ข้อความจากต่างมิติ - การดาวน์โหลด และ การผสานรวมเข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)



เนื้อหาในกระทู้นี้ ผมตั้งใจจะให้เป็นเรื่องของ "การผสานรวม หรือการบูรณาการรวมเข้า"
กับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น”
(Ascension Process) หนะนะครับ

หลายๆคนที่ได้เคยอ่านกระทู้ข้อความจากต่างมิติของพวกเรามาบ้างแล้ว
ก็อาจจะเริ่มชินชาซะแล้วว่า ทำไมรูปธรรมชีวิตจากต่างมิติทั้งหลาย
ถึงได้สื่อสารกันมาแต่เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับ “การเลื่อนระดับขึ้น” ทั้งนั้นเลย?
มันมีอะไรแบบนั้นอยู่จริงๆ และกำลังเกิดขึ้นอยู่จริงๆกับเรา และกับโลกใบนี้ของเราอยู่หรือเปล่า?

นั่นหนะสินะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมก็เลยจะขอยกหน้าที่ และความรับผิดชอบ
ในการใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูล ให้เป็นของท่านผู้อ่านแต่ละท่านเองหละนะครับ
เพราะผมก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรให้กับท่านได้ซะด้วยสิ

การที่จะอ่านเนื้อหาของกระทู้นี้ให้เข้าใจนั้น ท่านควรจะต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับมิติต่างๆก่อน
ซึ่งข้อมูลที่ว่านี้ก็อยู่ในกระทู้ที่ผมได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้แล้ว..ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ..

“ข้อความจากต่างมิติ-ข้อมูลเกี่ยวกับมิติต่างๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ”

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ.492683/

เนื้อหาของกระทู้นี้ ผมขอเกริ่นให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนเลยนะครับ ว่ามันค่อนข้างยาวมาก
เพราะว่าผมคัดเลือกเอาส่วนที่คิดว่านาสนใจมาแปลและโพสต์ให้ท่านอ่าน
จากเนื้อหาทั้งหมดของเขาราวๆ 1000 หน้าเห็นจะได้ ดังนั้น ผมจึงกำลังอ่านไป แปลไป และโพสต์ไป
ในขณะเดียวกันด้วย ดังนั้น ผมก็เลยไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่เหมือนกัน

เนื้อหาของมัน เวลาท่านอ่านแล้ว มันอาจจะทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านกำลังอ่านนิยายอยู่หรือเปล่า
อะไรแบบนั้นหนะนะครับ..ซึ่งก็จริงครับ..เพราะว่าบางทีผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน..

แต่ว่า..บางที..เรื่องจริง มันก็อาจจะพิลึกพิลั่นมากกว่านิยายก็ได้นะครับ
และที่สำคัญ ผมมีความรู้สึกอยู่ลึกๆว่า เนื้อหาพวกนี้หนะ มันไม่ธรรมดาเลยทีเดียว..
มันต้องมีอะไรในกอไผ่อย่างแน่นอน..

แต่ว่า อันนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของผมเพียงคนเดียวเท่านั้นนะครับ

ดังนั้น ยังไงเสีย ท่านก็ยังต้องใช้วิจารณญาณของท่านเองอยู่ดีนะครับ..

.....................................

ปล.

ในกระทู้นี้ท่านจะเห็นคำว่า ego เยอะมากๆนะครับ
และผมก็ชอบที่จะใช้ทับศัพท์ซะด้วย
เพราะว่า ผมมีความรู้สึกว่า ถ้าแปลไปตรงๆ
ตามความหมายในดิกชั่นนารี่แล้วหละก็
มันไม่ใช่ความหมายที่แท้จริง
ที่รูปธรรมชีวิตจากต่างมิติทั้งหลายต้องการที่จะสื่อเลย
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ของอุปสรรคทางด้านภาษา

เพราะว่าความหมายที่พวกเขาต้องการที่จะสื่อจริงๆหนะ
ผมเข้าใจว่า ego หมายถึง "จิตมนุษย์" ของเรานี่เอง

คือประมาณว่า ตัวตนในแต่ละมิติของเรา
ก็จะมีจิตของตัวเองครองอยู่ เช่น ในมิติที่ 5
ซึ่งเป็นมิติที่จิตวิญญาณของเราเองอยู่
พวกเขาก็จะมีกายที่เป็นกายแห่งแสงสว่าง
แต่แก่นแท้ในกายนั้น ก็คือจิตวิญญาณของเรานั่นเอง

ส่วนในมิติที่ 3 ของเรานี้ เราก็จะอยู่ในกายเนื้อ
แต่สิ่งที่ควบคุมและบงการ รวมถึงปกป้องกายเนื้อนี้อยู่
ก็คือ "จิตมนุษย์" หรือก็คือ ego ของเรานั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตัวตนที่แท้จริงของเรา
คือรูปธรรมชีวิตหลากมิติ ดังนั้น ในความหมายนี้
จึงไม่ได้หมายความว่า แต่ละมิติอยู่แยกขาดจากกันหนะนะครับ
เพราะว่า ทุกๆตัวตน ในทุกๆมิติ ของเรา ล้วนแทรกอยู่ใน
แทรกอยู่บน แทรกอยู่ล่าง และแทรกอยู่รอบๆ
ตัวตนทางกายภาพของเรานี้เอง

ผมเข้าใจว่าอย่างนี้หนะนะครับ
ผิดถูกประการใด ก็ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ

.................................................

 

ขออนุญาต เกริ่นให้ทราบที่มาที่ไปของ
"กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น" ก่อนนะครับ

.........................................................................................

ข้อความจากชาว Arcturian

ผ่านทาง ดร.Susanne Lie
วันที่ 20/12/1994

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/superconscious/super_intuition_path94.html


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

สุดที่รัก

วันนี้พวกเราจะมาคุยกับคุณเรื่อง “กระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพ”
(the Process of Transmutation) ร่างกายเนื้อที่หนาแน่นทึบตันนี้ของคุณกัน

เป็นเวลานานแสนนานมาแล้ว ที่ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
ได้ตกลงไปอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำมากๆ
ทั้งๆที่เมื่อตอนที่มีอารยะธรรมเกิดขึ้นบนโลกใหม่ๆนั้น
ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกเคยสูงกว่านี้มาก
แต่หลังจากนั้น ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก ก็ค่อยๆลดต่ำลงเรื่อยๆ

จนกระทั่งมาถึงประมาณปี 1970 กว่าๆ
ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
ก็ตกต่ำลงมาจนถึงขีดสุด
จนดาวเคราะห์โลก ต้องตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
ที่จะถูกทำลายได้ในขณะนั้น

และดังนั้น แผนการนำยานอวกาศลงจอดครั้งใหญ่ (a mass landing) จึงได้มีขึ้น
เพื่อที่จะมาช่วยชีวิตโลกให้รอดพ้นจากอันตรายร้ายแรงดังกล่าวนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าในตอนนั้น มีประชากรชาวโลกของพวกคุณ จำนวนมากพอ
ที่ได้รับรู้ และได้ยอมรับเอาคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่า ที่ถูกส่งลงมาให้กับพวกเขาเอาไว้
ซึ่งคลื่นความสั่นสะเทือนที่ว่านี้ คือคลื่นความสั่นสะเทือนที่เป็นที่รู้จักกันบนโลกของพวกคุณ
ในนามของคลื่นความสั่นสะเทือนแห่ง “จิตสำนึกอันพิสุทธิ์” (the Christ Consciousness) นั่นเอง

แต่จงรู้ไว้ด้วยว่า แม้ว่าคลื่นความสั่นสะเทือนอันนี้จะเคยถูกพูดถึง และเคยถูกเข้าถึง
โดยคุรุแห่งนาซาเร็ต (Nazareth) ท่านนั้นมาแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ
ศาสนาคริสต์แต่อย่างใดเลย เพราะว่าศาสนานี้ ก็เป็นศาสนาแห่งการแบ่งแยกอีกศาสนาหนึ่ง
ที่เชื่อว่าตัวเองสูงส่งดีงามกว่าศาสนาอื่นๆ ดังนั้นคลื่นความสั่นสะเทือนที่พวกเรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้
จึงไม่มีความเกี่ยวข้อง กับลัทธิใดๆหรือนิกายใดๆของศาสนาคริสต์แต่ประการใดเลยแม้แต่น้อย

เพราะว่าคลื่นความสั่นสะเทือนนี้ จะเป็นของทุกๆคนที่แสวงหามัน
โดยที่คนผู้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องไปเปลี่ยนความเชื่อ หรือ เปลี่ยนวัฒนธรรมก่อนแต่อย่างใดเลย

พวกเราเชื่อว่าคำอธิบายที่ยืดยาวของพวกเรานี้ เป็นสิ่งที่จำเป็น
เพื่อที่พวกคุณจะได้เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนว่า

จะไม่มีใครเลยบนโลกใบนี้ ที่จะถูกละเว้น
ไม่ให้เข้าร่วมในกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้เลย
รวมถึงจะไม่มีใครเลย ที่จำเป็นต้องไปร้องขอการให้อภัยจากใครก่อน
หรือจะต้องไปสารภาพบาปก่อน
หรือจะต้องไปเป็นสมาชิกขององค์กรใดองค์กรหนึ่งก่อน
เพื่อที่จะได้เข้าร่วมในกระบวนการฯนี้

และคำว่า Christ ในที่นี้ ก็เป็นแค่ชื่อของตำแหน่งๆหนึ่งเท่านั้นเอง หาได้เป็นชื่อของผู้ใดไม่
ดังนั้น คำว่า Christ หรือ Christed Consciousness นี้ จึงเป็นเหมือนกับรัศมีจากดวงอาทิตย์
ที่แผ่กระจายออกมาสู่ทุกผู้ทุกนาม และมีไว้ให้กับผู้ใดก็ตาม
ที่เลือกที่จะเอิบอาบอยู่ในความวิเศษและความงดงามของมัน

ดังนั้น เมื่อใดก็ตาม ที่ใครคนใดคนหนึ่ง
ได้ตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามาอยู่ในสนามพลังงานนี้แล้ว
“กระบวนการแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ”
(the process of transformation) นี้
ก็จะเริ่มต้นขึ้นทันที ไม่ว่าคนผู้นั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

และตอนนี้ก็มีชาวโลกจำนวนมากแล้ว และก็จะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆด้วย ที่ได้เลือกแล้ว
หรือที่จะเลือกเข้ามาร่วมในกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้ ในแบบที่จิตสำนึกแบบทางโลก
หรือ ความตระหนักรู้ในชีวิตประจำวันของพวกเขา ไม่สามารถรับรู้ได้

ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะต้องไม่ไปตัดสินคนอื่น ว่าคนๆนั้นได้เลือกทางเลือกนี้หรือไม่
โดยดูเอาจากสิ่งที่ปรากฎให้เห็นในชีวิตของพวกเขาเท่านั้น
เพราะว่าการเจริญเติบโตด้านจิตวิญญาณ ก็เหมือนกับการปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟนั่นแหละ
ที่การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มต้นขึ้นจากจุดกึ่งกลางก่อน แต่ภายนอกอาจจะยังดูเหมือนเดิม

