ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    หลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณรักเรียบร้อยแล้ว.....ถัดจากนั้นไม่กี่วัน
    พี่กำลังนั่งสรุปงานอยู่ที่บ้าน ประมาณ 5 ทุ่มกว่า ใกล้จะเที่ยงคืน หากจำไม่ผิดวันนั้นเป็นวันพระ.....ทำท่าจะง่วงแล้วละค่ะ แต่ก็ต้องสะดุ้ง เพราะมีความรู้สึกว่า ชำเลืองมองไปด้านข้าง เห็นเหมือนพระใส่จีวรเหลือง ยืนอยู่ข้างๆ....

    ณ ขณะนั้นความรู้สึก ที่คิดขึ้นมา.....(เหมือนหลวงพ่อทวดท่านยืนอยู่ )
    แต่ไม่สามารถ เอี้ยวหันไปดูได้ จนสักพักหนึ่ง กว่าจะหันไปดูด้านข้างได้แต่ก็ไม่เห็นแล้ว
     
  2. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ไม่กี่วันที่ผ่านมา...คนใกล้ชิดที่บ้าน ปกติแล้วท่านไม่เล่นพระ
    แต่ท่านนำพระบูชาหลวงพ่อทวดเข้าบ้าน....ถามว่าไปบูชามาจากไหน ไม่ย่อมบอกค่ะ

    องค์บูชา หลวงพ่อทวด...ชอบมากค่ะ....

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1180257.jpg
      P1180257.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109 KB
      เปิดดู:
      363
    • P1180258.jpg
      P1180258.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.8 KB
      เปิดดู:
      53
  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    หลังจากที่ไปทอดผ้าป่าที่วัดสุวรรณคีรีสงขลา
    ท่านเจ้าอาวาสท่านฝากหนังสือ...ประวัติวัดสุวรรณคีรี มาหนึ่งเล่ม
    ท่านบอกที่วัดหมดแล้ว พี่เลย ทำถวายท่านไปอีก 100 เล่ม

    แวะไปถ่ายเอกสารที่ร้านใกล้บ้าน มีโอกาสได้สนทนาธรรมกับเจ้าของร้าน
    และท่านได้เอ่ยพูดเรื่องสร้างพระ ว่ารู้จักกับพี่ที่โรงหล่อ

    กำลังจะติดต่อพูดคุยเรื่องการทำพระที่ตั้งใจไว้สักหนึ่งรุ่น ถวายหลวงพ่อทวด
    และเป็นพุทธบูชาค่ะ กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ค่ะ....[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1180260.jpg
      P1180260.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.2 KB
      เปิดดู:
      349
  4. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    อนุโมทนาบุญทุกท่านด้วยนะคะ
    หากสร้างพระจะเรียนแจ้งให้ทราบค่ะ

    อยากให้ตั้งชื่อรุ่น ไว้ก่อน.......
     
  5. apith93

    apith93 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    เหรียญหลวงพ่อทวดวัดช้างให้รุ่น‘เลื่อนสมณศักดิ์’พิมพ์นิยม​
    เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้รุ่น ‘เลื่อนสมณศักดิ์’ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม : เหรียญหลักยอดนิยม โดยตาล ตันหยง


    หากท่านผู้อ่านคอลัมน์นี้ ได้ติดตามข้อมูลที่ผู้เขียนได้นำเสนอเกี่ยวกับความนิยมพระเครื่องประเภทเหรียญ จะพบว่า ค่านิยมการเช่าบูชาเหรียญในทุกวันนี้ ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหรียญที่ผ่านการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต เพราะพระเครื่องประเภทเหรียญ สามารถพิจารณาเรื่อง เหรียญแท้ เหรียญเก๊ ได้ง่ายด้วยตนเอง หรือมีผู้รู้ที่ให้คำแนะนำซึ่งมีอยู่อย่างแพร่หลาย โดยไม่ต้องรอการ “ฟันธง” จากเซียนรุ่นใหญ่ เหมือนอย่างพระเครื่องประเภทอื่น

    ทั้งๆ ที่เมื่อหลายสิบปีก่อน เหรียญเหล่านี้ส่วนใหญ่เปรียบเสมือน “พระน้ำจิ้ม” เอาไว้แจกแถมเวลาเช่าพระกรุ หรือพระหล่อโบราณ ซึ่งเป็นพระหลัก มีค่านิยมในการเช่าบูชาสูง

    ที่สำคัญ ในรอบ ๒ ปีที่ผ่านมา เหรียญที่เด่นดังที่สุด คือ เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ที่สร้างในยุค พระอาจารย์ทิม ปลุกเสก ทุกรุ่นทุกเนื้อมีมูลค่าการเช่าบูชาสูงขึ้นเรื่อยๆ หลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับเหรียญพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ

    ในบรรดา เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ทุกรุ่นทุกพิมพ์ พบว่า เหรียญรุ่น ๓ เป็นเหรียญที่มีปริมาณการสร้างมากที่สุด และมีการแยกพิมพ์ย่อยๆ ออกไปอีกมากมายหลายสิบพิมพ์

    เหรียญรุ่น ๓ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และหายากที่สุด คือ เหรียญเสมา พิมพ์ ๒ จุด รัดประคดข้างเดียว และ พิมพ์ ๒ จุด รัดประคดเต็ม

