เสียงจากนรกภูมิ...เสียงแห่งความทุกข์ทรมาน (ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช)

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 14 ตุลาคม 2007.

  1. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    เรื่องที่ 1:วิญญาณยายทองก้อนมาขอส่วนบุญ

    เมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2545 เวลาประมาณ 10 โมงเศษ มีวิญญาณตนหนึ่งอาศัยร่างพุทธบริกรท่านหนึ่ง เพื่อที่จะบอกเรื่องราว ตอนมีชีวิตได้ทำบาปกรรมอะไรเอาไว้ เมื่อตายไปแล้ว ได้รับโทษจากนรกภูมิอย่างไรบ้าง แต่เนื่องจากวิญญาณตนนี้เป็นวิญญาณที่หิวโหย อ่อนแรงมาก ไม่สามารถสนทนาได้รู้เรื่อง จึงได้เล่าเรื่องราวที่พบเห็นมาเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ที่คิดจะทำความชั่ว ได้กลับตัวกลับใจเริ่มต้นสร้าง ความดีก่อนที่จะสายเกินไป
    ยายชื่อ “ทองก้อน” ตอนที่มีชีวิตอยู่ อาศัยอยู่แถวยาวโพรง สมัยก่อนเป็นป่าทั้งนั้น แก่ตายตอนอายุ 101 ปี ตอนนี้ยังต้องชดใช้กรรมอยู่ในนรกขุมที่ 5 ชดใช้กรรมอยู่ในนรกเป็นเวลาประมาณ 70-80 ปีแล้ว ยายมาที่นี่ เพราะต้องการมาดูลูกหลาน ที่ไม่บำเพ็ญจริง ไม่ตั้งใจทำงานธรรมะ ยายมาพร้อมเพื่อน 2-3 คน ยืนอยู่ข้างรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ได้รับอนุญาตพญายมแล้ว เพื่อนยายที่อยู่ในนรกด้วยกัน เขาพูดธรรมะให้ฟังทั้งคืน เขาพูดว่า “ถูกลูกหลานลืมแล้วละ แก่และตายลง ลูกหลานเดี๋ยวนี้ไม่คิดช่วยเหลือ ลูกหลานเขาไม่เข้าใจ เขาว่ายายยังอยู่หรือไปไหนแล้วก็ไม่รู้” ช่วยสร้างบุญใฟ้ยายหน่อน ยายมาขอส่วนบุญ วันที่ 28-29 กันยายน 2545 มีญาติธรรมที่มาเข้าชั้นเรียนพิเศษจื้อซั่นปันมี่จี๋ ซึ่งเป็นลูกหลานยาย ทำให้ยายมีโอกาสได้ฟังธรรมะ ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ยายคนแก่แล้วลูก หูก็หนัก เขาพูดธรรมะ ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง ข้างบน ( สวรรค์) เขามีการจัดชั้นเรียน หมายถึงชั้นเรียนของวิญญาณบาปจากนรก ที่พระชินปัญชรมหาราชจัดนำวิญญาณเหล่านั้นขึ้นไปกล่อมเกลาข้างบน เป็นครั้งแรกในเทศกาลโปรดสามโลก ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์สอนธรรมะขัดเกลาจิตให้ใสเบาขึ้น เมื่อจิตดีได้ระดับหนึ่งแล้ว เบื้องบนเมตตานำส่งขึ้นไปกล่อมเกลาบนลานธรรมพระศรีอาริย์อีกรอบหนึ่ง ก่อนส่งมาเกิดในกายเนื้อเพื่อฟังธรรมจากรพะพุทธเจ้าศรีอาริย์ในวาระที่พระองค์มาครองกายเนื้อเป็นพระพุทธเจิ้งค์สุดท้ายของกัป ยายขึ้นไปไม่ทันชั้นเรียนนี้ เขาปิดเสียก่อน เขาขึ้นไปวันที่ 24,25,26 เหตุที่ขึ้นไปไม่ทันเพราะมีความรู้สึกว่าตัวมันหนักๆ ใครที่ตัวหนักๆไม่ได้ชึ้น ตัวเบาๆขึ้นไปได้ ชั้นเรียนนี้เขาเลิกตอนเที่ยงนี้ และยายหูก็หนัก ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาประกาศไม่ค่อยได้ยิน พอเขาครบจำนวน ยายขึ้นไม่ทัน ยายรู้สึกว่าตัวมันหนัก หนักตกลงมาอีกทางนรกเขาประกาศว่าให้ขึ้นข้างบน ลูกหลานจะมาสร้างบุญ เหมือนกับเรียนหนังสือ ยายไม่ได้ขึ้นไปเรียน ตัวหนัก ไปไม่ทันเพื่อน คนอื่นที่ไปเขาก็อยู่ขุมเดียวกับยายก็มีบ้างเหมือนกัน มันแย่งกันขึ้นไปมากมาย ใครเร็วก็ได้ไป พอยายไม่ได้ขึ้น เขาบอกว่าให้มาที่นี่ (บนโลก) ในอีกมิติหนึ่ง ที่วัดมีวิญญาณพวกเปรตทั้งนั้นมากินของเสีย คนอื่นเขาเอาไปหมด ยายเข้าไปไม่ถึงเลยอดกิน ยายหิว ยายอด ยายนั่งข้างประตูวัด ไม่รู้ใครเรียกให้มา เป็นคนสวยๆ ไปเรียกมาที่นี (สถานธรรม) แต่งตัวเหมือนลิเก นางฟ้า แต่งตัวเหมือนงิ้วก็มี องค์ที่หน้าแดงๆเสียงตัวใหญ่มีพลัง มีดาบด้วย แต่คนหนุ่มพูดหวานไพเราะเรียกเบาๆเหมือนผู้หญิง เขาบอกว่ามาช่วยแล้ว ถ้าไม่ได้บุญที่นี่(วัด) ให้ไปเอาที่โน่น(สถานธรรม) ที่โน่นสวย เขาเรียกว่าวัดเหมือนกัน แต่เป็นวัดบนสวรรค์ ให้มาที่วัดบนสวรรค์ก็คือที่ไท่ชุน ซึ่งก็คือสถานปฏิบัติธรรมที่ไม่ต่างไปจากวัด ที่นี่เราเรียกกันว่า วัดพระศรีอาริย์ พอเขาบอกยายว่าเป็นวัดบนสวรรค์ เขาก็พายายมา ตอนที่มา เห็นสะพานทองสวย ยายเดินขึ้นสะพาน เห็นคนที่สถานธรรมใส่เสื้อชุดยาว บ้านก็สีขาวๆทั้งหมด ที่อื่นยายเห็นเขาแต่งชุดสีดำ! [ชุดสีดำเหมือนผี ปีศาจ หน้าตาก็เหมือนผี ที่ยายเห็นในอีกมิติหนึ่ง เป็นเช่นนี้ ส่วนคนที่สถานธรรม ยายเห็นเป็นขาวหมด หน้าตาเป็นเด็ก มีแสงขาว บางคนยังดูดนม ถือขวดนมเดินอยู่ ส่วนหลานยาย (หมายถึงลุงอีกคนที่มาเป็นนักเรียนในชั้นจื้อซั่นปันมี่จี๋ นั่งฟังอยู่ข้างๆ) นุ่งกาเกงเหมือนชาวประมงใส่เสื้อ ยังดำๆ หน้าตามีแสงนิดเดียว[ส่วนคนนี้ (ยงยุทธ) แขนเสื้อด้านขวาขาดไปครึ่งหนึ่ง ข้างซ้ายยาว เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ามันทำบ้างหยุดบ้าง มันขี้เกียจ บางทีใส่ชุดยาว บางทีไม่ได้ใส่ เย็นนี้ยายต้องกลับแล้ว กลับลงข้างล่าง(นรก)อีก (ในเมื่อยายทองก้อนมาขอส่วนบุญ เราก็จะให้บุญทุกวัน เอ่ยชื่อเวลากรวดน้ำนะ ใส่ชื่อในใบกรวดน้ำส่วนรวมให้) ยังมีวิญญาณมาขอบุญอีกมาก ไม่รู้เท่าไหร่ เดี๋ยวอีก 2-3 วัน ยายก็จะมาอีก ไปสมัครไว้แล้ว (หมายถึงสมัครมาเข้าชั้นเรียนพิเศษ ที่กายเนื้อจัดขึ้นในวันที่ 10 และ 11 ตุลาคม 2545 ในเทศกาลเดือนสิบ ส่งตายาย ที่ไท่ชุน) เขาอนุญาต พูดถึงก็ดีใจนะ
    เมื่อวานตอนมืดๆทุทธบริกร และนักเรียนพุทธะเขากินน้ำกัน ยายได้มากเลยขอบใจนะ สดใส บางคนร้องไห้ ปลื้มใจที่เขาเอ่ยชื่อให้ ได้รับร่วมกันทุกคนเลย วิญญาณบางคนกินมูมมาม วันหลังยายจะมาอีก ติดชื่อให้ด้วย เขียนข้างถาดเขียนชื่อ ติดไว้ตรงปากถาด เพื่อนจะได้ไม่ว่า ถึงยายอยู่ เขาก็จะแย่งหมด ถ้ามีชื่อยาย เขาจะหลีกทางให้ บังสุกุลที่อื่น บางคนสวดผิดสวดคำพระก็จริง แต่ใจไม่สงบ ใจนึกถึงผู้หญิงสวย ตาเขาดูแต่ผู้หญิง ใครที่ใส่สร้อยเส้นใหญ่ มันจ้องแต่ที่คอนั่นแหละ แล้วในใจก็คิดว่า ถ้ากูได้อย่างนั้นจะเอใส่อวดสาวๆ จะหารวยแทนที่จะบำเพ็ญ พวกเจ้า(บุคลากรในสถานธรรม) ก็เหมือนกัน ข้าวของผลไม้ดีๆให้เขา ลูกที่เน่าให้พ่อแม่ บาปมากนะจำไว้ จำไว้พ่อแม่เลี้ยงเรามา เขาไม่รู้เป็นใคร มันกินแล้วก็นอน สมัยยายไม่มีแบบนี้ สมัยยายเป็นคนดี มีการธุดงค์ถือศีลบริสุทธิ์ ยานเห็นมาหลายปี ทุกๆปีเป็นแบนี้แหละลูก ส่วนในเทศกาลอื่น เช่น ตรุษจีน ที่ได้ขึ้นมารับบุญก็อาศัยเขาเป็นบางครั้ง วิญญาณบรรพชนที่มาในชั้นเรียนเมื่อวันที่ 28-29 กันยายนที่ผ่านมา ยายเห็นถือดอกบัว ดอกบัวสีทองอยู่ติดประตู และสีขาวปลายสสสีชมพูนิดๆเหมือนดอกบัว ส่วนพวกที่ยืนข้างสถานธรรมเป็นพวกผีเปรตเต็มไปหมด ยายเข้าร่างนี้ได้ เพราะเขานั่งกินข้าวอยู่ เมื่อกี้เขาพูดอะไรกันก็ไม่รู้ เขาปวดหัว ยายเลยถือโอกาสเข้ามาใช้ร่าง ยายมาที่นี่เพราะอยากจะกินลางสาด 2-3 ลูก กินข้าว ที่นี่มีแต่คนใจดีทั้งนั้น คนสวย สถานที่ก็สะอาดด้วย สวยไปหมด ยายจะเล่าเรื่อสมมมัยตอนที่มีชีวิตอยู่ ยายได้ทำกรรมไว้มาก อาทิเช่น จับปู จับเขียด จับกบ เอาทั้งนั้น ที่ปวดเอวเพราะตกเบ็ด แต่ก่อนยายชอบกินเนื้อควาย ยายกินทั้งนั้น ยายชอบเนื้อควายชอบมากกินเกือบทุกมื้อ สมัยก่อนเขาเอาข้าวไปแลกกัน แล้วเอาเนื้อมาหมักไว้เอามาตากแดดบ้างผัดเค็มบ้าง ยายกินเนื้อควายต้องไปรับโทษในนรก ไม่พูดแล้ว มันเจ็บ เวรกรรมมันมีจริง ไม่อย่างนั้นยายพ้นขุมนรกมานานแล้ว คนที่กินเนื้อเขา เหมือนเชือดเนื้อตัวเองกิน เจ็บปวดแสบร้อน ปวดทรมาน เหมือนกับเรานั่งกินเนื้อตัวเอง เป็นแผลรู้สึกแสบด้วย ยายไม่ได้ฆ่าแต่กินเนื้อที่เขาฆ่ามาแล้ว แต่ลงไปในนรก ต้องกินเนื้อตัวเองกินจนหมดเลย บางทีเนื้อแลบออกมาเอง ต้องล้วงท้องตัวเองกิน ทรมาน นรกมีจริง! ตอนที่โดนทรมาน เขาว่าเคยทำผู้อื่น ต้องรับกรรมตกนรก ถ้าไม่สำนึกก็ไม่ได้ไปเกิด โดนทรมานอยู่อย่างนี้ เชื่อเถอะ นรกมีจริงๆไม่โกหก ไม่ได้พูดเล่น พูดเล่นไม่ได้ ส่วนเรื่องกุ้งหอยปูปลาก็เหมือนกัน ยายเสียบก้นมัน ยายก็โดนอย่างนั้นเหมือนกัน เขาสอนว่า ตอนทำเขาไม่รู้จักเจ็บ แต่พอโดนก็รู้ใช่ไหม เวลาเสียบเป็นๆมันร้อง เวลาหาปลามาผ่าท้องมันคิดหนี แต่หนีไม่ได้ เหมือนกับที่โดนทางการยมโลกทรมานนั่นแหละยังทีเรื่องควายที่บ้านมันเป็นไข้ตาย 2 [ตัว ยังไม่ทันตายดี ยายก็ล้ม(ฆ่า)มัน โทษที่ได้รับในนรก ยายก็โดนล้มเหมือนควาย ยายเคยด่าคน ก็โดนทางนรกลงโทษโดยการฉีกปาก กินหมากก็โดนลงโทษเขาให้ไปกินถ่าน เขาสอนว่า ทำลายตัวเอง นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ ต้องไปรับกรรมไปกินถ่าน ไฟถ่านสุกๆ ไม่ต้องเคี้ยว เจ็บมาก ล้มๆแล้วลุกขึ้น สิ้นสุดตอนไหน ยายไม่รู้เรื่อง ยายสลบ
    ยายจะไปแล้ว ขอบใจนะ สำหรับน้ำอมฤต สว่าง และเบาหวิวเลย