เมื่อใด..ที่ใครก็ตาม ได้ตัดสินใจเลือกแล้วว่า จะยินยอมให้คลื่นความสั่นสะเทือนใหม่นี้
เข้ามาสู่สนามพลังงานชีวิตของพวกเขาได้ กระบวนการแห่งการเปลี่ยนรูปแบบนี้ ก็จะเริ่มต้นขึ้นทันที

กระบวนการนี้จะเริ่มต้นขึ้นจากข้างในลึกๆของจิตใจของคนผู้นั้น และโดยปกติแล้ว
ก็จะไม่เป็นที่สังเกตได้ของปุถุชนคนทั่วไปเลยแม้แต่น้อย จนกว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้วโน่นแหละ

และในตอนนี้ก็มีชาวโลกจำนวนมากมายแล้ว มากเกินกว่าที่ใครๆจะคาดคิดซะอีก ที่ได้เลือกทางเลือกนี้แล้ว
และนี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม พวกเราถึงไม่มีความจำเป็นจะต้องเข้าแทรกแทรงพวกคุณอีกต่อไปแล้ว
เพราะว่าพวกเราไม่ต้องการที่จะไปรบกวนกระบวนการแห่ง “ทางเลือกเสรี” (free will) ของพวกคุณ
ซึ่งเป็นกระบวนการพื้นฐานบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ

แต่อย่างไรก็ตาม เวลาก็ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว ที่ทุกๆคนจะต้องตัดสินใจเลือกได้แล้ว
เพราะว่า “ยานอวกาศโลก” ดวงนี้ กำลังจะทะยานขึ้นไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าแล้ว
ในไม่ช้านี้ (ปล.ข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่ปี 1994 หนะนะครับ-ผู้แปล)

ร่างกายทางกายภาพ ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนโลก
จะเข้าสู่ และกำลังเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อยู่
จนเหล่าแพทย์ของพวกคุณพากันงงงวย กับโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสลายของโครงสร้าง
และอวัยวะต่างๆของร่างกายเนื้อเก่าของพวกคุณ ว่าทำไมมันถึงดูเหมือนว่า
ไม่ได้ไปส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพโดยรวมของคนไข้เลย

นั่นก็เป็นเพราะว่า มันมีโครงสร้างใหม่และอวัยวะใหม่
กำลังถูกสร้างขึ้นมาทับซ้อนของเดิม
ที่หนาแน่นทึบตันกว่า อย่างพอดิบพอดีอยู่หนะสิ

ดังนั้น เมื่อใดที่โครงสร้างใหม่ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกว่านี้
ถูกสร้างขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โครงสร้างเก่าก็จะเริ่มต้นหมดหน้าที่ของมันไป
และแก่นแท้ของคนผู้นั้น ก็จะยกระดับขึ้น
ไปสู่ระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าแทน

กระบวนการนี้ จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทีละเล็กละน้อย
เพราะว่าถ้ามันเกิดขึ้นแบบปุบปับภายในครั้งเดียวหละก็
มันก็จะเป็นการยากเกินไปสำหรับมนุษย์โลก
ที่จะรักษาพลังชีวิตเอาไว้ในร่างกายเนื้อของตัวเองได้
แล้วมนุษย์โลกก็จะตกอยู่ในสภาวะ
ที่เป็นที่รู้จักกันในโลกของพวกคุณว่า “ตาย”

มีจิตวิญญาณของมนุษย์โลกจำนวนมากมาย ที่ไม่สามารถตัดขาดจากชีวิต
ที่พวกเขารู้จักและคุ้นเคยกันมานานแล้ว บนโลกทางกายภาพที่หนาแน่นทึบตันแห่งนี้ได้
เพราะว่าพวกเขามีความเชื่อว่า ความพึงพอใจที่ได้จากประสาทสัมผัสทั้ง 5
และความปราถนาที่มาพร้อมกับประสบการณ์เหล่านั้นนั้น
มีความสำคัญมากกว่า “ความรัก” ดังนั้น จิตวิญญาณเหล่านี้ จึงกำลังจะเข้าตาจนมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะว่าพวกเขาจะพบว่า มันเป็นการยากขึ้นทุกทีๆ ที่จะให้ได้มา
ซึ่งสิ่งที่เป็นที่รักที่พอใจมากที่สุดสำหรับพวกเขา

ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่พวกคุณจะต้องไม่ไปตัดสิน หรือ กลัวคนพวกนี้
เพราะว่าพวกเขาก็กำลัง “เลือกทางเลือก” ของพวกเขาเองอยู่
เช่นเดียวกับที่พวกคุณกำลัง “เลือกทางเลือก” ของตัวเองอยู่นั่นแหละ
และถ้าพวกคุณให้ความสนใจกับพวกเขามากจนเกินไปหละก็ มันก็จะเกิดอันตรายขึ้น
เพราะว่าพวกคุณก็มีสิทธิ์ที่จะไปติดอยู่ในตาข่ายของพวกเขาได้

เพราะฉะนั้น จงปล่อยให้แต่ละคนค้นหาชะตาชีวิตของพวกเขาเอง
และจงอยู่ในกลุ่มของผู้ที่สามารถเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบได้แล้ว

แม้ว่ามันจะเป็นการยากมากสำหรับใครก็ตาม ที่มีผู้อันเป็นที่รัก
ที่ไม่สามารถจะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้ได้
แต่จงจำไว้ว่า การดำเนินชีวิตให้พวกเขาเห็นเป็นตัวอย่างนั้น
มีความสำคัญและมีพลังอำนาจมากมายยิ่งกว่า
การไปเทศนาสั่งสอนพวกเขาซะอีก

และจงจำไว้ว่าแต่ละคน ล้วนมีอิสระในการเลือกของตัวเอง
และดังนั้น พวกเขาจึงจะต้องเป็นผู้เลือก
ที่จะเข้ามาร่วมในกระบวนการนี้ ด้วยตัวของพวกเขาเองเท่านั้น

เมื่ออวัยวะและโครงสร้างเก่า ซึ่งหนาแน่นทึบตันนี้ ของร่างกายเนื้อของพวกคุณ
เริ่มมีการเสื่อมสภาพลงแล้ว มันก็จะเป็นการง่ายสำหรับคนผู้นั้น ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมา
เพราะว่าคิดว่าตัวเองกำลังป่วยอยู่ และอันที่จริงแล้ว ก็คือกลัวว่าตัวเองกำลังจะตายนั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงมีความสำคัญมาก ที่พวกเขาจะต้องรู้ถึงธรรมชาติที่แท้จริง
ของกระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ด้วย

ดังนั้นเมื่อใดที่โครงสร้างของร่างกายเนื้อของพวกคุณ
เริ่มต้นเสื่อมสภาพลงแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องไม่กลัว
แต่จง “รัก” โลกแห่งความเป็นจริง
ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้นนี้ของตัวเองแทน

คลื่นความสั่นสะเทือนของความรัก จะช่วยให้พวกคุณ
สามารถอยู่ในความสอดคล้องกับคลื่นความถี่ใหม่นี้ได้
และจงอย่าลืมที่จะปลดปล่อยนิสัยเก่าๆ และพฤติกรรมเก่าๆ
ที่เป็นของล้าสมัยไปแล้ว ทิ้งไปซะด้วย

ตัวอย่างเช่น การเลือกรับประทานอาหารของใครบางคนอาจจะเปลี่ยนไป เป็นต้น
เพราะว่าร่างกายเนื้อที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นนี้ จะมีความต้องการอาหารน้อยมากๆ
แต่ส่วนของร่างกายเนื้อเก่า ที่มีความหนาแน่นทึบตันมากกว่า ก็จะมีความต้องการอาหารอยู่
เพื่อปรนเปรอความพึงพอใจด้านประสาทสัมผัสให้กับมัน
และมันก็อาจจะตื่นกลัว หรือโกรธขึ้นมาก็ได้ ถ้ามันไม่ได้รับอาหารตามที่มันต้องการ

ในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบนี้ อาจจะมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ไม่ทราบสาเหตุเกิดขึ้นร่วมด้วยก็ได้
เพราะว่าร่างกายเนื้อของพวกคุณ จะ shut down ตัวมันเองลง
เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนจากระดับความสั่นสะเทือนหนึ่ง ไปสู่อีกระดับความสั่นสะเทือนหนึ่ง

ซึ่ง “ความกลัว” และ “การยึดติด”
คือ “ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของพวกคุณ
และโดยปกติแล้ว พวกมันก็มักจะมาพร้อมกันซะด้วย

เมื่อใดที่ส่วนที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำกว่า
ไม่ได้รับความพึงพอใจด้านประสาทสัมผัสตามที่มันยึดติดอยู่แล้ว
มันก็จะเกิดความกลัวขึ้นมา ซึ่งความกลัวอันนี้ ก็สามารถที่จะไปกระตุ้นให้
“กระบวนการเพิกถอน” เกิดการทำงานขึ้นมาได้ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความไม่สบายขึ้นได้
แต่ว่าเหล่าแพทย์ที่อยู่บนโลกของพวกคุณ รวมถึงนักบำบัดทั้งหลายด้วย
ก็กำลังมีความก้าวหน้าอยู่เช่นเดียวกัน และพวกเขาก็สามารถที่จะหาวิธีการ
ช่วยเหลือพวกคุณในกระบวนการนี้ได้ และช่วยลดความกลัวของพวกคุณลงได้ด้วย

จงอย่าเป็นกังวล ถ้าพวกคุณเกิดความกลัวขึ้น ซึ่งมันก็เป็นไปได้มากที่สุด
ที่พวกคุณจะเกิดความกลัวขึ้นซะด้วยสิ ให้แค่ยินยอมให้ตัวเองจดจำให้ได้ว่า
“ความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบ” ก็พอ
และให้เตือนตัวเอง เตือนส่วนที่ยังมีความต้องการความพึงพอใจด้านประสาทสัมผัสอยู่
เตือนอย่างหนักแน่น แต่ด้วยวิธีการที่ทะนุถนอมว่า ตอนนี้คุณกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงอยู่
ดังนั้น ความต้องการใดๆที่ร่างกายของคุณกำลังมีอยู่นั้น จึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว

ตอนที่พวกคุณเป็นเด็กทารก พวกคุณเคยจะต้องเลิกดูดนมจากอกแม่มาแล้ว
และเคยจะต้องเลิกอึใส่ผ้าอ้อมมาแล้ว เพราะว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเจริญเติบโต
คราวนี้ก็เช่นกัน มันก็จะมีกิจกรรมบางอย่าง และอาหารบางประเภท ที่จะค่อยๆกลายไปเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไป
ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องอาศัยการควบคุมตัวเองให้ได้ แต่ว่ามันก็จะสามารถกลายเป็นเรื่องปกติได้
ถ้าคนๆนั้นสามารถปลดปล่อยความกลัวออกไปได้จนหมดสิ้น