    ตามมาด้วย เหรียญเสมา พิมพ์ ๓ ขีดใน หรือ พิมพ์กิ่งไผ่ (ซึ่งเคยเสนอในคอลัมน์นี้มาแล้ว) ในปัจจุบัน เหรียญรุ่นนี้หากมีสภาพสวยระดับแชมป์ ค่านิยมทะลุหลัก ๕ แสนขึ้นไปแล้ว

    อย่างไรก็ตาม หากพูดถึง เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ที่สุดของที่สุด แล้วมีเพียง ๒ รุ่น ๒ พิมพ์ เท่านั้น คือ เหรียญเสมา รุ่นแรก พิมพ์หัวโต ปี ๒๕๐๐ และ เหรียญรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม อันลือลั่นโด่งดังที่สุดในทุกวันนี้

    ที่สำคัญ เหรียญที่มีสภาพความสวยงามคมชัดในระดับเดียวกัน เหรียญรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ จะมีค่านิยมแซง เหรียญรุ่นแรก หรือ เหรียญหัวโต ไปแล้ว ด้วยเหตุผลของความต้องการในทุกแขนงอาชีพของผู้ใช้ที่มีมากกว่าหลายเท่า

    ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก ชื่อเหรียญ ที่เป็นสิริมงคล ตรงคำว่า “เลื่อนสมณศักดิ์” ซึ่งหมายถึง การเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือทำกิจการงานได้ก้าวหน้า ได้เลื่อนฐานะทางสังคมและทางเศรษฐกิจ เป็นต้น

    จึงอาจจะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า เหรียญรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม ถือเป็น จักรพรรดิแห่งเหรียญของเมืองไทย ในยุคนี้ หรือจะเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่าเป็น เหรียญขวัญใจมหาชน อันดับหนึ่งของเมืองไทย ก็ไม่ผิดนัก

    เพราะเป็นเหรียญหนึ่งเดียวของเมืองไทยที่ทุกสาขาอาชีพเรียกหามากที่สุด ประกอบกับการมีจำนวนเหรียญที่มีมากเพียงพอต่อความต้องการของพลังศรัทธาความนิยมสนใจที่จะไขว่คว้าหามาติดตัวได้ไม่ยากนัก (หากมีเงินมากพอ) เพราะเหรียญรุ่นนี้ยังมีกระแสหมุนเวียนในวงการพระอยู่เสมอ เมื่อเทียบกับเหรียญดังระดับเบญจภาคี เหรียญที่มีจำนวนน้อยมาก จนแทบจะกลายเป็นเหรียญในตำนานไปแล้ว และไม่มีกระแสหมุนเวียนในวงการเลย

    คอลัมน์ เหรียญหลักยอดนิยม ในวันนี้ จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม (คำว่า “พิมพ์นิยม” ในที่นี้
    หมายถึงพิมพ์ที่มีเส้นพาดผ่านปากหลวงพ่อทวด ที่บางคนเรียกว่า “พิมพ์ผ่าปาก” หรือที่สมัยก่อนบางคนเรียกว่า “พิมพ์คาบดาบ” เนื้ออัลปาก้าเปลือย ตามรูปที่โชว์ในหน้านี้ ทั้งนี้ไม่นับรวม “พิมพ์ผ่าปาก บล็อกชุบ” ซึ่งจะนำเสนอในโอกาสต่อไป) ให้กับท่านผู้อ่านในระดับที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการศึกษาและพิจารณาเหรียญแท้เก๊ได้ไม่ยากนัก

    เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม เท่าที่ปรากฏในวงการพระ มีหลายเนื้อ อาทิ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองแดงรมดำ และเนื้ออัลปาก้า โดยเฉพาะเนื้อทองคำและเนื้อเงิน พบเห็นน้อยมาก จึงไม่ขอนำมากล่าวถึง

    ในที่นี้ จะเน้นกล่าวเฉพาะ เนื้อทองแดงรมดำ และ เนื้ออัลปาก้า เพราะมีเหรียญหมุนเวียนในวงการมากกว่า

    โดยปกติ เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม แบ่งออกได้เป็น ๒ บล็อก และ ๒ ตัวตัด (ขอบข้างเหรียญ) โดยบล็อกแรกและตัวตัดแรก วงการมักจะเรียกว่า บล็อกนิยม และ ตัวตัดนิยม ซึ่งมีทั้งกรณีเนื้อทองแดงรมดำ และเนื้ออัลปาก้า

    ส่วน เหรียญบล็อก ๒ และตัวตัดที่ ๒ มักจะพบเห็นเป็นเฉพาะ เนื้ออัลปาก้า เป็นส่วนใหญ่

    และเป็นที่น่าสนใจว่า กรณีหลังนี้จะเป็นตัวตัดตัวเดียวกันกับ เหรียญพุทธซ้อน ปี ๒๕๐๙

    (เรื่องนี้ต้องให้เครดิตกับ คุณอำพร กาเลี่ยง หรือ “บ่าว บางนรา” ผู้ให้ข้อมูลนี้อย่างเป็นทางการเป็นท่านแรกในเว็บไซต์พระเครื่องแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓)

    หากพิจารณา รอยตัดขอบเหรียญ อย่างละเอียดรอบขอบเหรียญในกรณีเหรียญที่สมบูรณ์ จะเห็นว่า เหมือนกันทุกประการ ทั้ง ร่องฟันปลา และ รอยนูน ของทิวเนื้อ เนื่องจากการปั๊มตัดขอบเหรียญดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้ออัลปาก้า ตัวตัดนี้ ได้มีผู้ชำนาญการบางคน “ตีเก๊” (เป็นเหรียญปลอม) อยู่บ่อยๆ ด้วยข้อหา “รอยตัด” ไม่เหมือนกับที่พบเห็นในเหรียญเนื้อทองแดง ทั่วไปนั่นเอง