    ยายไม่อยากมาเกิดอีก ไม่เอาแล้วยายจะไปแล้ว


    เรื่องที่ 2: วิญญาณเปรตตาชุ่ม (บ้านนาขอม

    เวลาประมาณ 10.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 [แม่ครัวท่านหนึ่งนั่งซึมมานาน มีอาการหนาวสั่นเหมือนคนเป็นไข้ และล้มตัวลงนอน ชักดิ้น ชักงอ ต้องจับกันหลายคน ไม่พูดจา ถามอะไรก็ไม่พูด ได้แต่ร้องครางในลำคอ หน้าตาแสดงความเจ็บปวด พุทธบริกรจึงให้กินน้ำอมฤตพระแม่องค์ธรรมที่ผสมผงทิพย์หน้าพระแท่น ยิ่งดิ้นก็ยิ่งแสดงความเจ็บปวดมากขึ้นวิญญาณเปรตได้อาศัยร่าง แต่พูดไม่ได้ เพื่อให้วิญญาณพูด จึงให้ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์
    ตาหนีเขามา หนีคนหน้าแดง เขาตีเขาไม่ให้เข้ามาในนี้ (หมายถึงในสถานธรรม พุทธสถานทุกแห่งทั่วโลก จอมเทพวินัยธรสี่พระองค์ปกปักรักษาดูแล คุ้มครองไม่ให้ภูติผีปีศาจเข้ามาถ้าท่านไม่ให้อนุญาตก็เข้ามาไม่ได้ ที่เข้ามาได้ก็เพราะท่านอนุญาต โดยที่วิญญาณทั้งหลายต้องการมาบอกหรือมาทำภารกิจใด หรือพุทธบริกรถูกทดสอบรวมหมู่)
    ตาชื่อ ชุ่ม อยู่ตำบลนาขอม อำเภอสิชล ตายตอนอายุ 60 ปี โดนเพื่อนตีตาย เหตุที่ถูกตีตาย! เพราะเราไปขโมยควายเขา ตายตอนอายุ 60 ปี ตายมา 50 ปีได้แล้ว เป็นเปรต มีรูป่างตัวยาวๆหนวดเครามาก หัวใหญ่ ไข่โต ไม่นุ่ผ้า เขาปล่อยมาหลายวันแล้ว มาขอกิน เขาบอกให้มาขอ ตอนสมัยยังมีชีวิตอยู่ ชอบขโมย พี่น้องเกลียด เขาไม่ให้กิน ชอบขโมยของวัด ไม่รู้วัดอะไรที่นาขอม (วัดเขาพนมไตย) หลวงพ่อดุ ชื่อ พิศ ขโมยกลางวันไม่ได้ โดนเด็กวัดตีตาย เวลาพระขึ้นโบสถ์หมด เราก็ขโมย พระขึ้นโบสถ์ตอนค่ำ ขโมยกินข้าวก่อน ขโมยโกร่ง(กล่องอนุโมทนา) ขโมยทั้งโกร่ง ได้ไม่มาก เพราะสมัยก่อนมีเป็นเงินบาททั้งนั้น มีสตางค์แดง 10 [กว่าสตางค์ เอาเงินไปเที่ยว กินเหล้ากัน แล้วก็ตีกัน ขโมยของแม่ด้วย แม่ชื่อพวง
    ไม่ว่าอะไรขโมยทั้งนั้น ขโมยข้าวกิน เพราะไม่มีอะไรจะกิน ไม่ได้ทำงานเพราะขี้เกียจ ขโมยข้าวในนาเอาไปขาย ขายคนแถวนั้นมัดละสตางค์ ขายได้5 [สตางค์ ได้แล้วก็เอาไปซื้อกัญชาสูบ แต่ที่เขาตีตายครั้งนี้เพราะเราไปขโมยควายเขา เขาว่าเราขโมย เราไม่ได้ขโมย เราจูงไปให้คนที่ซื้อของเรา ถูกเขาจับได้ เขาก็รุมซ้อม แล้วเขาก็ตีลูกเดียว เขาตีกันหลายคน ดังตุ้บตั้บๆ ตอนตาย วิญญาณออกจากร่างไป ใครไม่รู้ มารับไป 2 คนหน้าตาดุ ตัวดำทะมึนเลย สูงเป็นวา เขาพาไปลงนรก เขาว่าตาขโมยของแม่ตัวเอง ขโมยของเพื่อน ขโมยของพระด้วย บาปหนักกว่าเพื่อน ขโมยของพ่อของแม่ แต่แม่ก็ไม่ถือโทษโกรธลูก(ร้องไห้สะอื้นเมื่อพูดถึงแม่) แม่มาขอ อย่าทำลูกแม่ แม่ยังรักลูก แม่ว่าอย่าริขโมยของคนอื่น ของๆแม่ แม่ไม่โกรธ (ร้องไห้สะอื้นหนักขึ้นไปอีกเพราะระลึกความดีของแม่) เขาพาไปคุกเข่าบนแผ่นเหล็กร้อนเป็นไฟ (ร้องไห้) พอเราตายไป เขาเป่าๆให้ฟื้นขึ้นมาอีก เขาก็เอาน้ำอะไรไม่รู้สีแดงกรอกให้กิน สมัยตอนเป็นคน เรากินน้ำเมาด้วย เราขโมยน้ำเมาบนต้นตาลตโนด ขึ้นไปขโมยบนต้น สมัยนั้นเขาทำบนต้นเลย แล้วเขาก็ให้กินเหล้าเมืองนรก มันร้อนไปหมด ตายแล้วเขาเป่าให้ฟื้น ใช้เวลาที่นี่นาน เขาก็พาไปที่อื่นอีก พาไปให้หมามันควักท้องกินไส้!
    เขาพาไปหลายแห่ง จำไม่ค่อยได้ พาไปตรงนั้น มีงูมีหมา งูเจาะลูกตา หมาเจาะท้อง ยมบาลเขาจะเรียกกลับแล้ว เราวิ่งหนีเขามา เราหิว เห็นเพื่อนกิน ก็อยากกินบ้าง เคยเห็นแต่เขากินกัน อยู่ในนรกไม่ได้กินเลย อยู่ที่ร่างนี้ ตาแอบอยู่ จอมเทพวินัยธรตีเราวิ่งหนีทุกที แล้วคนแก่หนวดขาวด้วย เขาดุจะตาย (หมายถึงเทพเจ้าเตาครัว) เขาไม่ให้เรากิน ยังไม่ถึงเวลา ญาติพี่น้องก็ไม่ให้กิน เขาไม่ให้เรากินนานแล้ว เขาลืมเราแล้ว
    ไปที่วัดมาแล้ว ไปดูที่วัดเขาพนมไตยไปยืนดูเขากิน คนโน้นเขาเรียก กับเราเขาไม่เรียก ข้างนอกพวกโน้นแย่งหมด พวกข้างนอกเยอะ มีข้าวบ้าง ขนมบ้าง เขากรวดน้ำเอ่ยชื่อ แต่กับเราเขาไม่เอ่ยชื่อ
    เราจะกลับแล้ว วัตถุประสงค์ของเรา มาขอข้าวกิน ไม่ได้มาทำร้ายใคร เราเป็นเปรตที่หิวโหย สูง ลิ้นหอย ตวัดแมลงกินได้เลย เขาให้กินแต่แมลง ปากไม่เท่ารูเข็มหรอก ที่พูดไม่ได้ มีคนแก่ขาวๆเขาบีบไว้ ข้าวที่ข้างนอกวัด เราก็ไม่ได้กินเหมือนกัน กินแต่ของเหลือ ถ้าไม่เหลือเราก็อดอีก เราหิว ไม่ได้กินมาหลายปีแล้ว (ร้องไห้) พี่น้องก็ไม่อยู่ ลูกหลานอย่าทำเหมือนตาน่ะ ของพ่อของแม่ก็อย่าขโมย ของพระด้วย อยู่เหมือนตา น่าเวทนาจริงๆ อดก็อด พี่น้องก็ไม่ดูแล (ร้องไห้) อย่าทำ จำไว้ ไม่รู้ได้ผุดได้เกิดเมื่อไหร่ (ร้องไห้เราก็เล่าแค่นี้ อย่าเอาเป็นตัวอย่างน่ะ ไม่ว่าอะไรอย่าไปขโมยของเขา เราเป็นเปรต อยู่ในน้ำสกปรกทั้งนั้น เขาให้กินน้ำปัสสาวะ ให้กินอุจจาระด้วย ถ้าไม่กิน เขาก็ตี เขาอนุญาตให้มาที่นี่ เมื่อถึงเวลาเขาเรียกกลับ อย่าให้เกินเวลาที่เราขออนุญาตเขาไว้เดี๋ยวเขาก็พาเรากลับไปอีก พาไปกินอุจจาระหลายวัน ทำให้กินอยู่อย่างนั้น อาเจียนแล้ว เราก็ต้องกลืนต้องฝืนทน จำไว้นะลูก อย่าทำเหมือนตา เปรตที่ตาเห็นอยู่เยอะ ทั้งหญิงทั้งชาย อยู่กันแก้ผ้าหมด แต่ไม่ได้มีอะไรกัน ผู้หญิงก็แก้ผ้า ผู้หญิงไม่มากเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ขโมยของคนอื่น เด็กไม่มีนรกขุมนี้เขาเรียกว่าเปรต แต่เปรตอะไรไม่รู้ อยู่ขุมที่ 9 ที่ 10 [ตรงนั้นแหละจำไม่ได้ อย่าเอาเป็นตัวอย่างจำให้ดี (ร้องไห้) อิ่มแล้ว ข้าวไม่ต้องกินแล้ว (เมื่อตะกี้ให้กินน้ำ) ไปแล้ว...<O:p</O:p
    (...เดี๋ยวก้อยมาเล่าต่อ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ...)​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2007
  2. pattaraniyom

    pattaraniyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +440
    อนุโมทนาคับ.....ขอบคุณก้อยมากๆๆคับ ที่มาแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้อ่าน
     
  3. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    เรื่องที่ 3: วิญญาณป้าลิ้ม เป็นบรรพบุรุษของป้าอุไร หนูศรีคง

    ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๔๕ เวลา ๒๐.๔๕ น.
    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อที่จะมาบอกเรื่องราว
    ป้าเป็นพี่น้องของคนชื่ออุไร ลูกของลุงเทียบ เราชื่อลิ้ม อยู่นครฯ เป็นผู้หญิง ตายมาร้อยยี่สิบกว่าปีแล้ว ป้ามาในเทศกาลเดือนสิบ ท่านพญายมราชอนุญาตให้ขึ้นมา ก่อนตายตอนนั้นอายุใกล้ ๘๐ ปีแล้ว ป้ากินหมาก หมากติดคอตาย มันเข้าหลอดลม ตายมาแล้วร้อยกว่าปี พญายมให้ขึ้นมาล่วงหน้า ๑ อาทิตย์ ขึ้นตั้งแต่ตอนเย็น เมื่อวานก็มา เขาให้มาเฉพาะวิญญาณที่ใกล้จะหมดเวรแล้ว ป้าอยู่ขุมที่ ๒ ป้ามากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่งตัวลอยขาวเต็มไปหมด เขาพามาเอาบุญ เมื่อตะกี้เราก็ได้นิดนึงแล้ว ได้ตอนที่พวกเจ้าเอ่ยคำว่า ตา ยาย บรรพบุรุษ ป้าเป็นพี่น้องของเขาเหมือนกัน ก็ได้ ถ้าไม่เอ่ยชื่อก็ไม่ได้ ข้าลงไปข้างล่างร้อยยี่สิบปีแล้ว ไม่เคยได้รับบุญเลย เพิ่งจะได้รับเมื่อลูกหลานมาเรียนธรรมะ ข้าถึงจะได้ ตอนที่ลูกหลานเริ่มบำเพ็ญ ข้าอยู่ขุมที่ ๑๑,๑๒ ทางการยมโลกส่งป้ามา พอมาถึงก็ไปเยี่ยมบ้านก่อนที่หัวไทร ไปหาพี่น้องมีทหารคุมไปด้วย ป้าบอกว่าจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ไม่ต้องตามมาก็ได้ กลัวแล้ว ไปที่บ้านไม่พบใคร มันตายโหงกันหมดแล้ว ไม่ได้พบใครสักคนเดียว พอตกตอนเย็นก็มาถึงที่นี่ พอมาถึงพวกมึงก็ไหว้พระอยู่พอดี คนสวยผิวขาวชี้ข้าให้มาที่นี่ ไม่รู้กรรมอะไรเต็มไปหมด อยู๋ในนรกนานตั้ง ๑๒๐ ปี วันนี้จะเล่าสักสองสามตัวอย่าง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นหลัง แต่ใกล้จะหลุดแล้ว ขึ้นมาอยู่ขุมที่สองแล้ว
    กรรมมีจริง วิบากกรรมของใคร กรรมใครทำกรรมนั้นได้รับ นี่แหละ ดูตัวอย่างป้าสิ กรรมที่ทำ ต้องไปชดใช้ ต้องไปอยู่ในนรกเป็นร้อยๆปีแล้ว ไม่ใช่ธรรมดาน่ะ กรรมเก่าในชาติก่อนบวกกับกรรมในชาตินี้ ถ้าไม่สร้างความดีลบล้างความชั่วก็จะบวกลงไปข้างล่างแล้วหนัก หนักจริงๆนะ
    ในสมัยตอนมีชีวิต ป้ามีม้า เลี้ยงม้าสองสามตัว ม้าที่เขาขี่ ที่เขาเอาลากของ ตอนแรกป้ามีฐานะยากจน ทำแต่นาน ก็ใช้ม้าขี่ให้ลากเกวียนให้มันลากข้าวในนา เวลามันตกหลุมตอนไปหน้านา เวลาม้าขึ้นไม่ได้ ก็ตีมัน มันมีน้ำตาตกตอนถูกตี ลงไปนรก ป้าก็ได้รับโทษเหมือนที่ทำไว้กับม้าทุกอย่าง ต้องไปโดนลากของ ไปลากหินเกวียน ที่คอก็มีเลือดไหลเต็มไปหมดเลย เจ็บมาก ต้องคลาน เขาก็ไม่ให้หยุด ให้เดินกับหัวเข่า คุกเข่าแล้วคลานเหมือนสุนัขเลย ถึงกับตาย จะทนไหวยังไงล่ะคลานบนแผ่นเหล็ก เหล็กร้อนเนื้อก็หลุดหมด ตายแล้วเขาก็ลากกลับมาอีก เขาไม่ให้ผ่าน ไม่ให้พ้น ทรมานอยู่อย่างนั้น พอตายแล้วเขาก็พัดลม พอฟื้นแล้วก็ให้ลากต่อ นานจนจำไม่ได้ เจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว
    ป้าพูดสำนึก ป้าบอกว่าพอแล้วจะไม่ทำแล้ว ถ้าหากรู้ว่าจะได้รับผลบาปเช่นนี้ ก็ไม่ทารุณสัตว์หรอก ป้าสงสารที่ทำกับสัตว์ไว้ เคยตัดคอไก่ ผลที่ได้รับ เขาก็พาป้าไปแขวนคอ เชือดคอเหมือนที่ทำกับไก่ที่เขาแขวนไว้ในตู้ ป้าเจ็บปวด ดิ้นจนขาดใจตาย แล้วฟื้นขึ้นมาอีก จนถึงสำนึกแล้ว เขาก็หยุด เชื่อสิ ลูกๆหลานๆ รับกรรมเหมือนกับเราที่ทำกับสัตว์โลกนั่นแหละ ส่วนเรื่องกบ เขียดก็นำมาถลกหนังออก สามีของป้าไปตีกบมา บางครั้งมันยังไม่ตาย มันนั่งจ้องตาเป็นประกาย ป้าเอามีดถลกหนังมันออก (ร้องไห้ไม่อยากเล่า) เชื่อไหมว่าบางตัวถลกหนังแล้วก็ยังไม่ตายอีก ป้าก็นำมีดมาผ่าท้อง น่าสงสารมันน่ะ ถ้าหากว่าป้ารู้ ก็ไม่ทำหรอก ที่ถูกลงโทษเหมือนเคยทำกับกบแต่ความรู้สึกเป็นคน เชื่อเถอะลูกว่า นรกมีจริง
    ลูกๆหลานๆทำบุญให้มากๆ ไม่ต้องหวงเก็บไว้ ทำให้หมด จะตายกันแล้วเหลือไว้ทำไม บรรพบุรุษทั้งหมดที่อยู่ข้างล่างของพวกเจ้ากำลังคอยบุญอยู่
    กฏแห่งกรรมมีจริงๆนรกมีจริงๆถูกทรมานจริงๆ ไฟนรกมีจริงๆ
    ป้ากลัว ป้าจะกลับแล้วนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2007
  4. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    เรื่องที่ 4: เปรตชีวาพรจากท่าศาลามาขอบุญ

    ณ มูลนิธิชินบัญชร อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
    วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๕ เวลา ๑๒.๒๐น.