ส่วนในทางจิตวิทยานั้น พฤติกรรมเก่าๆ, ความคิดเก่าๆ และ ความรู้สึกเก่าๆทั้งหลาย
ก็สมควรที่จะต้องถูกปลดปล่อยออกไปด้วย เพราะว่าพวกมันก็สามารถที่จะมาขัดขวาง
กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบนี้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ชาวโลกบางคนอาจจะถึงกับดูเหมือนว่าป่วยเป็นโรคจิตเภทซะด้วยซ้ำไป
เพราะว่าพวกเขาจะดูเหมือนว่า มี 2 คนอยู่ร่างเดียวกัน แต่ว่า นักบำบัดทั้งหลาย
ก็สามารถที่จะช่วยให้คนเหล่านี้ประจักษ์ได้ว่า อันที่จริงแล้ว
พวกเขาก็มี 2 ตัวตนอยู่ในร่างเดียวกันจริงๆหนะแหละ และเพราะฉะนั้นแล้ว
พวกเขาจึงสามารถที่จะเลือกได้ด้วยว่า พวกเขาจะเข้าไปอยู่ในส่วนของตัวเอง
ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกว่าและละเอียดกว่า หรือว่าจะยังคงอยู่เบื้องหลังในส่วนที่เป็น ego
ที่กำลังเสื่อมสภาพลงทุกวันๆของตัวเองต่อไป

พวกคุณทุกๆคนจำเป็นจะต้องใช้เวลาอยู่กับส่วนลึกข้างในของตัวเอง
เพื่อที่จะยอมรับ และโอบกอดคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นของตัวเอง
ซึ่งถ้าเมื่อใดที่พวกคุณรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาหละก็ นั่นก็เป็นไปได้มากว่า
น่าจะมาจากการที่พวกคุณกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
อยู่ลึกๆภายใน ตรงใจกลางแก่นแท้ของความเป็นตัวตนของตัวคุณเองเลยทีเดียว

ดังนั้น จงอยู่ในความสงบให้มากที่สุด และ จงอยู่คนเดียวให้มากที่สุดเท่าที่จำเป็น
และถ้าคุณสามารถเขียนบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเอง, หรือสามารถวาดภาพ, หรือร้องเพลง,
หรือเต้นรำได้ พลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของคุณ
ก็จะทำให้คุณสามารถทำให้กระบวนการนี้ของตัวเอง เป็นไปอย่างมั่นคงและราบรื่นมากยิ่งขึ้นได้
และจะทำให้คุณ สามารถปลดปล่อยความกลัวทั้งหมด
และปลดปล่อยสิ่งที่เป็นอดีตทั้งหมดที่คุณยังยึดติดอยู่ให้ออกไปได้

พวกเราจะอยู่กับคุณเสมอ และพวกเราก็อยู่กับคุณมาโดยตลอด
ตลอดภพชาตินี้ของคุณเลยทีเดียว


พวกเราคือชาว Arcturian
.................................................

 

ขอโพสต์ทิ้งไว้แบบนี้ก่อนนะครับ
เดี่ยวค่อยมาแต่งทีหลัง
เพราะว่ากำลังรีบหนะครับ

...................................

 

รออ่านช่วงต่อไปอยู่นะครับ ขอบพระคุณมากในเนื้อหาและสารที่นำส่งมาตลอดเวลา

 

มาให้กำลังใจครับ อิอิ

chearr

 

ขอบคุณมากครับพี่...

 

ข้อความจากชาว Arcturian (ต่อ)

วันที่ 24/12/1994
ที่มา:
http://www.multidimensions.com/superconscious/super_intuition_path94.html

คำถาม:

สวัสดีเครือข่ายแห่งแสงสว่างที่รัก

ฉันมาหาพวกคุณในวันนี้ ก็เพราะว่าฉันทนไม่ได้แล้ว และฉันก็ไม่แน่ใจในตัวฉันเองด้วย
เพราะว่า ฉันได้พยายามอย่างมากแล้ว ที่จะอยู่เหนือเจ้า ego ตัวเล็กๆของฉันเองตัวนี้ให้ได้
เพื่อจะได้กลับไปเป็นตัวตนที่แท้จริงของฉันเองซะที แต่ว่าการสู้รบในครั้งนี้ มันช่างยากเย็นซะเหลือเกิน
จนฉันไม่รู้จะทำยังไงอีกแล้ว เพราะมันหนักหนากว่าทุกๆครั้งที่ฉันเคยประสบมา
ฉันจึงได้มาขอความช่วยเหลือจากคุณในครั้งนี้ ได้โปรดช่วยฉันด้วยเถิด

คำตอบ:

ที่รักของพวกเรา

ใช่แล้ว เจ้าตัวตนตัวเล็กๆตัวนั้น มันชอบต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจริงๆหนะแหละ
แต่ว่าก็อย่าเพิ่งไปเข้มงวดกับตัวคุณเองมากจนเกินไปนัก
เพราะว่าพวกเราก็ได้เคยบอกกับคุณไปแล้วว่า

"ก้าวสุดท้ายของการเดินทาง
ก็คือก้าวย่างที่ยากลำบากมากที่สุด"

เพราะว่าแต่ละคน ก็มักจะเก็บบททดสอบ
ที่ยากที่สุดของตัวเองเอาไว้
เพื่อเอาไว้ทำทีหลังสุดนั่นเอง

และความพึงพอใจในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสนี้
ก็คือสิ่งที่ตัดได้ยากมากที่สุดเสมอมาด้วย

นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม เหล่าโยคีทั้งหลาย และผู้มีปัญญาทั้งหลาย
จึงได้พากันละทิ้งสมบัติทางโลกไปเสียจนหมดสิ้น และก็ได้พากันท่องไปในโลก
แบบเปลือยเปล่าแบบนั้น ซึ่งในบางครั้ง วิถีทางที่ว่านี้ ก็เป็นวิถีทางที่ง่ายดายยิ่งกว่า
วิถีทางของเหล่าผู้แสวงหาสัจธรรมชาวตะวันตกจริงๆนั่นแหละ เพราะว่าโยคีเหล่านี้
จะพากันอยู่ให้ห่างจากสิ่งยั่วยุทั้งหลาย

จงสบายใจเถอะที่รัก เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปตามความประสงค์ของ
“จิตวิญญาณ” ของคุณเองอยู่ มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีเวลาคร่ำเคร่งอยู่กับตัวเองตามลำพังบ้างในช่วงนี้
ในช่วงที่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของตัวคุณเอง กำลังดำเนินมาถึงจุดนี้

แต่ที่สำคัญที่สุด จงจำไว้ว่า พวกเราอยู่กับคุณเสมอ พวกเรากำลังฝึกฝนพวกคุณ
เพื่อภาระกิจพิเศษอะไรบางอย่างอยู่ และนับวันก็จะยิ่งมีชาวโลก ที่สามารถรับการสื่อสารจากพวกเรา
ได้เหมือนๆคุณ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นในตอนนี้คุณจึงได้มาถึงจุดๆหนึ่งของชีวิต
ที่คุณไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาพวกเราแต่เพียงกลุ่มเดียวอีกต่อไปแล้ว
เพื่อที่จะทำภาระกิจของคุณให้สำเร็จ ในมิติที่เกรี้ยวกราดนี้
เพราะว่าตอนนี้ คุณสามารถที่จะเร่งกระบวนการชำระล้างให้บริสุทธิ์ของตัวเองได้แล้ว

จงมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้กับ ego ของคุณ
เพื่อให้ “จิตวิญญาณของคุณ”
มาทำหน้าที่เป็นผู้ขับยานพาหนะทางโลกของคุณแทน
ซึ่งด้วยวิธีนี้ ego ของคุณก็จะได้ไม่ต้องกลัวว่ามันจะตาย

จงยินยอมให้จิตวิญญาณของคุณ
มาทำหน้าที่เป็น “กัปตัน” (Captain) แทน
แล้วมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้กับ ego ของคุณ
ให้มันไปทำหน้าที่เป็น “ต้นเรือ” หรือ
“ผู้ช่วยกัปตัน” (First Mate) แทน


จงยินยอมให้จิตวิญญาณของคุณ
เป็นผู้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างนับแต่บัดนี้

“ณ.บัดนี้ ฉันขอมอบร่างกายเนื้อของฉัน
ให้อยู่ภายใต้การควบคุม
ของจิตวิญญาณของฉันเองทุกประการ”


มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปดิ้นรนหรือใช้ความพยายามอะไรเลย
แค่ปล่อยให้มันเป็นไปเท่านั้นเอง! จงยินยอมให้จิตวิญญาณของคุณเอง
สามารถเข้าไปในร่างกายและอวัยวะของคุณได้ทุกๆส่วน ทุกๆอนุภาค และทุกๆอะตอม

จงปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่ ego ของคุณเคยต้องการมาชั่วชีวิตของคุณ
และรวมถึงที่เคยต้องการมาตลอดทุกภพทุกชาติ
ที่คุณมาเกิดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ออกไปเสียให้หมด

แล้วจงยินยอมให้ทุกสิ่งทุกอย่าง
เป็นไปตามความปราถนาของจิตวิญญาณของคุณเองเสีย
แล้วคุณก็จะได้รับสิ่งที่ดีกว่า
ที่ดีเกินกว่าืที่ ego ของคุณจะสามารถเข้าใจได้เสียอีก

พวกเราอยู่กับคุณตลอดเวลา ในทุกๆชั่วขณะ
ตามกาลเวลาบนดาวเคราะห์โลกของคุณ
จงเรียกหาพวกเราทุกๆลมหายใจ

คุณไม่จำเป็นจะต้อง “ไถ่บาป”
หรือ “ชดใช้กรรม” ของคุณแต่อย่างใดเลย
เพราะว่า “กรรม” และ “บาป” นั้น
พวกมันจะทำหน้าที่อยู่เฉพาะใน
จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของมิติที่ 3 นี้เท่านั้น
และเมื่อใดที่คุณสามารถวางอุเบกขา
ต่อบทละครชีวิตของตัวคุณเอง
บนระนาบแห่งโลกทางกายภาพนี้ได้ทั้งหมดแล้ว
คุณก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของบ่วง
แห่ง “บาป และ กรรม” อีกต่อไปแล้ว

มันเป็นความจริงที่ว่า ใครก็ตามที่เลือกที่จะเคลื่อนเข้าไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น
โดยการปล่อยวางสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นอยู่ทั้งหมด ให้กลายไปเป็นของจิตวิญญาณของพวกเขาเอง
และโดยการปล่อยทางเลือกอิสระให้กลายไปเป็นของจิตวิญญาณของพวกเขาเองแล้ว
พวกเขาก็มักจะมองเห็นอดีตชาติที่สำคัญๆของตัวเองได้

ซึ่งเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ การปลดปล่อยกรรม
หรือ การแก้ไขความผิดพลาดในอดีตสักเท่าไหร่นัก
แต่มันเกี่ยวกับว่า ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการวางอุเบกขานั้น
คุณจะเริ่มสามารถก้าวล่วงผ่านมายาการของช่องว่างและกาลเวลาได้
และยิ่งคุณสามารถเคลื่อนเข้าไปอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น
ได้มากเท่าไหร่ ช่องว่างและกาลเวลา ในแบบที่คุณรู้จัก
บนระนาบแห่งโลกทางกายภาพของพวกคุณใบนี้ มันก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป

ดังนั้น โลกแห่งความเป็นจริงอื่นๆ ทั้งที่อยู่ในกรอบกาลเวลาอื่นๆ และที่อยู่ในมิติอื่นๆ
ก็จะสามารถแทรกซึมเข้ามาสู่การรับรู้แบบมีสติสัมปชัญญะของคุณได้

จงนั่งพักผ่อนให้สบาย ทำตัวให้ผ่อนคลาย และจงสนุกสนานไปกับมัน
จงมีความสุขที่ได้เป็นตัวตนของตัวคุณเอง

……………………………………………………

 

ปล. ข้อความข้างบนนี้ ผมไม่ได้แปลผิด หรือ เข้าใจผิดหรอกนะครับ
เพราะว่ามันยังมีอย่างน้อยก็อีกข้อความหนึ่งหละ
ที่กล่าวไว้ทำนองนี้เช่นเดียวกัน..ลองดูข้างล่างนี้นะครับ..