    ข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง ในเหรียญบล็อก ๒ และตัวตัดที่ ๒ ที่เหมือนกับ เหรียญพุทธซ้อนปี ๒๕๐๙ ที่สังเกตได้ชัด คือ หากมองเหรียญด้าน พระอาจารย์ทิม ตรงปีกขอบเหรียญทั้ง ๒ ข้าง (ตรงตำแหน่งประมาณ ๑๑ นาฬิกา และ ๑๔ นาฬิกา) จะไม่มีลักษณะโค้งดัดอย่างบล็อกแรก และตัวตัดแรก อย่างเห็นได้ชัด

    นอกจากนี้ หากเป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้าดิบ หรือเนื้อเหรียญแบบช้อนส้อม ความคมชัดของเหรียญส่วนใหญ่จะสู้บล็อกแรกและตัวตัดแรกไม่ได้

    เหรียญชุดนี้มี บล็อกเก๊ เฉียบขาดมาก ชนิดปาดคอเซียนมาแล้ว เป็นเหรียญที่สามารถทำตำหนิติดคมชัดแทบทุกซอกมุม

    จุดสังเกตของเหรียญเก๊ ที่ว่านี้ คือ แม้ว่าจะสามารถถอดพิมพ์เก็บรายละเอียดได้ดี (บางฝีมือทำตำหนิบางจุดได้คมชัดกว่า “เหรียญแท้” เสียอีก เช่น เส้นผ่าปาก เส้นเฉียง ๓ เส้น โดยการตกแต่งแม่พิมพ์ที่ถอดแบบมาเพิ่มเติม) แต่ธรรมชาติของเส้นสายก็ยังขาดความพลิ้วไหวอย่างธรรมชาติ โดยเฉพาะเส้นตามซอกต่างๆ

    จุดสังเกตที่สำคัญจุดหนึ่งของเหรียญพิมพ์นี้ คือ บริเวณเม็ดผม เม็ดตา และรอบดวงตาพระอาจารย์ทิม จะต้องคมชัด และมีริ้วรอยของการปั๊มกระแทกที่เป็นธรรมชาติ (บางเหรียญจะเห็นเป็นการปั๊มซ้อน ทำให้พิจารณาง่ายขึ้น แต่ของเก๊ ก็ทำร่องรอยปั๊มซ้อนได้แล้วในขณะนี้)

    และหากมองที่ด้านหลังเหรียญรูปพระอาจารย์ทิม บริเวณขอบเหรียญด้านบนมักจะมีลักษณะเป็นรอยหักพับ

    นอกจากนี้ การสังเกต “เส้นเสี้ยน” ที่กระจาย ความคมชัดของอักขระตัวขอม รอยตัดขอบเหรียญ และคอหูเหรียญ ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาและศึกษาอย่างชนิดเจาะลึกเหมือนเหรียญทั่วไป

    หากเป็นผู้ชำนาญการจริง เหรียญรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ นี้ ดูได้ไม่ยากนัก เพราะมี จุดตาย ที่สามารถค้นหาได้รอบเหรียญได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะบริเวณจุดซอกแคบๆ ทั่วทั้งเหรียญ หากหมั่นส่องดู เหรียญแท้ผิวเดิม ไว้บ่อยๆ ก็สามารถอยู่รอดปลอดภัยจากการเช่า เหรียญเก๊ หรือ เหรียญแท้แต่ผิวเก๊ ได้เลย

    เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ทั้ง ๓ เหรียญที่ลงโชว์วันนี้

    ใช้สำหรับดูประกอบข้อมูลที่นำเสนอข้างต้นนี้ นับเป็น เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม ชนิดคมชัดสวยสมบูรณ์มาก ยึดเป็น เหรียญองค์ครูสวยแท้ดูง่าย ได้เลย

    ที่สำคัญทั้ง ๓ เหรียญนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากงานประกวดพระที่ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ให้การรับรองมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน
    เหรียญแรก เป็นเหรียญเนื้อทองแดงรมดำ เป็นเหรียญที่มีความสวยสมบูรณ์ทุกมิติ ปั๊มได้คมชัดมาก จมูกโด่ง คมสัน เป็นเหรียญสภาพเก่าเก็บ รมดำธรรมชาติเดิมๆ มีผิวปรอทบางๆ คลุมทั้งเหรียญ ค่านิยมการเช่าหาในชั่วโมงนี้เกิน ๒ ล้านบาทแล้ว สำหรับเหรียญสวยระดับนี้

    เหรียญที่ ๒ เป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า จัดเป็นเหรียญแชมป์อีกเหรียญหนึ่งของวงการพระเครื่อง ที่คงความสวยคมชัด และสมบูรณ์ตามสภาพเหรียญเก่าเก็บ ที่ไม่ผ่านการใช้มาก่อนเลย มีคราบยาขัดและน้ำยาเคลือบผิวอัลปาก้าเดิมกระจายทั่วทั้งเหรียญ พร้อมกับมิติความคมชัดทุกซอกมุม...เหรียญนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากงานประกวดพระที่สมาคมฯ รับรองมาแล้วหลายครั้ง