    เปรตที่จะมารับส่วนบุญมีเป็นจำนวนมาก เมื่อเปรตมาใช้ร่าง จะร้องโหยหวนน่าสยดสยอง แสดงความเจ็บปวดรวดร้าว มีอาการของความหิวโหย เสียงร้องดังก้องไปทั่ว เมื่อร้องอยู่นานหลายนาที จึงบอกให้หยุด ก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ
    เขาให้เรามาเอาบุญ ปากเล็กพูดไม่ได้ (พูดได้แค่นั้นแล้ว วิญญาณร้องโหยหวนน่าสะพรึงกลัวต่อเนื่องยาวนาน แสดงถึงความเจ็บปวด คนที่เจ็บปวดร่างกายร้องโหยหวนอย่างไร เสียงร้องของวิญญาณนี้ก็เป็นอย่างนั้น)
    กูเป็นสัตว์นรก...เขาให้กูมา เขาเรียกพวกกูว่า ไอ้สัตว์นรก! เปรต ฮือๆๆ กูเป็นสัตว์นรกตัวสูงใหญ่ กูเป็นผู้หญิง ตายนานแล้ว อยู่ขุมลึกที่สุด ตาย ๗๐๐-๘๐๐ ปีแล้ว กูฆ่าเขาแล้วฆ่าตัวเองตาย เพราะกูกลัวความผิด กูตายตอนอายุยี่สิบกว่าปี ยังไม่มีครอบครัว สาเหตุเพราะแย่งแฟนกัน
    กูชื่อ ชีวาพร กูเป็นคนโบราณ บ้านกูอยู่ที่โน้น วัดโหนด ท่าศาลา กูฆ่าเพื่อนสี่คน เพราะแย่งผัวคนเดียวกัน กูไปฆ่าลูกสาวเขาก่อน พ่อแม่มันมารุมฆ่ากู กูใช้มีดพับฆ่าพี่น้องเขาด้วย (วิญญาณร้องโหยหวนยาวนานเสียงขาดๆหายๆเป็นห้วงๆ) กูเจ็บ เปื่อยไปหมดแล้ว เป็นน้ำเหลืองเฉอะแฉะไหลเยิ้มไปทั้งตัว กูเจ็บแข้งเจ็บขา
    ตอนสมัยมีชีวิตกูลำบาก ทำนา บ้านกูมุงจาก กูชอบกินของเล็กของน้อย ชอบขโมย ขโมยกินของพระ เวลาเขาถวายพระ กูหยิบกินก่อนทีละเล็กทีละน้อย กูไปอยู่วัด บางครั้งกูก็ไปถือศีล แต่กูชอบกินของวัด กินของก่อนถวายพระเสียด้วย บางทีกูไปนอนวัดเพราะกูไม่มีอะไรกิน ไปวัดไม่เคยช่วยงานวัดเลย เพราะกูขี้เกียจ กูไม่ทำงาน เอาแต่กิน
    สมัยนั้น รักผัวเขาแล้วไปฆ่าเมียเขา แต่ยังไม่ได้กัน แต่กูชอบเขา(วิญญาณร้องโหยหวน) หลังจากตายแล้วก็ไปนรก กูถูกเขาเอาเข็มทิ่มแทงทุกวัน ฮือๆๆๆ พญายมให้ทหารมารับกูพาไปคุกเข้าต่อหน้าพญายม พญายมพูดว่ามึงทำบาปแล้ว มึงทำบาปไว้มากมายเต็มไปหมด ฮือๆๆ คำแรกที่พญายมทักมายเมื่อคุกเข่า "มึงทำบาปไว้มาก ให้มึงบอก มึงทำอะไรกี่อย่าง มึงฆ่าใครกี่คน มึงฆ่าสัตว์กี่ตัว ทำอะไรผิดไว้บ้าง บอกมาให้หมด" กูไม่รับ กูโกหก เมื่อกูไม่รับ เขาเอาสามง่ามทิ่มหลังกู เพื่อให้บอกความจริง กูไม่สารภาพ กูดื้อ กูว่ากูไม่ได้ทำฮือๆๆ กูไม่ยอมแพ้ กูถูกตี จนเจ็บหมดทั้งตัว มือตีนหักหมด กูก็ไม่สำนึก ฮือๆๆๆ กูโดนเอาเหล็กแหลมแทงปากจนทะลุต้นคอ ก็ยอมเจ็บ ก็ยังไม่ยอมรับ กูดื้อกับพญายม กูเลยลงนรกลึกกว่าเพื่อน ฮือๆๆๆเขาเอามีดสับ ตัดนิ้วทีละนิ้ว กูก็ยังไม่ยอมท่าเดียว ฮือๆๆ
    กูถูกทรมานมานานเท่าไหร่ กูจำไม่ได้เพราะที่นั่นมืด มองอะไรไม่เห็น ไม่เห็นเดือนดาว ไม่เห็นะวัน เป็นเปรตหลายปีแล้ว กูไปอยู่ที่ประตูวัดโน่น กูกินไม่ได้ กูเจ็บปากเจ็บคอ คอกูไหม้ กินไม่ได้ คอยาก คอเล็กนิดเดียว ฮือๆๆ อดๆอยากๆ ยืนเป็นเปรตผอมสูง มีแต่ซี่โครง ตาถลนออกมานอกตา ลิ้นห้อยยาวลงถึงเอว ถึงนม ถึงหัวเข่าโน่น ฮือๆๆๆ กูเปลือยทั้งร่าง
