โลกคือจุดศูนย์กลางจักวาลของธรรมชาตินับอนันตะดาราจักรวาล

โลกใหม่ในคอมพิวเตอร์ กับโลกใหม่ในจักรวาล อันไหนน่าอยู่กว่ากันเนี่ย
มนุษย์สร้าง กับธรรมชาติสร้าง บ้าทั้งคู่ โปรดหยุดความเพ้อฝันเหล่านี้เสียทีเถอะ
มนุษย์ต่างดาวคงเครียดมากเลยนะเนี่ย ถ้ามีจริง

 

มาวันนี้เรามาพูดถึงมารกันบ้างดีกว่าเนอะ
มารคืออะไร คำตอบคือบททดสอบจิตวิญญานของแต่ละดวงวิญญานว่าจะสามารถต้านทานก้าวข้ามสิ่งไม่ดีหรือในภาษามนุดคือกิเลสเป็นอุปสรรคและตัวชี้วัดระดับความบริสุทธิ์ของจิตวิญญานตั่งแต่ระดับต่ำไปจนถึงสูงสุดสูงไปเรื่อยๆคือขั้นความดีพื้นฐานจนถึงเป็นทิพย์คนที่มีความดีน้อยจะมีความชั่วมากหรือมารมาก มันจะกระทบคือการเกิดระบบของบุญกรรมที่จะทำให้วิญญานดวงนั้นเจอสิ่งที่กระทบแล้วเกิดภัยต่างๆในแต่ละชาติที่เกิดมา คือเราสร้างอะไรไว้จะได้อันนั้น มารมักจะใช้เจ้ากรรมเป็นสะพานเพื่อไปทำลายความดีที่จะสร้างและทำให้เกิดการสร้างความชั่วมากกว่า คนที่มีสติจะควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้ ดังนั้นจึงต้องมีศีล สมาธิและปัญญามากำหนดความเป็นไปของดวงจิตวิญญานของแต่ละบุคคล (อธิบายแล้วงงเองห้าๆๆ)แล้วเมื่อมีเมืองสวรรค์ก้อต้องมีเมืองมาร แล้วมันอยู่ที่ใด จริงๆแล้วมันก็มีมิติของมันมารมีหน้าที่ที่สำคัญมีตำแหน่งไม่ต่างจากเทพ คือมีมารที่เป็นตัวกำหนดความดีเพื่อพัฒนาจิตให้เป็นทิพย์กะมารที่เขาเรียกว่านอกรีดทำเกินหน้าที่เช่นคนนี้มีเคราห์ตามกรรมที่มีมารก็มีมารมาทำหน้าทีาเสริมให้เกิดผล ไม่ว่าจะอุบัติเหตุ โรคภัย ความผิดหวัง แต่มารนอกรีดมันจะสนองกรรมให้มากกว่สเดิมคือถ้าเกิดอุบัติเหตุก็จะเป็นแผลขาหักแต่มารนอกรีดจะทำให้ตาย คือมันมีระดับกรรมที่คนนั้นจะเจอ เขาควรเจอแค่1-50% แต่มารนอกรีดจะทำให้เกิดความรุนแรง50-100% แล้วทำไมจึงไม่กำจัดหรือจัดการมารพวกนี้ ตอบ มันมีพลังในตัว มันมีการวิจัยทุกระบบ คล้ายผู้สร้าง เขาจะเรียกพวกนี้ว่าผู้ทำลาย มันคู่กันจึงทำให้ระบบของธรรมชาติสมดุล ถ้ามีมารที่มีหน้าที่ควบคู่กะเทพอย่างเดียวจะเกิดจำนวนเทพมากไปเกินสมดุล แล้วทำไมไม่สร้างให้มารที่ทำหน้าที่เป็นบททดสอบมีพลังกำหนดอุปสรรคต่างๆให้มันสมดุลกว่าการที่จะมีมารนอกรีด ตอบว่ามันทำไม่ได้เพราะระบบที่สร้างมาในตอนแรกไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่างมันต้องมีข้อผิดพลาด ในธรรมชาตินี้เกิดข้อผิดพลาดจึงต้องมีการแก้ไข โดยผู้สร้างก็ได้สร้างสรรเทพที่มีพลังจัดการกะมารนอกรีดมาจัดการโดยเฉพาะ เปรียบเหมือนมือถือที่สร้างครั้งแรกยังไงต้องมีจุดบกพร่องต้องมีการเคลมมาปรับปรุงให้ดีขึ้นและก็มีการสร้างรุ่นใหม่ๆเกิดขึ้นนั่นคือการวิวัฒนาการของเทพและมารนั่นเอง ตอนนี้ออกงงนะครับเหมือนมีอะไรมาทำให้ผมเขียนแบบติดขัดอ่า เอาเป็นว่าอ่านแก้ขัดไปจะมาเสริมต่อในวันพรุ่งนี้นะครับผม