    เหรียญที่ ๓ เป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า แต่เป็นบล็อก ๒ และตัวตัดที่ ๒ เนื้ออัลปาก้าจะออกดิบๆ สำหรับเหรียญนี้ เคยผ่านการเป็นเหรียญแชมป์จากงานประกวดพระมาแล้วเช่นกัน

    ขอขอบพระคุณ ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช ผู้ชำนาญการพระสายหลวงพ่อทวด โดยเฉพาะ และเป็นผู้ครอบครอง เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ พิมพ์นิยม จำนวนกว่าสิบเหรียญ รวมทั้ง ๓ เหรียญในภาพนี้ และขอขอบพระคุณ ที่ได้ให้ข้อมูลทั้งหมด สำหรับบทความนี้ด้วย

    ขอบคุณ คมชัดลึกคมชัดลึกออนไลน์วันที่ 25-05-2556
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    อธิษฐานอย่างไรให้ปาฏิหาริย์มีจริง
    สิงหาคม 2, 2012 โดย ธ. ธรรมรักษ์

    ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เวลาที่เกิดความทุกข์ความไม่สบายใจคนเรามักจะหาที่พึ่ง ผู้เขียนเชื่อคุณผู้อ่านทุกท่านคงเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการระบายความทุกข์ทั้งต่อคนรอบข้างและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย หากเราได้เล่าอะไร หรือบอกกล่าวอะไรกับใครบ้างก็จะทำให้เรามีจิตใจที่สบายขึ้น

    หากเป็นการบอกเล่าความทุกข์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มักจะปรากฏอยู่ในรูปแบบของ “การอธิษฐาน” ที่ผู้เขียนกล่าวเช่นนี้ก็เพราะ การอธิษฐานโดยทั่วไปของมนุษย์ก็คือการขอในสิ่งที่ตนเองยังไม่มี สิ่งที่ตนเองยังไม่มีนั่นแหละคือความทุกข์ คนเราจึงมักแสวงหาหรือขอโอกาสให้ตนเองได้มีความสุข หรือได้ในสิ่งที่ยังไม่มีหรือได้ครอบครองไม่ว่าจะเป็นความสุขในแบบวัตถุ หรือความสุขทางใจ

    แต่ขอให้ทำความเข้าใจเสียใหม่ก่อนว่า การอธิษฐานจริงๆแล้วไม่ใช่การ “ขอ” แต่อย่างใด

    การอธิษฐานในแบบของพระพุทธศาสนาจะมีความเชื่อในเรื่อง กฎแห่งกรรม คือว่าด้วยเหตุและผลที่เป็นไปตามการกระทำเข้ามาเป็นส่วนประกอบเป็นปัจจัยสำคัญ ครูบาอาจารย์ท่านเน้นว่า การอธิษฐานจะได้ผลก็ต่อเมื่อได้ประกอบคุณงามความดีต่างๆ ก่อนให้มากพอหรือมีการทำเหตุให้ตรงสมบูรณ์พร้อม แล้วค่อยขอพรหรือตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่ตั้งความปรารถนาไว้ หากมีพลังบุญเป็นปัจจัยเสริมมากพอแรงอธิษฐานก็จะส่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความปรารถนาที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเมื่อเหตุนั้นตรงและสมบูรณ์ ปัจจัยสมบูรณ์ ผลที่ออกมาจะสมบูรณ์ตามที่อธิษฐานนั้น
    พระพุทธศาสนามีความเชื่อว่าโชคชะตาชีวิตของคนทุกคนนั้น จะดีหรือเลว จะมั่งมีหรือจน จะเป็นทุกข์หรือสุข จะผ่านอุปสรรคในชีวิตนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เทพเจ้า ดวงดาวหรืออำนาจอื่นใดทั้งสิ้น ไม่มีฟ้าลิขิตทั้งสิ้น สิ่งที่จะกำหนดโชคชะตาชีวิตของคนนั้นคือ กรรมลิขิต
    มนุษย์จะเป็นผู้กำหนดโชคชะตาชีวิตของตัวเองด้วยการกระทำที่มาจากกาย วาจา ใจ ที่รวมเรียกว่า กรรม และมีกฎแห่งกรรมเป็นผู้ควบคุม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีใครมีอำนาจมาเบี่ยงเบนผลลัพธ์ได้ ใครทำเหตุอะไรไว้ก็ต้องได้ผลตามเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ใครทำชั่วแล้วได้ดี หรือทำดีแล้วได้ชั่วเป็นอันขาด
    การอธิษฐานเป็นการสร้างพลังจิตให้เข้มแข็ง เป็นการตั้งเป้าหมายหรือจะเรียกว่าเป็นการล็อคเป้าหมายว่าเราจะทำสิ่งใดให้สำเร็จลุล่วงไป ถือเป็นเข็มทิศของจิตและชีวิตของคนๆ นั้น หากแต่จะสำเร็จหรือไม่มีองค์ประกอบสำคัญๆ อยู่หนึ่งประการ คือ จิตในขณะที่กำลังอธิษฐานนั้นมีกำลังมากพอหรือไม่
    ที่กล่าวว่าจิตต้องมีกำลังมากพอก็เพราะว่า จิตที่เข้มแข็งจะน้อมลงไปสู่การกระทำที่ตรงกับเหตุ ยิ่งความปรารถนาแรงกล้า และมีพลังบุญสนับสนุนเพียงพอคำอธิษฐานนั้นจึงจะประสบผล