    ความเป็นอยู่ของเปรตเหมือนกันทุกตัวเลย ถูกทรมานจะตายกันอยู่แล้ว กินขี้เหมือนกันหมด เพราะชาติก่อนกินของก่อนถวายพระ ตอนกินขี้รสชาติทั้งเน่าทั้งเหม็น กูก็ต้องกิน กินแล้วอาเจียนออกมาจะต้องเก็บกินอีก ฮือๆๆ
    ตัวข้าในอีกมิติหนึ่ง สูงเท่าต้นตาลเห็นจะได้ ตัวผอม ร้องโหยหวน เพื่อร้องขอบุญจากญาติพี่น้อง ลูกหลานญาติพี่น้องที่อยู่บนพื้นโลกนี้ ทุกวันนี้เขาไม่เชื่อว่ามีชีวิตในอีกมิติหนึ่ง ครั้นตายจากกายเนื้อไปขอรับบุญจากลูกหลาน ก็ยากที่มนุษย์จิตหยาบในทุกวันนี้จะะเข้าใจ การจะเข้าถึงมิติของพลังงานที่เป็นคลื่นความถี่นั้นได้ จะต้องฝึกฝนทางจิตจนละเอียด ลูกหลานไปวัดก็ไปตามประเพณี ไม่มีจิตใจจะส่งบุญให้กับบรรพชน พ่อแม่ ปู่ย่า ตา ทวด พวกท่านรับรู้ เป็นอย่างนั้นแหละ มันหลอกทั้งนั้น มันรับปากว่าจะให้บุญ แต่มันทำเล่นๆโกหกทั้งนั้น ไม่ได้ทำจากใจของพวกมัน กูได้นิดเดียว กินไม่อิ่ม หิว
    นี่เป็นธรรมเนียมของเมืองนรกว่า เมื่อถึงฤดูตามเทศกาลต่างๆที่ทางโลกมนุษย์ได้จัดขึ้น เขาจะส่งเปรตขึ้นมาขอส่วนบุญทุกครั้ง
    สภาพความเป็นอยู่ของเปรต จะอยู่ในถ้ำใหญ่เป็นหลุมใหญ่ มืดเหมือนกับมีแผ่นเหล็กแผ่นหินปิด อากาศไม่มีหายใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2007
  5. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    กูควักไส้ เอาเนื้อตัวเองมากิน เอามือแหวกอกควักหัวใจมากิน เพราะความที่อด ที่หิว กูกินหมดภายในร่างกาย เลือดท่วมตัวก็ต้องกิน เขาสั่งมาว่า ให้ลูกหลานสร้างบุญ ช่วยพวกไม่มีญาติด้วย ช่วยคนที่ไม่มีพี่น้อง ช่วยพวกสัตว์นรกเปรตทั้งหมดให้ขึ้นมาด้วย ไม่เช่นนั้น ก็ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด เขาจะอยู่จนโลกนี้แตก เปรตและพี่น้องที่อยู่ข้างล่างยังมีอีกมากมาย ฮือๆๆ
    กูไปเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว เขาสวย เขาสะอาด ใส่ชุดสวยทุกคนเลย ขนาดแค่ผมยาวหนวดขาวก็ยังสวยเหมือนเด็กหนุ่ม ถือไม้เท้าหลังค่อมจะตายแล้วก็ยังสวย คนทั่วไปเขายังไม่เชื่อ และยังไม่รู้ว่านรกจะปิดแล้ว หมายความว่า ช่วยครั้งสุดท้ายแล้วนะ ให้พวกกูได้ขึ้นมาด้วย
    เปรตอย่างพวกกูลำบากนักหนา ข้าวไม่มีกิน เสื้อผ้าไม่มีใส่ เดินไข่ห้อยโตงเตงก็มี มีแค่ซี่โครง เหมือนหนังหุ้มกระดูก ทรมานที่สุดของที่สุดคือพวกเปรต ฮือๆๆๆๆๆ
    นี่คือกฏแห่งกรรม ผู้ที่ทำกรรมไว้อย่างไร ก็ย่อมได้รับผลอย่างนั้น
    ท่านสั่งมาว่า คนร่ำรวยอย่ากินทิ้งกินขว้าง ถ้ากินทิ้งกินขว้าง วันไหนพวกมึงตายเป็นเปรตเหมือนกู อดๆ อยากๆ พวกที่มีเงินมีทอง ระวังให้ดี พวกมึงจะลงไปอด กินน้ำวันละหยด กินข้าวทีละครึ่งเม็ด มีเงินมีทองไม่รู้จักสร้างบุญสร้างกุศล แล้วพวกมึงจะลงไปกินขี้กินเยี่ยวเหมือนกู ฮือๆๆๆ
     