 

คุณโจ้ก ความรู้ของคุณอยู่ในระดับตรัสรู้เลยนะ หรือถึงขั้นรู้แจ้งหรือเปล่า ผมไม่ขอออกความเห็นมากล่ะ เพราะผมไม่สามารถเขียนอะไรมากในนี้ได้จริงๆ

 

ถ้าจะตรัสรู้ก้อคิดว่าน่าจะได้อ่าครับคือต้องไปเรียนตำราที่องค์4ท่านนำมาสอนสั่ง แต่ว่ามีตำราอีกล้านล้านเล่ม ผมสนใจตำราที่ไม่มีในโลกมากกว่า และไม่ดยากตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปเป็นทิพย์ในดาวดึงส์ ขอเป็นคนมีกิเลสแบบนี้สร้างสรรสังคม ทำตามจินตนาการที่เราวาดไว้ดีกว่าครับ อยากคุยมากกว่านี้แอดเฟสมาคุยกันครับ

 

คิดได้เพราะเก่งมาแต่เกิด หรือกรรมบังคับให้คิด แต่ละคนล้วนมีชะตาที่แตกต่างกัน แต่จุดสุดท้ายก็คงที่เดียวกันคือ อรหันต์ นิพพาน

 

ยังอ่านไม่จบขอถามที่ข้องใจหน่อย
ทำไมท่านเรียงลำดับความใหญ่ผิดอยู่เรื่อย
ที่ว่า "ไล่ลงมา กาแล็คซี่ จักรวาล ระบบสุริยะ "
เท่าที่รู้ จักรวาล ใหญ่กว่า กาแล็คซี่ นะครับ

 

จักรวาลมันใหญ่กว่ากาแล็คซี่เรอะ ไม่รู้ดิจิตบอกกาแล็คซี่ใหญ่กว่านะ คือ ระบบสุริยะหลายๆระบบสุริยะเขาถึงเรียกจักรวาลครับ และหลายจักรวาลถึงเรียกกาแล็คซี่ เช่นทางช้างเผือกหรืออะไรที่เราเคยได้ยินนักวิทยาศาตร์พูดกัน ผมรู้ด้วยจิตครับ ใครจะรับรู้มาจากไหนผมไม่ทราบ แต่ระบบมันเป็นแบบนี้ครับผม

 

ขอบคุณกระทู้ดีๆครับ อ่านรวดเดียว 6 หน้าเลย
ขอถามเรื่องที่ว่าเคยมี มนตด. มารบกันที่โลกเราเม่ือนานมาแล้วนี้จริงๆแล้วเรื่องราวเป็นยังไงครับ

 