    องค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการอธิษฐานนั้นให้สัมฤทธิ์ผลมีอยู่ 4 ประการก็คือ

    1.พลังจิตที่บริสุทธิ์สะอาด เป็นบาทฐานกำลัง เราทราบกันดีแล้วว่าการจะทำให้จิตนั้นสะอาดผ่องใสได้ด้วยการสร้างบุญอันมาจากทาน ศีลและภาวนา ยิ่งทำบุญมากแบบถูกต้อง ถูกธรรมแล้ว จิตจะผ่องใสขึ้นอย่างแน่นอน

    2.บุญบารมีที่ได้ทำมาไม่ว่าจะเป็นบุญเก่าและบุญใหม่เป็นตัวเชื่อม การที่จะอธิษฐานให้ได้ผลนั้น อานุภาพแห่งบุญจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้อธิษฐานและเป้าหมายที่ต้องการ ที่บุญนั้นจะต้องครบถ้วน หรือเหตุนั้นจะต้องครบสมบูรณ์ ดังการอธิษฐานของพระพุทธเจ้าซึ่งนำไปสู่การตรัสรู้ว่า

    ในอดีตชาตินั้นของพระพุทธองค์ เคยถือกำเนิดเป็น สุเมธดาบส ครั้งหนึ่งมีประกาศจากทางการว่าพระทีปังกร (พระพุทธเจ้าลำดับที่ 4) จะเสด็จผ่านทางเพื่อทำการผ่านทางหนึ่งเพื่อโปรดแสดงธรรม เส้นทางที่เสด็จนั้นมีความยากลำบากมีอุปสรรคมากมายและยังเป็นทางเลนที่ยากจะเสด็จผ่านไปได้ ชาวบ้านนับพันต่างก็มาร่วมใจกันแผ้วถางทางอย่างรวดเร็ว
    สุเมธดาบสซึ่งเป็นฤๅษีก็เหาะผ่านมายังทางที่กำลังแผ้วถางอย่างขะมักเขม้น ก็ลงมาสอบถามว่าคนทั้งหลายมาชุมนุมกัน ณ ที่แห่งนี้เพราะเหตุอันใดกัน เมื่อทราบว่าพระทีปังกรพุทธเจ้าจะเสด็จมาแสดงธรรมโดยผ่านเส้นทางนี้ สุเมธดาบสก็มีความยินดีที่จะช่วยทำทางให้เสร็จโดยเร็วเช่นกัน
    แต่ในขณะที่สุเมธดาบสกำลังจะลงมือทำทางให้พระทีปังกรก็เสด็จผ่านมาถึงก่อนโดยเส้นทางที่จะทำเหลืออีกเพียง 1 ช่วงตัวคนเท่านั้น สุเมธดาบสจึงถอดผ้าคลุมของตนเองออกแล้วปูลาดลงไปที่พื้นและได้กราบนมัสการต่อพระทีปังกรพุทธเจ้า และนิมนต์ให้พระพุทธองค์และพระสาวกทั้งหมดกว่า 4 แสนรูปได้ย่างเท้าไปบนร่างกายของตนเองที่จะทำการทอดถวายเป็นสะพานแทน ด้วยจิตปรารถนาถึงสัมมาสัมโพธิญาณขอให้ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า
    พระพุทธเจ้าทีปังกรได้รู้เจตนาและการบำเพ็ญบารมีจึงตรัสทำนายว่า สุเมธดาบสจะได้กลายเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งนามว่า “พระพุทธโคดม” ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรานี่เอง หลังจากสุเมธดาบสได้สิ้นชีวิตแล้วก็ได้ไปวนเวียนเกิดอีกหลายภพชาติสั่งสมบุญบารมีมาอีกยาวนานจนในชาติสุดท้ายก็ได้บรรลุผลแห่งการอธิษฐานเมื่อครั้งอดีตสมความตั้งใจ
    แต่การที่ พระพุทธองค์จะตรัสรู้ได้นั้นต้อสะสมบุญบารมีให้ โดยเฉพาะในทศชาติสุดท้ายได้กระทำบุญบำเพ็ญบารมีนานาประการจนสูงสุด อันได้แก่

    ชาติที่ 1 พระเตมีย์ ทรงบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี คือ ความอดทนอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 2 พระมหาชนก ทรงบำเพ็ญวิริยะบารมี คือความพากเพียรอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 3 พระสุวรรณสาม ทรงบำเพ็ญเมตตาบารมี คือความเมตตาอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 4 พระเนมิราช ทรงบำเพ็ญ “อธิษฐาน”บารมี คือ “ความมีจิตแน่วแน่”อย่างสูงสุด

    ชาติที่ 5 พระมโหสถ ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมี คือความมีปัญญาอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 6 พระภูริทัต ทรงบำเพ็ญศีลบารมีคือความมี ศีลอันเป็นเครื่องประคองกายวาจาใจอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 7 พระจันทกุมาร ทรงบำเพ็ญขันติบารมี คือความอดกลั้นอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 8 พระนารทพรหม ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี คือความวางเฉยแน่วแน่ไม่หวั่นไหวอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 9 พระวิฑูรย์บัณฑิต ทรงบำเพ็ญ สัจจะบารมี คือความมีสัจจะวาจาอย่างสูงสุด