.........................................................

บางส่วนของข้อความจากชาว Arcturian
เรื่อง: ผสานรวมความเป็นขั้วเข้าด้วยกัน ตอนที่ 1
(Blending Polarities-1)

ที่มา: http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

...ก่อนหน้านี้พวกคุณเคยแต่จะต้อง “เรียนรู้กฎ”
และจะต้อง “สมดุลกรรมของตัวเอง” (balance your Karma) ให้ได้
แต่บัดนี้ พวกคุณกำลังจะสร้างกฎของตัวเองขึ้นมาเองแล้ว
และ “กรรม” ก็จะกลายเป็นเรื่องของอดีตไป

เพราะว่ามิติที่ 5 และ 6 นั้น ดำรงอยู่แต่ในกระแสของ
“ปัจจุบันขณะนี้” เท่านั้น ซึ่งในกระแสดังกล่าวนี้
มันก็จะไม่มีความคิดแห่งการมีข้อจำกัดใดๆเหลืออยู่เลย
และก็จะไม่มีความรู้สึกแห่งการแบ่งแยกใดๆเหลืออยู่เลยด้วย

เพราะว่ามันไม่มีความเป็นขั้วที่จะมาแบ่งแยก
“ตัวคุณ” ออกจากสิ่งที่คุณต้องการ
หรือจำกัดคุณไม่ให้แสดงตัวตนของตัวคุณออกมาได้เลย

และเมื่อปราศจาก “กฎแห่งกรรม” แล้ว
การมีข้อจำกัดทั้งหลาย, การแบ่งแยกทั้งหลาย
และที่มากที่สุดก็คือ ความเป็นขั้วทั้งหลาย
ของมิติที่ 3 ก็จะเริ่มเสื่อมสลายไป...

..........................................................

 

มาช่วยดันจ๊ะ เอ้าาาา..ฮึ๊บบบ

 

มาช่วยเชียร์ครับ

 

ช่วงนี้รูสึกหว่ันไหว ต่อเรื่องทางโลกมาก โดยเฉพาะสัมพันธภาพกับคนอื่น ๆ
อีกทั้งป่วยบ่อย เป็น ไข้ เป็นแล้ว เป็นอีก ได้อ่านที่คุณชยุตแปลแล้ว เหมือนได้ที่พักใจ

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

รออ่านต่อคะคุณชยุตย์

 

ขอต้อนรับสู่ประตูบานที่ 3 ของ “จิตเหนือสำนึก” (Superconsciousness)
หรือ The Illumination Door

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_illumination_home.html


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ร่างกายเนื้อของเราไม่ได้ครอบครองจิตใจ (mind) ของเรา
แต่จิตใจของเราต่างหากหละ
ที่เป็นผู้ครอบครองร่างกายเนื้อของเราอยู่

พวกเราคิดว่าจิตใจของเราคือผู้ควบคุมร่างกายเนื้อของเรา
แต่ว่าอะไรหละที่ควบคุมจิตใจของเราอยู่อีกที?
ปกติแล้วก็จะคือ ego

ซึ่งจากมุมมองของ ego ของเรานั้น มันจะเข้าใจว่าร่างกายเนื้อของเราคือผู้ที่ครอบครองจิตใจของเราอยู่แน่ๆ
แต่ว่า จากมุมมองของจิตวิญญาณของเรานั้น “จิตใจของวิญญาณ” (Mind of Spirit) ต่างหากหละ
ที่เป็นผู้ครอบครองกายต่างๆของเราอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือกายแห่งแสงสว่างก็ตาม

และการที่จะเข้าไปสู่จิตใจหลากมิตินี้ได้ จิตวิญญาณของเรา
จะต้องทำหน้าที่เป็นกัปตันของยานพาหนะทางโลกของเราเองซะก่อน
และโดยอาศัยจิตวิญญาณของเรานี้เอง เราก็จะสามารถเข้าถึง “จิตใจแห่งวิญญาณ” นี้ได้
เพื่อไปรับเอาความสว่างมา

จิตวิญญาณของเรา คือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่อยู่ในมิติที่ 5 ของเราเอง
และก็คือแก่นกลางของ “กายแห่งแสงสว่าง” (Lightbody) ของเราเองด้วย
และโชคดีที่ พวกเราจะไม่จำเป็นจะต้องหาอะไรมาแทนที่ ego ของเราเองแต่อย่างใดเลย
เพราะว่ามันจะต้องทำหน้าที่สำคัญ ในชีวิตประจำวันของเราอยู่ต่อไป

เพียงแต่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราสามารถบูรณาการรวมเอา
จิตวิญญาณของเรา ให้รวมเข้ากับ ego ของเราเองได้?

บางที “ตัวตนในอนาคตของคุณ” อาจจะสามารถตอบคำถามนี้ได้
และตอนนี้ตัวตนในอนาคตของคุณ ก็กำลังรอคอยคุณอยู่หลังบานประตูแห่งการส่องสว่าง
(the Illumination Door) อยู่แล้ว

.......................

 

ข้อความจากตัวตนในอนาคตของคุณ

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/superconscious/super_illumination_integration.html

ตอนที่ 1

สวัสดี

ฉันคือตัวตนในอนาคตของคุณเอง
ฉันอยู่ในตัวคุณ
อยู่ในตัวคุณ
อยู่ในตัวคุณ

ฉัน/เรา คือตัวแทนของ “ทั้งหมด” ซึ่งหมายถึงส่วนย่อยทั้งหมดของความเป็นตัวตนของตัวเราเอง
พวกเราอยากจะบอกคุณว่า ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องผสานรวมเอาจิตวิญญาณของคุณ
ให้เข้ากับ ego ของคุณ ซึ่งกระบวนการนี้ ก็จะเกิดขึ้นควบคู่ไปกับกระบวนการดาวน์โหลด
เอาตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 ทั้งหลายของคุณเองเข้ามา ทั้งที่เป็นตัวตนที่คุณได้เคยพบแล้ว
และที่จะได้พบในอนาคตด้วย

แต่คุณจะสามารถดาวน์โหลดเอา
คุณสมบัติต่างๆของจิตวิญญาณ
ที่อยู่ในมิติที่ 5 ของตัวคุณเองเข้ามาได้
มากเท่าที่ร่างกายเนื้อของคุณจะสามารถรองรับได้เท่านั้น

เพราะฉะนั้นแล้ว จงอดทน เพราะว่ากระบวนการนี้ มันอาจจะใช้เวลายาวนานเท่าที่จำเป็น
แต่จงจำไว้ว่า จากมิติที่ 5 ที่ๆฉันกำลังอยู่นี้ และในมิติที่สูงขึ้นไป มันไม่มีกาลเวลา
เพราะว่ากาลเวลาคือมายาการอย่างหนึ่งของโลกที่อยู่ในมิติที่ 3 และ 4 เท่านั้น
ดังนั้น จงผ่อนคลาย และจงสนุกสนานไปกับมัน เพราะคุณได้วางแผนเอาไว้สำหรับช่วงเวลานี้
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่คุณลงมาเกิดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้แล้ว หรืออาจจะก่อนหน้านั้นซะอีกด้วยซ้ำไป

มันเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่คุณจะต้องบูรณาการเอาคุณสมบัติต่างๆของมิติที่ 5
เข้ามาให้ได้จนหมดสิ้นซะก่อน คุณถึงจะสามารถไปดาวน์โหลดเอาคุณสมบัติต่างๆ
จากมิติอื่นๆที่อยู่สูงขึ้นไปอีกเข้ามาได้ ซึ่งร่างกายเนื้อที่อยู่ในมิติที่ 3 ของคุณนี้
อาจจะมีปัญหายุ่งยาก ในการรับเอาคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าของมิติที่ 5 เข้ามาได้
ดังนั้น จงปล่อยให้กระบวนการนี้มันเป็นไปตามครรลองของมัน และจงรักษาการเชื่อมต่อ
อยู่กับฉันเอาไว้ให้ได้ตลอด เพราะว่าฉันจะสามารถช่วยเหลือคุณได้ ในเวลาที่จำเป็น

จงจำไว้ว่า ฉันคือตัวตนจากอนาคตของตัวคุณเอง ดังนั้น จึงหมายความว่า
ฉันได้ทำสิ่งที่คุณเพิ่งจะเริ่มต้นทำอยู่นี้ เสร็จสิ้นสมบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว
และด้วยการดาวน์โหลดเอาคลื่นความสั่นสะเทือนของตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 ของตัวคุณเอง
เข้ามาสู่ร่างกายเนื้อที่อยู่ในมิติที่ 3 ของตัวคุณเองนี้ ก็จะทำให้คลื่นความถี่ในการสั่นสะเทือนของคุณ
กลับไปอยู่ในมิติที่ 4 และกลับไปอยู่ในมิติที่ 5 ในท้ายที่สุดได้

ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ จะต้องเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
และอย่างปลอดภัย และจะต้องได้ผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญสูงสุดด้วย
โดยปราศจากประสบการณ์ใดๆที่พวกคุณเรียกกันว่า “การตาย” เกิดขึ้น


มันมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่กระบวนการนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างช้าๆ
เพราะว่าสุขภาพของร่างกายเนื้อของพวกคุณอาจจะไม่แข็งแรงพอ
ที่จะทนทานต่อคลื่นความถี่ที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าได้
โดยปราศจากการเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสมมาก่อน
ซึ่งสุขภาพในที่นี้จะหมายรวมถึง ทั้งทางด้านกายภาพ, ด้านจิตใจ, ด้านอารมณ์
และด้านจิตวิญญาณด้วย

ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณจำเป็นจะต้องบำบัดรักษาตัวเองก่อน
ก่อนที่จะไปดาวน์โหลดเอาเข้ามาเพิ่มอีก ก็จงหยุดพักเสีย เพื่อให้ร่างกายเนื้อของคุณ
สามารถปรับตัวให้คุ้นเคยกับระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นของมันเองให้ได้ซะก่อน

และทุกครั้งที่คุณดาวน์โหลดเอาตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 ของตัวคุณเองเข้ามา
ความสามารถในการบำบัดรักษาของตัวคุณเอง ก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากทุกครั้งไปด้วย
และอารมณ์ความรู้สึกของคุณ ก็จะแจ่มชัดมากขึ้น และจิตใจของคุณก็จะสงบมากขึ้น
และคุณก็จะเชื่อมต่ออยู่กับ “แหล่งกำเนิด” (the Source) ได้มากขึ้นด้วย
รวมถึง “จิตใจของวิญญาณ” (Spirit Mind) ของคุณ ก็จะสามารถเข้ามาควบคุม
กระบวนการนี้ของคุณได้มากขึ้นด้วย