มันคืออดีตครับก่อนที่จะมีมนุด และช่วงที่มีมนุดก็มีครับคือมนุดต่างดาวได้มารวมจิตกับคนทุกยุคทุกสมัยและทำสงครามกันในแต่ยุค เปรียบเหมือนยุคนเรศวรที่ทำสงคราม พระนเรศวรก็มีมน่ดต่างดาวมารวมจิตก้อทำสงครามกับพม่าซึ่งองค์หงสาวดี(ใช่ป่ะตกประวัติศาสตร์เหอๆ) ก้อคือมนุดต่างดาวมารวมจิต ก้อถือว่าเป็นสงครามของมนุดต่างดาว แต่ถ้าจะถามว่า มียานอวกาศมาเป็นลำแล้วรบกันที่โลกมีไหมตอบไม่มีกฎธรรมชาติได้ห้ามไว้เลยไม่มีใครกล้ามารบที่โลกตามที่เราจินตนาการหรือหนังที่สร้างมาแต่จะเป็นรบในต่างจัใกรวาลนั้นมีจริงครับ การต่อสู้นั้นก้อจะเป็นตามระบบของสงครามที่มนุดต่างดาวมารวมจิตกะคนในโลกครับ ทุกยุคทุกสมัยเลย
)

 

ถ้าจะสรุปว่า มนุษย์ต่างดาว(ทุกเผ่าพันธุ์เลยรึป่าว)รู้ทุกเรื่องเทียบเท่ากับที่พระอรหันต์รู้ รู้ไปถึงอดีตรวมถึงอนาคตของจักรวาลและสูงๆกว่านั้น รู้ในที่นี้หมายถึงว่ารู้เฉยๆแต่อาจจะไม่ได้ทำ เช่นเราทุกคนรู้ว่าการนั่งสมาธินั้นดี แต่มันก็ขี้เกียจอ่ะ ก็เลยไม่ทำดีกว่า

 

ระบบสุริยะ(Solar Systems) หลาย ๆ ระบบสุริยะเขาเรียกว่ากาแล็คซี่ ( Galaxy) หรือภาษาไทยใช้คำว่าดาราจักรครับ
ท่านคงจำสลับกับคำว่าสุริยจักรวาล คำนี้เค้าเลิกใช้ไปนานแล้วครับให้ใช้ระบบสุริยะแทน
ซึ่งเหมือนกับคำว่าจักรวาลควรใช้คำว่าเอกภพจะตรงกับคำในภาษาอังกฤษที่ใช้คำว่า Universe มากกว่าครับ (Uni แปลว่า 1)
แต่ตอนนี้ก็มีทฤษฎีตัวใหม่ที่บอกว่าไม่ได้มีแค่เอกภพเดียวแต่เป็นหลาย ๆ ภพ (Multiverse) อย่างที่ท่านว่าจริงๆครับ

 

จิตรวนครับ ผมก็เป็นอยู่ แต่ดูท่าคุณสเนคโจกเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้วนะ

 

สวัสดีครับ ผมเป็นคนที่ได้เพิ่งเข้ามาอ่าน และสัมผัสได้และเชื่อแน่แท้ว่าคุณไตรทศ คงมีอะไรที่ที่จะบอกถึงกาลที่ผมควรจะรู้อะไรมากกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ

ช่วยให้ผมกระจ่างแย้มประตูให้ได้ไหมครับ ถ้าเรามีบุญสัมพันธ์กัน ก่อนที่ผมจะฟุ้งซ่านกว่านี้หรือบ้าไปก่อน

ขอบคุณครับ

 

ใช่หรอ ..
แบบนี่มนุษต่างดาวก็ต้องตกนรกนะแถมเลวมากๆด้วยชักไยมนุษย์ให้รบกัน แล้วรบกันเพื่ออะไรล่ะ ดวงดาวตัวเองก็ไม่ใช่ มีเหตุผลอะไรมนุย์ต่างดาวถึงชักไยให้คนรบกัน ทำไมไม่ชักใยให้คนสามัคคีล่ะ
คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ที่เขารบกันนะไม่เกียวกับมนุษย์ต่างดาวหรอก แต่กรรมนำพาให้เขาเป็นแบบนั้น หรือเปนเพราะมารในจิตมากกว่า

 