    ชาติที่ 10 พระเวสสันดร ทรงบำเพ็ญทานบารมีคือ การให้ทานสูงสุด

    บุญบารมีทั้งหลายที่สั่งสมมาหลายภพหลายชาติรวมกับการบำเพ็ญทศชาติบารมีอย่างสูงสุดแล้ว เมื่อบุญส่งผลในเวลานั้นจึงทำให้พระพุทธองค์ประสบความสำเร็จในการตรัสรู้ ในการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ บุญบารมีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวเชื่อมให้คำอธิษฐานได้บรรลุผลและกลายเป็นความจริง

    3.จุดประสงค์แห่งการอธิษฐาน ที่ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่งามเป็นสิ่งที่จะเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นถูกต้องทางธรรมไม่ขัดแย้งกัน การอธิษฐานนั้นจึงจะมีความสัมฤทธิ์ผลได้ หรือจะเรียกว่าการอธิษฐานที่เต็มไปด้วยกิเลส ด้วยความเห็นแก่ได้อย่างนี้จะสำเร็จผลได้ยาก การอธิษฐานที่ปิดทางคนอื่น ไปพรากประโยชน์คนอื่นหรือด้วยต้องการให้คนอื่นฉิบหายนั้นไม่ใช่การอธิษฐานแต่เป็นการสาปแช่ง และไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง และไม่มีทางเกิดผลได้อย่างแน่นอน

    4.อย่าอธิษฐานให้เกินบุญของตน หลายคนอธิษฐานแล้วไม่ได้ผลเลย อาจจะอธิษฐานที่เกินบุญที่ตนเองมี เช่น อธิษฐานขอให้มีโชคลาภถูกหวยรางวัลที่ 1 ซึ่งบุญของตนนั้นไม่พอที่จะได้ลาภใหญ่แบบนั้น เพราะว่าเกิดมาไม่เคยทำทาน ไม่เคยให้อะไรผู้ใด เหมือนคนที่เงินอยู่ 10 บาทแต่อยากจะเปิดร้านค้าใหญ่โตซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากจะได้จริงต้องทำเหตุให้ตรงเสียก่อน รู้ว่าบุญไม่พอก็เร่งสร้างบุญเสียให้พอ เรื่องนี้อาจจะยากสำหรับคนบางคน เพราะคนกำลังเดือดร้อนมากมักจะอยากให้ได้อะไรเร็ว ขอให้อธิษฐานที่เป็นไปได้แล้วจะเป็นไปได้ค่อยๆ ขยับขึ้นตามบุญที่ทำมา

    5.ต้องทำเหตุให้ตรงกับสิ่งที่อธิษฐานขอไว้ (เป้าหมาย) หลายคนอธิษฐานแล้วไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย อีกสาเหตุหนึ่งก็ขอเมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว แต่ไม่ลงมือทำให้เหตุนั้นตรงกับเป้าหมายที่อยากจะได้ เช่น อธิษฐานขอให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่ไม่เคยลุกขึ้นมาทำมาหากิน ไม่เคยลงมือทำงานอย่างเต็มที่ หรือลงมือทำแต่ก็ไม่เคยตั้งใจทำ แล้วจะรวยไปได้อย่างไร นอกจากว่าจะบุญเก่าสนับสนุนมากพอจริงๆ ถึงจะได้ ซึ่งก็นับว่ายากเต็มทีหากในปัจจุบันไม่เคยสร้างคุณงามความดีหรือทานบารมีใดๆไว้เลย

    ยังมีอีกเคล็ดสำคัญคือ การอธิษฐานขอบุญกับจากครูบาอาจารย์ท่านผู้ทรงพระคุณความดี เป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเราเองโดยพื้นฐานสำคัญเราต้องมีบุญร่วมกับท่านซึ่งบุญเก่านั้นเราอาจจะไม่สามารถล่วงรู้ได้แต่เราสามารถทำได้โดยการเชื่อมบุญกับท่านด้วย

    5.1 ไปทำบุญกับท่าน ข้อนี้ง่ายถ้าเป็นครูบาอาจารย์ที่มีชีวิตอยู่เราสามารถทำกับท่านได้โดยตรง ทั้งการถวายกับตัวท่านเองหรือฝากคนอื่นไปถวายแทน แต่ถ้าท่านละสังขารไปแล้วให้อุทิศบุญถวายท่านเช่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เป็นต้น ซึ่งเป็นการเชื่อมบุญกับท่าน

    5.2 ไปร่วมทำบุญกับท่าน เรื่องนี้ง่ายเพียงเราไปร่วมสร้างบุญกับท่าน มีพิธีบวช มีงานบุญอะไรก็ไปร่วมงานเพื่อโมทนาบุญในงานนั้น หรือเมื่อทราบข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ตหรือสื่ออื่นๆ ก็บริจาคเงินหรือสิ่งของไปให้ท่านทางธนาคารหรือไปรษณีย์ก็ได้

    5.3 อนุโมทนาในบุญที่ท่านทำ เมื่อเราเห็นหรือทราบข่าว่าท่านสร้างบุญกุศลเรา เราก็ร่วมยินดีในบุญที่ท่านทำ เพียงกล่าว ขออนุโมทนาบุญที่ท่านทำ เราก็ได้บุญแล้ว เพียงแต่อาจจะได้ไม่เท่าที่ท่านทำเพราะเราไม่ได้สร้างเอง อย่างไรก็ตามเพียงแค่มีจิตนึกยินดีในสิ่งที่ท่านได้ทำ เราพลอยยินดีไปด้วยบุญก็เกิดขึ้นแล้ว