  6. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    อย่าลืมแผ่เมตตาให้บรรดาวิญญาณทั้งหลายที่ได้มาบอกเรื่องกรรมกับเราในที่นี้ด้วย ...เดี๋ยวถ้าว่างๆมาพิมพ์ให้อ่านกันต่อ เม้นท์ให้ก้อยด้วยสิ จะได้มีกำลังใจ...เหอะๆ
     
  7. khuntun

    khuntun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +324
    ขออนูโมทนาบุญด้วยนะครับ เฮ้อ อนิจจา ทุกขัง อนัตตัง นรกช่างน่ากลัวจริงๆ ขอบคุณพี่ก้อยนะครับที่นำมาให้อ่าน ขอให้ทุกๆคนหมั่นสร้างความดีและแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณในนรกทั้งหลายด้วยเถิดนะครับ ให้เขาพ้นทรมานเสียทีสงสารเขาจริงๆครับ น่ากลัวจริงๆเลย -*- สิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือ นรกนี่ล่ะครับ -*- ขอให้ทุกๆคนโชคดีมีความสุขคิดสิ่งใดก็สมปราถนานะครับ
     
  8. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา น่าสงสาร เป็นอย่างมาก เศร้าใจ น่าสลดสังเวชใจเป็นอย่างมาก
    เตือนตัวเอง และเตือนคนที่เราเตือนเขาได้ ให้หมั่นทำบุญกุศล
    แต่สมัยนี้ผู้คนจิตใจหยาบกระด้างมาก เขาไม่เชื่อเรื่องบุญบาป
    แถมเห็นเป็นเรื่องตลกงมงายไร้สาระอีก น่าเศร้าใจ และน่าสงสารจริงๆ
     
  9. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมสนทนาธรรมครับ

    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธุ
    ให้ดังไปถึงพระนิพพาน
    <O:p</O:p
    ขอเปรตทั้งหลายจงได้อนุโมทนา
    อิทัง สัพพะเปตานังโหตุ สุขิตาโหตุสัพเพเปตา
     
  10. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    อยากช่วยก็ต้องแผ่เมตตาให้พวกเขาทุกวันด้วยนะคะ โมทนา...
    (ว่างๆจะพิมพ์มาให้อ่านกันอีก ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างน่ะค่ะ ขอโทษด้วยน้า)
     
  11. environment27

    environment27 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +20
    นรก สวรรค์ คงมีจริงเนาะ ไม่ยังงั้นมันจะเป็นเรื่องที่สืบมาจนปัจจุบันได้อย่างไร แต่สมัยนี้วิทยาศาสตร์และความบันเทิงมันเข้ามาเสียจนทำให้คนเราเลิกสนใจเรื่อง นรก เรื่องกรรมกัน เยอะ
    เมื่อคืนก็ฝันเห็น ยาย 2 คน ที่ไม่รู้จัก ยาย 2 คนนั้นบอกกับเราว่า สวรรค์มีจริงนะ และในฝันเราก็รู้สึกดี พอตื่นมาเราก็ไม่แน่ใจว่าไอ้ที่เราฝันนั้นเป็นเพราะเราคิดฟุ้งซ่านเกินไปหรือเปล่า แต่การฝันเห็นอะไรที่เราไม่รู้จักนี่มันก็ไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่สำหรับคนที่ฝันทุกวันอย่างเรา แต่เราก็จะขอเชื่อก็แล้วกันเพราะมันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน
     
  12. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,487
    สวรรค์มีจริง นรกมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว สาธุ
     
  13. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    (เรื่องที่ 5: วิญญาณเปรตยายนิ่มจากนรก มีผู้เคยมาตั้งกระทู้ไว้แล้วค่ะ ก้อยขอไปเรื่องที่ 6 เลยแล้วกันนะคะ)
    เรื่องที่ 6: วิญญาณ ดารากร พรพิมล
    วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2547 เวลา 12.25 น.

