดเจนจนเป็นวสี นั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า ไม่กลัวตาย ได้จริงๆ (ไอ้ที่เจ็บ ไอ้ที่ปวด ไอ้ที่ต้องเสีย ไอ้ที่ต้องได้ .. มันไม่ใช่เรา )

    สำหรับปุถุชนทั่วๆไป พอขันธ์ 5 เล่นงาน (ความเจ็บปวด ความกลัว ความห่วงต่างๆมันรุมเร้า) สติที่ไม่ได้ฝึกดีพอ มันจะเตลิด ไม่มีกำลังพอที่จะตั้งมั่น รู้ และ ปล่อยวางได้

    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...