    ปลดล็อกตนเองด้วยการขออโหสิกรรมจากครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    หลายคนที่พยายามสร้างและกระทำซึ่งคุณงามความดีมากมายแต่บางทีก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จมากดังที่ตั้งใจไว้เพราะมีกรรมในอดีตติดตัวมาเยอะ คนที่ยังมีกรรมไม่ดีติดตัวมาเยอะหรือขาดการฝึกสมาธิ ฝึกจิตให้เป็นกุศล ซึ่งอาจจะติดจากชาติเดิมที่เคยมีความแค้นเคืองต่อพระพุทธศาสนา หรือต่อเหล่าพระอริยสงฆ์ การไม่สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ หรือติดมาจากในชาติที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือในบางครั้งอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรเขามาขวางเอาไว้ พยายามมาดลใจเราให้เราคิดไปในทางชั่ว เพื่อไม่ให้เราได้มีภูมิธรรม

    คนเหล่านี้จิตจะตกบ่อยมาก อาจจะถึงขึ้นปรามาสท่านผู้มีภูมิธรรมบ่อยครั้ง ยิ่งท่านที่มีภูมิธรรมมากเท่าใดก็จะยิ่งเป็นกรรมหนักติดตัว และกรรมหนักนี้จะไปขวางทางให้ไม่พบกับความเจริญในชาตินี้ หลายท่านที่มีวิบากกรรมไม่ดีติดตัวมามาก เวลาไปไหว้พระไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป พระสงฆ์ แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปแทน เพราะมือก้มลงกราบแต่ใจกลับไปคิดในทางต่ำไม่ว่าเรื่องใดก็ตามต่อตัวแทนของพระพุทธเจ้าที่อยู่ตรงหน้า

    ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอกวิธีแก้ไขเอาไว้ว่า ในทุกครั้งที่ทำการสวดมนต์ให้ทำการสวดขอขมาพระรัตนตรัยเสียก่อนดังนี้

    คำขอขมาพระรัตนตรัย

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3 จบ)

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

    “หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ”

    จากนั้นให้นำดอกไม้ถ้าเป็นดอกบัว 3 ดอกจะยิ่งดีขึ้น ให้ไปกราบขอขอขมาต่อหน้าองค์พระพุทธรูปที่เป็นประธานในโบสถ์วัดใดก็ได้ หรือจะทำที่บ้านก็ได้เลือกเอาที่เป็นวันพระ ยิ่งเป็นวันพระใหญ่จะยิ่งดีมากขึ้น เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา เป็นต้น

    จากนั้นให้กล่าวขออโหสิกรรม และตั้งสัจจะอธิษฐานจะไม่ทำอีก ขอเมตตาจากท่านให้ช่วยเจริญในธรรมสูงขึ้น ให้มีจิตที่มั่นคงในการสำรวมกาย วาจา ใจได้อย่าด่างพร้อย และต้องพยายามรักษาศีล 5 ทำสมาธิ ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ ความคิดต่ำแบบนี้จะค่อยๆ หายไป

    มีสหายธรรมท่านหนึ่งใช้วิธีการ “ตามจิต” ท่านแนะนำว่า ความคิดแรกหลังจากนั้นอย่าไปกลัว อย่าไปเครียด อย่าไปด่าตัวเอง หรือไปคิดว่าอยากให้มันหยุด อยากให้มันหายจากสิ่งที่เป็นอยู่ อย่าไปกังวลใจ เมื่อจิตรู้ทันและจับความคิดชั่วนั้นได้แล้วให้ลองกำหนดลมหายใจเข้าออกยาวๆ ลึกๆ สักพัก ให้นึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ว่าแก้ว 3 ประการ นี้ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยให้เหล่าสรรพสัตว์พ้นทุกข์ได้จริง เราเป็นเพียงสรรพสัตว์ตัวเล็กๆ ด้วยพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ทำให้เราอิ่มเอิบใจเห็นทางสว่างที่จะพบสุข ให้คิดเรื่องพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าให้มากๆ ฝึกให้ใจไปทางกุศล เรื่องชั่วนี้ๆ จะถูกลบออกไปในที่สุด

    เรื่องปรามาสผู้มีภูมิธรรมนั้น หากเราแก้ไขได้สำเร็จ นอกจากลดกรรมแล้วยังเป็นการเพิ่มพลังทางใจให้มีกำลังมากขึ้น เป็นบาทฐานในการฝึกวิปัสสนากรรมฐานให้เจริญก้าวหน้าได้เร็ว

    ที่มา....อธิษฐานอย่างไรให้ปาฏิหาริย์มีจริง |
     
  7. anusart34

    anusart34 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +868

    อนุโมทนาบุญด้วยครับ ไปหลายวัดจังครับ
     
  8. ANACON

    ANACON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +679
    หลวงพ่อทวด

    ขออนุโมทนาสาธุแสดงความยินดีกับคุณนวลพรรณในการทำบุญทำการกุศล
    สร้างบารมีทำให้ได้พบเห็นหลวงพ่อทวดเสมอ ผลบุญจะส่งเสริมให้ชีวิตนี้
    จะประสบความสำเร็จในทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรารถนาต่อไปในอนาคต
     
  9. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    พระศรีวิไล

    [​IMG] [​IMG]