แล้วในที่สุด ซึ่งคุณจะรู้เองว่าเมื่อไหร่ มันก็จะถึงเวลาที่คุณจะสามารถผสานรวมเอา
“จิตวิญญาณ” ทั้งหมดของคุณ ให้เข้ามารวมกันกับ ego ของคุณเองได้

จิตวิญญาณของคุณ คือสิ่งที่เป็นหลากมิติ และก็อยู่ในดาวเคราะห์จำนวนมากมาย,
ในกาแล็กซี่ต่างๆมากมาย และ ในมิติต่างๆมากมายด้วย แต่ว่า ego ของคุณนั้น
อยู่ในร่างกายเนื้อนี้ อยู่ในกาบยมนุษย์นี้เท่านั้นเอง และในความเป็นจริงแล้ว ego ของคุณ
ก็คือ “มนุษย์ที่อยู่ในภพชาตินี้” เท่านั้นเอง

ego ของคุณอาจจะเกิดความกลัวขึ้นมาได้ เพราะว่ามันอาจจะรู้สึกว่า มันกำลังจะถูกแทนที่แล้ว
ดังนั้น คุณจึงจำเป็นจะต้องมอบหมายภาระหน้าที่ใหม่ให้กับมัน เพื่อที่จะให้ความกลัวของมัน
ไม่ไปขัดขวางความก้าวหน้าของคุณได้

ego ของคุณ ก็คือ “ลูกเป็ดขี้เหร่” ตัวหนึ่ง ที่จะกลายไปเป็นหงษ์ในวันข้างหน้า
มันจะไม่จากไปไหน เพียงแต่ว่ามันจะถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น เพราะว่าอีกไม่นานนัก
ขนปุกปุยของเจ้าลูกเป็ดขี้เหร่ตัวนี้ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นขนที่ยาวสลวยของหงษ์แล้ว

ลองคิดดูซิว่า การเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณจากลูกเป็ดขี้เหร่ จนกลายไปเป็นหงษ์นั้น
ปีกของคุณก็จะต้องเจริญเติบโตขึ้น ช่วงปีกของคุณก็จะต้องยาวขึ้น และคอของคุณ
ก็จะต้องยาวขึ้นด้วย ดังนั้นคุณจึงจะสามารถมองเห็นได้สูงขึ้น ส่วนขาที่เคยอ้วนเตี้ยของคุณนั้น
ก็จะเปลี่ยนเป็นขาที่ยาวและแข็งแรงเหมือนไม้พาย ซึ่งจะสามารถนำพาคุณท่องไป
ตามกระแสของมิติที่สูงกว่าได้

และเพราะว่าจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคุณ จะไม่ถูกจำกัดอยู่เฉพาะแต่ในโลกนี้เท่านั้นอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้น คุณจึงจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของ กฎเกณฑ์ต่างๆ, ข้อจำกัดต่างๆ, สงครามต่างๆ
และ ความเกลียดชังทั้งหลายอีกต่อไปแล้ว

และเพราะว่า ego ของคุณ จะไม่แยกขาดจากจิตวิญญาณของคุณอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้น คุณจึงจะสามารถบูรณาการเอาจิตวิญญาณของคุณให้เข้ามาอยู่ในตัวคุณได้

................................

 

ข้อความจากตัวตนในอนาคตของคุณ

ที่มา:
http://www.multidimensions.com/superconscious/super_illumination_integration.html


ตอนที่ 2

การบูรณาการจิตวิญญาณเข้ากับ ego
(Integration of Soul into Ego)

การบูรณาการที่ว่านี้ จะเหมือนกับการนำเอาถ้วยสองใบมาวางซ้อนกับ แบบแนบสนิทมากๆ
จนกลายเป็นถ้วยใบเดียวกัน จนคุณจะลืมไปว่าถ้วยใบไหนเคยอยู่ข้างล่าง และถ้วยใบไหนเคยอยู่ข้างบนมาก่อน
เพราะว่าในตอนนี้ พวกมันกลายเป็นถ้วยใบเดียวกันไปซะแล้ว

กัปตันของยานพาหนะทางโลกของพวกคุณ ไม่ได้ถูกใครมาแทนที่แต่อย่างใด
เพียงแต่ว่าเขาหรือเธอผู้นั้นถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้นเอง ซึ่งกัปตันผู้นี้
ผู้ที่ครั้งหนึ่ง เคยถูกจำกัดให้อยู่แต่ใน และเคยติดอยู่แต่ใน มิติที่ 3 นี้เท่านั้น
บัดนี้ ก็จะกลายเป็น “กายแห่งแสงสว่าง” (Lightbody) ที่สวยงามไปซะแล้ว

“กายแห่งแสงสว่าง” (Lightbody) ของพวกคุณ ก็คือถ้วยใบที่อยู่ข้างใน
เพราะว่ามันยังจำเป็นจะต้องอาศัยการห่อหุ้มของร่างกายเนื้ออยู่
ซึ่งร่างกายเนื้อประกอบขึ้นมาจากสสารที่เป็นชนิดเดียวกันกับสสารของโลกที่อยู่ในมิติที่ 3
ที่มันกำลังท่องเที่ยวอยู่นี้

จงจำไว้ว่าในแต่ละเขตแดน
ก็จะมีกายที่เหมาะสมเป็นของตัวเอง

เช่น ในแดนแห่งพลังชีวิต (Etheric realm) ก็จะมีกายเป็นกายแห่งพลังชีวิต (etheric body),
ในแดนทิพย์ (Astral realm) ก็จะมีกายเป็นกายทิพย์ (astral body),
ในแดนแห่งความคิด-จิตใจ (Mental realm) ก็จะมีกายเป็นกายแห่งจิตใจ (mental body),
ในแดนแห่งเหตุและผล (Causal realm) ก็จะมีกายเป็นกายแห่งเหตุและผล (causal body),
และในแดนแห่งจิตวิญญาณ (Spiritual realm) ก็จะมีกายเป็น I Am Present
ซึ่งอยู่ที่ทางเข้าของสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)

และเมื่อข้ามสะพานสายรุ้ง ซึ่งเป็นสะพานที่อยู่ในตัวพวกคุณมาได้แล้ว ก็จะเป็นมิติที่ 5
ซึ่งจากมิติที่ 5 นี้เป็นต้นไป ความแบ่งแยกของแสงสว่างและความมืดก็จะหายไป
เพราะว่ามันจะบูรณาการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ใน “วิญญาณ” (Spirit) มิติที่ 5 นี้
คือเขตแดนแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่ๆทุกๆส่วนย่อยของตัวตนของตัวคุณเอง
ที่ได้ท่องเที่ยวไปในมิติที่ 3 และ 4 ทั้งหลาย จะมารวมตัวกันกลายเป็น “กายแห่งแสงสว่าง”
(Lightbody) ขึ้นมา ซึ่งก็คือจิตวิญญาณของตัวคุณเองนั่นเอง

กายเนื้อของคุณ ที่คุณกำลังสวมใส่มันอยู่ในตอนนี้
เป็นเพียงส่วนย่อยหนึ่งในจำนวนส่วนย่อยทั้งหมด
ของ “ตัวตน” ของคุณเองเท่านั้น

และตัวตนที่อยู่ในกายเนื้อที่ว่านี้ของคุณ ก็ได้เลือกแล้วว่าจะมาร่วมใน
“กระบวนการยกระดับขึ้นแบบกลุ่ม” (Group Ascension) เพื่อขึ้นไปสู่มิติที่ 5 พร้อมๆกับไกอา
รวมถึงพร้อมๆกับระบบสุริยะนี้ และพร้อมๆกับกาแล็กซี่นี้ด้วย

แล้วคราวนี้..จะเกิดอะไรขึ้น?
มันได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว และก็กำลังดำเนินไปเรื่อยๆอยู่!!
และความสำเร็จก็ได้ถูกรับประกันเอาไว้แล้วด้วย!!

จำได้ไหมว่า ฉันคือตัวตนในอนาคตของคุณ และฉันก็เดินทางมาที่นี่จากอนาคตของคุณ
เพื่อที่จะมาย้ำเตือนความจริงในเรื่องนี้ให้คุณรับฟัง

แล้วคราวนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับชาวโลก ผู้ที่ไม่สามารถที่จะบูรณาการเอาจิตวิญญาณ
และ ego ของพวกเขาเองให้มารวมกันได้?

สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่เลือกที่จะเล่นเกมส์ 3 มิตินี้อยู่ต่อไปคืออะไร?
และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่..จริงๆแล้ว..กำลังเลือกที่จะเล่นบทผู้ร้ายอยู่ในตอนนี้ คืออะไร?

เอาหละ..ตัวตนของพวกเขา ส่วนที่กำลังเล่นเป็นตัวร้ายอยู่นี้
ไม่ใช่ตัวตนส่วนที่ได้เลือกที่จะบูรณาการรวมเอาจิตวิญญาณและ ego ของตัวเองเข้าด้วยกัน
เพราะว่ามันยังมีตัวตนอีกส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของพวกเขา ที่ได้เลือกทางเลือกนั้นไว้
ซึ่งจิตวิญญาณส่วนนี้เองที่จะต้องยอมรับเอาความมืดมิดจากตัวตนฝ่ายนั้นของตัวเอง
มาเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นแสงสว่าง

จงจำไว้ว่า มิติที่ 3 ทั้งมิตินี้ คือมายาการ
ทั้งหมดนี้ล้วนคือการแสดงทั้งสิ้น
ดังนั้น “บทผู้ร้าย”
จึงเป็นแค่บทบาทการแสดงอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
เช่นเดียวกันกับ “บทพระเอก” นั่นแหละ
และบรรดาผู้ชมทั้งหลาย ก็คือ “กายแห่งแสงสว่าง”
ที่อยู่ในดินแดนที่สูงกว่า
ที่กำลังสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการแสดงนี้อยู่

แต่กายแห่งแสงสว่างเหล่านี้ ก็จะไม่สามารถดาวน์โหลดเข้ามาในตัวตนของพวกเขาเอง
ส่วนที่ได้เลือกที่จะรักษาระดับความสั่นสะเทือนแห่งการแบ่งแยกและการมีอำนาจเหนือผู้อื่นเอาไว้อยู่ได้
เพราะว่ามันจะไปทำให้ร่างกายเนื้อของนักแสดงเหล่านั้นเกิดอันตรายได้

เพราะว่าแสงสว่าง จะสามารถดาวน์โหลดเข้าไป
ในตัวตนของพวกเขาเองได้ ก็เฉพาะในส่วนของตัวตน
ที่ได้ยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือน
ให้ขึ้นสูงมากเพียงพอแล้วเท่านั้น
ไม่งั้นก็จะไม่สามารถทนทานต่อพลังงาน
จากมิติที่ 5 ที่ถูกเพิ่มเข้าไปได้

กายแห่งแสงสว่าง จะสามารถดาวน์โหลดเข้าไปในสมอง ที่ยังจดจำได้อยู่ว่า
จะสามารถรักษาระดับคลื่นสมองให้อยู่ในระดับแอลฟ่า, ธีต้า, และแม้แต่ระดับเดลต้า
อย่างมีสติสัมปชัญญะ ได้อย่างไรเท่านั้น