    มีวิญญาณตนหนึ่งมาอาศัยร่างเพื่อจะมาบอกเรื่องราว ร้องด้วยความเจ็บปวด ทำให้รู้ว่าเป็นวิญญาณที่ถูกทรมานจากนรก
    ช่วยด้วย! ช่วยที เร็วๆ เจ็บ ไฟไหม้หมดแล้ว ช่วยด้วย ช่วยเราด้วย ตามตัวเจ็บไปหมด ช่วยหยิบหนามออกให้ที ได้โปรดเถอะ อย่าทำข้าเลย โอ๊ย! มันเจ็บ มันเปื่อยเน่าทั้งตัวแล้ว มาจากนรก ลูกหลานเอ๊ย กูอยู่บนต้นงิ้ว เขาให้กูขึ้นมา โอ๊ย ! น้ำเหลืองน้ำหนองเต็มหมดแล้ว เขาไม่ให้ช่วย เขาว่ากูจะไม่สำนึก เขากลัวกูหนี กูเจ็บ กูทนไม่ไหวแล้ว
    กูชื่อ ดารากร พรพิมล กูเป็นผู้หญิงหากิน กูเป็นกะหรี่ โอ๊ย! กูอยู่บนต้นงิ้ว กูปีนต้นงิ้ว กูเป็นคนนคร อำเภอปากพนัง กูอยู่ปากพนังฝั่งตะวันตก กูตายนาน 100 ปีแล้ว กูชอบเอาผัวเพื่อน ตอนนั้นอายุ ๒๐ กว่าปี กูเอาทั้งนั้น ถ้าพอใจ โอ๊ย! หอกติดหลัง เจ็บ! ทำอาชีพนี้ได้เงินบ้าง ไม่ได้บ้าง กูทำตามอยาก
    ตอนมีชีวิตลำบากแร้นแค้น ตอนตายอายุ ๗๐ ปี เลิกแย่งผัวเพื่อนตอนอายุ ๖๐ กว่าปี ชีวิตเกิดมาไม่ได้สร้างบุญเลย กูอาย! กูทำบาป กูทำชั่ว กูอยู่กับลูก เวลาเจ็บไข้ ลูกคอยดูแล มีแฟน แฟนก็ตายก่อน ก่อนที่กูจะตาย กูเป็นไข้จับสั่น ได้แก่กินยาสมุนไพร มันทรมาน ปวดตามกระดูก ตามเส้น ผอมลงๆ กินอะไรไม่ได้ เจ็บคอ เป็นอยู่สิบกว่าวันก็ตาย
    มาที่นี่ในครั้งนี้เพื่อมาบอกว่าพวกเปรต พวกสัตว์ทั้งหลาย วิญญาณขึ้นมาแล้ว เขาจะมาขอบุญกุศล ให้ลูกหลานสร้างบุญให้ด้วย ช่วยกันนะลูก นรกมีจริงๆ กูอยู่แต่ในกองไฟ กูปีนแต่ต้นงิ้ว ถูกหมาปากเหล็กกัด กาจิกทุกวัน ถูกเหล็กแหลมแทงทุกวัน
    คนสมัยนี้เห็นสิ่งภายนอก เขาไม่เข้าใจ สนุกกันอย่างเดียว เขาไม่เชื่อกัน เขาก็ต้องลงนรกไปอีก
    อย่าเที่ยวเหมือนกู อย่าคบชู้ อย่าแย่งผัวเพื่อน รักใครชอบใครให้เป็นตัวเป็นตน อย่าเป็นหญิงโสเภณี ดูกูสิ อยู่ในนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ต้องอยู่กับกองไฟ ปีนแต่ต้นงิ้ว มีหนามพุ่งเข้ามาแทงฝังอยู่ในเนื้อ ถูกแทงถูกตีถูกฟัน พอตกลงมา สุนัขปากเหล็กมันกัด มันฉีกเนื้อทั้งหมด อีแร้งก็มี ยมบาลเอาหอกแทงทะลุหน้าหลัง เขาสอนว่า ตัณหามาก ตัณหาจัด ทำตัวไม่ดี ไม่สมกับเป็นผู้หญิง ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำตัวเป็นกากี เขาบอกว่านี่แหละผลกรรมที่มึงทำไม่ดี แย่งผัวเพื่อน มีความสุขชั่วคราว ถ้ามึงขืนทำอีก ไปเกิดใหม่ มันยิ่งหนักกว่านี้ มึงจะได้เกิดเป็นหมา ๔ ขา เขาบอกว่า อย่าทำตัวสำส่อน ไม่งั้นลงนรกทั้งนั้น วันที่กูตายใหม่ๆไปที่ ยมโลก เขาพิพากษาโทษ คำแรกเขาพูดว่า อีนางกากีมาแล้ว ถึงเวลาหมดอายุขัย ผู้หญิงแบบนี้ไม่สมควรจะอยู่ต่อ จริงๆต้องตายตอนอายุมากกว่านี้ เขาลดอายุลง ๑๗ ปี เขาบอกว่า สร้างกรรมมากกว่าสร้างบุญ สมัยตอนมีชีวิตแถวบ้าน มีวัดอยู่ริมคลองพายเรือไปวัดปากพนังตะวันตก ไม่ค่อยได้ไปวัด เพราะไม่ชอบไปวัด
    เมื่อสมัย ๑๐๐ กว่าปีมาแล้ว ตรงกับรัชกาลที่ ๓ ปลายๆ
    มาที่นี่ได้ โดยมียมทูตคุนมมา ๒ คน ยมทูตขาวดำมาคอยอยู่ เขาต้องพากูกลับลงไปอีก กูไม่อยากลงไปแล้ว ไม่อยากไปนรก เดี๋ยวพอกูจะกลับ ให้กรวดน้ำ สวดพระคาถาชินบัญชร ๓ จบ และเอาเทียนปักหัวให้ที ใหเทียนนำทาง เทียนที่จุดแล้ว ขอบใจที่ช่วยทำให้ความรู้สึกดีขึ้น
    อย่าทำชั่ว สิ่งไหนที่ไม่ดี อย่าทำเป็นอันขาด นรกไม่ยกเว้น สวรรค์มีแต่คนดี นรกมีแต่คนชั่ว ทำสิ่งเล็กๆน้อยๆถ้าผิดให้แก้ไข อย่าให้ผิดต่อไป ให้จิตสงบ อย่าวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น อย่าเที่ยวปากพล่อยว่าคนอื่น ด่าคนอื่น เมื่อก่อนกูปากจัด เที่ยวด่าเขา เชื่อเถอะลูก นรกมีจริงๆ มีทุกขุม ขุมเล็กขุมใหญ่ ขุมมากขุมน้อย ขุมลึกขุมตื้น คนเราวิบากกรรมอื่นมันยังมี เปลี่ยนไปตามสภาพกรรมที่สร้างทั้งนั้น บางคนไปกินขี้ตัวเองก็มี คนที่เขาไม่ค่อยเชื่อ เที่ยวพูดกัน เขาสร้างบาป วิบากกรรมของคนประเภทนี้ เขาเอาเหล็กแทงทะลุหน้าหลัง แทงปากแล้วดึงออกมา...
    ที่เราทำนี้ เราทำเพื่อให้ปณิธานของในหลวงเป็นผล ว่าด้วยปณิธานแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ก็คือ แผ่นดินที่คนประพฤติอยู่ในศีลธรรม ใครทำใครก็รับผลเป็นธรรมดา โลกกายเนื้อก็อย่างนี้แหละ คนสมัยนี้ไม่เชื่อในเรื่องอีกมิติหนึ่ง ในเรื่องของพลังงาน ในเรื่องของจิตญาณ
     
  14. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    มีคนอ่านอยู่อ๊ะป่าวอะ กะว่าจะพิมพ์ให้อ่านสัก 10 เรื่องง่ะ...
     
  15. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    เงียบจังเลย แง้วๆๆๆ ไม่มีคนอ่าน งั้นก้อยก็ไม่พิมพ์ละนะ
     
  16. pattaraniyom

    pattaraniyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +440
    ผมจะรออ่านนะคับ ก้อยพิมมาได้เลยคับ ขออนุโมทนากับก้อยคับ
     
  17. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    มีแต่เปรตเนอะ คราวหลังเห็นเปรตก็อย่าไปกลัวก็แล้วกัน เคยมีเพื่อนไปเจอจังๆ เปรตแกยืนคร่อมประตูวัดไว้เลย ไอ้เพื่อนมันก็นึกว่าทางวัดเอาเสามาปักใหม่ เลยแหงนมอง เห็นเป็นตัวเลย ทั้งสองคน ไอ้คนซ้อนมันถึงขั้นร้องไห้ มาโรงเรียน ด้วยผมหงอกสีขาวด้านหน้า เหมือนไปทำไฮไลท์ แฟชั่นญี่ปุ่นมาเลย พอไปถามมันจริงๆ มันบอกว่าเมื่อคืนกูโดนผีหลอกมา

    ไงก็เมื่อเห็นแล้ว ก็ลองนึกสวดมนต์ อะไรก็ได้ แล้วแผ่เมตตาให้เค้าดูก็แล้วกัน
     
  18. rin5297

    rin5297 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +569
    อ่านอยู่ครับ
     
  19. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    จ้าๆ เดี๋ยวจามาพิมพ์ต่อ เหอะๆ (งอนได้ผลแฮะ)
     
  20. aodbu

    aodbu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +456
    ขออนุโมทนาครับท่านก้อย แหมมีอ้อนด้วย
    น่าสงสารสัตว์นรกนะครับ
    หลวงพ่ออริยวังโส ท่านเคยกล่าวว่าถ้าผู้ตกนรกอยู่ขุมลึกมาก
    บุญที่เราอุทิศไปให้นั้น บางทีอาจจะไปไม่ถึง จืงควรอธิษฐานฝากผู้มีบารมีไปให้เช่น
    พระโพธิสัตว์ตี่จ่างอ้วง
    อธิษฐานขอให้พระตี่จ่างอ้วงโปรดวิญญาณดวงนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...