    พระศรีวิไล ด้านหน้ารัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๙ ด้านหลังพญาครุฑ สร้างถวายเป็นค่าน้ำ ค่าำไฟ ค่ารักษาพยาบาลพระเจ็บป่วย จำนวนสร้างหลายพิมพ ์ ประมาณ 2,000 องค์ อธิษฐานจิต 9 วาระ
    วาระ 1 หลวงปู่เพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
    วาระ 2 หลวงปู่แม้น วัดหน้าต่างนอก จ.อยุธยา
    วาระ 3 หลวงพ่อยวง วัดหน้าต่างใน จ.อยุธยา
    วาระ 4 หลวงพ่อวิรัช โอภาโส วัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์
    วาระ 5 หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร จ. สิงห์บุรี
    วาระ 6 หลวงพ่อสวย วัดโคกแก้ว จ.ลพบุรี
    วาระ 7 หลวงพ่อดี วัดส้มเกลี้ยง จ.ตาก
    วาระ 8 หลวงพ่อจง วัดสังฆทาน จ.สุโขทัย
    วาระ 9 หลวงพ่ออุบาลี อตุโล วัดจันทร์ตะวันตก จ.พิษณุโลก
     
  10. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    [​IMG] [​IMG]

    พระศรีวิไล หมายถึง พระที่ได้ปประทับพระบรมรูปพระศรีอาริยเมตตรัย และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม บวงสรวง ณ วัดท่าซุง พบเห็น ที่ใด ไม่ต้องเปลกใจ เพราะได้นำถวายตามวัดต่าง ๆ ที่ได้เมตตาอธิษฐานจิต ถวายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร รักษาพยาบาลพระเจ็บป่วย เป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา และสังฆบูชา

    ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต
     
  11. ANACON

    ANACON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +679
    หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

    มิตรสหายสมาชิกและกัลยามิตรผู้เลื่อมใสศรัทธาองค์หลวงพ่อทวด
    ขอเล่าเรื่องปฎิหารณ์หรือเป็นเพราะบารมีที่นับถือและศรัทธาหลวงพ่อทวด
    และขออธิฐานตัวเองเป็นลูกศิษย์มาประมาณเกือบ๓๐ปีแล้ว
    ผมเล่าเรื่องสักเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วต้องไปทำงานที่
    จังหวัดสุโขทัยเพราะได้งานที่นั่น ปกติผมจะออกจากกรุงเทพเวลาเช้ามืด แต่วันนั้นมีคนอื่น
    จะไปด้วยเลยออกสายกว่าออกจากกรุงเทพเกือบเที่ยงวัน ผมยอมรับว่าเริ่มออกจาก
    กรุงเทพ โดยใช้เส้นทางบางบัวทองไปออกบางปะอิน ขับรถไปรู้สึกง่วงเพราะรู้สึก
    ขับรถเลื้อยไปเลื้อยมาจากเส้นขอบทางของถนนและมีบางช่วงรู้สึกว่าตัวเองหลับใน
    ตลอดทางที่วิ่งไปประมาณ๕๐กิโลเมตร แต่ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อขับรถถึง
    พุทธอุทยาน หลักกม.ที่๒๔ ถนนสายเอเซีย อำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยา ของ
    มูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ ของนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์(อู๊ กรุงสยาม)
    ซึ่งเป็นสถานที่สร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ พอผ่านช่วงนี้ไปทำไมความง่วงและการ
    หลับในจึงหายเป็นหมดไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเองอีกเลยจนกระทั่งถึงจังหวัดสุโขทัย
    นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเหมือนบุญบารมีหลวงพ่อทวดคุ้มครองตัวผมอย่างไม่น่าเชื่อ
     
  12. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    หลวงปูทวด พระนครศรีอยุธยา

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2013
  13. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    หลวงปู่ทวด อยุธยา

    [​IMG]
     
  14. tawanrise

    tawanrise เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +810
    กราบหลวงปู่ทวดที่เคารพอย่างสูง
    รูปบูชาหลวงปู่ทวดสวยมากเลยครับคุณนวลขอแสดงความยินดีด้วยครับ
    ที่มีสิ่งดีๆเข้ามาให้บูชา
     
  15. watchdog

    watchdog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35,870
    ***น้อมกราบ หลวงพ่อทวดครับ***
     
  16. anusart34

    anusart34 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +868
    วางระเบิด สว.ป.สุไหงปาดี ขณะเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายยิงอาวุธปืนใส่จุดตรวจ เมื่อเวลา 07.00 น.

    (ระเบิดแต่เช้าเลย ตื่นพอดี ได้ยินเสียง ระเบิดเลย ห่างจากบ้านผม ไม่ถึง 5 กิโล )



    ใต้ป่วนซ้ำ!ระเบิดเมืองยะลาเจ็บ6 คมชัดลึก : อาชญากรรม : ข่าวทั่วไป
     
  17. กรบางพลี

    กรบางพลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +184
    หลวงปู่ทวดได้รับจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_0438.JPG
      DSC_0438.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      56
    • DSC_0439.JPG
      DSC_0439.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      47
  18. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    [​IMG]

    พระเถวะโรวาส หรือหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ท่านเป็นผู้มีความสามารถ ให้ความยุติธรรม ให้เรานั้น ได้มีโอกาสได้ ใช้หนี้กรรม ที่เราได้ กระทำมา
     
  19. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    หลวงปู่ทวด พระนครศรีอยุธยา

    [​IMG]
     
  20. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,030
    หลวงปู่ทวด พระนครศรีอยุธยา

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...