มันจะสามารถดาวน์โหลดเข้าไปในร่างกาย ที่กล้าเผชิญหน้ากับความมืดมิดของตัวเอง
และทำให้ความมืดและแสงสว่างของตัวเองเข้าสู่สมดุลได้ อย่างมีสติสัมปชัญญะเท่านั้น

มันจะสามารถดาวน์โหลดเข้าไปในหัวใจที่สามารถที่จะจดจำ “ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข”
และ พลังอำนาจที่อยู่ภายในตัวเองได้เท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น การดาวน์โหลดนี้ ก็ยังจะต้องเป็นไปอย่างช้าๆ และจะต้องมีการเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง
โดย ego ของร่างๆนั้นอยู่ดี เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้เปลือกหุ้ม 3 มิตินี้ เกิดอันตรายมากจนเกินไป
อันเนื่องมาจากการรับเอาคลื่นความสั่นสะเทือนระดับสูงๆนี้เข้าไป

นี่คือเหตุผลว่าทำไมใน ช่วงแรกๆ พวกคุณถึงจะต้องค่อยๆดาวน์โหลดเอาชีวิตส่วนอื่นๆของตัวเอง
ที่อยู่ในมิติที่ 3 และ 4 เข้าไปก่อน เพราะว่าการบูรณาการเอาชีวิตด้านมืดของตัวพวกคุณเอง
จากภพชาติต่างๆ เข้าไปในชีวิตหรือภพชาติต่างๆที่พวกคุณแสวงหาแสงสว่างนั้น
จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายเนื้อของพวกคุณ สำหรับการดาวน์โหลดตัวตนในมิติที่ 5 ของตัวเองได้
ซึ่งการดาวน์โหลดที่ว่านี้ ก็จะต้องเป็นไปทีละตัวตน ทีละตัวตนด้วย

กระบวนการในการดาวน์โหลดเอาชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 5 ของตัวพวกคุณเองนี้ จะเป็นไปอย่างช้าๆ
และบางครั้งอาจจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมมาหลายปีแล้วก็ตาม

แต่ว่าการบูรณาการเอาตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 เข้าไปสู่ร่างกายเนื้อ
และจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของของมิติที่ 3 นี้ ก็ยังสามารถเกิดอันตรายขึ้นได้อยู่

ตอนนี้พวกคุณคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมกายแห่งแสงสว่าง
จึงไม่สามารถที่จะดาวน์โหลดเข้าไปอย่างทันทีทันใด
และอย่างเข้มข้น ในร่างกายเนื้อ ที่ไม่พร้อมที่จะรับเอา
รูปธรรมชีวิตที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าได้

เอาหละคราวนี้.. ตัวตนภาคพื้นดินของฉันเอ๋ย.. ฉันซึ่งเป็นตัวตนในอนาคตของคุณ,
ฉันซึ่งเป็นกายแห่งแสงสว่างที่อยู่ในมิติที่ 5 ของคุณ, ฉันซึ่งเป็นจิตวิญญาณของคุณ
มาที่นี่ก็เพื่อที่จะมาบูรณาการตัวตนของฉันเอง ให้เข้ากับ ego ของคุณ

และโดยสัมผัสของฉันนี้ ego ของคุณ/ของเรา ก็จะเปลี่ยนสภาพไปเป็นตัวตนที่แท้จริงของมันได้
ซึ่งก็คือเปลี่ยนไปเป็นจิตวิญญาณของคุณนั่นเอง

จงขยายจิตใจของคุณให้กว้างขึ้น เพื่อโอบกอดฉัน
จงเปิดหัวใจของคุณเพื่อรับความรักแบบไม่มีเงื่อนไขของฉัน
จงให้อภัย และ ยอมรับ ทุกๆส่วนย่อยของความเป็นตัวตนของคุณเองอย่างไม่มีเงื่อนไข

จงจำไว้ว่า พวกเราทั้งหมดคือหนึ่งเดียวกัน ภายใน “จิตใจของวิญญาณ” (Mind of Spirit) นี้

ซึ่งส่วนย่อยใดๆก็ตาม ของความเป็นตัวตนของตัวคุณเอง ที่คุณยังไม่รู้จัก
ก็จะถูกฉายออกมาสู่โลกในมิติที่ 3 นี้ของคุณ ในฐานะของ “คนอื่น” ไปซะหมด
และโดยอาศัยสัมพันะภาพ และอาศัยการเรียนรู้ที่จะรัก “คนอื่นๆ” เหล่านี้แหละ
ที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้ที่จะรัก “ตัวตนทั้งหมดของตัวคุณเอง”

จงเปิดจักระที่ 7 ของคุณให้ฉันเข้าไป
จงจินตนาการให้เห็นตัวคุณเอง กำลังถูกฉายออกมา บนจอภาพของตาที่ 3 ของคุณเอง
จงพูดด้วยเสียงของฉัน และจงสร้างสรรค์ด้วยแก่นแท้ของฉัน
จงรักฉันด้วยหัวใจที่เปิดกว้างของคุณ
จงยอมรับพลังอำนาจภายในที่ฉันได้มอบไว้ให้แก่คุณแล้ว
จงตระหนักรู้ถึงฉันที่กำลังอยู่ภายในร่างกายเนื้อของคุณ เพราะว่าฉันจะพูดผ่านความรู้สึกของคุณ
จงกราวด์ฉันไว้ในหัวใจของไกอา
จงเป็น “จิตสำนึกมวลรวมของโลกทั้งโลก” อย่างที่คุณเป็นเสมอมา
จงเป็น “จิตสำนึกของกาแล็กซี่” อย่างที่คุณเป็นเสมอมา
จงรู้ไว้ว่าฉันอยู่ข้างในตัวคุณ
จงแผ่รัศมีของฉันออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงของคุณ
ซึ่งเป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่คุณสร้างมันขึ้นมาเอง

ตอนนี้..จงมองออกไปภายนอก ดูโลกของคุณ
ดูคนทุกๆคน
ดูสัตว์ทุกๆตัว
ดูพืชทุกๆต้น
ดูหินทุกๆก้อน
ดูน้ำทุกๆหยด
เพื่อดู “ตัวคุณเอง”
จงรู้ไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน ในเอกภาพแห่งปัจจุบันขณะนี้

.......................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก IlliaEm
เรื่อง: การดาวน์โหลดตัวตนหลากมิติของคุณ
(DOWNLOADING YOUR MULTIDIMENSIONAL SELF)

ผ่านทาง ดร.Suzanne Lie
ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html

ฉันคือ IliaEm, Elohim แห่งกลุ่มดาว Arcturus, มาที่นี่เพื่อมาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของคุณ
หลังจากกลับออกมาจากเปลวไฟสีม่วงแล้ว ซึ่งถ้าเมื่อเร็วๆนี้ คุณได้อยู่ร่วมกับกลุ่มของพวกเรามาโดยตลอด
คุณก็คงจะอยากทบทวนกระบวนการของพวกเรา ที่ได้เริ่มต้นขึ้นจาก “ประตูแห่งการส่องสว่าง”
(The Illumination Door – เป็นชื่อประตูที่อยู่ในวิหารสีม่วง และเป็นชื่อตอนหนึ่ง
ของข้อความก่อนหน้านี้ของพวกเขา ซึ่งอยู่ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล) แล้ว

http://www.multidimensions.com/super_illumination_home.html

ช่วงเวลานี้ ตามกาลเวลาบนโลกของคุณ คือช่วงเวลาที่คุณกำลังจะได้ “ออกมา” สู่โลก
ในฐานะที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองซะที และด้วยเหตุนี้ คุณจึงได้เข้าไปใน “วิหารสีม่วง”
(the Violet Temple) ซึ่งอยู่บนดวงอาทิตย์ศูนย์กลางกาแล็กซี่ (The Great Central Sun)
ที่ชื่อ Alycone ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiades) และที่นี่เองที่คุณได้เอิบอาบอยู่ใน
“เปลวเพลิงสีม่วงแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ” (The Violet Flame of Transformation)
เพื่อปลดปล่อยกระแสความคิด, อารมณ์ความรู้สึก และ/หรือ แก่นของความเชื่อต่างๆ
ที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อการบรรลุวัตถุประสงค์อันยิ่งใหญ่กว่าของตัวคุณเองได้ ให้ออกไปเสีย

ในขณะที่คุณอยู่ในเปลวเพลิงสีม่วงนั้น (ใน the Illumination Door) คุณก็ได้ผสานรวมเข้ากับ
แก่นแท้ของตัวคุณเองที่อยู่ในมิติที่ 6 แล้วด้วย เพื่อเขียนโฮโลแกรมให้กับตัวเองซะใหม่
เพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับขึ้นของตัวคุณเอง และของโลกทั้งโลก

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้..คุณก็กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอีกอย่างหนึ่งเข้าให้แล้ว
ซึ่งบทเรียน/บททดสอบที่ว่านี้ อาจจะเป็นบทที่ยากที่สุดในบรรดาบทเรียน/บททดสอบทั้งหมดก็ว่าได้

นั่นก็คือ อันดับแรก คุณจะต้องผนวกรวมเอา “แสงสว่างจากตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวคุณเอง”
ให้เข้ากับ “จิตสำนึก” ที่อยู่ในมิติที่ 3 และ 4 ของตัวคุณเองให้ได้ซะก่อน
แล้วจากนั้น คุณก็จะต้องผนวกรวมมันให้เข้ากับ “ร่างกายเนื้อ” ของตัวคุณเองให้ได้ เป็นอันดับต่อไป
และสุดท้าย พวกเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะเป็นอีกผู้หนึ่ง ที่สามารถนำเอาตัวตน
ที่อยู่ในมิติที่ 5 และ 6 ของตัวคุณเอง มาตรึงไว้ และมาผสานรวมเข้ากับร่างกายของไกอาได้

ที่พวกเราขอเช่นนี้ก็เพราะว่า คุณคือหนึ่งในบรรดาผู้ที่รับอาสามา
เพื่อมาให้ความช่วยเหลือในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลก
(the Planetary Ascension Team) และคุณก็เป็นหนึ่งในบรรดาชาวโลก
ที่มีความกล้าหาญมากที่สุดด้วย

มันเป็นเรื่องที่มีเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มามีส่วนร่วมในเหตุการณ์ในครั้งนี้
เหตุการณ์ที่พวกคุณได้พากันเตรียมตัวมาหลายภพหลายชาติแล้ว
และแม้ว่าจะเตรียมตัวมาหลายภพชาติแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความกล้าหาญ
ที่พวกคุณจำเป็นจะต้องมี ลดน้อยลงเลย เพื่อเอามาใช้ผลักไส “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
(Collective Consciousness) ของโลกทางกายภาพของพวกคุณออกไป
และเพื่อที่จะเป็นตัวตนของตัวพวกคุณเองให้ได้ ในโลกที่ถูกสอนว่าให้
“ซ่อนแสงสว่างของคุณเอาไว้” แบบนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกคุณจะเปล่งประกายแสงสว่างที่แท้จริงของตัวเองออกมาได้นั้น
พวกคุณก็จะต้องดาวน์โหลดเอา และบูรณาการเอา มันมาใส่ในจิตสำนึกของพวกคุณเองซะก่อน
แล้วหลังจากนั้นก็จึงค่อยดาวน์โหลดเอา และบูรณาการเอา มันมาใส่ในร่างกายเนื้อของพวกคุณต่อไป

การเป็นทัพหน้า (Being a Vanguard)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

การเป็นทัพหน้าในสังคมของพวกคุณนั้น หมายถึงการที่พวกคุณจะต้องโดนวิพากวิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียว แต่พวกคุณก็ยอมที่จะแบกรับความท้าทายนี้เอาไว้ แม้ว่าพวกคุณจะรู้สึกถึงความกลัวที่ผุดขึ้นมาจากข้างในอยู่ก็ตาม

แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่พวกคุณจะรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ของพวกคุณ แต่อย่างไรก็ตาม จงอย่ายอมให้ความกลัวมาหยุดยั้งพวกคุณได้ ซึ่งฉันก็มั่นใจว่าพวกคุณจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน!