แหม่มอ่านกระทู้ทุกอันยัง จุดกำเนิดของมนุดโลกและสรรพสัตว์คืออะไรย้อนไปอ่าน อย่าเข้าใจมุมเดียวที่ว่ามนุดต่างดาวจะมีจิตบริสุทดุจอรหันต์หรือมากกว่านั่นเป็นมุมมองที่มองต่างดาวระดับสูงไม่มองระดับที่เท่ากันและต่ำกว่า ในจักรวาลธรรมชาติมีสิ่งมีชีวิตที่ทั้งดีกว่าและต่ำกว่ามนุดๆ และกระทู้ก้อบอกไปแล้วโลกคือศูนย์กลางของสนามบุญ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่คุณวิหคอิสระเข้าใจว่าต่ำมีกิเลส และถูกสร้างมาต่ำกว่ามนุดต่างดาวที่สูงศักดิ์ดั่งที่คุณคิด ที่คุณบอกว่ามนุดต่างดาวบริสุทธิ์สะอาด เป็นอรหันต์หรือสูงกว่ามีจริงแต่มันไม่ได้มีจำนวนมากทั้งจักรวาลธรรมชาตินี้นะ และโลกเรานี่แหละเป็นแหล่งที่เทียบแล้วกับ เวลากำเนิดโลก คาบเวลาการสร้างบุญ รวมไปถึงจำนวนคนที่สร้างบุญ นั้นเมื่อเทียบทั้งจักรวาลที่โลกกำเนิดมาช้ากว่าเทียบทั้งหมดโลกมี%ความดีมากกว่านะ ดังนั้นมนุดต่างดาวจึงมาเกิดที่โลกเองหรือมารวมจิตกับมนุดโลกแล้วก็เกิดสงครามต่างๆตามบุญกรรมของมนุดโลกและการได้ภูมิรู้เพื่อพัฒนาสังคมวัฒนธรรม นวัตกรรมต่างๆทำให้มีสงครามทุกยุคทุกสมัย ด้วยพลังจินตนาการในแต่ละยุค กลับไปอ่านให้จบทุกกระทู้แล้วจะเข้าใจนะ ในจักรวาลธรรมชาติมันมีมากกว่าความดีที่บริสุทธิ์อย่างเดียวตามมุมมทีทคุณมองในมุมหนึ่งๆครับวิหคอิสระ

 

มาดูความเปลี่ยนแปลงจากปี2007-20013 หน้าตาจะเปลี่ยนไปขนาดไหนครับ

 

ภาพด้านบนที่เห็นสองภาพแรกเมื่อหกปีก่อน ขอบอกว่าใช้คลีมร่วมหมื่น เดย์ ไนท์ คลีม โทนเนอร์ อายคลีม ลิป สครับ มาร์กสองตัว อะไรที่ดีเอาหมดครับ แต่ในปัจจุบันล้างน้ำเปล่ามาครึ่งปีไม่ใช้ครีมสักตัว แต่ใช้พลังจิตเปลี่ยนน้ำอาบ น้ำดื่ม ทำให้เป็นน้ำทิพย์ ขอให้หน้าใส เด้ง ลดรอยเหี่ยวย้ย ฟื้นฟูเซลล์ ทำในน้ำอาบ ทำครั้งเดียวพอ ใส่อ่างไว้แล้วอาบน้ำล้างหน้าทุกวัน พร้อมทำน้ำดื่ม ผลเลยเป็นแบบที่เห็น ต่างกันไหม หกปีผ่านไปหน้าใสและน่าจะเด็กกว่าเดิม คริคริ

 

รูปนี้เหมือนใช้แอปกล้องนะครับ หรือไม่ก็โปโต้ แต่คิดว่า app กล้องมากกว่า

 

แหม่มมันเป็นของ360องศาอ่า ถึงไงมันก้อต่างกับที่เป็นมาในอดีตแปปจะใช้กล้องอื่นถ่ายและลงรูปปัจจุบัน คริคริ

 

ไม่เว้นระยะช่องไฟ บันทัดก็ชิดกัน ตัวอักษรเยอะตาลาย มึนหัวมากๆ ยาวไป ไม่อ่าน ๕๕๕