พวกคุณได้เดินตามกระบวนการของตัวเองมานานแล้ว ทีละก้าวทีละก้าว
และตอนนี้พวกคุณก็พร้อมแล้วที่จะเดินก้าวต่อไป

เมื่อครั้งที่ยังอยู่ในช่วงเวลาที่สังคมของพวกคุณถูกปกคลุมไปด้วยความมืด
และความกลัวอยู่นั้น ความไม่รู้ได้กลายเป็นความผาสุขสำหรับประชาชนมากมายไป
แต่ว่า..จงอย่ากลัว เพราะว่าการเลื่อนระดับขึ้นของพวกคุณได้รับการรับยืนยันแล้ว และพวกคุณก็กำลังยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของตัวเองไปพร้อมๆกับยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของคนอื่นๆอยู่

ผู้ที่เป็นผู้นำทั้งหลาย มักจะรู้สึกโดดเดี่ยว เพราะว่าพวกเขาคือผู้ที่อยู่หัวแถว และพวกคุณก็คือหนึ่งใน “ผู้ชี้นำทาง” ให้กับคนอื่นๆ พวกคุณคือหน่วยลาดตระเวณ ที่ต้องเดินนำหน้าไปก่อน เพื่อไปค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุด

และที่รัก..จงจำไว้ด้วยว่า คนแรก จะต้องเป็นคนสุดท้ายเสมอ (the first shall be the last) เหมือนอย่างที่กัปตันจะเป็นคนสุดท้ายเสมอที่จะทิ้งเรือไป เมื่อเรือกำลังล่ม

พวกคุณก็เคยจมลงไปพร้อมกับเรือลำนั้นมาแล้ว ในสมัยแอตแลนติส ที่ตอนนั้นดาวเคราะห์โลกไม่สามารถที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปได้ แต่ว่าคราวนี้ เมื่อพวกคุณได้พากันกลับมาเพื่อมาช่วยเหลือไกอาในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของเธอในครั้งนี้แล้ว พวกคุณ และ “หน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดิน” (Ground Crew) คนอื่นๆจะไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีกแล้ว

และแม้ว่าหลายๆครั้ง พวกคุณอาจจะรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและเหน็บหนาวอยู่บ้างก็ตาม แต่ว่านั่นก็เป็นเรื่องปกติของช่วงเริ่มต้นของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ที่มันมักจะเป็นแบบนั้นเสมอๆ

เพราะอันดับแรก ความมืดมนจะต้องได้รับการเผชิญหน้าซะก่อน ก่อนที่แสงสว่างจากภายในของพวกคุณ จะสามารถขยายให้เจิดจรัสยิ่งขึ้นได้

........................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก IlliaEm
เรื่อง: การดาวน์โหลดตัวตนหลากมิติของคุณ
(DOWNLOADING YOUR MULTIDIMENSIONAL SELF)

ผ่านทาง ดร.Suzanne Lie
ที่มา:
http://www.multidimensions.com/Superconscious/super_intuition_home.html


การดาวน์โหลดตัวตนหลากมิติของตัวคุณเอง


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ฉันคือ IlliaEm ตอนนี้ขอบอกกับคุณเกี่ยวกับกระบวนการดาวน์โหลดที่ว่านี้
เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นกระบวนการของมัน
มันมีขั้นตอนการดาวน์โหลดอยู่หลายขั้นตอน ดังต่อไปนี้:


1). ขั้นตอนแรก: คุณจะต้องสื่อสารกับตัวตนที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าของตัวเองให้ได้ซะก่อน
ซึ่งคุณก็ได้ทำไปแล้ว ในระหว่างที่อยู่ในวิหารสีม่วง ซึ่งด้วยการสื่อสารดังกล่าวนี้
กับตัวตนหลากมิติของตัวคุณเอง คุณก็จะได้ประจักษ์ชัดว่า “แก่นแท้” (Essence)
ของตัวตนในปัจจุบันนี้ของคุณ มีการสอดประสานและเชื่อมโยงอยู่กับ “แก่นแท้”
ของตัวตนที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าของตัวคุณเองอย่างไร ซึ่งผลจากการรู้ชัดในเรื่องนี้
ก็จะทำให้คุณสามารถกลายเป็น “หนึ่งเดียว” กับตัวตนรวมทั้งหมดของตัวคุณเองได้ง่ายดายขึ้น


2). ขั้นตอนที่ 2: คุณจะต้องเข้าใจว่าแก่นแท้ของตัวตนหลากมิติของตัวคุณเอง
แท้ที่จริงแล้ว ก็คือแก่นแท้อันเดียวกันกับของตัวคุณเองนั่นเอง เพราะว่าคุณก็คือส่วนย่อยส่วนหนึ่ง
ของรูปธรรมชีวิตเดียวกัน และด้วยความตระหนักรู้อันนี้เอง “แก่นแท้” ทั้งหลายของตัวคุณเอง
ก็จะเริ่มผสานรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของแก่นแท้ดังกล่าวนี้
ก็คือขั้นตอนที่สองของกระบวนการดาวโหลดหละ

ซึ่งขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนที่ 2 นี้ ได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
ในระหว่างที่คุณอยู่ในเปลวเพลิงสีม่วงใน the Illumination Door


3). ขั้นตอนที่ 3: จะเริ่มต้นด้วยกระบวนการ “บูรณาการ” (Integration)
ซึ่งขั้นตอนแรกของการบูรณาการ ก็จะเป็นการผสานรวมเอา “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้”
ของจิตวิญญาณหรือตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 ของตัวคุณเอง ให้เข้ากับ “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้”
ของ ego หรือตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 3 และ 4 ของตัวคุณเอง

ซึ่งการผสานรวมกันของ “จิตสำนึก/ความตระหนักรู้” ดังกล่าวนี้
ก็จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายเนื้อของคุณ
เพื่อการดาวน์โหลดและการบูรณาการในอันดับต่อไป

สิ่งที่คุณอาจจะสามารถตระหนักรู้ได้จากกระบวนการนี้
ก็คือ..คุณจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในระดับลึกและในขั้นละเอียดอ่อนเกิดขึ้น
คุณอาจจะพบว่าน้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้น หรือ ลดลง หรือว่ารูปร่างของคุณเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หรือว่าระดับพลังงานของคุณเปลี่ยนไป หรือว่ารูปแบบการนอนหลับของคุณเปลี่ยนไป
หรือว่าความต้องการทางด้านอาหารของคุณเปลี่ยนไป เป็นต้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆเหล่านี้
อาจจะเกิดขึ้นเล็กน้อยในระยะแรกๆ จนคุณไม่สามารถสังเกตุได้ แต่มันก็จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเวลาผ่านไป

เพราะว่าจิตวิญญาณของคุณ กำลังเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายเนื้อของคุณเองอยู่
เพื่อให้พร้อมรับมือกับการกระแทกเข้ามาของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นในอันดับต่อไป
และถ้าคุณสามารถมีสติรู้เห็นถึงกระบวนการนี้ได้ มันก็จะทำให้ขั้นตอนถัดไปง่ายดายยิ่งขึ้น


4). ขั้นตอนที่ 4: คือขั้นตอนการดาวน์โหลดเอา และการบูรณาการเอา “ตัวตน”
ส่วนที่อยู่ในมิติที่สูงกว่า ของตัวคุณเอง ให้เข้ามาอยู่ใน “ร่างกายเนื้อ” ของตัวคุณเอง

ซึ่งในระหว่างขั้นตอนนี้ ร่างกายเนื้อของคุณ ก็จะถูกขอให้ รับเอา, ยอมรับ และบูรณาการ
เข้ากับตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 และ 6 ของตัวคุณเอง

ในระยะดังกล่าวนี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากอยู่บ้าง
เพราะว่าร่างกายเนื้อของคุณ อาจจะแสดงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยออกมา
หรือ อาจจะเกิดอาการบาดเจ็บขึ้น

แต่ถ้าคุณสามารถตระหนักรู้ได้ว่า อันที่จริงแล้วคุณกำลังมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นอยู่ต่างหาก
คุณก็จะสามารถลดระดับความกลัวของตัวเองลงมาได้ และก็จะสามารถยินยอมให้ตัวเอง
“รัก” กระบวนการนี้ได้

จงจำไว้ว่า “ความรัก”
คือพลังแห่งการเยียวยารักษา
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทุกๆมิติ

ตัวตนส่วนที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าตัวตนแรกของคุณ ที่คุณจะไปดาวน์โหลดลงมา
ก็คือ “ตัวตนในอนาคตของตัวคุณเอง” (your Future Self)
เพราะว่าตัวคุณเองในอนาคต ก็คือตัวตนที่คุณจะเป็น ซึ่งในอนาคตนั้น คุณได้เป็นตัวตนนั้นไปเรียบร้อยแล้ว
เพราะว่าดาวเคราะห์โลกได้เลื่อนระดับขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว

แต่การที่จะเข้าใจเรื่องของ “ตัวตนในอนาคตของคุณเอง” ให้ได้นั้น
คุณจะต้องคิดแบบมิติที่ 5 เพื่อให้จิตใจของคุณไม่ถูกจำกัดด้วยมายาการของกาลเวลา

ตัวตนในอนาคตของ “หน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดิน” ทั้งหมดของพวกเรา
กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ อยู่ในสนามพลังออร่าของพวกเขาเอง
เพื่อรอคอยโอกาสที่จะมีความเป็นไปได้ เพื่อกระตุ้นตัวตนเวอร์ชั่นที่ต่ำกว่าของพวกเขาเอง
ให้ตระหนักรู้ถึงตัวตนในอนาคตของพวกเขาเอง

เพราะว่าตัวตนในอนาคตของคุณ ก็คือ “ตัวคุณเอง” ที่อยู่ในกรอบแห่งกาลเวลาอื่น
ดังนั้น “แก่นแท้” ของตัวตนทั้งคู่นี้ของคุณ ก็คืออันเดียวกันนั่นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว
ตัวตนในอนาคตของคุณ ก็คือตัวตนส่วนที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของคุณ ที่คุณจะสามารถ
นำมาบูรณาการให้เข้ากับร่างกายเนื้อในปัจจุบันของคุณได้ง่ายที่สุด

แต่อย่างไรก็ตาม การที่ร่างกายของตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 3 ถึง 4 จะไปบูรณาการเข้ากับ
ตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 ถึง 6 นั้น มันก็จะยังคงมีการก้าวกระโดดของคลื่นความสั่นสะเทือนเกิดขึ้นอยู่
และที่ฉันใช้คำว่า “ตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 3 ถึง 4” นั้น ก็เพราะว่า...

กระบวนการดาวน์โหลดนี้ จะไม่เกิดขึ้น
จนกว่าคุณจะสามารถยกระดับจิตสำนึก
หรือความตระหนักรู้ของตัวคุณเอง
ให้เข้าไปสู่ และเข้าไปอยู่ ในมิติที่ 4 ให้ได้ก่อนแล้วเท่านั้น

และในการดาวน์โหลดแต่ละครั้งนั้น
ปกติแล้วมันก็จะมีอาการทางร่างกายต่างๆเกิดขึ้นตามมาด้วย
เพราะว่าร่างกายเนื้อของคุณ
กำลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตัวมันเองอยู่
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้
จะลงลึกไปถึงระดับ DNA เลยทีเดียว

บ่อยครั้งคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก และอาจจะอยากนอนพักอยู่บ่อยๆ
นั่นก็เพราะว่า คุณก็เหมือนกับงูที่ตัวโตขึ้น และโตกว่าหนังเก่าของมันแล้ว
ดังนั้นจำเป็นจะต้องลอกคราบซะทีแล้ว

ซึ่งในระหว่างที่กำลังลอกคราบเอาหนังเก่าที่มีข้อจำกัดนี้ออกไปอยู่นั้น
ร่างกายเนื้อของคุณ ก็จะต้องใช้เวลาอันยุ่งยากของมัน เพื่อปรับตัวให้เข้ากับตัวตนใหม่ของมัน
อยู่ซักระยะหนึ่งเป็นธรรมดา

ซึ่งความยุ่งยากที่ว่านี้ โดยปกติแล้ว สำหรับ “ผู้รับที่ไม่รู้ตัว” (unaware recipient)
ก็จะบอกว่ามันคือ “การเจ็บไข้ได้ป่วย” หรือคือ “การบาดเจ็บ” นั่นเอง

ที่ฉันใช้คำว่า “ผู้รับที่ไม่รู้ตัว” (unaware recipient) ก็เพราะว่า
บ่อยครั้งพวกคุณก็จะไม่รู้ตัวว่ากระบวนการนี้กำลังเกิดขึ้นอยู่
และในความเป็นจริงแล้ว ก็มีชาวโลกจำนวนมากมายที่อยากให้มันเป็นเช่นนั้น

กระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพนี้ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในชาวโลกจำนวนมากมาย
มากกว่าที่ใครๆจะรู้ซะอีก ดังนั้น มันจึงมี “โรคภัยไข้เจ็บ” ใหม่ๆเกิดขึ้นตามมามากมายด้วย

แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณสามารถตระหนักรู้ถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพของตัวเองได้
คุณก็จะสามารถช่วยเหลือร่างกายเนื้อของคุณเองได้ด้วย

มีคุรุ, ผู้นำ และนักบำบัดมากมาย ที่ตระหนักรู้ถึงกระบวนการตื่นรู้ของตัวเอง
และก็กำลังเลือกที่จะแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับกระบวนการนี้ของพวกเขาเอง
ให้แก่ผู้อื่นอยู่ โดยการทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง และเป็นแบบอย่างให้แก่คนอื่นๆ


5). ขั้นตอนที่ 5: คุณจะยอมรับ, สื่อสารกับ, ดาวน์โหลด และบูรณาการเข้ากับ
“ตัวตนที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าขึ้นไปอีก” ของตัวคุณเอง ซึ่งจะต้องเป็นภายหลังจากที่
คุณสามารถบูรณาการเอา ตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 5 ของตัวคุณเองซึ่งมีอยู่จำนวนมากมาย
เข้ามาได้เรียบร้อยแล้วเท่านั้น คุณจึงจะสามารถไปเริ่มต้นดาวน์โหลดเอา
“จิตใจแบบกลุ่ม” (group minds) ทั้งหลาย เช่น กลุ่มจิตใจของชาว Arcturian,
Elohim และ มหาเทพ (Archangel) ทั้งหลาย เช่น ฉันเอง IlliaEm เป็นต้น
เข้ามาได้

(ปล.ในขั้นตอนที่ 4 เป็นการบูรณาการเข้ากับตัวตนที่มิติที่ 5 และ 6 ของเรา
ส่วนขั้นตอนที่ 5 เป็นการสื่อสาร, ดาวน์โหลด และบูรณาการเอาตัวตน
ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่านั้นขึ้นไปอีกเข้ามา – ผู้แปล)

.............................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก IlliaEm
เรื่อง: การดาวน์โหลดตัวตนหลากมิติของคุณ
(DOWNLOADING YOUR MULTIDIMENSIONAL SELF)

ผ่านทาง ดร.Suzanne Lie
ที่มา:
http://www.multidimensions.com/superconscious/super_illumination_integration.html


หน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดิน (The Ground Crew)


ในระหว่างที่กำลังดาวน์โหลด
เอาตัวตนที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย
ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนรวมหลากมิติ
ของตัวคุณเองอย่างแท้จริงอยู่นี้
มันเป็นสิ่งสำคัญมากและมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด
ที่คุณจะต้องกราวด์ (ground) ตัวเอง
เอาไว้กับดาวเคราะห์โลกให้ได้อย่างสมบูรณ์
จนสามารถผสานรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับไกอาให้ได้อย่างแท้จริง

ซึ่งการผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวระหว่างดาวเคราะห์กับบุคคลแบบนี้
ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสามารถดาวน์โหลดเอาแสงสว่างจากมิติที่สูงกว่าขึ้นไปอีกมาได้เท่านั้น
แต่มันยังจะช่วยให้ดาวเคราะห์โลกมีระดับคลื่นความสั่นสะเทือนสูงมากขึ้นได้อีกด้วย

เพราะว่าพวกคุณในฐานะสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดินของพวกเรา
คือผู้ที่ลงมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องแปลงคลื่นความถี่จากความถี่สูงไปเป็นความถี่ต่ำ
โดยการใช้ร่างกายเนื้อของตัวเองในการรับเอาคลื่นความถี่จากมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย
แล้วจากนั้นก็แบ่งปันคลื่นความถี่เหล่านี้ให้กับไกอา

ส่วนที่สำคัญมากที่สุดของกระบวนการนี้ก็คือ
การรักษาระดับคลื่นความสั่นสะเทือน
ให้อยู่ในระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของ “ความรัก” ให้ได้
และการปลดปล่อยความลังเลสงสัยทั้งหมดออกไป

พวกคุณกำลังจะกลับคืนไปสู่การเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติแล้ว
อย่างที่พวกคุณเป็นมาตลอดอยู่แล้ว

ดังนั้น พวกคุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปเรียนรู้ หรือ ดิ้นรน
หรือ พยายามที่จะเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติแต่อย่างใดเลย
พวกคุณเพียงแต่จำเป็นจะต้องยอมคล้อยตามกระบวนการนี้
และจะต้อง “จำจดให้ได้ว่า แท้ที่จริงแล้วพวกคุณคือใคร” เท่านั้นเอง

ยิ่งสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดินของพวกเรา
ทะยอยกันตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นตัวตนของพวกเขาเองมากขึ้นเท่าไหร่
และยอมให้ตัวตนส่วนที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของพวกเขา
บูรณาการเข้ากับร่างกายเนื้อในมิติที่ 3 ถึง 4 ของพวกเขาได้มากขึ้นเท่าไหร่
พวกเขาก็จะยิ่งสามารถเพิ่มระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นได้มากเท่านั้นด้วย
รวมถึงอัตราความสั่นสะเทือนของไกอาก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้นด้วย

ด้วยเหตุนี้ ทั้งตัวดาวเคราะห์โลกเอง และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อาศัยอยู่บนโลกด้วย
ก็จะค่อยๆเลื่อนระดับขึ้นเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อย...


(หมายเหตุ: การกราวด์ (ground) ตัวเราเองเอาไว้กับโลกนี้
ในข้อความชุดนี้ จะพูดถึงบ่อยมากๆเลยนะครับ และก็จะเน้นความสำคัญมาก
ดังนั้น ผมเลยว่าจะขออนุญาตแบ่งปันข้อมูลเท่าที่พอรู้ให้สักหน่อยนะครับ

การ ground ตัวเอง เท่าที่ผมเข้าใจและที่พอจะได้อ่านผ่านๆมาบ้าง
ก็คือ การเชื่อมต่อพลังงานของตัวเราเอง เอาไว้กับของโลกนั่นเอง
ซึ่งวิธีการก็คือ

1). อยู่บนโลกแบบให้มีส่วนของร่างกายของเราสัมผัสอยู่กับพื้นโลกจริงๆ

2). หาพวกหิน หรือ คริสตัลต่างๆ มาติดกับร่างกายเอาไว้ เพราะว่าหินพวกนี้
คือส่วนหนึ่งของดาวเคราัห์โลก และก็เป็นธาตุชนิดเดียวกันกับ
ส่วนที่อยู่ในมิติที่ 1 ของร่างกายเนื้อของเราเองด้วย

3). ให้ทำสมาธิเพื่อกราวด์ตัวเองไว้กับดาวเคราะห์โลกทุกๆวัน อาจจะวันละ 2 ครั้ง
โดยการจินตนาการว่า มีท่อลำแสงของพลังงานของเราเอง ทอดยาวในแนวตั้ง
ทะลุผ่านไปทุกๆจักระของเรา

เบื้องล่าง: ให้ทะลุต่อลงไปจนถึงแกนกลางของโลก
ส่วนเบื้องบนนั้น: ให้ทะลุต่อขึ้นไปจนถึงโครงข่ายคริสตัลไลน์ของโลก

หรือถ้าจะให้ดี ถ้าท่านทำได้ ก็รวบทั้ง 3 ข้อทำทีเดียวเลย ทุกๆวันๆละ 2 ครั้งครับ

สีของลำแสงพลังงานที่ว่านี้ จะให้เป็นสีอะไรก็ได้นะครับ แล้วแต่เจตนาของเรา
ซึ่งผมเข้าใจว่า สีที่แตกต่างกัน ก็อาจจะให้ผลด้านอื่นที่แตกต่างกันด้วย
แต่ด้านการกราวด์พลังงานนั้น น่าจะได้เหมือนกัน..เช่น..

สีม่วง จะช่วยเราในด้านการชำระล้างพลังงานด้านลบออกไปจากระบบกายต่างๆของเรา
เพราะว่าสีม่วง เป็นสีของเปลวเพลิงสีม่วงแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ

สีเงิน เป็นสีแห่งการปกป้อง..ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ..อะไรแบบนี้เป็นต้น - ผู้แปล)

...........................

 

คำเดียวสั้นๆ ธรรมชาติ ไขปริศนาคำว่า ธรรมชาติ ดูสิ ท่าน